พันผูกชีวา [Yaoi]
เขาดิ้นรนกระเสือกกระสนให้ตนสู่จุดสูงสุด กับอีกคนที่เพียบพร้อมตั้งแต่เกิด ทำให้เขานึกย้อนถึงวัยเยาว์ของตน คงได้แต่หัวเราะทั้งน้ำตากระมัง
ผู้เข้าชมรวม
58
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จากเด็กน้อยตาดำๆ แหงนหน้ามองตึกระฟ้าใจกลางกรุง ขณะที่มือข้างซ้ายถูกกอบกุมไว้โดยผู้หญิงคนหนึ่ง พาลูกชายวัยย่าง ๗ ขวบปี เดินทางไปส่งที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง
เธอหันมาเอ็ดลูกเบาๆ ให้รีบเดินก่อนที่จะไม่ทันเวลาเข้างานและโรงเรียน เพราะเธอเห็นว่าแรงดึงที่มือออกจะมากเกินไป เขาในตอนนั้นจึงรีบก้าวเดินให้ทันแม่ แต่ก็ยังไม่วายแหงนหน้ามองตึกสูงรอบตัวอยู่ดี
ในวัยเพียง ๗ ปี ยังไม่ประสามากนัก รู้เพียงต้องตั้งใจเรียน ตามคำบอกกล่าวของพ่อแม่และครูอาจารย์เท่านั้น โตขึ้นมาอีกหน่อยจึงได้รู้คิดรู้อ่านมากขึ้น
ว่าโรงเรียนเอกชนมีชื่อเสียงที่เรียนมาตั้งแต่ยังเล็ก เป็นการดั้นด้นหาเงินของบุพการีที่ต้องการให้บุตรชายของพวกเขามีอนาคตไกล การงานที่มั่นคง และความรู้เนื้อหาในตำราที่ครูอาจารย์สอนสั่งมานั้น ไม่ใช่หนทางเพียงหนึ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ หากแต่ต้องมีส่วนประกอบหลายชิ้น
เขาจึงศึกษาความรู้ที่มีอยู่นอกตำรา อ่านบทความเศรฐกิจ ฟังการบรรยายของนักธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ ตลอดจนลองทำบัญชีร้านขายของชำช่วยพ่อ และจัดการร้านใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กของครอบครัว ผ่านไปไม่กี่เดือนผลกำไรที่มากขึ้น จากน้ำมือของตน เขาได้รับคำเยินยอจากคนรอบข้างมากมายในช่วงอายุไม่ถึง ๑๘ ปี
คำยกย่องจากปากคนที่เปรียบเทียบเขากับบุตรหลานของตนว่าทำไมไม่เป็นเหมือนพัทธ์บ้าง เก่งเหมือนมันบ้าง ส่งผลให้วัยรุ่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หลงระเริงคิดว่าตนเหนือกว่าใครอื่น สั่งสมมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี ทั้งจากการบังคับของบิดามารดรให้อ่านหนังสือทุกวัน เกรดเฉลี่ยต้องดี ลายมือต้องสวย
ทำให้เขากลายเด็กที่มีนิสัยทะเยอทะยาน มองสู่จุดสูงสุดของตึกสูงเสียดฟ้า เริ่มก้าวขาสู่สังคมธุรกิจ ศึกษาวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ หลังอายุ ๒๐ วางเงินทุนจดทะเบียนบริษัทจำกัดมากกว่าครึ่งล้าน เปลื่ยนร้านชำเป็นร้านค้าสะดวกซื้อภายใต้ชื่อBori-Brug ขยายการเติบโตของบริษัทให้มากที่สุด
โดยสร้างแฟรนไชส์ เปิดตัวต่อผู้บริโภคให้ประทับใจ โฆษณาตามสื่อต่างๆ ผ่านไปไม่นานBori-Brug เป็นที่รู้จักและใช้บริการมากขึ้น ๔ ปีต่อมาBori-Brug เริ่มมีสาขาเกือบทั่วประเทศ เขาใช้เวลาไม่นานมากในการสร้างบริษัทให้เติบโตทัดเทียมต่อคู่แข่งทางการตลาดที่เปิดมายาวนานกว่า
ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับจากสังคมนักธุรกิจมากหน้าหลายตา ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานการเปิดตัวโครงการต่างๆ ร่วมลงทุนกับบริษัทชั้นนำหลายแห่ง สร้างโครงการร้านอาหารริมทะเลและอีกหลายโครงการ
เมื่อการงานมั่นคง ครอบครัวย่อมต้องสุขสันต์ เมื่อลูกสบาย พ่อแม่ก็ต้องสบาย เขาซื้อบ้านจัดสรรหลังโตไว้ที่นอกชานเมืองให้ครอบครัวได้อยู่อาศัย แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดครอบครัวบริพักตร์ พ่อที่เจ็บป่วยเป็นโรคร้ายมานานเริ่มกำลังจะจากไป
เมื่ออายุ ๒๖ พ่อเขาเสียชีวิตลง เขาเสียใจอยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับมีน้ำตา เพราะความสัมพันธ์ที่เขากีดกันตัวออกมา ทำให้มีกำแพงระหว่างสองพ่อลูก เนื่องจากการบังคับให้เป็นตามที่พ่อต้องการ แต่ยังมีความห่วงหาอาวรณ์ในสายสัมพันธ์อยู่บ้าง ส่วนแม่นั้นน้ำตานองหน้าอาจเพราะใช้เวลาชีวิตอยู่ด้วยกันมานานมาก
๑ ปีต่อมา ผมแต่งงานกับนวินดา ธัญพิสิษฐ์ เธอบอกว่ารักผมมาก ส่วนผมมองว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้บริษัทขยายทางการตลาดได้อย่างมาก แต่ใช่ว่าผมจะเล่นกับความรู้สึกของดา ผมให้เกียรติเธอเสมอ ดูแลเธออย่างดี
จนปัจจุบันเรามีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมคล้องกันอยู่ นั่นคือ ภูริช บริพักตร์ หรือภู วัย ๓ ขวบ กำลังซนเลยทีเดียว
………………………………………………
สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน^_^ ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงการย่อสรุปชีวิตของคนคนหนึ่งในวัย ๓๐ กว่า ที่ไม่ได้เล่าให้เห็นลึกลงทุกส่วน ยังมีรายละเอียดเรื่องการก่อตั้งบริษัทที่ไม่ได้ราบรื่น ยังมีการล้มลุกคลุกคลานอยู่บ้าง ดิ้นรนปากกัดเท้าถีบส่งตัวเองขึ้นไปยังเป้าหมาย จากฐานะทางบ้านที่ไม่ได้มากมาย เพียงพออยู่พอกินเท่านั้นค่ะ นี่คือชีวิตของนายชยพัทธ์ บริพักตร์ ค่ะ
ขอให้ทุกท่านไล่ตามจุดหมายได้สำเร็จนะคะ!
เพลิดเพลินไปกับนิยายของนักเขียน
และอย่าลืมที่จะยิ้มและมีความสุขในทุกวันนะคะ! (‾◡◝)
ขอบคุณค่ะ!
ผลงานอื่นๆ ของ Mmintdy ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Mmintdy
ความคิดเห็น