ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dear Series - HP/DM

    ลำดับตอนที่ #8 : จดหมายฉบับที่ 4 - Harry

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 58


    ผ่านไปอีกสองสามสัปดาห์ก่อนที่เขาจะได้รับจดหมายจากเยอรมันนี ช่วงนั้นเขาก็ยุ่งเหมือนเคย เขาต้องท่องหนังสือหนักสำหรับการสอบกฎระเบียบของกระทรวงครั้งที่หนึ่ง ต้องจำคาถาที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ และคาถาที่ไม่ได้รับอนุญาตและจะมีโทษอย่างไรถ้าพนักงานของกระทรวงเวทมนตร์อย่างเขาไปใช้เข้า แถมยังมีกฎระเบียบหยุมหยิมควบคุมความประพฤติของมือปราบมาร ไอ้นิสัยที่ชอบแหกกฎของแฮร์รี่มันก็เอาแต่เถียงกับเขาทุกครั้งที่เขาท่องกฎพวกนั้นว่ามันมีไปทำไม

     

    ทันทีที่แฮร์รี่หายตัวกลับมาถึงกริมโมลด์เพลซในเย็นวันพุธ ครีเชอร์ก็มารออยู่แล้วพร้อมกับจดหมายในมือรีบยื่นให้แฮร์รี่ เมื่อเขาเห็นตราประทับบนซองเขาก็รีบฉีกเปิดอ่านทันที โดยไม่สนใจว่าเอลฟ์ชราตะโกนบอกให้เขาถอดเสื้อโค้ทออกก่อนเดินเข้าห้อง

     

    จดหมายของเดรโกทำให้อารมณ์เขาปั่นป่วนไปหมด เรื่องที่ร่างบางพูดเกี่ยวกับชื่อเสียงทำให้แฮร์รี่อดยิ้มไม่ได้ นั้นช่างเป็นความคิดแบบมัลฟอย เดรโกใฝ่หาชื่อเสียงมาตลอดชีวิตไม่แปลกที่หมอนั้นจะมองว่าชื่อเสียงเป็นเรื่องดี แล้วคนอย่างหมอนั้นคงหาทางจัดการกับสื่อได้อย่างง่ายๆ หรือถ้ารำคาญก็คงจิกด่าเจ็บๆไม่ใช่ฉุนเฉียวอารมณ์เสียแบบเขา

     

    และเมื่อเดรโกเล่าถึงเรื่องเรียนแฮร์รี่ก็รู้สึกเหมือนเขากำลังคุยกับเพื่อน พวกเขาทั้งคู่ต้องทำในสิ่งที่ไม่ถนัดเหมือนกัน

    “นายไม่ได้เรียนแค่สองปี แต่ฉันสิไม่เคยเคารพกฎมาตลอดชีวิต” แฮร์รี่บ่นกับจดหมายเพราะเขาต้องมือปราบมารที่มีกฎระเบียบควบคุมหยุมหยิมเต็มไปหมด แล้วตลอดชีวิตเขามีครั้งไหนที่เขาทำตามกฎเป๊ะๆบ้างไหมเนี้ย แต่ก็ยิ้มยินดีเมื่ออ่านว่าเดรโกสามารถเสกคาถาผู้พิทักษ์ได้แล้ว ถึงแม้มันจะเป็นแค่ควันจางๆก็เถอะ เขาภูมิใจชะมัด

     

    เมื่อเดรโกพูดถึงเรื่องของครอบครัวแฮร์รี่ก็อยากจะหายตัวไปอยู่ตรงนั้นแล้วดึงร่างบางเข้ามาปลอบ เขาอยากจะบอกเดรโกว่าเขาให้อภัย และเขาเชื่อว่าเดรโกจะเปลี่ยนได้ ไม่ใช่ไม่มีใครเลย อย่างน้อยๆเดรโกยังคงมีเขา

     

    ...แต่ความรู้สึกที่ประหลาดที่สุดกลับเป็นเมื่อเด็กหนุ่มอีกคนเป็นห่วงเป็นใยเขาหรือเอ่ยชื่อเขาในจดหมาย ในท้องเขามันปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อนับพันบินกระพืออยู่ในนั้น หัวใจเต้นผิดจังหวะ และแม้จะอ่านจดหมายนั้นจบไปแล้วเขาก็สลัดประโยคนั้นไม่ออก ผมคิดถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์ เขาเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของความทรงจำฮอกวอตส์ของผม ผมได้แต่รอให้เขามาปรากฏตัวเปลี่ยนคุกนี้ให้กลับมาเป็นฮอกวอตส์ที่ผมจำได้อีกครั้ง

     

    แฮร์รี่ถอนหายใจแล้วพับจดหมายวางไว้ข้างเตียง ก่อนจะนอนแผ่หลับตาลงบนเตียง พร้อมกับหนึ่งความคิดที่สลัดไม่หลุด เดรโก มัลฟอยก็เป็นหนึ่งในความทรงจำของเขาเช่นกัน

     

    ###

     

    “นายจะทำอะไรช่วงคริสต์มาส” รอนถามขณะกำลังจัดของในร้านกลเกมส์วิเศษวีสลีย์ ส่วนแฮร์รี่นั้นเดินหยิบของขึ้นมาดูเป็นระยะๆ วันนี้เขาเลิกเร็วเลยมาหารอน

     

    “ฉันยังไม่มีแผน นายล่ะ” แฮร์รี่ขมวดคิ้ว นี้เป็นปีแรกที่เขาออกมาจากโรงเรียน ตลอดชีวิตเขาไม่เคยต้องวางแผนวันคริสต์มาส เขาแอบหวังว่ารอนจะไม่มีแผนด้วยเช่นกัน แล้วพวกเขาจะได้ใช้เวลาช่วงคริสต์มาสอยู่ด้วยกันเหมือนสมัยเป็นนักเรียนอีกครั้ง

     

    “ฉันจะไปเจอพ่อแม่ของเฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดเรียบๆ แต่ท่าทางนั้นก็หลอกแฮร์รี่ไม่ได้หรอก เขารู้ว่ารอนประหม่าที่จะเจอกับคุณและคุณนายเกรนเจอร์เป็นครั้งแรกในฐานะคนพิเศษของเฮอร์ไมโอนี่

     

    “พวกท่านจะต้องรักนาย” แฮร์รี่เดินไปกอดไหล่เพื่อน รอนพยักหน้าถี่ๆ แต่มือยังสั่นน้อยๆ

     

    “น้องจะมาพักอยู่ที่บ้านนะ” รอนพูดเป็นนัยๆ ส่วนแฮร์รี่ลอบถอนหายใจเบาๆ รอนคงคาดหวังว่าจินนี่กับแฮร์รี่จะกลับมาเหมือนเดิมได้ในเร็ววัน

    “แล้วแม่ก็ชวนนายไปทานอาหารเย็นที่บ้านโพรงกระต่ายด้วย”

     

    แฮร์รี่รู้ว่าเขาไม่ควรจะหลบหน้าคุณนายวีสลีย์แล้วก็จินนี่ ทั้งคู่เป็นเหมือนครอบครัวของเขา บางทีเขาควรจะพยายามกับจินนี่ให้มากขึ้น เขารักหญิงสาว...เขาคิดว่านะ 

    “ขอบคุณที่บอกนะรอน” ชายหนุ่มไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เขายังมีเวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะถึงวันจริง ระหว่างนั้นบางทีเขาอาจจะหาบทสรุปให้ความรู้สึกของตัวเองได้ก็ได้

     

     

    ###


    ชายหนุ่มเสกคาถาเปลี่ยนหน้าอีกครั้งให้แน่ใจว่าผลของมันชัดเจน เขากำลังจะออกไปซื้อของขวัญสำหรับคริสต์มาส เขามีลิสต์รายชื่อที่ต้องส่งให้แล้ว แต่ยังมีคนหนึ่งที่แฮร์รี่ไม่แน่ใจ

    ...เดรโก เขาจะซื้ออะไรให้เดรโก มัลฟอยดีนะ

     

    คำถามนั้นยังกวนใจเขาตลอดการเดินทางจากบ้านไปตรอกไดแอกอน ให้ตายสินี้ชีวิตเขาเป็นอะไรไปแล้ว เขามาถึงวันที่เขาต้องปวดหัวกับการหาของขวัญให้มัลฟอยแล้วเหรอเนี้ย

     

    จนแล้วจนรอดแฮร์รี่ก็ไม่ได้ของขวัญให้เดรโก ทั้งๆที่เขาซื้อของขวัญให้ทุกคนแล้ว ของเล็กๆน้อยๆให้กับเพื่อนร่วมคลาสมือปราบมาร หนังสือให้เฮอร์ไมโอนี่ วิสกี้ไฟรสนุ่มให้รอน ผ้าพันคอแคชเมียร์และถุงมือหนังมังกรให้จินนี่ เตนท์พ่อมดให้คุณและคุณนายวิสลีย์ เขารู้ว่าทั้งคู่จะได้ใช้มันแน่ในงานควิดดิชชิงแชมป์โลกในปีหน้า เขาซื้อแม้กระทั่งของขวัญให้ครีเชอร์ (ชุดแก้วน้ำชาจิ๋วสำหรับเอลฟ์และกอบลิน)

    ...วัตถุดิบในการปรุงยาเหรอ... นั้นก็น่าเบื่อเกินไป แถมเขาเชื่อว่ามัลฟอยต้องสามารถเลือกของได้ดีกว่าเขาแน่นอน

    ...หนังสือ ...เรื่องอะไรล่ะ ปรุงยา? เขาจะรู้ไหมเนี้ยว่าเล่มไหนดี โดยเฉพาะสำหรับการปรุงยาขั้นสูง แล้วเขาก็ยังไม่พร้อมเดินไปขอความเห็นจากเฮอร์ไมโอนี่เพื่อซื้อของขวัญให้มัลฟอย

    ...ไม้กายสิทธิ์ ...ลืมไปได้เลย เขาคืนไม้ฮาวธอร์นให้มัลฟอยไม่ได้เพราะนั้นมันผูกติดอยู่กับการเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ แล้วที่สำคัญกว่าก็คือมัลฟอยต้องใช้ไม้ที่ขึ้นทะเบียนโดยกระทรวงเท่านั้น

    ...เสื้อผ้าเหรอ... แฮร์รี่คิดขณะเดินผ่านร้านเสื้อผ้า แต่เขาก็ต้องหน้าแดงเพราะเสื้อผ้ามันทำให้เขานึกถึงร่างกายของคนที่อยู่ข้างใต้ร่มผ้า แล้วเขาก็ไม่รู้สักหน่อยว่าหุ่นมัลฟอยน่ะเป็นยังไง (ยกเว้นแขนยาวขายาวยังกับนายแบบ!)

     

    แต่ในที่สุดเขาก็คิดได้ ด้วยความช่วยเหลือโดยไม่รู้ตัวของครีเชอร์ที่ทำขนมทรีเคิลทาร์ตให้เขากินเย็นวันนั้นแล้วมันก็ทำให้เขานึกถึงฮอกวอตส์

    “ใช่ มัลฟอยคิดถึงฮอกวอตส์” แฮร์รี่พึมพำกับตัวเอง พร้อมกับยิ้มกว้าง เขามีของขวัญที่เยี่ยมที่สุดให้มัลฟอยแล้ว ไม่ได้แพงเกินไปจนหมอนั้นไม่รับ และไม่ได้ห่างเหินเกินไปด้วย มันเป็นของขวัญที่ผ่านการคิดมาอย่างดี

     

    ดังนั้นในเช้าวันรุ่งขึ้นแฮร์รี่ถึงต้องรีบแต่งตัวแล้วฝ่าหิมะหนาเพื่อเดินทางไปร้านฮันนี่ดุกส์ พร้อมกับเหมาชอคโกแลตและขนมหวานมาให้มากที่สุด

    เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกตัวว่าเขารู้ว่ามัลฟอยชอบอะไร (ชอคโกแลตกับสตรอเบอร์รี่ครีม อมยิ้มลอยได้รสแอปเปิ้ลเขียว แล้วก็ปากกาขนนกทำจากน้ำตาลปั่น)

    นี้ในหัวเขามันรู้เรื่องมัลฟอยเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

     

    บ่ายวันนั้นเขากลับไปพร้อมกับห่อขนมทันที พร้อมกับเขียนจดหมายตอบกลับมัลฟอย เขาเล่าให้มัลฟอยฟังว่าเขาเองก็คิดถึงเวลาในโรงเรียนเช่นกัน เขาคิดถึงปราสาทฮอกวอตส์ เสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมบ้าน อากาศที่อบอุ่นเจือกลิ่นแอปเปิ้ลและซินนามอนเสมอในฤดูหนาวของฮอกวอตส์ เขายังอัพเดทข่าวเกี่ยวกับฮอกวอตส์ให้มัลฟอยฟังว่าโรงเรียนบูรณะเกือบเสร็จแล้ว และคงกลับมางดงามเหมือนเคยในอีกไม่นาน แฮร์รี่ชะงักปากกาทันก่อนที่เขาจะเขียนประโยคต่อไปที่อยู่ในความคิดของเขา ถึงวันนั้นเรามาเยี่ยมโรงเรียนด้วยกันนะเขาแทบจะลืมไปเลยว่ามัลฟอยไม่รู้ตัวตนของเขา เด็กหนุ่มผมดำรู้สึกเหมือนมีอะไรทุบบนหน้าอกเมื่อคิดเช่นนั้น สำหรับมัลฟอยเขาเป็นแค่ผู้มีพระคุณที่ไร้นาม หมอนั้นจะอยากมาเดินเที่ยวฮอกวอตส์ระลึกความทรงจำกับคนที่ไม่รู้จักได้ยังไง

    คราวนี้แฮร์รี่จบจดหมายอย่างห้วนๆพร้อมกับหน้าอกที่หนักอึ้งขณะมองนกฮูกสีดำบินเข้าไปน่านฟ้ายามราตรี

     

    ###

     

    เขาควรจะเขียนจดหมายอีกฉบับไปหามัลฟอยรึเปล่านะ แฮร์รี่ถามตัวเองสองสามวันให้หลัง หลังจากวันนั้นเขาแอบรู้สึกแย่ที่เขาเล่นจบจดหมายก่อนที่จะได้บอกเจ้าตัวว่าไม่ใช่ทั้งโลกที่เกลียดเขา ไม่ใช่ทุกคนที่จะไม่ให้อภัย

     

    “พี่ดูคิดมากจังเลยเป็นอะไรรึเปล่าคะ” จินนี่สะกิดถาม ทำให้ร่างสูงต้องสะดุ้งแล้วหันมาฝืนยิ้มให้เธอ ให้ตายสิเขาไปนึกถึงมัลฟอยได้ยังไงกันนะทั้งๆที่เขากำลังทานอาหารเย็นกับครอบครัววีสลีย์อยู่แท้ๆ

    สุดท้ายแฮร์รี่ก็ตกลงที่จะมาฉลองวันคริสต์มาสอีฟที่บ้านโพรงกระต่าย แม้ว่าความรู้สึกที่เขามีให้จินนี่จะยังไม่ชัดเจน แต่เขาหาข้ออ้างปฏิเสธตระกูลวีสลีย์ไม่ได้หรอก

     

    “ฉันแค่เหนื่อยๆน่ะ แล้วยิ่งกินอิ่มๆแบบนี้ทำให้ง่วงเลยล่ะ” แฮร์รี่โกหกคำโต

     

    “แค่นี้อิ่มแล้วเหรอจ้ะแฮร์รี่ นี้ยังเหลืออีกตั้งเยอะ ฉันยังไม่ได้ยกไก่อบ แล้วก็พายเนื้อออกมาเลยนะ” มอลลี่พูดขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหันมาทำตาเหลือกใส่จินนี่ที่นั่งข้างๆ หญิงสาวหัวเราะตาเป็นประกาย ภาพตรงหน้าทำให้แฮร์รี่ต้องถามตัวเองอีกครั้งว่านี้เขาลังเลอะไรอยู่เกี่ยวกับเรื่องจินนี่ เธอทั้งสวย ทั้งเหมาะสมกับเขาทุกอย่าง แล้วเขาก็รักเธอเหลือเกิน

    ...แต่นายไม่ได้ใจเต้นกับเธอ ...เสียงในหัวเขาทรยศ

     

    “แม่ตั้งใจเตรียมอาหารมาก พี่ต้องกินให้เยอะๆนะ ปีนี้พี่บิลก็ไม่มาเพราะเฟลอร์กำลังท้องแก่ พี่รอนก็ไปกับบ้านเกรนเจอร์ แล้วพี่เฟร็ดก็...” เสียงเธอหายไป แฮร์รี่ต้องรีบจับมือเธอมากุมไว้ เขาเข้าใจ ทุกครั้งที่เขามองจอร์จเขาก็ยังรู้สึกตื้อในอกทุกครั้ง

    “เพราะฉะนั้นพี่ต้องเป็นคนจัดการอาหาร”

     

    “เธอจะแกล้งฉันล่ะสิ ให้ฉันอ้วนตุ๊บจนเดินไม่ไหว”

     

    หญิงสาวหัวเราะอีกครั้ง

    “เปล่า จะให้พี่อิ่มจนบินชนะฉันไม่ได้ต่างหาก อย่าลืมนะเรายังมีเกมส์แข่งจับลูกสนิชหนึ่งต่อหนึ่งกันอยู่ คนชนะจะขออะไรก็ได้ด้วย” ตาเธอเป็นประกายแวววาว

     

    “เธอเป็นนักกีฬามืออาชีพนะ” ชายหนุ่มบ่นเบาๆ

     

    “แต่พี่เป็นซีกเกอร์ที่ดีที่สุดในศตวรรษ แล้วฉันเล่นเป็นเชสเซอร์ด้วยไม่ใช่ซีกเกอร์สักหน่อย”

     

    .

    .

    .

    แฮร์รี่ต้องประหลาดใจเมื่อมือเขากำรอบลูกสนิชได้ก่อนจินนี่ แม้เธอจะห่างจากเขาไปนิดเดียวก็ตาม

     

    “ชิ ปีหน้าฉันต้องชนะให้ได้เลย” จินนี่บ่นกระปอดกระแปดแต่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้ม พวกเขาเป็นแค่สองคนที่ยังอยู่ข้างนอก คนอื่นๆใช้เวลาหลังอาหารเย็นซุกตัวอยู่ในโซฟาพร้อมผิงไฟ แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า จากตรงนี้ใบหน้าของจินนี่เลือนรางเหลือเกินในสายตาเขา

    “รางวัลของพี่คืออะไรคะ” หญิงสาวเดินมาหยุดหน้าเขา เขาอ่านสีหน้าเธอไม่ออก แต่เขาพอจะจับน้ำเสียงเธอได้ว่าเธออยากให้เขาพูดว่าอะไร ปีกของลูกสนิชกระพือรัวในกำมือของเขา ทำไมเขาถึงใจไม่เต้นเลยสักนิดเมื่ออยู่ตรงหน้าจินนี่แบบนี้ ตาเขาเลื่อนมาหยุดที่ริมฝีปากของเธอ นั้นคือรางวัลที่เธออยากให้เขาขอ

     

    “ฉันขอ...” ชายหนุ่มสูดหายใจลึก

    “ขอให้เธอเป็นเพื่อนของฉันตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”

     

    เสียงหายใจของจินนี่หยุด เธอกระพริบตาถี่ๆ

    “พี่...พี่หมายความว่ายังไง”

     

    แฮร์รี่รวบตัวเธอเข้ามากอด เขาไม่เคยอยากทำร้ายเธอเลย ไม่แม้แต่สักวินาทีเดียว เขารักจินนี่...แต่ปัญหาคือเขารักเธอแบบไหนกัน

    “ถ้าวันไหนเธอหยุดรักพี่ ก็ขอให้เธอยังเป็นเพื่อนกับพี่ตลอดไป และขอให้จำเอาไว้ว่าพี่รักเธอเสมอ”

     

    หญิงสาวสะอื้นเบาๆ เธอไม่ใช่คนโง่ เธอเข้าใจ

    “แบบเพื่อน แบบน้องสาว หรือแบบคนรักคะ”

     

    แฮร์รี่ไม่รู้คำตอบนั้น เขาเองก็สับสนไม่น้อยกว่าจินนี่ สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวตอนนี้คือกอดเธอเอาไว้แน่น หวังว่าสักวันเขาเองก็จะรู้คำตอบนั้น

     

    หลังกลับจากบ้านโพรงกระต่ายในคืนนั้น เขาตัดสินใจเขียนจดหมายไปหามัลฟอยอีกฉบับ เขาอยากให้ร่างบางได้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความรู้สึกที่ดี ได้รู้ว่ามีใครสักคนในโลกที่จะอยู่ข้างๆเสมอ มีคนหนึ่งคนที่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไปทุกอย่างแต่ยังแน่ใจว่าเขาคือเด็กดี

     

    การทำให้มัลฟอยยิ้มได้ไม่สามารถแก้ไขการที่เขาทำให้จินนี่ร้องไห้ได้ เรื่องนั้นแฮร์รี่รู้ แต่...แต่เขาแค่ได้จินตนาการถึงตาสีเทาที่จะเป็นประกายอย่างมีความสุขที่ได้รับจดหมายของเขาก็พอที่จะลดความรู้สึกผิดในใจให้เบาบางลงไม่น้อย

     

    ###


    “ขอบคุณมากจ้ะที่มาเป็นเพื่อน” มอลลี่ยิ้มกว้างให้แฮร์รี่ขณะที่บ้านวีสลีย์นั่งแถวหน้าของอัฒจันทร์ ทุกคนมาเชียร์จินนี่ที่ได้เล่นเป็นตัวจริงทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก เขาปฏิเสธคำคะยั้นคะยอของตระกูลวีสลีย์ไม่ได้ ทำให้แฮร์รี่ต้องเลยตามเลยมานั่งติดขอบสนามแบบนี้

    เขาไม่ชอบมาในงานสาธารณะแบบนี้เพราะมันดึงดูดนักข่าว แล้วเขาก็รำคาญนักข่าวเป็นที่สุด ว่าแล้วไม่ทันขาดคำเสียงกดชัตเตอร์ก็ดังขึ้นไม่ไกลจากตัวเขา

     

    “แฮร์รี่ พอตเตอร์มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับแมทช์นี้ก่อนเริ่มไหมคะ” นักข่าวสาวจากเดลีโพรเฟตยื่นไมค์มาจ่อปากเขา ขณะที่ช่างถ่ายรูปยังเก็บภาพรัวๆ

     

    “เอ่อ..ผมหวังว่าอังกฤษจะชนะ” เขาพูดจบแล้วพยายามผลักไมค์ให้พ้นตัว แต่หญิงสาวก็ไล่ตามเขาไม่ลดละ

     

    “คุณมาเชียร์จิเนฟรา วีสลีย์ใช่ไหมคะ คุณคิดว่าเพราะความสัมพันธ์ระหว่างคุณรึเปล่าคะที่ทำให้เธอได้รับเลือกเป็นเชสเซอร์ตัวจริงตั้งแต่อายุแค่นี้”

     

    แฮร์รี่กำหมัดแน่น นี้มันจะมากไปหน่อยแล้วนะ

    “ฟังนะคุณ จินนี่เป็นเชสเซอร์ที่ยอดเยี่ยม เธอเก่งและทุกอย่างที่เธอทำเป็นเพราะความสามารถของเธอล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับผมทั้งนั้น

     

    ดูท่าการระเบิดอารมณ์ของเขาจะทำให้พวกนักข่าวล่าถอย แฮร์รี่โบกมือเสกคาถากำแพงไล่ กันไม่ให้ใครเข้ามากวนเขาได้อีก แต่ตลอดทั้งเกมส์ก็ทรมานสุดๆ ทั้งเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งการถ่ายรูป เมื่อจบเกมส์แฮร์รี่ก็ได้แต่รีบหายตัวกลับทันทีก่อนจะได้ปลอบจินนี่ที่แพ้ด้วยซ้ำ

    ###

     

    เมื่อกลับมาถึงกริมโมลด์เพลซ เขาก็รู้สึกปวดหัวและเมื่อยไปทั้งตัว มันทั้งจากความเครียดแล้วก็การที่เขาต้องใช้เวทมนตร์ตั้งกำแพงไล่พวกนักข่าวตลอดเกมส์

     

    “ครีเชอร์เตรียมน้ำอุ่นให้ฉันด้วย” แฮร์รี่ตะโกนบอกเอลฟ์ประจำบ้าน พร้อมกับปลดเสื้อคลุมออก ใจจริงเขาอยากจะหลับไปทั้งแบบนี้เลย แต่ถ้าหากไม่ได้แช่น้ำอุ่นสักนิดแฮร์รี่รู้ว่าพรุ่งนี้เขาคงตื่นมาพร้อมอาการปวดที่รุนแรงมากกว่านี้ ขณะที่จะก้าวเข้าไปในห้องน้ำ สายตาเขาก็สะดุดกับขวดแก้วเล็กๆบนหัวเตียง

    ...ของขวัญจากเดรโก ...เด็กชายผมบลอนด์ส่งมาให้เขาตั้งแต่เช้าวันคริสต์มาส พร้อมกับโน้ตบอกว่าเป็นน้ำยาคลายกล้ามเนื้ออย่างดี แฮร์รีเดินไปหยิบขวดแก้วขึ้นมาอย่างชั่งใจ ในโน้ตนั้นยังบอกวิธีใช้อีกด้วย เขาจะใช้ยาวิเศษที่มัลฟอยเป็นคนปรุงนะ แฮร์รี่ถามตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะยักไหล่แล้วหยิบขวดนั้นขึ้นมา บางทีเขาคงจะกลัวหากคนที่เดรโก มัลฟอยปรุงให้คือแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่นี้คนที่เดรโกตั้งใจจะปรุงให้คือศาสตราจารย์ ไม่มีทางที่เดรโกจะทำอะไรแปลกๆเด็ดขาด

     

    ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำ ครีเชอร์เตรียมน้ำอุ่นเอาไว้ให้เขาแล้วตามสั่ง แฮร์รี่เปิดจุกขวดยาออกแล้วเทยาทั้งหมดใส่ลงไปในน้ำ วิธีใช้คือนวดหรือไม่ก็แช่ ในเมื่อเขาไม่มีคนนวดให้ ทางเลือกของเขาก็คือต้องแช่นี้แหละ ทันทีที่ยาละลายหมดกลิ่นหอมอ่อนๆของเบอร์รี่แห้งและใบเซจก็ฟุ้งขึ้นมา เจือด้วยกลิ่นจางๆของเมนทอล แฮร์รี่ได้แต่สูดหายใจลึกแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ

    “นายปรุงยาให้มีกลิ่นเดียวกับนายรึไงหืม”

    เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านั้นหมายความว่าเขารู้ว่าเดรโกกลิ่นเป็นยังไง

     

    คืนนั้นหลังจากหลับใหลเขาก็ฝันถึงเจ้าของกลิ่นที่อบอวลรอบตัวเขา

     

    ###

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×