คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : จดหมายฉบับที่ 4 - Harry
ผ่านไปอีกสองสามสัปดาห์ก่อนที่เขาจะได้รับจดหมายจากเยอรมันนี
ช่วงนั้นเขาก็ยุ่งเหมือนเคย
เขาต้องท่องหนังสือหนักสำหรับการสอบกฎระเบียบของกระทรวงครั้งที่หนึ่ง
ต้องจำคาถาที่ได้รับอนุญาตให้ใช้
และคาถาที่ไม่ได้รับอนุญาตและจะมีโทษอย่างไรถ้าพนักงานของกระทรวงเวทมนตร์อย่างเขาไปใช้เข้า
แถมยังมีกฎระเบียบหยุมหยิมควบคุมความประพฤติของมือปราบมาร
ไอ้นิสัยที่ชอบแหกกฎของแฮร์รี่มันก็เอาแต่เถียงกับเขาทุกครั้งที่เขาท่องกฎพวกนั้นว่ามันมีไปทำไม
ทันทีที่แฮร์รี่หายตัวกลับมาถึงกริมโมลด์เพลซในเย็นวันพุธ
ครีเชอร์ก็มารออยู่แล้วพร้อมกับจดหมายในมือรีบยื่นให้แฮร์รี่
เมื่อเขาเห็นตราประทับบนซองเขาก็รีบฉีกเปิดอ่านทันที
โดยไม่สนใจว่าเอลฟ์ชราตะโกนบอกให้เขาถอดเสื้อโค้ทออกก่อนเดินเข้าห้อง
จดหมายของเดรโกทำให้อารมณ์เขาปั่นป่วนไปหมด
เรื่องที่ร่างบางพูดเกี่ยวกับชื่อเสียงทำให้แฮร์รี่อดยิ้มไม่ได้ นั้นช่างเป็นความคิดแบบมัลฟอย
เดรโกใฝ่หาชื่อเสียงมาตลอดชีวิตไม่แปลกที่หมอนั้นจะมองว่าชื่อเสียงเป็นเรื่องดี
แล้วคนอย่างหมอนั้นคงหาทางจัดการกับสื่อได้อย่างง่ายๆ
หรือถ้ารำคาญก็คงจิกด่าเจ็บๆไม่ใช่ฉุนเฉียวอารมณ์เสียแบบเขา
และเมื่อเดรโกเล่าถึงเรื่องเรียนแฮร์รี่ก็รู้สึกเหมือนเขากำลังคุยกับเพื่อน
พวกเขาทั้งคู่ต้องทำในสิ่งที่ไม่ถนัดเหมือนกัน
“นายไม่ได้เรียนแค่สองปี แต่ฉันสิไม่เคยเคารพกฎมาตลอดชีวิต”
แฮร์รี่บ่นกับจดหมายเพราะเขาต้องมือปราบมารที่มีกฎระเบียบควบคุมหยุมหยิมเต็มไปหมด
แล้วตลอดชีวิตเขามีครั้งไหนที่เขาทำตามกฎเป๊ะๆบ้างไหมเนี้ย แต่ก็ยิ้มยินดีเมื่ออ่านว่าเดรโกสามารถเสกคาถาผู้พิทักษ์ได้แล้ว
ถึงแม้มันจะเป็นแค่ควันจางๆก็เถอะ เขาภูมิใจชะมัด
เมื่อเดรโกพูดถึงเรื่องของครอบครัวแฮร์รี่ก็อยากจะหายตัวไปอยู่ตรงนั้นแล้วดึงร่างบางเข้ามาปลอบ
เขาอยากจะบอกเดรโกว่าเขาให้อภัย และเขาเชื่อว่าเดรโกจะเปลี่ยนได้
ไม่ใช่ไม่มีใครเลย อย่างน้อยๆเดรโกยังคงมีเขา
...แต่ความรู้สึกที่ประหลาดที่สุดกลับเป็นเมื่อเด็กหนุ่มอีกคนเป็นห่วงเป็นใยเขาหรือเอ่ยชื่อเขาในจดหมาย
ในท้องเขามันปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อนับพันบินกระพืออยู่ในนั้น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
และแม้จะอ่านจดหมายนั้นจบไปแล้วเขาก็สลัดประโยคนั้นไม่ออก ผมคิดถึงแฮร์รี่
พอตเตอร์ เขาเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของความทรงจำฮอกวอตส์ของผม …
ผมได้แต่รอให้เขามาปรากฏตัวเปลี่ยนคุกนี้ให้กลับมาเป็นฮอกวอตส์ที่ผมจำได้อีกครั้ง
แฮร์รี่ถอนหายใจแล้วพับจดหมายวางไว้ข้างเตียง
ก่อนจะนอนแผ่หลับตาลงบนเตียง พร้อมกับหนึ่งความคิดที่สลัดไม่หลุด เดรโก
มัลฟอยก็เป็นหนึ่งในความทรงจำของเขาเช่นกัน
###
“นายจะทำอะไรช่วงคริสต์มาส” รอนถามขณะกำลังจัดของในร้านกลเกมส์วิเศษวีสลีย์
ส่วนแฮร์รี่นั้นเดินหยิบของขึ้นมาดูเป็นระยะๆ วันนี้เขาเลิกเร็วเลยมาหารอน
“ฉันยังไม่มีแผน นายล่ะ” แฮร์รี่ขมวดคิ้ว
นี้เป็นปีแรกที่เขาออกมาจากโรงเรียน ตลอดชีวิตเขาไม่เคยต้องวางแผนวันคริสต์มาส
เขาแอบหวังว่ารอนจะไม่มีแผนด้วยเช่นกัน แล้วพวกเขาจะได้ใช้เวลาช่วงคริสต์มาสอยู่ด้วยกันเหมือนสมัยเป็นนักเรียนอีกครั้ง
“ฉันจะไปเจอพ่อแม่ของเฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดเรียบๆ
แต่ท่าทางนั้นก็หลอกแฮร์รี่ไม่ได้หรอก
เขารู้ว่ารอนประหม่าที่จะเจอกับคุณและคุณนายเกรนเจอร์เป็นครั้งแรกในฐานะคนพิเศษของเฮอร์ไมโอนี่
“พวกท่านจะต้องรักนาย” แฮร์รี่เดินไปกอดไหล่เพื่อน รอนพยักหน้าถี่ๆ
แต่มือยังสั่นน้อยๆ
“น้องจะมาพักอยู่ที่บ้านนะ” รอนพูดเป็นนัยๆ
ส่วนแฮร์รี่ลอบถอนหายใจเบาๆ รอนคงคาดหวังว่าจินนี่กับแฮร์รี่จะกลับมาเหมือนเดิมได้ในเร็ววัน
“แล้วแม่ก็ชวนนายไปทานอาหารเย็นที่บ้านโพรงกระต่ายด้วย”
แฮร์รี่รู้ว่าเขาไม่ควรจะหลบหน้าคุณนายวีสลีย์แล้วก็จินนี่
ทั้งคู่เป็นเหมือนครอบครัวของเขา บางทีเขาควรจะพยายามกับจินนี่ให้มากขึ้น
เขารักหญิงสาว...เขาคิดว่านะ
“ขอบคุณที่บอกนะรอน” ชายหนุ่มไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
เขายังมีเวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะถึงวันจริง
ระหว่างนั้นบางทีเขาอาจจะหาบทสรุปให้ความรู้สึกของตัวเองได้ก็ได้
###
ชายหนุ่มเสกคาถาเปลี่ยนหน้าอีกครั้งให้แน่ใจว่าผลของมันชัดเจน
เขากำลังจะออกไปซื้อของขวัญสำหรับคริสต์มาส เขามีลิสต์รายชื่อที่ต้องส่งให้แล้ว
แต่ยังมีคนหนึ่งที่แฮร์รี่ไม่แน่ใจ
...เดรโก เขาจะซื้ออะไรให้เดรโก มัลฟอยดีนะ
คำถามนั้นยังกวนใจเขาตลอดการเดินทางจากบ้านไปตรอกไดแอกอน ให้ตายสินี้ชีวิตเขาเป็นอะไรไปแล้ว
เขามาถึงวันที่เขาต้องปวดหัวกับการหาของขวัญให้มัลฟอยแล้วเหรอเนี้ย
จนแล้วจนรอดแฮร์รี่ก็ไม่ได้ของขวัญให้เดรโก
ทั้งๆที่เขาซื้อของขวัญให้ทุกคนแล้ว ของเล็กๆน้อยๆให้กับเพื่อนร่วมคลาสมือปราบมาร
หนังสือให้เฮอร์ไมโอนี่ วิสกี้ไฟรสนุ่มให้รอน
ผ้าพันคอแคชเมียร์และถุงมือหนังมังกรให้จินนี่ เตนท์พ่อมดให้คุณและคุณนายวิสลีย์
เขารู้ว่าทั้งคู่จะได้ใช้มันแน่ในงานควิดดิชชิงแชมป์โลกในปีหน้า
เขาซื้อแม้กระทั่งของขวัญให้ครีเชอร์ (ชุดแก้วน้ำชาจิ๋วสำหรับเอลฟ์และกอบลิน)
...วัตถุดิบในการปรุงยาเหรอ... นั้นก็น่าเบื่อเกินไป
แถมเขาเชื่อว่ามัลฟอยต้องสามารถเลือกของได้ดีกว่าเขาแน่นอน
...หนังสือ ...เรื่องอะไรล่ะ ปรุงยา? เขาจะรู้ไหมเนี้ยว่าเล่มไหนดี
โดยเฉพาะสำหรับการปรุงยาขั้นสูง
แล้วเขาก็ยังไม่พร้อมเดินไปขอความเห็นจากเฮอร์ไมโอนี่เพื่อซื้อของขวัญให้มัลฟอย
...ไม้กายสิทธิ์ ...ลืมไปได้เลย
เขาคืนไม้ฮาวธอร์นให้มัลฟอยไม่ได้เพราะนั้นมันผูกติดอยู่กับการเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์
แล้วที่สำคัญกว่าก็คือมัลฟอยต้องใช้ไม้ที่ขึ้นทะเบียนโดยกระทรวงเท่านั้น
...เสื้อผ้าเหรอ... แฮร์รี่คิดขณะเดินผ่านร้านเสื้อผ้า
แต่เขาก็ต้องหน้าแดงเพราะเสื้อผ้ามันทำให้เขานึกถึงร่างกายของคนที่อยู่ข้างใต้ร่มผ้า
แล้วเขาก็ไม่รู้สักหน่อยว่าหุ่นมัลฟอยน่ะเป็นยังไง (ยกเว้นแขนยาวขายาวยังกับนายแบบ!)
แต่ในที่สุดเขาก็คิดได้
ด้วยความช่วยเหลือโดยไม่รู้ตัวของครีเชอร์ที่ทำขนมทรีเคิลทาร์ตให้เขากินเย็นวันนั้นแล้วมันก็ทำให้เขานึกถึงฮอกวอตส์
“ใช่ มัลฟอยคิดถึงฮอกวอตส์” แฮร์รี่พึมพำกับตัวเอง พร้อมกับยิ้มกว้าง
เขามีของขวัญที่เยี่ยมที่สุดให้มัลฟอยแล้ว ไม่ได้แพงเกินไปจนหมอนั้นไม่รับ
และไม่ได้ห่างเหินเกินไปด้วย มันเป็นของขวัญที่ผ่านการคิดมาอย่างดี
ดังนั้นในเช้าวันรุ่งขึ้นแฮร์รี่ถึงต้องรีบแต่งตัวแล้วฝ่าหิมะหนาเพื่อเดินทางไปร้านฮันนี่ดุกส์
พร้อมกับเหมาชอคโกแลตและขนมหวานมาให้มากที่สุด
เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกตัวว่าเขารู้ว่ามัลฟอยชอบอะไร
(ชอคโกแลตกับสตรอเบอร์รี่ครีม อมยิ้มลอยได้รสแอปเปิ้ลเขียว
แล้วก็ปากกาขนนกทำจากน้ำตาลปั่น)
นี้ในหัวเขามันรู้เรื่องมัลฟอยเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
บ่ายวันนั้นเขากลับไปพร้อมกับห่อขนมทันที
พร้อมกับเขียนจดหมายตอบกลับมัลฟอย
เขาเล่าให้มัลฟอยฟังว่าเขาเองก็คิดถึงเวลาในโรงเรียนเช่นกัน
เขาคิดถึงปราสาทฮอกวอตส์ เสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมบ้าน
อากาศที่อบอุ่นเจือกลิ่นแอปเปิ้ลและซินนามอนเสมอในฤดูหนาวของฮอกวอตส์ เขายังอัพเดทข่าวเกี่ยวกับฮอกวอตส์ให้มัลฟอยฟังว่าโรงเรียนบูรณะเกือบเสร็จแล้ว
และคงกลับมางดงามเหมือนเคยในอีกไม่นาน
แฮร์รี่ชะงักปากกาทันก่อนที่เขาจะเขียนประโยคต่อไปที่อยู่ในความคิดของเขา ‘ถึงวันนั้นเรามาเยี่ยมโรงเรียนด้วยกันนะ’
เขาแทบจะลืมไปเลยว่ามัลฟอยไม่รู้ตัวตนของเขา
เด็กหนุ่มผมดำรู้สึกเหมือนมีอะไรทุบบนหน้าอกเมื่อคิดเช่นนั้น
สำหรับมัลฟอยเขาเป็นแค่ผู้มีพระคุณที่ไร้นาม
หมอนั้นจะอยากมาเดินเที่ยวฮอกวอตส์ระลึกความทรงจำกับคนที่ไม่รู้จักได้ยังไง
คราวนี้แฮร์รี่จบจดหมายอย่างห้วนๆพร้อมกับหน้าอกที่หนักอึ้งขณะมองนกฮูกสีดำบินเข้าไปน่านฟ้ายามราตรี
###
เขาควรจะเขียนจดหมายอีกฉบับไปหามัลฟอยรึเปล่านะ
แฮร์รี่ถามตัวเองสองสามวันให้หลัง หลังจากวันนั้นเขาแอบรู้สึกแย่ที่เขาเล่นจบจดหมายก่อนที่จะได้บอกเจ้าตัวว่าไม่ใช่ทั้งโลกที่เกลียดเขา
ไม่ใช่ทุกคนที่จะไม่ให้อภัย
“พี่ดูคิดมากจังเลยเป็นอะไรรึเปล่าคะ” จินนี่สะกิดถาม
ทำให้ร่างสูงต้องสะดุ้งแล้วหันมาฝืนยิ้มให้เธอ ให้ตายสิเขาไปนึกถึงมัลฟอยได้ยังไงกันนะทั้งๆที่เขากำลังทานอาหารเย็นกับครอบครัววีสลีย์อยู่แท้ๆ
สุดท้ายแฮร์รี่ก็ตกลงที่จะมาฉลองวันคริสต์มาสอีฟที่บ้านโพรงกระต่าย
แม้ว่าความรู้สึกที่เขามีให้จินนี่จะยังไม่ชัดเจน
แต่เขาหาข้ออ้างปฏิเสธตระกูลวีสลีย์ไม่ได้หรอก
“ฉันแค่เหนื่อยๆน่ะ แล้วยิ่งกินอิ่มๆแบบนี้ทำให้ง่วงเลยล่ะ”
แฮร์รี่โกหกคำโต
“แค่นี้อิ่มแล้วเหรอจ้ะแฮร์รี่ นี้ยังเหลืออีกตั้งเยอะ
ฉันยังไม่ได้ยกไก่อบ แล้วก็พายเนื้อออกมาเลยนะ” มอลลี่พูดขึ้น
ทำให้ชายหนุ่มหันมาทำตาเหลือกใส่จินนี่ที่นั่งข้างๆ หญิงสาวหัวเราะตาเป็นประกาย
ภาพตรงหน้าทำให้แฮร์รี่ต้องถามตัวเองอีกครั้งว่านี้เขาลังเลอะไรอยู่เกี่ยวกับเรื่องจินนี่
เธอทั้งสวย ทั้งเหมาะสมกับเขาทุกอย่าง แล้วเขาก็รักเธอเหลือเกิน
...แต่นายไม่ได้ใจเต้นกับเธอ ...เสียงในหัวเขาทรยศ
“แม่ตั้งใจเตรียมอาหารมาก พี่ต้องกินให้เยอะๆนะ
ปีนี้พี่บิลก็ไม่มาเพราะเฟลอร์กำลังท้องแก่ พี่รอนก็ไปกับบ้านเกรนเจอร์
แล้วพี่เฟร็ดก็...” เสียงเธอหายไป แฮร์รี่ต้องรีบจับมือเธอมากุมไว้ เขาเข้าใจ
ทุกครั้งที่เขามองจอร์จเขาก็ยังรู้สึกตื้อในอกทุกครั้ง
“เพราะฉะนั้นพี่ต้องเป็นคนจัดการอาหาร”
“เธอจะแกล้งฉันล่ะสิ ให้ฉันอ้วนตุ๊บจนเดินไม่ไหว”
หญิงสาวหัวเราะอีกครั้ง
“เปล่า จะให้พี่อิ่มจนบินชนะฉันไม่ได้ต่างหาก
อย่าลืมนะเรายังมีเกมส์แข่งจับลูกสนิชหนึ่งต่อหนึ่งกันอยู่
คนชนะจะขออะไรก็ได้ด้วย” ตาเธอเป็นประกายแวววาว
“เธอเป็นนักกีฬามืออาชีพนะ” ชายหนุ่มบ่นเบาๆ
“แต่พี่เป็นซีกเกอร์ที่ดีที่สุดในศตวรรษ แล้วฉันเล่นเป็นเชสเซอร์ด้วยไม่ใช่ซีกเกอร์สักหน่อย”
.
.
.
แฮร์รี่ต้องประหลาดใจเมื่อมือเขากำรอบลูกสนิชได้ก่อนจินนี่
แม้เธอจะห่างจากเขาไปนิดเดียวก็ตาม
“ชิ ปีหน้าฉันต้องชนะให้ได้เลย”
จินนี่บ่นกระปอดกระแปดแต่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้ม พวกเขาเป็นแค่สองคนที่ยังอยู่ข้างนอก
คนอื่นๆใช้เวลาหลังอาหารเย็นซุกตัวอยู่ในโซฟาพร้อมผิงไฟ
แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า จากตรงนี้ใบหน้าของจินนี่เลือนรางเหลือเกินในสายตาเขา
“รางวัลของพี่คืออะไรคะ” หญิงสาวเดินมาหยุดหน้าเขา
เขาอ่านสีหน้าเธอไม่ออก แต่เขาพอจะจับน้ำเสียงเธอได้ว่าเธออยากให้เขาพูดว่าอะไร ปีกของลูกสนิชกระพือรัวในกำมือของเขา
ทำไมเขาถึงใจไม่เต้นเลยสักนิดเมื่ออยู่ตรงหน้าจินนี่แบบนี้
ตาเขาเลื่อนมาหยุดที่ริมฝีปากของเธอ นั้นคือรางวัลที่เธออยากให้เขาขอ
“ฉันขอ...” ชายหนุ่มสูดหายใจลึก
“ขอให้เธอเป็นเพื่อนของฉันตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
เสียงหายใจของจินนี่หยุด เธอกระพริบตาถี่ๆ
“พี่...พี่หมายความว่ายังไง”
แฮร์รี่รวบตัวเธอเข้ามากอด เขาไม่เคยอยากทำร้ายเธอเลย
ไม่แม้แต่สักวินาทีเดียว เขารักจินนี่...แต่ปัญหาคือเขารักเธอแบบไหนกัน
“ถ้าวันไหนเธอหยุดรักพี่ ก็ขอให้เธอยังเป็นเพื่อนกับพี่ตลอดไป
และขอให้จำเอาไว้ว่าพี่รักเธอเสมอ”
หญิงสาวสะอื้นเบาๆ เธอไม่ใช่คนโง่ เธอเข้าใจ
“แบบเพื่อน แบบน้องสาว หรือแบบคนรักคะ”
แฮร์รี่ไม่รู้คำตอบนั้น เขาเองก็สับสนไม่น้อยกว่าจินนี่
สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวตอนนี้คือกอดเธอเอาไว้แน่น
หวังว่าสักวันเขาเองก็จะรู้คำตอบนั้น
หลังกลับจากบ้านโพรงกระต่ายในคืนนั้น
เขาตัดสินใจเขียนจดหมายไปหามัลฟอยอีกฉบับ
เขาอยากให้ร่างบางได้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความรู้สึกที่ดี
ได้รู้ว่ามีใครสักคนในโลกที่จะอยู่ข้างๆเสมอ มีคนหนึ่งคนที่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไปทุกอย่างแต่ยังแน่ใจว่าเขาคือเด็กดี
การทำให้มัลฟอยยิ้มได้ไม่สามารถแก้ไขการที่เขาทำให้จินนี่ร้องไห้ได้
เรื่องนั้นแฮร์รี่รู้
แต่...แต่เขาแค่ได้จินตนาการถึงตาสีเทาที่จะเป็นประกายอย่างมีความสุขที่ได้รับจดหมายของเขาก็พอที่จะลดความรู้สึกผิดในใจให้เบาบางลงไม่น้อย
###
“ขอบคุณมากจ้ะที่มาเป็นเพื่อน”
มอลลี่ยิ้มกว้างให้แฮร์รี่ขณะที่บ้านวีสลีย์นั่งแถวหน้าของอัฒจันทร์
ทุกคนมาเชียร์จินนี่ที่ได้เล่นเป็นตัวจริงทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก
เขาปฏิเสธคำคะยั้นคะยอของตระกูลวีสลีย์ไม่ได้ ทำให้แฮร์รี่ต้องเลยตามเลยมานั่งติดขอบสนามแบบนี้
เขาไม่ชอบมาในงานสาธารณะแบบนี้เพราะมันดึงดูดนักข่าว
แล้วเขาก็รำคาญนักข่าวเป็นที่สุด
ว่าแล้วไม่ทันขาดคำเสียงกดชัตเตอร์ก็ดังขึ้นไม่ไกลจากตัวเขา
“แฮร์รี่ พอตเตอร์มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับแมทช์นี้ก่อนเริ่มไหมคะ”
นักข่าวสาวจากเดลีโพรเฟตยื่นไมค์มาจ่อปากเขา ขณะที่ช่างถ่ายรูปยังเก็บภาพรัวๆ
“เอ่อ..ผมหวังว่าอังกฤษจะชนะ” เขาพูดจบแล้วพยายามผลักไมค์ให้พ้นตัว
แต่หญิงสาวก็ไล่ตามเขาไม่ลดละ
“คุณมาเชียร์จิเนฟรา วีสลีย์ใช่ไหมคะ คุณคิดว่าเพราะความสัมพันธ์ระหว่างคุณรึเปล่าคะที่ทำให้เธอได้รับเลือกเป็นเชสเซอร์ตัวจริงตั้งแต่อายุแค่นี้”
แฮร์รี่กำหมัดแน่น นี้มันจะมากไปหน่อยแล้วนะ
“ฟังนะคุณ จินนี่เป็นเชสเซอร์ที่ยอดเยี่ยม
เธอเก่งและทุกอย่างที่เธอทำเป็นเพราะความสามารถของเธอล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับผมทั้งนั้น”
ดูท่าการระเบิดอารมณ์ของเขาจะทำให้พวกนักข่าวล่าถอย
แฮร์รี่โบกมือเสกคาถากำแพงไล่ กันไม่ให้ใครเข้ามากวนเขาได้อีก
แต่ตลอดทั้งเกมส์ก็ทรมานสุดๆ ทั้งเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งการถ่ายรูป
เมื่อจบเกมส์แฮร์รี่ก็ได้แต่รีบหายตัวกลับทันทีก่อนจะได้ปลอบจินนี่ที่แพ้ด้วยซ้ำ
###
เมื่อกลับมาถึงกริมโมลด์เพลซ เขาก็รู้สึกปวดหัวและเมื่อยไปทั้งตัว
มันทั้งจากความเครียดแล้วก็การที่เขาต้องใช้เวทมนตร์ตั้งกำแพงไล่พวกนักข่าวตลอดเกมส์
“ครีเชอร์เตรียมน้ำอุ่นให้ฉันด้วย” แฮร์รี่ตะโกนบอกเอลฟ์ประจำบ้าน
พร้อมกับปลดเสื้อคลุมออก ใจจริงเขาอยากจะหลับไปทั้งแบบนี้เลย
แต่ถ้าหากไม่ได้แช่น้ำอุ่นสักนิดแฮร์รี่รู้ว่าพรุ่งนี้เขาคงตื่นมาพร้อมอาการปวดที่รุนแรงมากกว่านี้
ขณะที่จะก้าวเข้าไปในห้องน้ำ สายตาเขาก็สะดุดกับขวดแก้วเล็กๆบนหัวเตียง
...ของขวัญจากเดรโก ...เด็กชายผมบลอนด์ส่งมาให้เขาตั้งแต่เช้าวันคริสต์มาส
พร้อมกับโน้ตบอกว่าเป็นน้ำยาคลายกล้ามเนื้ออย่างดี แฮร์รีเดินไปหยิบขวดแก้วขึ้นมาอย่างชั่งใจ
ในโน้ตนั้นยังบอกวิธีใช้อีกด้วย เขาจะใช้ยาวิเศษที่มัลฟอยเป็นคนปรุงนะ
แฮร์รี่ถามตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะยักไหล่แล้วหยิบขวดนั้นขึ้นมา
บางทีเขาคงจะกลัวหากคนที่เดรโก มัลฟอยปรุงให้คือแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่นี้คนที่เดรโกตั้งใจจะปรุงให้คือศาสตราจารย์
ไม่มีทางที่เดรโกจะทำอะไรแปลกๆเด็ดขาด
ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ครีเชอร์เตรียมน้ำอุ่นเอาไว้ให้เขาแล้วตามสั่ง
แฮร์รี่เปิดจุกขวดยาออกแล้วเทยาทั้งหมดใส่ลงไปในน้ำ วิธีใช้คือนวดหรือไม่ก็แช่
ในเมื่อเขาไม่มีคนนวดให้ ทางเลือกของเขาก็คือต้องแช่นี้แหละ
ทันทีที่ยาละลายหมดกลิ่นหอมอ่อนๆของเบอร์รี่แห้งและใบเซจก็ฟุ้งขึ้นมา
เจือด้วยกลิ่นจางๆของเมนทอล แฮร์รี่ได้แต่สูดหายใจลึกแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“นายปรุงยาให้มีกลิ่นเดียวกับนายรึไงหืม”
เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านั้นหมายความว่าเขารู้ว่าเดรโกกลิ่นเป็นยังไง
คืนนั้นหลังจากหลับใหลเขาก็ฝันถึงเจ้าของกลิ่นที่อบอวลรอบตัวเขา
###
ความคิดเห็น