คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Ruthless Resurrection
เดรโกตัวแข็งนิ่ง เขาอยากจะผลักเจ้าของแขนแข็งแกร่งที่กอดเขาออก อยากจะตะโกนใส่หน้าของแฮร์รี่ว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้น แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดนั่นโดยไม่โต้เถียง เดรโกวางศีรษะลงกับไหล่ของแฮร์รี่ ก่อนจะเอียงหน้ามองอีกคน แฮร์รี่ยังอยู่ในรูปลักษณ์ของไฮด์รัส แบล็ค
“เปลี่ยนกลับไปเป็นนายได้แล้ว” เขาพูดเบา ๆ แล้วผลักอีกคนออก
แฮร์รี่ปล่อยเขาง่าย ๆ ก่อนจะหลับตา ใบหน้าของไฮด์รัสค่อย ๆ สลายไป กลายเป็นหน้าของแฮร์รี่ โดยไม่ลืมที่จะมีแว่นทรงกลมตลก ๆ อยู่บนจมูก
“นายกลัวหล่อน”
เดรโกอยากจะหัวเราะเป็นบ้า คำว่ากลัวยังน้อยไปด้วยซ้ำ เขายิ่งกว่ากลัวป้าเบลล่า เขากลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แล้วแน่นอนใครที่ไม่กลัวป้าเบลล่าคนนั้นคงสติไม่สมประกอบ
“เธอไม่ใช่มนุษย์” เขาตอบพร้อมหลับตา พยายามลืมสีหน้าที่ดูสนุกยามที่เธอเห็นคนตาย ผู้หญิงคนนั้นจิตใจไม่ปกติ เธอมีความสุขที่ได้ทำให้ทุกคนเป็นทุกข์ ให้ตายสิเขาคิดว่าเธอช่วยตัวเองด้วยเสียงกรีดร้องจากคนที่เธอทรมาน
“เท่าที่รู้เธอเป็นเลือดบริสุทธิ์—”
“ไม่ใช่อย่างนั้นแฮร์รี่” เขาตัดบทอีกคน บทจะทึ่มพ่อคุณก็เอาสมองไปโยนลงคลองเลย “ฉันหมายความว่าเธอไม่มีจิตใจเหมือนมนุษย์คนอื่น เธอไม่ได้ทรมานหรือฆ่าคนแค่เพราะเธอต้องการกำจัดเสี้ยนหนาม แต่ป้าเบลล่าสนุกที่ได้ทำอย่างนั้น เธอสนุกที่ได้เห็นคนอื่นเจ็บปวด เธอสนุกที่ได้รู้ว่าเธอทำให้ทุกคนกลัว แล้วเธอก็ไม่สนว่านายจะเป็นเลือดสีโคลน เลือดผสม หรือว่าเลือดบริสุทธิ์ สำหรับป้าแล้วคนอื่นทุกคนคือเครื่องบันเทิงใจ รอให้เธอจัดการทั้งนั้น” เขาไม่เคยเจอคนอย่างเธอ แม้แต่คนที่ทำงานเป็นเพชฌฆาตอย่างแมคแนร์ยังยั้งมือยามต้องฆ่าคน แต่เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ไม่ใช่อย่างนั้น เหมือนเธอเกิดมาโดยมีอะไรบางอย่างขาดหายในสมองของเธอ แล้วเธอจะเติมเต็มได้ก็ต่อเมื่อเธอได้สร้างความเจ็บปวดให้คนอื่นนั้นแหละ
“ป้าไม่ต้องมีเหตุผลที่จะจัดการพวกเรา แค่เธอสงสัยก็พอแล้ว”
“แต่เธอก็ยังไม่ทำอะไร”
สิบคะแนนให้กริฟฟินดอร์ ดูเหมือนสมองจะว่ายน้ำกลับมาหาเจ้าตัวแล้ว “เพราะฉันเป็นมัลฟอยคนสุดท้าย ฉันคุมกำลังคนทั้งหมดของตระกูลเอาไว้ ถ้าฉันตายทุกอย่างใต้ตระกูลมัลฟอยจะถูกคืนเป็นสมบัติของพระราชา ป้าโรคจิต แต่—” แต่เขาคนนั้นที่คุมป้าอยู่ไม่ได้โง่ เดรโกลังเลว่าจะเล่าให้แฮร์รี่ฟังทั้งหมดดีไหม ในเมื่อมันก็มาขนาดนี้แล้ว เบลลาทริกซ์ รู้แล้วว่าเขาแต่งงานกับหนึ่งในแบล็ค ไม่นานเขาก็ต้องรู้
“แต่เขาไม่ได้โง่”
“เขานี่นายหมายถึง...ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ นี่เรากำลังพูดแบบสมมุติฐานใช่ไหมว่าถ้าเขาฟื้นขึ้นมาเขาต้องห้ามป้านายเอาไว้” แฮร์รี่กอดอกพูดช้า ๆ และหรี่ตามองเขา
เดรโกไม่กล้ามองหน้าอีกคนขณะตอบกลับ “ไม่ใช่สมมุติฐาน เขาอยู่กับเธอ ตอนนี้” แฮร์รี่เงียบไม่ตอบ เดรโกเหลือบตาขึ้นมา หนุ่มผมดำขมวดคิ้วของเขาเขม็ง เดรโกถอนหายใจแล้วรวบรวมความกล้าพูดขึ้นต่อ “ฉันรู้ว่าเขามีชีวิต ฉันเห็นเขา”
“เมอร์ลินเป็นพยาน” แฮร์รี่สบถลั่น “แล้วนายไม่คิดจะบอกฉันตั้งแต่ตอนแรกที่ฉันเดินเข้ามาเสนอเรื่องแต่งงาน”
“นี่นายโกหก—”
“ก็ได้ฉันโกหก”
“แล้วคิดจะบอกฉันเมื่อไหร่” แฮร์รี่ขึ้นเสียง
“เมื่อมันถึงเวลาที่นายควรรู้” เขาตะโกนกลับ ขอโทษทีแต่จะให้เขาพูดออกไปได้ยังไงว่าเขารู้ว่าศัตรูของประเทศหมายเลขหนึ่งฟื้นขึ้นมากับคนที่เป็นอัศวินของพระราชาในครั้งแรกที่เจอกัน แล้วนี่มันก็แค่ไม่กี่วัน
“ถ้าวันนี้เบลลาทริกซ์ไม่โผล่มานายก็จะให้ฉันหาข่าวข้างนอกไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่นายรู้—“ แฮร์รี่ดูหัวเสียสุด ชายหนุ่มกอดอก กัดกรามแน่น
“นายอยู่ฝ่ายเขารึเปล่าเดรโก”
“เปล่า” เดรโกรีบปฏิเสธ “ฉันไม่มีอยู่ฝ่ายเขา ไม่มีวัน” เดรโกตะโกน
“แล้วเราช่วยมาสนใจเรื่องตรงหน้าได้ไหม เขาฟื้นขึ้นมาแล้วฉันยืนยันได้ เบลลาทริกซ์ไม่เคยอยู่ห่างจากเขา แล้วป้าบอกว่าเธออยู่ไม่ไกลจากที่นี่ แสดงว่าเขาก็ต้องอยู่แถวนี้ด้วย นี่เราเสี่ยงจะโดนพ่อมดที่มีพลังที่สุดโจมตีนะเว้ย”
“ดี ฉันจะได้จับเขาให้จบ ๆ ทีเดียว แล้วจบเรื่องบ้า ๆ นี่ซะที” แฮร์รี่พูดพร้อมกับมองเขาเขม็ง
“อยากจะหัวเราะดัง ๆ ถ้านายคิดว่านายดวลกับลอร์ดโวลเดอร์มอร์กับกลุ่มองครักษ์เขาแล้วชนะได้นายก็ฝันไปแล้ว”
“นี่ฉันไม่ได้ไร้ความสามารถขนาดนั้นนะเว้ย”
“เพราะเขาไม่สนใจที่จะทำตามกฎต่างหาก ถ้านายคิดว่าไอ้คาถาปลดอาวุธกับคาถามัดตัวจะทำให้พวกเขายอมแพ้นายก็ต้องตื่นแล้ว เขาไม่กลัวจะใช้ทุกคาถา คาถาต้องห้ามทั้งหมด มนตร์ดำ เวทมนตร์เลือด แล้วเขาไม่ลังเลที่จะฆ่าคน” เดรโกอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสมัยเรียน แน่นอนแฮร์รี่สามารถเอาชนะเขาในการดวลได้ทุกครั้ง และเจ้าบ้าน่าหงุดหงิดนั่นแทบไม่เคยใช้คาถาอื่นนอกจากคาถาปลดอาวุธเลย หมอนั่นช่างเป็นกริฟฟินดอร์จนน่าหงุดหงิด
แล้วเขาก็รู้ว่าคนตรงหน้าเขาคิดอย่างเดียวกัน แฮร์รี่มองเขาก่อนจะมองมือข้างที่ถือไม้กายสิทธิ์ของตัวเอง “ถึงเขาจะเป็นพ่อมดที่มีพลังที่สุด แต่ป่านนี้เขาน่าจะอายุเป็นร้อยปีแล้ว อย่างน้อยฉันก็มีข้อได้เปรียบบ้างแหละน่า”
“แล้วฉันไม่ต้องฆ่าเขา หน้าที่ของอัศวินคือจับเขาเพื่อให้ทางการตัดสิน ฉันไม่ใช่ตุลาการ”
เดรโกอยากยกเอามือขึ้นมาปิดหน้า ทำไมคนตรงหน้าเขาถึงได้ดื้อด้านขนาดนี้ แทนที่จะเปลี่ยนวิธีการต่อสู้ แล้วสมมุติฐานของแฮร์รี่ที่บอกว่าลอร์ดโวลเดอร์มอร์นั้นอายุเป็นร้อยปีนั้นผิดอย่างร้ายแรง เมื่อคิดถึงวิธีที่ทำให้โวลเดอร์มอร์คืนชีพนั้น เขาแน่ใจว่าเจ้าตัวไม่แก่ไปกว่าวันที่มีพลังมากที่สุดแม้แต่วันเดียว
“วิธีที่เขาฟื้นขึ้นมาเขาไม่แก่หรือต่างจากวันที่เขามีพลังมากที่สุด”
“ฟื้นขึ้นมา” แฮร์รี่ทวนคำพูดเขา มือยังคงกอดอก มองเขาเหมือนรอให้เขาอธิบายต่อ เดรโกถอนหายใจแล้วมองบน เขาจะเล่าได้ขนาดไหนบ้างนะ ชายหนุ่มพยายามเรียบเรียงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในหัว
“ฟังนะ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าวิธีที่ใช้คืออะไร พ่อเป็นคนค้นคว้าเกือบทั้งหมด” เขากลืนน้ำลาย ใช่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตระกูลเขา และฉันก็ช่วยเขา ประโยคนั้นติดอยู่ที่ปากเดรโกเขาไม่กล้าพูดมันออกมา เขามองเท้าตัวเอง ความรู้สึกผิดท้วมท้น เขาด้วย เขาก็เป็นหนึ่งในตัวต้นเหตุ ตอนนั้นเขาดีใจเป็นบ้าที่พ่อเชื่อใจให้เขาช่วยหาข้อมูลที่ดูเป็นแผนการยิ่งใหญ่ แผนการที่พ่อพร่ำพูดว่าเป็นทางเดียวที่จะมั่นใจได้ว่าตระกูลเราจะยิ่งใหญ่ตลอดไป
“ฉันรู้เพราะอ่านบันทึกของพ่อหลังจากพ่อตายไปแล้ว” เดรโกไม่ได้โกหก ตอนนั้นเขาอาจจะรู้แค่บางส่วนแต่เขามาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากอ่านบันทึกของพ่อ
“เขาฟื้นคืนชีพด้วยส่วนผสมระหว่างเวทมนตร์เลือดและหินชุบชีวิต”
แฮร์รี่ขมวดคิ้วมองเขา
“เวทมนตร์เลือดคือ—” เขากำลังจะอธิบายแต่อีกคนขัดขึ้นก่อน
“ฉันรู้ว่าเวทมนตร์เลือดคืออะไร การใช้ส่วนประกอบจากมนุษย์หรือผู้วิเศษ ไม่ใช่แค่เวทมนตร์หรือสมุนไพร เดาว่าพวกนายต้องสละชีวิตใครสักคนใช่ไหม”
เดรโกพยักหน้า ดีใจที่เขาไม่ต้องอธิบายว่าพ่อหลอกล่อปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ ให้มาที่แท่นพิธีแล้วเชือดคอเขาสังเวยเพื่อนำลอร์ดโวลเดอร์มอร์ขึ้นมาจากความตาย เวทมนตร์เลือดทำงานอย่างนั้นเสมอ แลกสิ่งหนึ่งด้วยอีกสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่ต่างกัน
“แล้วหินชุบชีวิตล่ะ”
เดรโกกลืนน้ำลาย “เวทมนตร์เก่าแก่ ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันทำงานยังไง แต่ด้วยเวทมนตร์เลือดอย่างเดียว ถ้าหากเขาฟื้นคืนเขาจะกลับมาในสภาพกึ่งคนกึ่งอะไรสักอย่าง แต่ด้วยหินชุบชีวิตมันไม่ได้แค่ลากเขาออกมาจากความตายโดยที่เขายังคงสภาพเหมือนเดิม มันทำให้เวทมนตร์เลือดไม่เสื่อมสลายและแก้ไขไม่ได้” ตัวเร่งปฏิกิริยา สิ่งที่ทำหน้าที่ประสานระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขารู้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง “เขาเป็นลอร์ดโวลเดอร์มอร์เหมือนในภาพเขียนพวกนั้นที่เราเรียนกัน เขาไม่ต่างจากวันที่เขามีอำนาจที่สุดเลยสักนิดเดียว” เดรโกปิดตา ภาพชายผมดำยืนผงาดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้เขาวาบเย็นไปทั้งตัวปรากฎขึ้นอย่างแจ่มชัด ให้ตายสิถ้าหากเขารู้...ถ้าเขารู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะทำอะไรบ้าง เขาในตอนนั้นคงหยิบมีดแล้วจ้วงแทงมันให้ตายกลับไปอย่างเดิมซะ
“เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เก้าเดือน”
“เฮงซวยเอ้ย” แฮร์รี่สบถ “นายรู้มาเกือบปี!!!” เสียงนั้นกล่าวหาชัดเจน
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง ให้เดินไปบอกกษัตริย์อัลบัสรึไงว่าขอโทษทีนะครับ พ่อผมปลุกกบฏตัวเอ้ของคุณ แล้วก็พ่อผมไม่ชอบคุณมาก ๆ เลยด้วย” เดรโกเถียงกลับ เขารู้ว่าเขาทำผิดแต่...แต่
“ป่านนี้เขาซ่องสุมกำลังไปเท่าไหร่แล้วไม่รู้”
“มันไม่ได้เร็วอย่างนั้น เขาเหมือนทุ่มพลังหาอะไรสักอย่าง” เดรโกขมวดคิ้ว “แล้วนานแค่ไหนเขาก็ยังมีกำลังพลน้อยกว่ากษัตริย์อัลบัสอยู่ดี ไม่อย่างนั้นเขาคงบุกวังไปนานแล้ว”
“หาอะไรสักอย่างเหรอ”
เดรโกพยักหน้า “ฉันก็ไม่รู้ หลังจากเขาฟื้นขึ้นพ่อก็ไม่ได้บันทึกต่อ” เดรโกพูดแค่นั้น เขาไม่ได้บอกแฮร์รี่ว่าที่พ่อไม่ได้บันทึกต่อเพราะลอร์ดโวลเดอร์มอร์จับลูเซียส มัลฟอยไปขังไว้เหมือนหมา ล่ามโซ่ไม่ต่างจากนักโทษประหาร ด้วยโทษที่ปลุกเจ้านายขึ้นมาช้าไป เขาจำเสียงตะโกนลั่นนั่นได้
ฉันให้แหวนแกก่อนฉันไปสู้กับไอ้แก่อัลบัส บอกแกว่าแหวนนี่คืออะไร สั่งแกเอาไว้ว่าถ้าฉันตายแกต้องทำยังไง แต่แกก็ยังรอมายี่สิบปีกว่าจะปลุกฉัน ลูเซียสถ้าแกไม่ใช่มัลฟอยแกตายวันนี้แล้ว
“พ่อแม่ของนายตายเพราะอะไร”
เดรโกเงยหน้ามองคนถามเขม็ง “ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”
“เกี่ยวสิเดรโก” แฮร์รี่พูดอย่างหงุดหงิด “พ่อนายเป็นคนปลุกไอ้เวรนั้นให้ฟื้นจากความตาย พวกเขาถูกปิดปากใช่—”
เพี๊ยะ เสียงมือเดรโกกระทบแก้มคนที่พูด เขาตัวสั่นอย่างคุมไม่ได้
“พ่อแม่ฉันไม่ได้ถูกปิดปาก” แล้วก็เป็นครั้งแรกของวันที่เสียงเดรโกสั่น เขาโกรธคนตรงหน้าที่บังอาจกล้าพูดพล่อย ๆ ใช่พ่อเขาอาจจะเป็นตัวตั้งตัวตี แต่ความตายของพ่อแม่เขา...ให้ตายสิ หมอนั่นไม่รู้อะไรสักอย่าง แล้วที่สำคัญไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น
แฮร์รี่จับแก้มตัวเองอย่างตกใจ ดวงตาหลังแว่นเบิกกว้างมองเขา “ฉันแค่คิดว่านายอาจจะ—” แฮร์รี่ก้มหน้าหยุดพูด
“ฉันอาจจะอะไร” เดรโกตะโกนถาม ทำไมเขาถึงอยากได้ยินคำพูดที่คงเป็นคำกล่าวหาจากปากอีกคนด้วย
คนที่ถูกตะโกนเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเป็นประกาย “นายอาจจะถูกหมายหัวอีกคนน่ะสิถ้าเป็นอย่างนั้น”
เดรโกเม้มปาก ถอนหายใจ “นายรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว นายจะทำยังไงต่อไป”
“แล้วฉันขออย่างเดียวได้ไหม พ่อตายไปแล้ว อย่าลากชื่อของพ่อเข้ามาเกี่ยว” เขารู้ว่าเขากำลังขอให้แฮร์รี่โกหก “บอกว่านายได้ยินจากลอร์ดสักคนว่าโวลเดอร์มอร์ถูกปลุกให้ฟื้น”
“เดรโก” แฮร์รี่มองเขา “ไม่เขาก็ต้องเป็นนาย ยังไงเรื่องก็ต้องถูกตามกลับมาที่มัลฟอย ถ้าไม่บอกไปซะตั้งแต่ตอนนี้ว่าเป็นเขา ทุกคนจะคิดว่านายเกี่ยวด้วย”
แต่ใช่ เดรโกเกี่ยวด้วย เขาอาจจะไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร และเพื่ออะไร แต่เขาเกี่ยวด้วยแน่ ๆ
“แต่ฉันจะยอมยกชื่อมัลฟอยออกจากเรื่องตอนนี้”
“ไม่ใช่เพราะฉันเห็นแก่นายหรือพ่อของนาย แต่เพราะฉันไม่อยากดึงความสนใจมาที่ตระกูลนาย ไม่รู้ว่าข้อมูลนี้จะหลุดไปที่ไหนได้บ้าง”
เดรโกพยักหน้าตอบรับ เขาน่าจะขอบคุณแฮร์รี่หรือพูดอะไรสักอย่าง แต่ด้วยความทนงของมัลฟอยทำให้เดรโกทได้แค่พยักหน้าตอบรับ
“ฉันต้องไปดูเวทกั้นของคฤหาสน์ เราไม่อยากให้ใครผ่านเข้ามาใช่ไหม” เดรโกพูดแล้วตั้งใจจะเดินไปที่ห้องอ่านหนังสือ
“เดี๋ยว” แฮร์รี่จับแขนเขาเอาไว้ “วันนี้ต่อหน้าเบลลาทริกซ์ทำไม... ทำไมฉันอ่านความคิดนายได้”
เดรโกเกือบลืมไปแล้ว เขาคิดว่าเขาพูดถึงเรื่องสกัดใจแล้ว ดูเหมือนคนตรงหน้าเขาจะไม่รู้จักการสกัดใจอย่างที่เขาคิดจริง ๆ
“ฉันสกัดใจให้นาย” เดรโกพยายามหาคำมาอธิบาย
“ป้าเบลล่าสามารถอ่านใจนายได้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ป้าทำได้เก่งมาก ๆ แล้วหากถ้านายสกัดใจไม่เป็น แค่ป้าสบตากับนาย ป้าก็สามารถเข้ามาในหัวนายได้ ที่ฉันทำก็คือตั้งสมาธิแล้วบังความคิดฉันเอาไว้ เหมือนมันเป็นโล่”
แฮร์รี่ขมวดคิ้วพยักหน้า แต่มือยังไม่ปล่อยจากแขนเขา “และนายสามารถทำให้คนอื่นได้ด้วย”
เดรโกมองบนแล้วถอนหายใจ “นายเป็นกรณีพิเศษ” เขาพูดอู้อี้ “จิตพวกเราผูกกันด้วยเวทมนตร์หลังงานแต่ง ที่ฉันต้องทำคือขยายโล่นั้นให้ครอบคลุมทั้งฉันและนาย”
“แล้วมันทำให้ฉันอ่านความคิดนายได้อย่างนั้นหรือ”
“เออประมาณนั้นแหละ” เดรโกรีบบอกปัด เขาไม่อยากอธิบายต่อน่ะสิ ว่าปกติถ้าหากเขาไม่ได้สกัดใจไว้ตลอดเวลาแฮร์รี่สามารถอ่านความคิดเขาได้อยู่แล้ว และเมื่อเดรโกพยายามปกป้องจิตของแฮร์รี่ผ่านทางเวทมนตร์ของการแต่งงาน เขาก็ต้องปล่อยให้เวทมนตร์นั้นเปิดเชื่อมจิตพวกเขาเหมือนคู่แต่งงานปกติ
“มันแค่รู้สึกเหมือนนายอยู่หัวฉันด้วย”
“ขอโทษก็แล้วกันที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวในหัวนาย”
“เฮ้ย เปล่า ๆ แค่—” แฮร์รี่กัดริมฝีปาก “ฉันรู้สึกดีนะตอนที่นายอยู่ในนี้ด้วยน่ะ”
เดรโกกะพริบตามองคนตรงหน้าเหมือนแฮร์รี่เพิ่งงอกหัวขึ้นมาอีกหนึ่ง หมอนี้บ้าไปแล้วแน่ ๆ ใครกันที่ชอบให้มีคนไม่รู้จักเข้ามาอยู่ในจิตด้วย
“คือนายเหมือนลมอุ่น” แฮร์รี่รีบพูดต่อ “ฉันรู้สึกสงบเวลานายอยู่ในนั้น แปลกใช่ไหม”
“ใช่สิประหลาดสุด ๆ” เดรโกพูดพร้อมกับสะบัดแขนให้หลุด ไม่อยากคุยกับแฮร์รี่นานกว่านี้เพราะเขาเองก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
“เดี๋ยวสิ แล้วนายไปเรียนอะไรนะที่นายเรียก สกัดใจใช่ไหม มาจากไหน ไม่ได้สอนที่ฮอกวอร์ต”
เดรโกพ่นลม “ตั้งแต่จำความได้แล้ว สิ่งแรกที่ฉันต้องทำให้เป็นคือหยุดไม่ให้ใครเข้ามาล่วงรู้ความคิดฉันได้ นั่นคือสิ่งที่เด็กเลือดบริสุทธิ์มีศักดิ์ทุกคนต้องเรียน นายมีชีวิตรอดไม่ได้หรอกถ้าหากไม่สามารถโกหกหน้าตายได้” เขาพูดจบก็หันหลังเดินไปทางห้องหนังสือ พยายามกั้นความรู้สึกหนัก ๆ ที่ทับบนหน้าอกเมื่อเห็นสายตาสงสารของแฮร์รี่
ความคิดเห็น