ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dear Series - HP/DM

    ลำดับตอนที่ #7 : จดหมายฉบับที่ 4 - Draco

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 58


    25 พฤศจิกายน 1998

                    เรียนศาสตราจารย์

                    อย่างแรกเลยผมดีใจที่รู้ว่าคุณไม่ได้แก่ขนาดที่ผมคิดไว้ และคำถามที่คุณถามว่าผมคิดว่าคุณอายุเท่าไหร่ ต้องขอโทษจริงๆแต่ในหัวของผม ผมคิดว่าคุณคงอายุพอๆกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์และคุณคงเป็นศาสตราจารย์สูงวัยเครายาวสีขาวที่รักเด็กๆ พร้อมจะให้อภัยแม้กระทั่งเด็กอย่างผม แต่พอรู้ว่าคุณอายุน้อยกว่านั้นเยอะก็ยิ่งดีใหญ่ครับ หมายความว่าผมจะสามารถเขียนจดหมายหาคุณได้อีกนานแสนนานโดยไม่ต้องกังวลว่าคนที่ผมเขียนถึงนี้จะลงหลุมไปแล้วรึเปล่า


                    แล้วที่คุณบอกผมว่าคุณอิจฉาที่ผมได้อยู่ในที่ๆไม่มีใครตัดสินผมด้วยชื่อเสียงนั้น ผมรู้สึกประหลาดใจกับคำกล่าวนั้นไม่น้อย เพราะถ้าหากชื่อเสียงของผมไม่ได้กลายเป็นพ้องไปกับคำว่าฆาตกร ผมคงจะยินดีที่มีคนจดจำชื่อผมได้ และผมเชื่อว่าคนอย่างศาสตราจารย์คงไม่มีทางที่จะทำสิ่งร้ายกาจขนาดโดนประณามว่าเป็นฆาตกรได้หรอกครับ การที่มีคนจำคุณได้มันอาจจะทำให้คุณไม่สบายใจ แต่ผมมองว่านั้นคือคำชมนะ ท่ามกลางคนเป็นล้านๆที่อาจจะไม่มีใครรู้จัก แต่ชื่อเสียงของคุณก็โดดเด่นมากพอที่จะทำให้คนหันมามองคุณได้ มันออกจะน่าภูมิใจไม่น้อยไม่ใช่เหรอครับ


                    ตอนนี้คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ คุณยังคงเคล็ดเอวจากการฝึกการต่อสู้รึเปล่า ถึงคุณจะบอกว่าคุณไม่ได้อายุเยอะ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะระวังตัวให้มากกว่านะครับ มีเพียงคาถาแค่ไม่กี่อันที่ทะลุผ่านคาถากำแพงเวทมนตร์ป้องกันเข้ามาได้ ทุกอันนั้นใช้การรวมศูนย์พลังและเพิ่มความเร็วสร้างจุดอ่อนให้กับกำแพงเวทมนตร์ โดยปกติแล้วถ้ากำแพงเวทมนตร์ไม่แข็งแกร่งพอคนที่โดนคาถาพวกนั้นมักไปจบที่ห้องเก็บศพทุกราย ศาสตราจารย์คงเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆที่สร้างกำแพงเวทมนตร์ต้านขนาดที่ผลกระทบมีเพียงแค่อาการเคล็ดเอวเท่านั้น แต่เอาเป็นว่าผมไม่อยากจะเขียนจะหมายหาคนตาย เพราะฉะนั้นช่วยเปลี่ยนคู่ดวลหรือระวังตัวให้มากกว่านี้ด้วยนะครับ


                    ส่วนผมตอนนี้สบายดี การเรียนยังหนักหนาสาหัสเหมือนเคย และวิชาที่ยากที่สุดสำหรับผมก็คือการปรุงยาและศาสตร์แห่งคาถา การปรุงยาน่ะสบายมาก แต่ศาสตร์แห่งคาถาผมไม่เอาไหนเลย สารภาพนะครับว่าสองปีสุดท้ายที่ฮอกวอตส์ผมไม่ได้ใส่ใจการเรียนสักเท่าไหร่ ศาสตราจารย์คุณคงกำลังขมวดคิ้วและดุผมอยู่ในใจใช่ไหมครับ แต่ตอนสองปีช่วงสงครามนั้นมีนักเรียนคนไหนมีกะจิตกะใจเรียนกับเขากันบ้าง (ยกเว้นแต่พวกเรเวนคลอเท่านั้นมั้ง)


                    ในวิชาการปรุงยาและศาสตร์แห่งคาถาชั่วโมงล่าสุดที่เราเรียน พวกเราได้เรียนเกี่ยวกับการปรุงยาที่ช่วยสร้างความสุขและทำให้สามารถเสกคาถาผู้พิทักษ์ได้ง่ายขึ้น ครั้งแรกที่ผมรู้ว่าผมต้องเสกคาถาผู้พิทักษ์น่ะผมมือสั่นเลยล่ะ นั้นเป็นคาถาของพ่อมดฝ่ายสว่าง ผมกลัวจับใจเลยว่าผมจะกลายเป็นแมลงและสลายไปทันทีที่ผมพยายามร่ายคาถา แต่สุดท้ายแล้วผมก็ไม่ได้กลายเป็นอะไร และน้ำยานั้นทำให้ผมสร้างผู้พิทักษ์ขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก แม้มันจะไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างก็เถอะ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นหมอกหนาพอที่คงจะไล่พวกผู้คุมวิญญาณไปได้สักพัก แต่ที่ประหลาดใจผมที่สุดคือความทรงจำที่น้ำยาสร้างสุขดึงขึ้นมา ผมคิดว่ามันคงความทรงจำตอนเด็กๆที่ผมอยู่กับพ่อและแม่ในคฤหาสน์มัลฟอย แต่มันกลับเป็นความทรงจำของช่วงเวลาในฮอกวอตส์ ครั้งแรกที่ผมได้คะแนนเต็มในวิชาปรุงยา ตอนที่ผมสามารถเปลี่ยนเก้าอี้ให้กลายเป็นแมวได้ เวลาที่ผมได้บินอยู่เหนือสนามควิดดิช เสียงหัวเราะในห้องนั่งเล่นของสลิธีริน มันทำให้ผมคิดถึงฮอกวอตส์จริงๆ คิดถึงเพื่อนทุกคนโดยเฉพาะเด็กบ้านสลิธีรินทุกคนเลย ผมรู้ว่าพวกเราไม่ใช่กลุ่มเด็กดีอะไร แต่พวกเราก็อยู่ด้วยกัน ดูแลกันเสมอ คุณรู้ไหมว่าเวลาผมเศร้าเกร็กกอรี่ กอยล์จะแอบไปเอาขนมมาให้ผมทาน เขาคิดว่าอาหารเป็นทางออกสำหรับทุกอย่าง ผมคิดถึงแม้กระทั่งพวกบ้านกริฟฟินดอร์ คิดถึงเวลาที่ผมได้หัวเราะลั่นเวลาที่พวกเราทำคะแนนได้มากกว่า และที่แปลกคือผมคิดถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์ เขาเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของความทรงจำฮอกวอตส์ของผม ปีสุดท้ายที่เขาไม่อยู่นั้นมันเหมือนกับว่าผมไม่ได้อยู่ฮอกวอตส์เสียที ซึ่งมันคงจริงเพราะปีเจ็ดที่นั้นมันคือคุกนรกดีๆนี้เองไม่ใช่โรงเรียนอย่างที่ผมจำได้ ผมได้แต่รอให้เขามาปรากฏตัวเปลี่ยนคุกนี้ให้กลับมาเป็นฮอกวอตส์ที่ผมจำได้อีกครั้ง


                    นี้ก็ใกล้ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ขึ้นมาแล้ว คุณคงจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของคุณน่ะสิครับ ส่วนผมปิดเทอมฤดูหนาวนี้ผมคงอยู่ที่โรงเรียน ทั้งพ่อและแม่ของผมเห็นดีด้วยที่ผมจะใช้เวลาอยู่ที่นี่มากกว่าจะกลับไป ตอนนี้ใครๆต่างก็หมายหัวคนในตระกูลมัลฟอย คนที่เรากระทำในสงครามเอยและทั้งผู้เสพความตายที่เราทรยศ ใครๆต่างมองพวกเราอย่างเกลียดชังกันทั้งนั้น บางทีผมก็ไม่แน่ใจว่าพ่อจะทำอย่างนั้นไปทำไม พวกเราควรจะฉลาดและเลือกเอาตัวรอด ไม่ใช่ติดอยู่กับกรอบธรรมเนียมเดิมๆแล้วดึงให้ตระกูลเราจมลงไป


                    ...บางครั้งผมก็เกลียดชื่อตระกูลของตัวเองเหลือเกิน แต่บางครั้งผมก็เกลียดทุกคนในโลกที่ไม่มีใครยอมให้อภัยคนที่เคยทำผิด


                    ขอโทษนะครับที่ผมเขียนเรื่องหนักๆมาเล่าให้คุณฟังแบบนี้ แต่ผมไม่รู้จะพูดกับใครได้ ขอให้มีความสุขกับช่วงเทศกาลนะครับ


                    ด้วยความเคารพ

                    เดรโก มัลฟอย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×