คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : จดหมายฉบับที่ 3 - Harry
“เหวอ” แฮร์รี่อุทานอย่างตกใจ เพราะสิ่งแรกที่เขาเห็นเมื่อลืมตาตื่นคือ
ตาโตๆของนกฮูกสีดำสนิท
“ให้ตายสิฟาซซี่” ชายหนุ่มบ่นเบาๆ
แต่นกฮูกเจ้าของชื่อกลับทำหน้าไร้เดียงสาเหมือนจะถามเขาว่าเป็นความผิดของนายเองไม่ใช่เหรอที่ตกใจ
“เธอเหมือนเจ้าของไม่มีผิด” แฮร์รี่ส่ายหน้าเบาๆ
ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบม้วนจดหมาย แล้วเดินไปเปิดหน้าต่างให้ฟาซซี่ไปพักที่กรงนกนอกบ้านเหมือนครั้งที่แล้ว
เขากวาดตาอ่านจดหมาย พร้อมกับหัวเราะหึๆเป็นระยะ
ดูเหมือนมัลฟอยจะเรียนหนักไม่น้อย เขาเข้าใจเลย ช่วงแรกๆของการเข้าโรงเรียนฝึกมือปราบมารเขาก็อยากจะตายเหมือนกัน
ทั้งฝึกภาคปฏิบัติ ฝึกการต่อสู้ ฝึกคาถา แล้วต้องจำข้อกฎหมายของกระทรวงเวทมนตร์อีก
แทบจะร้องไห้ออกมาเลยล่ะ
“ทั้งเก่งทั้งหน้าตาดี นี้นายชักจะหลงตัวเองใหญ่แล้วนะเดรโก
มัลฟอย” แฮร์รี่หัวเราะเบาๆ เขายินดีที่เห็นมัลฟอยคนเก่าเริ่มจะกลับคืนมาอีกครั้ง
ถึงเขาจะชอบมัลฟอยที่สำนึกผิด
แต่เขาก็รู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่เห็นหมอนั้นทำหน้าเหมือนลูกหมาถูกเตะ
มัลฟอยน่ะต้องทั้งหยิ่ง ทั้งปากดีแบบนี้แหละ
“แล้วถามจริงว่านายคิดว่าฉันแก่แค่ไหนหา!!!” แฮร์รี่ตะโกนถามจดหมาย
รู้ทั้งรู้ว่ามันคงไม่ตอบเขากลับมา แต่ให้ตายเถอะหมอนั้นเปรียบเขากับคุณปู่
นี้การใช้ภาษาของเขามันเก่ามากเหรอ หรือว่ายังไง
ทำไมหมอนั้นถึงคิดว่าเขาแก่หง่อมขนาดนี้เนี้ย!!!
แฮร์รี่แลบลิ้นให้จดหมายนั้นอีกครั้ง ก่อนจะรีบแต่งตัวไปทำงาน
ให้ตายสิคืนนี้ประโยคแรกที่เขาจะเขียนตอบเลยก็คือ เขาไม่ได้แก่ขนาดนั้น (โว้ย)
###
สุดท้ายแม้จะตั้งใจว่าจะรีบเขียนตอบกลับแต่แฮร์รี่กลับไม่มีเวลาเลยแม้แต่น้อย
ทุกวันตลอดสัปดาห์เขากลับมาก็สลบเหมือด
นี้เป็นสัปดาห์ที่เขาต้องเรียนการต่อสู้ตัวต่อตัวแบบผสมผสาน
ก็คือเขาและคู่ของเขาสามารถใช้ทั้งเวทมนตร์และอาวุธของมักเกิ้ล
“โธ่ นายท่านครับ กลับมาเจ็บตัวอีกแล้ว” ครีเชอร์รีบกระวีกระวาดเข้ามาดูแลแฮร์รี่ทันทีที่ชายหนุ่มหายตัวเข้ามาในกริมโมลด์เพลซ
แฮร์รี่พยักหน้าตอบรับเอลฟ์ชราแล้วลากสังขารไปที่ห้องนอน
ดูเหมือนว่าทุกคนจะใส่ซะเต็มที่ทุกครั้งดวลกับเขา
ใครๆต่างก็อยากได้ชื่อว่าเป็นคนประลองชนะแฮร์รี่ พอตเตอร์ทั้งนั้น แม้กระทั่งเพื่อนสนิทจากฮอกวอตส์อย่างเนวิลล์
“อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็วันเสาร์”
แฮร์รี่พึมพำกับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวแล้วหลับสนิทไปทันที
.
.
.
อากาศในตอนเช้าของเดือนพฤศจิกายนในลอนดอนช่างหนาวจับใจ
แฮร์รี่คิดในใจพร้อมกับดึงผ้าพันคอให้กระชับแน่นขึ้น นี้ถ้าไม่ใช่เพราะเขาตอบตกลงที่จะมาทานอาหารเช้ากับจินนี่ตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนแฮร์รี่ไม่มีทางที่จะลุกขึ้นจากเตียงนอนอุ่นๆเด็ดขาด
“แฮร์รี่” เสียงทักพร้อมกับรอยยิ้มสดใสของเจ้าของร่างที่โบกมือหยอยๆให้แฮร์รี่หน้าร้านอาหาร
เขายิ้มกลับแล้วรีบสาวเท้าเพื่อไปให้ถึงเธอเร็วขึ้น
พวกเขาแทบไม่มีเวลาพบกัน
ดังนั้นเมื่อจินนี่เสนอว่าจะมาทานอาหารเช้าแล้วไปเดินเล่นด้วยกัน
ก่อนที่เธอจะต้องกลับไปซ้อมตอนบ่าย ชายหนุ่มจึงรีบตอบตกลงทันที
ร้านอาหารที่จินนี่เลือกเป็นคาเฟ่เล็กๆ เสิร์ฟอาหารเช้าแบบง่ายๆ พร้อมกับชาหอมกรุ่น
เหมาะสมกับการไปเดทเป็นอย่างมาก
ระหว่างพวกเขาสองคนจินนี่เป็นคนที่โรแมนติกกว่าเขามาก
หากเป็นเขาแล้วคงไม่แคล้วไปที่ผับสักที่พร้อมกับอาหารเช้าที่มันเยิ้มแต่อร่อยเหอะ
แต่มันก็คงมีคะแนนเป็นศูนย์ด้านความโรแมนติก
“จินนี่ สวัสดีนะ รอนานไหม” เขารั้งเธอเข้ามากอดเบาๆ
ซุกหน้าเข้ากับผมของเธอ กลิ่นของเธอยังเหมือนเดิมทุกครั้ง...แต่ที่ต่างไปอาจจะเป็นเขาเองที่ไม่รู้สึกใจเต้นกับกลิ่นเฉพาะตัวของเธออีกแล้ว
“ไม่ค่ะ ฉันเองก็เพิ่งมาถึง เข้าไปกันเถอะค่ะพี่แก้มแดงไปหมดแล้ว”
หญิงสาวหัวเราะ พร้อมกับจับมือเขาเข้าไปในร้านอาหาร
ทันทีที่นั่งลงเขาก็รู้สึกถึงสายตาของคนอื่นๆในร้านลอบมองมาที่เขา
แฮร์รี่ถอนหายใจ
ให้ตายสิเพราะมันเป็นอย่างนี้แหละเขาถึงไม่ค่อยอยากออกจากบ้านสักเท่าไหร่
ยิ่งหลังสงครามชื่อเสียงเขายิ่งกระฉ่อนมากขึ้น
สายตาของคนอื่นๆที่มองเขาก็มากขึ้นด้วย
แต่ดูเหมือนจินนี่จะไม่ยี่หระกับสายตาที่แอบมอง
เธอไม่เคยหวั่นไหวกับอะไรแบบนี้ นี้เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งของเธอที่เขาชอบเสมอ
“เธอเป็นยังไงบ้าง”
แฮร์รี่เปิดปากถามหลังจากทั้งคู่สั่งอาหารเสร็จแล้ว อารมณ์ดีๆที่ได้เจอจินนี่เริ่มจะค่อยๆจางหายไปโดยเฉพาะเมื่อพนักงานเสิร์ฟเล่นมองเขาไม่วางตาแบบนั้น
“ฝึกหนักเหมือนเคย แต่สนุกมากค่ะ
ดูท่าแล้วปีนี้ฉันมีโอกาสได้เป็นตัวจริงด้วยนะ” จินนี่ส่งยิ้มสดใสให้เขา
“พี่ล่ะเป็นยังไงบ้าง พี่ดูโทรมชะมัดเลยเป็นอะไรรึเปล่า”
หญิงสาวพูดตรงๆ
แฮร์รี่หัวเราะเบาๆ “ฉันเองก็ฝึกหนักเหมือนกัน
แต่ของฉันไม่สนุกเท่าไหร่
เมื่อวานเนวิลล์เล่นใช้คาถาระเบิดทลายกำแพงเวทมนตร์สกัดกั้นของฉันเข้ามาได้
จนป่านนี้หลังฉันยังระบมจากแรงระเบิดอยู่เลย ฉันเจอทั้งทุ่ม ทั้งปืนไฟฟ้า
ทั้งระเบิด แล้วก็ยังคาถาอีก น่วมไปทั้งตัวเลย”
จินนี่เบิกตากว้าง “ฟังดูอันตรายจังเลยนะคะ”
เสียงเธอเจืออะไรบางอย่างที่เขาจับไม่ได้ ...ไม่พอใจเหรอ ...จินนี่ไม่พอใจอะไร
“พี่ต้องฝึกหนักขนาดนี้เลยเหรอ
พี่ไม่คิดจะพักจากเรื่องการต่อสู้เลยเหรอ”
แฮร์รี่ถอนหายใจ ให้ตายสิแค่สามนาทีพวกเขาก็วกกลับมาเรื่องเก่าๆอีกแล้ว
จินนี่ไม่ได้พอใจนักหรอกที่เขาเลือกอาชีพเป็นมือปราบมาร เขารู้ว่าเธอหวังดี
เธอไม่อยากเห็นเขาต้องบาดเจ็บไปตลอดชีวิต เธอไม่เคยพูดออกมาหรอก
แต่เขาจับมันได้ในน้ำเสียงเธอทุกครั้งที่เธอพูดถึงอาชีพที่เขาเลือก
“จินนี่ เราตัดสินใจแล้วนะว่าจะไม่ก้าวก่ายกันเรื่องอาชีพของอีกฝ่าย”
แฮร์รี่เตือนเบาๆ
หญิงสาวถอนหายใจ แล้วจิบชา
แม้จะไม่พูดอะไรแต่ท่าทางเธอก็ฟ้องว่าเธอไม่พอใจ และทุกๆคนที่มองก็ดูออกเช่นกัน
พวกเขามองหน้าแล้วกระซิบกระซาบกันเบาๆ
...เยี่ยมไปเลย...แฮร์รี่คิดในใจ พรุ่งนี้เรื่องที่เขาทะเลาะกับจินนี่จะไปอยู่หน้าแรกของเดลี่โพรเฟ็ต
ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิด
.
.
.
“ครีเชอร์ ยกชาไปให้ฉันที่ห้องสมุดด้วย”
แฮร์รี่ตะโกนสั่งเมื่อกลับถึงบ้าน พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องสมุด
เขากลับมาถึงพร้อมอารมณ์ขุ่นมัวพอๆกับท้องฟ้าฤดูหนาว
หลังจากนั้นจินนี่ก็พยายามจะคุยกับเขา แต่บางทีอาจจะเพราะแฮร์รี่หงุดหงิดไปแล้วเขาจึงไม่มีอารมณ์จะทำดีกับเธอเท่าไหร่
พวกเขาจากกันโดยที่จินนี่กัดฟันแน่น
ส่วนเขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะได้หลบสายตาผู้คนกลับมาที่กริมโมลด์เพลซ
ร่างสูงมานั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ
จดหมายประทับตราเฮอร์ลิชพร้อมลายมือเป็นระเบียบของอีกคนยังวางอยู่ที่มุมโต๊ะ
เขานั่งลงแล้วหยิบกระดาษออกมา เขียนทุกอย่างที่อยู่ในใจเขา
ความหงุดหงิดที่ต้องมีคนจำได้ ชื่อเสียงที่นำพาแต่เรื่องยุ่งยาก
ทั้งเรื่องงานแล้วก็เรื่องส่วนตัว
เขาบอกเดรโกว่าเขาพร้อมจะแลกกับทุกอย่างแค่เพียงได้เป็นคนธรรมดา และบอกว่าเขาอิจฉาเดรโกแค่ไหนที่เจ้าตัวสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ที่เฮอร์ลิชโดยไม่มีใครจำได้
หลังจากได้ระบายทุกอย่างออกมาแฮร์รี่ก็สงบขึ้นเยอะ
เขาตัดสินใจเล่าเรื่องตลอดเดือนที่ผ่านมาให้เดรโกฟังด้วย
เรื่องคาถาระเบิดของเนวิลล์ (แน่ล่ะเขาละชื่อเนวิลล์เอาไว้) เรื่องที่มือเขาสั่นเป็นชั่วโมงๆจากแรงช๊อตไฟฟ้า
(นั้นออกจะตลกนะ ใครจะไปคิดว่าคาถาสะท้อนกลับจะกันไฟฟ้าของมักเกิ้ลไม่ได้)
...และท้ายที่สุดเขาก็ไม่ลืมบอกเดรโกว่า เขาไม่ได้แก่ขนาดนั้นเว้ย
เขายังเดินท่ามกลางอากาศหนาวๆตอนเช้าของลอนดอนได้สบายมาก
(เขาละไว้เช่นกันว่าเขาห่อตัวหนาเป็นฮอทดอก ให้ตายสิเขาไม่ได้แก่นะ
เขาแค่ชอบอากาศอุ่นๆเข้าใจไหม)
หลังจากที่เขียนจบเขาก็ยิ้มออกมาได้ อารมณ์เสียๆหายวับไม่เหลือ
มีแค่รอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะเรียกชื่อนกฮูกสีดำเข้ามา
พร้อมกับผูกจดหมายไว้กับข้อเท้าของมัน
“ส่งให้ถึงมือเขาเลยนะ”
###
ความคิดเห็น