ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dear Series - HP/DM

    ลำดับตอนที่ #4 : จดหมายฉบับที่ 2 - Harry

    • อัปเดตล่าสุด 8 ธ.ค. 58


    “นายจะไม่บอกเขาจริงเหรอว่านายเป็นคนช่วยเขาน่ะพอตเตอร์” มือปราบมารวิลเลียมสันเดินเข้ามาทักแฮร์รี่ที่กำลังเดินอยู่ในกระทรวงเวทมนตร์ หลังจากมัลฟอยเดินทางไปเยอรมันนีได้ไม่นาน

     

    “คุณก็ไม่ควรรู้ด้วยซ้ำ!!” แฮร์รี่รีบพูด ก่อนจะลากชายสูงวัยมาคุยในมุมอับไร้ผู้คน

    “คุณจะไม่บอกเขาใช่ไหมครับ”

     

    “ไม่ล่ะ ถ้าเธอไม่อยากบอกก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนี้ แต่ฉันแค่คิดว่าถ้าเธอบอกความจริงหมอนั้นอาจจะรู้สึกดีที่มีคนอย่างเธออยู่ฝั่งเดียวกับเขา”

     

    “คุณไม่คิดว่าเขาจะโกรธเป็นไฟเป็นฟืนเหรอฮะ นี้เรากำลังพูดถึงเดรโก มัลฟอยนะครับ” แฮร์รี่พูดอย่างหวาดๆ

     

    มือปราบมารอาวุโสหัวเราะลั่น “ก็จริง นี้นายกลัวเขาจริงๆเลยใช่ไหมเนี้ย”

     

    “เปล่านะครับ ก็แค่ผมกลัวว่าถ้าเขารู้แล้วโกรธเขาคงไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมอีกแล้วน่ะสิครับ” แฮร์รี่รีบปฏิเสธ

     

    “เฮ้อ ฉันแนะนำให้นายรีบบอกๆหมอนั้นไปเถอะ เขาอาจจะโมโหในตอนแรกแต่ฉันเชื่อว่าเขาจะเข้าใจ ถ้าให้เขามารู้เองว่านายปิดเขาเอาไว้ฉันว่ามันจะยิ่งกว่าโกรธเป็นไฟเป็นฟืน นี้คำแนะนำจากคนที่ดูแลหมอนั้นมาตลอดสี่เดือนเลยนะ” วิลเลี่ยมสันพูดด้วยน้ำเสียงใจดี เขารู้ว่ามือปราบมารอาวุโสตรงหน้าเป็นคนไม่กี่คนในกระทรวงเวทมนตร์ที่เป็นห่วงเดรโก มัลฟอยจริงๆจังๆ เขาเองก็คิดไม่ต่างจากแฮร์รี่ที่โครงการบ้าๆของกระทรวงเวทมนตร์และศาลสูงมันมากเกินไปสำหรับเด็กๆพวกนั้น แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะทำให้คนที่เขาต้องดูแลไม่รู้สึกแย่มากไปกว่านี้

     

    แฮร์รี่พยักหน้าตอบรับ แต่เขาไม่คิดจะทำอยู่แล้ว เขาเชื่อว่าไม่นานมัลฟอยจะลืมเขาไป ตอนนี้หมอนั้นได้ไปเรียนวิทยาลัยปรุงยาขั้นสูงอย่างที่ฝันถึงที่เยอรมันนี ไม่รู้ว่าจะกลับมาที่นี่อีกรึเปล่าตลอดชีวิต เขาคงเป็นแค่คนที่มัลฟอยสำนึกบุญคุณและอาจจะส่งของขวัญมาให้เป็นครั้งคราวเท่านั้นแหละ

    คิดแล้วแฮร์รี่ก็แอบรู้สึกโหวงๆในใจ โดยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

     

    ###


    แต่มัลฟอยก็พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเขาคิดผิดโดยสิ้นเชิง เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้นบ้านเขาก็ได้ต้อนรับแขกที่คุ้นเคยอีกครั้ง นกฮูกสีดำตัวใหญ่ที่พาจดหมายจากป่าดำข้ามน้ำข้ามทะเลมาจนถึงกริมโมลด์เพลซในเช้าวันเสาร์

     

    เขาลงมาทานอาหารเช้าที่ครีเชอร์เตรียมพร้อมกับจดหมายในมือ ปวดไปทั้งตัวจากการฝึกการต่อสู้แบบตัวต่อตัวที่มีมาตลอดสัปดาห์ แต่จิตใจกลับร่าเริงอย่างบอกไม่ถูก มือหนาพลิกไปซองจดหมายดู คราวนี้ไม่ได้ประทับด้วยตรามัลฟอยเหมือนครั้งแรกแฮะ แต่กลับเป็นตราประทับของเฮอร์ลิช อคาเดมี่แทน ไม่ใช่โล่กับมังกรคู่แต่กลับเป็นหม้อยาพร้อมอักษร H ตัวใหญ่ เขาฉีกจดหมายออกมาอ่าน พร้อมกับยิ้มเป็นระยะๆกับเรื่องราวที่เด็กหนุ่มผมบลอนด์เล่าให้เขาฟัง

     

    “นายมีเพื่อนแล้วสินะ” แฮร์รี่พูดเบาๆ “คงไม่มีคนบ้าที่ไหนที่คิดจะปฎิเสธการจับมือกับนายตั้งแต่วันแรกใช่ไหมมัลฟอย” เรื่องที่ร่างบางเล่าทำให้เขาสงสัยว่าเจ้าตัวเป็นอย่างนี้รึเปล่ากับวันแรกที่ฮอกวอตส์ หมอนั้นจะตื่นเต้นไปกับทุกอย่างแล้วรีบเขียนจดหมายไปหาลูเซียส มัลฟอยรึเปล่า เขาจะถามลูเซียส มัลฟอยรึเปล่าว่าเขาจะทำยังหากเขาหวาดกลัว

    พอคิดอย่างนี้แล้วแฮร์รี่ก็หยุดนิ่ง ...นี้เขากลายเป็นพ่อของเดรโก มัลฟอยไปแล้วเหรอ!!! เขาพอจะรู้ว่าหลังสงครามความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกมัลฟอยไม่ได้ดีนัก แม้ว่าลูเซียสจะพยายามปกป้องเดรโกแค่ไหน แต่สิ่งที่เขาบังคับให้เดรโกทำระหว่างสงครามและเรื่องที่เดรโกเจอมันก็มากพอที่จะทำให้มัลฟอยผู้ลูกโกรธทุกอย่างที่พ่อเขาเป็น แล้วพอเขาเข้ามาแบบนี้ เขาคงเหมือนเติมเต็มส่วนที่ลูเซียสเคยเป็นสำหรับเดรโก

    ....แต่เขาจะไม่เป็นลูเซียส มัลฟอย เขาจะไม่ใช้สถานะของเขาบีบบังคับให้เดรโกเดินตามเส้นทางที่แฮร์รี่เชื่อ เขาอยากจะให้ทางเลือกกับเดรโก และเขาจะทำอย่างนั้นจริงๆ

     

    คราวนี้เด็กหนุ่มผมดำไม่ได้ใช้เวลานานในการตอบจดหมายเช่นครั้งแรก เขาเล่าให้มัลฟอยฟังถึงวันแรกที่เขาต้องไปเข้ารับการฝึกมือปราบมาร แน่นอนว่าเขาเว้นไว้ไม่ได้บอกว่า โรงเรียน  ที่เขาพูดถึงน่ะคือสำนักงานมือปราบมาร เขาเล่าถึงเรื่องที่เขาไม่เคยเปิดปากเล่าให้แม้แต่รอนหรือเฮอร์ไมโอนี่ฟังว่าเขากลัวแค่ไหนที่จะต้องเข้าไปฝึก เขากลัวว่าหลังจากจบศึกแล้วทุกอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับตัวเขาจะหายไป แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย แน่ล่ะมันยาก ทุกอย่างที่เราต้องทำเป็นครั้งแรกมันยากทั้งนั้น แต่ถ้าเราได้เรียนในสิ่งที่รักเราก็จะสนุกกับมัน

     

    แฮร์รี่ยิ้มขณะม้วนจดหมายใส่เข้าไปในอุ้งเท้าฟาซซี่ เขาปล่อยให้นกฮูกยักษ์พักเต็มๆตลอดสุดสัปดาห์ เขาคงอยากจะให้มันพักนานกว่านี้ ถ้าไม่เห็นว่ามันออกจะดูกระวนกระวายอยากจะบินกลับไปหาเจ้าของเต็มที

    “ดูแลเขาด้วยนะฟาซซี่” แฮร์รี่มองนกฮูกสีดำบินขึ้นจนลับฟ้า ก่อนจะหายตัวไปที่โรงเรียนฝึกผู้ปราบมารพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนหน้า

     

    ###

     

    “แฮร์รี่ เธอเป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่วางส้อมลงพร้อมกับจ้องหน้าเขาเขม็ง พวกเขามีนัดทานอาหารกันทุกวันพฤหัสที่แฮร์รี่มาฝึกภาคสนามที่กระทรวงเวทมนตร์ เฮอร์ไมโอนี่ทำงานโดยตรงกับท่านรัฐมนตรีเป็นหน่วยที่คอยรักษาระเบียบและฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม คิงส์ลีย์ขอร้องเธอให้มาช่วยเขาก่อนที่เธอจะได้มีโอกาสตอบตกลงไปทำงานกับกองออกระเบียบและควบคุมสัตว์วิเศษ

     

    “เปล่านี้ มีอะไร”

     

    หญิงสาวหรี่ตา “เธอเล่นเขี่ยสลัดในจานเล่นมาเกือบสิบนาทีแล้ว แล้วนี้เป็นเที่ยงที่นายเงียบสุดๆ มีอะไรรึเปล่า”

     

    “แค่เรื่องฝึกน่ะ” แฮร์รี่โกหกออกไป เขาจะบอกได้ยังไงกันหล่ะเพราะเขารอจดหมายจากเดรโก มัลฟอย ให้ตายสิแค่คิดเขาก็อายแล้ว ทั้งๆที่เตรียมใจเอาไว้แล้วว่ามัลฟอยจะต้องหายหน้าไปหลังจากหาเพื่อนได้ แต่...แต่เขาก็อดหวังไม่ได้ว่ามัลฟอยจะเขียนจดหมายมาหาเขาอีก เขารู้สึกเหมือนเขาได้เจอมัลฟอยในอีกด้าน ด้านที่อ่อนโยน ด้านที่ขี้กลัว และด้านที่ไม่ใช่มัลฟอยคู่อริที่เขารู้จักมาตลอด

    และทุกครั้งที่เขาตอบจดหมาย มันเหมือนเขาได้ยกอะไรบางอย่างออกจากอก

     

    เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตา เขารู้ว่าเธอไม่เชื่อเขาหรอก หญิงสาวเป็นเพื่อนเขามานานมากพอที่จะมองผ่านเรื่องโกหกของเขาได้

    “นี้วันศุกร์นี้เราไปทานข้าวเย็นกับรอนกันไหม”  

     

    แฮร์รี่ถอนหายใจ เขารู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่วางแผนจะให้รอนเป็นคนล้วงความลับว่าเขากำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรอยู่

    “ก็ได้ ฉันอยากดูสิ่งประดิษฐ์ล่าสุดของจอร์จเหมือนกัน ดูรอนตื่นเต้นน่าดูเลย”

    เป็นตายร้ายดีเขาก็จะไม่ปริปากเด็ดขาดว่าเขาคิดถึงจดหมายจากมัลฟอย

     

    .

    .

    .

     

    “เขาไม่เขียนหาฉันเลย” แฮร์รี่กระซิบใส่หูเฮอร์ไมโอนี่ขณะที่รอนเดินไปสั่งเบียร์เพิ่ม พวกเขามาดื่มที่ผับต่อหลังจากอาหารเย็น และจุดๆนี้แฮร์รี่เก็บเรื่องทุกข์ใจเอาไว้คนเดียวไม่ไหวแล้ว

     

    “ใคร จินนี่เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่หันมาถาม

     

    ส่วนชายหนุ่มได้แต่กระพริบตาถี่ สมองประมวลผลสักครู่ก่อนจะเข้าใจว่าเฮอร์ไมโอนี่หมายความว่ายังไง หลังเรียนจบปีหกจินนี่ตัดสินใจเข้าร่วมทีมควิดดิชโฮลี่เฮดฮาร์ปีส์โดยไม่กลับมาเรียนต่อปีเจ็ดที่ฮอกวอตส์ สำหรับเธอแล้วส.พ.บ.ส.ไม่จำเป็นสำหรับเส้นทางอนาคตของเธอ (แม้ลึกๆเขาเชื่อว่าเธอไม่อยากกลับมาเหยียบฮอกวอตส์เพราะความทรงจำที่เลวร้ายในปีที่แล้ว) การเข้าร่วมทีมควิดดิชมืออาชีพทำให้เธอเธอต้องไปเก็บตัวซ้อมอย่างหนักจนแทบไม่ได้เจอหน้าเขาเลย สำหรับความสัมพันธ์ของเขากับจินนี่...เขาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้มันเรียกว่าอะไร พวกเขาจูบกันครั้งสุดท้ายที่ศึกในฮอกวอตส์ และหลังจากนั้นพวกเขาก็ห่างกันไปอีกครั้ง

    ...นั้นสิมันสมเหตุสมผลดีที่คนที่เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าแฮร์รี่คิดถึงคือจินนี่

    “เอ่อ... ใช่น่ะ”

     

    “โธ่ แฮร์รี่ เธอฝึกหนักน่ะ อย่ากังวลไปเลย จินนี่ไม่มองคนอื่นนอกจากเธอหรอก”

     

    คำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก นี้เขาเป็นบ้าอะไรไปแล้วที่คิดถึงมัลฟอยมากกว่าอดีต?คนรัก เขาจินนี่มีอดีตร่วมกันมากกว่ามัลฟอยเป็นร้อยเท่า

    ...เพียงแต่...เขาไม่เคยรู้สึกว่าเขาเปิดใจกับเธอได้เลย

    สำหรับจินนี่เขาคือวีรบุรุษเสมอ และบางทีอาจจะเป็นเพราะเขารักเธอ เขาไม่อยากทำให้เธอผิดหวังหรืออะไรก็แล้วแต่ แฮร์รี่เลือกที่จะดำรงภาพลักษณ์นั้นต่อหน้าจินนี่ เขาไม่เคยหวาดกลัว เขาไม่เคยร้องไห้ เขาไม่เคยทำผิด

     

    “น้องก็ถามว่านายเป็นไงบ้าง” รอนเลือกเวลานั้นเดินกลับมาพอดี

     

    “ฉันสบายดี ฝึกหนักน่ะช่วงนี้” แฮร์รี่ยิ้ม แล้วเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการฝึกล่าสุด ในที่สุดทั้งเรื่องมัลฟอยและเรื่องจินนี่ก็หายไปจากหัวเขาขณะที่เขาหัวเราะกับเพื่อนสนิททั้งสองคน

     

    ###

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×