คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : จดหมายฉบับที่ 2 - Harry
“นายจะไม่บอกเขาจริงเหรอว่านายเป็นคนช่วยเขาน่ะพอตเตอร์” มือปราบมารวิลเลียมสันเดินเข้ามาทักแฮร์รี่ที่กำลังเดินอยู่ในกระทรวงเวทมนตร์ หลังจากมัลฟอยเดินทางไปเยอรมันนีได้ไม่นาน
“คุณก็ไม่ควรรู้ด้วยซ้ำ!!” แฮร์รี่รีบพูด ก่อนจะลากชายสูงวัยมาคุยในมุมอับไร้ผู้คน
“คุณจะไม่บอกเขาใช่ไหมครับ”
“ไม่ล่ะ ถ้าเธอไม่อยากบอกก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนี้ แต่ฉันแค่คิดว่าถ้าเธอบอกความจริงหมอนั้นอาจจะรู้สึกดีที่มีคนอย่างเธออยู่ฝั่งเดียวกับเขา”
“คุณไม่คิดว่าเขาจะโกรธเป็นไฟเป็นฟืนเหรอฮะ นี้เรากำลังพูดถึงเดรโก มัลฟอยนะครับ” แฮร์รี่พูดอย่างหวาดๆ
มือปราบมารอาวุโสหัวเราะลั่น “ก็จริง นี้นายกลัวเขาจริงๆเลยใช่ไหมเนี้ย”
“เปล่านะครับ ก็แค่ผมกลัวว่าถ้าเขารู้แล้วโกรธเขาคงไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมอีกแล้วน่ะสิครับ” แฮร์รี่รีบปฏิเสธ
“เฮ้อ ฉันแนะนำให้นายรีบบอกๆหมอนั้นไปเถอะ เขาอาจจะโมโหในตอนแรกแต่ฉันเชื่อว่าเขาจะเข้าใจ ถ้าให้เขามารู้เองว่านายปิดเขาเอาไว้ฉันว่ามันจะยิ่งกว่าโกรธเป็นไฟเป็นฟืน นี้คำแนะนำจากคนที่ดูแลหมอนั้นมาตลอดสี่เดือนเลยนะ” วิลเลี่ยมสันพูดด้วยน้ำเสียงใจดี เขารู้ว่ามือปราบมารอาวุโสตรงหน้าเป็นคนไม่กี่คนในกระทรวงเวทมนตร์ที่เป็นห่วงเดรโก มัลฟอยจริงๆจังๆ เขาเองก็คิดไม่ต่างจากแฮร์รี่ที่โครงการบ้าๆของกระทรวงเวทมนตร์และศาลสูงมันมากเกินไปสำหรับเด็กๆพวกนั้น แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะทำให้คนที่เขาต้องดูแลไม่รู้สึกแย่มากไปกว่านี้
แฮร์รี่พยักหน้าตอบรับ แต่เขาไม่คิดจะทำอยู่แล้ว เขาเชื่อว่าไม่นานมัลฟอยจะลืมเขาไป ตอนนี้หมอนั้นได้ไปเรียนวิทยาลัยปรุงยาขั้นสูงอย่างที่ฝันถึงที่เยอรมันนี ไม่รู้ว่าจะกลับมาที่นี่อีกรึเปล่าตลอดชีวิต เขาคงเป็นแค่คนที่มัลฟอยสำนึกบุญคุณและอาจจะส่งของขวัญมาให้เป็นครั้งคราวเท่านั้นแหละ
คิดแล้วแฮร์รี่ก็แอบรู้สึกโหวงๆในใจ โดยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
###
แต่มัลฟอยก็พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเขาคิดผิดโดยสิ้นเชิง
เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้นบ้านเขาก็ได้ต้อนรับแขกที่คุ้นเคยอีกครั้ง
นกฮูกสีดำตัวใหญ่ที่พาจดหมายจากป่าดำข้ามน้ำข้ามทะเลมาจนถึงกริมโมลด์เพลซในเช้าวันเสาร์
เขาลงมาทานอาหารเช้าที่ครีเชอร์เตรียมพร้อมกับจดหมายในมือ ปวดไปทั้งตัวจากการฝึกการต่อสู้แบบตัวต่อตัวที่มีมาตลอดสัปดาห์
แต่จิตใจกลับร่าเริงอย่างบอกไม่ถูก มือหนาพลิกไปซองจดหมายดู
คราวนี้ไม่ได้ประทับด้วยตรามัลฟอยเหมือนครั้งแรกแฮะ
แต่กลับเป็นตราประทับของเฮอร์ลิช อคาเดมี่แทน ไม่ใช่โล่กับมังกรคู่แต่กลับเป็นหม้อยาพร้อมอักษร
H ตัวใหญ่ เขาฉีกจดหมายออกมาอ่าน
พร้อมกับยิ้มเป็นระยะๆกับเรื่องราวที่เด็กหนุ่มผมบลอนด์เล่าให้เขาฟัง
“นายมีเพื่อนแล้วสินะ” แฮร์รี่พูดเบาๆ
“คงไม่มีคนบ้าที่ไหนที่คิดจะปฎิเสธการจับมือกับนายตั้งแต่วันแรกใช่ไหมมัลฟอย”
เรื่องที่ร่างบางเล่าทำให้เขาสงสัยว่าเจ้าตัวเป็นอย่างนี้รึเปล่ากับวันแรกที่ฮอกวอตส์
หมอนั้นจะตื่นเต้นไปกับทุกอย่างแล้วรีบเขียนจดหมายไปหาลูเซียส มัลฟอยรึเปล่า เขาจะถามลูเซียส
มัลฟอยรึเปล่าว่าเขาจะทำยังหากเขาหวาดกลัว
พอคิดอย่างนี้แล้วแฮร์รี่ก็หยุดนิ่ง ...นี้เขากลายเป็นพ่อของเดรโก
มัลฟอยไปแล้วเหรอ!!! เขาพอจะรู้ว่าหลังสงครามความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกมัลฟอยไม่ได้ดีนัก
แม้ว่าลูเซียสจะพยายามปกป้องเดรโกแค่ไหน
แต่สิ่งที่เขาบังคับให้เดรโกทำระหว่างสงครามและเรื่องที่เดรโกเจอมันก็มากพอที่จะทำให้มัลฟอยผู้ลูกโกรธทุกอย่างที่พ่อเขาเป็น
แล้วพอเขาเข้ามาแบบนี้ เขาคงเหมือนเติมเต็มส่วนที่ลูเซียสเคยเป็นสำหรับเดรโก
....แต่เขาจะไม่เป็นลูเซียส มัลฟอย
เขาจะไม่ใช้สถานะของเขาบีบบังคับให้เดรโกเดินตามเส้นทางที่แฮร์รี่เชื่อ
เขาอยากจะให้ทางเลือกกับเดรโก และเขาจะทำอย่างนั้นจริงๆ
คราวนี้เด็กหนุ่มผมดำไม่ได้ใช้เวลานานในการตอบจดหมายเช่นครั้งแรก
เขาเล่าให้มัลฟอยฟังถึงวันแรกที่เขาต้องไปเข้ารับการฝึกมือปราบมาร
แน่นอนว่าเขาเว้นไว้ไม่ได้บอกว่า ‘โรงเรียน’ ที่เขาพูดถึงน่ะคือสำนักงานมือปราบมาร
เขาเล่าถึงเรื่องที่เขาไม่เคยเปิดปากเล่าให้แม้แต่รอนหรือเฮอร์ไมโอนี่ฟังว่าเขากลัวแค่ไหนที่จะต้องเข้าไปฝึก
เขากลัวว่าหลังจากจบศึกแล้วทุกอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับตัวเขาจะหายไป
แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย แน่ล่ะมันยาก
ทุกอย่างที่เราต้องทำเป็นครั้งแรกมันยากทั้งนั้น
แต่ถ้าเราได้เรียนในสิ่งที่รักเราก็จะสนุกกับมัน
แฮร์รี่ยิ้มขณะม้วนจดหมายใส่เข้าไปในอุ้งเท้าฟาซซี่
เขาปล่อยให้นกฮูกยักษ์พักเต็มๆตลอดสุดสัปดาห์ เขาคงอยากจะให้มันพักนานกว่านี้
ถ้าไม่เห็นว่ามันออกจะดูกระวนกระวายอยากจะบินกลับไปหาเจ้าของเต็มที
“ดูแลเขาด้วยนะฟาซซี่” แฮร์รี่มองนกฮูกสีดำบินขึ้นจนลับฟ้า
ก่อนจะหายตัวไปที่โรงเรียนฝึกผู้ปราบมารพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนหน้า
###
“แฮร์รี่ เธอเป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่วางส้อมลงพร้อมกับจ้องหน้าเขาเขม็ง
พวกเขามีนัดทานอาหารกันทุกวันพฤหัสที่แฮร์รี่มาฝึกภาคสนามที่กระทรวงเวทมนตร์
เฮอร์ไมโอนี่ทำงานโดยตรงกับท่านรัฐมนตรีเป็นหน่วยที่คอยรักษาระเบียบและฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม
คิงส์ลีย์ขอร้องเธอให้มาช่วยเขาก่อนที่เธอจะได้มีโอกาสตอบตกลงไปทำงานกับกองออกระเบียบและควบคุมสัตว์วิเศษ
“เปล่านี้ มีอะไร”
หญิงสาวหรี่ตา “เธอเล่นเขี่ยสลัดในจานเล่นมาเกือบสิบนาทีแล้ว
แล้วนี้เป็นเที่ยงที่นายเงียบสุดๆ มีอะไรรึเปล่า”
“แค่เรื่องฝึกน่ะ” แฮร์รี่โกหกออกไป
เขาจะบอกได้ยังไงกันหล่ะเพราะเขารอจดหมายจากเดรโก มัลฟอย
ให้ตายสิแค่คิดเขาก็อายแล้ว
ทั้งๆที่เตรียมใจเอาไว้แล้วว่ามัลฟอยจะต้องหายหน้าไปหลังจากหาเพื่อนได้
แต่...แต่เขาก็อดหวังไม่ได้ว่ามัลฟอยจะเขียนจดหมายมาหาเขาอีก
เขารู้สึกเหมือนเขาได้เจอมัลฟอยในอีกด้าน ด้านที่อ่อนโยน ด้านที่ขี้กลัว
และด้านที่ไม่ใช่มัลฟอยคู่อริที่เขารู้จักมาตลอด
และทุกครั้งที่เขาตอบจดหมาย มันเหมือนเขาได้ยกอะไรบางอย่างออกจากอก
เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตา เขารู้ว่าเธอไม่เชื่อเขาหรอก หญิงสาวเป็นเพื่อนเขามานานมากพอที่จะมองผ่านเรื่องโกหกของเขาได้
“นี้วันศุกร์นี้เราไปทานข้าวเย็นกับรอนกันไหม”
แฮร์รี่ถอนหายใจ
เขารู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่วางแผนจะให้รอนเป็นคนล้วงความลับว่าเขากำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรอยู่
“ก็ได้ ฉันอยากดูสิ่งประดิษฐ์ล่าสุดของจอร์จเหมือนกัน
ดูรอนตื่นเต้นน่าดูเลย”
เป็นตายร้ายดีเขาก็จะไม่ปริปากเด็ดขาดว่าเขาคิดถึงจดหมายจากมัลฟอย
.
.
.
“เขาไม่เขียนหาฉันเลย”
แฮร์รี่กระซิบใส่หูเฮอร์ไมโอนี่ขณะที่รอนเดินไปสั่งเบียร์เพิ่ม
พวกเขามาดื่มที่ผับต่อหลังจากอาหารเย็น และจุดๆนี้แฮร์รี่เก็บเรื่องทุกข์ใจเอาไว้คนเดียวไม่ไหวแล้ว
“ใคร จินนี่เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่หันมาถาม
ส่วนชายหนุ่มได้แต่กระพริบตาถี่
สมองประมวลผลสักครู่ก่อนจะเข้าใจว่าเฮอร์ไมโอนี่หมายความว่ายังไง หลังเรียนจบปีหกจินนี่ตัดสินใจเข้าร่วมทีมควิดดิชโฮลี่เฮดฮาร์ปีส์โดยไม่กลับมาเรียนต่อปีเจ็ดที่ฮอกวอตส์
สำหรับเธอแล้วส.พ.บ.ส.ไม่จำเป็นสำหรับเส้นทางอนาคตของเธอ (แม้ลึกๆเขาเชื่อว่าเธอไม่อยากกลับมาเหยียบฮอกวอตส์เพราะความทรงจำที่เลวร้ายในปีที่แล้ว)
การเข้าร่วมทีมควิดดิชมืออาชีพทำให้เธอเธอต้องไปเก็บตัวซ้อมอย่างหนักจนแทบไม่ได้เจอหน้าเขาเลย
สำหรับความสัมพันธ์ของเขากับจินนี่...เขาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้มันเรียกว่าอะไร
พวกเขาจูบกันครั้งสุดท้ายที่ศึกในฮอกวอตส์
และหลังจากนั้นพวกเขาก็ห่างกันไปอีกครั้ง
...นั้นสิมันสมเหตุสมผลดีที่คนที่เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าแฮร์รี่คิดถึงคือจินนี่
“เอ่อ... ใช่น่ะ”
“โธ่ แฮร์รี่ เธอฝึกหนักน่ะ อย่ากังวลไปเลย
จินนี่ไม่มองคนอื่นนอกจากเธอหรอก”
คำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก
นี้เขาเป็นบ้าอะไรไปแล้วที่คิดถึงมัลฟอยมากกว่าอดีต?คนรัก เขาจินนี่มีอดีตร่วมกันมากกว่ามัลฟอยเป็นร้อยเท่า
...เพียงแต่...เขาไม่เคยรู้สึกว่าเขาเปิดใจกับเธอได้เลย
สำหรับจินนี่เขาคือวีรบุรุษเสมอ และบางทีอาจจะเป็นเพราะเขารักเธอ
เขาไม่อยากทำให้เธอผิดหวังหรืออะไรก็แล้วแต่
แฮร์รี่เลือกที่จะดำรงภาพลักษณ์นั้นต่อหน้าจินนี่ เขาไม่เคยหวาดกลัว
เขาไม่เคยร้องไห้ เขาไม่เคยทำผิด
“น้องก็ถามว่านายเป็นไงบ้าง” รอนเลือกเวลานั้นเดินกลับมาพอดี
“ฉันสบายดี ฝึกหนักน่ะช่วงนี้” แฮร์รี่ยิ้ม
แล้วเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการฝึกล่าสุด
ในที่สุดทั้งเรื่องมัลฟอยและเรื่องจินนี่ก็หายไปจากหัวเขาขณะที่เขาหัวเราะกับเพื่อนสนิททั้งสองคน
###
ความคิดเห็น