ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hollow Hearted (Harry Potter/Draco Malfoy)

    ลำดับตอนที่ #3 : Wretched Wedding

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 63


    เดรโกยันตัวขึ้นจากเก้าอี้ที่เขาเผลอหลับตั้งแต่เมื่อคืน พอตเตอร์มาเจอเขาในเวลาที่แย่ที่สุด เขาไม่ได้นอนติดๆกันมาหลายคืน พยายามหาทางออกจากหนี้ท่วมหัวที่พ่อทิ้งเอาไว้ แล้วยังเรื่อง— ชายหนุ่มเม้มปากหยุดความคิดไว้เท่านั้น ลอร์ดโวลเดอร์มอร์เป็นหน้าที่ของพอตเตอร์แล้วตอนนี้ 

     

    เขาลากขาที่ชาไปจนถึงม่านโค้งแล้วเปิดออก แสงแดดของฤดูใบไม้ผลิส่องเข้ามาในห้องมืดจนทำให้เดรโกต้องยกมือบังหน้าหลับตาเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่างนั้น เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง มองตรงไปที่ผู้ชายในเสื้อโค้ทสีแดงที่กำลังเดินออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ แฮร์รี่ พอตเตอร์ หมอนั่นเปลี่ยนไปจากที่เขาจำได้ ตัวสูงขึ้น ไหล่หนาที่ดูมีกล้ามเนื้อ น่าจะสูงเกือบเท่าเขาเลยมั้ง นั่นเป็นหนึ่งเหตุผลที่เดรโกไม่ยืนขึ้นตอนที่คุยกับหมอนั่น ไม่ใช่แค่อยากกวนคนที่ทำท่ายียวนเขากลับ แต่เพราะเขารู้ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถมองพอตเตอร์ผ่านปลายจมูกได้เหมือนอย่างที่เขาทำโรงเรียนอีกแล้ว

     

    เดรโกมองตามจนพอตเตอร์หายลับสายตาไป แต่เขาก็ไม่ได้เดินกลับไปที่เก้าอี้ตัวเดิม หากแต่กำลังมองไปที่เงาของตัวเองที่สะท้อนบนกระจกใส แม้จะเห็นหน้าไม่ชัดแต่เดรโกก็รู้ว่าเขาคงดูไม่จืด เสื้อผ้าไหมหลวมโพรกจนแทบจะหลุดจากบ่า ผมจับกันเป็นก้อนเหนียว ครั้งสุดท้ายที่เขาอาบน้ำเมื่อไหร่กันนะ ความรู้สึกที่จะอยากดูแลตัวเองมันหายไปจากเขามานานเหลือเกิน ตั้งแต่ก่อนที่พ่อและแม่จะจากไปเสียอีก ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเขารับตำแหน่งเอิร์ลพร้อมกับหนี้ก้อนโตที่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางใช้หมด

     

    ชายหนุ่มกำหมัดแน่น เพื่อคนคนนั้น...พ่อไม่สนใจกิจการของครอบครัว ผลาญทองที่มี รวมถึงหยิบยืมจากทุกคนรอบตัวจนภาระตกอยู่ที่เขา ความรู้สึกรักและโกรธพ่อผสมวนกันในหัวเดรโกมาเกือบปีจนเขาไม่รู้อีกแล้วว่าเขารู้สึกอย่างไรกับผู้ให้กำเนิด

     

    แล้วเรื่องของพ่อก็ทำให้เขา...ต้องแต่งงานกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ หมอนั่นไม่แม้แต่จะสะดุ้งถอยด้วยซ้ำตอนเขาตะโกนคำว่า ‘พวกเราต้องเอากัน’ ออกไป เขาไม่รู้ว่าพอตเตอร์ชอบผู้ชาย แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องแปลกในโลกผู้วิเศษ แต่พอตเตอร์โตขึ้นมากับพวกมักเกิ้ล ไม่ใช่มักเกิ้ลตระกูลดีเสียด้วย ลือกันว่ากษัตริย์อัลบัสไปตามหาตัวลูกชายที่หายสาบสูญของอดีตองครักษ์เอกถึงคอกม้าของพวกมักเกิ้ล แล้วเท่าที่เขาจำได้ล่าสุดการรักเพศเดียวกันยังผิดกฎหมายและมีโทษถึงตาย มักเกิ้ลโง่เง่า  

     

    แต่หมอนั่นรู้ดีแค่ไหนเกี่ยวกับพิธีกรรมแต่งงานของพวกเขานะ เดรโกยกมือซ้ายขึ้นมา แน่นอนตอนนี้มันยังไม่มีแหวน แต่พรุ่งนี้มันจะมีแหวนที่เหมือนตราจองบนนิ้วเขา ไม่ใช่แค่แหวนหรอกที่ทำให้เขาหวาดหวั่น พิธีผูกจิตต่างหาก พอตเตอร์จะรู้ไหมว่าพิธีแต่งงานของพวกเขาหมายความว่าเขากับพอตเตอร์จะแทบแลกเปลี่ยนความคิดกันได้ ไม่ค่อยมีใครเขียนเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยก็ผู้วิเศษจากตระกูลดี ๆ ก็รู้ เวทมนตร์ ความคิด ความรู้สึก ทรัพย์สิน ทุกอย่างจะถูกแบ่งปัน เพราะฉะนั้นพวกเขาถึงไม่เคยหย่า เดรโกเคยคิดเสมอว่าเขาจะต้องแต่งงานกับคนที่เหมาะสมและรัก แน่นอนเขาในอดีตเป็นคนช่างฝันเสมอ 

    ความจริงก็คือ เขาแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ชอบขี้หน้าเขา และทุกอย่างคือการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ 

     

    เดรโกเปิดประตูห้องอ่านหนังสือแล้วเดินไปตามทางเดินมืดๆ บ้านเงียบสนิท เขาเคยรู้สึกเหมือนแทบจะบ้าตายในบ้านนี้ แต่ตอนนี้เขาคุ้นชินแล้วกับความเงียบนี้ ไม่นานมันก็คงจะต้องเปลี่ยนไป พอตเตอร์จะมาที่นี่ เหยียบย่ำถือครองเอาทุกอย่างไปโดยไม่ไถ่ถามเขา 

    เขาอยากให้ตัวเองมีความกล้าหาญพอที่จะถมน้ำลายใส่หน้าพอตเตอร์ตอนนั้นแล้วบอกให้ออกไปจากที่นี่ แต่พอตเตอร์รู้จุดอ่อนของเขา หมอนั่นรู้วิธีโจมตีให้เขาต้องยอมแพ้ รู้มาตลอดตั้งแต่สมัยเรียน และพอตเตอร์แย่งชิงทุกอย่างที่ควรจะเป็นของเขา ซีกเกอร์ที่ดีที่สุด คนที่ใช้เวทประลองเก่งที่สุด แม้กระทั่งตำแหน่งทายาทตระกูลแบล็ค ควรจะเป็นเขาแท้ๆ เขาต่างหากที่มีสายเลือดตระกูลนี้ 

     

    “ด๊อบบี้จะรีบเตรียมอาหารให้นายท่าน” เอลฟ์ประจำบ้านรีบพูดเสียงสั่น ทันทีที่เห็นเขาเดินเข้าไปในห้องโถง แต่เดรโกแค่โบกมือ 

     

    “ไม่ต้อง ไปเตรียมน้ำอุ่น ฉันไม่หิว” 

     

    “แต่คุณนายมัลฟอยสั่งด๊อบบี้—” 

     

    ไปเตรียมน้ำ” เดรโกตวาด เอลฟ์ประจำบ้านรีบย่อตัวอย่างกลัวก่อนจะหายไปต่อหน้าเขา เขาไม่ได้ตั้งใจจะตวาด แต่ด๊อบบี้ไม่ควรพูดถึงแม่ ไม่มีใครควรพูดถึงแม่ทั้งนั้น ชายหนุ่มแบมือ เล็บจิกเข้าไปในเนื้อเขาจนเป็นรอยแดง ดีแล้ว เจ็บ ดีกว่าร้องไห้ เดรโกบอกตัวเอง ไม่มีเวลามาสงสารตัวเอง ไม่มีเวลาคร่ำครวญ ที่เขาต้องทำคือปัดสนิมการสกัดใจ เขาทำได้ดีมาตลอด แต่เขาต้องทำให้ดีมากขึ้นถ้าเขาไม่อยากจะให้สามีของตัวเองรู้ว่าเขาคิดอะไร 

     

     

    อย่างน้อยการแช่น้ำอุ่นก็ทำให้เดรโกรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ชายหนุ่มมองกระจกอีกครั้ง เงาสะท้อนแยกเขี้ยวใส่เขา แถมยังชี้ไปที่ที่ผมยาวไร้ระเบียบของตัวเอง เดรโกส่ายหน้าหยิบริบบิ้นที่วางเรี่ยราดหน้ากระจกแล้วรวบผม เขาน่าจะหาเวลาไปตัดผม แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่มีอารมณ์ออกไปไหน ทุกครั้งที่ไปติดต่อธุระ ทุกคนจะเรียกเขาว่าท่านเอิร์ล แล้วมันก็ทำให้เดรโกอยากจะขย้อนของเก่าทุกครั้ง เขาไม่อยากนึกว่าเขาได้ตำแหน่งนี้ว่าได้ยังไง

     

    เคยคิดตลอดว่าวันที่เขาสืบทอดตำแหน่งนี้จากพ่อต้องเป็นวันที่เขามีเติบโตพอที่จะปกครองคนใต้สังกัดได้อย่างพ่อ เดรโกตอนเด็กๆวาดฝันเอาไว้ว่าเขาต้องเป็นเอิร์ลที่เข้มแข็งและสง่างาม คนที่แม้แต่กษัตริย์ก็ยังต้องยำเกรง แต่ดูเขาวันนี้สิ ชายหนุ่มมองภาพในกระจก ใบหน้าตอบจ้องเขากลับ ดวงตาสีเทาไร้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น เขาเหมือนเด็กขอทานข้างถนนในลอนดอนที่อยู่ดีๆก็ถูกบังคับให้แต่งองค์ทรงเครื่องไม่มีผิด ใครกันเล่าจะกลัวเขา ตัวเขาวันนี้ที่แม้แต่ตัวเองในอดีตคงมองด้วยความสมเพช 

     

    “อย่างน้อยหมอนั่นก็ไม่เรียกเราว่าเอิร์ล” เดรโกพูดกับตัวเอง ข้อดีอย่างเดียวของพอตเตอร์ละมั้ง ผู้ชายคนนั้นเกลียดตัวเขาจนไม่สนว่าบุรุษไร้ศักดิ์ควรจะต้องค้อมตัวเมื่อพูดกับคนที่เกิดในตระกูลเช่นเขา

     

    ข้อดีอย่างเดียวจริงๆ เพราะเดรโกคิดไม่ออกเลยว่าเขาจะใช้ชีวิตกับสามีอย่างพอตเตอร์ได้ยังไง ไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตแค่ผ่านคืนพรุ่งนี้เขาก็ไม่รู้จะทำได้ไหม หมอนั่นคิดอะไรอยู่นะ มีบางอย่างมากกว่าที่พอตเตอร์บอกเขา แต่เขาก็ไม่อยากถาม การแต่งงานนี้ดูท่าจะช่วยเขามากกว่าพอตเตอร์ อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ต้องปวดหัวกับเจ้าหนี้อย่างเกรย์แบ็คที่เข้ามาขู่เขาแทบทุกวันว่าจะหักคอเขาทิ้งหากเขาไม่หาเงินมาจ่ายหนี้

     

    และใช่ เขาควรจะสนใจเรื่องพิธีพรุ่งนี้ การปลดหนี้ เรื่องที่เขาต้องทำมีเยอะเกินกว่าที่จะมาสงสัยว่าพอตเตอร์ยังสติดีอยู่ไหม หรือสงสารตัวเองว่าทำไมต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้   

     

    ..................................

     

    เดรโกทำบัญชีหนี้สินที่เขาต้องชำระและชี้แจงเจ้าหนี้ทุกรายว่าเขาจะจ่ายทั้งต้นทั้งดอกให้ครบในสัปดาห์นี้ เมื่อจดหมายทุกฉบับถูกส่งไปความรู้สึกหนักอึ้งที่เขาแบกมาหลายเดือนนับจากที่เขาได้รับจดหมายทวงหนี้ฉบับแรกก็เบาลง เขามั่นใจว่าคนอย่างพอตเตอร์จะไม่มีวันผิดคำพูด แล้วจดหมายที่หมอนั่นแสดงให้เขาดูก็รับรองโดยสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงที่สุดในลอนดอน

     

    ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนขยับตัวไล่ความเมื่อยล้า พร้อมกับท้องเขาที่ร้องประท้วง วันนี้เขาไม่ได้ทานอะไรทั้งวันแล้วดูจากแดด นี่ก็คงบ่ายแก่ๆเกือบจะเย็นแล้ว 

     

    “ด๊อบบี้” เดรโกส่งเสียงเรียกเอลฟ์ของตระกูล เสียงป๊อบเบาๆข้างตัวบอกให้เขารู้ว่าเอลฟ์ที่ว่าปรากฎตัวมาแล้ว

     

    “เตรียมอาหารให้ที ไม่ต้องเยอะนะฉันไม่หิว” เขาต้องรีบกำชับ ไม่อย่างนั้นพวกกองทัพเอลฟ์ในห้องครัวคงจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบเหมือนมีคนทานสักสิบคน

     

    “ขอรับนายท่าน” ด๊อบบี้รับคำแล้วหายไปอีกครั้ง ส่วนเดรโกก็เปิดประตูเดินออกไปยังห้องทานข้าว แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจ เขายังไม่มีแหวนสำหรับพิธีพรุ่งนี้เลย อยากจะจัดการให้จบเรื่องก่อนทานอาหาร คิดแล้วเดรโกก็มุ่งไปที่บันไดวนกลางบ้านเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง แล้วเลี้ยวไปทางตึกปีกซ้าย ปีกที่พ่อแม่เขาเคยอยู่ และตอนนี้ถูกปิดร้าง เดรโกสูดหายใจลึกแล้วเอ่ยคาถาเบาๆ เปิดผนึกประตูแล้วผลักประตูห้องนอนของพ่อกับแม่ กลิ่นไม้สนซีดาร์ปนกับกลิ่นดอกไฮยาซินธ์ทำให้เดรโกนึกถึงแม่จับใจ เขาหลับตาปล่อยให้ตัวเองคุ้นชินกับกลิ่นนั้นอีกครั้ง ขณะกดความทรงจำขณะที่เขาซุกหน้าลงในอ้อมกอดแม่แล้วถูกโอบล้อมด้วยกลิ่นดอกไฮยาซินธ์

     

    เดรโกชมตัวเองที่ขาไม่สั่นตอนที่เดินไปที่หีบเล็กๆเก็บเครื่องประดับ ที่เขาต้องการคือแค่แหวนเรียบๆสองวง เขารู้ว่าแม่บอกว่าเคยทำให้เขา และคนรักในอนาคตของเขา เดรโกเปิดหีบออก ไม่มีเครื่องเพชรแวววาวอย่างเคย สมบัติส่วนใหญ่ถูกขายออกไปหมดแล้ว แต่ในนั้นมีถุงผ้าแพรเล็กและเมื่อเขาเทออก เขาก็พบแหวนสองวง ไม่มีเพชรหรือพลอยประดับเป็นแหวนเรียบๆ เดรโกรู้สึกถึงพลังงานเวทมนตร์หมุนเวียนในแหวนสองวงนี้ แหวนแต่งงาน แน่นอนว่าต้องทำโดยช่างเฉพาะของตระกูล สัญลักษณ์ตราประจำตระกูลสลักอยู่ด้านในแหวน ในฐานะเขาเป็นลูกผู้ชายคนเดียวของตระกูล ดังนั้นใครก็ตามที่แต่งกับเขาก็ต้องแต่งเข้าตระกูลมัลฟอย พ่อและแม่จัดการให้แน่ใจว่าจะมีคนสืบทอดตระกูลนี้ต่อ และมันเคยเป็นความต้องการของด้วยเช่นกัน....แต่....อะไรๆก็เปลี่ยนไปแล้ว 

     

    “อาหารพร้อมแล้วขอรับ” เสียงเล็กของด๊อบบี้ดึงให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มกระแอมใส่แหวนลงไปในกระเป๋าเกางเกง แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องทานอาหาร...อีกห้องในบ้านที่เขาแทบจะอยากรื้อทิ้งให้ความทรงจำในนั้นหายไป

     

    แต่ถ้าเขาคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่เขาได้นอนเร็วเขาก็คิดผิด เพราะระหว่างที่เดรโกรวบรวมสมาธิฝึกการสกัดใจ เสียงฟู่เบาๆจากเตาผิงก็ดังขึ้น มีใครติดต่อผ่านเครือข่ายฟลู ชายหนุ่มขมวดคิ้ว คฤหาสน์มัลฟอยมีชื่อที่เป็นรหัสลับไม่สามารถเชื่อมต่อง่ายๆ ใครก็ตามที่เข้ามาต้องเป็นหนึ่งในคนรู้จักของตระกูล เขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น ใบหน้าที่อยู่ในเตาผิงทำให้เขาเกือบจะหยุดหายใจ...ป้าเบลล่า..แต่เมื่อเดรโกรุดไปทรุดข้างเตาผิงมอง เขาก็เห็นความต่าง ผมและตาสีอ่อนกว่า รวมถึงตาโตหวานกว่า ที่สำคัญคือไร้ซึ่งความอำมหิตอย่างป้าเบลล่าของเขา

    แอนโดรเมด้า ท็องส์ เสียงในหัวเขาตอบให้ 

     

    “สวัสดีครับ” เดรโกกลืนน้ำลายแล้วพูดช้าๆ 

     

    “สวัสดีจ้ะเดรโก” หญิงสาวเองก็ดูเกร็งๆไม่ต่างจากเขา “ฉัน...เอ่อ...ป้ารู้เรื่องจากแฮร์รี่แล้ว” เธอเหมือนไม่แน่ใจว่าควรแทนตัวว่าอะไรดี แล้วเขาก็ยินดีที่สุดท้ายเธอเลือกใช้คำว่าป้า แทนคำพูดอื่นที่คงดูห่างเหิน เมอร์ลินเป็นพยาน เขาต้องการทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นป้าที่เขาแทบไม่รู้จักก็เถอะ 

     

    “ครับ พรุ่งนี้...คุณท็องส์—” 

     

    “ป้าเมด้าเถอะ ไม่มีใครเรียกฉันว่าคุณท็องส์หรอกพ่อหนุ่ม” เธอส่งยิ้มให้เขา แล้วนั่นยิ่งทำให้เธอต่างจากป้าเบลล่าลิบลับ 

     

    “คุณป้าเมด้าตั้งใจจะเริ่ม...เอ่อ...พิธีกี่โมงครับ” เดรโกเข้าเรื่องทันที นี่คงเป็นเหตุผลที่เธอติดต่อเขา 

     

    “เดรโก หลานกับแฮร์รี่...” เธอกัดริมฝีปากเหมือนไม่แน่ใจ “ป้าเสียใจที่มันต้องเป็นอย่างนี้” ดูเหมือนว่าพอตเตอร์คงจะเล่าเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงเหตุผลที่ต้องแต่งงานให้เธอฟัง แล้วก็แน่นอนสำหรับป้าแอนโดรเมด้าที่เลือกแต่งงานกับคนที่รัก โดยไม่สนใจครอบครัวนั้น การแต่งงานของเขากับพอตเตอร์มันคงทำให้เธอหัวใจสลายไม่น้อย 

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขาหมายความเช่นนั้นจริงๆ เดรโกเกลียดสถานการณ์นี้ไม่น้อยกว่าใคร แต่เขาไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก แล้วทางนี้มันคงดีที่สุด อย่างน้อยพอตเตอร์ก็ไม่ได้เป็นคนน่ารังเกียจอะไรมากนัก

     

    “หลานมีแหวน” 

     

    “ครับผมจัดการแล้ว”

     

    “แล้วแท่นพิธี” 

     

    “ในสวนครับ ที่นั่นมีพลังเวทมนตร์มากมาย” 

     

    “ไม่ใช่ในห้องโถงบรรพบุรุษหรือ” ป้าแอนโดรมาเด้ขมวดคิ้ว มัลฟอยทุกคนแต่งงานในห้องโถงบรรพบุรุษ คู่แต่งงานจะอยู่ในสายตาของบรรดารูปเขียนของเหล่าอดีตผู้นำตระกูล พวกเขาจะให้พรและดูแลรักษาคู่แต่งงาน แต่เขากับพอตเตอร์ไม่ใช่อย่างนั้น หนึ่งมันไม่ใช่การแต่งงานที่เขาอยากให้ใครยินดีด้วย และสองเขาค่อนข้างมั่นใจว่าบรรพบุรุษเขาจะต้องก่นด่าเจ้าบ่าวของเขามากกว่าจะอวยพร ตระกูลพอตเตอร์ไม่ได้ต่ำต้อย แต่ก็ไร้ศักดิ์ เป็นตระกูลพ่อค้า ทหาร ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีที่ดิน แล้วตัวเจ้าบ่าวของเขาอีกที่เป็นผู้วิเศษเลือดผสม แล้วสำหรับมัลฟอย ความบริสุทธิ์อยู่เหนือทุกอย่าง

     

    “ป้าคงไม่คิดว่าคุณตาทวดบรูทัสหรือคุณตาอแบร็กซัสจะยินดีหากผมแต่งงานกับแฮร์รี่ พอตเตอร์จริงๆใช่ไหมครับ” 

     

    “โอ” เธอพยักหน้า ถึงเธอไม่ใช่มัลฟอยแต่เธอก็พอจะรู้จักชื่อเสียงของเหล่าบรรพบุรุษของเขาบ้าง 

    “ที่จริงแฮร์รี่ก็เป็นเด็กดีนะ ป้าแน่ใจว่าเขาจะต้องเป็นพ่อ—” 

     

    “คุณป้าครับผมแน่ใจว่าพอตเตอร์อธิบายให้คุณป้าฟังแล้วว่าข้อตกลงระหว่างเราคืออะไร ผมเป็นหนี้จนต้องใช้เงินของเขา และเขาก็ต้องใช้เส้นสายตระกูลมัลฟอยหาข่าว มันไม่มีอะไรมากกว่าข้อตกลงทางธุรกิจ” 

     

    “แต่ถ้าหลาน—” เธอหยุดแล้วถอนหายใจเมื่อเห็นสีหน้าเขา “ถ้าหลานจะยืนยันอย่างนั้น” 

    “ตระกูลมัลฟอยมีคำกล่าวสาบานประจำตระกูลรึเปล่าจ้ะ”

     

    เดรโกส่ายหน้า อาจจะมี แต่เขาไม่รู้ พ่อและแม่ไม่ได้อยู่นานพอที่จะบอกเขาว่าธรรมเนียมการแต่งงานของมัลฟอยมีอะไรบ้าง พวกเขาคิดเสมอว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่จนส่งเดรโกเข้าห้องหอ 

    “แค่พิธีปกติก็พอครับ ไม่น่าจะต่างจากทางฝั่งแบล็คมาก” 

     

    “เข้าใจแล้วจ้ะ ถ้าอย่างนั้นห้าโมงเย็น” 

     

    “ครับ” เดรโกรับคำ อยากให้ช้ากว่านั้น แต่นั่นก็เกือบจะเวลาพระอาทิตย์ตกดินแล้ว 

     

    เธอเงียบแล้วเม้มปากอีกครั้ง “แฮร์รี่เป็นคนดีนะ ป้าคิดว่า—” 

     

    “เราจะหย่ากันหลังเรื่องนี้จบ” เดรโกสวนเธอออกไป หญิงสาวทำหน้าเหมือนถูกหักนิ้วเมื่อได้ยินคำว่าหย่า ถึงเธอจะไม่ใช่แบล็คแล้ว แต่การอบรมเลี้ยงดูของเธอก็เป็นแบล็คอย่างเต็มเปี่ยม รวมถึงความเชื่อว่าการแต่งงานนั้นนิรันดร์ด้วย ไม่มีใครหย่าทั้งนั้นในสังคมของเขา มีแต่คู่แต่งงานที่ไม่ได้รักกันและต่างฝ่ายต่างนอกใจ แต่มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่ทุกคนยอมรับได้ 

     

    “จ้ะเดรโก” เธอพูดเสียงเบา “หลานพักเถอะ พรุ่งนี้ป้าคงเข้าไปตอนบ่าย อยากไปเยี่ยมหลุมศพซิสซี่ด้วย” ใบหน้าเธอเศร้าอีกครั้งก่อนที่ไฟจะมอดลง ทิ้งให้เขาอยู่ลำพังในห้องนั่งเล่น 

    ใช่ พรุ่งนี้เขาก็อยากไปเยี่ยมแม่ด้วยเหมือนกัน

                ----------------------------------------

     

    วันแต่งงานของเขาไม่ใช่อย่างที่เดรโกเคยฝัน ที่จริงเขาควรจะรู้ว่าตั้งแต่โตขึ้นมาก็ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เขาฝันสักอย่าง เขาแต่งตัวด้วยชุดพิธีการที่สั่งให้เอลฟ์ประจำบ้านเตรียม เสื้อผ้าไหมคอระบายประดับลูกไม้ฝรั่งเศส และกางเกงสีเทาอ่อน เสื้อนอกเข้ากันโดยไม่ลืมกลัดเข็มกลัดตราสัญลักษณ์มัลฟอย และอีกสิ่งคือเสื้อคลุมยาวที่ปักลายมังกรอย่างวิจิตรกลางหลัง ชายหนุ่มหยิบเสื้อคลุมยาวสีอ่อน ก่อนจะตัดสินใจวางลงบนเตียง เขายังไม่อยากใส่ตอนนี้ แกล้งทำเป็นเหมือนวันนี้ไม่ใช่วันแต่งงานของเขาไปอีกสักนิดได้ไหม 

     

    เสียงเตือนจากเวทคุ้มกันบอกให้เดรโกรู้ว่ามีใครมาที่คฤหาสน์ ชายหนุ่มคว้าไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาแล้วโบกมือ หนึ่งในกระจกเปลี่ยนเป็นสีขุ่นก่อนจะฉายภาพผู้มาเยือน เดรโกถอนหายใจเมื่อเห็นหน้าคนๆนั้นชัดๆ 

    ป้าแอนโดรเมด้า เธอเองก็อยู่ในชุดพิธีการของตระกูลแบล็ค ผ้าไหมแขนพองตัดเย็บอย่างดี ปักดิ้นลายทอง กระโปรงบานเป็นสุ่ม และที่ขาดไม่ได้คือเข็มกลัดรูปนกกาทำจากนิลสีดำสนิท สัญลักษณ์ของตระกูลแบล็ค เขาโบกมือเป็นสัญลักษณ์อีกครั้งเปิดประตูให้ผู้มาเยือนมาเขา แอนโดรเมด้าเดินตรงโดยไม่ต้องมีใครนำ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ 

     

    เขารีบเร่งฝีเท้าลงบันได ทันพอดีกับที่ป้าแอนโดรเมด้าเปิดประตูเข้ามา หญิงสูงสัยยืนขยับไปมา มองเดรโกไม่แน่ใจว่าเธอควรจะทำอย่างไร เขาตัดสินใจให้เธอ เดรโกก้มศีรษะแล้วรับมือเธอขึ้นมาจูบทักทาย ไม่ได้เหินห่าง แต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดเกินไป

     

    “ขอบคุณครับที่ป้ามาทำพิธีให้”

     

    เธอยิ้มออกมาน้อยๆ เวลาเธอยิ้มเธอช่างคล้ายแม่เขามากกว่าป้าเบลล่า “หลานของป้าทั้งคน แล้วยังแฮร์รี่อีก” 

    “หลานดูดีมากเลยจ้ะ”

     

    เดรโกยิ้มรับ รู้ว่าเธอโกหก เพราะเขาดูไม่ได้เลยต่างหาก ชุดหรูหราไม่ได้ช่วยซ่อนร่องรอยการอดนอน หรือขาดอาหารเป็นเดือนๆที่เขาทรมานตัวเอง แต่อย่างน้อยวันนี้เขาก็สะอาด และนอนเต็มอิ่ม 

    “มาดื่มน้ำชาที่เรือนกระจกดีไหมครับ” เขาชวนป้าไปที่ห้องที่เขาชอบที่สุดในบ้าน ห้องที่แขกผู้มาเยือนคนนั้นแทบไม่เคยย่างกราย เพราะมันสว่าง แล้วก็เต็มไปด้วยพืชพรรณ และชีวิต 

     

    แอนโดรเมด้าพยักหน้า ก่อนที่เดรโกจะยกแขนให้เธอเกาะตามแบบสุภาพบุรุษที่ดี ป้าของเขาหัวเราะเบาๆก่อนจะแตะแขนเขา “แต่งงานแล้วทำอย่างนี้กับสาว ๆ ไม่ได้หรอกนะจ้ะ” 

     

    เดรโกยิ้มรับ คร้านจะเตือนเธออีกครั้งว่านี่คืองานแต่งงานหลอกๆ บางทีเธอคงคิดว่าเขากับพอตเตอร์จะรักกันจริง แต่คงต้องรอให้เมอร์ลินเกิดใหม่อีกร้อยหนนั่นแหละมันถึงจะเป็นจริง 

     

    เขาใช้เวลาช่วงบ่ายฟังเรื่องเล่าของป้าแอนโดรเมด้า เขามีหลาน และลูกพี่ลูกน้องที่ป้าบ่นซะยกใหญ่ว่าแอบหนีไปแต่งงานที่สกอตแลนด์ไม่ยอมจัดพิธีตามแบบโบราณ ป้าเสียดายที่ไม่มีภาพวาดของเท็ดดี้มาอวดเขา และคั้นเอาคำตอบตกลงจากเขาว่าจะไปเยี่ยมเธอกับหลาน

     

    “หลานอยู่คนเดียวที่นี่ตั้งแต่—” เธอไม่ต้องพูดต่อให้จบเขาก็รู้ ว่าเธอต้องการจะถามอะไร

     

    เดรโกพยักหน้าตอบรับ ยิ้มขื่น “จะให้ไปอยู่ที่ไหนล่ะครับ ผมยังต้องจัดการธุรกิจของตระกูล เจรจากับเจ้าหนี้ ไม่มีเวลาไปท่องเที่ยวอย่างคนอื่นเขาหรอกครับ” 

     

    “ที่จริงวันนั้นป้าอยากเจอหลานนะ ป้ามาหลานรู้ใช่ไหม” 

     

    เป็นอีกครั้งที่เดรโกพยักหน้า แต่คราวนี้เขาไม่พูดอะไรต่อ ใช่เขารู้ว่าในวันฝังศพป้ามาด้วย เขาจำได้ว่าเขาเห็นช่อดอกนาร์ซิสซัสแซมไฮยาซินธ์วางที่หน้าหินฝังศพของแม่ ไม่มีทางที่จะเป็นป้าเบลล่า คนๆนั้น คงไม่เสียใจด้วยซ้ำที่แม่ของเขาตาย 

     

    “ป้าเสียใจด้วยนะ” เธอรับมือเขามาจับไว้ แล้วเดรโกต้องพยายามอย่างที่สุดไม่ให้น้ำตาไหล ไม่มีใครพูดคำนี้กับเขาเลยสักครั้งเดียว ทุกคนรอบตัวเขารู้ว่าทำไมเธอถึงจากไป ไม่มีความสงสาร ไม่มีคำว่าเสียใจ 

     

    “ขอบคุณครับ” เสียงเขาสั่น

     

    พวกเขานั่งกันเงียบๆสักพักก่อนที่แอนโดรเมด้าจะฉุดเดรโกขึ้น “ไปบอกแม่หลานกันเถอะว่าหลานกำลังจะแต่งงาน” 

     

    “ผมไม่แน่ใจว่าแม่จะอยากฟังเรื่องการแต่งงานครั้งนี้”

     

    แอนโดรเมด้ายิ้มเศร้า “ซิสซี่อยากให้หลานมีความสุขนะ น้องรักหลานที่สุดในโลกนะ” 

     

    เดรโกไม่มีคำตอบให้เธอ เขารู้อยู่แล้วว่าแม่รักเขา และรักมากขนาดไหน 

     

     

    พอตเตอร์มาตรงเวลาไม่ผิดเพี้ยน ห้าโมงตรง หมอนั่นเองก็อยู่ในชุดของแบล็ค ทันทีที่เห็นป้าแอนโดรเมด้าหนุ่มผมดำก็กอดทักทายเธอแน่น

     

    “ขอบคุณมากครับที่ตกลงช่วยผม”

     

    “โธ่ แฮร์รี่” เธอยิ้มให้เขา ลูบแก้มหนุ่มตัวโตตรงหน้าเหมือนเขาเป็นเด็กสิบขวบ 

    “ชุดของซิริอัสหรือ”

     

    “แค่เสื้อคลุมน่ะครับ” พอตเตอร์ตอบ ใบหน้านั้นยังคงยิ้มละไม เขาไม่ค่อยเห็นพอตเตอร์ยิ้ม ไม่หรอกต้องบอกว่าเขาน่ะเคยเห็นพอตเตอร์ยิ้ม บ่อยซะด้วย แต่ไม่เคยเห็นหมอนั่นยิ้มในระยะใกล้ๆแบบนี้ พอตเตอร์เป็นคนที่ยิ้มแล้วหางตาย่นเป็นขีด ใบหน้าใต้แว่นทรงกลมหนีจมูกนั่นก็เปล่งประกายความสุข ทุกครั้งที่เขามองพอตเตอร์เขาก็รู้เสมอว่าหมอนั่นคิดอะไร พอตเตอร์ไม่เคยเก็บความรู้สึกใดๆ และคราวนี้ก็ด้วย รอยยิ้มค่อยๆหายไปทันทีที่หันมามองเขา เดรโกบอกตัวเองว่าเขาไม่ควรรู้สึกอยากจะเชิดหน้าใส่พอตเตอร์ที่ทำเหมือนเขาเป็นขยะเน่าๆชิ้นหนึ่งที่ทำลายบรรยากาศ

     

    “นายจัดเต็มเลยนะ” พอตเตอร์พูดพร้อมกับลากสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า 

     

    “พอตเตอร์ถ้านายคิดว่านี่จัดเต็มแล้ว ฉันว่านายต้องไปเรียนรู้เรื่องการแต่งตัวของสุภาพชนใหม่แล้วล่ะ” เดรโกมองชายหนุ่มตรงหน้ากลับ ลากสายตาตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับเบ้ปากน้อยๆ 

     

    “พอได้แล้วหนุ่มๆ” ป้าแอนโดรเมด้ารีบห้ามทัพก่อนที่เขากับพอตเตอร์จะได้เปิดฉากฉะกันมากกว่านี้ “นี่งานแต่งงานของพวกเธอทั้งสองคนนะ”

     

    เขาอยากจะสวนอะไรออกไป แต่เพราะป้าทำดีกับเขามาทั้งวัน เดรโกเลยเก็บคำพูดที่อยากจะบอกป้าว่า นี่เหมือนส่งเขาเข้าตารางมากกว่างานแต่งงานอะไรแบบนี้เอาไว้คนเดียว 

     

    “เริ่มพิธีกันเถอะ”

     

    แน่นอนว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าที่เขาคาดหวัง พวกเขาแลกเปลี่ยนคำสาบานกันว่าจะรักและดูแลกันจนกว่าอีกฝั่งจะตาย หรือในกรณีเขา จนกว่าโวลเดอร์มอร์จะตาย พอตเตอร์ทำหน้าเหมือนเห็นผีเมื่อเห็นแหวนแต่งงานชัดๆ หมอนั่นมองค้อนขวับเขา แล้วบ่นพึมพำอะไรสักอย่างว่าพวกมัลฟอยชอบตีตรา 

     

    “นายต้องใส่สัญลักษณ์ของตระกูลเมื่อนายเข้ามาในตระกูลแล้ว” เดรโกทำปากมุบมิบอธิบาย แล้วแหวนนั่นก็มีตรามัลฟอยเล็กๆเท่านั้น ให้ตายสิแม่เขาเป็นคนออกแบบนะ ถ้าเป็นพ่อ คงเป็นแหวนมรกตสีเขียวเข้ม สลักตรามัลฟอยขนาดที่มองเห็นได้จากห้าหลา

     

    พอตเตอร์ยังมองเขาตาเขียวตอนที่เขาใส่แหวนให้เจ้าตัว ก่อนจะจับมือเขาไว้แน่นสำหรับส่วนพิธีกรรมผูกจิตที่จะเกิดขึ้นต่อไป 

     

    “อ้ะ จูบกันก่อนสิจ้ะ”

     

    “ป้าครับ” เดรโกร้องห้าม นี่ออกจะเกินไปหน่อยนะ 

     

    “ไม่ต้องหรอกครับคุณแอนโดรเมด้า”

     

    “มันเป็นส่วนหนึ่งของพิธีนะจ้ะ” เธอยืนยัน เดรโกได้แต่มองบน เขารู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของพิธี แต่...เขาเหลือบตาไปมองพอตเตอร์ ให้ตายสิ ถ้าแค่จูบกันพวกเขายังทำไม่ได้ แล้วเขาจะจบพิธีผูกจิตบนเตียงได้ยังไงกัน คิดแล้วเดรโกก็เลื่อนมือแตะที่แก้มของพอตเตอร์ ตาสีเขียวเบิกกว้างก่อนจะถอนหายใจแล้วรับจูบของเดรโก มันน้อยกว่าจูบทักทายด้วยซ้ำ เขาแค่แตะปากพอตเตอร์เบาๆ เอาล่ะแค่นั้นก็จบเรื่องแล้ว แต่ก่อนที่เขาจะถอนใบหน้าออก มือของพอตเตอร์ก็เลื่อนมาแตะที่หลังคอเขา กระหวัดเหนี่ยวเกี่ยวไม่ให้เขาขยับออก ก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะกดลงบนริมฝีปากเขา นิ้วในมืออีกข้างของพอตเตอร์ที่ยังกุมมือเขาไว้อยู่เลื่อนไล้เป็นวงกลมบนฝ่ามือเขา แตะที่ข้อมือ ให้ตายสิหมอนั่นต้องรู้ว่าตอนนี้ชีพจรเขาเต้นแรงแค่ไหน เขาควรจะผลักพอตเตอร์ออก แต่บางส่วนในตัวเขา บางส่วนที่เขาพยายามฝังมันเอาไว้ตลอดสิบกว่า กลับตื่นขึ้นแล้วก็ควบคุมเขาเอาไว้ และเป็นพอตเตอร์ที่ผละออกตอนที่เขาเปิดปากและเริ่มไล้ลิ้นไปบนริมฝีปากอิ่ม 

     

    เดรโกรู้สึกอายแทบแทรกแผ่นดิ ขณะที่พอตเตอร์กะพริบตาถี่ๆมองเขา เขาต้องบังคับให้ตัวเองเชิดคางแล้วมองป้าแอนโดรเมด้า “ทำพิธีต่อเถอะครับ” 

     

    เขายังรู้สึกถึงสายตาของพอตเตอร์ที่จับจ้องเขาตลอดเวลาที่พิธีกรรมผูกจิตเกิดขึ้น เวทมนตร์จากไม้กายสิทธิ์ของป้าแอนโดรเมด้า รวมกับเวทมนตร์เก่าแก่บนที่ดินของตระกูลมัลฟอยทำให้เขายิ่งรู้สึกหัวหมุน เมื่อจบพิธีมันเหมือนทั้งร่างของเขาโดนอะไรเข้าครอบงำที่ทำให้เขารับรู้ทุกอย่างของพอตเตอร์ ทุกการกระทำ ทุกอย่างที่เล็กๆน้อยๆ เหมือนถูกขยายใหญ่ขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเท่า เขารู้สึกถึงความอุ่นจากมือของพอตเตอร์ และรู้สึกเหมือนไฟฟ้าช๊อตขณะที่อีกคนยื่นมือมาประคองหลังเขาเอาไว้ 

     

    “มัลฟอยเป็นอะไร” เสียงพอตเตอร์...ไม่ใช่สิตอนนี้หมอนี่เป็นมัลฟอยแล้ว 

     

    “ไม่เป็นไร ปล่อยได้แล้วพอตเตอร์” เขาตัดบท และถึงเขาจะรู้ว่าคนตรงหน้าแต่งงานกับเขาแล้ว แต่ให้เขาหยุดเรียกพอตเตอร์ว่าพอตเตอร์ในทันที มันออกจะแปลกไปหน่อย

     

    “นายหน้าซีด แล้วมือก็เย็นขนาดนี้” แต่อยู่แล้วมีหรือที่พอตเตอร์จะยอมฟังคำสั่งเขา มือทั้งคู่ยังไม่ยอมปล่อยจากตัวเขา

     

    “แค่ อากาศมันเย็นน่ะ” เขาหาเหตุผล พร้อมกับพยายามตั้งสติคุมให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิม

     

    “งั้นพวกเธอก็ควรจะเข้าไปในบ้าน ที่จริงพิธีกรรมจบแล้ว ที่เหลือก็แค่…” แอนโดรเมด้าลากเสียงทิ้งท้ายให้รู้ เธอเองก็มองเดรโกอย่างเป็นห่วง 

     

    “เดี๋ยวมันจะดีขึ้นเดรโก ถ้าหลานทำพิธีจบ ตอนนี้เวทมนตร์มันกำลังทำงานเร่งให้หลานจบพิธีนี้” เธอพูดกับเขา เดี๋ยวนะทำไมเขาคนเดียวล่ะ เวทมนตร์ไม่ยุติธรรมทำไมพอตเตอร์ถึงไม่มีท่าทางอะไรเลย หมอนี่ยังดูเป็นปกติทุกอย่าง แล้วถ้าเขาไม่จบพิธีกรรม เขาก็ต้องเป็นอย่างนี้ตลอดไป รู้สึกถึงการอยู่ของพอตเตอร์ รู้ว่าอีกคนมืออุ่นขนาดไหน เสียงหัวใจเต้น กลิ่นตัว แม้กระทั่งสายตา เมอร์ลินทรงโปรด เขาไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆใช่ไหม 

    “แล้วป้าก็ควรจะลาได้แล้ว ป่านนี้โดร่าคงบ่นน่าดูว่าป้าจะสายสำหรับอาหารเย็น” หญิงสูงวัยยิ้มให้เขาอีกครั้ง “แล้วอย่าลืมคำสัญญานะ หลานต้องไปเยี่ยมเท็ดดี้” เธอพูดจบก็หายไป ทิ้งให้เขากับพอตเตอร์อยู่ในสวนกันสองคน กระอักกระอ่วนสุดๆ 

     

    “เดินไหวไหม” พอตเตอร์หันมาถามเขา 

     

    “ไหว ฉันไม่ล้มตรงนี้หรอกน่าพอตเตอร์”

     

    “แฮร์รี่” พอตเตอร์แย้ง “ฉันว่านายควรเรียกฉันว่าแฮร์รี่นะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เรากำลังจะทำ มันออกจะหยาบคายไปหน่อยไหมถ้าจะเรียกเพื่อนร่วมเตียงด้วยนามสกุล ฮึเดรโก” ชื่อเขาออกจากปากอีกคนอย่างง่ายดาย เขาอยากจะเถียง แต่ก็ดูจะไร้ผล เขารู้จักหมอนั่นดีพอที่จะรู้ว่าเขาไม่มีทางเปลี่ยนใจแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้ 

     

    “แฮร์รี่” เขาลองเรียกชื่อนั้นเป็นครั้งแรก แล้วก็เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่อีกคนส่งยิ้มให้เขา มันอาจจะเป็นยิ้มที่เล็กที่สุดในโลก น้อยกว่าที่แฮร์รี่ยิ้มให้ป้าของเขาเป็นล้านเท่าแต่ก็พอที่จะทำให้ใจเดรโกเต้นแรง 

     

    “นายว่าง่ายก็เป็นด้วย”

     

    “ไม่อยากเปลืองพลังงานเถียงกับโทรลที่ยังไงก็ไม่เข้าใจเหตุผลหรอก” เขาอดไม่ได้

     

    “ยังมือเย็นอยู่เลย” แฮร์รี่พูดหลังจากพวกเขาเดินมาถึงบ้าน ข้างในอบอุ่นไม่มีลมเหมือนสวนข้างนอก  

     

    “ช่างมันเถอะ” เขาพยายามสะบัดมือออก รำคาญที่ร่างกายเขาควบคุมไม่ได้ แต่อีกคนกลับไม่ปล่อยง่ายๆ 

     

    “เพราะพิธีกรรมเหรอ” ตาสีเขียวใต้แว่นมองเขานิ่ง เดรโกต้องบังคับใจไม่ให้มองต่ำกว่านั้น แต่ก็อดไม่ได้ ริมฝีปากอิ่มที่เขาเคยสัมผัสแล้ว เขารู้ว่ามันนิ่มและร้อน “งั้นเรามาทำพิธีให้จบกันเถอะ” แฮร์รี่พูดออกมา ตายังคงมองเขาเหมือนรอให้เขาตกลง หัวใจเดรโกเต้นเร็วขึ้น หวังว่ามันจะไม่ดังพอขนาดที่แฮร์รี่จะได้ยิน

     

    เขากลืนน้ำลาย แล้วเดินนำไปที่บันได “อือ งั้นตามมาสิ” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×