คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จดหมายฉบับที่ 1 - Harry
แฮร์รี่อ่านจดหมายในมือซ้ำอีกครั้ง เรียนคณะกรรมการคัดสรรวิทยาลัยโควิงตัน...
มันขึ้นต้นเหมือนทุกครั้งที่เขาอ่าน จดหมายที่ดูธรรมดาแสนธรรมดาแต่ทำให้แฮร์รี่ไม่สามารถคิดอะไรอย่างอื่นนอกจากเจ้าของจดหมายนี้ได้ตลอดตั้งแต่ตอนที่เขาหยิบจดหมายขึ้นมาจากบนโต๊ะของวิลเลี่ยมสัน
เขาคิดถึงใบหน้าซีดเซียวของมัลฟอย
สีหน้าเจ็บปวดเมื่อต้องพูดถึงการปฎิเสธจากวิทยาลัยโควิงตัน วิทยาลัยเพื่อการปรุงยาขั้นสูง
ตาสีเทาที่เอาแต่มองต่ำไม่ยอมมองหน้าเขาเลยสักนิดเดียว
ต่างจากมัลฟอยจอมเย่อหยิ่งจองหองที่เขาจำได้อย่างลิบลับ
และนั้น...ทำให้แฮร์รี่รู้สึกปั่นป่วนอะไรสักอย่างในท้อง
...ความรู้สึกผิด
...ความรู้สึกสงสาร
...หรืออะไรกันแน่
แต่เขารู้ว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ให้ตายเถอะเขาไม่รู้เลยว่าไอ้โครงการควบคุมความประพฤติสำหรับเยาวชนผู้สนับสนุนโวลเดอร์มอร์มันจะแย่ขนาดนี้
มัลฟอยแทบไม่ได้ทำอะไรช่วงสงครามเลยสักนิด หมอนั้นแค่...อยู่ผิดที่ผิดเวลา
...แล้วก็เป็นเด็กโง่ๆคนหนึ่ง
เขาไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
เพราะฉะนั้นแฮร์รี่เลยเริ่มด้วยไปหาคนที่เขาแน่ใจว่าต้องช่วยเขาได้ เฮอร์ไมโอนี่
เกรนเจอร์
####
“ใช่นี้เป็นโครงการที่โคตรจำกัดสิทธิของผู้เข้าร่วม
ฉันทั้งส่งจดหมายเตือน ทั้งพยายามคุยกับพวกศาลสูงแล้วแต่ไม่มีใครฟัง ทุกคนอยากจะดันทุรังผ่านกฎหมายบ้าๆนี้ให้ได้
บอกว่าแค่นี้ก็เหลือแหล่แล้วสำหรับพวกผู้เสพความตาย” เฮอร์ไมโอนี่โวยวายลั่นออฟฟิศ
โชคดีที่เขาร่ายคาถาเก็บเสียงก่อนจะเดินเข้ามา
ไม่อย่างนั้นทั้งแผนกคงแห่กันมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“ขนาดกฎหมายมักเกิ้ลถ้าผู้กระทำผิดเป็นผู้เยาว์โทษยังเบากว่านี้ตั้งเยอะ
แถมต้องมีการปกป้องชื่อเสียงของผู้กระทำผิดอีก แต่นี้เล่นประกาศชื่อพวกเขาหรา
ไอ้โครงการบ้าๆนี้ตัดโอกาสที่คนเหล่านี้จะได้กลับมาสู่สังคมอีกครั้ง
ยิ่งผลักให้พวกเขาเกลียดพวกเรามากขึ้น ให้ตายเถอะนี้ไม่มีใครเรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดในอดีตเลยรึไงหา!!!”
เธอยังพูดเสียงดังไม่หยุด ส่วนแฮร์รี่ได้แต่พยักหน้ารัวๆ
“เอ่อ แล้วตกลงว่าเธอมีข้อแนะนำอะไรไหมถ้าฉันอยากจะช่วยมัลฟอย”
หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เขาอยากเข้าเรียนวิทยาลัยปรุงยาขั้นสูงใช่ไหมตามที่นายบอกน่ะ
นายคงบีบให้โควิงตันรับเขาไม่ได้หรอก
คณะกรรมการคัดสรรไม่ยอมรับแม้แต่แรงกดดันจากคนอย่างนายแน่”
“คะแนนเขาดีขนาดไหน”
แฮร์รี่ยื่นคะแนนสอบส.พ.บ.ส.ของเดรโก มัลฟอยให้เพื่อนสนิทดู
เขาแอบใช้อำนาจไปจิ๊กข้อมูลนี้มา
ก็เขาอยากรู้นี้ว่ามัลฟอยดีพอที่จะเป็นมาสเตอร์แห่งการปรุงยารึเปล่า
และดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นเพราะแม้ว่ามัลฟอยจะไม่ค่อยได้เรียนตอนปีหก กับปีเจ็ด
(เหมือนๆกับเด็กฮอกวอตส์คนอื่นๆ) แต่เขาก็ทำคะแนนได้สูงลิบ
ทั้งข้อเขียนทั้งปฏิบัติ
เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างเมื่อเห็นคะแนนของอีกคน
“ฉันคิดมาตลอดว่าสเนปให้ท้ายหมอนั้น
แต่ดูเหมือนมัลฟอยจะมีพรสรรค์มากกว่าที่คิดแฮะ”
“มันมีอีกที่นึงนะแฮร์รี่ วิทยาลัยปรุงยาขั้นสูงน่ะ
แต่...มันอยู่นอกเกาะอังกฤษ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวประโยคสุดท้ายอย่างเศร้าๆ เธอรู้ว่าข้อจำกัดของโครงการควบคุมความประพฤติคือผู้เข้าร่วมไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
“ที่ไหน”
“เฮอร์ลิช อคาเดมี่ อยู่ในเยอรมันนี คะแนนอย่างเขาเข้าได้สบายอยู่แล้ว
แต่...”
“ฉันคิดว่านะ บางทีฉันคงต้องใช้ความเป็นเด็กชายผู้รอดชีวิตแล้วก็วีรบุรุษสงครามเพื่อประโยชน์ส่วนตัวสักครั้ง”
แฮร์รี่พูดแทรกขึ้น เขามีแผนในใจแล้ว
“นายจะใช้ชื่อเสียงนายเพื่อเดรโก มัลฟอยเนี้ยนะ”
“หมอนั้นก็เป็นคนเหมือนกันนั้นแหละ” แล้วเขาก็น่าสงสารมาด้วย
แฮร์รี่พูดต่อในใจ เขารู้ว่านี้มันเหมือนบ้าไปแล้ว
เขาต้องต่อรองกับท่านรัฐมนตรีแล้วยังเจ้าหน้าที่ของโครงการควบคุมใช้ความเป็นแฮร์รี่
พอตเตอร์ เพื่อคนที่ไม่นับว่าเขาเป็นเพื่อนด้วยซ้ำ
...แต่เขาก็ปล่อยมัลฟอยไปไม่ได้เช่นกัน
###
“นี้ฉันได้ยินถูกต้องใช่ไหมพอตเตอร์ เธออยากจะเป็นคนรับรองให้กับเดรโก
มัลฟอย” คิงส์ลีย์
ชัคเคิลโบลต์เลิกคิ้วถามหลังจากได้ยินแฮร์รี่อธิบายเรื่องทั้งหมด
“ใช่ครับ” ชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้น
“พูดแบบเพื่อนถึงเพื่อนนะแฮร์รี่ เธอจะเอาคอเธอขึ้นเขียงเปล่าน่ะสิ
เด็กมัลฟอยนั้นไม่ใช่แค่ทำผิดเล็กๆนะ หมอนั้นเป็นผู้เสพความตาย”
“แล้วเธออ่านคดีเขารึยัง”
“อ่านแล้วครับ
เรื่องใหญ่ๆคือเขาเป็นคนปล่อยให้พวกผู้เสพความตายเข้ามาในฮอกวอตส์ มีเจตนาสังหารอัลบัส
ดัมเบิลดอร์ และทรมานนักโทษของโวลเดอร์มอร์ แต่ผมถามคุณหน่อยเถอะ
คุณคิดว่าเดรโกเขามีสิทธิ์เลือกมากรึไง ไอ้โรคจิตหน้างูนั้นจับพ่อกับแม่เขาเป็นตัวประกันนะ
เขาเป็นแค่เด็กอายุสิบหก คุณคิดว่าเขาจะกล้าปฏิเสธมันเหรอ”
“การเลือกทำสิ่งที่ถูกไม่เกี่ยวกับอายุหรอกแฮร์รี่”
เสียงท่านรัฐมนตรีอ่อนลงเมื่อเห็นว่าเขาคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“ผมเชื่อว่าเดรโกจะกลับตัวได้ แล้วสิ่งที่ผมขอไม่ใช่ให้เขาพ้นผิด
แน่นอนเขาต้องชดใช้สิ่งที่เขาก่อ แต่ที่ผมขอร้องคือแค่ลดการควบคุมเขาหน่อย
เขายังต้องอยู่ในโครงการบ้าๆนั้นสองปีเต็มเหมือนเดิม
แต่ระหว่างนั้นให้เขาได้มีโอกาสที่จะสร้างอนาคตของตัวเอง”
ชายผิวเข้มนั่งนิ่ง ตาสีน้ำตาลมองมาที่แฮร์รี่อย่างฉงน
เหมือนกับเขาเป็นปริศนาอะไรสักอย่างที่คิงส์ลีย์แกะไม่ออก
แฮร์รี่รู้ว่าการกระทำของเขามันคงทำให้ใครต่อใครสับสน
ให้ตายสิเขาเองยังสับสนเลยว่าทำไมเขาต้องแคร์เดรโก มัลฟอยมากขนาดนี้
“งั้นตอบฉันหน่อยแฮร์รี่
มีผู้เยาว์อยู่ใต้โครงการควบคุมความประพฤตินี้ทั้งสิ้น 79 คน
และฉันเชื่อว่าเธอรู้จักหลายๆคน ทั้งแพนซี่ พาร์กินสัน ทีโอดอร์ น๊อตต์
และเกรกอรี่ กอยล์ ทั้งสามคนต่างเป็นนักเรียนบ้านสลิธีรินร่วมรุ่นกับเดรโก มัลฟอย
ที่จริงทั้งสามคนทำผิดน้อยกว่าเดรโกตั้งเยอะ พวกเขาไม่เคยรับตรามาร
แต่ทำไมแฮร์รี่... ทำไมเธอถึงเลือกที่จะช่วยเดรโก มัลฟอย”
ผู้ถูกถามเม้มปาก ความจริงก็คือเขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
“เพราะ...เพราะเดรโก มัลฟอยสมควรได้รับโอกาสอีกครั้ง”
เด็กหนุ่มผมดำสูดหายใจลึกก่อนจะพูดต่อ
“เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำน่ะผิด ตลอดเวลาทุกครั้งที่ผมเห็นเดรโก
มัลฟอยช่วงสงคราม ไม่เคยมีสักครั้งที่หมอนั้นจะทำหน้ามีความสุขเลย
เขาไม่เคยอยากจะเป็นฆาตกร เขาไม่เคยอยากทรมานใคร
และเขาอยากจะก้าวผ่านเรื่องร้ายๆไปให้ได้
คุณรู้ไหมเขาสมัครเรียนที่วิทยาลัยปรุงยาขั้นสูงโควิงตัน
คะแนนสอบส.พ.บ.ส.วิชาปรุงยาของเขาสูงลิ่ว แต่เขาก็เข้าไม่ได้เพราะสถานะของเขา
คิงส์ลีย์คุณบอกว่าโครงการนี้มีเพื่อให้พวกเขาได้ใช้โอกาสกลับตัวไม่ใช่รึไง
แล้วถ้าคุณไม่เปิดโอกาสพวกเขาจะกลับตัวได้ยังไง”
มุมปากของท่านรัฐมนตรียกขึ้นน้อยๆ
ก่อนจะยกปากกาขนนกขึ้นมาจรดบนแผ่นกระดาษข้างหน้า
“ฉันจะรอวันที่เธออยากเล่นการเมืองนะแฮร์รี่
เธอตัวรู้ไหมว่าเธอโน้มน้าวคนได้ดีแค่ไหน” พูดจบก็เซ็นชื่อลงบนประกาศเปลี่ยนแปลงการลงโทษของเดรโก
มัลฟอย ก่อนจะม้วนกระดาษนั้นแล้วยื่นให้แฮร์รี่
“ฉันเชื่อการตัดสินใจของเธอนะแฮร์รี่ อย่าทำให้ฉันเสียใจ”
“อ้อ แล้วบอกคุณเกรนเจอร์ด้วยล่ะ ว่าถ้าอยากยื่นกฎหมายแก้ไข
ศาลสูงจะรับคำพิจารณาหลังปีใหม่ แต่งานนี้ไม่หมูเลยนะ
ไม่มีใครอยากลดโทษให้พวกพ่อมดแม่มดฝ่ายมืดสักเท่าไหร่
แม้ว่าพวกนั้นจะเป็นเด็กก็ตาม”
คิงส์ลีย์พูดต่อเหมือนรู้ว่าแผนต่อไปของแฮร์รี่คืออะไร
“เอ้า ออกไปได้แล้วเธอต้องมีฝึกกับพวกมือปราบมารต่อไม่ใช่รึไง
แล้วช่วยตามมือปราบมารวิลเลียมสันเข้ามาให้ด้วย เขาเป็นคนดูแลรับผิดชอบคุณมัลฟอย
และเพราะเธองานของเขากำลังจะเบาขึ้นอีกเยอะ”
แฮร์รี่พยักหน้าแล้วเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนหน้า
###
หลังจากนั้นเขาก็แค่ต้องเขียนจดหมายหาศาสตราจารย์มักกอนนากัลที่แม้จะลังเลแต่ก็ยอมช่วยเหลือมัลฟอย
โดยเฉพาะเมื่อแฮร์รี่ย้ำว่านี้เป็นการช่วยนักเรียนให้ได้ศึกษาเพิ่มเติม
นอกจากนั้นอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ยังช่วยติดต่อกับเฮอร์ลิช อคาเดมี่อีกด้วย
ไม่กี่วันหลังจากนั้นศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็ส่งข่าวดีมาหาเขา
ว่าเฮอร์ลิชตกลงตอบรับเดรโก มัลฟอยเข้าเรียนแล้ว ซึ่งเธอไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อยเมื่อดูจากคะแนนสอบของมัลฟอย
และหนังสือรับรองที่ศาสตราจารย์สเนปเขียนให้มัลฟอยก่อนตาย
“เธอคิดจะทำยังไงต่อ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางจิบชาไปด้วย
หญิงสาวนั่งไขว่ห้างในชุดเสื้อคลุมใหม่เอี่ยมขัดกับเขาที่ดูโทรมในชุดมือปราบมารฝึกหัดอย่างกับเศรษฐีกับยาจก
“ก็คงบอกเขาไปตามตรง”
หญิงสาวเลิกคิ้วน้อยๆ ก่อนจะสั่นหน้า
“นี้นายคิดว่าคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างมัลฟอยจะยอมรับความช่วยเหลือที่มาจากนายเหรอ
นายที่เป็นคู่อริเขามาตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา
ถึงฉันไม่ได้ปริญญาเอกด้านจิตวิทยาฉันยังรู้เลยว่าหมอนั้นต้องปฏิเสธแหงๆ”
แฮร์รี่เสยผมอย่างขัดใจ ให้ตายสิมัลฟอย
ทำไมนายมันถึงเป็นคนที่ยากขนาดนี้ด้วยวะ
“แต่ฉันอาจจะมีข้อแนะนำบางอย่างให้นายได้นะ”
“ซึ่งก็คือ” แฮร์รี่เร่งเร้า
“เธอจำได้ไหมตอนที่ซิเรียสส่งไม้กวาดไฟร์โบลต์มาให้เธอ”
ชายหนุ่มหรี่ตา เขายังคงเจ็บแปลบๆเสมอเมื่อต้องคิดถึงพ่อทูนหัว
“อะฮะ
แล้วเธอก็คาบข่าวไปบอกศาสตราจารย์มักกอนนากัลให้ยึดไม้กวาดฉันไปใช่ไหม
จำได้ไม่ลืมเลยล่ะ” แฮร์รี่อดกัดเพื่อนสนิทไม่ได้
เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตามองเขาแต่ก็พูดต่อ “ประเด็นก็คือ
ถ้าเขาลงชื่อตรงๆนายคงไม่รับของขวัญนั้นแม้จริงๆนายอยากจะได้แค่ไหนก็ตาม
แต่ว่าเพราะเขาส่งมาแบบนิรนามนายก็เลยเหมาเอาเองว่าต้องมาจากคนที่รักนายแน่ๆ
มนุษย์น่ะมักจะหาข้ออ้างให้ตัวเองได้เสมอเวลาที่ตัวเองต้องการ
คำแนะนำของฉันก็คือนายก็แค่บอกเดรโก มัลฟอยไปตรงๆแต่ไม่ต้องบอกว่าคนทำทุกอย่างคือนาย
หมอนั้นก็จะคิดไปเองว่านายคงเป็นคนที่อยากช่วย นายไม่ต้องโกหก
แล้วหมอนั้นก็จะรู้สึกดีที่มีคนให้โอกาสด้วย”
และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้แฮร์รี่ลุกขึ้นมาจับปากกาเขียนจดหมายไปหามัลฟอย
ในนามผู้หวังดี เขารู้ว่าคำเรียกตัวเขามันเห่ยสิ้นดี แต่เฮ้ เขาเป็นกริฟฟินดอร์
พวกเราไม่ได้มีชื่อเสียงด้านการเลือกคำสักหน่อย
หวังว่ามัลฟอยจะจำลายมือเขาไม่ได้นะ
แฮร์รี่มองม้วนกระดาษในมือขณะเดินออกไปเรียกนกฮูกเข้ามาหา
นกฮูกสีดำปลอดที่เขาเพิ่งไปซื้อมาจากร้านขายสัตว์วิเศษ นี้ก็เป็นอีกหนึ่งของขวัญที่เขาจะให้เด็กชายผมบลอนด์
...หมอนั้นไม่มีเพื่อนเลยสักคนเดียว
...และสำหรับเขานกฮูกคือหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุด
“หวังว่านายจะใช้ทางเลือกเดินไปในทางที่ถูกต้องนะ” แฮร์รี่พูดเบาๆ
ขณะผูกพัสดุทั้งหมดเข้ากับข้อเท้าของฟาซซี่-ชื่อของนกฮูกสีดำตัวนั้น
เมื่อมันบินขึ้นฟ้า ร่างโปร่งก็ถอนหายใจออกมา
ลึกๆเขาอยากเห็นหน้าของมัลฟอยตอนที่ได้รับจดหมายนั้น
เขาอยากเห็นตาสีเทาเป็นประกายอย่างยินดี อยากจะเห็นใบหน้าหวานนั้นคลี่ยิ้ม
อย่างน้อยๆมันจะได้ลบเลือนภาพใบหน้าเศร้าๆของมัลฟอยที่เขาเห็นมาตลอดสองสามปีหลังนี้ซะที
###
และเพราะแฮร์รี่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้จดหมายตอบรับกลับมา
เขาจึงประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นฟาซซี่บินมาหย่อนจดหมายให้บนโต๊ะทานข้าว
“นี้ไม่ได้อยู่กับมัลฟอยเหรอ” แฮร์รี่หันไปถามนกฮูกที่กระพริบตามองเขา
“นายเป็นของเขาแล้วนะ จะมากินขนมที่บ้านฉันไม่ได้อีก”
พูดอย่างนั้นแต่แฮร์รี่ก็ยังล้วงขนมส่งให้ฟาซซี่
ก่อนจะเปิดจดหมายผนึกด้วยตราตระกูลมัลฟอยออกมาอ่าน
“หมอนั้นเรียกฉันว่าศาสตราจารย์นะ”
แฮร์รี่หันไปมองหน้านกฮูกที่เอียงคอมองเขา ก่อนจะร้องเบาๆ เหมือนตอบรับ
“นี้เจ้านั้นคิดว่าฉันแก่ขนาดไหนเนี้ย”
เมื่ออ่านจดหมายจบแฮร์รี่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ
ให้ตายสิเขาคงต้องใช้เวลาทั้งวันคิดว่าจะตอบกลับจดหมายของมัลฟอยได้ยังไง
และคงไม่แคล้วโดนครูฝึกเรียกหาว่าเขาใจลอยอีกเช่นเคย เฮ้อ ทำไมฉันต้องหนักใจเรื่องของนายตลอดเลยน้า
มุมนึงเขาก็ดีใจที่มัลฟอยรู้ว่าสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ผิด
...แต่อีกมุมนึง เขาไม่อยากให้ความรู้สึกผิดนั้นกัดกินใจมัลฟอยตลอดไป
“ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ถ้าเป็นคุณ คุณจะพูดยังไง” แฮร์รี่ถามสายลม
วินาทีนั้นเขาอยากให้ดัมเบิลดอร์ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ
คืนนั้นหลังจากกลับมาที่กริมโมลด์เพลซ แฮร์รี่ก็ขังตัวอยู่ในห้องสมุด
พยายามจะหาคำพูดที่ดีที่สุดตอบไป แต่ผ่านไปเป็นชั่วโมงๆ
พร้อมกับเศษกระดาษถูกขยำทิ้งรอบตัวเขา เขาก็ยังไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาพูดได้อยู่ดี
“คิดสิคิดแฮร์รี่ คิดถึงตอนที่นายรู้สึกผิดที่สุด นายอยากได้ยินอะไร”
แฮร์รี่พึมพำกับตัวเอง พยายามหาความรู้สึกนั้น เมื่อไหร่กันที่เขารู้สึกผิด
เมื่อไหร่กันที่เขาเลือกเดินไปในทางที่เขารู้ว่าจะทำให้อื่นเจ็บปวด
และสุดท้ายผลของทางเลือกนั้นก็หันกลับมาทำให้เขาเจ็บเจียนตาย
“ซิเรียส” เสียงแหบพร่าลอดออกมาจากริมฝีปากเขาในที่สุด
ใช่ตอนที่เขารู้ว่าซิเรียสตาย และทุกอย่างเป็นเพราะเขา เพราะความเขลา เพราะความโอหัง
เพราะเขาเชื่อในสิ่งที่ตนยึดมั่น แฮร์รี่หลับตา เขาอยากจะได้ยินอะไรในตอนนั้น
อะไรที่จะทำให้ความผิดในใจเขามันเบาบางได้บ้าง
ร่างโปร่งถอนหายใจช้าๆ ก่อนจะจรดปากกาลงกับหน้ากระดาษอีกครั้ง
และเมื่อเสร็จแฮร์รี่ก็ชักไม่แน่ใจว่านี้คือจดหมายตอบกลับเดรโก มัลฟอย
หรือจดหมายที่เขาอยากจะเขียนบอกตัวเองตอนหน้าร้อนนั้นกันแน่
เขาอ่านจดหมายนั้นซ้ำอีกครั้งก่อนจะเติมประโยคสุดท้ายเข้าไป
ป.ล. ถ้าเธออยากจะเขียนจดหมายมาหาฉันอีกก็ได้ นกฮูกนั้นเป็นของเธอแล้ว
(และมันชื่อฟาซซี่) แค่เธอจ่าหน้าถึง ‘คุณผู้หวังดี’
มันก็รู้ว่าจะพาจดหมายมาส่งที่ไหน
###
ความคิดเห็น