คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Secret Sage
เขาแทบจะหมดแรงเดินเมื่อหายตัวกลับมาถึงคฤหาสน์มัลฟอย วันนี้เป็นวันหนัก ๆ ของเขาจริง ๆ หนีตายจากคุณโอลิแวนเดอร์ แล้วเมื่อกี้ยังต้องเสกคาถาผู้พิทักษ์ติด ๆ กันเพื่อกันผู้คุมวิญญาณ คาถาผู้พิทักษ์นั้นเป็นคาถาชั้นสูงและทำให้เขาเปลืองพลังงานมากกว่าปกติ ต้องทั้งรวบรวมสติคิดถึงเรื่องดี ๆ แล้วคุมให้ผู้พิทักษ์ไม่หายไปไหนตลอดเวลา แต่เขาก็ผ่านมาได้ แต่...
แฮร์รี่มองใบหน้าของร่างสูงข้างตัว ทั้ง ๆ ที่เขาตั้งใจจะไม่ได้เดรโกต้องเจ็บตัว แต่ดูเหมือนยังไงก็ไม่สำเร็จ การอยู่ใกล้ผู้คุมวิญญาณคงดึงความคิดลบ ๆ ออกมาจากอีกคน เขาเห็นตั้งแต่ตอนที่อยู่บนเรือข้ามฝาก อยากจะหันหัวกลับไป แต่รู้ว่ายังไงหากผู้คุมวิญญาณหลุดออกมาแล้ว อยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย
แล้วยังท่าทางของอีกคนตอนที่เห็นภาพของลอร์ดโวลเดอร์มอร์อีกเล่า เดรโกกลัวจนตัวสั่นเหมือนลูกนก แล้วท้ายที่สุดก็ทรุดลงนั่งอาเจียนทุกอย่างออกมา และเจ้าตัวยังหวาดกลัวยามที่เขายกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาอีก เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ เดรโกเห็นอะไรกัน
“เตรียมช็อคโกแลตให้เดรโก” แฮร์รี่หันไปสั่งเอลฟ์ประจำบ้านทันทีที่พวกเขาสองคนเดินเข้าไปในคฤหาสน์ คนข้างตัวเงียบสนิทเสียจนเขาเริ่มเป็นห่วง ไม่แม้กระทั่งทำท่ากระฟัดกระเฟียดอย่างเคยเวลาเขาประคบประหงมอยู่ใกล้ อยากจะดึงเข้ามากอด แต่...
...แต่เขาไม่มีสิทธิ์นั้น...
เขาทำตามใจตัวเองมาตั้งแต่แรกจนทำให้เดรโกต้องมาเจอลูกหลงแบบนี้ ตั้งใจว่ายังไงก็ต้องปล่อยอีกคนไปหลังจบเรื่อง แล้วถ้ายิ่งเขาทำตามใจตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ สุดท้ายเขาคงดึงดันที่จะยึดทายาทมัลฟอยเอาไว้ข้างตัว แม้ว่าอีกคนจะไม่เต็มใจ
“ทานช๊อคโกแลตร้อนแล้วน่าจะดีขึ้นนะ” เขาหันไปบอกคนที่เขายังแตะหลังเอาไว้เบา ๆ
ร่างสูงพยักหน้าตอบรับ ดวงตามองต่ำ เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ก่อนจะพูดเบา ๆ
“คืนนี้อยู่กับฉันได้ไหม”
เขาชะงักนิ่ง ไม่เข้าใจว่าเดรโกหมายความว่ายังไง ดวงตาสีเทาคู่สวยค่อย ๆ ช้อนมองเขา หัวใจแฮร์รี่เต้นเร็วรัว ก๊อดดริกเป็นพยาน เขาเพิ่งบอกตัวเองไปว่าจะปล่อยเดรโก แต่แล้วตอนนี้กลับอยากทิ้งความคิดนั้นแล้วอุ้มอีกคนขึ้นห้อง กอดและจูบให้หายคิดถึง เขาคิดถึงจูบกลิ่นอำพันที่ทำให้เขารู้สึกเมามายมาตลอด คิดถึงลมหายใจร้อน ๆ ของอีกคนที่กระทบแก้มเขา เสียงเรียกชื่อเขาอย่างต้องการ แฮร์รี่จิกเล็บเข้ากับนิ้วมือ ดึงสติตัวเองกลับมา
“เป็นอะไรรึเปล่า” เขาแตะที่หลังมืออีกคน มือที่ยังสั่นและกำไม้กายสิทธิ์แน่น
ดวงตาสีเทาหลุบต่ำอีกครั้ง เดรโกพูดเบา ๆ เหมือนเด็กที่บังคับให้ยอมรับผิด
“มะ...ไม่อยากอยู่คนเดียวคืนนี้”
หน้าอกแฮร์รี่ปวดหนึบ ใช่ เรื่องที่เกิดขึ้นในอัซคาบันสินะ ภาพของโวลเดอร์มอร์คงทำให้เดรโกกลัว ทำไมเขาถึงกลับไปคิดถึงแต่เรื่องความรู้สึกตัวเองได้นะ แฮร์รี่ดุตัวเอง เดรโกไม่ได้เชื้อเชิญเขาขึ้นเตียง แต่กำลังขอความช่วยเหลืออยู่ต่างหาก
“ได้สิ” เขาตอบรับ ฝืนส่งรอยยิ้มออกมา คนที่ได้ยินคำตอบนั้นถอนหายใจออกอย่างโล่งใจ
ให้ตายสิคืนนี้เขาคงต้องขอพลังทุกอย่างไม่ให้เขาทำอะไรเกินเลย
แฮร์รี่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยตอนที่เปิดประตูห้องเดรโกในชุดนอน และปั่นป่วนมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเมื่อเห็นว่าอีกคนอยู่ในชุดนอนเช่นกัน เสื้อนอนผ้าไหมยาว ปิดตั้งแต่คอถึงตาตุ่ม แต่ทำไมถึงทำให้แฮร์รี่ปั่นป่วนนักหนานะ เนื้อหนังอะไรก็ไม่ได้โผล่พ้นเสื้อสักนิด แต่ทำไมเขาถึงเอาแต่คิดว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้เสื้อนอนนั่น เดรโกใส่ชุดชั้นในหรือเปล่านะ
แล้วก็เป็นครั้งที่สองที่เขานอนบนเตียงนุ่ม ๆ นี่ แฮร์รี่นอนตัวแข็ง ไม่กล้าขยับ กลัวว่าถ้าขยับแขนสักนิดร่างกายเขาจะขยับตามใจชอบแล้วดึงเจ้าของห้องเข้ามากอดแน่น ๆ แต่ดูเหมือนผู้ร่วมเตียงเขาจะมีความคิดอื่น เดรโกครางเบา ๆ ก่อนจะพลิกตัว มือแตะที่แขนแฮร์รี่เหมือนจะให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องก่อนจะเงียบไปอีกครั้ง มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอบอกให้แฮร์รี่รู้ว่าเดรโกหลับไปแล้ว เขากลืนน้ำลายขยับตัวนอนตะแคงมองใบหน้าสงบของคนข้างตัว ผิวเดรโกละเอียดอย่างเจ้านายทั่วไปที่ไม่ได้โดนแดด แต่ซีดเกินไป ใบหน้านั้นไร้สีสันอย่างที่ควร ผมสีอ่อนยามนอนถูกปล่อยออก ระข้างแก้มจนทำให้แฮร์รี่คันมืออยากจะเอื้อมไปปัดออก จำสัมผัสนุ่มลื่นเหมือนไหมในครั้งก่อนที่เขาแตะมันได้ คางยาวได้รูป ริมฝีปากอิ่มที่เขาเคยรู้รสแล้ว และเป็นจุดที่แฮร์รี่หยุดสายตาไว้นานที่สุด
...เมอร์ลิน...ถ้าเขาย้อนอดีตไปบอกตัวเองตอนอายุสิบหกว่าสักวันหนึ่งนายจะได้นอนมองดูใบหน้าของคุณชายตระกูลมัลฟอยยามหลับสนิท ตัวเขาตอนนั้นคงไม่มีวันเชื่อ
ใช่สิ เพราะเดรโกตอนนั้นช่างร้ายกาจกับเขาไม่สิ้นสุด ด่าว่าหยาบคาย ทำให้เขาเองก็พลุ่งพล่านโมโหสวนกลับ จนไม่คิดว่าชาตินี้จะมีวันญาติดีกันได้ ถ้ารู้ว่าทำดีด้วยสักนิดเดรโกก็จะใจดีกับเขาคืนอย่างตอนนี้ ตอนนั้นบางทีเขา...บางทีเขาอาจจะทำอะไรออกไป แต่เพราะคิดว่าไม่มีวันเป็นไปได้ เดรโกไม่มีวันเปลี่ยน เดรโกไม่มีวันมองเขา ลืมไปเลยว่ามนุษย์นั้นไม่ใช่สิ่งแน่นอน ใจคนเปลี่ยนได้
แฮร์รี่ใช้ข้อนิ้วแตะที่แก้มของอีกคนเบาๆ เดรโกครางฮือ เหมือนกำลังจะตื่นทำให้แฮร์รี่ต้องรีบถอนมือ แต่กลับกลายเป็นว่าร่างสูงพลิกตัวขยับเข้ามาใกล้เขามากกว่าเดิม นิ้วเกาะข้อมือเขาไว้แน่น ลมหายใจอุ่นรดจุดชีพจรของเขา ที่ตอนนี้คงเต้นเร็วผิดจังหวะ
นี้หน่ะ ถ้าไม่ขยับตัวไปฉันจะนอนได้ยังไงล่ะหือ แฮร์รี่พูดในใจ ไม่กล้าส่งเสียงกลัวว่าอีกคนจะตื่น รู้สึกผิดที่เขาเป็นต้นเหตุให้เดรโกต้องนอนดึกดื่นหาข้อมูลเพื่อช่วยเขา แต่ให้นอนโดยที่รู้สึกถึงลมหายใจของอีกคนแบบนี้เขาไม่มีวันนอนหลับ แล้วถึงจะไม่ได้กลิ่นอำพันชัดเท่ากับครั้งแรกหลังทำพิธี แต่กลิ่นบาง ๆ นั่นก็ยังแตะจมูกเขาทุกครั้งที่เขาซุกหน้าเข้ากับหมอน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงยามเจ้าของกลิ่นพาร่างกระหวัดเกี่ยวพันเขาจนทั้งตัวเขาเหมือนโอบล้อมไปด้วยกลิ่นของเดรโก
เขานอนนิ่งนานจนแน่ใจว่าอีกคนหลับสนิทไปแล้วจริงๆ และตัวเขาคงนอนไม่ได้หากอยู่ใกล้เดรโกขนาดนี้ ให้ตายสิกอดก็ไม่ได้ จูบก็ไม่ได้ ทั้งๆ ที่อยากทำใจจะขาด คิดแล้วแฮร์รี่ก็แกะมือของอีกคนออก ก่อนจะขยับตัวไปนอนที่โซฟายาวข้างกำแพง และหลับไป
“ไม่” เสียงกรีดร้องปลุกแฮร์รี่ตื่นทันที เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาตั้งท่าพร้อม กระโจนไปที่ต้นเสียง
“แม่ ไม่” เดรโกยังคงหลับตา แต่คิ้วขมวดและท่าทางดูทุรนทุรายนั้นบอกให้เขารู้ว่าเจ้าตัวคงกำลังฝันร้าย แฮร์รี่พยายามปลุกอีกคน
“เดรโก เดรโก ตื่น” เขาเขย่าตัวคนที่ยังตะโกนเรียกแม่ไม่หยุด สะบัดไม้กายสิทธิ์ส่งผลให้ตะเกียงไฟในห้องสว่างวาบ ในที่สุดดวงตาสีเทาก็ลืมขึ้น เดรโกมองเขาอย่างตกใจ กระเถิบตัวหนีตามองไม้กายสิทธิ์ในมือเขานิ่ง แฮร์รี่ต้องรีบทิ้งไม้ซ่อนไว้ข้างหลัง ขยับตัวใกล้อีกคนที่ตอนนี้มองเขาเหมือนเขาเป็นสัตว์ร้าย
“นายฝันร้าย” แฮร์รี่พูดช้า เขาพยายามหายใจลึก ๆ ยาว ๆ เป็นตัวอย่างให้เดรโกดู แต่อีกคนดูตื่นกลัวจนกว่าจะทำตาม
“เดรโกไม่เป็นไรนะ” แฮร์รี่คุกเข่าพยายามปลอบ เขายกมือขึ้นสองข้างบอกให้อีกคนรู้ว่าเขาไร้อาวุธ
“หายใจลึกๆ นายแค่ฝันร้าย” เขาพูดพร้อมกับขยับตัวเข้าไปใกล้
เดรโกยังคงหน้าซีด แต่ลมหายใจกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง พร้อมกับอารมณ์ร้อน ๆ ของเจ้าตัวด้วย มือที่ตอนหัวค่ำเกาะเขาเอาไว้ไม่ปล่อย ตอนนี้กลับผลักอกเขาออก
“ไม่ต้องมาปลอบ” ชายหนุ่มตะคอกใส่เขา
เอาอีกแล้ว แฮร์รี่กัดกราม เมื่อรู้สึกถึงความรู้สึกที่เป็นลบใดๆชายหนุ่มในอ้อมกอดเขามักแสดงอารมณ์หงุดหงิดเพื่อหลบหนีปัญหา แต่เอาเถอะให้โกรธเขาดีกว่าให้กลับไปกลัวตัวสั่นอย่างเมื่อกี้
“ก็นายร้องลั่นห้อง” เขาตั้งใจพูด
“ออกไปเลย ออกไป ฉันอยู่คนเดียวได้ ไม่ต้องให้นายมาสงสาร” นิ้วยาวๆ พยายามแกะแขนเขาออก
“ไม่ได้สงสาร” แฮร์รี่ยอมคลายกอด แต่ไม่ปล่อยเดรโกง่าย ๆ เขามองสำรวจใบหน้าอีกคน ลมหายใจยังคงหอบสั้น ม่านตาขยาย “แค่ต้องทำให้แน่ใจว่านายจะไม่บ้าไประหว่างที่เรายังหาไม้เอลเดอร์ไม่เจอ” ใช่ซะทีไหน แต่ถ้าไม่โกหกแล้วให้เดรโกไปสนใจเรื่องที่ต้องทำ เจ้าตัวก็ต้องหงุดหงิดโวยวายใส่เขาไม่เลิก เขามองเดรโก มัลฟอยมาเจ็ดปีเต็ม ๆ นะ รู้วิธีรับมือกับคนเจ้าอารมณ์เถอะ
เมื่อพูดถึงภารกิจเดรโกก็เหมือนสงบลง ลมหายใจค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ แก้มขึ้นสี คงเพราะตะโกนลั่นแล้วไม่พอใจที่เขาเห็นเจ้าตัวตอนที่สติหลุด
“ยังไม่บ้า ออกไปได้แล้ว” เดรโกทำหน้าบึ้งใส่
“นายบอกให้ฉันนอนเป็นเพื่อน” แฮร์รี่ไม่สนใจ ล้มตัวนอนบนเตียง ดึงแขนอีกคนลงมาด้วย แต่คนดื้อกลับมองไปที่โซฟายาวที่ยังคงมีหมอนกับผ้าห่มของเขาอยู่
“นายไม่อยากอยู่—” เขาไม่ปล่อยให้เดรโกพูดจนจบประโยค แฮร์รี่ดึงแขนอีกคนลงบนเตียง วาดไม้กายสิทธิ์ดับไฟ มือกอดอีกคนไว้แน่น
“แต่นายอยากให้ฉันอยู่” เขาตอบกลับ
“นี่! ไม่ได้บังคับนะเว้ย ถ้าไม่อยาก—”
“ถ้าฉันลุกไปเดี๋ยวก็ฝันร้ายอีกหรอก”
มืออีกคนทุบหลังเขาดังอั๊ก แต่ไม่เจ็บหรอก เพราะเดรโกขยับได้ไม่สะดวกเมื่อเขากอดเอาไว้อย่างนี้ “ไม่ต้องมาสงสาร”
“ไม่ได้สงสาร แต่นายจำเป็นสำหรับภารกิจ” อันนี้เขาไม่ได้โกหก “นอนได้แล้ว พรุ่งนี้น่าจะต้องเหนื่อยอีกวัน”
เดรโกเงียบไปนาน ก่อนที่มือจะพยายามผลักเขาออกอีกครั้ง “ไม่ต้องกอดก็ได้”
ในเมื่อยอมให้เขาอยู่บนเตียงด้วยแฮร์รี่ก็ยอมปล่อยอ้อมกอด ไม่กอดก็ได้ แต่ยื่นมือออกไปให้อีกคนแตะ ให้รู้ว่ามีใครอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา และเดรโกไม่ได้อยู่คนเดียว
--------------------------------------------------------
แฮร์รี่ตื่นด้วยเสียงนกร้องปลุก เขากะพริบตาถี่ ๆ ปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่าง มองไปที่นกฮูกตัวใหญ่ข้างเตียง มันยื่นขาที่ถูกผูกด้วยม้วนกระดาษให้เขา แฮร์รี่กำลังจะขยับตัวเอื้อมมือไปปลดจดหมาย แต่ว่าร่างเขากลับขยับไม่ได้ ชายหนุ่มกวาดมือคลำหาแว่นที่หลุดหายตอนกลางคืน ใส่แล้วผงกหัวขึ้นมองว่าอะไรที่หยุดการเคลื่อนไหวของเขา แล้วเขาก็ต้องยิ้มน้อย ๆ เดรโกนอนคว่ำทับตัวเขาไว้ ขาเกี่ยวพาดขาเขา เสื้อยาวสำหรับใส่นอนเลิกขึ้น ดูเหมือนท่านเอิร์ลจะชอบใส่กางเกงในแบบยาวสินะ แฮร์รี่รีบหันหน้าไปอีกทาง แกะมือที่กอดเขาแน่นออก แล้วลุกขึ้นไปปลดจดหมายออกจากนกฮูก จากเฮอร์ไมโอนี่ เขาคิดอย่างดีใจ เขาเขียนจดหมายไปบอกเธอเรื่องเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์เมื่อคืนก่อนนอน แล้วดูเหมือนเพื่อนสนิทของเขาจะทำงานหนักตั้งแต่เช้า
เขาไล่สายตาอ่านตามคำอธิบายยาวยืดของเฮอร์ไมโอนี่ ก่อนจะมาถึงข้อสรุปที่ทำเอาเขาอยากไปกุมขมับ วันนี้เป็นวันที่ต้องเหนื่อยอีกวันจริง ๆ ด้วย เหนื่อยจนถึงขนาดต้องคงต้องเดินบุกป่าฝ่าดงในกลาสตันเบอร์รี่ทอร์ เพราะดูเหมือนกษัตริย์ที่คู่ควรอย่างที่ลอร์ดกรินเดลวัลด์คิดคือกษัตริย์อาเธอร์
เขานั่งลงบนเตียงอีกครั้ง มองหน้าคนที่ยังคงหลับสนิท ชั่งใจว่าเขาจะปลุกคนตรงหน้าหรือว่าไปคนเดียวดี แต่รู้เลยล่ะว่าเจ้าตัวจะต้องฉุน วีนบ้านแตกหากเขาทิ้งเดรโกเอาไว้แล้วไปคนเดียว อุตส่าห์ดี ๆ กันได้ขึ้นมาหน่อยแล้ว แฮร์รี่ไม่อยากกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง มือเขาแตะแก้มอีกคนเบา ๆ ขนตาของเดรโกขยับ ดูท่าแสงสว่างที่ส่องเข้าหน้าจะช่วยปลุกแทนเขาเสียแล้ว
เดรโกลืมตาขึ้นมา มือยกขึ้นมาขยี้ตา ผมยุ่งเหยิง ชี้ไปคนละทิศ ชายหนุ่มดูเด็กกว่าทุกครั้งที่เขาเจอ ไม่มีความเครียดหรือความโกรธเกรี้ยวในดวงตา เหมือนเด็กชายที่ไม่รู้จักความผิดหวังสมัยฮอกวอร์ตอีกครั้ง และแฮร์รี่อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเด็กผู้ชายคนนั้น
“มีข่าวจากเฮอร์ไมโอนี่น่ะ” เขาพูด มองความไร้เดียงสาที่หายไปจากหน้านั่นในพริบตา เดรโกก้มมองกระดาษในมือเขา
“เธอแนะนำได้ไหม”
แฮร์รี่พยักหน้า “กษัตริย์อาเธอร์” แฮร์รี่พูดต่อ “ลอร์ดกรินเดลวัลด์เทิดทูนเมอร์ลิน เขาอยากเห็นผู้วิเศษสามารถสำแดงอำนาจได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวอย่างในสมัยเมอร์ลิน มีอำนาจเสียจนทุกคนต้องยอมรับ แล้วสำหรับเมอร์ลินกษัตริย์องค์เดียวที่คู่ควรคือกษัตริย์อาเธอร์”
เดรโกยกมือขึ้นมาลูบหน้า “พระเจ้า แล้วเราจะไปหาที่ไหน”
แฮร์รี่ยื่นจดหมายลายมือของเฮอร์ไมโอนี่ให้คนบนเตียง เขาจดจำเนื้อหาได้แล้ว อย่างน้อยก็สาระสำคัญ “เธอคิดว่าบางทีไม้เอลเดอร์อาจจะถูกฝังอยู่ในหลุมศพของกษัตริย์อาเธอร์ที่--”
“กลาสตันเบอร์รี่ทอร์” เดรโกพูดต่อขณะสายตาอ่านตามเนื้อหาใจจดหมาย ก่อนจะวางกระดาษลง “เธอเป็นมนุษย์รึเปล่าเนี่ย เธอหาข้อมูลแล้วสรุปทุกอย่างในคืนเดียวเหรอ”
แฮร์รี่ปิดปากยิ้ม ใช่นั่นแหละเฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่พักจนกว่าจะเจอสิ่งที่เธอหา เธอตามหาหลุมศพของกษัตริย์อาเธอร์ที่ถูกซ่อนได้ในคืนเดียว เขาดีใจชะมัดที่เธอช่วย
“เวทมนตร์พรางตา ซ่อนจากทั้งมักเกิ้ลและผู้วิเศษ ปกป้องด้วยสัตว์เวทมนตร์” แฮร์รี่พูดต่อ ยิ่งอ่านเขายิ่งคิดถึงป่าต้องห้ามข้างฮอกวอร์ต อยากจะยกขโยงทีมอัศวินของเขาไปด้วยชะมัด แต่รู้ว่านี่คืองานของเขาคนเดียว อัศวินคนอื่นต้องกระจายไปทั่วอาณาจักรหลังจากเรื่องผู้คุมวิญญาณ
เดรโกถอนหายใจ “หวังว่าเมอร์ลินจะไม่ร่ายอะไรที่โหดเกินไปปกป้องกษัตริย์ของเขานะ”
ใช่แฮร์รี่เห็นด้วย นั่นแหละที่น่ากลัวที่สุด เขาไม่รู้เขาจะเจอเวทมนตร์อะไรบ้าง แล้วเวทมนตร์ที่ว่าคนร่ายคือเมอร์ลินเสียด้วย
______________________________
เขาใส่ชุดธรรมดาที่ใส่ปกติ รองเท้าบู๊ตยาว กางเกงหนังสีเข้ม เสื้อผ้าไหม ไม่มีไทน์หรือคราเวต และเสื้อโค้ทยาว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แฮร์รี่เห็นเดรโกออกจากบ้านด้วยชุดที่เรียกว่า...ออกจากต่างจากปกติ ไม่มีผ้าไหม เสื้อกั๊ก หรือแขนระบายยาว ชายหนุ่มอยู่ในชุดใกล้เคียงกับเขา น้อยชิ้นเพื่อให้เบาตัวที่สุด กางเกงหนังกันไม้ข่วนขณะเดินป่า และเสื้อโค้ทยาวสีเข้มพลางตา ให้กลมกลืนกับป่ารอบด้าน
“ถ้านายยังไม่หยุดมองฉันจะเอาไม้กายสิทธิ์จิ้มตานาย” เดรโกพูดโดยไม่หันมามองเขา แฮร์รี่กระแอมแล้วผินหน้าไปอีกด้าน ก็คนมันไม่ชิน ใครจะคิดว่าท่านเอิร์ล ทายาทคนเดียวของตระกูลมัลฟอยจะมีวันที่ไม่แต่งตัวเต็มยศกับเขาด้วย เมื่อไม่มีเสื้อกั๊กพอดีตัวและเสื้อนอกทางการ แฮร์รี่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเสื้อยาวชุดนอนของเดรโก และเมื่อนึกถึงชุดนอน เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องที่เกิดเมื่อคืน แฮร์รี่ลอบมองคนหน้านิ่งอีกทีก่อนจะตัดสินใจเอ่ยปาก
“เมื่อคืนนายตะโกนเรียกแม่”
คนถูกถามปรายตามองมาทางเขา เบ้ปากก่อนจะตอบ “คิดอยู่ว่าเมื่อไหร่นายจะถาม”
“จะได้ด่าว่าไร้มารยาท” แฮร์รี่ดักอย่างคนที่รู้ทัน เดรโกไม่ตอบทันทีแต่กลับยกมุมปากขึ้น ก่อนจะก้าวนำเขาออกไป เฮ้อสงสัยจะหวังมากไปหน่อยที่จะให้มาเปิดใจกับเขา คิดแล้วก็รีบก้าวเท้าเร่งตามคนตัวสูง
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา” ความตายของท่านเอิร์ลและเคาท์เตสคนก่อนเป็นปริศนาที่ไม่มีใครล่วงรู้ ลูกชายคนเดียวทำพิธีศพอย่างเงียบเชียบ ทุกคนรู้ว่าลูเซียส มัลฟอยเสียชีวิตก็เมื่อมีประกาศแต่งตั้งเดรโกเป็นเอิร์ลนั่นแหละ มีแม้แต่เสียงกระซิบว่าบางทีอาจจะเป็นตัวท่านเอิร์ลคนใหม่เองนั้นแหละที่สังหารบิดา หลายคนรู้ว่าลูเซียส มัลฟอยไม่ได้ปลื้มบุตรชายคนเดียวสักเท่าไหร่
เดรโกเม้มปาก แล้วเดินตรงนิ่ง เหมือนไม่ได้ยินคำถามของเขา ให้ตายสิแฮร์รี่อยากจะตะโกนด่า คนอะไรวะอารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าลมกลางฤดูหนาว
“เกี่ยวข้องกับโวลเดอร์มอร์ใช่ไหม” เขาถามต่อ เกลียดความรู้สึกว่ากำลังโดนปิดบัง
“เงียบได้แล้วพอตเตอร์” เอาอีกแล้วนามสกุลเดิมของเขา โผล่มาตอนเจ้าตัวหงุดหงิดไม่อยากนับญาติกับเขาว่าเป็นมัลฟอย
“เฮ้ย ฉันเองก็ทนกับเรื่องปิดบังของนายมามากเหมือนกันนะ” เขาจับแขนเดรโกไว้แน่น รู้ว่าคนผอมกว่าคงเจ็บ แต่อะไรบางอย่างสะกิดใจเขา
“พูดความจริงกับฉันซะที”
เดรโกเบิกตากว้าง สะบัดแขนแฮร์รี่ออกอย่างแรง “คิดว่าที่ผ่านมาฉันโกหกนายตลอดรึไง แค่เรื่องเดียวไอ้บ้า แค่เรื่องเดียว” เดรโกก้าวเท้าอย่างหงุดหงิด เขาวิ่งไล่ตาม แต่ก็เพราะแรงโมโหทำให้เดรโกเดินเร็วกว่าเขา
แฮร์รี่มองแผ่นหลังตั้งตรงนั้นแล้วตั้งใจปล่อยให้อีกคนสงบสติอารมณ์ แต่แล้วเขาก็รู้สึกปั่นป่วนแปลกๆ ขนที่คอเขาลุกตั้งขึ้นเหมือนกำลังเตือนให้แฮร์รี่ระวังตัว เขาวิ่งสุดฝีเท้าไปจับมือคนตรงหน้า ดึงเข้ามาประชิดตัว
“อะไร” เดรโกเซเข้าหาเขาอย่างตกใจ
“เวทมนตร์ ระวัง” เขายกไม้กายสิทธิ์ขึ้นพร้อมตั้งท่าเตรียมต่อสู้ “อย่าห่างจากฉันนะ”
เดรโกไม่ตอบแต่จับมือเขาแน่น ปลายนิ้วเย็นขึ้น ใบหน้าไร้สีเลือด เดรโกอาจจะเก่งในการประลองเวทย์ แต่นั่นบนสนามที่มีกติกาชัดเจน ชายหนุ่มไม่คุ้นชินกับการโดนซุ่มโจมตีโดยไม่รู้ทิศอย่างที่เขาต้องประสบมาตลอดสี่ปีที่เป็นอัศวิน ไม่แปลกที่หนุ่มผมบลอนด์จะกลัวขึ้นมา
“ฉันไม่มีวันปล่อยให้นายเป็นอะไร” เขาพูดออกมาตามใจคิด ตอนนี้สมองไม่คิดอะไรมากไปกว่าระวังตัวให้ดีที่สุด
“โอ” เสียงเบาๆ นั่นทำให้แฮร์รี่ระลึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป แต่ช่างเถอะ
“ฉันก็ไม่มีวันปล่อยให้ตัวฉันเป็นอะไรเหมือนกัน” เดรโกพูดต่อ และเขาอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มกับคำพูดนั้น นั่นแหละเดรโก
เขาเดินจับมือเดรโกเงียบๆ รอการโจมตีแต่แล้วเหมือนความรู้สึกแปลกๆ นั่นก็เคลื่อนผ่านไป เหมือนมันตรวจสอบแล้วว่าเขาไม่ใช่ภัย แฮร์รี่กำลังจะปล่อยมืออีกคนแต่เป็นเดรโกที่จับมือเขาไว้แล้วเดินต่อ พร้อมกับเปิดปากพูดจนแฮร์รี่แทบจะสะดุดตอไม้ล้ม
“ฉันเห็นตอนที่แม่ตาย” เดรโกพูดด้วยเสียงนิ่งๆ เหมือนกำลังเล่าให้เขาฟังถึงสภาพอากาศมากกว่าเรื่องที่ทำให้เจ้าตัวเจ็บปวดจนกรีดร้องไม่หยุดในฝัน แต่มือที่กำมือเขาแน่นก็ทรยศบอกความรู้สึกจริงๆ ของคนพูด
เขาไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขาควรพูดอะไรออกไปดี ดังนั้นแฮร์รี่จึงเลือกที่จะนิ่งเงียบ
“ฉันโกรธตัวเองที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้” เดรโกพูดต่อ ตามองไปข้างหน้าไม่สบตาเขา “โกรธแม่ที่ทำไมต้องมาตายต่อหน้าฉัน ทำไมเธอถึงไม่อยู่กับฉัน โกรธคาถาบ้าๆนั่นที่เอาชีวิตเธอไป โกรธพ่อว่าทำไมเขาถึงไม่ทำอะไรเร็วกว่านี้”
แฮร์รี่อยากจะถามว่าคนรับผิดชอบคือโวลเดอร์มอร์ใช่ไหม แต่ที่เขาทำได้และควรทำคือแค่จับมือเดรโกแล้วหวังว่าอีกคนจะเข้าใจว่าเขาอยู่กับเดรโก เจ้าตัวไม่ใช่คนเดียวในโลก
แต่ก็ไม่ดีพอ เพราะประโยคต่อมาของเดรโกทำให้แฮร์รี่รู้สึกจุกและเศร้า
“ไม่เคยหยุดโกรธสักวินาทีเลยตั้งแต่ที่แม่ตาย”
-------------------------------------------------
แปลกที่เขาสามารถเดินผ่านป่านั่นได้ จนมาถึงสระน้ำที่เฮอร์ไมโอนี่บอกว่าน่าจะเป็นสุสานของกษัตริย์อาเธอร์โดยไม่มีอะไรมาขัด ที่จริงไม่หลงเลยด้วยซ้ำ เหมือนมีเข็มทิศหรืออะไรสักอย่างนำให้เขาเดินตรงดิ่งมาที่นี่
“เขาควรจะอยู่ใต้น้ำนั่น” แฮร์รี่ชี้ไปที่กลางทะเลสาบ น้ำใสแจ๋ว และบรรยากาศเงียบสงบชวนประหลาดใจ ไม่มีแม้แต่เสียงนกร้องเหมือนป่าปกติ ยิ่งคิดยิ่งร้อนใจอยากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“พร้อมนะ” แฮร์รี่หันไปมองเดรโกที่ใช้ไม้กายสิทธิ์ชี้มาที่ตัวเอง หนุ่มผมทองพยักหน้า ก่อนจะเสกคาถาฟองอากาศครอบศีรษะแล้วกระโจนลงน้ำ โดยมีแฮร์รี่กระโดดตามลงไปติด ๆ
เขาตีเท้าว่ายน้ำคู่กับเดรโก เสื้อคลุมตัวยาวถอดเก็บไว้บนฝั่งเพื่อให้คล่องตัวในการขยับใต้น้ำ เขาคิดว่าจะต้องใช้ไม้กายสิทธิ์ส่องสว่างนำทาง แต่ใต้ทะเลสาบนี้กลับสว่างเหมือนกลางวัน
เดรโกกระตุกแขนเสื้อเขาแล้วชี้ไปยังเบื้องล่าง นี่สินะสาเหตุที่ทำให้สว่างนัก แทนที่จะเป็นพื้นกรวดอย่างทะเลสาปปกติ พื้นของที่นี่กลับส่องสว่างเหมือนท้องฟ้ากลางวัน ทรายหยาบๆ สะท้อนแสง เวทมนตร์ของเมอร์ลินหรือ นานขนาดนี้แต่ยังมีผล และเขาก็เห็น ปลายสุดของนิ้วเดรโก แท่นบูชาอะไรสักอย่าง
เขาและเดรโกเร่งตีขาว่ายไปที่แท่นนั่น แฮร์รี่คิดว่าเขาจะได้เจอกับโลงศพหินใต้น้ำ แต่เมื่อมาหยุดที่แท่นบูชาเขาก็เห็นว่าไม่ใช่เลย เบื้องหน้าเขาคือชายหนุ่มผมทอง โหนกแก้มสูง ดวงตาปิดสนิท ผมสีทองสะบัดเคลื่อนไหวไปตามกระแสน้ำ เขายืนพิงเสากลางใหญ่ของแท่น จึงบังไม่ให้แฮร์รี่เห็นเขาตั้งแต่แรก ผู้ชายคนนั้นแต่งตัวด้วยชุดเกราะอย่างสมัยโบราณและกลางหน้าอกคือสัญลักษณ์มังกรสวมมงกุฎ มือสองข้างจับดาบเล่มโตที่ชี้ลงพื้น เขาดูเหมือนกำลังหลับมากกว่า แต่แฮร์รี่รู้ดีกว่านั้น ผู้ชายตรงหน้าเขาคือกษัตริย์อาเธอร์ คนที่น่าจะตายมาแล้วเกือบพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คงเป็นเวทมนตร์ของเมอร์ลินอีกเช่นเคย ที่รักษาสภาพของกษัตริย์ของเขาไว้ให้เหมือนเดิมนานเท่านาน
เขาว่ายวนรอบกษัตริย์อาเธอร์ พยายามหาว่ามีจุดไหนที่เป็นที่ซ่อนของไม้กายสิทธิ์ได้บ้าง เขาไม่อยากแตะต้องศพของอดีตกษัตริย์หรอกนะ แต่ว่าดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกที่จะค้นหาในเกราะของอาเธอร์ แฮร์รี่ขอโทษในใจก่อนจะเอื้อมมือออกไปแตะที่เกราะเหล็กเบาๆ แล้วทันใดนั้นเขาก็โดนเวทมนตร์ดีดจนลอยหวือ ดีที่เดรโกรับตัวเขาไว้ทันไม่อย่างนั้นเขาคงต้องว่ายกลับมาไกล
แฮร์รี่ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น เขาไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะเขารู้ว่าเขาไม่มีวันเลียนแบบคาถาที่เมอร์ลินทำได้อีกแล้ว และกษัตริย์อาเธอร์คงต้องเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา แต่เขาไม่มีทางเลือก
“ไฟไนท์ อินแคนทาทัม” เขาพูดออก แต่ไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น เขาหันไปมองเดรโกที่มองไปรอบตัวอย่างร้อนใจ หนุ่มผมทองกำไม้กายสิทธิ์แน่น
แล้วทันใดนั้นแฮร์รี่ก็รู้สึกถึงแรงดึงลากเขาให้ห่างออกจากแท่นบูชากษัตริย์อาเธอร์ แฮร์รี่หันไปคว้ามือเดรโกเอาไว้ ก่อนที่จะหลับตาปี๋ เมื่อรู้สึกว่าร่างเขาถูกดึงขึ้นพ้นน้ำ แล้วตกลงมาดังตุบบนดินโคลนริมตลิ่ง คาถาฟองอากาศครอบศีรษะหายไปแล้ว แฮร์รี่รีบไถลตัววิ่งไปยืนตรงหน้าเดรโกที่ยังคงไอเอาน้ำออกจากปอด ไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่ชายชราในผ้าคลุมสีเลือดหมูที่มองเขากับเดรโกนิ่ง
“เจ้าต้องการอะไรจากอาเธอร์ เพนดรากอน” ชายชราตรงหน้าเขาถาม
แฮร์รี่หัวใจเต้นรัว ไม่ใช่หรอกน่า เขาไม่อายุยืนขนาดนี้หรอก
“คุณคือเมอร์ลิน” แฮร์รี่ถามเสียงเบา
“และเจ้าคือพ่อมดหัวขโมยที่มายุ่มย่ามกับสุสานของกษัตริย์อาเธอร์” ชายชราตอบโต้ ไม่ยืนยันตัวเองว่าเป็นเมอร์ลินจริงอย่างที่เขาคาดไหม
“ไม่ได้มีเจตนาร้ายนี่” เมอร์ลินพูดหลังจากมองแฮร์รี่กับเดรโก “แล้วข้าไม่ทำอะไรหรอก ไม่ต้องห่วงเจ้าหนูนั่นขนาดนั้น” แฮร์รี่รู้สึกตัวทันทีว่าเขายืนกันระหว่างเมอร์ลินกับเดรโกโดยไม่รู้ตัว
“พวกเรามาหาไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์” เดรโกพูดออกมา
“อีกแล้วหรือ แล้วไง จะมากล่อมให้ข้าเปิดเผยตัวแล้วออกหน้าสนับสนุนว่าผู้วิเศษควรอยู่เหนือมักเกิ้ลด้วยรึเปล่า” เมอร์ลินถอนหายใจ สะบัดมือเพียงครั้งเดียวเสื้อผ้าของแฮร์รี่และเดรโกก็แห้งสนิท เวทมนตร์อุ่นๆ ที่สัมผัสเขาไม่ต่างจากที่เขารู้สึกในป่า นั่นก็คือเมอร์ลินสินะ
“โวลเดอร์มอร์มาที่นี่เหรอครับ” เดรโกถามอย่างร้อนใจ
“ไม่ใช่นะ”
“ล่าสุดที่ข้าเจอเป็นเด็กหนุ่มหัวสูงชื่อกรินเดลวัลด์” เมอร์ลินพูดต่อ “มาบอกข้าว่าตอนนี้สังคมผู้วิเศษต้องหลบซ่อนจากมักเกิ้ลเพราะเป็นคำสั่งของพระราชา อยากล้มล้างระบบกษัตริย์แล้วให้อำนาจแก่คนที่ฉลาดโดยไม่ขึ้นกับสายเลือดใดๆ” ชายชราทำหน้าเบื่อ “เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ”
แฮร์รี่หันไปสบตาเดรโก ไม่ใช่โวลเดอร์มอร์ และกรินเดลวัลด์มาที่นี่จริงๆ ด้วย บางทีพวกเขาอาจจะนำเป็นครั้งแรกในเกมส์นี้
“เขาได้ฝากอะไรไว้ที่นี่ไหมครับ” แฮร์รี่ถามตรงๆ “ไม้กายสิทธิ์—”
เมอร์ลินโบกมือปัดเขา “ไม่มีอะไรทั้งนั้นนอกจากพล่ามเรื่องน่าเบื่อชวนหลับอยู่เป็นชั่วโมง บอกว่าจะให้อำนาจข้า แล้วพวกเราจะปกครองคนที่โง่ขาดเขลาและจะนำโลกไปทางที่ดีขึ้น คงมีแต่น้ำลายฝอยแหละมั้งที่ทิ้งเอาไว้”
แฮร์รี่แน่ใจว่าถ้ากรินเดลวัลด์ซ่อนอะไรไว้ เมอร์ลินต้องล่วงรู้ ที่นี่ทุกอย่างเป็นเวทมนตร์ของเมอร์ลิน ทั้งป่า ทั้งทะเลสาบสะท้อนแสง อากาศ ทุกอย่างเลย
คว้าน้ำเหลวอีกแล้วเหรอ ไม่ใช่กษัตริย์อาเธอร์หรอกหรือ
“ข้าตายมาหลายร้อนปี พวกเจ้าก็ยังทะเลาะกันด้วยเรื่องเดิมๆ ใครจะเป็นคนปกครอง ใครจะถูกปกครอง” เมอร์ลินพูดต่อ ดวงตาสีเข้มดูฉลาดนั่นมองมาทางเขา “เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าทุกสิ่งมีชีวิตล้วนเท่าเทียม เวทมนตร์หรือไม่มีเวทมนตร์ล้วนไม่ต่างกันทั้งนั้น เหมือนเจ้าเกิดมาผมสีดำเจ้าหนุ่มนั่นเกิดมาผมสีทอง มันทำให้อะไรต่างไหม เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที”
“คุณไม่คิดว่ามักเกิ้ลด้วยกว่าเราเพราะไม่มีเวทมนตร์หรือ” เดรโกเดินออกห่างจากตัวเขายืนตรงหน้าเมอร์ลิน แฮร์รี่ต้องรีบรุดไปข้างตัวคุณชายใจร้อน อย่าเชียวนะ อย่าชวนพ่อมดที่โด่งดังที่สุดในโลกทะเลาะเชียว
“เจ้าคิดว่าเขาด้อยกว่าเจ้าเพราะขาสั้นกว่าไหม” เมอร์ลินชี้มาทางแฮร์รี่ ก่อนจะยกมุมปากยิ้ม หนวดกระตุก “ไม่สินะ ไม่เลยเจ้าไม่คิดว่าเขาด้อยกว่าเจ้าเลยสักนิด ต่างกันตรงไหนกับเวทมนตร์”
แฮร์รี่ดึงแขนเสื้อเดรโก แต่เจ้าตัวดูเหมือนไม่สนใจเขา ร่างสูงเอียงศีรษะมองเมอร์ลินอย่างไม่เข้าใจ
“มันแค่ส่วนหนึ่งในตัวเจ้า ไม่มีอะไรทั้งนั้นมากำหนดว่าใครไร้ค่า ใครมีค่า” เมอร์ลินมองมาทางเดรโก “ทั้งเลือด ทั้งตระกูล ทั้งอำนาจ พวกเจ้ากำหนดเองทั้งนั้น”
แฮร์รี่ไม่ได้ขัดอะไรกับสิ่งที่เมอร์ลินพูด แต่เขารู้ดีเลยว่าคำพูดของเมอร์ลินนั้นขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่เดรโกเชื่อมาตลอด แล้วทุกอย่างที่เขาสอนกำลังถูกหักล้างด้วยพ่อมดที่เป็นต้นแบบของทุกอย่างในโลกเวทมนตร์
เมอร์ลินมองมาที่เดรโกอีกครั้ง ก่อนสีหน้าของชายชราจะเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อย
“เจ้ากำลังหนีอะไรอยู่เด็กน้อย”
เดรโกกำมือแน่น แฮร์รี่แตะแขนอีกคนเบาๆ เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นตรงหน้าเขา
“สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่อาจเปลี่ยนได้แม้จะเป็นข้าก็ไม่อาจเปลี่ยนอดีตได้ เจ้ามีเงาดำติดตามความจริงนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลง” เมอร์ลินก้าวเข้ามาใกล้เดรโก “แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเจ้าเลือกได้ อย่าเลือกทำสิ่งที่เจ้าจะเสียใจเด็กน้อย” มือของเมอร์ลินวางบนศีรษะของเดรโก เดรโกสูดหายใจลึกเหมือนพยายามกลั้นสะอื้น ก่อนที่เดรโกจะเบิกตากว้างกดมือเข้ากับท้องแขนด้านซ้าย ลมหายใจถี่ชั้น
“แฮร์รี่เราต้องกลับไป เดี๋ยวนี้” เดรโกตะโกนจับมือเขาไว้แน่น แฮร์รี่ดึงตัวเดรโกเข้ามาใกล้ เสียงตะโกนของเมอร์ลินไล่หลัง ความรู้สึกหมุนวนในช่องท้องบอกให้เขารู้ว่ากำลังหายตัว และเมื่อลืมตาอีกทีเขาก็ยืนที่จุดหายตัวที่หน้าคฤหาสน์มัลฟอย
“เดรโกเดี๋ยว” แฮร์รี่ตะโกนเรียกอีกคน ให้ตายสิฟ้ามืดแล้ว ในป่าของเมอร์ลินสว่างไสวตลอดจนเขาไม่รู้เวลา แต่อีกคนกลับวิ่งเข้าไปโดยไม่รอเขา แฮร์รี่วิ่งตามประโยคสุดท้าของเมอร์ลินก้องสะท้อนในหัวเขา
- เจ้าเท่านั้นที่ไล่เงามืดได้ –
เมอร์ลินหมายถึงเขาหรือหมายถึงตัวเดรโกเองกันนะ
-------------------------------------------
Note: ตอนหน้ามีบทบู้แล้วค่ะ แล้วเมอร์ลินนี่บอกใบ้เยอะมาก สัญญาว่าที่พาแฮร์รี่กับเดรโกเดินป่าไม่ได้เสียของแน่นอน
ความคิดเห็น