คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : จดหมายฉบับที่ 6 - Harry
แฮร์รี่เกลียดวันวาเลนไทน์
วันนี้เป็นเหมือนวันที่ทุกคนคิดว่าจะสามารถทำอะไรบ้าๆบอๆในนามของความรักได้
“ความบ้าคลั่งน่ะสิ”
แฮร์รี่บ่นอย่างหงุดหงิดขณะที่มองดูนกฮูกอีกตัวหย่อนจดหมายรักเพิ่มบนกองจดหมายที่วางอยู่ข้างตัวเขา
เขาได้รับจดหมายพวกนี้ทั้งวัน
เขาคงไม่หงุดหงิดขนาดนี้หากมันเป็นแค่จดหมายรักธรรมดาๆ แต่นี้เขาเจอทั้งชุดชั้นใน ยาเสน่ห์
แล้วก็คาถาให้รักให้หลง มันควรจะผิดกฎหมายเสียให้หมด
“นี้คือจดหมายที่ฝ่าด่านเวทมนตร์ของสำนักงานมือปราบมารเข้ามาได้เหรอ”
เนวิลล์มองกองจดหมายที่อยู่บนโต๊ะแฮร์รี่อย่างทึ่งๆ
สำนักงานมีการตั้งด่านเวทมนตร์คอยสกัดนกฮูกจดหมายแต่แม่มด (และพ่อมด) เหล่านั้นก็ยังหาทางฝ่าด่านส่งจดหมายมาจนถึงเขาได้
เชื่อเลย!
“ฉันว่าเราน่าจะจ้างพวกนี้ซักคนมาทำงานนะ ต้องเก่งขนาดไหนเนี้ยถึงฝ่าด่านเข้ามาได้ถึงเนี้ย”
เนวิลล์พูดต่อ
แต่เมื่อเห็นสายตาอาฆาตของแฮร์รี่เพื่อนร่วมชั้นของเขาก็ปิดปากลงทันที
วันนี้พวกเขาต้องเรียนเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมสัตว์วิเศษ
มันอาจจะไม่ใช่งานของมือปราบมารโดยตรง แต่บางครั้งเขาอาจจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะสัตว์วิเศษอันตรายที่ผู้วิเศษฝ่ายมืดชอบใช้ แต่ตลอดการบรรยาย
เจ้าหน้าที่โฮโลวิซก็โดนขัดจังหวะด้วยเสียงนกฮูกที่บินเข้ามาส่งจดหมายให้แฮร์รี่เป็นระยะ
ส่วนผู้รับจดหมายนั้นอยากจะหายไปจากตรงนั้นซะทีเดียว
“ผมชักจะไม่แน่ใจซะแล้วสิว่าระหว่างคุณพอตเตอร์กับวีล่า
ใครจะมีแรงดึงดูดมากกว่ากัน” เจ้าหน้าที่อาวุโสแซวแฮร์รี่
พร้อมกับเสียงหัวเราะลั่นจากเพื่อนร่วมชั้นทุกคน
...ใช่ เขาก็ชักอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมไอ้สี่ตาหน้าบากแถมไร้ความโรแมนติกสุดๆอย่างเขาถึงได้มีคนอยากได้เป็นแฟนเยอะขนาดนี้!!! ถ้าเขาไม่ใช่แฮร์รี่ พอตเตอร์จะยังมีคนมามองเขาอยู่ไหมเนี้ย
ตลอดทั้งสัปดาห์นั้นแฮร์รี่ต้องเจอกับคำแซวของทุกคนที่เรียกเขาว่า
วีล่าแฮร์รี่ ให้ตายสิข่าวลือในกระทรวงเวทมนตร์นี้มันแพร่ไปเร็วซะเหลือเกิน
แถมเขายังได้จดหมายกัมปนาทอีกหลายฉบับจากพ่อมดแม่มดที่เขาไม่ยอมรับรักจนเด็กหนุ่มต้องร่ายคาถากันอย่างแน่นหนา
แต่อารมณ์ขุ่นมัวที่มีมาทั้งอาทิตย์ก็มลายหายไปทันทีเมื่อเขาเห็นนกฮูกสีดำที่คุ้นเคยพร้อมกับม้วนกระดาษในอุ้งเท้า
หัวใจเขาเต้นเร็วขณะที่มือเปิดจดหมายนั้น
อยากรู้ว่าคราวนี้เดรโกจะเล่าอะไรให้เขาฟังอีก และเมื่ออ่านจบแฮร์รี่ก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาเริ่มจะเข้าใจเดรโกขึ้นมามากขึ้นทีละนิดแล้ว หมอนั้นถูกหล่อหลอมด้วยคนอย่างลูเซียส
มัลฟอยที่มองว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือตระกูลและสายเลือด
เดรโกเติบโตโดยคาดหวังว่าเขาจะต้องเดินตามบิดาของตนโดยไม่ผิดเพี้ยน
แต่เมื่อไม่ได้ดังหวังความรู้สึกผิดก็ประดังประเดจนทำให้ทายาทของตระกูลมัลฟอยเป็นคนที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า
เดรโกไม่คิดว่าจะมีใครที่รักเขาได้ ...ทั้งๆที่นายตลก ฉลาด
แล้วก็ซื่อสัตย์กับเพื่อนที่นายรักขนาดนี้น่ะเหรอ แฮร์รี่ถามตัวเอง
แต่เมื่อลองคิดดูหากเขาไม่ได้รู้จักกับเดรโกผ่านทางจดหมาย
เขาก็คงเหมือนคนที่เหลือทั้งโลกที่มองว่าเดรโกเป็นแค่ร่างโคลนของลูเซียส มัลฟอย
...ทั้งๆที่นายก็คือนาย...ไม่ใช่พ่อของนาย
แฮร์รี่กลืนน้ำลาย
เขาเข้าใจดีเลยความรู้สึกเกลียดโลกและเกลียดคนที่ตัดสินเขาจากพ่อแม่ของเขา
เพราะ...เขาใช้เวลาเกือบเจ็ดปีเกลียดศาสตราจารย์สเนป
จนเมื่อสายเกินไปนั้นแหละเขาถึงให้อภัยอาจารย์ได้
###
เขาพยายามเขียนจดหมายตอบกลับ แต่ปัญหาคือเขาไม่ใช่ลูเซียส มัลฟอย
หรือมัลฟอยคนไหนๆ
ที่สามารถจะบอกเดรโกได้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำตัวตามที่คนในตระกูลมัลฟอยคาดหวัง
เขาไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งสูงๆในกระทรวงเวทมนตร์หากนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากทำ
และเขาไม่จำเป็นต้องมีลูกด้วยเหตุผลเพื่อดำรงตระกูลมัลฟอยเอาไว้
เดรโกควรจะสามารถเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองได้
โดยไม่ใช่เป็นเพียงหุ่นเชิดที่ทำตามความคาดหวังของวงศ์ตระกูล
แต่คำพูดของเขาไม่มีวันที่จะเปลี่ยนความคิดที่ฝังหัวเดรโกมาได้ตลอดชีวิต
แฮร์รี่รู้สึกสงสารร่างบางขึ้นมาครามครัน เขามีคำพยากรณ์ที่ต้องทำตามก็จริง
แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
หากสำหรับเดรโกหน้าที่ที่เขาพึงกระทำในฐานะทายาทของมัลฟอยนั้นช่างมากมายและเขาต้องทำมันไปตลอดชีวิต
“นายซวยกว่าฉันเยอะเลยนะมัลฟอย” แฮร์รี่ถอนหายใจ
แล้วจรดปากกาเริ่มเขียน แม้รู้ว่าจะเปลี่ยนใจเดรโกไม่ได้ แต่เขาต้องพูดอะไรสักอย่างออกไป
เขาต้องบอกให้เดรโกรับรู้ว่าหน้าที่ในฐานะมัลฟอยไม่ได้มาก่อนทุกอย่างและที่สำคัญเขาอยากเห็นเดรโกมีความสุข
ก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อนกฮูกที่ไม่คุ้นเคยสองตัวบินมาหย่อนจดหมายบนโต๊ะเขียนหนังสือของเขา
ตราประทับของเฮอร์ลิชทั้งสองฉบับ พร้อมลายมือสวยเป็นระเบียบที่เขาคุ้นตา
จดหมายจากเดรโก แต่ทำไมเร็วเหลือเกิน
ปกติเดรโกไม่ส่งจดหมายติดๆกันแบบนี้มาให้เขา หรือมีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า
ยิ่งคิดยิ่งร้อนใจ เขารีบฉีกจดหมายออกอ่าน ก่อนจะกำกระดาษแน่น
แล้วก้าวยาวๆไปที่เครือข่ายฟลู
...เขากับเฮอร์ไมโอนี่มีเรื่องต้องคุยกันซะแล้ว
###
“ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ก้าวออกมาจากเตาผิงในแฟลตกลางอีสต์ลอนดอนของเพื่อนสนิท
เขาไม่สนใจว่าจะดึกดื่นแค่ไหน เขาต้องพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ให้ได้
ร่างสูงเดินไปที่ห้องสมุด
เขาค่อนข้างแน่ใจว่าหญิงสาวคงกำลังอ่านหนังสืออยู่เหมือนทุกคืนก่อนนอน
“ทำไมนายไม่ส่งนกฮูกหรือฟลูบอกฉันก่อนว่านายจะมา” หญิงสาวรีบกระชับเสื้อคลุมทันทีที่เห็นแฮร์รี่
คิ้วหนาขมวดมุ่นอย่างรำคาญ
เธอนั่งอยู่บนโต๊ะข้างๆมีหนังสือหนาฝุ่นจับพร้อมม้วนกระดาษวางอยู่หลายเล่ม
“เดรโก มัลฟอย” ชายหนุ่มพูดแค่นั้นพร้อมกับมองหญิงสาวอย่างคาดคั้น
แต่หล่อนก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากแค่เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ เหมือนกับจะเร่งให้เขาพูดต่อ
“เธอติดต่อเขาทำไม”
ตาสีน้ำตาลหรี่ลงอย่างครุ่นคิด ก่อนที่หญิงสาวจะพูดออกมาช้าๆ
“อย่างที่หนึ่งนายรู้ได้ยังไง อย่างที่สองแล้วมันจะทำไม”
“ไม่ต้องถามหรอกว่าฉันรู้ได้ยังไง เอาเป็นว่าฉันรู้ก็แล้วกัน
แล้วที่ฉันมาหาเพราะฉันอยากรู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่
เธอตั้งใจจะดึงเขาเข้ามาเกี่ยวกับร่างกฎหมายลดโทษที่เธอทำอยู่ใช่ไหม”
“ใช่
นายก็รู้ว่าฉันตั้งใจจะยื่นร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับโครงการควบคุมความประพฤติสำหรับเยาวชน
ตอนนี้สิ่งที่เรามีมันแตกหักแล้วก็ไม่ได้ช่วยเหลือเด็กที่ได้รับโทษเลย ฉันต้องได้รับความช่วยเหลือจากมัลฟอย”
“ทำไม! เธอดึงเขากลับเข้ามาในเรื่องนี้ทำไม ฉันอุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อให้ชื่อของหมอนั้นหลุดจากการเฝ้าระวังโดยพวกศาลสูง
เธอคิดบ้างไหมว่าเธอทำแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเขา” แฮร์รี่ขึ้นเสียงใส่หญิงสาว
แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ได้ยอมแพ้เขาง่ายๆ ร่างโปร่งยืนขึ้น
ตาสีน้ำตาลเป็นประกายวาวโรจน์
“เพราะนี้มันไม่ใช่แค่เดรโก มัลฟอย นายเข้าใจไหมแฮร์รี่
ใช่นายช่วยเดรโกได้
แต่นายช่วยคนอีกเป็นร้อยที่อยู่ในโครงการนี้หรือกำลังจะต้องถูกบังคับให้เข้าโครงการนี้ไม่ได้
นายคิดบ้างไหมพวกเขาจะต้องมีชีวิตอยู่ยังไง พวกเขาต้องถูกละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานทุกอย่าง
ถูกทำเหมือนเป็นอาชญากรร้ายแรง ทั้งๆที่พวกเขาเป็นแค่เด็ก!”
“สิ่งที่ฉันต้องการทำคือฉันต้องการคนอย่างเขา
คนที่ทำความผิดแล้วกลับตัวได้ คนที่เปลี่ยนชีวิตได้
คนที่เข้าใจว่าทำไมสายเลือดบริสุทธิ์ถึงยังจงเกลียดจงชังพวกมักเกิลนักแม้จะหลังสงครามแล้วก็ตาม”
“ไม่!!! เธอไปหาคนอื่นมาร่วมเสนอไอ้ร่างกฎหมายบ้าๆนี้
แต่ไม่ใช่เขา เธอคิดบ้าอะไรอยู่ เธอคิดว่าชื่อของฉันจะช่วยเขาได้ตลอดไปรึไง
ถ้าเขากล้าที่จะหือกับศาลสูงคิดว่าพวกนั้นจะไม่ยกเลิกสิทธิที่ให้เขารึไง
คิดว่าเขาจะไม่ถูกเรียกตัวกลับมาให้ออกนอกประเทศเหมือนเดิมไม่ได้อีกรึไง”
“คิดสิเฮอร์ไมโอนี่ ชีวิตเขากำลังจะได้เริ่มต้นใหม่
ทำไมเธอต้องทำแบบนี้”
“เขารู้ความเสี่ยงดี” หญิงสาวตะโกนกลับ เธอสูดหายใจลึกแล้วพูดต่อ
“ฉันอธิบายทุกอย่างให้เขาฟังว่าร่างกฎหมายใหม่โอกาสน้อยแค่ไหน
แล้วถ้าพวกศาลสูงวิเซ็นการ์ม๊อตอยากจะดึงตัวเขากลับมาก็ทำได้ง่ายๆ
ฉันบอกเขาว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำ แต่ถ้าเขาให้ข้อมูลฉัน
ฉันต้องเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลในการยื่นขอผ่านร่างกฎหมาย นี้ไม่ใช่สิทธิของนายที่จะเลือกแฮร์รี่”
คำพูดสุดท้ายของหล่อนทำให้ชายหนุ่มโกรธเสียจนเขาต้องกำมือแน่น ไม่ใช่สิทธิของเขา
ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ ในเมื่อคนที่ปกป้องเดรโกคือเขา แล้วหล่อนจะรู้อะไร
หล่อนไม่ได้เข้าใจสักหน่อยว่าเดรโกต้องเสียอะไรขนาดไหนหากเขาต้องถูกดึงตัวกลับมา
ทั้งๆที่เขาเริ่มจะดีขึ้นแล้วแท้ๆ
“เธอรู้ว่าเขาต้องเลือกที่จะช่วยเธอ”
คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสงสัย
“ฉันไม่รู้หรอกแฮร์รี่ นี้เรากำลังพูดถึงเดรโก มัลฟอย
คนที่เธอคิดว่าขี้ขลาดมาตลอดเจ็ดปีนะ
ที่จริงฉันประหลาดใจด้วยซ้ำที่เขาตกลงช่วยฉัน”
ชายหนุ่มกัดฟันแล้วหลับตา...ใช่...หล่อนไม่มีทางรู้
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้เป็นคนที่เขียนจดหมายติดต่อกับเดรโก มัลฟอยมาตลอดเกือบปี
ไม่ใช่คนที่รู้จักเดรโกคนที่ทั้งตลก ทั้งอ่อนไหว แล้วก็รักเพื่อนพ้อง
หล่อนไม่ได้รู้ว่าเดรโกเกลียดสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาขนาดไหน และเขารู้สึกผิดเพียงใด
แต่เขารู้...เขารู้ว่าความรู้สึกผิดจะทำให้เดรโกเลือกที่จะช่วยหญิงสาว
เขาจะเลือกทำอะไรที่ปล่อยให้ตัวเองเสี่ยงดีกว่าให้ความรู้สึกผิดกัดใจเขาต่อไป
“หวังว่ากฎหมายนี้จะผ่านนะเฮอร์ไมโอนี่ เพราะถ้ามันล้มเหลว...”
แฮร์รี่หยุดแค่นั้น เพราะเขารู้ว่ามันหมายความว่ายังไง
หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“แล้วสัญญากับฉันเรื่องนึง ฉัน...ฉันอยากรู้ว่าเธอคุยอะไรกับเขาบ้าง
อย่าติดต่อเขาโดยไม่บอกฉัน” แฮร์รี่พูดต่อช้าๆ
“แฮร์รี่ฟังนะถ้าเธอกลัวว่าฉันจะบอกเดรโกว่าเธอเป็นผู้รับรองเขากับกระทรวงเวทมนตร์—“
“ไม่ใช่เรื่องนั้น” ชายหนุ่มพูดขัด
เรื่องนั้นไม่ได้อยู่ในความคิดเขาเลย เพียงแต่สิ่งที่เขากลัวก็คือเฮอร์ไมโอนี่จะพูดอะไรที่ทำร้ายความรู้สึกของเดรโก
แล้วคนที่ต้องพยายามต่อหัวใจเปราะของหมอนั้นให้สมประกอบอีกเขาก็คือเขา
และเขาไม่แน่ใจว่าหัวใจของเขาจะเข้มแข็งพอที่จะเห็นเดรโก
มัลฟอยต้องแตกหักอีกครั้งต่อหน้าเขาได้
“สัญญาสิ” เขาเร่งเธออีกครั้ง
เพื่อนสนิทมองหน้าเขาอย่างไม่แน่ใจแต่เธอก็พยักหน้ารับปาก
“ดี อย่าล้มเหลวล่ะเฮอร์ไมโอนี่
สำหรับเธอมันอาจจะเป็นแค่กฎหมายฉบับนึง แต่สำหรับเขามันคืออนาคตทุกอย่าง”
พูดจบแฮร์รี่ก็หายตัวไปโดยไม่ลา
เขายังมีอีกคนที่ต้องคุยด้วยก่อนเรื่องยุ่งๆนี้จะไปถึงหูคนที่ไม่ควรรู้
“วิลเลี่ยมสัน คุณว่างไหม” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปในเตาผิง
พร้อมตะโกนเรียกชื่อคนที่เขาต้องการสนทนาด้วย
หวังว่ามือปราบมารวิลเลี่ยมสันจะอยู่บ้านนะ
“พอตเตอร์ นั้นนายเหรอ” เสียงแหบแตกของวิลเลี่ยมสันดังตอบกลับ
ก่อนที่ใบหน้าของอีกคนจะผุดขึ้นมาในเปลวไฟ
“ผมอยากจะคุยกับคุณเรื่องเดรโก มัลฟอย” แฮร์รี่เข้าธุระอย่างรวดเร็ว
“ที่จริงต้องขอร้องมากกว่า
เฮอร์ไมโอนี่ติดต่อเขาเพื่อขอให้เขาช่วยเธอร่างกฎหมายโครงการควบคุมความประพฤติใหม่”
“ในที่สุดก็ถึงเวลาซะที ไอ้โปรแกรมห่าๆนั้น—“
“ครับผมรู้โปรแกรมนั้นมันห่วย แต่ปัญหาก็คือผมไม่อยากให้ใครในกระทรวงเวทมนตร์รู้ว่าเดรโกเข้าไปเกี่ยวข้องจนกระทั่งถึงเวลาพิจารณาร่าง”
แฮร์รี่พูดเร็วปรื๋อ เขารู้ว่าที่เขาขอมันเสี่ยงแค่ไหน
วิลเลี่ยมสันสามารถรายงานเขาได้ง่ายๆ
“คุณเป็นคนที่ต้องยื่นเรื่องให้หัวหน้าสำนักงานมือปราบมารทราบหากเขามีการติดต่อที่น่าสงสัยหรืออาจจะเป็นภัย--”
“ได้เลย” วิลเลี่ยมสันตอบรับก่อนที่เขาจะพูดจบด้วยซ้ำ
“ฉันไม่คิดว่าเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์เป็นภัยอยู่แล้ว
และการวางแผนร่างกฎหมายที่มีความยุติธรรมมากขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องที่สำนักงานมือปราบมารหรือใครหน้าไหนต้องเข้าไปจัดการ
ไม่อย่างนั้นพวกทนายหัวใสทั้งหลายในกระทรวงคงต้องอยู่ในคุกกันหมดแล้วหล่ะ”
เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกและขอบคุณมือปราบมารอาวุโสก่อนจะลาไป
โอเค เหลือแค่หวังว่าเฮอร์ไมโอนี่จะไม่ทำพลาด แฮร์รี่คิดอย่างเหนื่อยๆ
พร้อมกับเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ
เขามองจดหมายที่เพิ่งเขียนเสร็จก่อนที่จะได้รับข่าวเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างเฮอร์ไมโอนี่และเดรโก
ใจจริงเขาอยากจะเขียนไปบอกให้เดรโกเปลี่ยนใจ แต่มันคงสายเกินไปแล้ว
อย่างนึงที่เขารู้คือเดรโก มัลฟอยโคตรดื้อด้าน
สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะปล่อยผ่านแล้วเติมแค่ประโยคสั้นๆ
ป.ล. ได้รับจดหมายวันที่ 20 แล้ว เธอระวังตัวด้วยนะและฉันภูมิใจในตัวเธอเสมอ
###
ความคิดเห็น