ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hollow Hearted (Harry Potter/Draco Malfoy)

    ลำดับตอนที่ #11 : Violable Vault

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 63


    ประตูธนาคารกริงกอตต์เปิดออกโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไร ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะเขายังคงมือสั่นไม่หายจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เดรโกกำไม้กายสิทธิ์แน่นขึ้นพยายามสั่งให้ตัวเองกลับมาเป็นปกติ แต่จนแล้วจนรอดหัวใจเขาก็ยังเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ดี แถมยังเจ็บเข่าและสีข้างไปหมด เขาล้มลุกคลุกคลานในร้านของโอลิแวนเดอร์ ใช้เวทมนตร์ประมือกับเจ้าของร้านชราที่ดูเหมือนมีกำลังมากกว่าที่เขาคิด ถ้าแฮร์รี่ช้ากว่านั้นแค่นิดเดียว คาถาของโอลิแวนเดอร์คงกระแทกคาถาโล่กั้นของเขาจนแตก

    ...แต่ถ้าเขาช้ากว่าอีกนิด...แฮร์รี่คง...หัวใจเขาเต้นรัว ไม่นะไม่ได้เด็ดขาด เขาเคยสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ให้ความรู้สึกของเขามาเป็นเครื่องมือให้ใคร แต่ตอนนี้มันกำลังเป็นอย่างนั้น เขากลัวที่จะเสียแฮร์รี่ เดรโกกัดริมฝีปากตัวเอง หยุด นายต้องหยุดเดี๋ยวนี้ 

     

    “เดรโก” แฮร์รี่ที่ยังคงประคองโอลิแวนเดอร์ที่ไม่ได้สติกระตุกแขนเขา เดรโกหันไปมองอีกคน รู้สึกตัวว่าขาพาเขามายืนที่โต๊ะหน้าก๊อบลินแล้ว ก๊อบลินท่าทางเคร่งเครียดมองเขาลอดแว่นอย่างไม่สบอารมณ์ ที่จริงก๊อบลินทุกตนก็ไม่เคยมองผู้วิเศษอย่างสบอารมณ์อยู่แล้ว 

    “เขาถามว่านายต้องการอะไร”

     

    “ตู้นิรภัยของแบล็ค” เดรโกสั่ง มากริงกอตต์เขาตั้งใจมาหาข้อมูลเพิ่มด้วย เขาเจออะไรแปลก ๆ ในสมุดจดบันทึกของท่านปู่อะแบร็กซัส แล้วเขาก็อยากตรวจสอบกับข้อมูลทางแบล็ค 

     

    “ใครไปบ้าง” ก๊อบลินหรี่ตามองเขา เหมือนใช้เวทมนตร์ตรวจสอบว่าเขาไม่ได้ปลอมตัวมาเป็นเอิร์ลมัลฟอยแล้วมาปล้นตู้นิรภัยของตระกูลที่รวยที่สุดในอังกฤษ

     

    “หมดนี่” เขาตอบกลับอย่างรำคาญ ส่งกุญแจให้ก๊อบลินแล้วเรียกให้แฮร์รี่เดินตาม เดรโกต้องเม้มปากเมื่อเห็นหน้าอีกคน แฮร์รี่โดนหนักกว่าเขา เสื้อคลุมของชายหนุ่มมีรอยขาดจากเวทมนตร์ แล้วหน้าผากก็แตก ถึงตอนนี้จะใช้เวทมนตร์ห้ามเลือดแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังเห็นว่ามันบวมเป่ง พรุ่งนี้คงเป็นรอยช้ำแน่

     

    ก๊อบลินหรี่ตาอย่างไม่พอใจ แต่มันเรื่องของเขาในฐานะเจ้าของสมบัติของแบล็คที่จะให้ใครเข้ามาดูในตู้นิรภัยของเขาบ้าง “ตามมา” 

     

    แล้วพวกเขาสามคนก็ขึ้นนั่งบนรถเข็นของธนาคาร แฮร์รี่ลากโอลิแวนเดอร์อย่างทุลักทุเล และพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ทำให้ชายชราที่ยังหมดสติเจ็บ เขากอดอกมองตาขวาง แฮร์รี่ดื้อเป็นที่สุด หมอนั่นดึงดันยังไงก็จะช่วยคนที่พยายามฆ่าตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด โอลิแวนเดอร์ไม่มีประโยชน์แล้ว และที่เขาบอกในร้านนั่นเป็นความจริง ถ้าหากไม่โดนกระตุ้นโอลิแวนเดอร์ก็จะใช้ชีวิตได้ตามปกติ 

     

    “มีอะไรในตู้นิรภัยของแบล็คที่จะช่วยคุณโอลิแวนเดอร์ได้เหรอ” แฮร์รี่ยื่นหน้ามาถาม ริมฝีปากแทบจะชนหูเขา คงไม่อยากให้ก๊อบลินที่บังคับได้ยิน 

     

    “ไม่มี” เดรโกตอบโดยไม่หันไปมองอีกคน

     

    “อ้าว แล้ว—” 

     

    “แต่ระหว่างทางมี” เขาถอนหายใจแล้วชี้ไปที่น้ำตาข้างหน้า “น้ำตกนั่นมีเวทมนตร์พิเศษที่ล้างทุกคำสาปได้ พวกก๊อบลินต้องใช้เวลาหลายปีกับเงินอีกหลายร้อนกิลเลี่ยนสร้างขึ้น มันควรจะมีหน้าที่ป้องกันขโมย และน่าจะเป็นทางเดียวของเราที่จะปลดคำสาปสะกดใจโดยไม่ต้องใช้นักแก้คำสาป” เขาอธิบาย

     

    เมื่อเขาพูดจบรถเข็นก็เลื่อนผ่านน้ำตก เดรโกไขว้นิ้วขอให้สิ่งที่เขาคิดถูก เขาไม่แน่ใจว่าน้ำตกของก๊อบลินจะทำลายคาถาสะกดใจได้จริง ๆ หรือไม่ แต่มันเป็นทางออกเดียวที่เขานึกออก ทันทีที่ผ่านน้ำตกเดรโกก็หมุนตัวเอาไม้กายสิทธิ์จี้คอโอลิแวนเดอร์ที่ตอนนี้ได้สติแล้วมองเขาอย่างตกใจ

    “ไม้ฮอว์ทอร์น สิบนิ้ว ยืดหยุ่นดี... เดรโก มัลฟอยหรือ” ชายชรากะพริบตาถี่เหมือนกำลังพยายามมองหน้าเขาให้ชัด

     

    “คุณจำอะไรได้ไหมครับ” แฮร์รี่ประคองชายชรา แต่ก็ยังใช้อีกมือจับไม้อย่างพร้อมที่จะใช้คาถา 

     

    โอลิแวนเดอร์หน้าซีดเผือด ชายชราพยักหน้า “ขอโทษนะ ฉัน...ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้” มือเหี่ยวสั่นเทา 

     

    ดูเหมือนจะได้ผล แต่เขาต้องลองอีกอย่าง เดรโกเหลือบมองก๊อบลินที่ยังคงบังคับรถ แต่ต้องหลังจากพ้นสายตาสอดรู้สอดเห็นของก๊อบลินเสียก่อน

     

    ไม่นานพวกเขาก็ถึงตู้นิรภัยของแบล็ค ก๊อบลินไม่ได้ลงมาด้วย แต่ยืนรออยู่บนรถเข็น แฮร์รี่พยุงโอลิแวนเดอร์ลง ส่วนเขากระโดดลงแล้วยืนรอทั้งสองคนอยู่ที่หน้าตู้นิรภัยแล้ว

     

    “นายต้องถามเขาเหมือนตอนที่เขาสติหลุด” เดรโกหันไปบอกหนุ่มผมตำ 

     

    แฮร์รี่พยักหน้าเข้าใจ

     

    “ฉันจะเข้าไปดูของสักอย่างในตู้นี่ นายรออยู่ตรงนี้” 

     

    “เดี๋ยวสิเดรโก” แฮร์รี่รั้งข้อมือเขาเอาไว้ เดรโกเกือบจะตะโกนด่าไปแล้วว่าเจ็บเว้ย แต่พอเห็นสีหน้าอีกคนเขากลับด่าไม่ลง “ฉันอยากเข้าไปด้วย” 

     

    “ไม่ต้อง เข้าไปแป๊บเดียว นายต้องอยู่กับเขาด้วย เขาไม่ควรเห็นข้างในตู้นี่” เดรโกพยักเพยิดไปทางโอลิแวนเดอร์ที่ยังคงดูมึนงง

     

    แฮร์รี่ถอนหายใจแล้วพยักหน้า “อย่าเป็นอะไรนะ” 

     

    หนุ่มตัวสูงหมุนตัวแล้วก้าวขายาว ๆ เข้าไปในตู้นิรภัย เขาสิควรจะเป็นคนพูดคำนั้น อย่าเป็นอะไรนะ หมอนั่นทำตัวเสี่ยงตายกว่าเขาตั้งเยอะ ไม่ยอมใช้คาถาทำร้ายโอลิแวนเดอร์ ใช้แต่คาถาปลดอาวุธกับคาถาหยุดนิ่ง เขาไม่ได้ทำอะไรเสี่ยงเลยสักนิด เขาแค่เข้าไปหาข้อมูล 

    แล้วเขาก็รู้ทันทีว่าเขาควรจะหาที่ไหน ทุกตระกูลมีเหมือนกันหมด จดหมายเหตุ บันทึก พงศาวดาร แล้วแต่เรียก แต่มันคือบันทึกที่แต่ละรุ่นเขียนแล้วส่งต่อรุ่นหลัง บางทีก็เป็นคาถาลับในตระกูล ที่ซ่อนของสมบัติ หรือในกรณีนี้เขาหาอะไรที่ธรรมดาอย่างที่สุดอย่างธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนในราชวงศ์

    ...ไม่ใช่ทุกคนเสียด้วย...แต่เป็นถึงอดีตพระสวามีของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน

    ...ลอร์ดกรินเดลวัลด์....

     

    เขาไล่อ่านบันทึกของตระกูลมัลฟอย เพื่อหาร่องรอยของสามตระกูลที่เกี่ยวข้องกับเพฟเวอร์เรลล์ แล้วก็เจออะไรที่แปลกที่สุดในบันทึกของลอร์ดอะแบร็กซัส มัลฟอย

    ลอร์ดกรินเดลวัลด์มาถามถึงการหมั้นหมายระหว่างตระกูลมัลฟอยกันตระกูลก๊อนท์ เดิมทีปู่ของเขาถูกวางตัวว่าต้องแต่งงานกับลูกสาวคนเดียวของตระกูลก๊อนท์ แต่ด้วยอยู่ดี ๆ เธอกลับท้องก่อนแต่งงาน ทำให้การหมั้นหมายนั้นถูกยกเลิก แต่กรินเดลวัลด์กลับเซ้าซี้ถามถึงสมบัติของตระกูลก๊อนท์ว่าได้ให้สัญญาว่าจะมอบอะไรกับมัลฟอยบ้าง เพราะแม้ก๊อนท์จะเป็นตระกูลเลือดบริสุทธิ์และหัวหน้าตระกูลมีบรรดาศักดิ์เป็นเอิร์ลเช่นเดียวกับมัลฟอย แต่ช่วยเวลาหลายชั่วคนกลับผลาญสมบัติจนแทบไม่มีเหลือ การแต่งงานนี้จึงไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้มัลฟอยเลย ยกเว้นแต่จะต้องมีสมบัติอะไรสักอย่างที่ท่านเอิร์ลก๊อนท์สัญญาให้กับปู่ของเขา 

    แปลกประหลาดเป็นที่สุด ที่ผู้เป็นสามีของกษัตริย์ แม้ตอนนั้นอัลบัสจะยังเป็นแค่เจ้าชายก็เถอะ จะมาถามถึงเรื่องอะไรแบบนี้

     

    เมื่อรู้ว่าต้องมองหาอะไร เดรโกก็หาบันทึกของตระกูลเจอไม่ช้า เก็บอยู่ในตู้จัดเรียงอย่างดีตามปี ไม่มีร่องรอยเปิดมาเป็นสิบ ๆ ปี แต่ด้วยเวทมนตร์ทำให้กระดาษไม่กรอบเหลืองเหมือนปกติ จากนี้คงไม่มีใครมาจดบันทึกอีกแล้ว เสียดายเป็นแท้ เขาส่ายหน้า ไม่ใช่เวลามานึกถึงประวัติศาสตร์ ชายหนุ่มพึมพำคาถา แล้วใช้ไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่ม้วนกระดาษ เขาเรียกทุกบันทึกที่เกี่ยวกับเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ออกมา สายตาของเขากวาดมองอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ไม่มีอะไรนอกจากการทักทายเพื่อผูกมิตรกับคนในราชสำนักตามปกติ

    แต่แล้วใจของเดรโกก็เต้นแรง เขามาถูกทางแล้วเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ต้องพยายามหาเครื่องรางยมทูตเป็นแน่แท้ 

    เพราะหนึ่งในบันทึกแสดงว่ามาจอรี่ แบล็ค (อดีตก๊อนต์) หัวใจวายเสียชีวิตเฉียบพลันขณะที่สนทนากับลอร์ดกรินเดลวัลด์   

    อาจจะไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันแต่อย่างน้อยกรินเดลวัลด์คงรู้อะไรมากพอขนาดที่ไปถามคนในตระกูลก๊อนท์ เขาอาจจะรู้ว่าไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์อยู่ที่ไหน 

     

    เขาใส่ม้วนบันทึกกลับไว้ที่เดิมแล้วมองไปรอบ ๆ ตู้นิรภัยอีกครั้ง ให้ตายสิสมบัติของตระกูลแบล็คมีมากมายจนมองไม่หมด เขาแน่ใจว่าต้องมีอะไรน่าสนใจในกองเงินกองทองนั่น 

     

    แอ็คซิโอ ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์” เดรโกชี้ไปทางสมบัติ แน่นอนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาถอนหายใจ ไม่ผิดซะหน่อยที่จะลอง 

     

    เมื่อเขาเดินออกมาแฮร์รี่ก็เจอแฮร์รี่นั่งคุยอยู่กับโอลิแวนเดอร์ ใบหน้าของหนุ่มผมดำยิ้มละไม แฮร์รี่เป็นอย่างนี้เสมอ ๆ เขาใจดีกับทุกคน จนกระทั่งเดรโกต้องสงสัยว่าเขาทำอะไรผิดนักหนาหนอ คนตรงนี้ถึงได้จงเกลียดจงชังเขาตั้งแต่แรกเจอ 

     

    “ไปเถอะ” เขาใช้เท้าเขี่ยแฮร์รี่ หยาบคายและห่างเหิน อีกคนขมวดคิ้วทำสีหน้ารำคาญใจที่เขาทำตัวแบบนี้ แต่ก็ยอมลุกขึ้นพร้อมกับพยุงโอลิแวนเดอร์ด้วย 

     

    “เขาไม่เป็นไรแล้ว ขอบใจนะ” แฮร์รี่พูดกับเขา 

     

    “ช่างมันเถอะ แล้วได้อะไรมีประโยชน์บ้างไหม”

     

    แฮร์รี่ส่ายหน้า เขาคิดไว้อยู่แล้วล่ะ 

     

    เดรโกปีนขึ้นบนรถเข็น แล้วหันกลับไปช่วยแฮร์รี่ เขารู้ตัวว่าเขาทำตัวแปลกไปตอนเห็นสายตาตกใจของคนที่เขายื่นมือออกให้จับ แต่ก่อนที่จะดึงมือกลับไปทัน แฮร์รี่ยื่นมือออกมาจับมือเขาไว้แน่น พร้อมกับส่งยิ้มอย่างที่ทำให้หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ 

     

    --------------------------------------------------

     

    แฮร์รี่ยืนยันจะไปส่งโอลิแวนเดอร์ถึงร้าน เขาได้แต่กลอกตาแล้วตามใจ ก่อนจะจับมืออีกคนแล้วหายตัวกลับมาที่คฤหาสน์มัลฟอย ให้ตายสิเข่าเขาเจ็บไปหมด แล้วตัวก็ปวด ถึงจะไม่โดนคาถาจัง ๆ แต่การล้มลุกคลุกคลานสู้กับโอลิแวนเดอร์ก็ทำให้เขาที่ไม่ได้ออกแรงมาเกือบปีปวดไปทั้งตัว ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ให้ตายเถอะเขาปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอขนาดนี้ได้ยังไง 

     

    “หน้าซีดอีกแล้ว” แฮร์รี่ประคองเขาแน่น ใบหน้าเกือบจะชิดหน้าเขา ลมหายใจร้อน ๆ ทำให้สภาพหัวใจของวันนี้ที่เต้นไปปกติตั้งแต่ตอนที่รู้สึกถึงเวทมนตร์เตือนว่าคู่ของเขาอยู่ในอันตรายยิ่งเต้นเร็วระรัวมากขึ้น

    “ไม่กินอะไรอีกแล้วล่ะซิ” พูดจบก็ช้อนร่างเขาขึ้นอุ้มอย่างง่ายดาย เดี๋ยวนะเขาตัวสูงกว่าแท้ ๆ ทำไมหมอนั่นถึงทำเหมือนเขาเบาเป็นนุ่นขนาดนี้ 

     

    “ปล่อยนะเว้ย” เขาเตะดิ้น ไม่ยอมถูกทำเหมือนเด็ก ๆ อย่างนี้หรอก 

    ตุบ เสียงก้นกระแทกพื้น แต่ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น แฮร์รี่คงใช้คาถาอะไรสักอย่างที่ไม่ทำให้เขากระแทกแรง แต่ก็อายอยู่ดี เดรโกรู้สึกแก้มร้อนจัด เขาหันมามองคนบ้าที่ทิ้งเขาลงกลางสนาม 

    “ไอ้—” 

     

    “ก็ปล่อยแล้วไง” คนตัวดียังยียวน ใบหน้านั่นใกล้เขาอีกแล้ว มืออุ่นยังแตะที่หลังเขาเบา ๆ ปล่อยที่ไหนกันเล่าเจ้าบ้า ปล่อยแล้วยังแตะ 

     

    อยากจะด่าให้หายแค้นที่โดนแกล้ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาโดนอุ้มตัวลอย แถมคราวนี้ยังมีเสียงขู่ฟ่อ 

    “ถ้ายังดิ้นอีกคราวนี้ปล่อยจริง ๆ ด้วยนะ” 

     

    เขาหันขวับมองหน้าคนอุ้มเขม็ง ริมฝีปากยังคงยกยิ้มเหมือนสนุกที่ได้แกล้งเขา แต่คิ้วเข้มขมวดมุ่น เขารู้หรอกว่าเขาไม่ได้ตัวเบาขนาดนั้น 

    “ทำไมไม่ใช้คาถายกฉันขึ้นเล่า นายเป็นพ่อมดรึเปล่าเจ้าบ้า” เขาอดไม่ได้ที่จะด่า  

     

    “อยากรู้ว่านายหนักขึ้นรึยัง ดูเหมือนยังต้องขุนอีกนานเลยนะ” ตอบง่าย ๆ พร้อมกับกระชับอ้อมกอด เดรโกกัดริมฝีปาก หมอนี่ต้องเลิกใจดีกับเขาขนาดนี้ได้แล้ว ไม่สิเขาสิที่ควรเลิกทำตัวดี ๆ ให้แฮร์รี่ใจดีด้วยได้แล้ว ถ้าเป็นเขาเมื่อก่อนไอ้หน้าหล่อ ๆ นี่คงโดนสวนไปสักหมัดสองหมัด แต่เขาตอนนี้กลับกอดคออีกคนไว้แน่น ซุกหน้าเข้ากับผมแล้วคิดว่าอยากกินทาร์ตน้ำตาลข้นจัง ทั้ง ๆ ที่เขาเกลียดขนมหวานเป็นที่สุด 

     

    เมื่อถึงบ้านอีกคนก็ปล่อยเขาลงโดยดี จะบ้ารึไงไม่ให้อุ้มเข้าไปถึงห้องหรอกนะ 

    “เจ็บตรงไหนไหม” มืออุ่นดึงเขาไว้ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นไปเปลี่ยนชุด หลังจากตรวจสอบปราการเวทมนตร์ของคฤหาสน์แล้ว

     

    “เจ็บสิวะ โดนกล่องตกใส่ โดนเวทมนตร์ ต้องคลานเข่าบนพื้นมืด ๆ” เขาร่ายเป็นชุด คนถามหน้าจ๋อยเหลือสองนิ้ว

     

    “ขอโทษนะ” เอ้า ดันขอโทษออกมาง่าย ๆ อีก นายควรจะโต้กลับว่าก็นายโผล่มาเองทำไมเล่า ไม่ใช่มาทำหน้าเป็นหมาหงอยต่อหน้าเขาแบบนี้ แล้วเขาจะด่าต่อได้ยังไงล่ะ 

    “ครั้งหน้านายไม่ต้องมานะ ถึงจะรู้ว่าฉันอยู่ในอันตราย” 

     

    “ไม่ได้เว้ย” เขาตะโกนลั่น “นายไม่ได้เรื่อง ถ้าปล่อยให้ไปคนเดียวก็ไม่ได้ความอะไรทั้งนั้น สงสัยชะมัดที่สอบผ่านฮอกวอร์ตมาได้นายโกงรึเปล่า” 

     

    แฮร์รี่หัวเราะเบา ๆ “เฮอร์ไมโอนี่ติวให้น่ะ” 

    “ฉันให้นายมาด้วยไม่ได้หรอกเดรโก เรื่องนี้จะอันตรายขึ้นกว่านี้ แล้วนายก็ไม่ได้เป็นอัศวิน” 

     

    “นายก็เลยคิดว่าฉันสู้ไม่ได้” เดรโกกอดอก เริ่มฉุนขึ้นมาจริง ๆ แล้ว 

     

    “เปล่า แต่นายเป็นคนธรรมดา” 

     

    “เปลี่ยนคำพูดเดี๋ยวนี้พอตเตอร์! ไอ้หม้อขึ้นสนิท!” เดรโกเต้นผาง “ฉันเป็นทายาทมัลฟอย ฉันเรียนเวทมนตร์มาตั้งแต่เกิดกับอาจารย์ที่ดีที่สุด แล้วคิดว่าใครเป็นที่สองหลังยายผมฟูเกรนเจอร์ห๋า ฉันไม่ใช่คนธรรมดาเจ้าบ้า” 

     

    “แต่ถ้านายเจ็บตัว—”  

     

    “ฉันก็รักษาแผลเองได้” เขายืนยัน 

     

    แฮร์รี่อ้าปากเหมือนจะเถียง แต่ก็เปลี่ยนใจพยักหน้าแทน 

    “แล้วได้อะไรจากกริงกอตต์ไหม”    

     

    “ได้ และดูเหมือนนายจะต้องใช้เส้นความเป็นคนสนิทของกษัตริย์อัลบัสหน่อยแล้ว”

     

    --------------------------------------------------

     

     

    แล้วเส้นของคนสนิทกษัตริย์อัลบัสก็ดูเหมือนเป็นเส้นใหญ่ใส่ไข่พิเศษ เพราะบ่ายวันนั้นนกฮูกสื่อสารก็ส่งเอกสารยืนยันให้แฮร์รี่และเดรโกสามารถเข้าไปสอบปากคำเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ในคุกอัซคาบันได้ แฮร์รี่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่จดหมายที่ประทับด้วยตราของผู้สำเร็จราชการแทนหรือลอร์ดสเนป

                

    “อัลบัสยังไม่ฟื้นหรือนี่” แฮร์รี่พูดกับนกฮูกตัวใหญ่ พร้อมกับผูกจดหมายยืนยันแจ้งว่าพวกเขาจะเข้าไปทันที 

     

    เดรโกฟังแล้วก็แอบใจเสียไม่น้อย หวังว่าจะไม่มีใครรู้ว่ากษัตริย์ของพวกเขาอาการหนักขนาดไหน แค่นี้ก็วุ่นวายพออยู่แล้วกับโวลเดอร์มอร์ปลุกปั่น ถ้ารู้ว่ากษัตริย์ป้องกันตัวเองไม่ได้ พวกขุนนางต้องลุกฮือบุกวังแน่นอน ตอนนี้มีแค่ชื่อเสียงของอัลบัสทำให้พวกเขากลัว

     

    “พระองค์เป็นอะไร” เดรโกถามอีกคน แฮร์รี่ไม่ตอบแต่ส่ายหน้า 

     

    “มีแต่ลอร์ดสเนปคนเดียวที่รู้ ท่านไม่ให้ใครดูแลเลย” 

    “เอาเถอะ ตอนนี้เราต้องเตรียมตัวไปอัซคาบัน” แฮร์รี่สะบัดหน้ามาพูดกับเขา เดรโกพยักหน้าสั้น ๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะกลัว ตอนนี้ที่ทำได้คือเดินหน้าแล้วหาไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ให้เร็วที่สุด 

     

    การเดินทางไปอัซคาบันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ตั้งของมันไม่สามารถหายตัวไปได้ง่าย ๆ พวกเขาต้องเดินผ่านเขา แสดงตราอนุญาติจากกษัตริย์แล้วต่อไปยังทะเลสาบที่ไม่มีใครผ่านได้ ดังนั้นเมื่อถึงริมทะเลสาบดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว แถมอากาศยังเย็นจนไม่เหมือนกลางฤดูใบไม้ผลิ

     

    “จากผู้คุมวิญญาณน่ะ” แฮร์รี่หันมาบอกเขาพร้อมกับยกไม้กายสิทธิ์ตั้งพร้อมเตรียมโจมตี เมื่อเห็นเขายกมือขึ้นกอดตัวเอง ในหัวผุดความทรงจำร้ายกาจขึ้นมาเป็นระลอก เดรโกกัดฟันแน่น ความรู้สึกเหมือนเข็มพันเล่มทิ่มแทงขณะอยู่ใต้คำสาปกรีดแทง เสียงร้องขอชีวิตของผู้ที่โวลเดอร์มอร์ปลดชีวิต เลือดสีแดงฉานบนโต๊ะทานอาหาร ศพที่เขาต้องเอาไปทิ้ง แล้วที่ร้ายที่สุดคือภาพดวงตาว่างเปล่าของแม่ที่มองเขา 

      

     “พวกมันควรจะอยู่ในคุกไม่ใช่เหรอ” เดรโกกัดฟัน ให้ตายสิเขามาทำอะไรที่นี่ เขาช่วยอะไรใครไม่ได้ทั้งนั้น เขามันเป็นคนไร้ประโยชน์สิ้นดี มีแต่คนตาย ๆ รอบ ๆ เขา และเขาไม่เคยทำอะไรได้เลย เขาคิดว่าเขาจะทำได้เหรอ เขาหลอกใครอยู่—

     

    “เดรโก!” แฮร์รี่ตะโกนดึงสติเขา ก่อนจะร่ายคาถาผู้พิทักษ์ “เอกซ์เปกโตร พาโทรนุม” ปลายไม้ของแฮร์รี่มีกวางสีเงินกระโดดออกมา มันวิ่งเหนือน้ำรอบตัวพวกเขา เขารู้สึกอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง จากมือที่กุมมือเขาไว้แน่น หรือจากผู้พิทักษ์ที่กระโดดล้อน้ำกันนะ 

    “ใช่พวกมันควรจะอยู่ในคุกเท่านั้น” แฮร์รี่ขมวดคิ้ว พร้อมกับบังคับให้เรือแล่นเร็วขึ้น เกิดอะไรขึ้นที่อัซคาบัน เดรโกมองไปที่คุกสูงกลางน้ำ ผู้คุมวิญญาณบินหวือลอยออกมาจากที่นั่น พวกมันมุ่งมาหาเขาแต่ผู้พิทักษ์ของแฮร์รี่ก็ไล่พวกมันออกไป เงาดำลอยกระจายไปทุกทิศ เขารู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้น ไม่จริงหรอกน่า โวลเดอร์มอร์จะมาถึงก่อนพวกเขาอีกแล้วหรือ 

     

    แฮร์รี่กระโดดขึ้นฝั่งทันทีเรือถึงคุกอัซคาบัน เขาก้าวยาว ๆ ไปหาห้องของผู้คุมที่นี่ ไล่ผู้คุมวิญญาณที่ตอนนี้เหมือนผึ้งแตกรัง กระจายไปทุกทิศทาง เขาช่วยอะไรไม่ได้เลย เดรโกก้าวข้ามศพแววตาว่างเปล่า พวกเขาถูกดูดวิญญาณไปแล้ว แล้วเดรโกร่ายคาถาผู้พิทักษ์ไม่ได้

     

    ในที่สุดความอลหม่านก็สงบลง ผู้คุมวิญญาณหนีออกไปทั้งหมด หลังจากพวกมันบุกโจมตีผู้คุมที่เป็นมนุษย์ ผู้คุมวิญญาณหลุดออกไปได้ เขาขนลุกและมือสั่นจนแทบจะประคองไม้กายสิทธิ์ไม่ได้ นี่มันแย่ที่สุด ทำไมพวกมันถึงโจมตีขึ้นมาได้

     

    แถมคนที่พวกเขาตั้งใจมาเจอ ก็ไร้ชีวิตไปแล้วเมื่อเดรโกกับแฮร์รี่เดินเข้าไปในห้องขังของกรินเดลวัลด์ ร่างสูงโปร่งผมยาวขาวนอนเหยียดยาว แต่ที่ประหลาดที่สุดคือในใบหน้าที่ยังคงหล่อเหลานั่นประทับด้วยรอยยิ้ม เหมือนยินดีที่ความตายมาเยือน เขาไม่ได้ตายจากผู้คุมวิญญาณ 

     

    “ร่ายคาถาย้อนดูว่าก่อนตายเกิดอะไรขึ้น” แฮร์รี่หันไปสั่งผู้คุมคุก ทุกห้องขังของอัซคาบันมีเวทมนตร์ที่บันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้น

     

    พ่อมดหนุ่มท่าทางงก ๆ เงิ่น ๆ ยกไม้กายสิทธิ์แล้วร่ายคาถาที่มีแค่ผู้คุมของอัซคาบันเท่านั้นที่รู้ แล้วทั้งห้องก็ส่องสว่าง เดรโกหัวใจเต้นแรง ตามองไปที่สองร่างเป็นสีเทาใสกลางห้อง เขารู้ว่ามันคือภาพย้อนอดีต แต่ผู้ชายคนนั้น...ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าเขา 

    ใบหน้าของลอร์ดโวลเดอร์มอร์จ้องมองมาทางเขา

    ไม่สิ...มองมาที่เงาใสสีเทาอีกร่างที่ยืนอยู่ข้างกายเขา ใบหน้าของชายชราที่หมดลมหายใจไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับมองผู้เด็กกว่าอย่างเหยียดหยาม 

     

    “ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์” โวลเดอร์มอร์คำราม “บอกมาอยู่ที่ไหน” 

     

    กรินเดลวัลด์ไม่ตอบ

     

    “ครูซิโอ” โวลเดอร์มอร์ชี้ไปที่ร่างสูงโปร่ง แต่ดูเหมือนระยะเวลาหลายสิบปีในคุกก็ไม่ทำให้เวทมนตร์ของกรินเดลวัลด์เสื่อมถอยลงเลย เพราะชายชราแค่ขมวดคิ้วแล้วสลัดคาถากรีดแทงออกจากตัวได้ง่าย ๆ โวลเดอร์มอร์เดือดดาลมากขึ้น ในเมื่อเวทมนตร์ไม่ได้ผล เขาก็เปลี่ยนมาใช้วิธีรุนแรงอย่างมักเกิ้ล เขาแปลงไม้กายสิทธิ์ตัวเองเป็นแส้แล้วหวดกรินเดลวัลด์แรง ๆ 

     

    “ตอบมา ฉันรู้แกมีไม้เอลเดอร์”

     

    มีไม้เอลเดอร์หรือ เดรโกเบิกตาอย่างตกใจ กรินเดลวัลด์ไม่ใช่แค่พยายามหา แต่เจอแล้วหรือไม้กายสิทธิ์ที่มีอานุภาพที่สุด 

     

    “แกไม่มีวันได้ไปไอ้หนู” กรินเดลวัลด์ตะโกนใส่ ยิ้มเหยียด “แกไม่คู่ควร ทั้งไม้เอลเดอร์ ทั้งบัลลังก์” 

     

    โวลเดอร์มอร์คำราม “อิมเพอริโอ ตอบมาไม้เอลเดอร์อยู่ที่ไหน” 

     

    และเป็นอีกครั้งที่กรินเดลวัลด์หลุดพ้นจากคาถาสะกดใจได้ง่าย ๆ แม้จะเป็นฝ่ายที่ไร้ไม้กายสิทธิ์ 

    “แกจะทรมาณฉันจนตายฉันก็จะตอบคำเดิม ไม้อยู่ที่กษัตริย์ที่คู่ควร แล้วมันไม่ใช่แก” 

     

    “ไอ้เลว ไอ้แก่อัลบัสไม่มีไม้นั่น ข้าเคยประมือกับมันแล้ว มันไม่ได้ใช้ไม้เอลเดอร์” 

     

    “เพราะเขาไม่จำเป็นต้องใช้กับแกไอ้หนู แกไม่ได้ครึ่งนึงของอัลบัสในวันที่เขาแย่ที่สุดด้วยซ้ำ” กรินเดลวัลด์หัวเราะใส่หน้าโวลเดอร์มอร์

       

    “ครูซิโอ” โวลเดอร์มอร์ตะโกนอีกครั้ง และเหมือนครั้งเดิมกรินเดลวัลด์หลุดจากคาถาโดยง่าย เขายิ้มเหยียดใส่ตรงหน้า เหมือนจะท้าทายให้โวลเดอร์มอร์พยายามมากกว่านี้ 

     

    “แกยังรักมันเหรอ มันขังแกเหมือนหมาแบบนี้” 

     

    “แค่พูดความจริง แกไม่ใช่กษัตริย์ที่คู่ควร”  

     

    “ข้าจะฆ่าแกแล้วก็ไอ้แก่นั่นด้วย และจะเป็นกษัตริย์ตลอดไป แล้วแกจะได้เห็นว่าข้ายังไม่คู่ควรอีกไหม” 

     

    “ข้าจะไปรอแกที่นรก ไม่นานแกคงตามข้ามาไอ้หนู” กรินเดลวัลด์หัวเราะอีกครั้ง เหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นสนุกสิ้นดี เหมือนว่าเขาไม่ได้กำลังขู่ว่าจะโดนฆ่าโดยผู้ชายที่น่ากลัวที่สุดในโลก 

     

    “อะวาดา คาเดฟรา” แสงสาดออกมาจากปลายไม้โวลเดอร์มอร์ แม้ในภาพสีเทาจะไม่มีสี แต่เดรโกคิดว่าเขาเห็นแสงสีเขียวชัดเจน และมันกระทบตัวกรินเดลวัลด์ ร่างของนักโทษชราล้มลงทันที 

     

    เดรโกทรุดตัวลงพร้อมกับภาพฉายตรงหน้าที่ค่อย ๆ สลายไป แต่หลังดวงตาเขา เขากลับเห็นอีกภาพอย่างชัดเจน คาถาเดียวกันกระทบตัวแม่ของเขาที่ลอยอยู่เหนือพื้น ร่างของเธอร่วงลงตกลงมาโดยไม่มีเสียงร้องจากปากเล็ก ๆ นั่น คนข้างตัวเขากรีดร้องเหมือนสัตว์เจ็บปวด เดรโกหันไปมองพ่อผ่านม่านน้ำตา ลูเซียส มัลฟอยคว้าไม้กายสิทธิ์ของนาร์ซิสซาร์ มัลฟอยที่ตกพื้น ชี้ไปทางร่างสูงในเสื้อคลุม ผู้ชายที่เคยเป็นเจ้าชีวิตของเขา คาถาเดียวกับที่ใช้ปลิดชีวิตภรรยาถูกพูดออกมาได้แค่ครึ่งเดียว ก่อนที่แสงสีเขียวจะกระทบร่างของลูเซียส ดวงตาว่างเปล่าของพ่อกับแม่มองมาทางเขาเหมือนกำลังกล่าวหาว่าเหตุใดเดรโกจึงไม่ทำอะไรเลย

    ความรู้สึกคลื่นเหียนไล่ขึ้นมาตามคอ เดรโกอาเจียนเอาทุกอย่างออกมา มือกำราวเหล็กของที่นอนในคุกแน่น เขาแสบคอไปหมด แต่อย่างน้อยเขาก็หยุดความทรงจำนั่นเอาไว้ได้ก่อนที่มันจะวนฉายในหัวเขาอีกครั้ง ไม่เขาไม่ได้เห็นพ่อกับแม่ตาย เขาแค่ฝังศพพวกเขา เดรโกพูดกับตัวเองซ้ำ ๆ ให้นึกถึงแค่ตอนที่เขาหย่อนโลงศพลงพื้นดิน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ไม่มี

     

    เดรโก เดรโก!” เสียงตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างเป็นห่วง อ้อมกอดอุ่นกอดตัวเขาไว้แน่น 

    “เป็นอะไร” 

     

    เขาส่ายหน้า ยกมือสั่น ๆ ขึ้นมาเช็ดคราบอาเจียนออกจากปาก ก่อนจะหดตัวลงยกมือขึ้นป้องหน้าเมื่อเห็นคนข้างตัวยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น

     

    “ฉันจะเสกให้มันหายไป” แฮร์รี่พูดช้า ๆ ลดไม้ลง แล้วพึมพำคาถาเบา ๆ อาเจียนบนพื้นหายไป ก่อนจะใช้ข้อมือเช็ดแก้มเขา แววตามองเขาเหมือนกลัวว่าเขาจะแตกสลาย 

     

    “ดูเหมือนเราจะช้าไปนะ” เดรโกพยายามเปลี่ยนเรื่อง กดความทรงจำเอาไว้ มุ่งไปที่สิ่งที่ต้องทำ 

     

    “ไม่หรอก” แฮร์รี่มองไปที่ศพของกรินเดลวัลด์ “เขารู้ว่าคุกอัซคาบันบันทึกทุกอย่างไว้ เขากำลังบอกใบ้เรา” 

     

    “ไม่ใช่กษัตริย์อัลบัสหรอก” เดรโกยันตัวขึ้น ขายังสั่น “ฉันว่าเขาไม่มี” 

     

    “ใช่ไม่ใช่อัลบัสหรอก ไม้กายสิทธิ์ของเขาไม่ใช่ไม้เอลเดอร์แน่นอน” แฮร์รี่พูดอย่างแน่ใจ “แต่ใครคือกษัตริย์ที่คู่ควรในสายตากรินเดลวัลด์กัน”

     

    นั่นสิใครกัน เดรโกมองชายที่นอนเหยียดกลางห้อง 

    “รู้ไหมว่าใครจะรู้”

     

    แฮร์รี่ส่ายหน้า ขมวดคิ้วมองเขา 

     

    “ยายหัวฟูเกรนเจอร์ เธอ...เธอเขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับกรินเดลวัลด์” 

     

    “นายรู้ได้ยังไง” แฮร์รี่เอียงคอมองเขา 

     

    เดรโกกัดปาก เขาไม่ยอมรับหรอกนะว่าเขาอาจจะตามอ่านบทความที่ยายเลือดสีโคลนนั่นตีพิมพ์ เขาแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นฉลาดกว่าเขาตรงไหน ไม่ใช่ว่ายอมรับว่าเรื่องที่เธอเขียนเป็นหลายอย่างที่เขาไม่รู้หรอกนะ 

    “รู้ละกัน นายไปขอให้เธอช่วยซะ”

     

    แฮร์รี่ทำหน้าลำบากใจ มองศพกรินเดลวัลด์ 

    “เฮอร์ไมโอนี่ท้องอยู่นะ แล้วมันก็อันตรายมาก ถ้าเกิดโวลเดอร์—” 

     

    “ให้เธอเลือกเองสิ” อะไรกันนะ หมอนี่คิดจะปกป้องทุกคนเลยรึไงนะ ตอนแรกก็เป็นเขา ตอนนี้ก็เป็นเกรนเจอร์ เธอเป็นแม่มดที่เก่งนะ ไปคิดแทนเธอได้ยังไง 

     

    “เฮอร์ไมโอนี่ก็ต้องช่วยฉันอยู่แล้ว” แฮร์รี่ทำหน้าเศร้า “แต่ฉันไม่อยากให้เธอ—” 

     

    “นายคิดว่าแม่มดที่เก่งที่สุดในรอบศตวรรษดูแลตัวเองไม่ได้รึไง” ให้ตายสิยอมรับก็ได้ว่าเธอเก่ง หัวไว และมีพรสวรรค์ด้านคาถา

     

    แฮร์รี่มองเขา “เฮอร์ไมโอนี่คงดีใจถ้าได้ยิน”

     

    “ถ้านายบอกเธอฉันจะฆ่านายทิ้งซะไอ้หม้อขึ้นสนิม” เขาขู่ แต่ดูเหมือนคำขู่เขาจะไม่ได้ผลเพราะคนที่ยังกอดเขาไม่ปล่อยตอนนี้กลับหัวเราะเบา ๆ 

     

    “อือ ให้เธอเลือกเอง” แฮร์รี่ตกลง 

     

    “แล้วที่นี่ล่ะ” เดรโกมองไปรอบ ๆ ผู้คุมวิญญาณหลุดออกไปแล้ว แล้วโวลเดอร์มอร์เข้ามาเกี่ยว 

     

    “ฉันส่งข้อความไปบอกเนวิลล์แล้ว หน่วยพวกเขาจะจัดการต่อ รวมถึงตามล่าผู้คุมวิญญาณด้วย” 

     

    เขาอยากจะสวนอะไรออกไป อย่างลองบัตท่อมมาปกป้องเขาคงอุ่นใจตายชัก แต่วันนี้ยาวนานและเขาเหนื่อยเกินกว่าจะต่อปากต่อคำกับแฮร์รี่ในห้องขังที่มีศพ

     

    “งั้นกลับบ้านกันเถอะ” เขาพูดเบา ๆ มองสีหน้าของแฮร์รี่ที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง แฮร์รี่ชอบทำหน้าแบบนี้ทุกครั้งเวลาเขาพูดถึงบ้าน ไม่อยากกลับไปคฤหาสน์มัลฟอยรึไงนะ เขาก็เหมือนกันนั่นแหละ 

     

    แต่แฮร์รี่ก็จับมือเขาไว้แน่น ก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้า “อือ กลับบ้าน”  

    ------------------------------------------------------------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×