คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จดหมายฉบับที่ 1 - Draco
เดรโก
มัลฟอยกำมือแน่น เขาจะไม่ร้องไห้
เขาคือมัลฟอยและเขาจะต้องไม่ร้องไห้ต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้
แต่ทันทีที่เดินออกจากห้องสัมภาษณ์เพื่อเข้าเรียนที่วิทยาลัยโควิงตัน
วิทยาลัยพิเศษเพื่อการศึกษาวิชาปรุงยาขั้นสูง เขาก็รู้ว่าเขาไม่มีวันได้เข้าที่นี่...หรือที่ไหนๆก็ตามที่เขาสมัคร
ไม่มีใครสนใจอีกแล้วกับคะแนนส.พ.บ.ส.
หรือเรียงความที่เขาเขียนว่าทำไมเขาอยากจะเป็นนักปรุงยา
ทันทีที่ทุกคนเห็นนามสกุลของเขา แค่นั้นก็ตัดสินชะตาชีวิตของเขาไปตลอดกาล...
มืดหม่นและไม่มีประตูไหนจะเปิดรับเขา
ตระกูลมัลฟอยไม่มีค่าอีกแล้ว
พวกเขาเป็นผู้แพ้
เงินทองที่มีทั้งหมดต้องเสียไปเพื่อเยียวยาให้กับครอบครัวของเหล่าผู้สูญเสียจากสงคราม
นอกจากนั้นในฐานะอดีตผู้เสพความตาย แม้เขาจะไม่ต้องเข้าคุก
แต่เขาก็ต้องรายงานตัวต่อสำนักงานมือปราบมารเป็นระยะ เพื่อให้โลกเวทมนตร์แน่ใจว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลวร้ายอีก
ตอนนี้พวกเขาไร้ทั้งเกียรติ ไร้ทั้งความมั่งคั่ง ไร้อิสรภาพใดๆ
ร่างบางปิดตาลงอีกครั้ง
เกือบสี่เดือนแล้วหลังจากจบสงคราม
แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกว่าเขาเป็นอิสระแม้เพียงสักนิดเดียว
~~~#######~~~
“เดรโก มัลฟอย มารายงายตัว” เดรโกถือเอกสารแล้วเดินไปที่โต๊ะของเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์
ก่อนจะหยุดเมื่อเห็นว่าใครอีกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นด้วย
ผมสีดำยุ่งเหยิงพร้อมกับใบหน้าที่เขาไม่คิดว่าจะลืมได้ตลอดชีวิต...หรืออย่างน้อยหนังสือพิมพ์ก็คงไม่ปล่อยให้เขาลืม
ในเมื่อเดลี่โพรเฟ็ตเล่นพิมพ์หน้าหมอนี้หราได้ทุกวัน เขากลืนน้ำลาย
แล้วทำเป็นไม่เห็นอีกคน แต่เขารู้สึกสายตาของพอตเตอร์ที่มองตามเขา
ให้ตายสิหมอนี้มาทำอะไรที่นี่ พอตเตอร์ยังเป็นแค่มือปราบมารฝึกหัดไม่ใช่รึไง
พวกนั้นต้องเข้าโครงการฝึกอย่างน้อยสองปีก่อนจะได้ทำงานจริงๆได้
“วันนี้เจ้าหน้าที่ฝึกหัดพอตเตอร์มาสังเกตการทำงานจริง” มือปราบมารเจ้าของคดีของเขาพูดเหมือนจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เดรโกทำได้เพียงเม้มปากแน่นแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะ
แล้วส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่วิลเลี่ยมสันผู้ดูแลคดีของเขา วิลเลี่ยมสันเป็นสิ่งดีๆไม่กี่อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาในรอบหลายๆปี
ชายสูงวัยไม่เคยพูดจาดูถูกถากถางเขาเหมือนมือปราบมารหรือเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์คนอื่นๆ
เขาปฏิบัติต่อเดรโกเหมือนคนปกติ...ปกติเท่าที่คนอยู่ในโครงการควบคุมความประพฤติจะถูกปฏิบัติได้ด้วย
เดรโกพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ
ตามองไปที่อื่นนอกจากใบหน้าของพอตเตอร์
มือปราบมารวิลเลี่ยมสันอธิบายเกี่ยวกับโครงการควบคุมความประพฤติสำหรับผู้กระทำผิดในสงครามในฐานะผู้เยาว์หรือผู้ได้รับการผ่อนปรน
ทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องที่เขารู้อยู่แล้ว
ในครั้งแรกที่เขาถูกส่งเข้าโครงการนี้แทนที่จะเป็นคุกอัซคาบันก็มีเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์มาอธิบายเรื่องพวกนี้ให้เขาฟังเช่นกัน
...เขาเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้
...เขาต้องรายงายบัญชีกริงกอตต์
จดหมาย และการใช้เครือข่ายฟลูให้มือปราบมารที่รับผิดชอบเขารับรู้ทุกเดือน
...เขาถูกจำกัดว่าใช้เวทมนตร์หรือปรุงยาอะไรได้บ้าง
...สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่แน่ใจว่าคุกอัซคาบันหรือโครงการบ้าๆนี้มันต่างกันตรงไหน
พอตเตอร์พยักหน้าเข้าใจ
พร้อมกับลอบมองหน้าเขาอีกครั้ง
“แล้วเอ่อ...มัลฟอย...ผมหมายถึงผู้ถูกควบคุมความประพฤติต้องอยู่ในโครงการนานขนาดไหนครับ”
“ถ้าเป็นกรณีของผู้เยาว์ที่ไปร่วมกับโวลเดอร์มอร์คือต้องมารายงานตัวทุกเดือนเป็นระยะเวลาสองปี”
เจ้าหน้าที่วิลเลี่ยมสันตอบเรียบๆ เดรโกเบ้หน้า ใช่สองปี
แต่วิลเลี่ยมสันลืมอธิบายไปว่าหลังจากนั้นพวกเขาต้องอยู่ในโครงการเฝ้าระวังซึ่งแม้จะไม่ต้องมารายงานตัวแต่มือปราบมารยังสามารถตรวจค้นบ้านของพวกเขาหรือบัญชีธนาคารได้โดยไม่ต้องขอหมายค้น...เขาจะต้องถูกละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานตลอดชีวิตเพียงเพราะเขาตัดสินใจผิดๆตอนอายุสิบหก
หลังจากนั้นวิลเลี่ยมสันก็อธิบายเอกสารของเขาทีละชิ้นให้พอตเตอร์ฟัง
ให้ตายสิทำไมคนที่จะต้องมารับรู้เรื่องแย่ๆในเดือนนี้ของเขาต้องเป็นพอตเตอร์ด้วยนะ
หมอนั้นต้องเห็นเขาจมเหวสักกี่ครั้งกันเชียว
“เฮ้ มัลฟอยนายเดินทางไปเวลล์นี้” เสียงของมือปราบมารสูงวัยทำให้เขาสะดุ้งขึ้นจากภวังค์
“ใช่ ผมมีสัมภาษณ์กับวิทยาลัยโควิงตัน ผมมีจดหมายเชิญจากโควิงตันแนบมาด้วย”
ที่จริงไม่ใช่แค่จดหมายเชิญแต่เป็นทุกอย่างทั้งจดหมายสมัครเรียน
ผลคะแนน ทุกอย่างที่เขาส่งให้โควิงตัน เขาไม่รู้ว่าวิลเลี่ยมสันจะต้องการอะไรบ้าง
แล้วเขาไม่อยากต้องกลับมาที่นี่อีกพรุ่งนี้หากเอกสารไม่ครบ
“ปรุงยาเหรอ แล้วผลเป็นไงบ้างล่ะ ถ้านายได้เรียนที่นั้นเราอาจจะต้องหาวิธีเรื่องการรายงานตัวของนายใหม่
หรือนายจะแวบออกมาได้เดือนล่ะครั้ง”
เดรโกเม้มปาก
“ผมถูกปฏิเสธไปแล้ว”
“เสียใจด้วยนะ แต่มันต้องมีที่อื่นอีกสิ” คราวนี้ไม่ใช่เสียงของวิลเลี่ยมสันแต่กลับเป็นพอตเตอร์
เดรโกหรี่ตามองอีกคน หมอนั้นจะรู้อะไร หมอนั้นไม่จำเป็นต้องสอบส.พ.บ.ส.เพื่อจะเข้าเป็นมือปราบมารด้วยซ้ำ
หมอนั้นได้ทุกอย่างมาอย่างง่ายดาย
“โควิงตันเป็นวิทยาลัยพิเศษเพื่อการศึกษาวิชาปรุงยาขั้นสูงแห่งเดียวในเกาะอังกฤษ”
เดรโกพูดเสียงเข้ม
“แล้วฉันก็ออกจากเกาะบ้าๆนี้ไปไม่ได้” เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงรำคาญ
หมดกันความพยายามที่จะทำสีหน้าเป็นปกติต่อหน้าพอตเตอร์
แต่การได้เห็นหมอนั้นทำหน้าตะลึงแบบนั้นก็สะใจเขาไม่น้อย บางทีอาจจะคุ้มก็ได้
หนึ่งในข้อบังคับของโครงการควบคุมความประพฤติคือห้ามเดินทางออกนอกเกาะอังกฤษ
เดรโกต้องใส่ข้อมือป้องกันหากพวกเขาพยายามเดินทางออกนอกประเทศข้อมือนั้นจะทำตัวเป็นกุญแจนำทางดึงพวกเขากลับมาหาเจ้าหน้าที่เจ้าของคดีทันที
ทุกอย่างมันห่วยแตกสุดๆ
ทันทีที่วิลเลี่ยมสันเสกคาถาประทับตราว่าเขาผ่านการตรวจสำหรับเดือนนี้
เดรโกก็รีบรวบเอกสารทั้งหมดแล้วหันหลังออกไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแม้สักวินาทีเดียว
ตลอดสามสิบนาทีที่ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับจดหมาย รายการซื้อของ
พร้อมกับมีสายตาของพอตเตอร์มองเขาด้วยความสมเพช
มันเพียงพอแล้วที่จะส่งให้เขาอยากเข้าไปหมกตัวอยู่ในห้องมืดๆคนเดียว
ถ้าหากเพียงแค่สายตาของหมอนั้นเป็นเย้ยหยันหรืออะไรอย่างอื่นเขาคงไม่รู้สึกอะไร
หมอนั้นมีสิทธิอะไรที่จะมาสงสารหรือสมเพชเขา
เขาเกลียดแฮร์รี่
พอตเตอร์ ...เกลียด ...เกลียด ...เกลียด
~~~#######~~~
และบางทีเขาคงรีบเกินไปจนทำให้เขาลืมเอกสารเอาไว้ที่โต๊ะนั้น
เพราะคืนนั้นนั้นนกฮูกสีน้ำตาลตัวใหญ่บินมาเคาะกระจกห้องเขา
พร้อมกับวัสดุในอุ้งเท้า
เมื่อเขาคลี่ออก
มันก็คือเรียงความสมัครเรียนของเขา พร้อมกับโน้ตที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ
มัลฟอย
นายลืมนี้เอาไว้ที่สำนักงานวันนี้
ฉันพยายามวิ่งตามจะเอาไปให้นายแต่นายหายตัวไปก่อน
จาก
แฮร์รี่ พอตเตอร์
เดรโกอยากจะสาบส่งโชคชะตาที่ทำให้เขาลืมไอ้เรียงความนี้เอาไว้
ในของทั้งหมดวันนี้ นี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากจะให้พอตเตอร์เห็น
เขาเขียนมันออกมาด้วยความสิ้นหวัง เปิดทุกอย่างในใจให้คณะกรรมการเลือกสรรอ่าน
หวังว่าหากเขาจริงใจสักครั้งบางทีอะไรๆมันอาจจะต่างออกไป
แต่ดูสิ...
สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้รับเลือก
และคนที่ได้มาอ่านไอ้นี่ก็ยังเป็นคนสุดท้ายในโลกที่เขาอยากเห็นอีกด้วย
และดูเหมือนการมาเยี่ยมเยียนจากนกฮูกแปลกๆจะไม่ได้หยุดแค่คืนนั้น
เพราะหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์เดรโกก็ได้รับจดหมายที่แปลกที่สุด ก็ถูกส่งมาหาเขา
นกฮูกยักษ์สีดำมาพร้อมกับจดหมายสองฉบับ
...จดหมายประทับตราเฮอร์ลิช
อคาเดมี่ – วิทยาลัยสอนวิชาปรุงยาขั้นสูง มีชื่อเสียงพอๆกับวิทยาลัยโควิงตันที่เขาสมัคร
แต่ที่นี่ตั้งอยู่ในป่าดำของเยอรมันนี เขาถึงไม่คิดแม้แต่จะสมัครเข้าเรียนที่นี่
และจดหมายไร้นาม
เดรโกตัดสินใจเปิดจดหมายที่ไม่ลงชื่อผู้ส่งก่อนเป็นฉบับแรก
เรียนเดรโก
มัลฟอย
เธอคงได้รับจดหมายตอบรับเข้าเรียนจากเฮอร์ลิช
อคาเดมี่แล้ว
ในฐานะผู้ต้องการเป็นมาสเตอร์แห่งการปรุงยาเธอคงรู้จักชื่อเสียงของที่นี่ดี
สถาบันสอนวิชาการปรุงยาที่ไม่เป็นสองรองจากโควิงตัน
ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้สมัครเข้าเรียนที่นี่
แต่หลังจากที่ฉันได้เห็นจดหมายสมัครเรียนที่เธอส่งให้โควิงตันรวมถึงคะแนนวิชาปรุงยาของเธอแล้วฉันก็อดไม่ได้ที่ส่งประวัติของเธอไปที่นั้น
พร้อมกับติดต่อเพื่อนเก่าของฉันอย่างมิเนอร์ว่า มักกอนนากัลป์ให้เป็นผู้รับรองเธอ
เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างที่เธอต้องอยู่ในโครงการควบคุมตัวของกระทรวงเวทมนตร์นั้นฉันลองคุยกับท่านรัฐมนตรีและท่านก็ตกลงว่าตราบใดที่เป็นการเดินทางเพื่อการศึกษาเธอมีสิทธิ์ที่จะเดินทางออกนอกประเทศนี้ได้
คงจะมีการติดต่อโดยมือปราบมารที่ดูแลเธอในไม่ช้า
เธออาจจะถามฉันว่าทำไมฉันทำแบบนี้ทั้งๆที่ฉันไม่ได้รู้จักกับเธอเป็นการส่วนตัวเลยสักนิด
แต่ฉันรู้จักกับคนสองคนที่อยากจะสร้างทางเลือกให้กับเธอ ศาสตราจารย์อัลบัส
ดัมเบิลดอร์ และศาสตราจารย์เซเวอรัส สเนป สิ่งที่เธอทำตอนนั้นมันผิดก็จริง
แต่เธอไม่ได้มีโอกาสเลือกเลยเดรโก มัลฟอย
แล้วสิ่งเดียวที่ฉันหวังก็คือการได้เห็นพ่อมดรุ่นใหม่มีความสามารถอย่างเธอใช้ความสามารถเพื่อส่วนรวมดั่งเช่นในเรียงความที่เธอส่งไปให้โควิงตัน
ได้โปรดอย่าทำให้ฉันผิดหวังนะเดรโก
ฉันจะคอยเฝ้าดูเธอตลอดสี่ปีจากนี้ไป และหวังว่าเธอจะสนุกกับการเรียน
จากผู้หวังดีของเธอ
เดรโกอ่านจดหมายนั้นซ้ำรอบแล้วรอบเล่า
มือสั่นเทาขณะเปิดจดหมายจากเฮอร์ลิช อคาเดมี่ และเป็นดั่งที่ในจดหมายอีกฉบับบอกเขา
เขาได้รับอนุญาตให้เข้าเรียนคลาสสำหรับวิชาการปรุงยาขั้นสูงของเฮอร์ลิช
ซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ค่าเล่าเรียนทุกอย่างของเขาถูกจัดการชำระแล้วจากผู้บริจาคนิรนาม
หลักสูตรของที่นี่ไม่ต่างจากวิทยาลัยโควิงตัน เขาต้องเรียนภาคทฤษฎีที่อคาเดมี่เป็นเวลาสองปี
ก่อนจะฝีกงานอีกสองปีแล้วจึงจะได้รับรองในฐานะผู้เชี่ยวชาญการปรุงยา
“มัลฟอย”
เสียงเรียกชื่อเขาจากเตาผิงทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งหันไปมอง
ในเปลวเพลิงคือใบหน้าของวิลเลี่ยมสัน เดรโกรีบก้มลงนั่งอยู่หน้าเตาผิง
“มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสถานการณ์เดินทางของนาย
ฉันต้องขอเพื่อเสกคาถาใหม่ใส่สร้อยข้อมือของนาย แล้วต้องคุยกับนายเรื่องการรายงานตัวประจำเดือนด้วย
นายสะดวกไหมมัลฟอย”
เดรโกรีบพยักหน้า
แล้วถอยหลังออกมา รอให้มือปราบมารก้าวผ่านเตาผิงเข้ามาในห้องเขา
“ยินดีด้วยนะมัลฟอย
ได้ยินเรื่องที่นายได้รับตอบรับเข้าเรียนแล้ว” วิลเลี่ยมสันพูดยิ้มๆ
พร้อมกับจับข้อมือเดรโกขึ้นมาและร่ายคาถาเบาๆ
“นายจะได้รับอนุญาตให้หายตัวได้ในเยอรมันนีและถ้าหากนายมีกิจกรรมของอคาเดมี่ที่ต้องเดินทางไปที่อื่นนอกจากเยอรมันนีนายต้องเขียนจดหมายมาบอกฉันก่อนทุกครั้ง
เข้าใจนะมัลฟอย”
“แล้วเรื่องการรายงานตัวประจำเดือน
นายต้องส่งเอกสารทุกอย่างให้กับอาจารย์ใหญ่ของที่เฮอร์ลิชแทน
แล้วเขาจะส่งต่อให้ฉันเอง นายไม่ต้องมาที่สำนักงาน
แต่ถ้าเมื่อไหร่ฉันส่งจดหมายเรียกตัว นายต้องมาทันทีเลยล่ะ”
เดรโกพยักหน้า
“คระ...ใครเป็นคนพูดกับท่านรัฐมนตรีให้เกี่ยวกับผม”
คนเดียวที่เขาพอจะถามได้ก็วิลเลี่ยมสันนี้แหละ มือปราบมารชราชะงักไป
ก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เอาเป็นว่านายทำให้ใครบางคนที่สำคัญมากๆ
คนที่เปลี่ยนใจทั้งท่านรัฐมนตรีและศาลสูงได้ สนใจในเรื่องของนายก็แล้วกัน”
เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว
ทำไมกัน เพียงเพราะเรียงความโง่ๆนั้นหรือ
“เขาหรือเธอเป็นคณะกรรมการคัดสรรของโควิงตันด้วยหรือเปล่า”
วิลเลี่ยมสันส่ายหน้า
“ฉันบอกเธอไปมากกว่านี้ไม่ได้ ฉันสัญญากับหมอนั้นเอาไว้ว่าจะไม่พูดอะไร
แล้วที่ฉันรู้เพราะว่าฉันเป็นคนรับผิดชอบเรื่องของเธอ แต่บอกเอาไว้เลยนะว่าเธอทำให้หลายๆคนเริ่มมองโครงการนี้ใหม่ว่านี้เป็นการจำกัดสิทธิเกินไปหรือเปล่า
โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ได้ทำผิดอะไรมากมายเช่นเธอ”
ทำไมกัน
ทำไมกัน คำถามนั้นดังก้องในหัวเดรโก
“ถ้าคุณเจอเขา...
ช่วยบอกเขาด้วยว่า....ผมขอบคุณ” เด็กหนุ่มพูดเสียงเบา
วิลเลี่ยมสันเลิกคิ้ว
“นายก็บอกเขาเองสิ
นั้นนกฮูกเขาไม่ใช่รึไง”
ร่างบางนึกได้ทันที
ในฐานะผู้รับผิดชอบเขา วิลเลี่ยมสันจะรู้ว่ามีจดหมายจากใครส่งมาถึงเขาบ้าง
เมื่อเจ้าหน้าที่ชราจากไป
เดรโกก็เดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ ใช่เขาควรขอบคุณ
มีเรื่องมากมายที่เขาอยากจะพูด
และมันคงดีที่สุดถ้าเขาได้พูดมันออกไปด้วยเสียงของเขาเอง
เรียนศาสตราจารย์
ผมเรียกคุณว่าศาสตราจารย์ได้ใช่ไหมครับ คุณรู้จักกับทั้งศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์และศาสตราจารย์สเนป
ผมคิดว่าพวกคุณคงอยู่ในวงจรเดียวกัน
ผมคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องดีมากหากคุณสามารถบอกชื่อคุณให้ผมทราบได้
ผมเป็นหนี้คุณอย่างมหาศาล และผมอยากจะรู้ว่าคุณเป็นใคร
เผื่อจะมีหนทางไหนที่ผมจะตอบแทนคุณได้
ผมบรรยายความรู้สึกตัวเองขณะอ่านจดหมายจากคุณและเฮอร์ลิช
อคาเดมี่ไม่ถูกเลยทีเดียว มันผสมกันทั้งความประหลาดใจ ตื้นตัน ยินดี และกลัว
...ผมกลัวว่าบางทีผมอาจจะกำลังฝันไป ตลอดสองปีที่ผ่านมาผมมักจะฝันเสมอๆ
ฝันร้ายและฝันดี ฝันแบบที่ทำให้ผมอยากจะหลับตลอดไปเพราะทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาผมต้องเผชิญกับความจริง...ซึ่งมันไม่โสภาสักนิดเดียว
คุณบอกว่าผมไม่มีทางเลือก...นั้นไม่จริงเลยครับ ผมมีทางเลือกมากมาย
ครั้งหนึ่งศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เคยยื่นมือมาให้โอกาสผม
แต่ผมเลือกที่จะก้าวเข้าไปในเส้นทางที่ผิด ผมมีทางเลือกเสมอ ทางเลือกที่จะหนี
ทางเลือกที่จะหันหลังให้กับทุกอย่างที่เป็นตระกูลมัลฟอย
แต่ผมเลือกที่จะเดินตามเส้นทางอย่างที่ผมถูกคาดหวัง
...คุณเข้าใจใช่ไหมครับว่าคุณกำลังให้โอกาสคนแบบไหนอยู่
...คุณกำลังให้โอกาสคนที่ละทิ้งจิตสำนึกและเลือกที่จะฆ่าคนบริสุทธิ์
ผมไม่ใช่คนดีเลยสักนิด ดังนั้นผมเลยเข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีใครเปิดโอกาสให้ผม
แต่ทุกอย่างที่คุณอ่านในเรียงความนั้นคือสิ่งที่ผมคิด
ผมมีความสุขเสมอที่ได้มองหม้อปรุงยาเดือดปุดๆ
รอคอยว่าวัตถุดิบต่างๆจะรวมกันแล้วสร้างอะไรใหม่ขึ้นมา
น้ำยาต่างๆที่เป็นที่ต้องการต่างมาจากส่วนผสมที่คนธรรมดาไม่แม้แต่จะชายตามอง...
เพียงแค่ผ่านวิธีการไม่กี่อย่าง
แต่เราจะเปลี่ยนชิ้นส่วนแปลกๆไร้ค่าให้เป็นยาวิเศษมีค่ามหาศาลได้
และนั้นคงเป็นเหตุผลที่ผมหลงใหลในวิชาปรุงยา
ผมไม่รู้ว่าสุดท้ายผมจะจบออกมาเป็นพ่อมดอย่างที่คุณหวังได้ไหม
แต่ผมจะพยายามอย่างดีที่สุด
ด้วยความเคารพอย่างสูง
เดรโก มัลฟอย
ป.ล. แน่ใจนะครับว่าคุณยังอยากจะช่วยผมอยู่จริงๆ?
~~~#######~~~
ความคิดเห็น