Third Eye (สืบด้วยตา สัมผัสด้วยใจ) มี E-Book
สารวัตรหนุ่ม ผู้มีความเอกอุในการสืบคดี ไม่มีคดีไหนที่เขาจะสืบแล้วพลาด ที่จริงแล้ว เขามีใครบางคน ที่คอยอยู่ข้างกาย เป็นคนบอกด้วยสัมผัสพิเศษ ตาที่สาม
ผู้เข้าชมรวม
525
ผู้เข้าชมเดือนนี้
213
ผู้เข้าชมรวม
มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นิยายเรื่องนี้ ถูกเขียนขึ้นด้วยจินตนาการของผู้เขียนทั้งหมด ตัวละคร สถานที่ ชื่อ เหตุการณ์ ไม่มีอยู่จริง ผู้เขียนตั้งใจเขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นแอบแผง เพื่อที่จะทำให้ผู้ใด หรือองค์กรใดได้รับความเสื่อมเสีย เสียหาย ถ้าหากว่าได้รับความไม่สบายใจ หรือขัดเคืองใจในบทบาทในนิยาย ผู้เขียนก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย และหวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความบันเทิงจากการอ่านนิยายเรื่องนี้ ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณครับ
มกุฎโกเมน
มี E-Book แล้วนะครับ ตามลิงค์ด้านล่างเลยครับผม
ขอบคุณมากครับ
“เขาไม่ได้ตายมาก่อนหน้านี้ นี่ไม่ใช่การอำพราง แต่มันคือการเผาเขาทั้งเป็น โอ ตะวัน มันโหดร้ายมาก เขาโกรธแค้น เขาไม่ยอม” ชายหนุ่มสูงเพรียว สวมแว่นสายตาหนาเตอะ หลับตานิ่งเปลือกตานั้นกรอกไปมาเหมือนว่าการหลับตาไม่ได้ช่วยให้เขาปิดจอภาพได้เลย ภาพที่เขาเห็นผ่านสัมผัสพิเศษหรือ ตาที่สามนั้น คือร่างของชายรูปร่างสูง ตัวดำไหม้เกรียม เขาปรากฏร่างในสภาพที่เขาตาย
“เขาบอกได้ไหม ว่าใคร” สารวัตรหนุ่มถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่กระตือรือร้น
“เขาบอกไม่ได้ มันผิดกฎ” กฎที่ว่าคือกฎหลังความตาย วิญญาณไม่สามารถจะเอ่ยปากบอกว่าตัวเขาเองตายโดยใคร กรรม มันคือการฝืนกรรม
“เห็นอะไรอีก ทิตย์” เขาร้อนใจ
“ของกิน เหล้า เขาไม่มีพลังแล้วตะวัน” ทั้งสองสนทนากันผ่านสายโทรศัพท์ สารวัตรหนุ่มมีหูฟังไร้สายเสียบไว้ที่หูด้านขวา ส่วนหนุ่มแว่นหนาเปิดลำโพงเพราะเขากำลังใช้สมาธิเพ่ง ไม่นานภาพเหล่านั้นก็จางหายไป เขาถอนออกจากสมาธิแล้วหายใจหอบ พลังงานที่ใช้ไปทำให้เขาแทบทรุด ทุกครั้งเขาจะไม่ได้ใช้พลังหากว่าเพียงแค่เห็น แต่ครั้งใดที่เขาต้องการที่จะสื่อสาร เขาจะสูญเสียพลังงานไปอย่างรวดเร็ว
“ผู้ตายไปที่บ้านของผู้ใหญ่ ในคืนวันที่ ๑๑ สิงหาคม เวลา ๒๐.๓๐ น.” เขาเดินกลับไปหาผู้กองที่ทำการสอบสวนและเล่าสิ่งที่หนุ่มแว่นหนาสื่อสารมา ผู้กองหนุ่มเดินเข้าไปในห้องสืบสวน ข้อมูลที่ได้มาจากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ มันอาจจะเอาผิดหรือกล่าวโทษเขาไม่ได้ ทว่าพยานบุคคลที่อยู่ละแวกบ้านของผู้ใหญ่วัลลพนั้น ให้การตรงกันว่าผู้ตายได้ไปที่บ้านของผู้ใหญ่ในคืนก่อนที่เขาจะหายตัวไป
“เขาไปเยี่ยม ทำไมเหรอสารวัตร ลูกบ้านไปเยี่ยมผม มันแปลกหรือไง” ผู้ใหญ่วัลลพทำเสียงขึงขัง แค่ลากตัวเขามาสอบสวนนี่ก็เสื่อมเสียชื่อเสียงของเขามากพอแล้ว
“มันไม่แปลกหรอกครับ แล้วหลังจากนั้น ผู้ใหญ่ออกจากบ้านไปไหนครับ มีภาพจากกล้องวงจรปิด ว่าผู้ใหญ่จอดซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อตอน ๒๓.๒๑ น. และดูจากทิศทางที่ผู้ใหญ่ไป มันคือป่ายางทั้งหมดนี่ครับ แล้วภาพจากกล้องยังบันทึกขากลับของผู้ใหญ่ได้อีกในวันรุ่งขึ้น ผ่านไป ๕ ชั่วโมง อีกอย่าง บนเบาะรถของผู้ใหญ่มีเขม่าไฟติดมาด้วยนะครับ” ผู้กองหนุ่มถามเสียงเย็นเข้ม สายตาไม่วางจากตัวผู้ต้องสงสัย
“เขาถูกวางยาสลบ แล้วถูกนำตัวไปเผานั่งยาง” “ไหนบอกว่าจะยกลูกสาวให้กู ทำไมน้อยถึงไปแต่งงานกับเสี่ยชัย ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง ถ้ากูไม่ได้น้อยเป็นเมีย ก็คืนสินสอดของกูมา” ประโยคที่ปลายสายบอกออกมาเมื่อก่อนเข้ามาในห้องสอบสวน ผู้กองหนุ่มเรียบเรียงและทำน้ำเสียงให้เหมือนกับที่รับถ่ายทอดมา ผู้ต้องสงสัยหน้าซีด เหงื่อกาฬผุดขึ้นตามกรอบหน้าทั้งที่ห้องสืบสวนเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ เย็นจนหนาว แต่เขากลับมีเหงื่อผุดพราวขึ้น
“ขอบใจมากนะทิตย์ ไม่ได้ทิตย์นี่แย่เลย หลักฐานอะไรก็ไม่มี แค่ผู้กองพูดประโยคนั้นออกไป ผู้ใหญ่ก็ลนลาน ยอมรับสารภาพออกมาหมดเลย” สารวัตรหนุ่มกล่าวขอบใจเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว คนพิเศษของเขานับจากมัธยมต้น จนมาถึงปัจจุบัน เพื่อนคนที่มีสัมผัสพิเศษ เพื่อนคนที่มีตาที่สาม เพื่อนคนที่ช่วยเขาสืบในคดีที่อธิบายไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์
ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะคร้าบ
ขอบคุณมากครับ
ผลงานอื่นๆ ของ Mkutkomen ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Mkutkomen
ความคิดเห็น