[SF] Yunjae 'The world was awesome' - [SF] Yunjae 'The world was awesome' นิยาย [SF] Yunjae 'The world was awesome' : Dek-D.com - Writer

    [SF] Yunjae 'The world was awesome'

    "โลกเคยสวยงามกว่านี้.. แต่ตอนนี้โลกของผม จากไปแล้ว" แจจุง "ฉันขอโทษ" ยุนโฮ

    ผู้เข้าชมรวม

    750

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    750

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ก.พ. 53 / 20:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ก่อนอื่น... กราบสวัสดีคะ!!

    ทั้งคนที่เพิ่งเคยรู้จักเราหรือ.. รู้จักเรามาจากเรื่องก่อนๆมาแล้ว.. = ="

    เอ่อสำหรับคนที่เคยได้อ่านงานของเรา ต้องขอบอกเลยว่าาา

    ตอนนี้แจมอำลานิยายยาวทุกเรื่องแล้วคะ

    ทั้ง EYE ON U และฟิคไซ+ดีเกรย์ เพราะตอนนี้หมกมุ่นกับเรื่องเรียนน่าดู

    เลยไม่สามารถมาต่อเรื่องยาวได้เลย แต่วันนี้เอาเรื่องสั้น.. เศร้าๆ (อีกแล้ว) มาฝากคะ

    หวังว่าจะมีคนชอบนะ T T อยากลืมเม้นกันนะค๊าาา ^_______________^ /~



    Theme song

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      The World Was Awesome

       

                      ทุกวันนี้ผมคิดว่าผมจะอยู่ได้โดยไม่มีเขา ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องดีที่ผมจะยิ้มได้เหมือนเคย จะหัวเราะ และมีความรักครั้งใหม่กับใครคนอื่น แต่ผมเข้าใจผิด ทุกๆอย่างมันผิดไปหมด ผิดตั้งแต่.. เริ่ม

       

                      “นายมาช้าอีกแล้วนะแจจุง” เสียงที่เรียกสติผมจากภวังค์

                      “เหอะ แกอยากตายไหม? ฉันน่ะรอนายมาเกือบชม.อยู่แล้วเพิ่งโผล่หนังหน้ามาป่านนี้แล้วยังจะ..”

                      “เออๆ แหม ฉันก็แหย่เล่นเอง เอิ่มเรื่องแบบร้านที่นายสั่งให้ยูชอนไปออกแบบให้นะ เสร็จแล้วนะแต่ตัวโมเดลยังมาไม่ถึง.. “ จุนซูเพื่อนผมยิ้มแหยๆ แล้วก็ควักมือถือออกมาเปิดรูปถ่ายของโมเดลร้านเน็ตบุฟเฟ่ของพวกเรา จริงๆผมก็ไม่ใช่ความคิดของผมคนเดียวหรอกนะ ไปเน็ตเหน็ตน่ะ ผมไม่ใช่พวกเก่งเทคโนโลยีอยู่แล้วเลย.. ฮ่ะๆไม่ต้องพูดถึง ผมแค่อยากมีร้านอาหารเล็ก ไม่ก็ขนมหวานเครื่องดื่มนิดหน่อยให้คนมานั่งพักกันในเมืองวุ่นวายๆอย่างโซลนี้

                      “ร้านก็ดูดีหรอกนะ แต่ใครจะเป็นคนวางระบบคอมฯให้ฉันล่ะ นายหรอ? หรือยูชอน เหอะ ห่วยกันมันที่แก๊งแหละเราน่ะ”

                      “โอ๊ะ ดูถูกแบบนี้พ่อจะกลายร่างเป็นจาพนมใส่ซะดีไหม? หึ! เรื่องนั้นน่ะฉันกับยูชอนคุยกันแล้วเลยตั้งใจว่าจะไปวานเพื่อนของรุ่นที่อยู่ในที่ทำงานของยูชอนมาจัดการ นอกนั้น... ขึ้นกับเงินแล้วว่ะเพื่อน”

                      “ฮ่าๆๆ โอเค ขอบใจมากนะเพื่อน แหมยูชอนมันโชคดีว่ะ มีแฟนทั้งเก่ง ทั้ง...หน้าตาดี สุดยอดๆ”

                      “โอ้ แน่นอนครับ จุนซูคนนี้เพรียบพร้อมอยู่แล้ว” ใช่ครับมันดูเป็นบทสนทนาที่เป็นเรื่องธรรมดาของเพื่อน เป็นการพูดคุยของคนธรรมดา ไร้ความเจ็บปวด ฮ่ะๆ ผมน่าจะไปเป็นนักแสดงนะ อย่างน้อยผมก็พอจะหลอกเพื่อนๆผมได้ว่าผมไม่เป็นไร ผมยังมีความสุขอยู่ดี

                      เรื่องนี้มันเกิดเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ผมไม่แน่ใจ เพราะความรู้สึกทุกๆอย่างมันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน รู้สึกเหมือนยังเป็นเมื่อคืนที่เขากอดผมเอาไว้แล้วมอบจูบให้ผม ฮะๆ จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องที่น่าอายนะครับแต่มันคงเป็นเรื่องน่าอายที่ผมจะจดจำและเก็บมันไว้ในใจไปตลอดเลยล่ะ

                      ชอง ยุนโฮคือชื่อของเขา แน่นอนครับ ดูแค่ชื่อคุณก็คงพอจะเดาได้ว่าเขาเป็น... เอ่อ... รูปหล่อ.. แหะๆ ผมไม่ได้ยอหรอกนะ.. แต่เขาหล่อจริงๆนิ! เขาตัวสูงกำลังดีเลยล่ะครับ(ไม่ต้องเขย่งแค่ยืดตัวนิดหน่อยก็.. จูบถึงแล้ว > <) หุ่นก็..ดีแต่ก็ไม่เท่าผมหรอกนะ ^______^ ถึงบางครั้งเขาจะขอให้ผมเลิกฟิตกล้ามเพราะมันทำให้ผมดูแมนเกินไปแต่.. ผมก็เป็นความภูมิใจของผู้ชายธรรมดานิครับ ที่จะอยากมีร่างกายที่สวยงามเป็นที่ต้องตาสาวๆน่ะ (ถึง..จะมีแต่ผู้ชายมองผมก็เถอะ) ผมกับเขาคบกันมาหลายปีแล้วล่ะครับ ^^ แล้วเรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่ว่า..

       

                      “แจจุงครับตื่นหรือยัง?” ยุนโฮนอนกอดแจจุงบนเตียง ทั้งสองนอนภายในเตียงด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า

                      “อือ.. ยังไม่อยากตื่นเลย นอนต่อไหม” ดวงตาคู่โตเหลือบมองหน้าเจ้าของอ้อมกอดอุ่นเชิงอ้อนๆ

                      “เมื่อคืน นายเล่นงานซะหนักขนาดนี้จะให้ฉันตื่นไวอีกได้ไงล่ะ?” แจจุงพูดแล้วก็ค่อยๆซุกหน้าลงไปกับแผงอกกว้าง

                      “ก็แจจุงน่ารักขนาดนี้... ให้ฉันทนยังไงไหวล่ะหืมม” ยุนโฮพูดพลางนวดคลึงสะโพกผายของแจจุงเบาๆ แล้วค่อยๆออกแรงกดมันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนแจจุงต้องเงยหน้ามาถลึงตาใส่ แก้มขาวของแจจุงแต้มไปด้วยสีชมพูอ่อนๆ

                      “ขอโทษนะครับ แต่วันนี้ยุนโฮต้องออกไปทำงานน่ะ” ยุนโฮแล้วจูบหน้าผากมนเบาๆ แล้วใส่มือหนาลูบผมแจจุงซักพักก่อนจะพยุงให้แจจุงหนุนหมอนแล้วตนจึงลุกออกไปอาบน้ำแต่งตัว

       

                      “ยุนโฮ แจจุงว่าแจจุงจะกลับไปทำงานที่ร้านอาหารล่ะ” แจจุงส่งเสียงพูดไปยังร่างสูงในห้องครัวข้างๆ ขณะกำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงกว้าง

                      “ร้านอาหารหรอ ที่ไหนล่ะ”

                      “ก็.. ไม่แน่ใจหรอก คงที่โซลเนี่ยแหละ.. แต่ส่วนไหน ยังไงก็.. ยังไม่ทันคิดอะ”

                      “ลองไปทำร้านเค้กของเพื่อนยุนโฮไหมล่ะ ที่นั้นก็ดีนะทางผ่านทางไปที่ทำงานของฉันด้วย” ยุนโฮพูดแล้วส่งยิ้มให้แจจุง

                      “ อือ จะไปกวนเขาเปล่ายุนโฮ ฉันยิ่งบ้าบอๆอยู่ไปทำของร้านเขาพังอะไรขึ้นมาซวยยกครัวเลยนะ” แจจุงพูดแล้วใส่ผ้าห่มคลุมตัวเดินออกมาในห้องครัว แล้วค่อยเดินไปเถกาแฟใส่แก้ว 2 ใบ แล้วค่อยๆกระดึบมานั่งที่ม้านั่งที่นอกชาน

                      “อ่า จะยั่วฉันหรือไง” ยุนโฮตามมาแล้วก้มลงมอบจูบลงบนผมของแจจุงแล้วมานั่งทานกาแฟข้างๆกัน

                      “แต่ถ้าแจจุงอยากทำที่นั้นหรืออะไรแบบนั้น เดี๋ยวฉันไปคุยกับเพื่อนให้ได้นะ ยัยนั้นเขารู้จักคนในวงการพวกนี้อยู่แล้ว”

                      “อือ แต่แจจุงว่าจะลองไปคุยกับที่เดิมก่อนน่ะว่าเขายังพอมีหน้าที่ว่างไหม” แจจุงพูดแล้วพูดส่งยิ้มให้กับแก้วกาแฟในมือ

                      “ที่นั้นมีหน้าที่ เจ้าหน้าที่ซุ่มซ่ามพิเศษด้วยหรอ ฮ่าๆๆ” ยุนโฮพูดแล้วก็หันไปยักคิ้วกวนๆให้แจจุงทีสองที เลยได้.. ฝามือมากินซักทีสองทีเช่นกัน

                      “พูดงี้ใช่ไหม ตอนนายนอนอย่าเผลอล่ะ ฉันจะจับตอนมันซะเลย!

                      “โอ้ น่ากลัวจังแหะ หึๆ” ยุนโฮเริ่มเอานิ้วมาจิ้มๆหน้าผากของแจจุงแล้วยักคิ้วแกล้งคนข้างๆไปเรื่อยๆ

                      “อ๊ากก นายนิมัน!

                      “ฮ่าๆ รีบๆแต่งตัวเข้าล่ะ อย่าไปแต่งให้มันหล่อมากนักนะ ฉันหวง แล้วก็อย่าลืม..”

                      “ล็อคบ้าน เช็คของ พกกุญแจห้อง ฉันรู้แล้วล่ะเจ้าบ้า! ฉันไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนนะ ย้ำอยู่ได้ ชิ” แจจุงพูดขัดแล้วใส่มือปัดยุนโฮออก

                      “ไม่ได้ปัญญาอ่อนแน่หรอ?” ยุนโฮพูดแล้วเดินเอาแก้วกาแฟของตัวเองไปเก็บในครัว โดนมีแจจุงเดินตามไปติดๆ

                      “ไสหัวไปทำงานเลยไป เจ้าบ้า!!” แจจุงพูดแล้วให้หัวโขกที่หลังของยุนโฮเป็นการทำโทษ แต่สำหรับยุนโฮ..คงเป็นแค่เป็นการทักทาย หรือคำบอกลาของเจ้าตัวเล็กนี้ซะมากกว่า

       

                      อย่างที่พวกคุณได้อ่านกันนะครับ ผมกับยุนโฮ..ก็ดูรักกันดี ^^ ถึงหมอนั้นจะกวนประสาทแต่ก็.. น่ารักใช่ไหมล่ะ? > < ช่วงแรกผมเกลียดที่เขาเป็นคนขี้เก็ก ชอบวางมาด แต่ตอนนี้.. ผมดีใจที่เขาเป็นแบบนั้น เพราะเขาจะแสดงท่าทางน่ารักๆแบบนี้ให้ผมดูเท่านั้น.. ตัวเขาในด้านนี้เป็นของผมคนเดียวเท่านั้น และความรักของผมก็เป็นของเขาเท่านั้นเหมือนกัน อย่าว่าผมน้ำเน่าเชียวนะ! ผมแค่ฮะๆ เป็นผู้ชายแปลกๆอย่างที่ยุนโฮว่าผมบ่อยๆ

       

                      “วอนฮี  แจจุงไปไหนล่ะ?” ยุนโฮเดินเข้ามายังหลังร้านเค้กคาเฟ่ที่คนรัก (อ่า ใช่คำนี้แล้วผมเขินจัง:แจจุง) ของเขาทำงานอยู่

                      “แหมเจอเพื่อนนี้ไม่มีทักกันเลยนะ แฟนนายยกของไปเก็บข้างหลังร้านโน่น” วอนฮีเพื่อนของยุนโฮตอบยิ้มๆ แล้วชี้ไปทางประตู เพราะเธอรู้ว่าไอเพื่อนคนนี้มันมีเรื่องที่บ้าอยู่ไม่กี่เรื่องคือ งาน ความยุติธรรม และ แจจุง..! อันหลังนี้จะมาแรงกว่าใครหน่อย

                      “เออ แล้วเป็นไงบ้าง แจจุงทำงานดีไหม?” ยุนโฮชโงกมองไปทางประตูหลังก่อนจะถาม เขารู้ดีว่าในระหว่างงานแจจุงไม่อยากให้ใครเข้าไปช่วยหรือขวางหรือ... มีสื่งมีชีวิตใดๆนอกจากเจ้านายไปเข้าใกล้ (เพราะจะทำให้แจจุงจำงานที่เจ้านายสั่งไม่ได้)

                      “นิ.. แจจุงมาทำงานที่นี้ 3 เดือนกว่าแล้ว นายจะถามเหมือนเขาเพิ่งทำวันแรกไปอีกนานไหม?” วอนฮีเท้าเอวแล้วมองหน้ายุนโฮหน่ายๆ แต่เธอก็พอจะเข้าใจว่าทำไม เพราะแจจุงเป็นคนที่น่ารัก นิสัยติดจะตลก.. ออกจะโก๊ะๆซะด้วย เลยไม่แปลกที่เจ้าเพื่อนคนนี้ของเธอจะเป็นห่วงแฟนคนนี้ตลอดเวลา (ขนาดเธอเป็นคนอื่นยังห่วงๆเลย)

                      “ก็แจจุงชอบพูดว่าจะพังร้านเธอทุกวันๆฉันเลยห่วงน่ะสิ”

                      “ยุนโฮ! นินทาเหรอ?” ผู้เข้ามาใหม่ร้องเสียงดังแล้เอาสายตาจิกไปตาชายหนุ่มอีกคนในห้อง

                      “เปล่าซะหน่อย แค่คุยกันน่ะ เห็นวอนฮีบอกว่าจะให้โบนัสกับลูกจ้างน่ะเลย..”

                      “เอ่อ.. นายทำอะไรน่ะ” ยุนโฮชะงักไปพักหนึ่งเมื่อเห็นท่าทางของแจจุงที่ทำปากยื่นปากยาวยืดคอ.. อย่างพากเพยรซะด้วย

                      “ก็.. ไม่มีมืออะ เค้าจะเสนอตัวเอง แหะๆ เลยพยายามยกปาก ยกหัวอยู่ไง” แจจุงพูดแล้วยิ้มจนตาหยี ทำเอาทั้งสองหลุดหัวเราะกับความน่ารักของคนตรงหน้าไม่ได้

                      “นายว่างก่อนก็ได้นิ” แต่ไม่ทันจะพูดจบแจจุงก็รีบวางของลงอย่างไวแล้วยกมือเหมือนเด็กอนุบาลของคุณครูลบกระดาดดำทันที

                      “ฮ่าๆๆ แจจุงไม่ต้องกลัวหรอกนายได้อยู่แล้ว ขยันชนาดนี้ ^^” วอนฮีตอบแจจุงขำๆ แต่ก็อย่างที่เธอว่า เพราะนี้ก็เลิกเวลาปิดร้านมากว่า 4 ชม. แล้วแต่แจจุงก็ยังไม่ยอมกลับบ้าน ดึงดันจะให้เธอสอนการทำเค้กทุกๆวันจนเป็นกิจวัตรสำหรับทั้ง 3 ไปแล้ว

                      “จริงหรอ แหะๆ ดีใจจัง” แจจุงพูดแล้วก็ส่งยิ้มไปให้ยุนโฮตอนนี้แจจุงอยู่นชุดเด็กเสิร์ฟสีครีมผูกไทสีเทาอ่อน และผูกผ้ากันเปื้อนทำให้ดูยิ่งเด็กกว่าปกติ

                      “นายนี่มันโก๊ะจริงๆ” ยุนโฮเดินทุบหัวแจจุงเบาๆ 2 ทีแล้วเดินออกไปจากห้องครัว ทิ้งให้แจจุงร้องโวยวายฟ้องวอนฮีกันอยู่ 2 คน

                     

                      เท่าที่อ่านๆมาคุณคงรู้สึกเหมือนผมใช่ไหมล่ะครับว่าพวกยังรักกันดี ฮ่ะๆ ตอนนั้นพวกเรามีความสุขกันมากๆ ผมรู้สึกเสมอแค่มียุนโฮอยู่ไม่ว่าจะเป็นอะไรมันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่ว่าอะไรผมก็จะไม่กลัว เพราะเขาจะอยู่เคียงข้างผมเสมอ ^^ ความรู้สึกที่ผมมีให้เขามันมีค่ามากที่สุดในชีวิตของผม ถึงแม้มันอาจจะ.. ไม่มากพอ

       

                      “แจจุง นายจะยุ่งกับของของฉันอีกนานไหม? ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องยุ่งน่ะ”

                      “ฉันขอโทษแต่..”

                      “ขอโทษ.. ขอโทษหรอ?! นายรู้ไหมว่าน่ารำคาญแค่ไหนที่ฉันต้องทนกับอารมณ์ของนาย ที่ฉันต้องมานั่งฟังคำขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่าของนาย”

                      “ยุนโฮ... ฮึก” ร่างเล็กลงไปกองกับพื้นตามแรงผลักของร่างสูง น้ำตาของแจจุงไหล เขารู้มาได้ซักพักว่ายุนโฮกำลังหลงรักกับผู้หญิงอีกคน ใช่ผู้หญิง เป็นคนที่แจจุงไม่มีทางจะสู้ด้วยได้ มันทำให้ความรักที่มีให้กันมาตลอด 3 ปีได้ค่อยๆ เลื่อนหายไป

                      “แจจุง ฉันรู้ว่านายเองก็ต้องทนกับฉันมามาก” ยุนโฮพูดขณะยืนมองร่างที่ล้มลง

                      “ได้โปรดยุนโฮ... ได้โปรด ฮึก..”

                      “แต่ความรู้สึกของเราตอนนี้.. มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว” ยุนโฮพูดออกมาประโยคที่ทำลายและทำร้ายจิตใจของคนที่เขาเคยพูดว่ารักมาตลอด ตอนนี้แจจุงร้องไห้หนักขึ้น ได้แต่พร่ำพูดว่า “ฉันรักนาย ฉันรักนายนะยุนโฮ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

                      “แจจุง.. ตื่นเถอะ นายก็รู้ว่าฉัน.. รักผู้หญิงคนอื่น นายจะทนทำไม” ยุนโฮพูดอีกครั้ง ทุกๆครั้งทุกๆคำพูดเหมือนเขากำลังตบหน้าแจจุง ตบแรงขึ้นเรื่อย จนแจจุงรู้สึกชาไปหมดและสิ้นหวัง

                      “นาย...รักฉัน ไม่ได้หรอ?” แจจุงถามอย่างสุดท้าย

                      “ฉันขอโทษ”

       

      นั้นเป็นประโยคสุดท้ายของความรักของผม กับเขา โลกเคยดูสวยงาม โลกเคยเป็นที่ๆน่าอยู่สำหรับผมมาตลอด.. เมื่อผมได้อยู่กับยุนโฮ แต่ไม่ใช่อีกต่อไป ตอนนี้ทุกๆอย่างมันเปลี่ยนไป ผมต้องมาอยู่เพียงลำพัง ในห้องเดิม ห้องที่ผมกับเขาเลยกอดกัน เคยมีความรักให้กัน แต่วันนี้ทุกๆอย่างผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว.. ทุกๆวันนี้ผมมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรก็ไม่แน่ใจเท่าไรนัก แต่.. ผมต้องมีชีวิตต่อไป เพื่อรอ.. รอซักวันที่เขาจะกลับมา

      กลับมากอดผมอีกครั้งแล้วบอกว่ารักผม แล้วทำให้โลกนี้กลับมาหมุนอีกครั้ง ทำให้โลกนี้ โลกของผมกลับมาเป็นโลกแห่งความสุขอีกครั้ง ตอนนี้ผมก็ยังคงจะพยายามจะทำร้านเน็ตบุฟเฟ่ของพวกเรากันต่อไป เพราะนี้คือความฝันของผมกับยุนโฮ ยุนโฮบอกว่าเขาอยากจะช่วยผมในครัวหรืออะไรก็ได้ แต่เพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ในบริษัทการลงทุนแห่งหนึ่ง และผมก็เป็นพ่อครัวที่ชอบทำอาหาร และขนมเค้ก จึงได้คิดร้านนี้คือมา.. มาเป็นร้านของครอบครัวเรา แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นซะก่อน.. แต่ผมก็จะรอ เพราะผมไม่มีอะไรให้เสียอีกต่อไปแล้ว หัวใจผมแตกสลายไปพร้อมกับการจากไปของแผ่นหลังกว้างนั้น สมองผมถูกทำลายโดยการผลักไสของเขา ผมจึงได้แต่หวังว่า... เขาจะกลับมาที่นี่ ที่เดิม ที่ร้านของครอบครัวเรา หรือ บ้านของเรา หรือ... กลับมาหาผม กลับมาในโลกของผมอีกครั้ง..

      I’ll wait for you ,so I don’t know what I can do

      I’ll wait for you, yunho

      Jaejoong

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×