ตอนที่ 1 : บทนำ
เสียงฝีเท้ากำลังเหยียบย่ำอยู่บนพื้นดินเป็นจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอ บางครั้งก็ช้า บางครั้งก็เร็ว บางครั้งก็เป็นเสียงร่างกายกระแทกกับพื้นดินยามเจ้าตัวสะดุดล้ม ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็ลุกขึ้นมาเพื่อออกวิ่งต่อไปราวกับตัวเองเป็นนักวิ่งทีมชาติ ต่างกันที่ว่านี่ไม่ใช่การแข่งวิ่งวิบากแต่เป็นการวิ่งหนีตัวประหลาดที่กำลังไล่ตามเธอมาต่างหาก!
ตัวประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายโครงกระดูกหรืออะไรสักอย่างบินตามเธอมาอย่างไม่ลดละ มันเป็นแบบนี้เกือบสิบนาทีแล้ว เด็กสาวไม่สามารถหาทางออกได้เลยนอกจากวิ่งเข้ามาป่าให้ต้นไม้ใบไม้ในนี้บังทัศนวิสัยของมันเพื่อจะได้มีโอกาสหนีออกไป ซึ่งมันไม่ง่ายเลย ไม่ว่าจะหลบอยู่ตรงไหนเจ้าพวกนี้ก็เจอเธอตลอด ไม่อาจหยุดอยู่กับที่ได้ เลยต้องวิ่งหนีอยู่แบบนี้
“โอ๊ย!!”
เธอร้องออกมาอย่างเจ็บปวดก่อนจะล้มลงกุมขาของตนเอง เมื่อกี้มีพวกที่คาบดาบบินมาปาดมีดลงที่ขาของเธออย่างจัง เจ้าตัวยอมรับว่าไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าพวกนี้จะมีความคิดจนถึงขั้นใช้การซุ่มโจมตีได้ เธอประมาทเกินไปและตอนนี้ก็กำลังจะจนมุม ร่างบางถอยกรูดไปชนเข้ากันต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง สองมือกำกระเป๋านักเรียนไว้แน่น ไม่ว่าจะถามอะไรเจ้าพวกนี้ก็ไม่ยอมตอบเลย เธอยังไม่อยากโดนฆ่าตายแบบไร้เหตุผลหรอกนะ แบบนั้นมันน่าเศร้าออก จะต้องตายทั้งที่ไม่รู้อะไรเนี่ยนะ
“เอ๊ะ …กระดิ่ง”
ขณะที่กำลังเตรียมใจอยู่ก็เหลือไปเห็นกระดิ่งคางุระอันจิ๋วที่ห้อยติดกระเป๋าเอาไว้พอดี ในตอนนั้นเองบทสนทนาที่แทบจะลืมเลือนไปแล้วก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง มันเป็นช่วงที่เธอได้เจอกับคุณยายคนหนึ่งในตอนอายุแปดขวบ
‘ถ้าหากตกอยู่ในอันตรายล่ะก็..จงเขย่ากระดิ่งนี่ซะสิ’
ตอนที่เธอโดนเพื่อนแกล้ง หรือโดนสุนัขไล่กัด พอสั่นไปก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา สุดท้ายเธอก็ต้องวิ่งหนีอยู่ดี
‘ฉันรู้ว่ามันอาจจะดูไร้สาระ แต่ขอแค่เธอเชื่อ’
ก็เพราะเชื่อไปมันแล้วมันไม่ได้ผลไง
‘สักวัน เธอจะต้องเขย่ากระดิ่งนี้อย่างแน่นอน'
แม้จะยังไม่เข้าใจ แต่มือเรียวก็หยิบเจ้ากระดิ่งนี่ออกมาแล้วเขย่ามันรัวๆ มันเป็นสิ่งเดียวที่เป็นทางออกของเธอในตอนนี้ เพราะแบบนั้น..เพราะแบบนั้นแหละ
“ก็เชื่อแล้วนี่ไง! ช่วยทำอะไรสักอย่างทีเถอะ!!”
ทันทีที่เสียงกระดิ่งครั้งสุดท้ายหยุดลง ทุกอย่างก็นิ่งชะงักไปก่อนจะมีสายลมอ่อนๆพัดเข้ามา และปรับระดับความแรงขึ้นเรื่อยๆจนแทบกลายเป็นพายุย่อม
“ซากุระ?”
เด็กสาวมองสิ่งที่ปลิวมาตามสายลม เมื่อคว้าเอาไว้มันกลายเป็นกลีบดอกซากุระนับไม่ถ้วน เธอคงจะไม่แปลกใจหากตอนนี้เป็นฤดูไม้ใบผลิไม่ใช่ฤดูร้อน
“!!?…”
ร่างบางสะดุ้งเมื่ออยู่ๆมีเมื่อจากด้านหลังเอื้อมมาปิดตาเธอเอาไว้ พร้อมเสียงกระซิบข้างหู และมีคนกำลังเอาผ้ามาพันแผลที่
“ภาพที่เห็นอาจจะไม่ดีนักสำหรับเด็กนะขอรับ เพราะงั้น..แค่ยืนอยู่ตรงนี้ก็พอขอรับ ท่านปลอดภัยแล้ว”
“ใคร?” เธอถามขณะเอื้อมมือไปสัมผัสแขนอีกฝ่าย มันอบอุ่นอย่างประหลาด
“คนของท่าน”
การสนทนาจบลงเพียงแค่นั้น ตามด้วยเสียงของดาบที่ปะทะกันไปมา บางครั้งก็ราวกับเฉือดโดนผิวหนัง บางครั้งก็ฟาดโดนสายลม และจบลงด้วยความเงียบงัน มือที่เกาะกุมใบหน้าอยู่ถูกเปิดออกช้าๆ ภาพที่เด็กสาวเห็นคือภาพของผู้ชายประมาณสี่คน ต่างอายุกันไป บางคนแต่งกายเครื่องแบบเดียวกัน บางคนแต่งกายเหมือนคนยุคก่อน ยังไม่ทันทีเธอจะเอ่ยปากถามทุกคนก็คุกเข่าลงกับพื้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาเธอสะดุ้งโหยง
“นี่มัน..อะไรกันเนี่ย?”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รู้สึกค้างมาก555 เรื่องนี้เปิดมาได้น่าสนใจมากเปิดมาก็วิ่งหนีกันแล้ว ส่วนศาตราเราก็รับบทเจ้าชายขี่ม้าขาว4
คนนั้นจะเป็นใครกันนะ? รอ~