[SF ] "YooSu" Harudal ความรักใต้เงาจันทร์ ( TVXQ , Yaoi ) - [SF ] "YooSu" Harudal ความรักใต้เงาจันทร์ ( TVXQ , Yaoi ) นิยาย [SF ] "YooSu" Harudal ความรักใต้เงาจันทร์ ( TVXQ , Yaoi ) : Dek-D.com - Writer

    [SF ] "YooSu" Harudal ความรักใต้เงาจันทร์ ( TVXQ , Yaoi )

    คนที่รักเราไม่เคยจากเราไปไหน หากแต่ยังเฝ้ามองเราจากที่อันไกลแสนไกล .... ( ฟิคสั้น ยูซู จ้า)

    ผู้เข้าชมรวม

    4,319

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    4.31K

    ความคิดเห็น


    36

    คนติดตาม


    7
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 พ.ค. 50 / 16:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เรื่องมันเกิดจากว่า ฟังเพลงฮารูดัลแล้ว ได้ฟิว เลยแต่งซะเลย

    แต่ขอบอก................เรื่องนี้เป็น "เรื่องเศร้า" นะคะ

    เศร้ามากเศร้าน้อย แต่ก้อเศร้า เตือนไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบ เรื่องเศร้า


      Harudal  " 하루달 (Moon) " By TVXQ  [ Ost. air city ]

        
     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       Harudal ความรักใต้เงาจันทร์

       

       

      ยูชอน.....เราเป็นพี่น้องกันใช่ไม๊

       

      ใช่สิพี่.........ถามแปลกๆ

       

      นายทำอะไรให้ชั้นอย่างนึงได้ไม๊??.......

       

      มีอะไรที่ผมให้พี่ไม่ได้บ้าง

       

      ถ้าวันไหนที่พี่ขึ้นไปอยูบนนั้น...........นายช่วยดูแลคนสำคัญแทนพี่ได้ไม๊

       

      ........................

       

      ได้ไม๊ ยูชอน.........

       

       

      ได้ครับ

       

      ถ้าถึงวันนั้น..........พี่จะเฝ้ามองนายจากบนนั้น

       

       

       

       

      นี่ๆ นายหน่ะ ~~!!!”เสียงน่ารักของใครบางคนเอ่ยอย่างสดใส เรียกให้ร่างสูงที่กำลังเดินจ้ำอ้าวเข้าสู่คฤหาสน์หลังมหึมาพร้อมกับกระเป๋าเป้หนึ่งใบ ต้องหยุดหันมอง

       

      นางฟ้า

       

      รอยยิ้มสดใส ใบหน้าหวาน ขาวใส พวงแก้มอมชมพู ผมนุ่มสลวยสีทองสว่าง เรือนร่างบอบบางน่าทะนุถนอม เสียงหัวเราะสดใส แค่เห็นโลกทั้งโลกก็สว่างสดใส...................นางฟ้าชัดๆ

       

      นี่ๆ นายๆ  นายๆ  อุแหม -*- .......นายยยยยย ~~!!!!!!!!!!! ><W เสียงแหลมปรี๊ดแสบแก้วหู ดังลั่น ปลุกร่างสูงจากภวังค์ แต่ตอนนี้แก้วหูเค้าลั่นไปแล้ว.....กำ ยังไม่ทันเริ่มงาน ก็หูตึงแล้วเหรอเรา

       

      โอ้ยยยย จะตะโกนทำไม คนหรือโลมา เนี่ยนายหน่ะ ร่างสูงเอามืออุดหู พลางตะโกนใส่ร่างบางที่เกือบทำเค้าหูตึงก่อนวัยอันควร

       

      ก็ชั้นเรียกนายตั้งหลายรอบแล้ว นายไม่หันหนิ ร่างบางพองลมหันไปทางอื่น เมื่อเห็นว่าร่างสูงว่าเค้าทั้งๆที ตัวร่างสูงเองนั่นแหล่ะผิด

       

      ( ยูชอน............พองลมซะแล้ว แสนงอนจริง)

       

      นิ้วเรียวจิ้มจึกเข้าที่ซาลาเปาที่ตอนนี้กำลังพองได้ที่ แต่คงจิ้มแรงไปหน่อย ลมที่ร่างบางอมไว้เลยพุ่งออกทางปาก กลายเป็นซาลาเปาแฟบซะแล้ว

       

      ตาห้อยบ้า เล่นอะไรเนี่ย~~!!!” เจ้าของซาลาเปาแฟบ พองลมอีกครั้งพร้อมแผดเสียงแสบแก้วหูอีกรอบ ทำเอาร่างสูงถึงกับผงะ

       

      อ่าๆ โทดทีๆ.....อย่างอนน้าๆ โลมาน้อย ร่างสูงพูดเย้าแหย่ ชูนิ้วก็ยแกว่งไปมาๆ ขอคืนดี

       

      นายเรียกชั้นว่าอะไรนะ ร่างบางที่ได้ยินสรรพนามประหลาดถึงกับแอบอึ้ง

       

      ก็ เรายังไม่รู้จักชื่อกันเลย ชั้นเลยไม่รู้จะเรียกนายว่าอะไรดีนี่นา ร่างสูงเอ่ยยิ้มๆ

       

      แล้วทำไมไม่ถามเล่า นายห้อย ร่างบางว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แถมเรียกซะน่าเกลียด

       

      ชั้นไม่ได้ชื่อห้อยนะจ๊ะ คนสวย........ชั้นชื่อ ยูชอน   ปาร์ค ยูชอน.....ไม่ทราบว่าคุณคนสวยชื่ออะไรครับ ร่างสูงตอบยิ้มๆ ก่อนจะแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เรียกความหมั่นไส้ให้ร่างบางไม่น้อย

       

      ฮี่ๆๆๆ ไม่บอก อยากรู้ไปถามคนที่จ้างนายมาแล้วกัน.....ตอนแรกว่าจะเข้ามาทักทายต้อนรับ แต่เปลี่ยนใจแระ ไปหล่ะ ว่าแล้วร่างบางก็วิ่งหนีขึ้นบ้านไป ทิ้งให้ร่างสูงยืนงง อะไร จะมาก็มา จะไปก็ไป

       

      เมื่อร่างสูงเข้ามาถึงประตูบ้านก็พบกับชายใส่สูทสองคนตีหน้าเข้ม จ้องเค้าเขม็ง จนร่างสูงแอบเกร็ง

      เอ่อ.....ผมมาทำงานให้คุณคิม จุนฮวา ครับ ร่างสูงพูดพร้อมก้มหัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย

       

      เชิญที่ห้องโถง คุณท่านรออยู่ ชายใส่สูทคนหนึ่งเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงผ่านเข้าไป แล้วให้สาวใช้พาไปที่ห้องโถง เมื่อไปถึง สาวใช้ก็เคาะประตูไม้บานใหญ่ เพื่อบอกให้คนด้านในรับทราบถึงการมาของแขก

       

      คุณท่านคะ แขกของคุณท่านมาแล้วค่ะ สาวใช้เอ่ยบอกคนด้านใน ก่อนจะมีเสียงประตูถูกเปิดพร้อมกับบานไม้ขนาดใหญ่ที่แง้มออกเผยให้เห็นภายใน

       

      ห้องโถงกว้างผนังสีครีม ที่ปูด้วยพรหมสีเทาควันบุหรี่ โคมไฟระย้าส่องแสงเรืองรอง ด้านซ้ายเป็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่ที่มีหนังสือเรียงเต็มชั้น ฝั่งตรงข้ามเป็นบาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่ที่ด้านข้างเป็นตู้กระจก ภายในบรรจุขวดมากมายหลายขนาด แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องดื่มราคาแพงลิบลิ่ว กลางห้องเป็นโซฟาสีครีมหรูหราเข้ากับบรรยากาศห้อง

       

      บนโซฟาตัวกลาง ปรากฏร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่ง ใบหน้าคมเข้มแต่แฝงความสุขุมเยือกเย็น น่าเกรงขาม แม้จะมีร่องรอยของกาลเวลาแต่กลับทำให้ร่างใหญ่คนนี้ดูภูมิฐานมากขึ้น ดวงตาคมปานพญาเหยี่ยว จับจ้องที่เด็กหนุ่มผู้มาใหม่

       

      ร่างสูงเดินอย่างมาดมั่น มาหยุดยืนหน้าโต๊ะกระจกเล็กที่อยู่ด้านหน้าโซฟา ใบหน้าเด็ดเดี่ยว ต่างกับตอนที่อยู่กับร่างบางลิบลับ สำหรับปาร์ค ยูชอนเวลางานคืองาน  ร่างสูงโค้งให้เจ้านายคนใหม่

      สวัสดีคับ ผมปาร์ค ยูชอน  พูดเสียงเรียบแต่เด็ดขาด สร้างความประทับใจให้คิม จุนฮวาไม่น้อย..........เจ้าเด็กนี้ รู้งานไม่เบา

       

      รู้ใช่ไม๊ว่า งานที่จะมาทำกับชั้นเป็นงานอะไร เสียงต่ำห้าวเอ่ยเรียบ นัยน์ตาคมยังจับสังเกต ร่างสูงทุกอิริยาบถ

       

      บอร์ดี้การ์ดให้ คุณหนูครับ ร่างสูงยังคงพูดจาฉะฉานเช่นเดิม

       

      ดี พูดจาฉะฉาน เด็ดเดี่ยว ชั้นชอบ.......รู้ใช่ไม๊ ว่าพี่ชายนายทำงานนี้ได้ดีไร้ที่ติ ก่อนจะจากไป เสียงห้ามเอ่ยถามเรียบๆ แต่แววตากลับเศร้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงเค้าจะเป็นนาย แต่ก็ให้ความสำคัญกับลูกน้องไม่ต่างกับญาติ ยิ่งลูกน้องคนสนิท พี่ชายของร่างสูง ยิ่งเอ็นดูไม่ต่างจากลูก ไว้ใจให้ดูแลชีวิตของลูกชายสุดที่รัก ซึ่งร่างสูงก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่องจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต

       

      ครับผมทราบดี.......ผมก็จะดูแลคุณหนูด้วยชีวิต ไม่ต่างจากพี่ยุนโฮ ครับ ร่างสูงเอ่ยรับอย่างฉะฉาน ถึงเจ้านายไม่บอกเค้าก็ต้องทำอยู่แล้ว เพราะมันเป็นคำสัญญาที่เค้าให้ไว้กับพี่ชาย สัญญาระหว่างลูกผู้ชาย

       

        ดี หวังว่าชั้นคงจะถูกใจนายเหมือนที่ชั้น ถูกใจยุนโฮนะ คิม จุนฮวา เอ่ยยิ้มๆ

       

      ไปเรียกคุณหนูลงมา นายใหญ่ของบ้านเอ่ยสั่งลูกน้องหน้าหวานที่ท่าทางหน้าจะเป็นบอร์ดี้การ์ดให้นายใหญ่ ดูแล้วไม่หน้าจะคุ้มครองใครได้เลย บอบบางออกปานนั้น

       

      ร่างบางหน้าสวยใบชุดสูทสีดำรับคำสั่งก่อนจะเดินออกจากห้องไป ซักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวานสดใสที่ร่างสูงจำได้ไม่มีลืม........เสียงของนางฟ้า

       

      คุณพ่อ~~!!!!!!!!” เสียงสดใสเอ่ยดังลั่น พร้อมกับร่างบางที่วิ่งปรู๊ด ตรงดิ่งมาที่โซฟา ผ่านร่างสูงยังกับไม่มีตัวตน ก่อนจะนั่งแปะข้างๆผู้เป็นพ่อแขนเรียวกอดแขนแกร่งของผู้เป็นพ่อแน่น ใบหน้าหวานพิงลงกับไหล่กว้างอย่างออดอ้อน จนผู้เป็นพ่ออดยิ้มให้กับความน่ารักไม่ได้

       

      ฉับพลันห้องทั้งห้องก็ดูสดใสขึ้นทันตาที่ร่างบางปรากฏตัว ร่างสูงถึงกับตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง

       

      พี่แจจุงบอกว่า คุณพ่อเรียก จุนซู เหรอฮะ ร่างบางเอ่ยสดใส ปากบางฉีกยิ้มกว้างอย่างที่เคยเป็น

       

      พ่อเรียกหนู ให้มาเจอกับบอร์ดี้การ์ดของหนูไงครับ น้ำเสียงห้าวเอ่ยกับลูกชายอย่างนุ่มนวล ร่างบางทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่า ร่างสูงตรงหน้าเป็นใครแล้วมาทำไม

       

      คุณพ่อจุนซู ไม่เอาบอร์ดี้การ์ดไม่ได้เหรอฮะ ร่างบางจงใจพูดให้ร่างสูงได้ยิน ทำเอาร่างสูงหน้าถอดสี แต่ก็ยังรักษามาดต่อ

       

      มาไม้ไหนอีกเนี่ย เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอคับ แล้วคนนี้เค้าก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เค้าเป็นน้องชายของพี่ยุนโฮของหนูไงครับเมื่อได้ยินชื่อพี่ชายสุดที่รักที่จากไปเพราะช่วยชีวิตตัวเอง ร่างบางก็เปลี่ยนสีหน้าในบัดดล ใบหน้าสดใสสลดเศร้าอย่างเห็นได้ชัด พยายามตีหน้าระรื่นอยู่ตั้งนาน แต่พอมาได้ยินชื่อคนที่จากไปน้ำตามันก็พาลจะไหลทุกครั้ง

       

      ร่างบางลุกพรวด เดินตรงดิ่งมาที่ร่างสูงก่อนจะลากเดินออกไปแบบไม่พูดพร่ำทำเพลง ทำเอาร่างสูงเกือบหงายหลังเพราะไม่ทันตั้งตัว ได้แต่ทำหน้าเอ๋อ

       

      ร่างบางลากร่างสูงเดินดุ่ยๆ ไม่พูดไม่จา จนถึงสนามหลังบ้าน ที่ปูด้วยหญ้าเขียวขจี ล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มลื่น ใต้ต้นไม้ที่อยู่ลึกที่สุดมีชิงช้าทำด้วยไม้กระดานอันไม่ใหญ่มากผูกกับเชือกป่านเส้นโต ร่างบางเดินมาถึงชิงช้าก่อนจะปล่อยมือร่างสูงแล้วเดินไปนั่งชิงช้า เงียบๆ

       

      แกว่งให้หน่อย เสียงหวานเอ่ยเบาๆ แต่ก็ดังพอที่ร่างสูงจะได้ยิน บอร์ดี้การ์ดหนุ่มเดินมาหยุดที่ด้านหลังร่างบาง ก่อนจะออกแรงแกว่งชิงช้าเบาๆ ความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่นั้น เนิ่นนาน.........

       

      นายเป็นน้องแท้ๆของพี่ยุนโฮ เหรอ อยู่ๆร่างบางก็เอ่ยทำลายความเงียบ

       

      อืม......แต่คนละพ่อ  ร่างสูงเอ่ยเรียบๆ ในใจก็คิดถึงพี่ชายที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ แล้วทั้งสองก็อยู่ในความเงียบอีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไร ร่างเล็กก็ยังนั่งก้มหน้านิ่ง ร่างสูงก็ยังแกว่งชิงช้าให้โดยไม่ปริปาก

       

      ชั้นขอโทษนะ เสียงที่เคยสดใส เอ่ยแผ่วเบา จนร่างสูงแทบไม่ได้ยินว่าร่างบางพูดว่าอะไร

       

      อะไรนะครับร่างสูงเอ่ยถาม แผ่นหลังบางเริ่มสั่น มือเรียวกำเชือกป่านไว้แน่น

       

      ชั้นขอโทษ~~ ที่ทำให้นายเสียพี่ชายไป ชั้นขอโทษนะ ยูชอน~~ ฮืออออ~~!!!!” ร่างเล็กปล่อยโฮ อย่างสุดกลั้น ความอัดอั้นที่เก็บไว้ ถูกปลดปล่อยอย่างห้ามไมได้

       

      ความผิดชั้นคนเดียว!!! มันเป็นความผิดชั้นคนเดียว!!! เพราะชั้น พี่ยุนโฮถึงดะ....... ร่างบางที่ปล่อยโฮลั่น ถึงกับหยุดนิ่ง เมื่อมีอ้อมแขนแกร่งโอบรอบตัวเค้าจากด้านหลัง

       

      ไม่ต้องพูดแล้วครับ คุณหนูไม่ผิด ไม่ใช่ความผิดใครทั้งนั้น เลิกโทษตัวเองเถอะครับ เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น จริงอย่างที่พี่ชายเค้าเคยบอกว่า ร่างบางตรงหน้าบอบบางราวกับแก้วเจียระไน สามารถแตกสลายได้ในพริบตา

       

      เพียงเท่านั้น เปลือกนอกที่ร่างบางหมั่นสร้างมาหลอกตาคนภายนอก ก็แตกสลายในบัดดล

       

      อย่าปล่อยมือนะยูชอน เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา

       

      ครับ คุณหนู เพียงเท่านั้น น้ำตาที่ร่างบางกลั้นไว้ก็ล้นเอ่อท่วมดวงตาก่อนจะไหลอาบทั่วใบหน้าหวาน ไหลบางสะอื้นตัวโยน แม้ไม่มีเสียงสะอื้น แต่ร่างสูงก็รับรู้ได้ว่าร่างบางร้องไห้หนักขนาดไหน แขนแกร่งโอบแน่นขึ้นราวกลับกลัวว่าร่างบางจะสลายได้เดี๋ยวนั้น

       

      ทั้งสองปล่อยเวลาผ่านไปเนิ่นนานไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ไม่สนใจว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ไม่สนว่าดวงอาทิตย์จะลับลา และดวงจันทร์จะขึ้นมาแทนที่ โดยไม่รู้ว่าทุกอิริยาบถของทั้งสอง อยู่ในสายตาของบุคคลสองคนตลอดเวลา

       

      จริงอย่างที่ยุนโฮว่าจริงๆ เป็นคนอบอุ่นจริงๆนะ เจ้าเด็กนั่น เสียงต่ำห้าว เอ่ยเรียบๆ

       

      ครับ ไม่งั้นคุณหนู ก็จะแกล้งทำตัวสดใสต่อไป ทั้งที่ข้างใน มันแทบไม่เหลือดีแล้ว เสียงหวานเอ่ยตอบเจ้านาย

       

      ว่าแต่เค้า แล้วเธอหล่ะ แจจุง......จุนซู มีคนปลอบใจแล้ว แต่เธอหล่ะ ร่างใหญ่หันมาสบตาร่างบางข้างๆ อีกคนที่เจ็บไม่แพ้กัน ก็คือร่างบางหน้าสวยคนนี้

       

      ผมเตรียมใจไว้แล้วหล่ะครับ ว่าซักวันเราต้องมีวันนี้ ร่างบางเอ่ยเรียบ ใบหน้าหวานเรียบเฉย ยากจะเดาอารม

       

      สิ่งที่ผมทำได้คือ ดูแลสิ่งสำคัญที่ยุนโฮ รักยิ่งกว่าชีวิตแทนเค้า นัยน์ตามองไปด้านนอกที่มีร่างบางสะอื้นไห้ และมีร่างสูงโอบกอดจากด้านหลัง

       

      ยุนโฮเคยบอกว่า........เมื่อเวลานี้มาถึง ให้ผมเงยหน้ามองพระจันทร์ .....เมื่อนั้นผมจะพบเค้าอีกครั้งร่างบางพูดเสียงเรียบ ใบหน้าหวานแหงนมองพระจันทร์สีเหลืองนวล ที่สะท้อนใบหน้าคนรักที่จากไป หยดน้ำใสไหลออกจากนัยน์ตาสวย

       

      คิม จุนฮวา จากไปเงียบๆปล่อยให้ลูกน้องหน้าหวานได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง.......

       

      แจจุง ถ้าวันนึง เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน นายต้องเข้มแข็งนะ

       

      นายพูดบ้าอะไร ยุนโฮ

       

      ชั้นแค่พูดเฉยๆ ให้นายเตรียมตัวไว้เท่านั้นแหล่ะ

       

      แล้วมันใช่เรื่องไม๊เนี่ย มาพูดเรื่องแบบนี้เนี่ย ชั้นไม่ชอบนายก็รู้

       

      ก็เพราะรู้ไง ถึงได้บอกให้นายเตรียมใจไว้บ้าง

       

      .....................

       

      แจจุง ถ้าถึงวันที่ไม่มีชั้นยืนข้างนาย.......ให้นายมองขึ้นไปบนนั้นนะ........ชั้นจะเฝ้ามองนายจากดวงจันทร์ดวงนั้น

       

      ....................

       

      เมื่อนายมองขึ้นไป.....เราจะได้เจอกัน

       

       

       

       

       

      ดีขึ้นรึยังครับ คุณหนู เสียงทุ้มเอ่ยนุ่มนวล แขนแกร่งก็ยังโอบกอดร่างบางไม่ปล่อย ร่างบางพยักหน้าเล็กน้อย ร่างสูงจึงคลายอ้อมกอด ก่อนจะเดินมาทรุดตัวตรงหน้าร่างบาง

       

      คุณหนู อย่าโทษตัวเอง อีกเลยนะครับ เสียงทุ้มเอ่ยอ่อนโยน นิ้วแกร่งเกลี่ยน้ำตาใสออกจากใบหน้าหวาน ก่อนจะกดจูบแผ่วเบาที่หน้าผากมน ร่างบางหลับตาพริ้มรับสัมผัสอ่อนโยนปล่อยให้ความอบอุ่นซึบซาบไปถึงหัวใจ

       

      เข้าไปในบ้าน เถอะครับ มืดแล้ว คุณหนูยังไม่ได้ทานข้าวเลย  ร่างสูงลุกขึ้นพร้อมกับยื่นมือให้ร่างบางจับ ซึ่งร่างบางก็ทำตามโดยดี ทั้งสองจูงมือกันเดินเข้าบ้านไปเงียบๆ อย่างไม่สนใจใคร

       

       

       

       

      หลังจากวันนั้น ร่างสูงก็เข้ามารับหน้าที่บอร์ดี้การ์ดให้ร่างบางอย่างเต็มตัว ไม่ว่าร่างบางจะไปไหนต้องมีร่างสูงติดตามไปด้วยเสมอ ไม่ใช่เพียงเพราะต้องดูแลความปลอดภัยให้ร่างบางที่เป็นทายาทคนเดียวของมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี แต่เป็นต้องการของทั้งสองฝ่าย คนหนึ่ง ต้องการใครซักคนเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป คนหนึ่ง ต้องการที่จะดูแลสิ่งมีค่าที่แสนบอบบางด้วยชีวิต

       

      นี่ ยูชอน ทำไมถึงมาเป็นบอร์ดี้การ์ด เพราะพี่ยุนโฮขอร้องเท่านั้นเหรอ ร่างบางในชุดนอนแฮมทาโร่ นอนถามบอร์ดี้การ์ดคนใหม่ตาแป๋ว

       

      ก็ไม่เชิงครับ พอดีสอบเข้าโรงเรียนตำรวจได้แล้วเกิดเบื่อเป็นตำรวจเลยลาออก ร่างสูงพูดยิ้มๆ มือแกร่งดึงฮู๊ดที่เป็นหน้าแฮมทาโร่ ขึ้นมาปิดหัวร่างบาง ก่อนจะโยกหัวกลมๆเล่นเบาๆอย่างเอ็นดู

       

      ไมชอบแกล้งจังเลยอ่ะ ยูชอนบ้า~~!!.......หลายอารมจริงๆเลยนายเนี่ย ไปเป็นดาราดีกว่าไป๊!!” ร่างบางพองลม ค้อมใส่ร่างสูง ที่ชอบแกล้งเค้าเล่นเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคน แต่พออยู่กับคนอื่นกลับเก๊กหน้าตาย ยังกับไก่ท้องอืด

       

      ผมก็ว่าจะไปอยู่เหมือนกัน หน้าตาหล่อๆอย่างผม ดงบังชินกิชิดซ้าย ร่างสูงพูดพร้อมเก๊กหน้าหล่อสุดฤทธิ์ ทำเอาร่างบางหมั่นไส้ จึงลุกขึ้นนั่งคุกเข่า มือเอื้อมมาดึงปากล่างเค้าเล่นทีนึง

       

      ห้อยๆ อย่างงี้อ่ะนะ.....หลงตัวเองชะมัด หลังจากดึงปากล่างสูงแล้ว มือบางก็ตีเข้าที่แก้มเบาๆ แต่จังหวะที่จะถอยกลับ ผ้าห่มเจ้ากรรมดันไหลทำให้เข่าบางไถลเพราะความลื่นของผ้าห่ม ทำให้ร่างบางเสียหลักโผเข้าหาแผ่นอกกว้าง ทั้งสองนิ่งค้าง ใบหน้าหวานแนบชิดกับอกแกร่ง จนได้ยินเสียงหัวใจร่างสูงที่เต้นรัวจนรู้สึกได้ ใบหน้าหวานแดงซ่าน ก่อนจะผละตัวออกมาอย่างรวดเร็ว

       

      เอ่อ......ชั้นง่วงแล้ว....ยูชอน.....ยังไม่ง่วงเหรอ ร่างบางก้มหน้าถามตะกุกตะกัก

       

      ผมรอคุณหนูหลับก่อนนะครับ แล้วผมค่อยไป ปากตอบร่างบาง แต่ใบหน้าคมกลับเสมองไปทางอื่น ไม่กล้าสบตาเช่นกัน

       

      อ่า งั้นชั้นนอนแระนะ.....นายไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปข้างนอกกับคุณพ่อทั้งวันด้วย ว่าแล้วร่างบางก็ล้มตัวลงนอน หลับตาปี๋ แถมส่งเสียงกรนดังลั่น เป็นเชิงว่า ชั้นหลับแล้วแน่ๆ แต่ดูยังไงก็รู้ว่าแกล้วหลับ.....ก็เล่นหลับตาปี๋อย่างนั้นหน่ะ

       

      ร่างสูงส่ายหน้าอย่างระอา ทั้งที่รอยยิ้มกว้างยังระบายอยู่บนใบหน้า ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป เพื่อกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง

       

       

      วันรุ่งขึ้น ร่างบางต้องออกไปตรวจดูกิจการของตระกูลพร้อมกับผู้เป็นพ่อ โดยมีบอร์ดี้การ์ดประจำตัวอย่างยูชอนติดตามไปด้วย พร้อมกับลูกน้องอีกเป็นจำนวนมาก พ่อลูกเดินทางด้วยกันแต่กลับขึ้นรถไปคนละคัน โดยคันแรก เป็นของคิม จุนฮวา และแจจุง โดยให้จุนซู น้องรถอีกคน โดยมียูชอนนั่งไปด้วย

       

      ทุกอย่างดูราบรื่นตลอดวันจนกระทั่ง ขบวนรถเดินทางมาถึงชานเมืองที่ไม่ค่อยมีรถสัญจร เพราะเป็นวันทำงานที่คนส่วนใหญ่ยังอยู่ในเมืองหลวง เดินทางมาถึงช่วงนึงก็มีรถแวนสีดำสนิทสองคันวิ่งมาปิดหัวท้ายขบวน ประจวบเหมาะกับที่รถแวนอีกคัน แล่นมาจากถนนฝั่งตรงข้าม และ.......

       

      ปัง!!!!!!!!!!!!  เอี๊ยดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!

       

      เสียงปืนดังลั่น พร้อมกับเสียงรถของคิม จุนฮวา ที่เสียหลัก หมุนคว้าง ลงข้างทาง ดีที่คนขับมีสติดีมจึงยังสามารถบังคับรถไม่ให้คว่ำ และคนในรถยังปลอดภัยได้ ทั้งสามลงจากรถพร้อมกับ บอร์ดี้การ์ดทั้งหมดที่หยุดรถลงให้ความคุ้มกันนายใหญ่  รวมทั้งรถของจุนซูที่คนขับปัดรถให้หันขวางเพื่อใช้เป็นที่กำบังก่อนที่บอร์ดี้การ์ดหนุ่มจะดึงให้เจ้านายตัวน้อยออกมาจากรถแล้วพาไปรวมกับ นายใหญ่

       

      เสียงปืนยิงตอบโต้ดังสนั่น ขบวนของคิม จุนฮวา ถูกขนาบทุกทิศทาง หลายคนถูกยิงบาดเจ็บ บาง

      คนหมดลมหายใจตรงนั้น  เมื่อเห็นว่าคงไม่รอดไปได้ง่ายๆ  ร่างใหญ่จึงหันมาสั่งลูกน้องคนใหม่ที่ตอนนี้เอาตัวบังร่างบางไว้มิด อีกมือก็ยิงตอบโต้ไม่มีหยุด

       

      ยูชอน เธอพาจุนซู หนีออกไปได้ไม๊  เสียงห้ามต่ำถามร่างสูง

       

      อะไรนะครับ แล้วคุณท่านหล่ะ จะให้ผมทิ้งคุณท่านเหรอครับ ร่างสูงถามกลับอย่างงงๆ

       

      หน้าที่ของเธอคือ ดูแลจุนซู ไม่ใช่ชั้น เราออกไปทั้งหมดไม่ได้ แต่จุนซูต้องออกไปจากตรงนี้ให้ได้ เธอพาลูกชั้นออกไปได้ไม๊ ร่างใหญ่ถามเฉียบขาด เวลานี้ความปลอดภัยของจุนซู สำคัญที่สุด

       

      ได้ครับ ร่างสูงตอบรับเฉียบขาดไม่แพ้กัน

       

      อะไรนะ ยูชอน ไม่เอานะ จุนซูไม่ทิ้งคุณพ่อ ไม่เอานะฮะ ร่างบางที่รู้ว่าตัวเองจะโดนพาไปไหน ก็ถึงกับโวยวาย

       

      ยังไงหนูก็ต้องปลอดภัยนะ จุนซู ........ฝากด้วย ยูชอน  คิม จุนฮวา เอ่ยเสียงนุ่มนวล ก่อนจะออกคำสั่งกับลูกน้องคนใหม่

       

      คุณท่านรักษาตัวดีๆนะครับ............ไปครับคุณหนู ร่างสูงกล่าวลา ก่อนจะดึงตัวร่างบางไปที่รถที่อยู่ใกล้ที่สุด ถึงแม้ร่างบางจะดิ้นรนเท่าไรก็ไม่สามารถต้านแรงของร่างสูงได้ ยูชอนกดหัวร่างบาง

      ให้หมอบลง ก่อนจะบึ่งรถแหวกดงกระสุนออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่อีกมือยังยิงกระสุนโต้กลับ ปลิดชีวิตฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแม่นยำ  รถยนต์สีดำสนิทพุ่งทะยานออกจากบริเวณนั้น โดยมีรถแวนสีดำอีกคันขับตามประกบไม่ห่าง

       

      ร่างสูงที่เห็นว่า ทำยังไงก็ไม่สามารถขับหนีพ้น เพราะถนนเป็นทางตรงยาว จึงตีรถกลับมาประจันหน้าแล้วตบเกียร์ถอยหลัง มือแกร่งวาดอาวุธในมือ ก่อนจะปล่อยกระสุนจากลำกล้อง แหวกอากาศไปที่ฝ่ายตรงข้าม นิ้วแกร่งลั่นไกปืนเร็วรัว ลูกตะกั่วนับสิบลูกถูกส่งออกไปหมายจะทำลายฝ่ายตรงข้ามแต่ก็ไร้ผล เนื่องจากรถแวนที่ไล่ตามติดนั้นถูกออกแบบมาเพื่อกันกระสุน ร่างสูงจึงเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ มือแกร่งลดตำแหน่งลง ตาคมจับจ้องที่ช่วงล่างของรถ ก่อนจะลั่นไกปืนไปที่ เป้าหมาย

       

      ปัง!!!!!!!!!  เอี๊ยดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!

       

      รถแวนสีดำสนิทหมุนคว้าง  ก่อนจะตีลังกาคว่ำกลิ้งไปกับท้องถนน หลายตลบ ร่างสูงตีรถกลับก่อนจะใส่เกียร์เดินหน้า แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว

       

      คุณหนูครับ.......ลุกขึ้นมาได้แล้วครับ........ปลอดภัยแล้ว เสียงทุ้มติดหอบน้อยๆ เอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่ตอนนี้สั่นเป็นลูกนกโดนฝน ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาจากพื้น น้ำตาอาบสองแก้มด้วยความกลัว

       

      ไม่เป็นไรแล้วครับคนดี................ปลอดภัยแล้วนะ ร่างสูงเอ่ยปลอบขวัญร่างบางที่ตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งก้มหน้าเงียบอยู่บนเบาะ ตัวยังไม่หายสั่น

       

      เดี๋ยว......เราหาที่เปลี่ยนรถ.......แล้วค่อย.....หาที่พักนะครับ เสียงทุ้มเริ่มหอบ อย่างเห็นได้ชัด แต่เจ้าตัวก็พยายามข่มเต็มที่ แต่ถึงยังไงร่างบางก็จับสังเกตได้อยู่ดี ใบหน้าหวานหันมองใบหน้าร่างสูงที่ตอนนี้ เรียกได้เลยว่า ซีด ก่อนที่ตาเรียวจะเริ่มสำรวจทั่วร่างสูงหาสาเหตุอย่างร้อนใจ ก่อนจะพบว่า ช่วงไหล่ซ้ายของบอร์ดี้การ์ดหนุ่ม เปียกชุ่ม แล้วมีน้ำสีเข้มไหลเอื่อยๆออกมาตามท่อนแขนแกร่ง ถึงจะไม่เห็นว่าน้ำนั้นสีอะไรก็ตาม เพราะร่างสูงใส่เสื้อสีดำสนิท แต่ร่างบางก็รู้ได้โดยสัญชาติญาณ

       

       

      จอดรถเดี๋ยวนี้ ยูชอน!!!!” ร่างบางออกคำสั่งเฉียบขาด ทำให้ร่างสูงต้องจอดรถเข้าข้างทางอย่างห้ามไม่ได้ ท้องฟ้าภายนอกเริ่มมืดมิดขึ้นเรื่อยๆ

       

      ร่างบางเปิดไฟภายในรถ ก่อนเข้ามาสำรวจบาดแผลของร่างสูง และยิ่งเมื่อเปิดไฟให้เห็นชัด ร่างบางก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเห็นว่าเบาะคนขับ มีน้ำสีแดงเปรอะเปื้อนไปทั่ว

       

      ยูชอน~~!! นี่นาย ร่างบางอุทานเสียงดังเมื่อเห็นว่า อาการร่างสูงดูแย่กว่าที่คิด

       

      ผมไม่เป็นไร.......คุณหนูไม่ต้องห่วงนะ..........แค่นี้...........ไกลหัวใจ บอร์ดี้การ์ดหนุ่มฝืนยื้ม ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเค้าเองก็แทบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว

       

      ไกลบ้าอะไร!!! เลยหัวใจนายมาไม่ถึงคืบเนี่ยนะ พูดจบร่างบางก็ถอดเสื้อออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียน สะท้อนกับแสงไปภายในรถ ทำเอาร่างสูงถึงกับตาค้าง

       

      คะ....คุณหนู บอร์ดี้การ์ดรูปหล่ออุทานอย่างเหม่อลอย เมื่อเห็นผิวผ่องที่ออกมาอวดโฉมล้อเล่นกับแสงจันทร์ยามค่ำคืน

       

      ไม่ต้องพูดมาก นอนเฉยๆ ร่างบางออกคำสั่ง จัดแจงเอนเบาะร่างสูงให้เอนราบ มือบาง กดเสื้อเข้ากับปากแผลทั้งสองด้าน ร่างสูงได้แต่มองเฉยๆ เพราะตอนนี้ตัวเค้าเองก็เหนื่อยเต็มทีแล้วเหมือนกัน

       

      ร่างบางสีหน้าเคร่งเครียด มือบางกดที่ปากแผลไม่ขยับเขยื้อน ปากบางเม้มแน่น จนร่างสูงยังเป็นห่วงว่าร่างบางจะเป็นตะคริวไปซะก่อน

       

      คุณหนู ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ ผมไม่เป็นอะไรแล้วหล่ะน่า ร่างสูงเอ่ยเย้าเล่นๆ แม้เสียงจะแผ่วเบา แต่ก็ยังดีกว่าเมื่อครู่นี้

       

      ไม่เอาแล้ว เสียงหวานเอ่ยออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

       

      เอ๋??

       

      ชั้นไม่ต้องการให้มีใครตายเพราะชั้นอีกแล้ว  ไม่เอาแล้ว~~ ฮืออออ~~!!!” เสียงหวานสั่นเครือ ก่อนจะปล่อยโฮลั่น เล่นเอาคนที่นอนหน้าซีดถึงกับตกใจ

       

      คุณหนูอย่าร้องนะครับ ไม่มีใครตายแล้วครับ ไม่มีนะ อย่าร้องไห้นะคับคนเก่ง มืออีกข้างยกขึ้นมากวาดน้ำตาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะยกศีรษะขึ้นประกบจูบกับปากบางที่อยู่ด้านบนอย่างแผ่วเบา ร่างบางรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ ร่างสูงกดท้ายทอยร่างบางให้เอนตามตัวเองลงมาเมื่อเห็นว่าเริ่มยกหัวไม่ไหว ซึ่งร่างบางก็ทำตามโดยดี จากสัมผัสที่นุ่มนวลเริ่มร้อนแรง ลิ้นร้อนไล้เลียตามแนวริมฝีปากบางเป็นเชิงขออนุญาต ก่อนจะเข้าไปสำรวจโพรงปากหอมหวานภายใน กวาดเอาความหวานที่แผ่ซ่านทั่วโพรงปาก ก่อนจะหยอกเล่นกับลิ้นเล็ก เกี่ยวกระหวัดกันอย่างร้อนแรง เก็บเกี่ยวความหอมหวานเนิ่นนาน ภายใต้แสงจันทร์กระจ่างฟ้ายามค่ำคืน จนกระทั่ง

       

      ฮารูดาลี จีโก บยอลี ดออลลา โคชดือรึน พีโก จีโก ยักซก ดวินกอน ออบซอ~~

       

      เสียงเครื่องมือสื่อสารของร่างบางดังขึ้น ปลุกให้ทั้งสองหลุดจากห้วงภวังค์ ร่างบางรีบผละออกใบหน้าแดงซ่าน ร่างสูงได้แต่เลียริมฝีปากด้วยความเสียดาย

       

      ฮัลโหล จุนซูพูดฮะ ร่างบางกรอกเสียงหวาน พยายามข่มอาการหอบสุดฤทธิ์

       

      จุนซู หนูปลอดภัยใช่ไม๊!!!” เสียงห้าวของผู้เป็นพ่อ เอ่ยถามอย่างร้อนรน

       

      ครับ คุณพ่อ จุนซูปลอดภัยดีฮะ แต่...... ร่างบางเอ่ยตอบอย่างสดใส ก่อนที่จะเสียงแผ่วเมื่อนึกถึงคนข้างๆ

       

      แต่ อะไร จุนซู!!” คิม จุนฮวากรอกเสียงกลับมาดังลั่น เกลียดจริงๆ ไอ่คำว่า แต่ เนี่ย

       

      ยูชอนถูกยิงฮะ คุณพ่อ ร่างบางเอ่ยเสียงสั่น เมื่อคิดถึงว่าร่างสูงต้องมาเจ็บตัวเพราะเค้า น้ำตามันก็ไหลออกมาอีก ร่างสูงที่ดูท่าทีอยู่ เอื้อมมือแกร่งมาสัมผัสที่แก้มใส ก่อนจะส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่า เค้าไม่เป็นอะไร

       

      ยูชอนเป็นอะไรมากไหม  อาการเป็นยังไง ร่างใหญ่เอ่ยถามอย่างร้อนรน ถึงจะเพิ่งมาทำงานไม่นาน เค้าก็รักลูกน้องคนนี้ไม่น้อย ไม่แปลกที่จะเป็นห่วง

       

      ไม่หรอกฮะ กระสุนมันทะลุไป แต่เสียเลือดมากเหมือนกันครับ เสียงหวานตอบกลับ มือบางลูบไล้ที่แก้มของร่างสูงที่เหมือนจะเคลิ้มหลับ

       

      ให้พ่อพูดกับยูชอนหน่อยสิครับ  เมื่อได้ยินคำขอของพ่อร่างบางก็สะกิดที่ใบหน้าคม เป็นเชิงเรียก ร่างสูงลืมตาก่อนจะรับโทรศัพท์ด้วยแขนอีกข้าง

       

      ครับคุณท่าน.. ร่างสูงเอ่ยแผ่วเบา จนคนฟังสามารถรับรู้อาการได้ทันที

       

      ไหวนะ ยูชอน นายใหญ่ถามอย่างเป็นห่วง

       

      ไหวครับ ร่างสูงตอบเสียงแผ่วแต่ฉะฉาน เหมือนทุกครั้งที่คุยกับผู้เป็นนาย

       

      ทนหน่อยนะ ชั้นจะส่งคนไปรับเสียงห้าวเอ่ยเรียบ แต่แฝงความเป็นห่วงในน้ำเสียง

       

      ครับ คุณท่าน  พูดแค่นั้น ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ ร่างบางรับมาพูดคุยกับผู้เป็นพ่ออีกสองสามคำ ก่อนจะวางสาย แล้วหันมาดูคนเจ็บที่ตอนนี้หลับสนิทไปแล้ว

       

      มือบางลูบไล้ไปตามใบหน้าคมที่ตอนนี้ซีดอย่างเห็นได้ชัด ร่างสูงยังนอนนิ่งจนร่างบางอดใจหายไม่ได้ มีเพียงแผ่นอกที่ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะที่แสดงให้รู้ว่าร่างสูงยังไม่เป็นอะไร ตลอดชีวิตของร่างบางมีคนต้องสละชีวิต เพื่อรักษาชีวิตเค้าเอาไว้มากมาย ด้วยเหตุผลว่าเค้าเป็นทายาทคนเดียวของตระกูล ทำให้ศัตรูแทบทุกคนหมายหัว แต่ที่ทำให้ร่างบางเสียใจที่สุด คือการจากไปของบอร์ดี้การ์ดคนเก่า พี่เป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายของร่างบาง

       

      ชั้นจะไม่ยอมให้มีใครตายเพราะชั้นอีกแล้ว.........โดยเฉพาะนาย ยูชอน ร่างบางเอ่ยเสียงหวานแผ่วเบา แต่แฝงความเด็ดขาดในน้ำเสียง

       

       

       

       

      คุณหนูครับ ตื่นเถอะครับ พี่แจจุงมารับแล้ว เสียงทุ้มเอ่ยปลุกร่างเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างกัน ดวงตาเรียว ลืมขึ้นก่อนจะเห็นใบหน้าคุ้นเคยของบอร์ดี้การ์ดหนุ่มเป็นสิ่งแรก

       

      นายเป็นยังไงบ้างยูชอน  สิ่งแรกที่ออกมาจากปากร่างบางคือความปลอดภัยของบอร์ดี้การ์ดหนุ่ม ทำเอาร่างสูงใจชื้นขึ้นเป็นกอง แทบจะกระโดดกอดหอมแก้มให้สมกับความน่ารัก แต่ติดที่สังขารไม่อำนวย

       

      รีบไปกันเถอะครับ คุณหนู ตรงนี้มันเปลี่ยว เดี๋ยวพวกนั้นตามมาเราจะยุ่ง เสียงหวานจากบอร์ดี้การ์ดหน้าสวยเอ่ยขัดเวลาโรแมนติก ก่อนจะถอดเสื้อนอกให้ร่างบางใส่ และเข้าไปหิ้วปีกร่างสูงรุ่นน้องที่ตัวสูงกว่าเห็นๆ อย่างสบายๆ

       

      ร่างบางนั่งที่เบาะหลัง โดยมีร่างสูงนอนหนุนตักนุ่ม โดยมีมือบางลูปกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเล่นอย่างเพลินมือ

       

      คุณพ่อ ปลอดภัยใช่ไม๊ครับ พี่แจจุง เสียงหวานเอ่ยถาม คนขับหน้าหวาน

       

      ปลอดภัยดีทุกอย่างครับ คุณหนู ร่างสวยตอบยิ้มๆ

       

      สมกับเป็นพี่แจจุง จุนซูเชื่ออยู่แล้วว่า พี่แจจุงต้องดูแลคุณพ่อได้ ร่างบางเอ่ยชม ลูกน้องของพ่อที่ไม่เคยทำงานพลาดเลยซักครั้ง

       

      เชื่อแล้วทำไมตอนนั้น ถึงได้ดิ้นพล่านอย่างงั้นหล่ะครับ คุณหนูร่างสูงที่นอนหนุนตักอยู่เอ่ยแซวเล่น เมื่อถึงตอนที่เค้าลากร่างบางออกมาจากดงกระสุน กว่าจะมาถึงรถ เล่นเอาหืดขึ้นคอ

       

      พูดมาก คนเจ็บหน่ะ นอนนิ่งๆ ไปเลย ร่างบางดุคนด้านล่าง พร้อมกับดึงริมฝีปากล่างของร่างสูงเล่นแบบที่ชอบทำ

       

      โอ้ยๆ ไม่พูดแล้วๆ ใจร้ายจัง รังแกคนเจ็บ ร่างสูงที่แค่ได้เห็นหน้าร่างบาสงอารมดีก็ใจชื้น เรี่ยวแรงกลับมาอีกเป็นกอง

       

      เฮ้อ~~!!! พูดเล่นได้ แสดงว่าปลอดภัยจริงๆ แล้วสินะ ร่างบางเอ็นหลังพิงเบาะถอนหายใจอย่างโล่งอก ราวกับอัดอั้นมานาน ดวงตาเรียวแหงนมองไปบนท้องฟ้าด้านนอก

       

      นายรู้ไม๊ ตอนที่ชั้นเห็นนายถูกยิง หัวใจชั้นแทบหยุดเต้น เสียงหวานเอ่ยลอยๆ แต่กลับทำให้ร่างสูงต้องเงยหน้ามอง

       

      ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วหนิครับ  เสียงทุ่มเอ่ยแผ่วเบา มือแกร่งเอื้อมไปสัมผัสที่แก้มใส ร่างเล็กกุมมือนั้นไว้ แนบเข้ากับใบหน้าให้แนบชิดขึ้นราวกับกลัวว่า มือนี้จะสลายไปไหน

       

      ยูชอนเคยฟังเรื่องพระจันทร์จากพี่ยุนโฮไม๊ คนน่ารักเอ่ยถามร่างสูงที่เหมือนจะเคลิ้มๆหลับ

       

      เคยสิครับ พี่ยุนโฮเล่าให้คนรอบข้างทุกคนฟังหน่ะแหล่ะ เอ่ยเรียบๆ ทั้งๆที่ยังหลับตา

       

      ทำไมเหรอครับ

       

      เปล่าหรอก ร่างบางบอกปัดๆ ก่อนจะจับจ้องที่ดวงจันทร์สีเหลืองนวล หวนนึกถึงคำพูดปลอบโยนจากบอร์ดี้การ์ดหนุ่มคนเก่า ในวันที่ร่างบางเสียคนที่รักที่สุดไป

       

      คุณหนู อย่าร้องไห้เลยครับ ทำอย่างนั้น คุณผู้หญิงจะเป็นห่วงนะ

       

      ฮือ~~!!! ทำไมคุณแม่ต้องทิ้งจุนซูไป ฮึก.....แล้วจุนซูจะอยู่กับใคร.......พี่ยุนโฮ~~ พาคุณแม่กลับมาที ฮือ~~!!!”

       

      คุณแม่ไม่ได้ทิ้ง คุณหนูไปนะครับ เพียงแต่ท่านไปในที่ๆไกลแสนไกล แต่คุณหนูก็ยังพบคุณแม่ได้นะ

       

      ยังไง..ฮึก....ยังไง.....พี่ยุนโฮ......จุนซูจะเจอคุณแม่ได้ยังไง ฮือ~~”

       

      มองไปบนนั้นสิครับ บนพระจันทร์นั่น คุณแม่เฝ้ามองคุณหนูจากตรงนั้น

       

      ............

       

      คนที่รักเรา เค้าไม่เคยจากเราไปไหนหรอกครับ คุณหนูเชื่อพี่นะ

       

       

      ทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อยดีจนกระทั่ง.........

       

       

      ยูชอน ลุกไหวรึเปล่า เสียงหวานของคนขับคนสวย เอ่ยขัดความเงียบภายในรถ ปลุกให้คนด้านหลังทั้งสองลืมตาตื่นจากภวังค์

       

      ไหวพี่ ทำไมเหรอ คนตอบยกตัวขึ้นมาด้วยความสงสัย แต่ก็พบกับคำตอบ เมื่อด้านหน้ารถมีชายฉกรรณ์ประมาณ 10 คน ถือปืนจ่อเข้ามาในรถ

       

      เตรียมปืนแล้ว ลุกขึ้นมา คนสวยเอ่ยเสียงเฉียบ ร่างสูงรีบลุกพรวดจากตักนุ่ม มือแกร่งหยิบปืนออกจากซองที่แขวนอยู่ที่หน้าอก ปลดห้ามไก โดยไม่ถามอะไรก่อนทั้งนั้น

       

      คุณหนู โทรหาคุณท่านด่วนเลยครับ เสียงหวานเอ่ยเรียบ แต่ทำเอาคุณหนูหน้าหวาน มือไม้สั่น โทรผิดโทรถูก ร่างสูงกดหัวร่างบางให้ก้มลงกับเบาะเพื่อความปลอดภัย

       

      จะเอายังไง พี่แจจุง ร่างสูงถามเสียงแผ่ว มือแกร่งกำปืนในมือแน่น

       

      เตรียมตัวแล้วกัน พูดยังไม่ทันจบดี ร่างบางก็ตบเกียร์ถอยหลัง ก่อนจะหักพวงมาลัยให้รถตีโค้งหันไปอีกทาง ก่อนจะบึ่งรถทะยานหนีไป  โดยมีลูกกระสุนนับสิบพุ่งตรงมาที่พวกเค้า ร่างสูงยิงตอบโต้ไม่มีหยุด กระสุนจากลำกล้องพุ่งตรงเข้าปลิดชีวิตฝ่ายตรงข้ามได้กว่าครึ่ง เมื่อเห็นเป้าหมายกำลังจะหนีไปได้ ก็วิ่งขึ้นรถของตัวเองขับตามออกไปทันที

       

      ชั้นคาดผิดที่คิดว่าออกมาคนเดียว จะไม่มีใครสังเกต  คนสวยเอ่ยเสียงเครียด ที่ความคิดของเค้าผิดอย่างมหันต์ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองรอบคอบที่สุดแล้ว

       

      ผมว่าเรามีหนอนบ่อนไส้รึเปล่า พี่แจจุง ร่างสูงที่เอาตัวเองบังร่างบาง ในขณะเดียวกันก็ยิงตอบโต้ทันทีที่สบโอกาส

       

      นายหมายความว่าไง ยูชอน  ร่างบางสะดุดกับคำพูดของรุ่นน้อง

       

      พี่ลองคิดดูสิ..........เส้นทางที่เราใช้ไม่มีคนนอกรู้นะ..........แล้วมันรู้ได้ยังไงว่าควรจะจู่โจมเราตรงจุดไหนของเส้นทางที่เราใช้..........แล้วมันรู้ได้ยังไงว่า พี่แอบออกมารับเรา ร่างสูงพูดไป ก็ต้องเอี้ยวตัวกลับไปยิงตอบ กระสุนหมดไปหลายแมกซ์ก็ยังสลัดฝ่ายตรงข้ามไม่หลุด บอร์ดี้การ์ดหน้าสวยถึงกับเงียบสนิท ในสมองทบทวนเรื่องที่ร่างสูงบอก ซึ่งก็มีส่วนถูกอยู่มาก

       

      รถยนต์สีบรอนซ์วิ่งลัดเลาะไปตามซอกซอยที่หวังว่าจะสลัดให้หลุด แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น การไล่ล่ายังดำเนินต่อไปอย่างไม่กลัวกฎหมาย ไม่กลัวว่าจะทำอันตรายให้กับผุ้บริสุทธิ์

       

      ปัง!! ปัง!!  แชะ!!

       

      เสียงกระสุนนัดสุดท้ายถูกปล่อยออกไป ตามมาด้วยเสียงลำกล้องวางเปล่า

       

      พี่แจจุง กระสุนหมด!!! ”  ร่างสูงหันมาตะโกนบอกร่างบางที่เป็นคนขับ ซึ่งก็ได้แต่รับรู้ เพราะปืนของร่างบางเองก็กระสุนหมดไปก่อนนานแล้ว

       

      แต่โชคยังเข้าข้าง เมื่อขบวนรถของคิม จุนฮวา เข้ามาช่วยได้ทันเวลา ขบวนรถ เกือบ 10 คัน จอดขวางถนน โดยมีชายฉกรรณ์หลายสิบคน ออกมายืนนอกรถพร้อมอาวุธครบมือ แจจุงเหยียบเบรกพร้อมหักพวงมาลัย ให้ประตูฝั่งของจุนซูตรงกับพวกของเค้าเพื่อจะได้ลงจากรถอย่างปลอดภัย ยูชอน พาร่างเล็กลงจากรถ แล้ววิ่งเข้าไปในรถที่จอดรออยู่แล้ว เพื่อพากลับบ้าน

       

       

      ตลอดทางคุณหนูของร่างสูงไม่พูดไม่จาเลยซักคำ จริงๆแล้วไม่พูดตั้งแต่กำลังหนีแล้ว คงจะขวัญเสีย ร่างสูงที่ตอนนี้ก็แทบไม่มีแรงจะคุยเหมือนกัน แผลที่ถูกยิงเมื่อกี้ก็เปิดอีกรอบ เลือดสีแดงเริ่มไหลริน แต่เค้าก็ยังอดเป็นห่วงร่างเล็กที่นั่งอยู่ด้านข้างไม่ได้ ร่างเล็กที่ขโมยหัวใจเค้าไปตั้งแต่แรกเห็น....

       

      มือแกร่งเอื้อมไปลูบกลุ่มผมสีทองแทนคำปลอบโยน ร่างบางเงยหน้าสบตากับนัยน์ตาคม ก่อนที่หัวกลมๆ จะเอนลงซบกับไหล่กว้าง แขนเรียวโอบกอดเอวของร่างสูงไว้แน่น ราวกับกลัวว่าร่างสูงจะหายไปจากตรงนั้น ไม่มีคำพูดใดๆเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง มีเพียงความรักที่ส่งผ่านสัมผัสของกันแระกัน

       

       

      ขบวนรถหยุดลงที่หน้าคฤหาสหลังใหญ่  พร้อมกับร่างบางที่พยุงร่างสูงลงจากรถ คิม จุนฮวา เดินออกมาจากคฤหาสน์อย่างรีบร้อน เมื่อเห็นว่าลูกชายปลอดภัยก็โล่งใจ ร่างบางเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อ ก็ผละออกจากร่างสูงให้คนอื่นพยุงแทน ขาเรียวออกวิ่งเข้าสู่อ้อมอกของผู้เป็นพ่อ แต่มายังไม่ทันถึงครึ่งทาง ร่างบางก็ชะงักเมื่อเห็น วัตถุสีดำในมือของหนึ่งในลูกน้องด้านหลังผู้เป็นบิดา และที่สำคัญ ปลายของวัตถุนั้นหันตรงมาที่เค้า

       

      ร่างสูงหัวใจแทบหยุดเต้น ขายาวออกวิ่งสุดชีวิต ไม่สนความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับ ไม่สนเรี่ยวแรงที่แทบไม่มีเหลือ หวังเพียงอย่างเดียวคือ ให้ไปถึงร่างบางก่อนเวลาที่ลูกกระสุนจะถูกส่งออกมาปลิดชีวิตร่างบางอันเป็นที่รัก

       

      ปัง!!!!!

       

      เสียงคำรามของเพชฆาตสีดำแผดก็ง พร้อมกับที่ร่างสูงที่วิ่งเข้ารวบร่างบางได้ทันเวลา ออกแรงหมุนตัวให้ร่างบางไปอยู่อีกด้านแล้วเอาแผ่นหลังของตัวเองเข้ารับกระสุน......

       

      ร่างบางที่เห็นการกระทำของร่างสูงที่มันซ้ำรอยกับเรื่องฝังใจในอดีตของตัวเอง ภาพของบอร์ดี้การ์ดคนเก่าถูกทับซ้อนกับภาพของร่างสูงผู้เป็นน้องชาย ภาพที่พี่ชายสุดที่รักเอาตัวเข้าบังคุณหนูคนสำคัญ ก่อนจะทรุดลงกับพื้น ลมหายใจถูกพรากไปพร้อมกับโลหิตสีแดงสดที่ไหลริน

       

        ชั้นจะไม่ยอมให้มีใครตายเพราะชั้นอีกแล้ว.........โดยเฉพาะนาย ยูชอน 

       

      คำพูดเด็ดเดี่ยวของตัวเองดังก็งอยู่ในหัว ร่างบางออกแรงพลิกตัวกลับ เอาแผ่นหลังบางกันร่างสูงที่ตอนนี้ตัวเองแน่ใจแล้วว่ารักสุดหัวใจ ร่างสูงที่สภาพแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงจึงหันตามแรงเหวี่ยงโดยไม่รู้ตัว วัตถุโลหะแหวกอากาศเข้าสัมผัสกับแผ่นหลังบาง เข้าเจาะผิวเนื้อเนียน พุ่งตรงเข้าสู่ก็นเนื้อขนาดเท่ากำปั้นที่มีร่างสูงครองครองพื้นที่อยู่ทั้งสี่ห้อง โลหิตสีแดงสาดกระเซ็นจากแรงปะทะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที

       

      ร่างบอบบางทรุดลงกับอ้อมอกแกร่ง พร้อมกับร่างสูงที่ทรุดลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง นัยน์ตาคมเบิกโพลง ตกใจแทบสิ้นสติ รู้สึกเหมือนมีใบมีดนับพันเล่ม กรีดลงกลางใจ ความกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจ กลัวที่จะเสียงคนตรงหน้าไปให้กับมัจจุราช แขนแกร่งโอบประคองร่างบางในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม นัยน์ตาจับจ้องที่ใบหน้าหวานในอ้อมแขน น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อล้นดวงตา ไหลอาบทั่วใบหน้าคม ไม่สนกับบาดแผลตัวเองที่เปิดกว้าง สายธารสีแดงสดไหลรินออกมาไม่ขาดสายเช่นกัน

       

      ใครก็ได้บอกเค้าทีว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง..........

       

      คุณหนู!!!  ทำไมคุณหนูทำอย่างนี้~~!!!  รู้ตัวไม๊ว่าทำอะไรลงไป~~!!! ช่วยผมทำไม~~!!!”  ร่างสูงร่ำไห้ปานจะขาดใจ กอดคุณหนูของเค้าไว้แน่น  ร่างบางปรือตาขึ้นสบตากับร่างสูง ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานที่แสนจะแหบพร่า

       

      เพราะ......จุนซู.......รัก.....ยูชอน.....ถึง.......ทำแบบนี้.....ยูชอน.......ยะ.......อย่า......โกรธนะ ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่วเบา สั่นเครือ ยิ่งทำให้ร่างสูงแทบจะขาดใจขึ้นไปอีกร้อยเท่า

       

      ไม่ต้องพูดแล้วครับ !!  เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้วนะ แข็งใจไว้ก่อนนะครับ อย่าทิ้งผมไปนะ!!!” ร่างสูงโวยวายเหมือนคนบ้า ยิ่งเห็นร่างบางลมหายใจรวยริน ยิ่งทำให้ร่างสูงใจจะขาด  หยดน้ำใสร่วงลงสัมผัสใบหน้าหวาน มือบางเอื้อมขึ้นสัมผัสใบหน้าคมเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ร่วงลงมาไม่ขาดสาย มือแกร่งกุมมือเล็กไว้กดจูบที่มือบางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะนำมาสัมผัสกับใบหน้าคม ริมฝีปากบางแย้มยิ้ม

       

      อย่า.......ร้องไห้.........นะ..........ยูชอน ..........จุนซู............ยัง.......อยู่กับ...........ยูชอน.......เสมอนะ เสียงของร่างบางเริ่มแผ่วลง เริ่มขาดช่วง ลมหายใจติขัด

       

      พอแล้วครับ~!! ไม่ต้องพูดแล้ว~~!! ผมขอร้อง~!!” ร่างสูงรีบเอ่ยห้าม ในใจไม่อยากรับรู้กับความจริง ว่าร่างบางตรงหน้ากำลังจะจากเค้าไป

       

      ไม่ได้ .......เดี๋ยว.......จุนซู.......จะ.......ไม่ได้......พูดอีก...... ร่างสูงถึงกับนิ่งเงียบ เมื่อได้ยินคำพูดจากปากคนรัก ความเย็นเยียบเริ่มเกาะกุมหัวใจ ริมฝีปากบางยังแย้มยิ้มสดใส ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

       

      ยูชอน.........รัก........จุนซู......ไม๊ เสียงหวานเอ่ยถามอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่คนฟังก็ยังสัมผัสได้กับความรักที่ส่งทอดออกมากับน้ำเสียงนั้น

       

      รักสิครับ ผมรักคุณหนูคนเดียว เสียงทุ้มเอ่ยตอบแผ่วเบา เรี่ยวแรงแทบไม่มีเหลือ ริมฝีปากอิ่มกดจูบที่หน้าผากมน ซบหน้าลงกับหน้าผากเนียนน้ำตายังไหลไม่ขาดสาย

       

      ผมขอร้อง อย่าทิ้งผมไปนะ ไม่มีคุณหนูผมอยู่ไม่ได้ ร่างสูงเอ่ยอย่างสิ้นหวัง เสียงทุ้มสั่นไหวเพราะแรงสะอื้น

       

      ยูชอน......จำที่........พี่ยุนโฮ.......เคยเล่า.....ได้ไม๊.......เรื่องพระจันทร์ มือบางลูบไล้ใบหน้าคมอย่างรักใคร่ นิ้วเรียวชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้ายามรัตติกาล ที่ดวงจันทร์สีเหลืองนวลมายังร่างของทั้งสอง ร่างสูงหันมองตามนิ้วเรียว

       

        จุนซู.........จะ.....เฝ้ามอง........ยูชอน........จาก...................บน......................นั้น มือบางร่วงหล่นลงสู่พื้น ดวงตาเรียวสวยปิดสนิท ลมหายใจสุดท้ายของร่างบางหยุดลง รอยยิ้มหวานระบายทั่วใบหน้า ราวกับเจ้าหญิงนิทราผู้เลอโฉม

       

      คุณหนู~~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ร่างสูงแผดเสียงดังก็ง ก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบลง....

       

       

       

       

       

      รู้สึกตัวแล้วค่ะ คุณหมอ เสียงของผู้หญิงคนนึง ดังขึ้น ก่อนที่เปลือกตาหนักอึ้งจะค่อยๆเปิดอย่างช้าๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าพร่ามัวเกินกว่าจะรู้ว่าใครเป็นใคร ก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้งอย่างอ่อนแรง

       

      ก็ปลอดภัยแล้วหล่ะครับ แต่ยังต้องให้ใส่เครื่องช่วยหายใจไปก่อน เพราะคนไข้ยังไม่แข็งแรง หมอขอตัวก่อนนะครับ ร่างสูงได้ยินบทสนทนาทั้งหมด ก็ทำให้เดาได้ว่า ตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหน ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบกับใบหน้าหวานของรุ่นพี่คนสวย

       

      พี่......แจจุง เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนแรง ผ่านเครื่องช่วยหายใจที่ครอบอยู่บริเวณใบหน้า

       

      ปลอดภัยแล้วนะ ยูชอน นายอาการหนักเอาการเลยนะ กว่าหมอจะช่วยได้แทบตายนะ  เสียงหวานเอ่ยอย่างอ่อนโยน มือเรียวลูบไล้กลุ่มผมสีเข้มของร่างสูงอย่างเอ็นดูระคนเป็นห่วง ภาวนาอย่าให้ร่างสูงถามคำถามที่ไม่มีใครอยากตอบ

       

      คุณหนูหล่ะ พี่แจจุง ยังไม่ทันไร สิ่งที่ร่างบางคิดไว้ก็เป็นจริง ทั้งๆที่เค้าเตรียมใจว่าจะพูดให้ได้ แต่พอถึงเวลา มันกับพูดไม่ออก

       

      นายพักซะเถอะนะ ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรเลย ร่างบางรีบเปลี่ยนเรื่อง หวังจะให้ร่างสูงทำตาม ทั้งๆที่รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

       

      คุณหนูหล่ะ!!  คุณหนูเป็นยังไงบ้าง!!! พี่บอกผมมานะ!!!” ร่างสูงที่เห็นท่าทีของร่างบางก็เริ่มโวยวายถอดเครื่องช่วยหายใจออก ทำท่าจะลุกออกจากเตียวซะให้ได้

       

      ยูชอน ใจเย็นๆ นายยังเจ็บอยู่นะ เดี๋ยวอาการทรุดกันพอดี พอเถอะ ร่างบางรีบเข้ารวบตัวร่างสูงที่ฝืนลุกขึ้นมาได้ครึ่งตัว แถมทำท่าจะดึงสายน้ำเกลือออก แถมยังดิ้นพล่านเมื่อถูกเค้ารวบตัวไว้ ถ้าเป็นปกติ ลำพังแจจุงคงเอาไม่ไหวแน่

       

      พี่ปล่อยผม!!!  ปล่อยสิ!!!!  ผมขอร้อง ฮือ~~!!!!!!!!!!” ร่างสูงที่ตอนแรกทั้งดิ้นทั้งโวยวาย สุดท้ายก็หมดแรง ปล่อยโฮลั่น แขนแกร่งโอบกอดร่างบางไว้แน่นราวกับเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้าย ซึ่งร่างบางก็กอดตอบเช่นกัน

       

      ช่วยผมไว้ทำไม~~ ทำไมไม่ปล่อยให้ผมตาย~~ ไม่มีเค้าแล้วผมจะอยู่ยังไง~~”  ร่างสูงร้องไห้จนตัวโยน ดูอ่อนแออย่างไม่หน้าเชื่อ ร่างบางได้แต่โอบกอดคนตัวโตกว่าที่เวลานี้ดูไม่ต่างจากเด็กน้อย

       

      ที่ช่วยเพราะชีวิตนาย แลกมาด้วยชีวิตจุนซูไง เสียงห้าวเอ่ย ขัดจังหวะ  เรียกความสนใจจากชายหนุ่ม เมื่อทั้งสองหันไป ก็พบกับร่างใหญ่ของผู้เป็นนาย

       

      ว่าไง ฟื้นแล้วเหรอ ยูชอน กว่าจะรอดแทบแย่นะ คิม จุนฮวา เอ่ยทักลูกน้องคนสำคัญ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่ร่างสูงอยู่ในห้องฉุกเฉิน โดยมีหมอและนางพยาบาลวิ่งวุ่นเข้าออกกันกว่า 6 ชั่วโมง

       

      คุณท่านครับ ผม.... ร่างสูงก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าสบตาแม้แต่น้อย ผิดกับวันที่เข้ามาทำงานลิบลับ

       

      อย่าคิดมาก ยูชอน นายปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่ จุนซูต้องการ มือใหญ่ วางลงที่กลุ่มผมของร่างสูงอย่างเอ็นดู ถึงเค้าจะเสียใจไม่แพ้กัน แต่เหตุการณ์ที่เกิดก็ไม่ใช่ความผิดของร่างสูงแม้แต่น้อย

       

       

      ผมขอโทษ..... พูดได้แค่นั้น ก็เหมือนมีอะไรมาจุกที่ลำคอ ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นยังตามมาหลอกหลอนเค้า น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอีกครั้ง

       

      พักผ่อนซะ ยูชอน ตอนนี้นายมีหน้าที่ใช้ชีวิตต่อไปให้ดีที่สุด จำไว้นะเสียงต่ำห้าวเอ่ยอย่างเอ็นดู ก่อนจะ เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ ชายหนุ่มทั้งสองอยู่กันตามลำพัง...

       

      พี่ไม่ไปทานข้าวเย็นเหรอ พี่แจจุง ร่างสูงเอ่ยทำลายความเงียบ ร่างบางส่งยิ้มตอบกับมาอย่างอ่อนโยน

       

      รอนายหลับแล้วพี่ค่อยไป ร่างสูงพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหลับตาปล่อยให้ร่างกายที่อ่อนแรงได้พักผ่อนตามที่มันต้องการ

       

      เมื่อร่างบางเห็นว่าร่างสูงรุ่นน้องเข้าสู่นิทราไปแล้ว ก็เดินออกจากห้อง ตรงไปยังร้านค้าด้านล่าง

      ร่างบางเลือกหยิบของ 2-3 อย่างเพื่อที่จะนำขึ้นไปบนทานห้อง จะได้กลับไปให้เร็วที่สุด ก่อนจะเดินมาที่เคาน์เตอร์ แล้วเดินออกจากร้านมุ่งหน้ามาที่ห้องพักของร่างสูง 

       

      เมื่อร่างบางเดินมาถึงหน้าห้องก็เห็น พยาบาลวิ่งหน้าตื่นออกมา ทำเอาใจตกไปอยู่ที่พื้น มือบางทิ้งของในมือก่อนจะวิ่งไปเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างบางเข้าไปก็ต้องพบกับ ห้องที่ว่างเปล่า พร้อมกับชุดคนป่วยที่วางอยู่บนเตียง เวลาเดียวกับนางพยาบาลคนเดิมวิ่งเข้ามาในห้อง

       

      คุณพยาบาลครับ!! น้องชายผมไปไหนฮะ ร่างบางถามรัวเร็ว

       

      ดิชั้นก็ไม่ทราบค่ะ พอดิชั้นเข้ามาตรวจสายน้ำเกลือก็เจอแต่ห้องว่างๆแล้วค่ะ พยาบาลสาวเอ่ยตอบ สีหน้าร้อนรนไม่แพ้กัน

       

      นายไปไหนของนายนะ ยูชอน ร่างบังรำพึงอย่างเป็นห่วง ก่อนจะได้ยินเสียงเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกง

       

      I'm holding back the tears มูกอบจี อานเก นาเอ มาอึมมึล แมโก กอลลอโย~~

       

      ร่างบางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูเบอร์เรียกเค้า ก่อนจะกดรับสาย

       

      ยูชอน นายหายไปไหนฮะ~!!! นี่มันมืดแล้วนะ~~” ร่างบางโวยวายลั่นเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้าคือคนเดียวกับที่ทั้งหมอและพยาบาลกำลังวิ่งวุ่นตามหา

       

      พี่แจจุง ผมขอโทษนะ เดี๋ยวผมกลับไป เสียงทุ้มเอ่ยเรียบ แต่แฝงความเศร้าในน้ำเสียง ก่อนจะกดตัดสายโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับมา

       

       

       

      ที่ชิงช้าไม้อันหนึ่งใต้ต้นไม้สูงใหญ่ ด้านหลังคฤหาสน์หรู ที่ๆเคยมีร่างบางนั่งร้องไห้โดยมีร่างสูงโอบกอดปลอบโยน บัดนี้ชิงช้านั้นว่างเปล่า เงียบเหงา เหมือนกับความรู้สึกในจิตใจของร่างสูง ขายาวเดินมาหยุดที่ชิงช้านั้น มือแกร่งลูบไล้ที่เชือกป่านที่เคยมีมือน้อยของใครคนนึงกอบกุมมันไว้ ภาพของร่างบาง คนเดิมทับซ้อนกับชิงช้าตัวนั้น มือแกร่งเอื้อมไปหมายจะสัมผัส แต่กลับไขว่คว้าได้เพียงความว่างเปล่า

       

      ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งลงที่ชิงช้าตัวเดิมอย่าเหม่อลอย ภาพเหตุการณ์วันแรกที่เค้าได้พบกับนางฟ้ายังวนเวียนเข้ามาในห้วงคิด เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาที่เค้ามีร่างบางเข้ามาในชีวิตวนเวียนเข้ามาราวกับหนังที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาไม่มีหยุด ภาพร่างเล็กที่เปรอะเปื้อนด้วยน้ำสีแดงสดในอ้อมกอดของเค้ายังคอยหลอกหลอน ตอกย้ำให้หัวใจที่บอบช้ำทรมานไม่มีสิ้นสุด

       

      คนที่รักเรา เค้าไม่เคยจากเราไปไหนนะยูชอน เค้ายังเฝ้ามองเราจากที่ไกลแสนไกล เชื่อพี่สิ

       

      เพราะ......จุนซู.......รัก.....ยูชอน.....ถึง.......ทำแบบนี้.....ยูชอน.......ยะ.......อย่า......โกรธนะ

       

      อย่า.......ร้องไห้.........นะ..........ยูชอน ..........จุนซู............ยัง.......อยู่กับ...........ยูชอน.......เสมอนะ

       

      จุนซู.........จะ.....เฝ้ามอง........ยูชอน........จาก...................บน......................นั้น

       

       

      ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ที่ส่องแสงลงมาเค้า สะท้อนภาพใบหน้าหวานใส รอยยิ้มสดใสที่ตรึงใจเค้าตั้งแต่วินาทีแรกที่พบ ใบหน้านั้นมองลงมาก่อนจะส่งยิ้มสดใสมาให้ ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มกลับไป หยดน้ำใสไหลลงจากนัยน์ตาคม

       

      ผมรักคุณหนูนะครับ

       

       

      END

       

       *************************************


      จบแล้ว เศร้าไม๊อ่ะ 

      คิดไงกันก้อเม้นบอกกันบ้างเน้

      ส่วนเรื่องเดวิล จะรีบเอามาลงนะคะ ไม่เกินสองวัน  

       

       

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×