ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่ร้ายหมายรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : คู่ร้ายหมายรัก บทที่ 5

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.91K
      5
      11 พ.ย. 52

    คู่ร้ายหมายรัก บทที่5
     
    ห้องพักของพวกเขามีทั้งหมดสองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องรับแขก ประกอบไปด้วยโซฟายาวสีฟ้าสดใส โทรทัศน์สีจอแบนพร้อมเครื่องเสียงและเครื่องเล่นดีวีดีชุดใหญ่ ลึกเข้าไปด้านในเป็นครัวไร้แก๊สซึ่งก็คือเตาไมโครเวฟ และบาร์เครื่องดื่มขนาดเล็ก ส่วนห้องนอนทั้งสามห้องอยู่ด้านบน ซึ่งตกเป็นของสาวๆ เสียสองห้องตามการเฉลี่ยแบ่งตามจำนวนคน ห้องน้ำมีทั้งหมดสามห้อง ห้องแรกอยู่ชั้นล่าง ห้องที่สองอยู่ภายในห้องนอนใหญ่ ส่วนอีกห้องอยู่ตรงระเบียงระหว่างห้องนอนเล็ก
     
    ทั้งสองชั้นมีระเบียงส่วนตัว ระเบียงชั้นล่างมีฝักบัวและอ่างจากุซซีแบบเปิดโล่งแต่เป็นส่วนตัว สามารถแช่น้ำอาบน้ำไปพลาง ดูดาวชมธรรมชาติไปพลางได้ ส่วนระเบียงชั้นบนเป็นชุดเก้าอี้พับชายหาดและอ่างจากุซซี อำนวยความรื่นรมย์กำลังสอง สาวๆ ทั้งหลายต่างกรี๊ดกร๊าดและบอกเป็นเสียงเดียวว่าโรแมนติกสุดๆ แน่นอนว่าพวกเธอยึดห้องที่มีระเบียงเป็นของตัวเอง ส่วนพวกหนุ่มๆ น่ะหรือ นอนห้องที่ธรรมดาที่สุดนั่นแหละเหมาะสมแล้ว
     
    หนุ่มสาวทั้งแปดแยกตัวกระจัดกระจายตามมุมต่างๆ ของห้อง บ้างก็เอากระเป๋าเก็บเข้าที่ บ้างก็เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าล้างตา
     
    สดับพิณเพิ่งจัดแจงเอาชุดกระโปรงเนื้อผ้ายับง่ายออกมาแขวนเสร็จ จึงจะเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว หากฤทัยบอกว่าปัณณธรกำลังทำธุระหนัก ท่าทางจะอีกนาน ให้หาห้องน้ำห้องอื่นเข้าแก้ขัดไปก่อน
     
    สดับพิณทำตามคำแนะนำแต่โดยดี เธอออกไปเข้าห้องน้ำด้านนอก แต่ก็มีคนจับจองอยู่ก่อนแล้วเช่นกัน
     
    อ้าว! จะเข้าห้องน้ำเหรอพิณ ลินดาทักเมื่อเห็นสดับพิณหมุนลูกบิดประตูและพบว่าติดล็อกด้านใน
     
    อื้อ! แต่มีคนเข้าอยู่
     
    ลองไปห้องข้างล่างสิ น่าจะว่างนะ
     
    ก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน
     
    สดับพิณเดินลงไปข้างล่าง อังกฤษและหนุงหนิงนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา มัวแต่สนใจรายการทีวีจนไม่เห็นเธอ เธอหยุดอยู่หน้าห้องน้ำ ประตูยังคงปิดเหมือนเดิม แต่เธอก็ลองหมุนลูกบิด เนื่องจากบางคนชอบให้ประตูห้องน้ำปิดเอาไว้ นัยว่าห้องน้ำเป็นห้องส่วนตัวที่ไม่ควรเปิดเผยให้ใครเห็น
     
    ลูกบิดคลายออก เธอยิ้มเพราะคิดว่าห้องนี้ว่างชัวร์ ทว่าเธอคิดผิด และเธอก็ร้องกรี๊ดเมื่อดนัยภัทรเปลือยครึ่งท่อนล่างอยู่กลางห้องน้ำ
     
    เฮ้ย!” เขาอุทาน มือถือกางกางขาสั้นที่กำลังจะเปลี่ยนค้างเอาไว้ ทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นผู้ชมทำหน้าตื่นใส่

    คนบ้า! ทำไมไม่ล็อกห้องน้ำ สดับพิณรีบหันหลังกลับ หน้าแดงแปร๊ดโดยอัตโนมัติ ทั้งที่เห็นทัศนวิสัยของชายหนุ่มไม่ชัดเท่าไหร่ ทราบแต่ว่าเขาสวมเสื้อยืดอยู่ตัวเดียว แต่สวมกางเกงในหรือไม่นั้น เธอตอบไม่ได้ สายตาของเธอไม่กล้าซอกแซกพอ
     
    ก็ล็อกมันเสียนี่ เขาไม่ใช่คนโรคจิตที่เข้าห้องน้ำไม่ล็อกประตู หรือเป็นเด็กเล็กที่ล็อกประตูไม่เป็น แต่ทำไงได้ ล็อกพัง และเขาคิดว่าคงไม่น่าจะเป็นไรกะอีแค่ฉี่กับเปลี่ยนกางเกงแป๊บเดียว แล้วห้องน้ำข้างบนก็มีตั้งสองห้อง คงไม่มีใครใช้ห้องน้ำข้างล่างตอนนี้หรอก แต่ที่ไหนได้ เขากลับคิดผิด
     
    อะไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมพิณกรี๊ดลั่นบ้าน!” หนุงหนิงถาม เธอกับอังกฤษวิ่งหน้าตื่นเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง
     
    ดนัยภัทรรีบดึงประตูปิด เขาไม่อยากให้ใครมาร่วมดู ดนัยภัทรโชว์สักเท่าไหร่ แค่มียายตุ๊กตาเป็นผู้ชมคนเดียวก็เสียหายมากพอแล้ว...เอ้อ! จะว่าไปก็ไม่เสียหายอะไรหรอก เขายังใส่กางเกงในและเสื้อ เธอไม่มีทางจะเห็นช้างน้อย...เอ๊ย! แมมมอธของเขาแน่
     
    ปะ...เปล่าค่ะ...คือ... สดับพิณยังคงหน้าแดงเหมือนเดิม ไม่กล้าสบตาผู้มาใหม่ทั้งสอง แล้วลินดาก็วิ่งจากบันไดลงมาหาพวกเขาเช่นเดียวกัน
     
    ใครกรี๊ดอะไร มีใครเป็นอะไร!” เธอถามอย่างตกใจ

    ไม่มีอะไรหรอก คุณพิณยังไม่รู้ว่าล็อกห้องน้ำเสีย เลยพรวดพราดเปิดประตูเข้ามาตอนฉันกำลังเปลี่ยนกางเกง ดนัยภัทรไม่รอฟังสดับพิณพูดตะกุกตะกักอ้ำอึ้ง เขาอธิบายผ่านประตูห้องน้ำด้วยความรวดเร็วและความบริสุทธิ์ใจ
     
    พุทโธ่เอ๋ย! ไอ้เราก็นึกว่าเจอตัวบ้าอะไร ที่ไหนได้ ก็แค่ช้างน้อยนั่นเอง อังกฤษแซวขำๆ หนุงหนิงและลินดาพลอยขำไปด้วย
     
    ไอ้บ้ากฤษ ไม่ใช่ช้างน้อยโว้ย แมมมอธต่างหาก แมมมอธ ดนัยภัทรเถียงกลับ ประตูเปิดออกกว้าง เขาก้าวออกมาในชุดที่เรียบร้อยแล้ว ในมือถือกางเกงยีนส์ที่ใส่ตอนขามา สดับพิณรีบถอยกรูดไปหลบอยู่หลังหนุงหนิง ไม่กล้ายืนใกล้ๆ ดนัยภัทร ทั้งเขินและเคือง
     
    หน็อยแน่ไอ้ภัทร มีหน้ามาพูด...แมมมอธๆ อังกฤษลอยหน้าลอยตาล้อเลียน เขาไม่เคยเห็นไอ้นั่นของเพื่อนหรอก แต่ปากเปราะแซวเล่นไปแบบนั้น นิสัยปากหมาชอบพูดบ้าๆ ของเขาแก้ไม่หายมานานแล้ว
     
    พอกันทีทั้งสองคน ต่อหน้าผู้หญิงพูดเรื่องแบบนี้ได้ไม่อายปาก หนุงหนิงตัดบท ดูซิพิณหน้าแดงหมดแล้ว เธอโอบแขนรอบตัวสดับพิณอย่างปกป้อง พิณเพิ่งรู้จักพวกเรา เห็นพวกเราทำแบบนี้ก็กลัวพอดี ไปดีกว่าพิณ อย่าไปสนใจสองคนนี้เลย
     
    หนุงหนิงพาสดับพิณออกเดิน ลินดาเดินตามและไม่วายทิ้งท้ายว่า
     
    จะช้างน้อยหรือแมมมอธมันก็ครือกันล่ะว้า ถ้าเป็นช้างคออ่อนก็ไม่มีประโยชน์อะไร เธอหัวเราะลั่น ส่วนสดับพิณทำหน้างงเนื่องจากไม่เข้าใจมุกของลินดา แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร เพียงสังหรณ์ว่าจะต้องเป็นมุกใต้สะดือแน่ๆ
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    ================================================================
     
    อาหารต่างถิ่นมื้อแรกเป็นก๋วยเตี๋ยวปลาต้มยำรสแซบ พวกเขาไม่เน้นว่ามาทะเลต้องกินอาหารทะเล เลยตระเวนกินอาหารที่ได้รับความนิยมประจำท้องถิ่นเสียมากกว่า เมื่ออิ่มก๋วยเตี๋ยวปลา พวกเขาก็วนรถไปซื้อข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าอร่อยตุนไว้เป็นของว่าง และแวะร้านกาแฟซึ่งขึ้นชื่อว่าสถานที่ตกแต่งน่ารักน่านั่งและขนมรสชาติอร่อยลิ้นเป็นลำดับต่อมา
     
    หนุ่มสาวทั้งแปดถอนหายใจด้วยความยินดีเมื่อฝ่าไอแดดร้อนๆ เข้ามาอยู่ในห้องเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ ร้านกาแฟมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ด้านในจุคนได้ราวยี่สิบกว่าคน ด้านนอกเป็นระเบียงกว้าง มีโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งกินขนมชมวิวต่างหาก โครงสร้างร้านเป็นบ้านที่นำมาปรับปรุงเป็นร้านกาแฟ ตกแต่งด้วยสีขาว เหลือง และน้ำตาลต่างโทนสี ดูอบอุ่นน่ารักและสดใสเหมือนดอกทานตะวัน มุมข้างหนึ่งเป็นผนังกระจกใส ติดกันนั้นเป็นเคานเตอร์ยาวสำหรับนั่งดื่มกาแฟสำหรับผู้ที่มาคนเดียว คนนั่งจะหันหน้าเข้าหากระจก สามารถมองวิวถนนหนทางด้านนอกเพลินๆ ระหว่างจิบกาแฟได้ ลึกเข้าไปด้านในมีตู้หนังสืออ่านเล่นและโซฟาชุดใหญ่นั่งได้แปดคนพอดี พวกเขาจับจองพื้นที่ส่วนนี้เนื่องจากเป็นโต๊ะที่ใหญ่ที่สุด โต๊ะอื่นๆ ในร้านจะนั่งได้เพียงสองถึงสี่คนเท่านั้น
     
    พนักงานของร้านนำเมนูมาให้พวกเขา แต่ละคนแบ่งกันอ่านดู สดับพิณชะโงกหัวแทบติดกับญาติสาว กำลังลังเลใจระหว่างโกโก้เย็นกับโอรีโอมอลต์ปั่น เธออยากกินวิปครีมจากโกโก้เย็น แต่ก็อยากลองชิมโอรีโอมอลต์ปั่นซึ่งเป็นเมนูที่หาที่ไหนไม่ค่อยได้ด้วย

    ว่าไงพิณ เลือกได้หรือยัง ปัณณธรถามหลังจากสั่งมอคคาปั่นและไอศกรีมวาฟเฟิลเสร็จ
     
    ยังเลยปันปัน กำลังเลือกระหว่างโกโก้กับโอรีโอมอลต์ สดับพิณตอบ สายตายังคงจับจ้องรูปเครื่องดื่มในเมนูด้วยสายตาตั้งใจ
     
    ดนัยภัทรได้ยินและอดหันมาสนใจไม่ได้ เมื่อเห็นสาวเจ้าหงึกหงักชักช้า เลยอาสาช่วยโดยเสนอว่า

    ไม่สั่งลาเต้เย็นเหมือนเมื่อเช้าเหรอครับ
     
    สดับพิณหันขวับไปทางชายหนุ่ม มองเขาอย่างไม่เป็นมิตร...นี่เขามายุ่งอะไรกับเธอด้วย ตั้งใจจับผิดกันใช่ไหม
     
    โอเค เธอยอมรับว่าตอนนั้นทำเก่งต่อหน้าเขาด้วยความหมั่นไส้ สั่งกาแฟที่ตัวเองไม่ดื่ม ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แต่ทำไมเขาต้องอคติกับเธอด้วยล่ะ เพราะอะไร เพราะเธอเป็นเพื่อนนอกกลุ่มเขาอย่างงั้นรึ หรือว่าเขาเหม็นหน้าเธอขึ้นมาเฉยๆ  
     
    สดับพิณไม่ตอบเขา ปัณณธรไม่โง่ที่ไม่สังเกตเห็นปฏิกิริยาแปลกๆ ระหว่างเพื่อนหนุ่มกับญาติสาว ไม่อยากให้เรื่องราว...ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีบานปลาย เลยลงมือจัดการเสียเอง
     
    เอาโอรีโอสิ ไม่ค่อยเห็นขายที่ไหนเท่าไหร่
     
    ก็ได้ โอรีโอก็โอรีโอ สดับพิณคล้อยตามโดยง่าย เธอหมดอารมณ์จะเลือกแล้วเหมือนกัน
     
    ดนัยภัทรได้แต่ยักไหล่ยิ้มๆ ซึ่งสดับพิณเห็นว่าช่างกวนลูกตาเธอเสียนี่กระไร
     
    เป็นไง สั่งอะไรกันไปบ้าง ฤทัยถาม เธอ ลินดา และหนุงหนิงเดินเข้ามาหลังจากสั่งเค้กหน้าตู้แช่เสร็จ
     
    เครื่องดื่มคนละแก้ว วัฟเฟิลไอศกรีมหนึ่ง ปัณณธรตอบ
     
    ฤทัยสั่งเค้กมาด้วย มีบานอฟฟี บูลเบอร์รีชีสพาย กับบราวนีวิปครีม
     
    ดีๆ อยากกินบานอฟฟี เห็นว่าที่ร้านนี้อร่อยมาก ปัณณธรกล่าว ไม่มีใครไม่เห็นด้วย หนุ่มๆ ทั้งสามไม่เรื่องมาก ใครสั่งอะไรมาก็กินได้หมด ส่วนสดับพิณนั้นเล็งวิปครีมจากบราวนีเป็นอย่างแรก
     
    จะมีใครว่าอะไรไหมถ้าเธอจะขอเหมาวิปครีมล้วนๆ
     
    เฮ้อ...ก็เธอไม่เคยต้านทานครีมหวานๆ มันๆ ได้เลยนี่นา
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    ================================================================
     
    เมื่อเสร็จสิ้นนัดบอด ชลน่านก็ตรงกลับบ้าน เขาเห็นมารดาผู้เป็นที่รักนั่งแกร่วอยู่ในห้องรับแขก เขาไม่สงสัยว่าทำไม แม่คงอยากรู้ผลการนัดใจจะขาด
     
    สวัสดีครับม้า
     
    ตาน่าน มานั่งนี่มา อรุณีกวักมือเรียกและตบเบาะว่างข้างๆ เธอ
     
    เขาทำตามคำสั่งแต่โดยดี แต่ยังนั่งเงียบไม่พูดอะไร
     
    เป็นยังไงบ้าง เล่าให้แม่ฟังหน่อย ทำเป็นอุบเงียบอยู่ได้ ยิ้มอย่างนี้นี่ ดีหรือไม่ดี เธอฟาดมือเพียะบนต้นแขนของลูกชายตัวดีที่ทำเป็นอมพะนำทั้งที่รู้ว่าเธออยากรู้เรื่องนัดบอดจะแย่
     
    ชลน่านไม่อยากตอบให้แม่ดีใจเลยว่ามันดีกว่าที่เขาคิด เขาคาดว่าจะเจอผู้หญิงน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ แต่ที่ไหนได้ ณัฐทินีดูจะเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับเขาเลยทีเดียว
     
    ก็...งั้นๆ ครับ
     
    นี่แน่ะ!” เธอตีลูกชายอีก มาบอกว่างั้นๆ แต่ยิ้มตาพราวแบบนี้ ม้าไม่เชื่อหรอก เธอเลี้ยงลูกมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ทำไมจะไม่รู้ว่าตัวแสบคนนี้มีนิสัยเป็นอย่างไร
     
    ชายหนุ่มหัวเราะร่า ไม่สะดุ้งสะเทือนกับฝ่ามือพิฆาตของมารดา ก็...ก็น่าสนใจดีครับ
     
    อะไรน่าสนใจ นัดบอดหรือผู้หญิงที่นัดบอดด้วย อรุณีรุก
     
    ทั้งสองอย่าง เขาตอบคลุมเครือ
     
    ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร หน้าตาเป็นยังไง นิสัยเป็นยังไง วันนี้คุยอะไร ทำอะไรกันบ้าง

    โอ๊ย! ม้าครับ ใจเย็นๆ ถามรัวแบบนี้ เล่าไม่ถูกครับ เขายกสองมือทำท่าห้ามเป็นพัลวัน
     
    ไม่ต้องมาอ้างโน่นอ้างนี่เลยตาน่าน ม้ารู้ว่าเราเล่าได้ ว่าแต่จะอยากเล่าหรือเปล่าเถอะ เธอกอดอกและมองลูกชายค้อนๆ
     
    โห...ม้า เจ็บกระดองใจ พูดแทงใจน่านเต็มๆ ชายหนุ่มเอามือกุมหัวใจ ร้องโอดโอยอย่างไม่น่าสงสาร
     
    แสดงว่าสนใจเขา ไม่เป็นไร พ่อลูกชายตัวดีไม่ยอมบอก เธอไปถามเพื่อนเธอก็ด้ายยยย
     
    แต่เขาไม่สนใจน่าน ชลน่านแสร้งถอนหายใจเฮือกอย่างคนกลัดกลุ้ม
     
    อะไรกัน มีด้วยเหรอผู้หญิงแบบนั้น ม้าไม่เชื่อ จะหาว่าเธอลำเอียงเข้าข้างเห็นดีเห็นงามไปกับลูกชายก็ว่าได้ แต่เธอคิดว่าชลน่านเป็นหนุ่มเนื้อหอม มีคุณสมบัติรูปลักษณ์ รูปทรัพย์ และนิสัยดีเลิศไม่เป็นสองรองใคร...เอ้อ...ถ้าไม่นับเรื่องเจ้าชู้วอบแวบกับขี้เบื่อนิดๆ หน่อยๆ ที่ชวนให้เธอปวดหัวอยู่ ณ ตอนนี้นะ
     
    ถ้าน่านจะขอเบอร์โทรศัพท์ของเขาจากอี๊อัญ ม้าว่าจะอี๊อัญจะให้ไหมครับ เหมือนเขาจำได้รางๆ ว่าเอกสารของวีแมตช์เลิฟระบุว่าข้อมูลของลูกค้าจะถูกเก็บเป็นความลับ เบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าก็เป็นความลับ ดังนั้นอัญชุลีมีสิทธิ์จะไม่ทำตามคำขอของเขามากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
     
    อรุณีมองลูกชายด้วยสายตาสังเกต น้ำเสียงของชลน่านบ่งบอกว่าไม่พูดเล่น...งั้นก็แสดงว่านัดบอดครั้งนี้ได้ผลล่ะสิ
     
    ก็น่าจะได้มั้ง ม้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องลองถามอี๊อัญดู
     
    น่านขอเบอร์อี๊อัญได้ไหมครับ
     
    เธอมองลูกชายอย่างไม่ไว้ใจ ใจหนึ่งอยากให้เพราะเขาทำท่าสนใจจริงๆ แต่อีกใจกลัวว่าเขาจะแอบคุยยกเลิกการนัดบอดกับอัญชุลีลับหลังเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจให้ ถึงไม่ให้ เขาก็คงจะเสาะหาเบอร์ติดต่ออัญชุลีได้ไม่ยาก เอาไว้เธอค่อยไปเตี๊ยมกับอัญชุลีในภายหลังน่าจะดีกว่า
     
    เธอกดเรียกเบอร์ติดต่อของอัญชุลีจากโทรศัพท์มือถือของเธอ และยื่นให้ชลน่านเม็มโมรีเข้าโทรศัพท์ส่วนตัว
     
    ชลน่านเอ่ยปากขอตัว ไม่ยอมให้มารดาซักอะไรอีก แม่แค่จัดการเรื่องนัดบอดให้ แต่การดำเนินงานเกี่ยวกับการนัดหมายทั้งหมดอยู่ในกำมือของเขา...เรื่องอะไรเขาจะต้องให้แม่ยุ่งเรื่องจีบผู้หญิงด้วยล่ะ แต่ถึงแม่จะไม่รู้จากปากของเขา แม่ก็คงถามจากอัญชุลีได้ไม่ยาก
     
    ทันทีที่อยู่ตามลำพัง เขาก็โทรศัพท์หาอัญชุลี ซึ่งดีใจมากเมื่อรับสายของเขา แต่เธอก็ปฏิเสธจะให้เบอร์โทรศัพท์ของณัฐทินีแก่เขาโดยอ้างว่าเป็นความลับของลูกค้า การแลกเปลี่ยนเบอร์โทรฯ เป็นความสมัครใจของตัวลูกค้าเอง เธอไม่เกี่ยว
     
    แม้จะตรงตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ชลน่านก็หงุดหงิดเล็กน้อยที่ทำอะไรไม่ได้ดังใจ ทว่าอัญชุลีก็อุตส่าห์บอกใบ้ว่าณัฐทินีทำงานที่บริษัทอะไร
     
    ไอดีอีเอ บริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายใน
     
    ก็เหมาะสมกับเธอดี เธอเป็นผู้หญิงมั่นใจและคล่องตัว
     
    เว็บเพจบริษัทของเธอหรือบริการสอบถามเลขหมายช่วยอะไรเขาไม่ได้มาก เขาได้แต่เบอร์ที่ทำงานของเธอมา แน่นอนว่ามันปิดวันเสาร์และวันอาทิตย์ เขาไม่อยากรอถึงวันจันทร์เลย อีกตั้งสองวันแน่ะ เขาจะอกแตกตายก่อนไหมเนี่ย
     
    เอ...หรือว่าวันจันทร์เขาจะบุกไปเซอร์ไพรส์เธอถึงที่ทำงานเลย ไม่ทงไม่โทรฯ มันแล้ว
     
    เมื่อคิดถึงเธอ เขาก็กระหยิ่มยิ้มย่องโดยไม่รู้ตัว
     
    อืม...ไปหาเธอที่บริษัทเลยนั่นแหละ ดีที่สุด เธอจะต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ อยากเห็นหน้าเธอจริงๆ เธอจะทำหน้ายังไงเมื่อเห็นหน้าเขากันนะ
     
    หวังว่าคงจะไม่ช็อกจนพูดไม่ออก เพราะเขาชอบฟังเธอพูดมากกว่า
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    ================================================================
     
    เวลาล่วงเลยสองยามมานานแล้ว ผู้คนในห้องพักหลับกันหมดยกเว้นสดับพิณ เธอพลิกตัวไปมา นอนไม่หลับสักที ไม่ว่าจะใช้วิธีคุยกับปัณณธรจนปัณณธรชิงหลับไปก่อน หรือนอนหลับตานับแกะถึงพันตัวก็ยังข่มตาให้หลับไม่ลง ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะอิทธิพลกาแฟที่ดื่มเข้าไปเพียงคำสองคำ แต่อาจเป็นเพราะเธอตื่นเต้นกับการมาเที่ยวและนอนแปลกที่มากกว่า เลยตื่นตาค้างแบบนี้ เธอหันไปมองปัณณธรซึ่งนอนกรนครอกอยู่ข้างๆ และถอนหายใจ
     
    เฮ้อ...ไหนว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกันไงปันปัน คุยด้วยกันไม่ทันไรก็กรนครอกฟี้ๆ ซะแล้ว
     
    หลังจากกลับจากร้านกาแฟ นั่งพักได้ครู่พวกเขาก็เฮโลลงไปเล่นน้ำทะเล เล่นกันจนเหนื่อย กินข้าวเหนียวมูลหอมมันกับมะม่วงสุกแช่เย็นรสเปรี้ยวๆ หวานๆ พักอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ออกไปหาอาหารมื้อเย็นกินต่อ กลับมาถึงที่พักก็ยังอุตส่าห์ชวนกันไปเล่นน้ำอีก หากคราวนี้ลอยคออยู่ในสระว่ายน้ำใหญ่โตของรีสอร์ต พวกเขาอยู่เล่นกันจนมือเท้าเปื่อยกว่าจะได้เข้ามาอาบน้ำอาบท่า แน่ล่ะว่าใช้พลังงานมาตั้งแต่เช้าแบบนี้ ทุกคนจึงพร้อมใจเข้านอนเร็วกว่าปรกติ แต่สดับพิณกลับหลับไม่ลง
     
    เธอนอนกระสับกระส่ายอีกครู่ ก็ตัดสินใจลุกจากเตียง และย่องเงียบๆ ออกจากห้องโดยไม่ลืมคว้า จ๊ะเอ๋ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า น้องเอ๋ตุ๊กตากระต่ายสีขาวแต่ลักษณะเกือบจะเน่าออกไปเป็นเพื่อนด้วย มันเป็นตุ๊กตาตัวโปรดของเธอ เธอติดมันตั้งแต่เล็ก และจะไม่ยอมนอนโดยไม่มีมัน จึงต้องพามันมาเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน
     
    บ้านพักทั้งหลังเงียบสนิท แต่ยังไม่มืดเสียทีเดียว เนื่องจากไฟทางเดินและไฟในห้องครัวถูกเปิดทิ้งเอาไว้ เธอป้วนเปี้ยนแถวตู้เย็นสักพักก็ได้คุกกี้ไส้ครีมหลอดเล็กและนมจืดหนึ่งกล่อง เธอมองซ้ายมองขวา ไม่คิดจะออกไปเดินเล่นนอกบ้าน จึงเลือกนั่งหย่อนขาแช่น้ำวนในอ่างจากุชชีตรงระเบียงบ้านแทน
     
    น้ำเย็นฉ่ำไหลวนกระแทกปลีน่องเป็นระยะ เธอนั่งแหงนหน้าดูดาวระยิบระยับบนผืนฟ้าสีเข้ม ฟังเสียงเครื่องทำจากุซซีผสมเสียงจักจั่นกรีดปีกหวีดหวิวเพลินจนลืมกินขนมและนมที่หยิบติดมือมา 
     
    หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว สดับพิณไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะหลุดออกมาจากใต้ปีกอันปกป้องของพ่อแม่ได้ แต่เธอก็หลุดออกมาแล้ว แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสามวัน และในความหวาดหวั่นต่อการเปลี่ยนแปลงอันเล็กน้อย เธอรู้สึกถึงอิสระเสรีที่โหยหา
     
    บางทีเธอคงอยู่ใต้โอวาทบิดามารดามากเกินไป
     
    เธอนึกย้อนไปถึงสมัยเมื่อครั้งยังเด็ก ด้วยเป็นลูกสาวคนเล็กและคนเดียว ประกอบกับมีรูปร่างบอบบางคล้ายคนอ่อนแอ พ่อแม่จึงประคบประหงมเธอประดุจไข่ในหิน เอาอกเอาใจ ตามรับตามส่งถึงโรงเรียน ไม่ปล่อยให้ไปไหนตามลำพัง คัดสรรเพื่อนๆ ที่เหมาะสม รวมไปถึงเลือกการเรียนการศึกษาที่ตรงกับความพอใจของพวกเขา จนกระทั่งเธอเรียนจบปริญญาโท พวกเขาก็ยังเรียกกึ่งบังคับให้มาทำงานในบริษัทของครอบครัว เรียกว่าเธอไม่เคยได้ตัดสินใจด้วยตัวเองเลย มีช่วงปริญญาโทที่ไม่เร่งเรียนนี่แหละที่ทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาคนหนึ่ง เธอมีเพื่อน มีกิจกรรม มีสังคมของตัวเอง แม้จะยังถูกกักกันจำกัดสิทธิบางอย่าง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนก็นับว่าดีกว่ามาก
     
    เธอนึกสงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทนไปได้อย่างไร เธออิจฉาเพื่อนๆ ที่ได้ไปโน่นมานี่ตามสะดวก ได้ขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนเอง ได้ไปกินไอศกรีมหลังเลิกเรียน ได้ไปค่ายเนตรนารี ได้เรียนอย่างที่ใจต้องการ ได้ทำงานที่ใฝ่ฝัน แล้วเธอล่ะ...เป็นอะไร เป็นคุณหนูของบ้าน พ่อแม่ตามใจแต่ไม่ปล่อย ต้องเรียนตามพ่อแม่สั่ง แถมยังทำงานกับบริษัทที่บ้านตามสูตรเป๊ะ ไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง เธอไม่เคยทำอะไรให้ตัวเองภูมิใจเลย ช่างน่า...สมเพช
     
    เธอถอนหายใจ คอที่แหงนหงายตกลงอย่างช่วยไม่ได้
     
    มือเย็นๆ แตะบนไหล่เปลือยของเธอ เธอตกใจจนสะดุ้ง อ้าปากกำลังจะกรีดร้อง ถ้าไม่ถูกตะครุบปากไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก เธอดิ้นขลุกขลัก รับรู้ว่าใครบางคนที่ตัวโตกว่าเธอมาก กำลังรัดเธอจากทางด้านหลัง
     
    นี่ผมเอง อย่ากรี๊ดเชียวนะ เดี๋ยวคนอื่นก็พากันตื่นพอดี   
     
    เสียงกระซิบนั้นคุ้นเคยจนสดับพิณหยุดดิ้นรน เธอหันไปมอง สบตากับดวงตาสีน้ำตาลใส หัวใจเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้นตกใจ
     
    จำผมได้ใช่ไหม
     
    เธอพยักหน้า...ทำไมเธอจะจำเขาไม่ได้ เธอไม่ใช่คนความจำเสื่อมสักหน่อย
     
    หายตกใจแล้วนะ
     
    เธอพยักหน้าอีก ทั้งที่ใจยังเต้นระรัว
     
    งั้นผมจะปล่อยมือล่ะ ห้ามร้องกรี๊ดนะ
     
    เมื่อเห็นเธอผงกศีรษะรับ ดนัยภัทรก็ค่อยๆ ปล่อยมือจากปากของเธอ และขยับตัวนั่งเคียงข้างราวว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
     
    ขวัญอ่อนจริงคุณนี่ เขาเอ่ยยิ้มๆ 
     
    เธอมองค้อนเขา ใบหน้าแดงๆ เริ่มผ่อนคลายลงเช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นตุ้บไม่เป็นส่ำ ก็คุณเล่นมาเงียบๆ นี่ แถมเอามือเย็นเจี๊ยบมาจับ พิณก็นึกว่า...ผีน่ะสิ มือเอื้อมไปหยิบจ๊ะเอ๋มากอดไม่ให้มือว่าง ดนัยภัทรมองตาตาม เห็นตุ๊กตายัดนุ่นเก่าโทรมของเธอแล้วนึกขัน
     
    ยายตุ๊กตา ติดตุ๊กตาเหมือนเด็กๆ เลยแฮะ
     
    ขืนเมื่อกี้ผมปิดปากคุณไม่ทัน มีหวังตื่นกันทั้งบ้าน...เผลอๆ ลามไปถึงบ้านอื่นด้วยแหงๆ เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะถาม ว่าแต่คุณมานั่งตรงนี้คนเดียวทำไม ไม่รู้จักหลับจักนอนหรือไง
     
    แล้วคุณล่ะ มาทำอะไร ไม่หลับไม่นอน เธอย้อน ไม่ตอบเขาก่อน
     
    นอนไม่หลับ ผมเป็นพวกหลับยากถ้านอนแปลกที่ เขากอดเข่าหลวมๆ สายตามองไปเบื้องหน้า รู้สึกได้ถึงความสงบเยือกเย็นของรัตติกาล  
     
    แล้วคุณล่ะ เขาถามซ้ำ
     
    พิณ...เอ้อ...ก็คงเหตุผลคล้ายๆ กับคุณ แล้วก็ตื่นเต้นด้วย เธอซบศีรษะกับตุ๊กตา สูดกลิ่นเน่าๆ อันแสนคุ้นเคยอย่างรักใคร่
     
    ตื่นเต้น? เขาถาม ตื่นเต้นอะไรกัน เขาไม่เห็นว่าจะมีอะไรชวนตื่นเต้นสักนิด
     
    ก็พิณไม่เคยถูกปล่อยมาเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ แบบนี้นี่ อย่าว่าแต่เที่ยวต่างจังหวัดเล้ย แค่เที่ยวนอกบ้านธรรมดายังต้องมีคนไปรับไปส่งอย่างกับเด็กอนุบาล
     
    อืม... ดนัยภัทรทำเสียงรับในลำคอ จำได้รางๆ เหมือนกันว่าเธอเพิ่งจะเคยออกเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ครั้งแรก น่าสงสารเธอเหมือนกัน พ่อแม่เป็นห่วงเกินไป น่ากลัวว่าจะเป็นพ่อแม่รังแกฉัน...หรือเปล่า 
     
    งั้นคราวนี้คงต้องเที่ยวให้เต็มที่ล่ะนะ เขายิ้มอย่างเข้าใจ
     
    สดับพิณอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ รอยยิ้มของเธออ่อนหวาน เหมือนยิ้มของตุ๊กตา ชายหนุ่มใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว
     
    พิณก็ว่างั้น เป็นครั้งแรกที่สดับพิณเห็นว่าเขาก็น่าคบหาไม่เลว
     
    พรุ่งนี้คุณคงจะสนุก จะไปน้ำตกป่าละอูกัน เคยเที่ยวน้ำตกหรือยังล่ะ
     
    เธอส่ายหัว ไม่เคยเลยค่ะ ม้าไม่ชอบน้ำตก บอกว่าน่ากลัว เธอคิดว่าน้ำตกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มารดาคิด อาจจะมีบ้างในช่วงน้ำหลากและฝนตกที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ธรรมชาติก็เป็นธรรมชาติ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ทั้งปลอดภัยและอันตรายในขณะเดียวกัน 
     
    เอ...มันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรนา
     
    พิณก็ว่างั้น เธอไม่ได้บอกแม่ว่ามีโปรแกรมเที่ยวน้ำตกรวมอยู่ด้วย กลัวแม่จะตื่นตระหนกจนไม่อยากให้เธอไปเที่ยว
     
    นั่งคุยเรื่องไร้สาระเที่ยวกับการท่องเที่ยวได้สักพัก สดับพิณก็เริ่มตาเชื่อม เธอยกมือปิดปากหาว ก่อนจะกะพริบตาไล่น้ำตาที่เอ่อขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
     
    เริ่มง่วงแล้วล่ะสิ ดนัยภัทรทัก
     
    หญิงสาวพยักหน้า

    ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ท่าทางจะต้องใช้แรงเยอะ ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว เขาคุยกับเธอไปนานเท่าไหร่ แต่เขาแทบไม่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานเลย
     
    ค่ะ สดับพิณเปิดปุ่มเปิด/ปิดของจากุชชีแล้วลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมคว้าจ๊ะเอ๋ขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อเหลือบไปเห็นกล่องนมเปล่าและซองขนมที่แบ่งกินกับเขาจนหมดใกล้เท้า เธอก็เตรียมย่อตัวลงไปเก็บ แต่ดนัยภัทรโบกมือห้าม
     
    ผมทิ้งให้ คุณอุ้มตุ๊กตาไปเถอะ เขาก้มลงไปเก็บเศษขยะด้วยมือข้างเดียว เมื่อเขายืดตัวเต็มความสูง เธอก็สบตาเขาและบอกว่า
     
    จ๊ะเอ๋ค่ะ...มันชื่อจ๊ะเอ๋
     
    เขาเข้าใจในทันทีว่าเธอเพิ่งจะบอกชื่อตุ๊กตาของเธอ
     
    ชื่อน่ารักดี ดนัยภัทรเอื้อมมือไปยีหัวตุ๊กตากระต่ายเบาๆ หน้าเหมือนคุณเหมือนกันนะเนี่ย เขาไม่ได้บอกว่าโดยเฉพาะตากลมแป๋วสีดำคู่นั้น
     
    แน่นอน ก็น้องเอ๋เป็นน้องของพิณนี่ เธอรับสมอ้าง ไม่ค้อนใส่อย่างที่เขาคิด ทำเอาเขาหัวเราะเบาๆ ด้วยความประหลาดใจ
     
    หลังจากทิ้งขยะเรียบร้อย สองหนุ่มสาวก็เดินด้วยฝีเท้าเงียบกริบไปตามทางเดิน ปลายทางของบันไดเป็นทางแยก พวกเขาหยุดเดินและหันมาสบตาพร้อมกัน
     
    ขอบคุณที่อยู่คุยเป็นเพื่อนค่ะ มันทำให้เธอรู้ว่าการมีเพื่อนก็ดีกว่าการอยู่คนเดียว
     
    เช่นกันครับ บทสนทนาก่อนหน้าเปลี่ยนมุมมองที่เขามีต่อเธอ แม้เธอจะดูเหมือนเด็ก และมีนิสัยบางอย่างเหมือนเด็ก แต่ก็ยังมีบางส่วนของเธอ...ส่วนลึกๆ ที่ดูโตกว่าอายุ และเป็นส่วนที่น่าค้นหาไม่น้อย
     
    ดนัยภัทรไม่ทราบว่าเธอเพิ่งอายุยี่สิบ น้อยกว่าเขาหกปี เขาคิดว่าเธอเป็นญาติวัยเดียวกับปัณณธรซึ่งอายุน้อยกว่าเขาสองปี อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน ดังนั้นการกระทำบางอย่างแต่แรกเห็นของเธอจึงดูขัดใจเขาไปบ้าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกเฉยๆ กับการกระทำของเธอเสียแล้ว บางครั้งเห็นว่าน่าเอ็นดูด้วยซ้ำไป
     
    เธอยิ้มเก้อให้เขา ก่อนจะหมุนตัวกลับ ยังไม่ทันจะได้ออกเดิน เธอก็หันกลับมา เขายังไม่ได้เดินไปไหน เธอจึงเห็นเขาเต็มๆ เธอหน้าแดงเล็กน้อย คล้ายเด็กถูกจับได้ว่าทำผิด
     
    เอ้อ... เธอยืนอ้ำอึ้งอยู่ครู่โดยที่ดนัยภัทรไม่คิดเซ้าซี้ถามว่าเธอจะพูดอะไร
     
    ความจริง...พิณไม่ดื่มกาแฟหรอกค่ะ เธอสารภาพ ก่อนจะรีบหันหลังให้เขาและออกเดินเร็วๆ ไม่กล้าหันไปมองสีหน้าของเขาหลังจากทราบคำตอบ
     
    ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอจึงสารภาพความจริงกับเขาทั้งที่ไม่จำเป็น เขาจะหาว่าเธอแหยหรืออวดเก่งหรือเปล่านะที่ทำเป็นสั่งกาแฟประชดทั้งที่ดื่มกาแฟไม่ได้...หวังว่าเขาจะไม่คิดเช่นนั้น ไม่งั้นเธอ...เธอคง...คงผิดหวัง
     
    แต่เขาไม่ผิดหวัง...
     
    ดนัยภัทรยิ้มกว้าง ดวงตาสีน้ำตาลมองตามร่างเล็กที่สาวเท้าด้วยความรวดเร็วทว่าเงียบเชียบเข้าไปในห้องนอน
     
    บางทีเขาอาจจะตัดสินเธอเร็วเกินไป เธออาจจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
     
    จบบทที่5
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    ================================================================
     
    หวัดดีค่า
     
    มาแปะต่อช้ามากๆ เลยค่ะ รอเคลียร์เรื่อง Hidden Love ที่แต่งจบพอดี แล้วก็นอกจากจะยุ่งงานมากๆ แล้ว ยังไม่สบายอีกค่ะ ไม่สบายมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้หวัดกินงอมแงมเลย ทรมานมากๆ อยากหายไวๆ ตอนแรกว่าจะมาแปะคู่ร้ายฯ สองบทรวด แต่ไม่ไหว เลยขอแค่บทที่ 5 ก่อน คาดว่ามิถุนาจะยังยุ่งๆ แบบนี้ไปจนถึงสิ้นปีล่ะค่ะ จะพยายามแต่งให้ไวเข้าไว้ แต่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า ยังไงก็ขออภัยล่วงหน้าค่ะ
     
    บทที่ 5 เน้นเรื่องของพิณกับภัทรอยู่นะคะ และคาดว่าบทที่ 6 ก็เช่นกันค่ะ แต่ยังไงก็คงเกลี่ยความสำคัญของทั้งสี่ให้เท่าๆ กัน และแน่นอนว่าคุณแม่ของทั้งสี่ก็จะมีบทบาทไม่แพ้กันเลย (ก็คุณแม่กำลังยุ่งกับการจับคู่นี่เนอะ)
     
    ก่อนจากกันมีเกมมาให้เล่นอีกแล้วนะคะ โดยมีรางวัลเป็นหนังสือ “ปรารถนารัก” (หรือในชื่อเดิม “คืนปรารถนา”) มาแจกจำนวน 3 เล่มค่ะ 

     
    กติกาง่ายๆ อยากให้เพื่อนๆ เล่าความประทับใจที่เพื่อนๆ มีต่อคนในครอบครัว (จะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง สามีภรรยา ลูก ลุงป้า ได้หมดเลยค่ะ) หรือเพื่อน/แฟน ว่าบุคคลดังกล่าวทำอะไรให้เพื่อนๆ ประทับใจมาก รักมากจนจดจำได้ถึงทุกวันนี้ ไม่จำเป็นต้องยาวเป็นเรียงความนะคะ สั้นๆ แต่อ่านได้ใจความก็พอค่ะ
     
    ส่งคำตอบมาที่อีเมล busaba401แอตhotmail.com โดยระบุชื่อล็อกอิน (ถ้าไม่มีก็ระบุชื่อเล่น ชื่อจริง นามแฝงก็ได้ค่ะ) และบอร์ดที่นิยายอ่านเรื่องนี้ ส่งมาภายในวันที่ 25 พ.ย. นี้ นะคะ
     
    มิถุนาจะเลือกอีเมลที่อ่านแล้วประทับใจมากที่สุดจำนวน 3 อีเมลสำหรับแต่ละรางวัล ประกาศผลวันที่ 27 พ.ย. นี้ ในกระทู้เดิมนี้ และทางอีเมลผู้ได้รับรางวัลค่ะ ใครอยากร่วมสนุกก็ส่งคำตอบมาได้เลย
     
    อ้อ และเนื่องจากเรื่องคืนปรารถนา ได้รับการตีพิมพ์ (ในชื่อว่าปรารถนารัก) และวางแผงเรียบร้อยแล้ว มิถุนาจะขอลบเรื่องนี้ออกจากบล็อกและบางเว็บที่ลงนิยายไว้ (อย่างของพันทิปจะสามารถสืบค้นอ่านได้ตามปรกติค่ะ) เพื่อตัดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์และปัญหาอื่นๆ เช่นเคยค่ะ โดยจะลบวันที่ 30 พ.ย. นี้นะคะ ใครยังไม่ได้อ่านก็อ่านได้ค่ะ (เนื้อหาบางส่วนจะได้รับการแก้ไข ดังนั้นจะไม่เหมือนในหนังสือเสียทีเดียวนะคะ) หรือถ้าคิดว่าจะอ่านช้ากว่านั้น เข้าพันทิป ห้องถนนนักเขียนและเลือกค้นหาโดยใช้คลังกระทู้เก่าช่วยก็สามารถอ่านได้ค่ะ
     
    แล้วเจอกันค่ะ
     
    มิถุนา
    Busaba401แอตhotmail.com
    http://mithuna.bloggang.com
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×