ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปริศนาบ้านคุณยาย The Granny\'s House

    ลำดับตอนที่ #9 : ภูตกลางคืน

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 46


           สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เรืองแสงได้นั้นไม่ได้เป็นหิ่งห้อยอย่างที่ยีวอนน่าคิดไว้ในตอนแรกๆ อันที่จริงเธอเลิกคิดว่ามันคือหิ่งห้อยตั้งแต่เธอคิดว่าเธอเห็นพวกมันสวมเสื้อผ้า พวกมันรวมตัวกันเป็นกลุ่มบริเวณน้ำพุและมีงานสังสรรค์กัน ดูเหมือนเป็นมนุษย์จิ๋วมากกว่าและแน่นอนทุกตัวบินได้และเรืองแสงได้ที่ปีกบางๆทำให้ยีวอนน่านึกถึงนางฟ้าทิงเกิ้ลเบลล์จากนิทานเรื่องปีเตอร์แพน ทุกตัวสวมเสื้อผ้าแบบเทพนิยายมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายแต่ที่น่าแปลกคือทุกตัวนั้นดูราวกับเป็นเด็ก ยีวอนน่ายังคงหลบอยู่หลังกำแพงพุ่มไม้และแอบดูความเคลื่อนไหวพวกมันกำลังสนุกสนานกับงานเลี้ยงและยังมีกลุ่มนักดนตรีตัวจิ๋วกำลังเล่นดนตรีอย่างไพเราะ พวกมันมีมากมายนับสิบตัวและยีวอนน่าก็ได้ยินบางสิ่งคล้ายกับว่าพวกมันกำลังพูดคุยกัน

          “นานมากแล้วที่พวกเราไม่ได้มารวมตัวกันแบบนี้” เสียงเด็กหญิงตัวจิ๋วตัวหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น

          “นั่นสิไวโอเล็ต ว่าแต่ว่าเธอมั่นจะนะว่าส่งบัตรเชิญไปให้ถึงมือของเด็กสาวคนนั้น?” เด็กชายตัวจิ๋วอีกตัวหนึ่งซึ่งกำลังยืนพิงกำแพงพุ่มไม้ถามขึ้น ยีวอนน่าขยับตัวเบาๆและหมอบให้ต่ำลงกว่าเดิมเธอพยายามจะหายใจให้เบาที่สุดซึ่งทำให้เธอรู้สึกทรมานอย่างมากที่ต้องค่อยๆหายใจทีละนิด

          “ไวโอเล็ตไม่เคยทำงานพลาดหรอกน่าวิลโล่” เด็กสาวตัวจิ๋วอีกตัวที่ชื่อโรสบินเข้ามาร่วมวงสนทนา เด็กชายที่ชื่อวิลโล่ยักไหล่และมองไปรอบๆ

          “แต่เธอควรจะมางานได้แล้วนะ นี่พวกเรายังไม่เห็นมนุษย์ซักคนเลย” วิลโล่บอกพร้อมกับหยิบลูกเบอร์รี่สีแดงที่พนักงานเสิร์ฟจิ๋วนำมาให้จากถาดและเริ่มกัดมันอย่างเอร็ดอร่อย ทันใดนั้นเสียงดนตรีก็หยุดลงมนุษย์จิ๋วทุกตัวบินไปยังกลางน้ำพุดูเหมือนหัวหน้าของพวกมันมาถึงงานแล้ว วิลโล่ถูกโรสและไวโอเล็ตดึงให้เข้าไปยังกลางน้ำพุจนเขาทำลูกเบอร์รี่สีแดงหลุดมือและตกลงบนหัวของยีวอนน่า

          “โธ่เอ้ย เบอร์รี่ของฉัน” วิลโล่ครางด้วยความเสียดาย หัวหน้าของพวกมันเป็นเด็กหญิงมีมงกุฏสีเงินเล็กๆอยู่บนผมสีงาช้าง สวมชุดสีขาวและมีปีกบางใสที่เรืองแสงได้อย่างสวยงาม เธอกำลังบินไปยังยอดบนสุดของน้ำพุและนั่งลง

          “เอาล่ะทุกคน คงไม่ต้องแนะนำตัวนะฉันคือจัสมิน วันนี้ที่ฉันเรียกภูตกลางคืนทุกตัวมาพร้อมกันก็เพราะว่าถึงเวลาที่พวกเราจะต้องช่วยคุณยายเพนนีตามหากุญแจเวทยมนตร์กันซักที ตอนนี้ฉันพบคนที่จะช่วยเราได้แล้วและคิดว่าเธอคงจะเต็มใจ ว่าแต่ว่าเธอมาหรือยังล่ะ?” จัสมินพูดและหันไปทางวิลโล่ เขายักไหล่และมองไปทางโรส เธอยิ้มจ๋อยๆและมองไปทางไวโอเล็ต

          “ฉันส่งบัตรเชิญไปให้เธอแล้วโดยใช้นกพิราบ เธอควรจะมาแล้วสิน่า” ไวโอเล็ตหงุดหงิด ยีวอนน่านึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนกลางวันเธอได้รับบัตรเชิญขนาดจิ๋วจากนกพิราบบางทีเธออาจจะเป็นคนที่พวกภูตกลางคืนกำลังพูดถึงก็เป็นได้ แต่ทว่าเธอจะไว้ใจพวกภูตเหล่านี้ได้หรือเปล่าดังนั้นยีวอนน่าจึงยังคงหลบอยู่หลังพุ่มไม้และมองดูความเคลื่อนไหวต่อไป

          “ไม่เป็นไรหรอกไวโอเล็ตถ้าหล่อนไม่มาพวกเราก็ใช้วิธีอื่นก็ได้นี่” จัสมินปลอบใจไวโอเล็ต

          “แต่ถ้าเรากระตือรือร้นกว่านี้เราจะได้ช่วยคุณยายเพนนีได้เร็วๆนะสาวๆ” วิลโล่ขอมีส่วนร่วมบ้าง

          ยีวอนน่ายังคงตั้งใจแอบฟังเธอคลานไปให้ใกล้บริเวณที่จัสมินและพวกภูตคุยกันเพื่อจะได้ยินได้ชัดเจนขึ้น พวกภูตกลางคืนต้องการจะช่วยอะไรคุณยายเพนนีกันแน่นะ

          “ยีวอนน่าเข้านอนได้แล้วนะจ๊ะ อากาศข้างนอกมันเย็นเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอกหลาน” คุณยายยืนเรียกยีวอนน่าอยู่ที่ประตูบ้าน ยีวอนน่าตกใจและรีบคลานกลับออกไปตามทางเดินโดยไม่ให้พวกภูตกลางคืนรู้ส่วนพวกภูตเองเมื่อได้ยินเสียงคุณยายเพนนีพวกมันก็เลิกการประชุมและรีบแยกย้ายกันไปในทันทีแสงสว่างก็ค่อยๆมืดลง ยีวอนน่าคลานออกมาจากสวนและรีบวิ่งกลับเข้าไปภายในบ้าน คุณยายเพนนีกำลังยืนยิ้มอยู่หน้าประตูบ้านหล่อนมองดูยีวอนน่าด้วยความเอ็นดู

          “ไปทำอะไรมะน่ะ ดูซิมอมแมมอย่างกะลูกหมาเชียว อาบน้ำแล้วไม่ใช่หรือ?” คุณยายถามพร้อมมองลอดแว่น ยีวอนน่ายิ้มเจื่อนๆและรีบเดินขึ้นบันไดไป

          “คือหนูไปเดินเล่นในสวนมาค่ะ” ยีวอนน่าตะโกนบอกจากบนบันไดและวิ่งขึ้นไปยังห้องนอน คุณยายยิ้มและพยักหน้ามองตามจนยีวอนน่าขึ้นไปแล้วจึงปิดประตูบ้านและเตรียมเข้านอนเช่นกัน

          “อย่าลืมปิดไฟนะวิลโล่” คุณยายพูดขึ้นและเดินขึ้นบันไดไป ภูตกลางคืนสองสามตัวบินมาปิดสวิทช์ไฟจนหมดทุกดวง ภายในบ้านมีแต่ความมืดมีเพียงแสงสว่างจากปีกเรืองแสงของเหล่าภูตเท่านั้น



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×