ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : มิสเตอร์วี
      แวนเนสและยีวอนน่าลงจากรถจากนั้นก็มีพนักงานที่แต่งตัวคล้ายเด็กเสิร์ฟสองคนเดินออกมาจากร้านและเดินไปที่ท้ายรถพร้อมกับแวนเนส เมื่อแวนเนสเปิดท้ายรถพนักงานสองคนก็จัดแจงช่วยกันยกผักและของสดเข้าไปในร้านอย่างกระตือรือร้น แวนเนสถอดแวนกันแดดออกและเสยผมพร้อมทั้งกวักมือให้ยีวอนน่าเดินตามเข้ามาในร้าน
      ร้านมิสเตอร์วีเป็นบ้านสองชั้นที่ตั้งอยู่ริมถนน ดูจากลักษณะของบ้านแล้วน่าจะมีอายุเป็นสิบปีหรือมากกว่านั้นภายในร้านตกแต่งคล้ายร้านเหล้าในหนังคาวบอย มีกลิ่นหอมของกาแฟและไส้กรอกลอยมาเตะจมูกของยีวอนน่า ในตอนแรกยีวอนน่าสงสัยว่าจะมีใครมากินอาหารที่นี่บ้าง แต่เมื่อเข้ามาในร้านแล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นมีคนนั่งอยู่มากมาย ที่เคาร์เตอร์ของร้านพ่อของแวนเนสกำลังยืนนับเงินอยู่ เขาเป็นชายวัยกลางคนร่างสูงเช่นเดียวกับแวนเนสท่าทางใจดีต่อเธอแต่ชอบทำท่าดุใส่แวนเนส เมื่อแวนเนสแนะนำยีวอนน่าให้รู้จักกับพ่อแล้วก็พายีวอนน่าเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเลือกแครอท
      “แครอทพวกนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ตามฉันมาดีกว่า” แวนเนสพูดพร้อมทั้งโยนแครอทกลับลงไปในตะกร้า เขาเดินนำยีวอนน่าไปตามทางเดินเล็กๆหลังร้าน มันทอดตัวไปยังบ้านหลังหนึ่งที่มีรั้วไม้เตี้ยๆอันที่จริงมันเป็นบ้านของครอบครัวแวนเนสที่ตั้งอยู่กลางแปลงแครอทหากมองจากบนถนนแล้วจะสังเกตได้ไม่ชัดเพราะมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมอยู่ ยีวอนน่าได้พบแม่ของแวนเนสและหล่อนก็เป็นมิตรมากเสียด้วยในตอนนี้ยีวอนน่าไม่สงสัยเลยว่าแวนเนสนั้นน่ารักเหมือนใคร แม่ของแวนเนสจัดแจงเลือกแครอทอย่างดีที่สุดให้ยีวอนน่าและคิดราคาที่เป็นกันเองโดยหล่อนบอกว่ามันเป็นราคามาตรฐานที่คุณยายเพนนีชอบต่อ
      แวนเนสช่วยยีวอนน่าถือแครอทตะกร้าเล็กๆกลับเข้าไปในร้านตามเดิม พ่อของแวนเนสเดินเข้ามาบอกว่าเขาจะเข้าไปในแครอท ฟิลล์เพื่อซื้อแฮม(แวนเนสลืมซื้อแฮมมานั่นเอง) แวนเนสจึงต้องมานั่งที่เคาร์เตอร์ไปพลางๆ พ่อของแวนเนสหยิบเงินบางส่วนจากลิ้นชักและเดินออกไปนอกร้าน เขาขึ้นไปนั่งบนรถแวนและสตาร์ตเครื่องทันใดนั้นเสียงเพลงร็อคก็ดังลั่นจนพ่อของแวนเนสเกือบจะปิดวิทยุไม่ทัน แวนเนสและยีวอนน่ามองออกไปและหัวเราะชอบใจ
      “ถ้าเธอไม่รีบ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” แวนเนสหันมาทางยีวอนน่าซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงเคาร์เตอร์ ยีวอนน่าคงไม่ปฏิเสธอีกเช่นเคยเพราะตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดก็คืออาหารเช้านั่นเอง แวนเนสเดินเข้าไปในครัวและกลับมาพร้อมกับไข่ดาว เบคอน แฮมและขนมปัง และยังมีนม น้ำแครอทและน้ำส้มคั้นอีกด้วย ทั้งสองคนนั่งกินอาหารเช้าชุดใหญ่ด้วยกันตรงเคาร์เตอร์
      “ร้านของเธอดูดีนี่ แถมคนยังเต็มร้านอีกด้วย” ยีวอนน่าพูดขึ้น ในขณะที่แวนเนสกำลังกัดขนมปังคำโต เขากลืนขนมปังอย่างเร็ว
      “คนที่แครอท ฟิลล์รู้จักร้านของเราดี พวกเขาจะนั่งรถบัสมาลงที่หน้าร้านทุกเช้าและเที่ยง ตอนเย็นๆคนไม่ค่อยมีหรอก ฉันนับถือพวกเขามากในความพยายามที่จะนั่งรถจากเมืองแครอท ฟิลล์ออกมาถึงร้านเรา” แวนเนสพูดและกัดขนมปังเพิ่มอีกคำ
      “เธฮรู้มั้ย ฉันว่าบางทีฉันอาจตัดสินใจผิดที่มาเฝ้าบ้านให้คุณยายเพนนี บ้านของคุณยายน่ะไม่จำเป็นต้องมีคนเฝ้าด้วยซ้ำ มันเปิดปิดเองได้” ยีวอนน่าพูดพร้อมกับดูดน้ำส้มคั้น แวนเนสซึ่งกำลังพิถีพิถันหั่นไส้กรอกอยู่ช้อนตามองยีวอนน่าและเริ่มหัวเราะออกมา
      “นี่ฉันพูดจริงๆนะ แล้วมันก็ยังมีเรื่องแปลกๆอีกเยอะในบ้านหลังนั้น เธอไปที่บ้านคุณยายบ่อยๆไม่เคยเจออะไรบ้างหรือไงกัน?” ยีวอนน่าถาม แวนเนสยังคงหัวเราะอยู่
      “เคยสิ บางทีคุณยายอาจเป็นผู้วิเศษหรือไม่บ้านหลังนั้นก็อาจเป็นบ้านมหัศจรรย์” แวนเนสตอบและยิ้มให้ยีวอนน่า เมื่อทั้งสองจัดการกับอาหารเช้าจนหมดพ่อของแวนเนสก็กลับมาพร้อมกับแฮม แวนเนสจึงอาสาที่จะไปส่งยีวอนน่าให้ถึงบ้านคุณยายเพนนี ยีวอนน่ากล่าวอำลาพ่อของแวนเนสโดยมีแวนเนสกระซิบอยู่ข้างๆว่า “อย่าบอกพ่อนะว่าเธอมากินฟรี” ยีวอนน่าหัวเราะกับท่าทีของแวนเนสและเดินออกจากร้านไป แวนเนสยังคงใช้รถแวนขับไปส่งยีวอนน่าพร้อมทั้งบอกว่าเขาต้องแวะแครอท ฟิลล์อีกครั้งเพื่อเติมน้ำมันรถสักหน่อยและเขายังคงเปิดเพลงร็อคดังลั่นรถเช่นเคย
      “ตอนนี้ฉันปิดเทอมอยู่ ถ้าเธออยากให้ช่วยอะไรก็บอกได้นะ”  แวนเนสพูดขึ้นในขณะขับรถ
      “ช่วยอะไร?” ยีวอนน่าถาม
      “ก็อะไรก็ได้ที่เธออยากรู้ แม้แต่เรื่องบ้านคุณยายเพนนี” แวนเนสตอบ
      “จริงๆนะ? “ ยีวอนน่าถามด้วยความดีใจ แวนเนสหันมายิ้มกว้าง
      “แน่นอน!” แวนเนสตอบ
      ในที่สุดแวนเนสก็หยุดรถที่หน้าบ้านคุณยายเพนนี เมื่อมองเข้าไปมันยังคงเงียบสงบเหมือนเช่นเมื่อเช้านี้ แวนเนสไขกุญแจตรงประตูเล็กให้ยีวอนน่าเข้าไปในบ้าน
      “ยีน่า เดี๋ยวก่อน” แวนเนสเรียกยีวอนน่าไว้ก่อนที่เธอจะเดินลอดเข้าไปในประตู
      “เธอเรียกฉันเหรอ?” ยีวอนน่าถาม
      “อืม..ใช่ พยายามจะย่อชื่อเธอน่ะ เป็นยีน่าดีมั้ยหรือว่าเป็นวอนน่าดีล่ะ” แวนเนสพูดติดตลก ยีวอนน่าหัวเราะชอบใจ
      “เรียกในแบบที่เธออยากเรียกก็แล้วกัน” ยีวอนน่าตอบ จากนั้นเธอก็เดินลอดเข้าประตูเล็กไป แวนเนสตะโกนเรียกยีวอนน่าอีกครั้ง
      “ยีน่า เดี๋ยวก่อน” แวนเนสตะโกนเรียกผ่านประตูใหญ่ซึ่งเป็นประตูเหล็กลวดลายดอกกุหลาบ ยีวอนน่าเดินกลับมาหาแวนเนสอีกครั้ง แวนเนสกำลังยืนเกาะประตูใหญ่อยู่ท่าทางเหมือนเด็กที่กำลังถูกทอดทิ้ง เมื่อยีวอนน่าเดินเข้ามาใกล้ประตูแวนเนสก็เอื้อมมือผ่านประตูมาจับมือข้างซ้ายของยีวอนน่าและเริ่มเขียนบางสิ่งลงบนฝ่ามือของเธอ
      “เผื่อเธอนึกถึงฉัน” แวนเนสพูดเมื่อเขียนเสร็จ
      “ไม่ยักรู้ว่าเธอพกปากกามาด้วย” ยีวอนน่าแซว
      “หยิบมาจากที่ร้านน่ะ” แวนเนสบอกพร้อมกับค่อยๆปล่อยมือของยีวอนน่าลงตามเดิม เขายิ้มให้ยีวอนน่าอีกครั้งและเดินกลับไปที่รถ ยีวอนน่าก้มลงดูที่ฝ่ามือและตะโกนบอกกับแวนเนสที่กำลังจะขับรถออกไปว่า “วันนี้ฉันจะพยายามไม่ล้างมือ แล้วเธอก็ควรจะกลับไปเปลี่ยนชุดซะนะ เธอคงไม่คิดจะใส่ชุดนอนทั้งวันหรอกจริงมั้ย?”
      แวนเนสหัวเราะชอบใจและขับรถออกไปมุ่งหน้าไปยังแครอท ฟิลล์อีกรอบเพื่อเติมน้ำมันรถ
      ร้านมิสเตอร์วีเป็นบ้านสองชั้นที่ตั้งอยู่ริมถนน ดูจากลักษณะของบ้านแล้วน่าจะมีอายุเป็นสิบปีหรือมากกว่านั้นภายในร้านตกแต่งคล้ายร้านเหล้าในหนังคาวบอย มีกลิ่นหอมของกาแฟและไส้กรอกลอยมาเตะจมูกของยีวอนน่า ในตอนแรกยีวอนน่าสงสัยว่าจะมีใครมากินอาหารที่นี่บ้าง แต่เมื่อเข้ามาในร้านแล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นมีคนนั่งอยู่มากมาย ที่เคาร์เตอร์ของร้านพ่อของแวนเนสกำลังยืนนับเงินอยู่ เขาเป็นชายวัยกลางคนร่างสูงเช่นเดียวกับแวนเนสท่าทางใจดีต่อเธอแต่ชอบทำท่าดุใส่แวนเนส เมื่อแวนเนสแนะนำยีวอนน่าให้รู้จักกับพ่อแล้วก็พายีวอนน่าเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเลือกแครอท
      “แครอทพวกนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ตามฉันมาดีกว่า” แวนเนสพูดพร้อมทั้งโยนแครอทกลับลงไปในตะกร้า เขาเดินนำยีวอนน่าไปตามทางเดินเล็กๆหลังร้าน มันทอดตัวไปยังบ้านหลังหนึ่งที่มีรั้วไม้เตี้ยๆอันที่จริงมันเป็นบ้านของครอบครัวแวนเนสที่ตั้งอยู่กลางแปลงแครอทหากมองจากบนถนนแล้วจะสังเกตได้ไม่ชัดเพราะมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมอยู่ ยีวอนน่าได้พบแม่ของแวนเนสและหล่อนก็เป็นมิตรมากเสียด้วยในตอนนี้ยีวอนน่าไม่สงสัยเลยว่าแวนเนสนั้นน่ารักเหมือนใคร แม่ของแวนเนสจัดแจงเลือกแครอทอย่างดีที่สุดให้ยีวอนน่าและคิดราคาที่เป็นกันเองโดยหล่อนบอกว่ามันเป็นราคามาตรฐานที่คุณยายเพนนีชอบต่อ
      แวนเนสช่วยยีวอนน่าถือแครอทตะกร้าเล็กๆกลับเข้าไปในร้านตามเดิม พ่อของแวนเนสเดินเข้ามาบอกว่าเขาจะเข้าไปในแครอท ฟิลล์เพื่อซื้อแฮม(แวนเนสลืมซื้อแฮมมานั่นเอง) แวนเนสจึงต้องมานั่งที่เคาร์เตอร์ไปพลางๆ พ่อของแวนเนสหยิบเงินบางส่วนจากลิ้นชักและเดินออกไปนอกร้าน เขาขึ้นไปนั่งบนรถแวนและสตาร์ตเครื่องทันใดนั้นเสียงเพลงร็อคก็ดังลั่นจนพ่อของแวนเนสเกือบจะปิดวิทยุไม่ทัน แวนเนสและยีวอนน่ามองออกไปและหัวเราะชอบใจ
      “ถ้าเธอไม่รีบ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” แวนเนสหันมาทางยีวอนน่าซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงเคาร์เตอร์ ยีวอนน่าคงไม่ปฏิเสธอีกเช่นเคยเพราะตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดก็คืออาหารเช้านั่นเอง แวนเนสเดินเข้าไปในครัวและกลับมาพร้อมกับไข่ดาว เบคอน แฮมและขนมปัง และยังมีนม น้ำแครอทและน้ำส้มคั้นอีกด้วย ทั้งสองคนนั่งกินอาหารเช้าชุดใหญ่ด้วยกันตรงเคาร์เตอร์
      “ร้านของเธอดูดีนี่ แถมคนยังเต็มร้านอีกด้วย” ยีวอนน่าพูดขึ้น ในขณะที่แวนเนสกำลังกัดขนมปังคำโต เขากลืนขนมปังอย่างเร็ว
      “คนที่แครอท ฟิลล์รู้จักร้านของเราดี พวกเขาจะนั่งรถบัสมาลงที่หน้าร้านทุกเช้าและเที่ยง ตอนเย็นๆคนไม่ค่อยมีหรอก ฉันนับถือพวกเขามากในความพยายามที่จะนั่งรถจากเมืองแครอท ฟิลล์ออกมาถึงร้านเรา” แวนเนสพูดและกัดขนมปังเพิ่มอีกคำ
      “เธฮรู้มั้ย ฉันว่าบางทีฉันอาจตัดสินใจผิดที่มาเฝ้าบ้านให้คุณยายเพนนี บ้านของคุณยายน่ะไม่จำเป็นต้องมีคนเฝ้าด้วยซ้ำ มันเปิดปิดเองได้” ยีวอนน่าพูดพร้อมกับดูดน้ำส้มคั้น แวนเนสซึ่งกำลังพิถีพิถันหั่นไส้กรอกอยู่ช้อนตามองยีวอนน่าและเริ่มหัวเราะออกมา
      “นี่ฉันพูดจริงๆนะ แล้วมันก็ยังมีเรื่องแปลกๆอีกเยอะในบ้านหลังนั้น เธอไปที่บ้านคุณยายบ่อยๆไม่เคยเจออะไรบ้างหรือไงกัน?” ยีวอนน่าถาม แวนเนสยังคงหัวเราะอยู่
      “เคยสิ บางทีคุณยายอาจเป็นผู้วิเศษหรือไม่บ้านหลังนั้นก็อาจเป็นบ้านมหัศจรรย์” แวนเนสตอบและยิ้มให้ยีวอนน่า เมื่อทั้งสองจัดการกับอาหารเช้าจนหมดพ่อของแวนเนสก็กลับมาพร้อมกับแฮม แวนเนสจึงอาสาที่จะไปส่งยีวอนน่าให้ถึงบ้านคุณยายเพนนี ยีวอนน่ากล่าวอำลาพ่อของแวนเนสโดยมีแวนเนสกระซิบอยู่ข้างๆว่า “อย่าบอกพ่อนะว่าเธอมากินฟรี” ยีวอนน่าหัวเราะกับท่าทีของแวนเนสและเดินออกจากร้านไป แวนเนสยังคงใช้รถแวนขับไปส่งยีวอนน่าพร้อมทั้งบอกว่าเขาต้องแวะแครอท ฟิลล์อีกครั้งเพื่อเติมน้ำมันรถสักหน่อยและเขายังคงเปิดเพลงร็อคดังลั่นรถเช่นเคย
      “ตอนนี้ฉันปิดเทอมอยู่ ถ้าเธออยากให้ช่วยอะไรก็บอกได้นะ”  แวนเนสพูดขึ้นในขณะขับรถ
      “ช่วยอะไร?” ยีวอนน่าถาม
      “ก็อะไรก็ได้ที่เธออยากรู้ แม้แต่เรื่องบ้านคุณยายเพนนี” แวนเนสตอบ
      “จริงๆนะ? “ ยีวอนน่าถามด้วยความดีใจ แวนเนสหันมายิ้มกว้าง
      “แน่นอน!” แวนเนสตอบ
      ในที่สุดแวนเนสก็หยุดรถที่หน้าบ้านคุณยายเพนนี เมื่อมองเข้าไปมันยังคงเงียบสงบเหมือนเช่นเมื่อเช้านี้ แวนเนสไขกุญแจตรงประตูเล็กให้ยีวอนน่าเข้าไปในบ้าน
      “ยีน่า เดี๋ยวก่อน” แวนเนสเรียกยีวอนน่าไว้ก่อนที่เธอจะเดินลอดเข้าไปในประตู
      “เธอเรียกฉันเหรอ?” ยีวอนน่าถาม
      “อืม..ใช่ พยายามจะย่อชื่อเธอน่ะ เป็นยีน่าดีมั้ยหรือว่าเป็นวอนน่าดีล่ะ” แวนเนสพูดติดตลก ยีวอนน่าหัวเราะชอบใจ
      “เรียกในแบบที่เธออยากเรียกก็แล้วกัน” ยีวอนน่าตอบ จากนั้นเธอก็เดินลอดเข้าประตูเล็กไป แวนเนสตะโกนเรียกยีวอนน่าอีกครั้ง
      “ยีน่า เดี๋ยวก่อน” แวนเนสตะโกนเรียกผ่านประตูใหญ่ซึ่งเป็นประตูเหล็กลวดลายดอกกุหลาบ ยีวอนน่าเดินกลับมาหาแวนเนสอีกครั้ง แวนเนสกำลังยืนเกาะประตูใหญ่อยู่ท่าทางเหมือนเด็กที่กำลังถูกทอดทิ้ง เมื่อยีวอนน่าเดินเข้ามาใกล้ประตูแวนเนสก็เอื้อมมือผ่านประตูมาจับมือข้างซ้ายของยีวอนน่าและเริ่มเขียนบางสิ่งลงบนฝ่ามือของเธอ
      “เผื่อเธอนึกถึงฉัน” แวนเนสพูดเมื่อเขียนเสร็จ
      “ไม่ยักรู้ว่าเธอพกปากกามาด้วย” ยีวอนน่าแซว
      “หยิบมาจากที่ร้านน่ะ” แวนเนสบอกพร้อมกับค่อยๆปล่อยมือของยีวอนน่าลงตามเดิม เขายิ้มให้ยีวอนน่าอีกครั้งและเดินกลับไปที่รถ ยีวอนน่าก้มลงดูที่ฝ่ามือและตะโกนบอกกับแวนเนสที่กำลังจะขับรถออกไปว่า “วันนี้ฉันจะพยายามไม่ล้างมือ แล้วเธอก็ควรจะกลับไปเปลี่ยนชุดซะนะ เธอคงไม่คิดจะใส่ชุดนอนทั้งวันหรอกจริงมั้ย?”
      แวนเนสหัวเราะชอบใจและขับรถออกไปมุ่งหน้าไปยังแครอท ฟิลล์อีกรอบเพื่อเติมน้ำมันรถ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น