ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : จ่ายตลาด
      ยีวอนน่าเดินมาตามทางเดินเรื่อยๆเธอพยายามเดินช้าๆเพื่อจะได้ไม่เหนื่อยมากนัก เธอเดินออกมาไกลจากบ้านของคุณยายเรื่อยๆมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองเล็กๆเบื้องหน้า ตอนนี้ยีวอนน่าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลยว่าแล้วเธอก็จินตนาการถึงอาหารเช้าบนโต๊ะอาหารที่ยังคงตั้งอยู่อย่างเดียวดาย แต่ตอนนี้เธอเองก็เริ่มเมื่อยแล้วเสียด้วยและคิดว่าอีกครึ่งชั่วโมงเธอจะไปถึงในเมืองอย่างหิวโหย
      สักพักยีวอนน่าก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ เธอรีบหันกลับไปยังเสียงนั้นอย่างมีความหวังว่าจะได้นั่งรถไปยังตัวเมือง รถบัสเก่าๆคันเล็กๆคันหนึ่งกำลังแล่นมาตามถนนบนรถมีผู้โดยสารหรอมแหรมยีวอนน่าไม่รีรอรีบโบกให้รถหยุดแล้วกระโดดขึ้นรถไปอย่างเร็วจี๋ โชคดีที่ผู้โดยสารมีไม่มากนักจึงมีที่นั่งเหลือเฟือยีวอนน่านั่งลงตรงที่นั่งด้านหน้าและมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างสบายอารมณ์ปนหิวนิดๆ รถบัสขับห่างออกจากแถวบ้านคุณยายมาเรื่อยๆจนเข้ามาถึงเมืองเล็กๆที่ยีวอนน่ามองเห็นจากระเบียงห้องนอนเมื่อรถขับเข้าไปใกล้ในตัวเมืองมีป้ายบอกชื่อเมืองว่าตลาดแครอท ฟิลด์ รถหยุดและผู้โดยสารก็ทยอยลงจากรถ
      แครอท ฟิลล์เป็นเขตชุมชนที่มีแต่บ้านและตึกทรงโบราณถนนปูด้วยอิฐสีเทาดูคล้ายกับเมืองในเทพนิยายและที่สำคัญก็คือที่นี่มีแครอทขายมากมาย จนยีวอนน่าอดคิดไม่ได้ว่าทำไมคุณยายไม่บอกให้ซื้อแครอทจากในตลาดแห่งนี้ ยีวอนน่าจัดแจงภารกิจการจ่ายตลาดที่คุณยายเพนนีมอบหมายมาในทันทีเธอเลือกเดินไปตามร้านขายผลไม้และหาซื้อสตรอเบอร์รี่ลูกโตๆ คนขายอนุญาตให้เธอชิมสตรอเบอร์รี่ได้ฟรีซึ่งแน่นอนในตอนนี้ยีวอนน่าไม่มีทางที่จะปฏิเสธเพราะเธอหิวมากแล้วอย่างน้อยๆก็ยังมีสตรอเบอร์รี่ประทังชีวิตช่วงเช้าๆไปได้พลางๆ
      “กินสตรอเบอร์รี่ตอนเช้าเพราะกลัวอ้วน” เสียงแวนเนสแซวผ่านเข้ามาในหูของยีวอนน่าในขณะที่เธอกำลังบรรจงเลือกสตรอเบอร์รี่ลูกโตพร้อมทั้งหยิบบางส่วนใส่ปาก ยีวอนน่าหันกลับไปยังแวนเนสซึ่งยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างๆเขายังคงร่าเริงเหมือนเมื่อวานนี้ที่พบกัน ยีวอนน่าค้อนใส่แวนเนสเล็กน้อย
      “ฉันไม่ได้กลัวอ้วนซะหน่อย แค่ต้องการชิมดูว่ารสชาติของมันดีพอที่จะซื้อมั้ยก็เท่านั้น” ยีวอนน่าบอก
      “ฉันออกมาจ่ายตลาดน่ะแม่ใช้แต่เช้าเลย แต่กำลังจะกลับแล้วแหละถ้าไม่เห็นเธอเข้า” แวนเนสพูดพร้อมกับชูตะกร้าจ่ายตลาดให้ยีวอนน่าดู ยีวอนน่าหัวเราะเล็กน้อยที่ผู้ชายต้องออกมาจ่ายตลาดเองตอนเช้าๆ
      พอดีกับที่ยีวอนน่าเลือกซื้อสตรอเบอร์รี่เสร็จแล้วและเธอก็ต้องการไปที่ร้านมิสเตอร์วีเพื่อซื้อแครอท ใช่แล้วร้านมิสเตอร์วีที่คุณยายบอก ในตอนนี้ยีวอนน่านึกได้ในทันทีว่ามันเป็นชื่อของแวนเนสนั่นเอง
      “ร้านนี้ฉันรู้จักดีอยู่มาตั้งแต่เด็กแล้ว ไปด้วยกันมั้ยล่ะ วันนี้ฉันขับรถของพ่อมาน่ะ” แวนเนสถามอย่างเป็นมิตร ยีวอนน่าตกลงไปที่ร้านมิสเตอร์วีกับแวนเนส วันนี้แวนเนสไม่ได้ขับมอเตอร์ไซต์มาแต่เป็นรถแวนคันเล็กพาดลายสีฟ้าและขาวที่ท้ายรถมีผักและของสดบางส่วน ระหว่างทางแวนเนสเล่าให้ฟังว่ามิสเตอร์วีมาจากชื่อของเขาเอง ในตอนที่เขาเกิดพ่อก็เปิดร้านอาหารพอดี เลยใช้ชื่อเขาเป็นชื่อร้านมาตลอด
      “บ้านเธอเป็นร้านอาหารแล้วทำไมถึงมีแครอทขายล่ะ?” ยีวอนน่าถามขึ้นในขณะที่แวนเนสทำหน้าที่คนขับรถได้เป็นอย่างดีและพยายามเอื้อมมือไปปรับความดังของวิทยุให้ค่อยลง(แวนเนสเปิดเพลงร็อคดังจนหนวกหู)
      “เราเป็นคนในแครอท ฟิลล์และพ่อก็มีแปลงแครอทอยู่ที่บ้าน อันที่จริงเราไม่ได้ปลูกเพื่อขายหรอกนะเราปลูกเพื่อนำมาทำอาหารที่ร้านน่ะ คุณยายเพนนีชอบมาขอแบ่งซื้อแครอทบางส่วนจากที่ร้านเพราะเราขายในราคาที่ถูกกว่าในตลาด” แวนเนสตอบพร้อมกับยิ้มให้ยีวอนน่าและปรับความดังของวิทยุให้ดังขึ้นตามเดิม ยีวอนน่าทำท่าเซ็ง
      “เธอมาจ่ายตลาดในชุดนอนทุกเช้าเลยเหรอ?” ยีวอนน่าถามแวนเนสที่ยังคงอยู่ในชุดเสื้อกล้ามและกางเกงขายาวลายดาว แวนเนสหัวเราะร่วน
      “ใช่ นี่แหละแวนเนสตัวจริง” แวนเนสตอบพร้อมทั้งหันมายักคิ้วให้ยีวอนน่าด้วยท่าทางกวนประสาท ยีวอนน่ายักไหล่และหันหน้าไปทางหน้าต่างรถ แสงอาทิตย์เริ่มแรงขึ้นในตอนเช้าแวนเนสพยายามจะควานหาแว่นกันแดดที่วางอยู่บริเวณหน้าปัดรถยีวอนน่าช่วยเหลือโดยการเป็นผู้หยิบให้ ตอนนี้รถแวนวิ่งผ่านหน้าบ้านของคุณยายเพนนีมันยังคงเงียบสงบเช่นเคยรถแวนยังคงขับออกไปตามถนนที่มีต้นไม้อยู่สองข้างทางและหยุดลงที่ร้านอาหารร้านเดียวที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวบนถนนเส้นนี้ ป้ายที่ห้อยอยู่หน้าร้านมีชื่อว่า มิสเตอร์วี
      สักพักยีวอนน่าก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ เธอรีบหันกลับไปยังเสียงนั้นอย่างมีความหวังว่าจะได้นั่งรถไปยังตัวเมือง รถบัสเก่าๆคันเล็กๆคันหนึ่งกำลังแล่นมาตามถนนบนรถมีผู้โดยสารหรอมแหรมยีวอนน่าไม่รีรอรีบโบกให้รถหยุดแล้วกระโดดขึ้นรถไปอย่างเร็วจี๋ โชคดีที่ผู้โดยสารมีไม่มากนักจึงมีที่นั่งเหลือเฟือยีวอนน่านั่งลงตรงที่นั่งด้านหน้าและมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างสบายอารมณ์ปนหิวนิดๆ รถบัสขับห่างออกจากแถวบ้านคุณยายมาเรื่อยๆจนเข้ามาถึงเมืองเล็กๆที่ยีวอนน่ามองเห็นจากระเบียงห้องนอนเมื่อรถขับเข้าไปใกล้ในตัวเมืองมีป้ายบอกชื่อเมืองว่าตลาดแครอท ฟิลด์ รถหยุดและผู้โดยสารก็ทยอยลงจากรถ
      แครอท ฟิลล์เป็นเขตชุมชนที่มีแต่บ้านและตึกทรงโบราณถนนปูด้วยอิฐสีเทาดูคล้ายกับเมืองในเทพนิยายและที่สำคัญก็คือที่นี่มีแครอทขายมากมาย จนยีวอนน่าอดคิดไม่ได้ว่าทำไมคุณยายไม่บอกให้ซื้อแครอทจากในตลาดแห่งนี้ ยีวอนน่าจัดแจงภารกิจการจ่ายตลาดที่คุณยายเพนนีมอบหมายมาในทันทีเธอเลือกเดินไปตามร้านขายผลไม้และหาซื้อสตรอเบอร์รี่ลูกโตๆ คนขายอนุญาตให้เธอชิมสตรอเบอร์รี่ได้ฟรีซึ่งแน่นอนในตอนนี้ยีวอนน่าไม่มีทางที่จะปฏิเสธเพราะเธอหิวมากแล้วอย่างน้อยๆก็ยังมีสตรอเบอร์รี่ประทังชีวิตช่วงเช้าๆไปได้พลางๆ
      “กินสตรอเบอร์รี่ตอนเช้าเพราะกลัวอ้วน” เสียงแวนเนสแซวผ่านเข้ามาในหูของยีวอนน่าในขณะที่เธอกำลังบรรจงเลือกสตรอเบอร์รี่ลูกโตพร้อมทั้งหยิบบางส่วนใส่ปาก ยีวอนน่าหันกลับไปยังแวนเนสซึ่งยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างๆเขายังคงร่าเริงเหมือนเมื่อวานนี้ที่พบกัน ยีวอนน่าค้อนใส่แวนเนสเล็กน้อย
      “ฉันไม่ได้กลัวอ้วนซะหน่อย แค่ต้องการชิมดูว่ารสชาติของมันดีพอที่จะซื้อมั้ยก็เท่านั้น” ยีวอนน่าบอก
      “ฉันออกมาจ่ายตลาดน่ะแม่ใช้แต่เช้าเลย แต่กำลังจะกลับแล้วแหละถ้าไม่เห็นเธอเข้า” แวนเนสพูดพร้อมกับชูตะกร้าจ่ายตลาดให้ยีวอนน่าดู ยีวอนน่าหัวเราะเล็กน้อยที่ผู้ชายต้องออกมาจ่ายตลาดเองตอนเช้าๆ
      พอดีกับที่ยีวอนน่าเลือกซื้อสตรอเบอร์รี่เสร็จแล้วและเธอก็ต้องการไปที่ร้านมิสเตอร์วีเพื่อซื้อแครอท ใช่แล้วร้านมิสเตอร์วีที่คุณยายบอก ในตอนนี้ยีวอนน่านึกได้ในทันทีว่ามันเป็นชื่อของแวนเนสนั่นเอง
      “ร้านนี้ฉันรู้จักดีอยู่มาตั้งแต่เด็กแล้ว ไปด้วยกันมั้ยล่ะ วันนี้ฉันขับรถของพ่อมาน่ะ” แวนเนสถามอย่างเป็นมิตร ยีวอนน่าตกลงไปที่ร้านมิสเตอร์วีกับแวนเนส วันนี้แวนเนสไม่ได้ขับมอเตอร์ไซต์มาแต่เป็นรถแวนคันเล็กพาดลายสีฟ้าและขาวที่ท้ายรถมีผักและของสดบางส่วน ระหว่างทางแวนเนสเล่าให้ฟังว่ามิสเตอร์วีมาจากชื่อของเขาเอง ในตอนที่เขาเกิดพ่อก็เปิดร้านอาหารพอดี เลยใช้ชื่อเขาเป็นชื่อร้านมาตลอด
      “บ้านเธอเป็นร้านอาหารแล้วทำไมถึงมีแครอทขายล่ะ?” ยีวอนน่าถามขึ้นในขณะที่แวนเนสทำหน้าที่คนขับรถได้เป็นอย่างดีและพยายามเอื้อมมือไปปรับความดังของวิทยุให้ค่อยลง(แวนเนสเปิดเพลงร็อคดังจนหนวกหู)
      “เราเป็นคนในแครอท ฟิลล์และพ่อก็มีแปลงแครอทอยู่ที่บ้าน อันที่จริงเราไม่ได้ปลูกเพื่อขายหรอกนะเราปลูกเพื่อนำมาทำอาหารที่ร้านน่ะ คุณยายเพนนีชอบมาขอแบ่งซื้อแครอทบางส่วนจากที่ร้านเพราะเราขายในราคาที่ถูกกว่าในตลาด” แวนเนสตอบพร้อมกับยิ้มให้ยีวอนน่าและปรับความดังของวิทยุให้ดังขึ้นตามเดิม ยีวอนน่าทำท่าเซ็ง
      “เธอมาจ่ายตลาดในชุดนอนทุกเช้าเลยเหรอ?” ยีวอนน่าถามแวนเนสที่ยังคงอยู่ในชุดเสื้อกล้ามและกางเกงขายาวลายดาว แวนเนสหัวเราะร่วน
      “ใช่ นี่แหละแวนเนสตัวจริง” แวนเนสตอบพร้อมทั้งหันมายักคิ้วให้ยีวอนน่าด้วยท่าทางกวนประสาท ยีวอนน่ายักไหล่และหันหน้าไปทางหน้าต่างรถ แสงอาทิตย์เริ่มแรงขึ้นในตอนเช้าแวนเนสพยายามจะควานหาแว่นกันแดดที่วางอยู่บริเวณหน้าปัดรถยีวอนน่าช่วยเหลือโดยการเป็นผู้หยิบให้ ตอนนี้รถแวนวิ่งผ่านหน้าบ้านของคุณยายเพนนีมันยังคงเงียบสงบเช่นเคยรถแวนยังคงขับออกไปตามถนนที่มีต้นไม้อยู่สองข้างทางและหยุดลงที่ร้านอาหารร้านเดียวที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวบนถนนเส้นนี้ ป้ายที่ห้อยอยู่หน้าร้านมีชื่อว่า มิสเตอร์วี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น