ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แขกคนพิเศษ
      เย็นวันหนึ่งหลังจากแวนเนสแวะมาส่งยีวอนน่าที่บ้านของเธอ ยีวอนน่าสังเกตเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้านเธอพยายามมองเพ่งผ่านกระจกรถที่ติดฟิลม์ค่อนข้างมืดเข้าไปยังที่นั่งหลังคนขับ และในที่สุดประตูรถก็เปิดออกหญิงชราคนหนึ่งก้าวออกมาจากรถ
      “ยายกลับมาแล้วจ้า!” หญิงชราร้องทักยีวอนน่าอย่างร่าเริง ยีวอนน่าดีใจมากและรีบวิ่งไปหายายของเธอ
      แวนเนสเดินลงมาจากรถสปอตของเขาและถอดแว่นกันแดดออกมองไปยังยีวอนน่าและยายของเธอ ยายของยีวอนน่าดูไม่ต่างจากคุณยายเพนนีสักเท่าไร ท่าทางใจดี อารมณ์ดีและยังดูไม่แก่มากนัก ยีวอนน่ารีบดึงแวนเนสมาทำความรู้จักกับยายแท้ๆของเธอ
      “โอ้ สวัสดีจ้า แหมตัวสูงดีจังนะ” ยายของยีวอนน่าทักแวนเนสอย่างอารมณ์ดี แวนเนสยิ้มตอบ
      “คุณยายเป็น...เออ....” แวนเนสนึกคำพูดไม่ออก
      “ฉันก็คือยายแก่เมอซี่ เป็นยายของแม่หนูคนที่เธอคอยตามรับส่งอยู่นี่ไงล่ะจ๊ะ” ยายของยีวอนน่าตอบและยิ้มให้ยีวอนน่าและแวนเนส
      “เข้าไปคุยในบ้านดีกว่านะคะ” ยีวอนน่าบอกกับยายของเธอ
      “ผมช่วยถือของเองครับ” แวนเนสอาสาและเดินไปที่ท้ายรถแท็กซี่เพื่อช่วยยกกระเป๋าและสัมภาระต่างๆให้กับยายของยีวอนน่าอย่างกระฉับกระเฉง ยายของยีวอนน่ามองตามแวนเนสด้วยความชื่นชม
      คุณยายเมอซี่เป็นยายแท้ๆของยีวอนน่าและเป็นลูกพี่ลูกน้องกันกับคุณยายเพนนี พูดแบบง่ายๆก็คือพวกเขาเป็นญาติกันนั่นเอง แต่เดิมนั้นคุณยายเมอซี่เคยอยู่บ้านเดียวกันกับยีวอนน่าท่านชอบการเล่นหุ้นเป็นชีวิตจิตใจแต่หลังจากขายหุ้นได้เงินมาก้อนใหญ่คุณยายเมอซี่ก็ย้ายออกจากบ้านและท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆเพียงลำพัง ครอบครัวของยีวอนน่าจึงเหลือแค่เธอ พ่อและแม่ในเวลาต่อมา คุณยายเมอซี่นั้นมักไม่ค่อยติดต่อกับทางบ้านของเธอนับตั้งแต่ท่านได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกแห่งและแม่ของยีวอนน่าก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจว่าคุณยายเมอซี่ผู้เป็นแม่ของตัวเองจะไปทำอะไรที่ไหนหรือเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้างแต่กลับสนใจแต่เรื่องราวของคุณยายเพนนีแทนเสียนี่ บางทียีวอนน่าก็อดน้อยใจแทนคุณยายเมอซี่ไม่ได้ว่าทำไมแม่ของเธอถึงไม่ให้ความสำคัญกับยายของเธอบ้างทั้งๆที่เป็นแม่ลูกกันแท้ๆ เท่าที่ยีวอนน่ารับรู้ก็คือคุณยายเมอซี่จะส่งโปสการ์ดมาที่บ้านบอกเล่าเรื่องราวปีละใบเท่านั้นและนั่นก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ยีวอนน่ารับรู้ว่ายายของเธอยังคงมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย
      “เหนื่อยจริงๆเลยรู้มั๊ย สามสี่ปี่ที่ยายจากบ้านไป ตอนแรกคิดว่าไปเที่ยวคนเดียวคงจะสนุกแต่ยายลืมไปว่ายายน่ะแก่แล้วไม่ใช่สาวๆแบบหนูแล้วน่ะสิ” คุณยายเมอซี่เล่าเรื่องราวของเธอให้ยีวอนน่าและแวนเนสฟังในห้องรับแขก
      “คุณยายไม่ต้องไปไหนแล้วนะคะ อยู่ที่นี่แหละ” ยีวอนน่าขอร้อง
      “ไม่รับปากนะ แก่แล้วแต่ยังมีไฟอยู่นี่” คุณยายเมอซี่พูด แวนเนสหัวเราะ
      “ว่าแต่ว่าคุณยายหาบ้านหลังนี้ถูกได้ไงคะ?” ยีวอนน่าถามเพราะคุณยายเมอซี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แปลกประหลาดในช่วงที่ผ่านมา คุณยายเมอซี่วางแก้วน้ำลงและเริ่มพูด
      “รู้แล้วกัน ยายมีวิธีของยายจ้า” คุณยายเมอซี่ตอบ วิธีการตอบคำถามแบบนี้ช่างเหมือนกันกับคุณยายเพนนีไม่มีผิดสมแล้วที่เป็นญาติกัน
      “ครอบครัวนี้อบอุ่นดีจังนะครับ ญาติเยอะดีเดี๋ยวคนนู้นมาเยี่ยมเดี๋ยวคนนี้มาหา เมื่อซักหลายอาทิตย์ก่อนพ่อกับแม่ของยีวอนน่าก็เพิ่งมาจากบลูรีเวอร์” แวนเนสเพิ่งจะมีโอกาสได้พูดหลังจากนั่งนิ่งทำตัวสงบเสงี่ยมมานานพอสมควร
      “แน่ล่ะสองคนนั่นน่ะคงจะรีบมาทำตัวเป็นเจ้าของร้านซักรีดอย่างเป็นทางการล่ะสิ ใช่มั๊ยจ๊ะ?” คุณยายเมอซี่พูดขึ้นอย่างรู้ทันพ่อและแม่ของยีวอนน่า
      “คุณยายรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ?” ยีวอนน่าถามอย่างประหลาดใจ คุณยายเมอซี่พยักหน้า
      “แน่นอนสิจ๊ะ ยีวอนน่าที่รัก ก็ที่ตรงนั้นมันเป็นที่ของยายนี่นา” คุณยายเมอซี่บอก ท่านทำตาโต
      จริงสินะยีวอนน่าลืมคิดไปเสียสนิทว่าบ้านเก่าและที่ดินทั้งหมดตรงร้านซักซีดของเธอนั้นเป็นบ้านที่คุณยายเมอซี่เป็นคนซื้อตั้งแต่สมัยท่านสาวๆ ดูท่าทางคุณยายเมอซี่จะติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของครอบครัวเป็นอย่างดี ดีมากจนยีวอนน่าแทบไม่ต้องเล่าอะไรให้ท่านฟังมากนัก
      “คุณยายจะมาพักกี่วันล่ะครับ?” แวนเนสถาม
      “แหมพ่อหนุ่ม ยายคงไม่อยู่ขัดจังหวะนานหรอกจ้า ยายมีบ้านใหม่แล้วนะ” คุณยายเมอซี่เย้าแหย่แวนเนส เขายิ้มเขินๆไปทางยีวอนน่าที่ทำคิ้วขมวดกันจนเกือบติดเพราะกำลังคิดเรื่องยายของเธอ
      “บ้านใหม่? บ้านที่ไหนคะ?” ยีวอนน่าถามด้วยความอยากรู้อย่างมาก
      “บ้านของพี่เพนนีที่กรีนวู๊ด อันที่จริงต้องบอกว่าบ้านของเราที่กรีนวู๊ดมากกว่า” คุณยายเมอซี่ตอบ
      “เพนนี? คุณยายเพนนีเหรอคะ? มีบ้านที่กรีนวู๊ดด้วย?” ยีวอนน่าถามไม่ยั้ง คุณยายเมอซี่ยิ้มและพยักหน้ารับอย่างสบายใจ สิ่งนี้ทำให้ยีวอนน่าพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่ายายของเธอและคุณยายเพนนีคงจะติดต่อกันมาตลอดเวลาท่านถึงรู้เรื่องราวหลายๆอย่างในช่วงเวลาที่ผ่านมา
      หลังอาหารค่ำยีวอนน่ายังคงนั่งเล่นกับแวนเนสอยู่ที่เก้าอี้ชิงช้าหน้าบ้าน แวนเนสพยายามสอนเธอผิวปากแต่ยีวอนน่ายังคงไม่สามารถทำได้ แวนเนสหัวเราะและลูบหัวยีวอนน่าเล่น คุณยายเมอซี่แอบมองทั้งคู่อยู่จากหน้าต่างห้องครัวด้วยความเอ็นดู
      “พรุ่งนี้จะมีญาติลำดับที่เท่าไหร่ของเธอมาเยี่ยมอีกนะ ฉันจะได้แต่งตัวหล่อๆมารอต้อนรับ” แวนเนสแซว
      “คงมีเท่านี้แหละ ฉันคิดว่าคงมีเท่านี้...............เธอได้ยินยายฉันพูดว่ากรีนวู๊ดหรือเปล่า?” ยีวอนน่าถามแวนเนส เขามองหน้ายีวอนน่า
      “กรีนวู๊ด? ได้ยินสิหูไม่ได้หนวก” แวนเนสตอบแบบกวน ยีวอนน่าหรี่ตา
      “นึกแล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้ บ้าจัง.....ฉันหมายถึงเมื่อหลายคืนก่อนที่ฉันฝันฉันฝันเห็นป่าในเมืองกรีนวู๊ดแล้ววันนี้ยายก็มาพูดว่ากรีนวู๊ดอีก เธอว่าไม่แปลกเหรอ?” ยีวอนน่าพูด แวนเนสนั่งขยี้ตาและดูเหมือนไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่ เขาก็เป็นแบบนี้เสมอชอบทำเป็นไม่สนใจแต่ในความเป็นจริงแวนเนสจดจำและใส่ใจในทุกคำพูดของยีวอนน่าเสมอ ว่าแล้วแวนเนสก็หาวนอนและเอียงตัวมาซบยีวอนน่า
      “ง่วงนอนจังเลย คืนนี้ฉันฝันเป็นเพื่อนได้มั๊ย?” แวนเนสถาม เขาเงยหน้ามองยีวอนน่า
      “ถามอะไรเหมือนเด็ก คนเราสามารถกำหนดได้ที่ไหนกันว่าคืนนี้จะฝันหรือไม่ฝัน” ยีวอนน่าตอบ เธอมองหน้าแวนเนสและหัวเราะ แวนเนสหัวเราะตาม
      เสียงกดกริ่งหน้าประตูบ้านดังขึ้น นุชชี่ยืนอยู่หน้าประตูคาดว่าคืนนี้เธอคงจะมานอนค้างบ้านยีวอนน่าตามเคย นุชชี่นั้นชอบมานอนค้างบ้านยีวอนน่าบ่อยๆเพราะบ้านของเธอและบ้านของยีวอนนาอยู่ในละแวกใกล้ๆกันและเธอก็เห็นว่ายีวอนน่านั้นอยู่บ้านคนเดียวอาจจะเหงาหรือหากมีโจรแอบเข้าบ้านเธอก็จะได้ช่วยยีวอนน่าจัดการกับโจรได้บ้างเพราะอย่างน้อยๆนุชชี่ก็ร้องโวยวายเสียงดังเก่งกว่าใครๆ แวนเนสขอตัวกลับก่อนเมื่อเห็นว่านุชชี่จะมาอยู่เป็นเพื่อนยีวอนน่าแทนเขา ยีวอนน่าจึงพานุชชี่ไปหาคุณยายเมอซี่ในบ้าน
      “คุณยายยยยย! หนูตาฝาดหรือเปล่า!” นุชชี่ดีใจเมื่อได้เห็นคุณยายเมอซี่
      “ตัวจริงแน่นอนจ๊ะหลาน” คุณยายเมอซี่บอกกับนุชชี่ ยีวอนน่าส่ายหน้าและแอบหัวเราะ
      “ยายกลับมาแล้วจ้า!” หญิงชราร้องทักยีวอนน่าอย่างร่าเริง ยีวอนน่าดีใจมากและรีบวิ่งไปหายายของเธอ
      แวนเนสเดินลงมาจากรถสปอตของเขาและถอดแว่นกันแดดออกมองไปยังยีวอนน่าและยายของเธอ ยายของยีวอนน่าดูไม่ต่างจากคุณยายเพนนีสักเท่าไร ท่าทางใจดี อารมณ์ดีและยังดูไม่แก่มากนัก ยีวอนน่ารีบดึงแวนเนสมาทำความรู้จักกับยายแท้ๆของเธอ
      “โอ้ สวัสดีจ้า แหมตัวสูงดีจังนะ” ยายของยีวอนน่าทักแวนเนสอย่างอารมณ์ดี แวนเนสยิ้มตอบ
      “คุณยายเป็น...เออ....” แวนเนสนึกคำพูดไม่ออก
      “ฉันก็คือยายแก่เมอซี่ เป็นยายของแม่หนูคนที่เธอคอยตามรับส่งอยู่นี่ไงล่ะจ๊ะ” ยายของยีวอนน่าตอบและยิ้มให้ยีวอนน่าและแวนเนส
      “เข้าไปคุยในบ้านดีกว่านะคะ” ยีวอนน่าบอกกับยายของเธอ
      “ผมช่วยถือของเองครับ” แวนเนสอาสาและเดินไปที่ท้ายรถแท็กซี่เพื่อช่วยยกกระเป๋าและสัมภาระต่างๆให้กับยายของยีวอนน่าอย่างกระฉับกระเฉง ยายของยีวอนน่ามองตามแวนเนสด้วยความชื่นชม
      คุณยายเมอซี่เป็นยายแท้ๆของยีวอนน่าและเป็นลูกพี่ลูกน้องกันกับคุณยายเพนนี พูดแบบง่ายๆก็คือพวกเขาเป็นญาติกันนั่นเอง แต่เดิมนั้นคุณยายเมอซี่เคยอยู่บ้านเดียวกันกับยีวอนน่าท่านชอบการเล่นหุ้นเป็นชีวิตจิตใจแต่หลังจากขายหุ้นได้เงินมาก้อนใหญ่คุณยายเมอซี่ก็ย้ายออกจากบ้านและท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆเพียงลำพัง ครอบครัวของยีวอนน่าจึงเหลือแค่เธอ พ่อและแม่ในเวลาต่อมา คุณยายเมอซี่นั้นมักไม่ค่อยติดต่อกับทางบ้านของเธอนับตั้งแต่ท่านได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกแห่งและแม่ของยีวอนน่าก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจว่าคุณยายเมอซี่ผู้เป็นแม่ของตัวเองจะไปทำอะไรที่ไหนหรือเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้างแต่กลับสนใจแต่เรื่องราวของคุณยายเพนนีแทนเสียนี่ บางทียีวอนน่าก็อดน้อยใจแทนคุณยายเมอซี่ไม่ได้ว่าทำไมแม่ของเธอถึงไม่ให้ความสำคัญกับยายของเธอบ้างทั้งๆที่เป็นแม่ลูกกันแท้ๆ เท่าที่ยีวอนน่ารับรู้ก็คือคุณยายเมอซี่จะส่งโปสการ์ดมาที่บ้านบอกเล่าเรื่องราวปีละใบเท่านั้นและนั่นก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ยีวอนน่ารับรู้ว่ายายของเธอยังคงมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย
      “เหนื่อยจริงๆเลยรู้มั๊ย สามสี่ปี่ที่ยายจากบ้านไป ตอนแรกคิดว่าไปเที่ยวคนเดียวคงจะสนุกแต่ยายลืมไปว่ายายน่ะแก่แล้วไม่ใช่สาวๆแบบหนูแล้วน่ะสิ” คุณยายเมอซี่เล่าเรื่องราวของเธอให้ยีวอนน่าและแวนเนสฟังในห้องรับแขก
      “คุณยายไม่ต้องไปไหนแล้วนะคะ อยู่ที่นี่แหละ” ยีวอนน่าขอร้อง
      “ไม่รับปากนะ แก่แล้วแต่ยังมีไฟอยู่นี่” คุณยายเมอซี่พูด แวนเนสหัวเราะ
      “ว่าแต่ว่าคุณยายหาบ้านหลังนี้ถูกได้ไงคะ?” ยีวอนน่าถามเพราะคุณยายเมอซี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แปลกประหลาดในช่วงที่ผ่านมา คุณยายเมอซี่วางแก้วน้ำลงและเริ่มพูด
      “รู้แล้วกัน ยายมีวิธีของยายจ้า” คุณยายเมอซี่ตอบ วิธีการตอบคำถามแบบนี้ช่างเหมือนกันกับคุณยายเพนนีไม่มีผิดสมแล้วที่เป็นญาติกัน
      “ครอบครัวนี้อบอุ่นดีจังนะครับ ญาติเยอะดีเดี๋ยวคนนู้นมาเยี่ยมเดี๋ยวคนนี้มาหา เมื่อซักหลายอาทิตย์ก่อนพ่อกับแม่ของยีวอนน่าก็เพิ่งมาจากบลูรีเวอร์” แวนเนสเพิ่งจะมีโอกาสได้พูดหลังจากนั่งนิ่งทำตัวสงบเสงี่ยมมานานพอสมควร
      “แน่ล่ะสองคนนั่นน่ะคงจะรีบมาทำตัวเป็นเจ้าของร้านซักรีดอย่างเป็นทางการล่ะสิ ใช่มั๊ยจ๊ะ?” คุณยายเมอซี่พูดขึ้นอย่างรู้ทันพ่อและแม่ของยีวอนน่า
      “คุณยายรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ?” ยีวอนน่าถามอย่างประหลาดใจ คุณยายเมอซี่พยักหน้า
      “แน่นอนสิจ๊ะ ยีวอนน่าที่รัก ก็ที่ตรงนั้นมันเป็นที่ของยายนี่นา” คุณยายเมอซี่บอก ท่านทำตาโต
      จริงสินะยีวอนน่าลืมคิดไปเสียสนิทว่าบ้านเก่าและที่ดินทั้งหมดตรงร้านซักซีดของเธอนั้นเป็นบ้านที่คุณยายเมอซี่เป็นคนซื้อตั้งแต่สมัยท่านสาวๆ ดูท่าทางคุณยายเมอซี่จะติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของครอบครัวเป็นอย่างดี ดีมากจนยีวอนน่าแทบไม่ต้องเล่าอะไรให้ท่านฟังมากนัก
      “คุณยายจะมาพักกี่วันล่ะครับ?” แวนเนสถาม
      “แหมพ่อหนุ่ม ยายคงไม่อยู่ขัดจังหวะนานหรอกจ้า ยายมีบ้านใหม่แล้วนะ” คุณยายเมอซี่เย้าแหย่แวนเนส เขายิ้มเขินๆไปทางยีวอนน่าที่ทำคิ้วขมวดกันจนเกือบติดเพราะกำลังคิดเรื่องยายของเธอ
      “บ้านใหม่? บ้านที่ไหนคะ?” ยีวอนน่าถามด้วยความอยากรู้อย่างมาก
      “บ้านของพี่เพนนีที่กรีนวู๊ด อันที่จริงต้องบอกว่าบ้านของเราที่กรีนวู๊ดมากกว่า” คุณยายเมอซี่ตอบ
      “เพนนี? คุณยายเพนนีเหรอคะ? มีบ้านที่กรีนวู๊ดด้วย?” ยีวอนน่าถามไม่ยั้ง คุณยายเมอซี่ยิ้มและพยักหน้ารับอย่างสบายใจ สิ่งนี้ทำให้ยีวอนน่าพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่ายายของเธอและคุณยายเพนนีคงจะติดต่อกันมาตลอดเวลาท่านถึงรู้เรื่องราวหลายๆอย่างในช่วงเวลาที่ผ่านมา
      หลังอาหารค่ำยีวอนน่ายังคงนั่งเล่นกับแวนเนสอยู่ที่เก้าอี้ชิงช้าหน้าบ้าน แวนเนสพยายามสอนเธอผิวปากแต่ยีวอนน่ายังคงไม่สามารถทำได้ แวนเนสหัวเราะและลูบหัวยีวอนน่าเล่น คุณยายเมอซี่แอบมองทั้งคู่อยู่จากหน้าต่างห้องครัวด้วยความเอ็นดู
      “พรุ่งนี้จะมีญาติลำดับที่เท่าไหร่ของเธอมาเยี่ยมอีกนะ ฉันจะได้แต่งตัวหล่อๆมารอต้อนรับ” แวนเนสแซว
      “คงมีเท่านี้แหละ ฉันคิดว่าคงมีเท่านี้...............เธอได้ยินยายฉันพูดว่ากรีนวู๊ดหรือเปล่า?” ยีวอนน่าถามแวนเนส เขามองหน้ายีวอนน่า
      “กรีนวู๊ด? ได้ยินสิหูไม่ได้หนวก” แวนเนสตอบแบบกวน ยีวอนน่าหรี่ตา
      “นึกแล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้ บ้าจัง.....ฉันหมายถึงเมื่อหลายคืนก่อนที่ฉันฝันฉันฝันเห็นป่าในเมืองกรีนวู๊ดแล้ววันนี้ยายก็มาพูดว่ากรีนวู๊ดอีก เธอว่าไม่แปลกเหรอ?” ยีวอนน่าพูด แวนเนสนั่งขยี้ตาและดูเหมือนไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่ เขาก็เป็นแบบนี้เสมอชอบทำเป็นไม่สนใจแต่ในความเป็นจริงแวนเนสจดจำและใส่ใจในทุกคำพูดของยีวอนน่าเสมอ ว่าแล้วแวนเนสก็หาวนอนและเอียงตัวมาซบยีวอนน่า
      “ง่วงนอนจังเลย คืนนี้ฉันฝันเป็นเพื่อนได้มั๊ย?” แวนเนสถาม เขาเงยหน้ามองยีวอนน่า
      “ถามอะไรเหมือนเด็ก คนเราสามารถกำหนดได้ที่ไหนกันว่าคืนนี้จะฝันหรือไม่ฝัน” ยีวอนน่าตอบ เธอมองหน้าแวนเนสและหัวเราะ แวนเนสหัวเราะตาม
      เสียงกดกริ่งหน้าประตูบ้านดังขึ้น นุชชี่ยืนอยู่หน้าประตูคาดว่าคืนนี้เธอคงจะมานอนค้างบ้านยีวอนน่าตามเคย นุชชี่นั้นชอบมานอนค้างบ้านยีวอนน่าบ่อยๆเพราะบ้านของเธอและบ้านของยีวอนนาอยู่ในละแวกใกล้ๆกันและเธอก็เห็นว่ายีวอนน่านั้นอยู่บ้านคนเดียวอาจจะเหงาหรือหากมีโจรแอบเข้าบ้านเธอก็จะได้ช่วยยีวอนน่าจัดการกับโจรได้บ้างเพราะอย่างน้อยๆนุชชี่ก็ร้องโวยวายเสียงดังเก่งกว่าใครๆ แวนเนสขอตัวกลับก่อนเมื่อเห็นว่านุชชี่จะมาอยู่เป็นเพื่อนยีวอนน่าแทนเขา ยีวอนน่าจึงพานุชชี่ไปหาคุณยายเมอซี่ในบ้าน
      “คุณยายยยยย! หนูตาฝาดหรือเปล่า!” นุชชี่ดีใจเมื่อได้เห็นคุณยายเมอซี่
      “ตัวจริงแน่นอนจ๊ะหลาน” คุณยายเมอซี่บอกกับนุชชี่ ยีวอนน่าส่ายหน้าและแอบหัวเราะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น