ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จดหมายจากคุณยาย
      ปีนี้เป็นปีที่สุดแสนจะย่ำแย่ของ “ยีวอนน่า”เด็กสาวร่างบาง ผมยาวและผิวขาวจนดูเหมือนซีด เธอมีอายุสิบแปดปีนิดๆ อันที่จริงเธอจะมีอายุสิบเก้าปีเต็มในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ยีวอนน่าเพิ่งจะอกหักจากเพื่อนชาย, ถูกเพื่อนบอกเลิกคบเพียงเพราะแฟนหนุ่มของเพื่อนเธอมาหลงรักเธอเข้า, โดนไล่ออกจากร้านขายของชำที่เธอทำงานอยู่, และครอบครัวของเธอถังแตก มีเพียงสิ่งเดียวที่พอจะทำให้ยีวอนน่ายิ้มได้นั่นก็คือเธอเพิ่งเรียนจบไฮสคูลและสามารถสอบเข้าเรียนศิลปะในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่พอนึกถึงค่าเทอมและค่าใช้จ่ายปลีกย่อยที่จะต้องจ่ายเมื่อเปิดเทอมยีวอนน่าก็เริ่มถอนหายใจยาวอีกครั้ง เธอจำเป็นต้องหางานพิเศษงานใหม่ให้ได้ก่อนเปิดเทอมเพื่อนำมาเป็นค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายบางส่วน
      หลังจากหางานมาสองอาทิตย์ยีวอนน่าก็ได้งานใหม่ เธอช่างโชคดีเสียจริงเพราะงานดีๆมักหาได้ไม่ง่ายนักหรอก งานใหม่ที่ว่านี้ก็คือการเป็นผู้ช่วยในเบเกอรี่เล็กๆแห่งหนึ่งของคุณรอนนี่ เขาเป็นชายร่างท้วม สูงใหญ่, สุภาพ, ใจดี และรักการทำคุกกี้เป็นชีวิตจิตใจ เขาตกลงรับยีวอนน่ามาเป็นผู้ช่วยในตำแหน่งพนักงานเก็บเงิน (ให้ตายเถอะยีวอนน่าน่ะตกเลขเป็นประจำแหละ) ถึงแม้จะคิดเลขไม่เร็วนักแต่ยีวอนน่าก็ยินดีที่จะทำงานที่เบเกอรี่แห่งนี้เพราะอย่างน้อยๆเธอก็ยังมีเครื่องคิดเลขไม่ใช่หรือ
      ยีวอนน่าพอใจเป็นอย่างมากกับงานใหม่ ไม่หนักไม่เบาจนเกินไปและที่สำคัญเธอมักได้คุกกี้และขนมปังกลับมาที่บ้านทุกวันเพราะคุณรอนนี่ช่างใจดีเสียเหลือเกิน เขาจะเก็บคุกกี้และขนมปังบางส่วนไว้ในเตาอบเสมอ แม้ว่าจะรู้สึกเลี่ยนกับการกินคุกกี้และขนมปังแต่ยีวอนน่าก็จำเป็นต้องเอามันกลับบ้านทุกวันตามความปรารถนาดีของคุณรอนนี่ วันนี้ยีวอนน่าต้องอยู่ช่วยปิดร้านจนเย็นเพราะพนักงานคนหนึ่งขอลาครึ่งวันเนื่องจากน้องสาวป่วย(อันที่จริงเขากระซิบบอกกับยีวอนน่าว่าเขามีนัดกับแฟนสาว) แม้จะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะยุติธรรมสักเท่าไรแต่ยีวอนน่าก็ไม่ได้ถือสาอะไรมากนัก
      หลังจากปิดร้านเสร็จแล้วยีวอนน่าก็กลับบ้าน เมื่อถึงบ้านแล้วพ่อกับแม่ก็ขอร้องให้ยีวอนน่าเดินทางไปหาญาติห่างๆคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้ยีวอนน่าไม่เข้าใจ ทำไมเธอจะต้องไปหาญาติคนนี้ด้วยเล่า
      “คือแบบนี้นะจ๊ะ คุณยายเพนนีเป็นพี่สาวของคุณยายของลูก ดังนั้นคุณยายเพนนีและคุณยายของลูกก็เป็นพี่น้องกันแม้จะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆก็เถอะ และเราก็ถือว่าคุณยายเพนนีเป็นแม่ของแม่อีกคนหนึ่งและคุณยายของลูกเช่นกัน แม่พูดแบบนี้ลูกไม่งงใช่ไหมจ๊ะ?” แม่พยายามอธิบาย
      “เออ...ค่ะ คงงั้นมั้งคะ แต่ว่าทำไมหนูจะต้องไปหาคุณยายเพนนีด้วยล่ะคะ?” ยีวอนน่าถามอย่างใคร่รู้
      “ตาพ่อพูดมั่งนะ คือแบบนี้ลูก...เราได้รับจดหมายจากคุณยายเพนนี ท่านอยากหาใครสักคนมาเฝ้าบ้านให้ในช่วงซัมเมอร์นี้ คุณยายรวยมากเลยนะลูกและท่านก็เขียนจดหมายมาหาพวกเรา” พ่อขออธิบายบ้าง
      “และนั่นหมายถึงท่านคงไม่ให้พวกเราไปเฝ้าบ้านให้ฟรีๆหรอกนะจ๊ะแล้วพวกเราก็เป็นญาติที่เหลืออยู่” แม่พูดอย่างมีความหวังตาเป็นประกาย
      “โธ่แม่คะ พ่อคะ แค่เฝ้าบ้านเท่านั้นเอง ทำไมต้องเป็นหนูด้วยล่ะ? แล้วงานที่เบเกอรี่ล่ะว่าไง?” ยีวอนน่าถามขึ้น
      “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกลูกแม่โทรไปบอกคุณรอนนี่เรียบร้อยแล้ว ก่อนลูกจะมาถึงนี่เอง แม่บอกว่าลูกมีความจำเป็นต้องไปต่างจังหวัดสัก 3 เดือนน่ะ” แม่รีบบอกโดยมีพ่อคอยพยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วยอีกคน
      “แต่ตั้งสามเดือน นั่นหมายถึงหนูต้องขาดรายได้ตลอดซัมเมอร์นี้นะคะ แล้วค่าเทอมหนูล่ะคะ?” ยีวอนน่าท้วง
      “ไม่มีปัญหาเลยลูก เท่าที่รู้มาคุณยายเป็นคนใจดีและท่านเสนอจ่ายให้ลูกเท่าที่ลูกต้องการ และแน่นอนมันมากกว่าที่คุณรอนนี่ให้ลูกเสียอีกนะลูกรัก” พ่อเกลี้ยกล่อมพลางยื่นจดหมายให้ยีวอนน่าอ่าน
      แม้จะดูว่าพ่อกับแม่ออกจะมีความหวังอยู่มากในเงินทองของคุณยายเพนนีแต่เมื่อคิดดูแล้วมันก็คุ้มมากที่เดียวสำหรับการเฝ้าบ้านตลอดสามเดือน ดังนั้นยีวอนน่าจึงตกลงรับคำและเตรียมตัวเดินทางไปหาคุณยายเพนนี ก่อนเดินทางเธอแวะไปหาคุณรอนนี่ที่ร้านซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากขอให้ยีวอนน่าสนุกกับซัมเมอร์นี้ส่วนงานที่เหลือพวกเขาคงต้องจัดการกันเองไปพักหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกประทับใจในความกรุณาของคุณรอนนี่อย่างมาก ยีวอนน่าต้องเดินทางด้วยรถบัสโดยมีพ่อกับแม่มาส่งที่สถานีขนส่ง
      หลังจากหางานมาสองอาทิตย์ยีวอนน่าก็ได้งานใหม่ เธอช่างโชคดีเสียจริงเพราะงานดีๆมักหาได้ไม่ง่ายนักหรอก งานใหม่ที่ว่านี้ก็คือการเป็นผู้ช่วยในเบเกอรี่เล็กๆแห่งหนึ่งของคุณรอนนี่ เขาเป็นชายร่างท้วม สูงใหญ่, สุภาพ, ใจดี และรักการทำคุกกี้เป็นชีวิตจิตใจ เขาตกลงรับยีวอนน่ามาเป็นผู้ช่วยในตำแหน่งพนักงานเก็บเงิน (ให้ตายเถอะยีวอนน่าน่ะตกเลขเป็นประจำแหละ) ถึงแม้จะคิดเลขไม่เร็วนักแต่ยีวอนน่าก็ยินดีที่จะทำงานที่เบเกอรี่แห่งนี้เพราะอย่างน้อยๆเธอก็ยังมีเครื่องคิดเลขไม่ใช่หรือ
      ยีวอนน่าพอใจเป็นอย่างมากกับงานใหม่ ไม่หนักไม่เบาจนเกินไปและที่สำคัญเธอมักได้คุกกี้และขนมปังกลับมาที่บ้านทุกวันเพราะคุณรอนนี่ช่างใจดีเสียเหลือเกิน เขาจะเก็บคุกกี้และขนมปังบางส่วนไว้ในเตาอบเสมอ แม้ว่าจะรู้สึกเลี่ยนกับการกินคุกกี้และขนมปังแต่ยีวอนน่าก็จำเป็นต้องเอามันกลับบ้านทุกวันตามความปรารถนาดีของคุณรอนนี่ วันนี้ยีวอนน่าต้องอยู่ช่วยปิดร้านจนเย็นเพราะพนักงานคนหนึ่งขอลาครึ่งวันเนื่องจากน้องสาวป่วย(อันที่จริงเขากระซิบบอกกับยีวอนน่าว่าเขามีนัดกับแฟนสาว) แม้จะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะยุติธรรมสักเท่าไรแต่ยีวอนน่าก็ไม่ได้ถือสาอะไรมากนัก
      หลังจากปิดร้านเสร็จแล้วยีวอนน่าก็กลับบ้าน เมื่อถึงบ้านแล้วพ่อกับแม่ก็ขอร้องให้ยีวอนน่าเดินทางไปหาญาติห่างๆคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้ยีวอนน่าไม่เข้าใจ ทำไมเธอจะต้องไปหาญาติคนนี้ด้วยเล่า
      “คือแบบนี้นะจ๊ะ คุณยายเพนนีเป็นพี่สาวของคุณยายของลูก ดังนั้นคุณยายเพนนีและคุณยายของลูกก็เป็นพี่น้องกันแม้จะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆก็เถอะ และเราก็ถือว่าคุณยายเพนนีเป็นแม่ของแม่อีกคนหนึ่งและคุณยายของลูกเช่นกัน แม่พูดแบบนี้ลูกไม่งงใช่ไหมจ๊ะ?” แม่พยายามอธิบาย
      “เออ...ค่ะ คงงั้นมั้งคะ แต่ว่าทำไมหนูจะต้องไปหาคุณยายเพนนีด้วยล่ะคะ?” ยีวอนน่าถามอย่างใคร่รู้
      “ตาพ่อพูดมั่งนะ คือแบบนี้ลูก...เราได้รับจดหมายจากคุณยายเพนนี ท่านอยากหาใครสักคนมาเฝ้าบ้านให้ในช่วงซัมเมอร์นี้ คุณยายรวยมากเลยนะลูกและท่านก็เขียนจดหมายมาหาพวกเรา” พ่อขออธิบายบ้าง
      “และนั่นหมายถึงท่านคงไม่ให้พวกเราไปเฝ้าบ้านให้ฟรีๆหรอกนะจ๊ะแล้วพวกเราก็เป็นญาติที่เหลืออยู่” แม่พูดอย่างมีความหวังตาเป็นประกาย
      “โธ่แม่คะ พ่อคะ แค่เฝ้าบ้านเท่านั้นเอง ทำไมต้องเป็นหนูด้วยล่ะ? แล้วงานที่เบเกอรี่ล่ะว่าไง?” ยีวอนน่าถามขึ้น
      “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกลูกแม่โทรไปบอกคุณรอนนี่เรียบร้อยแล้ว ก่อนลูกจะมาถึงนี่เอง แม่บอกว่าลูกมีความจำเป็นต้องไปต่างจังหวัดสัก 3 เดือนน่ะ” แม่รีบบอกโดยมีพ่อคอยพยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วยอีกคน
      “แต่ตั้งสามเดือน นั่นหมายถึงหนูต้องขาดรายได้ตลอดซัมเมอร์นี้นะคะ แล้วค่าเทอมหนูล่ะคะ?” ยีวอนน่าท้วง
      “ไม่มีปัญหาเลยลูก เท่าที่รู้มาคุณยายเป็นคนใจดีและท่านเสนอจ่ายให้ลูกเท่าที่ลูกต้องการ และแน่นอนมันมากกว่าที่คุณรอนนี่ให้ลูกเสียอีกนะลูกรัก” พ่อเกลี้ยกล่อมพลางยื่นจดหมายให้ยีวอนน่าอ่าน
      แม้จะดูว่าพ่อกับแม่ออกจะมีความหวังอยู่มากในเงินทองของคุณยายเพนนีแต่เมื่อคิดดูแล้วมันก็คุ้มมากที่เดียวสำหรับการเฝ้าบ้านตลอดสามเดือน ดังนั้นยีวอนน่าจึงตกลงรับคำและเตรียมตัวเดินทางไปหาคุณยายเพนนี ก่อนเดินทางเธอแวะไปหาคุณรอนนี่ที่ร้านซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากขอให้ยีวอนน่าสนุกกับซัมเมอร์นี้ส่วนงานที่เหลือพวกเขาคงต้องจัดการกันเองไปพักหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกประทับใจในความกรุณาของคุณรอนนี่อย่างมาก ยีวอนน่าต้องเดินทางด้วยรถบัสโดยมีพ่อกับแม่มาส่งที่สถานีขนส่ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น