คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1
บทที่ 1
ฉันกับยัยรันขับรถห้อตะบึงไปยังออฟฟิศของพี่ชาย ก่อนอื่นคงต้องขอแนะนำตัวกันก่อน ฉันเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ดทีมเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ชื่อจริงคือมุกรวีร์ ชื่อเล่นคือหมอก หน้าตาฉันออกไปทางแบ๊วนิดๆแต่เซ็กซี่เยอะมาก อัตราส่วน 25:75 โครงหน้ารูปไข่บวกกับตายาวรีสีน้ำตาลอ่อนล้อมกรอบด้วยขนตาหนาซึ่งปลายหางตาชี้นิดๆ รับกับจมูกที่โด่งมากจนเหมือนยัดไว้ด้วยแท่งซิลิโคน และปากเล็กๆที่เป็นสีชมพูอมส้มโดยธรรมชาติ เรือนร่างสูงโปร่งกว่า
พี่ชายของฉันคือพี่เมฆ ชื่อจริงคือนิลกาฬ ออกแนวจักรๆวงศ์ๆซะไม่มี แต่คุณแม่ฉันบอกว่าชื่อเล่นและชื่อจริงของลูกทั้งสองมันตรงกับความหมายอัญมณีประจำวันเกิด เวรกรรม พี่เมฆของฉันเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของค่ายเพลง 2Mมิวสิค ต้นสังกัดของวงเดอะแคนนั่นเอง เรา2คนพี่น้องอายุห่างกันเกือบ10ปี แต่เราสนิทกันมาก พี่เมฆสูงประมาณ 180 เซน ตัดผมสไลด์ปลายแหลมรับกับใบหน้าที่หวานราวกับผู้หญิง ตาเรียวดุสีเดียวกับฉันส่งผลให้พี่ชายฉันดูดีเป็นเท่าตัว เชื่อมั้ย ใครที่เห็นพี่ชายฉันแล้วจะต้องหันกลับมามองอีกเป็นครั้งที่ 2 แทบทุกราย
“ยัยหมอก แกแน่ใจหรอว่าเส้นของพี่ชายแกใหญ่พอ” ยัยรันถามทำลายความเงียบในรถ
“แกเชื่อมือเซียนเหอะ ถ้าฉันรู้ว่าตาคนที่เป่าโหวดอะไรนั่นน่ากินขนาดนี้ ฉันไม่ปล่อยไว้หรอกย่ะ”
“แกนี่นะ จะพูดว่าไงดี เฮ้อ เอาเป็นว่าฉันดีใจที่มีเพื่อนแบบแกแล้วกัน คริคริ”
ทันทีที่รถฉันมาถึงออฟฟิศของพี่เมฆ ยัยรันก็ถลาลงจากรถอย่างรวดเร็ว ทำไมน่ะหรอ? ก็มันเห็นวงเดอะแคนกำลังเดินไปขึ้นลิฟท์น่ะสิ ฉันน่ะถ้าไม่ติดว่าต้องมัวหอบข้าวของล่ะก็คงถลาไปทางเดียวกันนั่นล่ะ
“ไอ้รัน รอก่อนสิยะ” ฉันตะโกนด้วยเสียงแปดหลอดที่ทำให้วงเดอะแคนทั้งวงต่างชะงักและหันมามองที่ฉันพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ แล้วเดินหายเข้าไปในลิฟต์ ยัยรันหันมาทำหน้ายักษ์ใส่ฉันก่อนจะแหวแว๊ดออกมา
“เพราะแกคนเดียวเลยหมอก ฉันขึ้นลิฟท์ไม่ทันมือกลองสุดหล่อเลยอ่ะ ยัยเพื่อนเลว”
“ชิ เดี๋ยวยังไงแกก็ต้องได้นั่งสัมพาษณ์ทั้งวงอยู่แล้ว ฉันว่าแกเอาเวลาไปเมคหน้าสวยก่อนไม่ดีกว่าหรอยะ”
ฉันคุยกับยัยรันไปลอดทางจนกะทั่งมาถึงชั้น18 ซึ่งเป็นห้องทำงานของพี่ชาย ดูเหมือนว่าพี่ชายฉันจะไม่อยู่ในห้อง นั่งรอซักพักแล้วกัน
เวลาผ่านไปประมาณ 20นาที พี่เมฆยังไม่โผล่หัวมาซักที ยัยรันบ่นกระปอดกระแปด ฉันกล้าพนันได้เลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องผู้ชายยัยรันมันคงไม่รอนานขนาดนี้หรอก
“บ่นไรกันจ๊ะสาวๆ” พี่เมฆเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมทั้งเดินมาหอมแก้มซ้ายขวาของฉัน ถ้าไม่ติดที่ฉันกับพี่เมฆเป็นพี่น้องกันยัยรันมันคงกรี๊ดแตกไปหลายตลบแล้วล่ะ
“มีธุระอะไรกันถึงได้มาหาพี่ได้เนี่ย” พี่เมฆถามหลังจากที่นั่งลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันจึงสาธยายสาเหตุให้พี่เค้าฟัง แน่นอนว่าแหลทั้งนั้นแหล่ะ ใครจะกล้าบอกล่ะว่าวงนี้หน้าตาดีฉันเลยสนใจ จริงป้ะ
“สรุปว่าต้องทำรายงานก็เลยจะมาให้พี่ช่วยว่างั้น เรานี่มันร้ายจริงๆเลย คราวหน้าต้องเลี้ยงหนังพี่เป็นการตอบแทน โอเคมั้ยหมอก”
“โอ๊ยยยยยย แถมไอ้ติมด้วยเลยเอ้า รึว่าอยากไปกินอาหารญี่ปุ่นหมอกทุ่มเต็มที่เลยค่ะ”
“สัญญานะ”
“ครับผม”
“งั้นเรารอพี่แป๊บนึง” พี่เมฆหันไปกดโทรศัพท์ภายใน พอดีกับที่ยัยรันหันมากระซิบฉัน
“นี่แก ฉันเหมือนเป็นส่วนเกินพวกแกเลยหว่ะ”
15 นาทีต่อมา ฉันและยัยรันเดินขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น24 ที่พำนักของวงเดอะแคนทั้งวง แหะๆๆ เป็นอันว่าข้อมูลแรกของวงนี้คือพักอยู่ที่เดียวกับพี่ชายฉัน ฉันจะได้มีข้ออ้างมาบ่อยๆ เหอๆๆ ก่อนหน้านี้พี่ชายฉันบอกไว้ว่า
‘เดินขึ้นไปที่ชั้น24 วงนี้พักอยู่ที่นั่น ตอนนี้เป็นช่วงเวลาฟรีไทม์ หมอกมีเวลาคุยกับพวกนี้ครึ่งชั่วโมง พี่โทรบอกผู้จัดการวงให้แล้ว บอกเค้าแค่ว่าพี่ส่งไปก็พอ’
“เอ่อ...น้องสาวคุณเมฆใช่มั้ยคะ เดี๋ยวเชิญทางนี้นะคะ” เสียงหวานๆทักขึ้นจากทางด้านข้างของฉันที่กำลังยืนงงไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี
“คุณ
ฉันเดินตามยัยหมวยอะไรนี่มายังทางเดินหรูหราที่ประดับประดาไว้ด้วยเครื่องดนตรีพื้นบ้านมากมาย บางชิ้นฉันก็ไม่รู้จัก แต่นับว่ามีรสนิยมดีทีเดียว เริ่มตื่นเต้นขึ้นมานิดๆแล้วเว๊ยเฮ้ย เย็นไว้ๆ คนสวย ทำอะไรก็ดูดี ท่องไว้ยัยหมอก ฮู้~ สู้ๆ
“ถึงแล้วค่ะน้องหมอก เดี๋ยวน้องเดินผ่านประตูนี้ไปนะคะ เดอะแคนครบวงกำลังรอที่จะช่วยเหลือน้องอยู่นะคะ” ยัยหมวยนี่พูดแล้วรีบชิ่งจากไป เดี๋ยวสิเว๊ยยยยยยย
“เอาล่ะ ยัยรัน แกกับฉันสู้ตาย” ฉันพูดพร้อมทั้งเตรียมผลักประตูเข้าไป
“เดี๋ยว! แก หน้าฉันเด้งยังวะ”
“เออ พร้อม”
แอ๊ดดดด ~
ความคิดเห็น