คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เพื่อน... และพี่ชาย?
"เจ้าสไลม์อีกตัวสินะ"
(เอ๊ะ?! นั่นเสียงเหรอ? แล้วมาจากไหนล่ะ?)
"โห่ ดูท่าจะเข้าใจที่ข้าพูดด้วยสินะ แล้วเจ้าเป็นแบบไหนกันล่ะ?"
(เอ๊ะ? คุยกันได้ด้วยเหรอ... แล้วที่ว่าแบบไหนนี่คืออย่างงั้นเหรอ?)
"เจ้าน่ะเป็นเนมด์มอนสเตอร์ หรือว่าเป็นยูนีคมอนสเตอร์กันล่ะ?"
(เอ่อ.... คงจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ' เกิดใหม่ ' มากกว่าน่ะ)
ผมได้พูดคุยกับบางสิ่งที่ส่งเสียงทักผมแบบนั้น เรานี่ก็ไม่ได้คุยกับใครมาตั้ง 3เดือน เลยนี่นา....
(เอ๊ะ? เกิดใหม่เหมือนกันกับผมงั้นเหรอ? แถมยังมาเกิดเป็นสไลม์เหมือนกับผมอีก)
(อื้ม ก็น่าจะใช่นะ.... เพราะว่าความทรงจำมันหายไปบางส่วนน่ะ)
ผมได้ตอบเสียงใสๆนั่นไปอย่างตรงไปตรงมา... แล้วที่ว่าเหมือนกันนี่คือ... เขาก็เป็นสไลม์งั้นเหรอ? แถมเป็นคนที่เกิดใหม่อีก
"งั้นสินะ ข้าก็ไม่คิดเลยว่าจะเจอผู้เกิดใหม่สองคนในเวลาไล่เรียงกัน แถมยังเกิดเป็นมอนสเตอร์เผ่าพันธุ์เดี๋ยวกันอีก"
นั่นสินะ... พอเขาพูดแบบนั้นมันก็เหมือนกับ... โชคชะตา? ที่ทำให้เรามาเจอกันงั้นเหรอ?
"ถึงความเร็วในการฟื้นฟูจะช้ากว่าสไลม์ตัวนั้นแต่ก็ยังคงเร็วผิดปกติจากสไลม์ทั่วไป เจ้าก็คงจะพิเศษไม่ต่างจากเจ้าสไลม์ตัวนั้นสักเท่าไหร่"
เอ่อ... คือเรียกแบบนี้มันไม่ค่อยจะสะดวกในหลายๆอย่างน่ะ คือ... การเรียกสไลม์มันยังพอใช้ได้ถ้าอยู่สองต่อสองแต่อันนี้มีสามคนและสองในสามเป็นสไลม์ การเรียกว่าสไลม์มันทำให้ค่อนข้างจะสับสนว่าเรียกใครนี่สิ
ผมได้ฟังสิ่งที่เขาพูดไปเรื่อยๆ... โดยที่เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง โดยที่เรื่องที่คุณสไลม์(อีกคนหรือตน)พูดจะเป็นเรื่องตั้งแต่ที่ถูกแทงและมาลืมตาตื่นเป็นสไลม์ รวมทถึงพวกประสจนกระทั่งถึงปัจจุบัน... มันก็ค่อนข้างจะคล้ายกับผมนะ
และก็เรื่อง ' ผู้กลับชาติ ' ที่ดูเหมือนว่าผมกับสไลม์อีกคนจะเกิดด้วยวิธีที่หายากเอามากๆ...
"นานๆ ครั้งก็จะมี ' ผู้กลับชาติ ' เกิดมาเหมือนกัน ซึ่งคงเป็นเพราะมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าจนทำให้ความทรงจำถูกสลักลงไปในดวงวิญญาณมั้ง มีกระทั่งคนที่จดจำสิ่งที่เรียกว่าชาติที่แล้วหรืออะไรนั่นได้อย่างสมบูรณ์ด้วย แต่ว่า ' ผู้กลับชาติ ' จากต่างโลกเนี่ยถือว่าแปลกจริงๆ เพราะตามปกติแล้วดวงวิญญาณเพียงอย่างเดียวจะทนทานการเดินทางข้ามมายังต่างโลกไม่ได้ ดวงวิญญาณจะถูกแยกส่วนและทำให้สูญเสียความทรงจำไป เท่าที่ข้ารู้ ผู้ที่มีความทรงจำครบถ้วนและกลายเป็นปีศาจที่ถือกำเนิดจากแก่นเวทย์เนี่ย ยังไม่เคยปรากฏตัวที่ไหนมาก่อน"
นั่นคือสิ่งที่เขาได้พูดให้พวกผมฟัง ดูเหมือนว่าอีกคนจะเป็นตัวตนที่พิเศษมากๆแน่เลย... แต่การที่ความทรงจำเราหายไปก็ไม่น่าจะแปลกหรอกจากการที่ฟังเขาเมื่อกี้ ผู้กลับชาติที่มาจากต่างโลกจะหลงเหลือความทรงจำเดิมเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น ดังนั้นคนที่มีความทรงจำขาดๆและเลือนรางอย่างผมจึงปกติ แต่คนที่อยู่ข้างๆผมซึ่งมีความทรงจำครบถ้วนเป็นตัวตนที่ผิดแปลกออกไป
(งั้นเหรอครับ ผมไม่รู้ตัวเลยครับ... ว่าแต่ว่า คนที่เดินทางมาจากต่างโลกโดยไม่ได้กลับชาติมาเกิดเนี่ย มีด้วยสินะครับ?)
"อืม จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยมีีใคร้ดินทางไปยังต่างโลกได้สำเร็จ แต่นานๆอครั้งก็มีผู้ที่เดินทางจากต่างโลกมายังโลกนี้อยู่บ้าง พวกเขาถูกเรียกนานว่า ' ชาวต่างแดน ' หรือไม่ก็ ' ชาวต่างโลก ' ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกที่มีความรู้พิเศษซึ่งแตกต่างจากโลกทางนี้ และเห็นว่าพวกคนเหล่านั้นจะได้รับความสามารถพิเศษตอนที่เดินทางมายังโลกทางยี้ด้วย นอกจากนั้นก็ยังบันทึกเกี่ยวกับการค้นพบ ' ผู้เกิดใหม่ ' ที่มีความรู้ของต่างโลกอย่างที่เล่าเมื่อครู่นี้หลงเหลืออยู่อีก แต่ผู้ที่ไม่ถูกค้นพบก็น่าจะมีอยู่เหมือนกันนั่นแหละ"
เขา... ลุงแกได้อธิบายสิ่งที่เขาถามอย่างละเอียด... แต่ว่ามันก็น่าจะมีคนที่มาต่างโลกด้วยสินะ
(อย่างนี้นี่เอง! ถ้างั้นผมจะลิงไปตามหาพวกชาวต่างโลกที่ว่านี่ดูนะครับ เพราะอาจจะพบคนรู้จักที่มาจากโลกเดียวกับผมบ้างก็ได้!)
"รอก่อนน่า พวกเข้าน่ะตามองไม่เห็นไม่ใช่รึ?"
(อ๊ะ ครับ)
เอ่อ... มันก็จริง ถึงเราจะพอสัมผัสสิ่งที่อยู่ใกล้ๆได้อยู่บ้างก็เถอะ แต่ว่าตาของเรามันก็ยังคงมองไม่เห็นอยู่ดี
"ข้าจะทำให้พวกเจ้าน่ะมองเห็นเอง"
หา? ว่าไงนะ? สามารถมองเห็นได้งั้นเหรอ?
(เอ๋? จริงเหรอครับ)
(จะมองเห็นได้จริงๆงั้นเหรอ?)
"อื้ม แต่ว่ามีเงื่อนไขนะ... ว่ายังไง?"
(เงื่อนไขยังไงหรือครับ)
"ง่ายมาก ขอแค่ถึงพวกเจ้าจะมองเห็นแล้วก็อย่าได้หวาดกลังข้า แล้วก็จงมาตึยกับข้าอีก เท่านั้นแหละ ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเจ้าใช่ไหมล่ะ?"
เอ๋~ เงื่อนไขมันก็ค่อนข้างจะดีสำหรับเราเลยไม่ใช่รึไง? หรือว่าตาลุงนี่จะเป็นพวกขี้เหงากันนะ?
(เพียงเท่านั้นจะดีหรือครับ?)
"อืม ที่จริงแล้วคือ ข้าถูกผนึกอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ 300 ปีที่แล้วน่ะและหลังจากนั้นข้าก็ว่าง ว่างซะเซ็งจนไม่รู้จะเซ็งยังไงเลย ว่ายังไงล่ะ?"
เมื่อได้ยินแบบนั้นพวกเราก็ได้ตอบตกลงไป
"อืม สัญญากันแล้วนะ รักษาสัญญาด้วยล่ะ!"
(อืม ไม่ต้องห่วงครับ! ถึงเห็นแบบนี้แต่ผมก็เป็นผู้ชายที่เชื่อถือได้! นั่นคือคำประเมินที่ผมได้รับในชาติที่แล้วครับ!)
"งั้นก็ย่อมได้ มีสกิลที่เรียกว่า 『ญาณเวทย์』 อยู่ เจ้าใช้ได้รึเปล่า?"
(ไม่ครับ ใช้ไม่ได้เลย มันเป็นสกิลแบบไหนเหรอครับ?)
นั่นสิ มันเป็นสกิลแบบไหนงั้นเหรอ?
«ตอบ : เป็นสกิลในการรับรู้แก่นเวทย์รอบๆตัว»
เห๋~ ทำไมคำอธิบายอันนี้มันสั้นจังนะ?... ผมได้เงียบนั่งฟังสิ่งที่ตาลุงนั่นพูดไปเรื่อยๆ พลางทำตามสิ่งที่ตาลุงนั่นบอก... อ่า ที่เราเรียกเขาว่าตาลุงเพราะบรรยากาศและอายุน่ะสิ
....
«ยืนยันเสร็จสิ้น คุณได้รับเอ็กซ์ตร้าสกิล 『ญาณเวทย์』 เรียบร้อยแล้ว... ต้องการใช้ เอ็กซ์ตร้าสกิล 『ญาณเวทย์』 หรือไม? YES/NO»
อืม... จะเรียนรู้มันก็เรียนรู้กันได้ง่ายๆแฮะ สงสัยเราจะเป็นพวกที่มีพรสวรรค์ล่ะมั้ง? แต่เรื่องแบบนี้... มันก็ต้อง YES แหงอยู่แล้วล่ะ...
วินาทีที่เริ่มใช้เอ็กซ์ตร้าสกิล 『ญาณเวทย์』 สมองของผมก็ถูกทับถมไปด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล มันเยอะขนาดที่ว่าตัวผมตอนเป็นคนอยู่คงไม่มีทางเรียบเรียงข้อมูลได้เป็นแน่... คลื่นเสียงและคลื่นแสงที่คอยผลักแก่นเวทย์เล็กๆ แต่ล่ะแก่นให้เคลื่อนที่ไป... ผมรับรู้สิ่งเหล้านั้นได้ทั้งหมดและแปรสารเป็นข้อมูลที่ทำความเข้าใจได้
ขอบเขตทัศนวิสัยด้านหน้าของมนุษย์นั้นมีไม่ถึง 180 องศา ทว่าตอนนี้ตัวของผมนั่นมองได้ทุกทิศทาง 360 องศา โดยไร้ซึ่งจุดอับใดๆ... ทว่าปริมาณข้อมูลมันก็มหาศาลเกินไปจนสมองแทบตะมอดไหม้และกลายเป็นบ้าไปแล้ว... ทว่า ผมที่เป็นสไลม์ที่ทั้งร่างกายเป็นทั้งเซลล์สมองและกล้ามเนื้อในเวลาเดียวกัน ผมจึงพอจะสามารถทนทานข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดได้ และจากนั้นไม่นานก็...
«ทำการประสานการทำงานระหว่างเอ็กซ์ตร้าสกิล 『ญาณเวทย์』 เข้ากับยูนีคสกิล 『พจนานุกรมต่างโลก』 เรียบร้อยแล้ว... จากนี้เป็นต้นไปยูนีคสกิล 『พจนานุกรมต่างโลก』 จะทำหน้าที่ในการควบคุมและดูแลข้อมูลทั้งหมด»
หลังคำประกาศนั้นทัศนวิสัยของผมก็เปิดกว้าง... ความรู้สึกที่เหมือนสมองถูกแผดเผาก็หายไป และแล้ว... ผมก็ได้มองเห็นโลกได้แล้ว มันเป็นเสมือนภาพแรกที่เห็นเลยถ้าไม่นับจากความทรงจำ และภาพที่เห็นนั่นก็คือ...
(มะ มังกร!!?)
ผมได้ร้องลั่นออกมาอย่างตกใจ ถึงแม้ว่าในเรื่องที่ลุงแกเล่าจะมีบอกว่าเป็นมังกรหรืออะไรนั่นอยู่เหมือนกันแต่ว่าเราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นมังกรแบบนี้จริงๆน่ะสิ
มังกรหรือตาลุงที่เราเรียกเป็นมังกรของแท้เลย ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำวาวที่ดูแล้วท่าทางจะแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าเสียอีก แต่มีนก็ดูจะมีความยืดหยุ่นในตัวด้วย... ไม่ว่าจะมองอย่างไงก็เป็นลักษณะของมังกรที่ดูโหดเหี้ยม.... ต่างจากผมและเขาที่เป็นเพียงแค่สไลม์สีแสงจันทร์ ซึ่งเป็นสีขาวอมฟ้าที่ดูเข้มน่ะ
ส่วนเรื่องรูปร่างลักษณะของผมและเขาเป็นทรงรีโดยที่มีรูปทรงเหมือนกับ คากามิโมจิ... ว่าแล้วก็รู้สึกอยากจะกินเลย แต่มันไม่ได้ไง
"เฮ้ คงยังจำสัญญาได้อยู่นะ? ว่าแต่เห็นบานโน่นบ่นนี่ แล้วไหงถึงเรียนรู้กันได้ง่ายๆซะงั้นล่ะเนี่ย..."
(แน่นอนครับ! ผมแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ ตอนนี้ผมมองเห็นรอบๆแล้ว และได้ยินกระทั่งเสียงด้วย ชาวยได้มากเลยลาะครับ!)
(อื้ม! ตามนั้นแบบที่เขาว่านั่นแหละ!)
"อืม ใช้เวลาเรียนรู้มากกว่านี้ก็ได้แท้ๆ..."
อืม... ดูเหมือนว่านิสัยจะยังคงเป็นคุณลุงใจดีอะไรทำนองนั้นนะ เป็นประเภทที่รูปลักษณ์ภายนอกพาซวยสินะ เหมือนกับ ยักษ์แดงที่ร้องไห้ (เป็นนิทานและตำนานที่มีจริง สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Google)
"แล้วจากนี้พวกเจ้าคิดจะทำยังไงต่อล่ะ?"
(นั่นสินะครับ ก่อนอื่น ผมจะลองหาดูว่ามีคนต่างโลหที่มาจากโลกเดียวกับพวกผมรึเปล่า แต่ถ้าไมาเจอก็ไม่เป็นอะไรน่ะนะครับ)
(คือว่า... ถ้าไม่ว่าอะไรเราก็อยากจะตามเขาไปน่ะ)
(อืม แบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะ)
(ว่าแต่ เห็นคุณเวลโดร่างอกว่าคุณถูกผนึกเอาไว้... สินะครับ?)
"หืม? ก็นะ ข้ายอมรับว่าข้าดูแคลนคู่มือไปนิดหน่อย... แต่ถึงจะเริ่มเอาจริงระหว่างสู้กัน สุดท้ายก็แพ้เขาอยู่ดีน่ะ!"
ทำไมมังกรตัวนี้ถึงได้ประกาศก้องด้วยความภูมิใจที่ตัวเองแพ้ซะงั้นล่ะ?
(คู่มือแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?)
"อืม แข็งแกร่งมาก เป็นตัวตนที่มี ' เทพอารักษ์ ' และถูกขานว่าเป็น ' ผู้กล้า ' ของพวกมนุษย์"
ผู้กล้า... สินะ ถ้าตามนั้นเขาคงจะมีสกิลโกงๆเพียบแถมยังน่าจะมีคสามสามารถมากอีกด้วย
"จะว่าไปผู้กล้าคนนั้นเรียกตัวเองว่า ' ผู้ถูกอัญเชิญ ' นะ ดังนั้นอาจจะเป็นคนจากโลกเดียวกับพวกเจ้าก็ได้"
(ไม่ๆ ถ้าเป็นคนจากโลกของพวกเราจริงคงไม่มีทางถูกเรียกว่าผู้กล้าได้หรอก เพราะพวกเราไม่ได้แข็งแกร่งเลย เรียกว่าอ่อนแอเลยก็ว่าได้)
"ไม่หรอก ' ชาวต่างโลก ' ที่มายังโลกนี้ส่วนมสกจะมีความสามารถพิเศษติดตัว มีนคือพลังที่ถูกสลักลงบนดวงวิญญาณในยาม้ดินทางข้ามจากต่างโลกหนึ่งมาอีกโลกหนึ่ง หากเป็น ' ผู้ถูกอัญเชิญ ' ก็จะต้องมีความสามารถพิเศษอย่างแน่นอน แถมแต่ละคนยังมี ' ยูนีคสกิล ' เฉพาะตัวอีกด้วย ซึ่งคงเป็นเพราะพวกเขามี ' วิญญาณ ' ที่แข็งแกร่งขนาดทนทานต่อการอัญเชิญได้ ต่างจาก ' ชาวต่างโลก ' ที่เดินทางมายังโลกนี้โดยบังเอิญ สิ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนี้ ก็คือความจริงที่ว่าอัตราสำเร็จในการอัญเชิญนั้นต่ำมากนั่นละ"
(ที่ว่าถูกอัญเชิญนี่คือการใช้เวทมนตร์อะไรทำนองนั้นเรียกมา... เหรอครับ?)
"ถูกต้องแล้ว การอัญเชิญต้องมีผู้ใช้เวทมนตร์มากกว่า 30คน ร่วมกันทำพิธีถึง 3วัน แม้อัตราความสำเร็จจะต่ำ แต่ผู้ถูกอัญเชิญก็ได้รับคาดหวังไว้สูงในฐานะ ' อาวุธ ' อันทรงพลัง"
อาวุธ?... คนที่ถูกอัญเชิญมาจะไม่ใช่ในฐานะของมนุษย์คนนึงแต่เป็นอาวุธมนุษย์เหรอ?
(หา? อาวุธ?)
อืม ดูเหมือนว่าเขาจะดูสับสนหน่อยๆเหมือนกันแฮะ
"อืม ' ผู้ถูกอัญเชิญ ' จะถูกเวทมนตร์สลักคำสาปบนดวงวิญญาณเพื่อไม่ให้ขัดขืนผู้อัญเชิญได้น่ะ"
(แบบนั้นมันไม่ให้ความเคารพสิทธิมนุษยชนกันเอาเลยนะ)
ผมก็อดที่จะพูดออกมาไม่ได้จริงๆ สิทธิของคนที่ผู้อัญเชิญมาอยู่ไหนเนี่ย?
"สิทธิมนุษยชน? ในต่างโลกผู้คนมีสิทธิมนุษยชนด้วยรึ? สำหรับโลกนี้แล้ว ของแบบนั้นน่ะเป็นเพียงแค่ถาพมายาเท่านั้นแหละ เพราะผู้ที่แข็งแกร่งจะกลืนกินผู้ที่อ่อนแอกว่า มันเป็นสัจธรรมอันเด็ดขาด พลังนั่นล่ะที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง"
งั้นเหรอ... โลกนี้มีกฏคือ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก สินะ
(ถ้าอย่างนั้น การปฏิบัติต่อ ' ชาวต่างโลก ' ก็ประมาณทาสทำนองนั้นรึเปล่าครับ?)
"เปล่าๆ มันขึ้นอยู่กับแต่ละคน ถ้าไม่ถูก ' คำสาปแห่งการครอบงำ ' และได้รับการยอมรับ ก็อาจจะใช้ชีวิตกันได้ตามปกติ หรือไม่ก็กลายเป็นนักผจญภัยละมั้ง? ว่ากันตามจริง ข้าเองก็เคยขับไล่ ' ชาวต่างโลก ' นักผจญภัยที่มาเพื่อปราบข้าไปหลายครั้งเหมือนกันนะ ก๊าก ฮ่าฮ่าฮ่า!!"
(สรุปแล้วก็คือจะถูกบังคับใช้แรงงานในกรณีที่ถูกอัญเชิญมาเท่านั้นสินะครับ)
"ก็ใช่ว่าใช้แรงงานหรอก แต่ก็นะ คงจะประมาณนั้นละมั้ง? ข้านาะเรียกได้ว่ารู้เรื่องของมนุษย์ละเอียดอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะรู้ไปหมดทุกเรื่องหรอกนะ"
นั่นสินะ ก็เขาเป็นมังกรนี่นา จะเรียกว่าเข้าใจมนุษย์เกินมังกรก็ว่าได้ละมั้ง... จากนั้นก็นั่งฟังเรื่องเล่าไปยาวๆเลย เป็นเรื่องของผู้กล้าที่สามารถล้มเวลโดร่าหรือมังกรที่อยู่จรงหน้าไปได้ เธอเป็นผู้หญิงที่ใบหน้าถูกปกปิดไปด้วยหน้ากาก.... และอะไรสักอย่างที่ปิดผนึกเขาอยู่ก็คือ «พันธนาการนิรันดร์»
(เอาล่ะ! ถ้าอย่างนั้น มาเป็นเพื่อนกับผม... ไม่สิ กับฉันไหม?)
(อืม มาเป็นเพื่อนกันไหม?)
คือผมยอมรับเลยว่า... ตามน้ำ ก็มันกลัวตกรถอะ ฮา ฮ่า
"วะ ว่าไงนะ? ปะ เป็นแค่สไลม์แท้ๆ แต่คิดจะเป็นเพื่อนกับข้าคนนี้ซึ่งเป็นที่หวาดกลัวไปทั่วหล้าในฐานะ ' มังกรวายุคลั่ง ' เวลโดร่าอย่างนั้นเรอะ!?"
(( อะ เอ่อ ถ้าไม่อยากเป็นก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ... ))
"บ้าเรอะ! ใครที่ไหนพูดว่าไม่อยากเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่!!"
เอ๋— สรุปคืออยากเป็นงั้นเหรอ?
(งั้นเหรอ? ถ้างั้น... จะเอาไงล่ะ?)
"นั่นสินะ... ถ้าพวกเจ้ายืนกรานว่าไม่ว่ายังไงก็อยากเป็นเพื่อนกับข้า... ข้าจะลองคิดดูก็ได้"
เวลโดร่าพูดพลางแอบเหลือบตามามอง... นี่มันเด็กผู้หญิงน่ารักๆ ชัดๆ.... ว่าไปนั่น
(ไม่ว่ายังไงก็อยากเป็น ตกลงตามนั้น! หรือถ้านายไม่อยากเป็นก็ตัดขาดกันไปเลย แล้วพวกฉันจะไม่มาที่นี่อีกเด็ดขาด!!)
เฮ้ย! พูดแบบนั้นผมจะไม่ตายเอาเหรอ!?
"เดี๋ยว—! ช่วยไม่ได้นะ ข้าจะยอมเป็นเพื่อนกับพวกเจ้าก็ได้!... ขอบใจข้าซะด้วย"
เฮ้อ~ โชคดี... เรานึกว่าจะตายซะแล้ว
(ถ้างั้นก็ฝากตัวด้วยนะ!)
(อืม... ฝากตัวด้วยนะ)
"ฝากตัวด้วย! จริงสิ ข้าจะตั้งชื่อให้พวกเจ้า ส่วนพวกเจ้าก็จงตั้งชื่อให้ข้าเสีย"
(หา? ทำไมล่ะ? จู่ๆ พูดอะไร—)
"เพื่อจารึกไว้ในดวงวิญญาณว่าเรามีคสามเท่าเทียมกันไงล่ะ ถ้าพูดในแบบของมนุษย์ก็เหมือนกับนามสกุล แต่การที่ข้าตั้งชื่อให้พวกเจ้านั้น จะกลายเป็นการ ' คุ้มครอง ' พวกเจ้าด้วย พวกเจ้าตอนนี้ยังเป็นพวก ' ไร้นาม ' อยู่ ดังนั้นเท่านี้พวกเจ้าก็จะได้เข้าเป็นพวกเดียวกับเนมด์มอนสเตอร์แล้ว"
อืม... สรุปคือให้พวกผมตั้งนามสกุล ที่จะใช้ร่วมกันงั้นเหรอ?.... ผมได้เคลื่อนที่ไปหาสไลม์อีกตนนึงเพื่อที่จะปรึกษาเรื่องนี้
(เอ่อ... มังกรวายุคลั่ง... วายุคลั่งเนี่ยคือพายุใช่ไหม?)
(อืม ก็คงแบบนั้นแหละ พายุ... สทอร์ม.... เทม.. เพสต์?)
(อื้ม แบบนั้นก็น่าจะดีนะ ถึงมันจะดูค่อนข้างจะ... แบบนั้นก็เถอะ)
(ถ้างั้นก็เอาเป็น ' เทมเพสต์ ' เป็นไง?...)
"ห๊าา!! เทมเพสต์งั้นเรอะ!! เป็นอันตกลง! ฟังรื่นหูจริงๆ"
ดูเหมือนว่า... จะชอบสินะ
"นับจากนี้ไป ข้าคือเวลโดร่า เทมเพสต์! ส่วนเจ้าข้าขอมอบนาม ' ริมุรุ ' นับจากนี้ไปจงอ้างนามของเจ้าว่า ริมุรุ เทมเพสต์เสีย! ส่วนเจ้าขอจะขอมอบนาม ' เนรูรู ' จงใช้ชื่อว่า เนรูรู เทมเพสต์นับแต่นี้ไปเสีย!"
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพใดๆ แต่ภายในจิตใจของผมมัน... ชื่อ เนรูรู ถูกสลักลึกไว้ในวิญญาณของผม....
[ จบ. ]
ยังไม่ได้ตรวจคำผิด
(ค่อนข้างจะอยากทำ เลยไปทำมา แต่เพราะไม่มีรูปมากเลยเอารูปนี้มาใส่)
ปล. โอเน็ตเรียบร้อยแล้วครับ(≧▽≦)
อ้อ แล้วก็ขอบอกเลยว่าช่วงแรกๆเนื้อหามันจะอ้างอิงมาจากนิยายซะส่วนใหญ่นะ
ความคิดเห็น