ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fan Fan Tensei shitara slime datta ken ] เกิดใหม่เป็นน้องสาวของสไลม์....

    ลำดับตอนที่ #2 : เพื่อน... และพี่ชาย?

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 67


    "เจ้าสไลม์อีกตัวสินะ" 


    (เอ๊ะ?! นั่นเสียงเหรอ? แล้วมาจากไหนล่ะ?) 


    "โห่ ดูท่าจะเข้าใจที่ข้าพูดด้วยสินะ แล้วเจ้าเป็นแบบไหนกันล่ะ?" 


    (เอ๊ะ? คุยกันได้ด้วยเหรอ... แล้วที่ว่าแบบไหนนี่คืออย่างงั้นเหรอ?) 


    "เจ้าน่ะเป็นเนมด์มอนสเตอร์ หรือว่าเป็นยูนีคมอนสเตอร์กันล่ะ?" 


    (เอ่อ.... คงจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ' เกิดใหม่ ' มากกว่าน่ะ) 


    ผมได้พูดคุยกับบางสิ่งที่ส่งเสียงทักผมแบบนั้น เรานี่ก็ไม่ได้คุยกับใครมาตั้ง 3เดือน เลยนี่นา.... 


    (เอ๊ะ? เกิดใหม่เหมือนกันกับผมงั้นเหรอ? แถมยังมาเกิดเป็นสไลม์เหมือนกับผมอีก) 


    (อื้ม ก็น่าจะใช่นะ.... เพราะว่าความทรงจำมันหายไปบางส่วนน่ะ) 


    ผมได้ตอบเสียงใสๆนั่นไปอย่างตรงไปตรงมา... แล้วที่ว่าเหมือนกันนี่คือ... เขาก็เป็นสไลม์งั้นเหรอ? แถมเป็นคนที่เกิดใหม่อีก 


    "งั้นสินะ ข้าก็ไม่คิดเลยว่าจะเจอผู้เกิดใหม่สองคนในเวลาไล่เรียงกัน แถมยังเกิดเป็นมอนสเตอร์เผ่าพันธุ์เดี๋ยวกันอีก" 


    นั่นสินะ... พอเขาพูดแบบนั้นมันก็เหมือนกับ... โชคชะตา? ที่ทำให้เรามาเจอกันงั้นเหรอ? 


    "ถึงความเร็วในการฟื้นฟูจะช้ากว่าสไลม์ตัวนั้นแต่ก็ยังคงเร็วผิดปกติจากสไลม์ทั่วไป เจ้าก็คงจะพิเศษไม่ต่างจากเจ้าสไลม์ตัวนั้นสักเท่าไหร่" 


    เอ่อ... คือเรียกแบบนี้มันไม่ค่อยจะสะดวกในหลายๆอย่างน่ะ คือ... การเรียกสไลม์มันยังพอใช้ได้ถ้าอยู่สองต่อสองแต่อันนี้มีสามคนและสองในสามเป็นสไลม์ การเรียกว่าสไลม์มันทำให้ค่อนข้างจะสับสนว่าเรียกใครนี่สิ 

    ผมได้ฟังสิ่งที่เขาพูดไปเรื่อยๆ... โดยที่เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง โดยที่เรื่องที่คุณสไลม์(อีกคนหรือตน)พูดจะเป็นเรื่องตั้งแต่ที่ถูกแทงและมาลืมตาตื่นเป็นสไลม์ รวมทถึงพวกประสจนกระทั่งถึงปัจจุบัน... มันก็ค่อนข้างจะคล้ายกับผมนะ 

    และก็เรื่อง ' ผู้กลับชาติ ' ที่ดูเหมือนว่าผมกับสไลม์อีกคนจะเกิดด้วยวิธีที่หายากเอามากๆ... 

    "นานๆ ครั้งก็จะมี ' ผู้กลับชาติ ' เกิดมาเหมือนกัน ซึ่งคงเป็นเพราะมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าจนทำให้ความทรงจำถูกสลักลงไปในดวงวิญญาณมั้ง มีกระทั่งคนที่จดจำสิ่งที่เรียกว่าชาติที่แล้วหรืออะไรนั่นได้อย่างสมบูรณ์ด้วย แต่ว่า ' ผู้กลับชาติ ' จากต่างโลกเนี่ยถือว่าแปลกจริงๆ เพราะตามปกติแล้วดวงวิญญาณเพียงอย่างเดียวจะทนทานการเดินทางข้ามมายังต่างโลกไม่ได้ ดวงวิญญาณจะถูกแยกส่วนและทำให้สูญเสียความทรงจำไป เท่าที่ข้ารู้ ผู้ที่มีความทรงจำครบถ้วนและกลายเป็นปีศาจที่ถือกำเนิดจากแก่นเวทย์เนี่ย ยังไม่เคยปรากฏตัวที่ไหนมาก่อน" 

    นั่นคือสิ่งที่เขาได้พูดให้พวกผมฟัง ดูเหมือนว่าอีกคนจะเป็นตัวตนที่พิเศษมากๆแน่เลย... แต่การที่ความทรงจำเราหายไปก็ไม่น่าจะแปลกหรอกจากการที่ฟังเขาเมื่อกี้ ผู้กลับชาติที่มาจากต่างโลกจะหลงเหลือความทรงจำเดิมเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น ดังนั้นคนที่มีความทรงจำขาดๆและเลือนรางอย่างผมจึงปกติ แต่คนที่อยู่ข้างๆผมซึ่งมีความทรงจำครบถ้วนเป็นตัวตนที่ผิดแปลกออกไป 


    (งั้นเหรอครับ ผมไม่รู้ตัวเลยครับ... ว่าแต่ว่า คนที่เดินทางมาจากต่างโลกโดยไม่ได้กลับชาติมาเกิดเนี่ย มีด้วยสินะครับ?) 


    "อืม จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยมีีใคร้ดินทางไปยังต่างโลกได้สำเร็จ แต่นานๆอครั้งก็มีผู้ที่เดินทางจากต่างโลกมายังโลกนี้อยู่บ้าง พวกเขาถูกเรียกนานว่า ' ชาวต่างแดน ' หรือไม่ก็ ' ชาวต่างโลก ' ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกที่มีความรู้พิเศษซึ่งแตกต่างจากโลกทางนี้ และเห็นว่าพวกคนเหล่านั้นจะได้รับความสามารถพิเศษตอนที่เดินทางมายังโลกทางยี้ด้วย นอกจากนั้นก็ยังบันทึกเกี่ยวกับการค้นพบ ' ผู้เกิดใหม่ ' ที่มีความรู้ของต่างโลกอย่างที่เล่าเมื่อครู่นี้หลงเหลืออยู่อีก แต่ผู้ที่ไม่ถูกค้นพบก็น่าจะมีอยู่เหมือนกันนั่นแหละ" 


    เขา... ลุงแกได้อธิบายสิ่งที่เขาถามอย่างละเอียด... แต่ว่ามันก็น่าจะมีคนที่มาต่างโลกด้วยสินะ 


    (อย่างนี้นี่เอง! ถ้างั้นผมจะลิงไปตามหาพวกชาวต่างโลกที่ว่านี่ดูนะครับ เพราะอาจจะพบคนรู้จักที่มาจากโลกเดียวกับผมบ้างก็ได้!) 


    "รอก่อนน่า พวกเข้าน่ะตามองไม่เห็นไม่ใช่รึ?" 


    (อ๊ะ ครับ) 


    เอ่อ... มันก็จริง ถึงเราจะพอสัมผัสสิ่งที่อยู่ใกล้ๆได้อยู่บ้างก็เถอะ แต่ว่าตาของเรามันก็ยังคงมองไม่เห็นอยู่ดี 


    "ข้าจะทำให้พวกเจ้าน่ะมองเห็นเอง" 


    หา? ว่าไงนะ? สามารถมองเห็นได้งั้นเหรอ? 


    (เอ๋? จริงเหรอครับ)


    (จะมองเห็นได้จริงๆงั้นเหรอ?) 


    "อื้ม แต่ว่ามีเงื่อนไขนะ... ว่ายังไง?" 


    (เงื่อนไขยังไงหรือครับ) 


    "ง่ายมาก ขอแค่ถึงพวกเจ้าจะมองเห็นแล้วก็อย่าได้หวาดกลังข้า แล้วก็จงมาตึยกับข้าอีก เท่านั้นแหละ ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเจ้าใช่ไหมล่ะ?" 


    เอ๋~ เงื่อนไขมันก็ค่อนข้างจะดีสำหรับเราเลยไม่ใช่รึไง? หรือว่าตาลุงนี่จะเป็นพวกขี้เหงากันนะ? 


    (เพียงเท่านั้นจะดีหรือครับ?) 


    "อืม ที่จริงแล้วคือ ข้าถูกผนึกอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ 300 ปีที่แล้วน่ะและหลังจากนั้นข้าก็ว่าง ว่างซะเซ็งจนไม่รู้จะเซ็งยังไงเลย ว่ายังไงล่ะ?" 


    เมื่อได้ยินแบบนั้นพวกเราก็ได้ตอบตกลงไป


    "อืม สัญญากันแล้วนะ รักษาสัญญาด้วยล่ะ!" 


    (อืม ไม่ต้องห่วงครับ! ถึงเห็นแบบนี้แต่ผมก็เป็นผู้ชายที่เชื่อถือได้! นั่นคือคำประเมินที่ผมได้รับในชาติที่แล้วครับ!) 


    "งั้นก็ย่อมได้ มีสกิลที่เรียกว่า 『ญาณเวทย์』 อยู่ เจ้าใช้ได้รึเปล่า?" 


    (ไม่ครับ ใช้ไม่ได้เลย มันเป็นสกิลแบบไหนเหรอครับ?) 


    นั่นสิ มันเป็นสกิลแบบไหนงั้นเหรอ? 


    «ตอบ : เป็นสกิลในการรับรู้แก่นเวทย์รอบๆตัว» 


    เห๋~ ทำไมคำอธิบายอันนี้มันสั้นจังนะ?... ผมได้เงียบนั่งฟังสิ่งที่ตาลุงนั่นพูดไปเรื่อยๆ พลางทำตามสิ่งที่ตาลุงนั่นบอก... อ่า ที่เราเรียกเขาว่าตาลุงเพราะบรรยากาศและอายุน่ะสิ 


    .... 


    «ยืนยันเสร็จสิ้น คุณได้รับเอ็กซ์ตร้าสกิล 『ญาณเวทย์』 เรียบร้อยแล้ว... ต้องการใช้ เอ็กซ์ตร้าสกิล 『ญาณเวทย์』 หรือไม?   YES/NO» 


    อืม... จะเรียนรู้มันก็เรียนรู้กันได้ง่ายๆแฮะ สงสัยเราจะเป็นพวกที่มีพรสวรรค์ล่ะมั้ง? แต่เรื่องแบบนี้... มันก็ต้อง YES แหงอยู่แล้วล่ะ... 

    วินาทีที่เริ่มใช้เอ็กซ์ตร้าสกิล 『ญาณเวทย์』 สมองของผมก็ถูกทับถมไปด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล มันเยอะขนาดที่ว่าตัวผมตอนเป็นคนอยู่คงไม่มีทางเรียบเรียงข้อมูลได้เป็นแน่... คลื่นเสียงและคลื่นแสงที่คอยผลักแก่นเวทย์เล็กๆ แต่ล่ะแก่นให้เคลื่อนที่ไป... ผมรับรู้สิ่งเหล้านั้นได้ทั้งหมดและแปรสารเป็นข้อมูลที่ทำความเข้าใจได้ 

    ขอบเขตทัศนวิสัยด้านหน้าของมนุษย์นั้นมีไม่ถึง 180 องศา ทว่าตอนนี้ตัวของผมนั่นมองได้ทุกทิศทาง 360 องศา โดยไร้ซึ่งจุดอับใดๆ... ทว่าปริมาณข้อมูลมันก็มหาศาลเกินไปจนสมองแทบตะมอดไหม้และกลายเป็นบ้าไปแล้ว... ทว่า ผมที่เป็นสไลม์ที่ทั้งร่างกายเป็นทั้งเซลล์สมองและกล้ามเนื้อในเวลาเดียวกัน ผมจึงพอจะสามารถทนทานข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดได้ และจากนั้นไม่นานก็... 


    «ทำการประสานการทำงานระหว่างเอ็กซ์ตร้าสกิล 『ญาณเวทย์』 เข้ากับยูนีคสกิล 『พจนานุกรมต่างโลก』 เรียบร้อยแล้ว... จากนี้เป็นต้นไปยูนีคสกิล 『พจนานุกรมต่างโลก』 จะทำหน้าที่ในการควบคุมและดูแลข้อมูลทั้งหมด» 


    หลังคำประกาศนั้นทัศนวิสัยของผมก็เปิดกว้าง... ความรู้สึกที่เหมือนสมองถูกแผดเผาก็หายไป และแล้ว... ผมก็ได้มองเห็นโลกได้แล้ว มันเป็นเสมือนภาพแรกที่เห็นเลยถ้าไม่นับจากความทรงจำ และภาพที่เห็นนั่นก็คือ... 


    (มะ มังกร!!?) 


    ผมได้ร้องลั่นออกมาอย่างตกใจ ถึงแม้ว่าในเรื่องที่ลุงแกเล่าจะมีบอกว่าเป็นมังกรหรืออะไรนั่นอยู่เหมือนกันแต่ว่าเราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นมังกรแบบนี้จริงๆน่ะสิ 

    มังกรหรือตาลุงที่เราเรียกเป็นมังกรของแท้เลย ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำวาวที่ดูแล้วท่าทางจะแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าเสียอีก แต่มีนก็ดูจะมีความยืดหยุ่นในตัวด้วย... ไม่ว่าจะมองอย่างไงก็เป็นลักษณะของมังกรที่ดูโหดเหี้ยม.... ต่างจากผมและเขาที่เป็นเพียงแค่สไลม์สีแสงจันทร์ ซึ่งเป็นสีขาวอมฟ้าที่ดูเข้มน่ะ 

    ส่วนเรื่องรูปร่างลักษณะของผมและเขาเป็นทรงรีโดยที่มีรูปทรงเหมือนกับ คากามิโมจิ... ว่าแล้วก็รู้สึกอยากจะกินเลย แต่มันไม่ได้ไง 


    "เฮ้ คงยังจำสัญญาได้อยู่นะ? ว่าแต่เห็นบานโน่นบ่นนี่ แล้วไหงถึงเรียนรู้กันได้ง่ายๆซะงั้นล่ะเนี่ย..." 


    (แน่นอนครับ! ผมแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ ตอนนี้ผมมองเห็นรอบๆแล้ว และได้ยินกระทั่งเสียงด้วย ชาวยได้มากเลยลาะครับ!) 


    (อื้ม! ตามนั้นแบบที่เขาว่านั่นแหละ!) 


    "อืม ใช้เวลาเรียนรู้มากกว่านี้ก็ได้แท้ๆ..." 


    อืม... ดูเหมือนว่านิสัยจะยังคงเป็นคุณลุงใจดีอะไรทำนองนั้นนะ เป็นประเภทที่รูปลักษณ์ภายนอกพาซวยสินะ เหมือนกับ ยักษ์แดงที่ร้องไห้ (เป็นนิทานและตำนานที่มีจริง สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Google) 


    "แล้วจากนี้พวกเจ้าคิดจะทำยังไงต่อล่ะ?" 


    (นั่นสินะครับ ก่อนอื่น ผมจะลองหาดูว่ามีคนต่างโลหที่มาจากโลกเดียวกับพวกผมรึเปล่า แต่ถ้าไมาเจอก็ไม่เป็นอะไรน่ะนะครับ) 


    (คือว่า... ถ้าไม่ว่าอะไรเราก็อยากจะตามเขาไปน่ะ) 


    (อืม แบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะ) 


    (ว่าแต่ เห็นคุณเวลโดร่างอกว่าคุณถูกผนึกเอาไว้... สินะครับ?) 


    "หืม? ก็นะ ข้ายอมรับว่าข้าดูแคลนคู่มือไปนิดหน่อย... แต่ถึงจะเริ่มเอาจริงระหว่างสู้กัน สุดท้ายก็แพ้เขาอยู่ดีน่ะ!" 


    ทำไมมังกรตัวนี้ถึงได้ประกาศก้องด้วยความภูมิใจที่ตัวเองแพ้ซะงั้นล่ะ? 


    (คู่มือแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?) 


    "อืม แข็งแกร่งมาก เป็นตัวตนที่มี ' เทพอารักษ์ ' และถูกขานว่าเป็น ' ผู้กล้า ' ของพวกมนุษย์" 


    ผู้กล้า... สินะ ถ้าตามนั้นเขาคงจะมีสกิลโกงๆเพียบแถมยังน่าจะมีคสามสามารถมากอีกด้วย 


    "จะว่าไปผู้กล้าคนนั้นเรียกตัวเองว่า ' ผู้ถูกอัญเชิญ ' นะ ดังนั้นอาจจะเป็นคนจากโลกเดียวกับพวกเจ้าก็ได้" 


    (ไม่ๆ ถ้าเป็นคนจากโลกของพวกเราจริงคงไม่มีทางถูกเรียกว่าผู้กล้าได้หรอก เพราะพวกเราไม่ได้แข็งแกร่งเลย เรียกว่าอ่อนแอเลยก็ว่าได้) 


    "ไม่หรอก ' ชาวต่างโลก ' ที่มายังโลกนี้ส่วนมสกจะมีความสามารถพิเศษติดตัว มีนคือพลังที่ถูกสลักลงบนดวงวิญญาณในยาม้ดินทางข้ามจากต่างโลกหนึ่งมาอีกโลกหนึ่ง หากเป็น ' ผู้ถูกอัญเชิญ ' ก็จะต้องมีความสามารถพิเศษอย่างแน่นอน แถมแต่ละคนยังมี ' ยูนีคสกิล ' เฉพาะตัวอีกด้วย ซึ่งคงเป็นเพราะพวกเขามี ' วิญญาณ ' ที่แข็งแกร่งขนาดทนทานต่อการอัญเชิญได้ ต่างจาก ' ชาวต่างโลก ' ที่เดินทางมายังโลกนี้โดยบังเอิญ สิ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนี้ ก็คือความจริงที่ว่าอัตราสำเร็จในการอัญเชิญนั้นต่ำมากนั่นละ" 


    (ที่ว่าถูกอัญเชิญนี่คือการใช้เวทมนตร์อะไรทำนองนั้นเรียกมา... เหรอครับ?) 


    "ถูกต้องแล้ว การอัญเชิญต้องมีผู้ใช้เวทมนตร์มากกว่า 30คน ร่วมกันทำพิธีถึง 3วัน แม้อัตราความสำเร็จจะต่ำ แต่ผู้ถูกอัญเชิญก็ได้รับคาดหวังไว้สูงในฐานะ ' อาวุธ ' อันทรงพลัง" 


    อาวุธ?... คนที่ถูกอัญเชิญมาจะไม่ใช่ในฐานะของมนุษย์คนนึงแต่เป็นอาวุธมนุษย์เหรอ? 


    (หา? อาวุธ?) 


    อืม ดูเหมือนว่าเขาจะดูสับสนหน่อยๆเหมือนกันแฮะ 


    "อืม ' ผู้ถูกอัญเชิญ ' จะถูกเวทมนตร์สลักคำสาปบนดวงวิญญาณเพื่อไม่ให้ขัดขืนผู้อัญเชิญได้น่ะ" 


    (แบบนั้นมันไม่ให้ความเคารพสิทธิมนุษยชนกันเอาเลยนะ) 


    ผมก็อดที่จะพูดออกมาไม่ได้จริงๆ สิทธิของคนที่ผู้อัญเชิญมาอยู่ไหนเนี่ย? 


    "สิทธิมนุษยชน? ในต่างโลกผู้คนมีสิทธิมนุษยชนด้วยรึ? สำหรับโลกนี้แล้ว ของแบบนั้นน่ะเป็นเพียงแค่ถาพมายาเท่านั้นแหละ เพราะผู้ที่แข็งแกร่งจะกลืนกินผู้ที่อ่อนแอกว่า มันเป็นสัจธรรมอันเด็ดขาด พลังนั่นล่ะที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง" 


    งั้นเหรอ... โลกนี้มีกฏคือ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก สินะ 


    (ถ้าอย่างนั้น การปฏิบัติต่อ ' ชาวต่างโลก ' ก็ประมาณทาสทำนองนั้นรึเปล่าครับ?) 


    "เปล่าๆ มันขึ้นอยู่กับแต่ละคน ถ้าไม่ถูก ' คำสาปแห่งการครอบงำ ' และได้รับการยอมรับ ก็อาจจะใช้ชีวิตกันได้ตามปกติ หรือไม่ก็กลายเป็นนักผจญภัยละมั้ง? ว่ากันตามจริง ข้าเองก็เคยขับไล่ ' ชาวต่างโลก ' นักผจญภัยที่มาเพื่อปราบข้าไปหลายครั้งเหมือนกันนะ ก๊าก ฮ่าฮ่าฮ่า!!" 


    (สรุปแล้วก็คือจะถูกบังคับใช้แรงงานในกรณีที่ถูกอัญเชิญมาเท่านั้นสินะครับ) 


    "ก็ใช่ว่าใช้แรงงานหรอก แต่ก็นะ คงจะประมาณนั้นละมั้ง? ข้านาะเรียกได้ว่ารู้เรื่องของมนุษย์ละเอียดอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะรู้ไปหมดทุกเรื่องหรอกนะ" 


    นั่นสินะ ก็เขาเป็นมังกรนี่นา จะเรียกว่าเข้าใจมนุษย์เกินมังกรก็ว่าได้ละมั้ง... จากนั้นก็นั่งฟังเรื่องเล่าไปยาวๆเลย เป็นเรื่องของผู้กล้าที่สามารถล้มเวลโดร่าหรือมังกรที่อยู่จรงหน้าไปได้ เธอเป็นผู้หญิงที่ใบหน้าถูกปกปิดไปด้วยหน้ากาก.... และอะไรสักอย่างที่ปิดผนึกเขาอยู่ก็คือ «พันธนาการนิรันดร์» 


    (เอาล่ะ! ถ้าอย่างนั้น มาเป็นเพื่อนกับผม... ไม่สิ กับฉันไหม?) 


    (อืม มาเป็นเพื่อนกันไหม?)


    คือผมยอมรับเลยว่า... ตามน้ำ ก็มันกลัวตกรถอะ ฮา ฮ่า 


    "วะ ว่าไงนะ? ปะ เป็นแค่สไลม์แท้ๆ แต่คิดจะเป็นเพื่อนกับข้าคนนี้ซึ่งเป็นที่หวาดกลัวไปทั่วหล้าในฐานะ ' มังกรวายุคลั่ง ' เวลโดร่าอย่างนั้นเรอะ!?" 


    (( อะ เอ่อ ถ้าไม่อยากเป็นก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ... )


    "บ้าเรอะ! ใครที่ไหนพูดว่าไม่อยากเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่!!" 


    เอ๋— สรุปคืออยากเป็นงั้นเหรอ? 


    (งั้นเหรอ? ถ้างั้น... จะเอาไงล่ะ?) 


    "นั่นสินะ... ถ้าพวกเจ้ายืนกรานว่าไม่ว่ายังไงก็อยากเป็นเพื่อนกับข้า... ข้าจะลองคิดดูก็ได้" 


    เวลโดร่าพูดพลางแอบเหลือบตามามอง... นี่มันเด็กผู้หญิงน่ารักๆ ชัดๆ.... ว่าไปนั่น 


    (ไม่ว่ายังไงก็อยากเป็น ตกลงตามนั้น! หรือถ้านายไม่อยากเป็นก็ตัดขาดกันไปเลย แล้วพวกฉันจะไม่มาที่นี่อีกเด็ดขาด!!) 


    เฮ้ย! พูดแบบนั้นผมจะไม่ตายเอาเหรอ!? 


    "เดี๋ยว—! ช่วยไม่ได้นะ ข้าจะยอมเป็นเพื่อนกับพวกเจ้าก็ได้!... ขอบใจข้าซะด้วย" 


    เฮ้อ~ โชคดี... เรานึกว่าจะตายซะแล้ว 


    (ถ้างั้นก็ฝากตัวด้วยนะ!) 


    (อืม... ฝากตัวด้วยนะ) 


    "ฝากตัวด้วย! จริงสิ ข้าจะตั้งชื่อให้พวกเจ้า ส่วนพวกเจ้าก็จงตั้งชื่อให้ข้าเสีย" 


    (หา? ทำไมล่ะ? จู่ๆ พูดอะไร—) 


    "เพื่อจารึกไว้ในดวงวิญญาณว่าเรามีคสามเท่าเทียมกันไงล่ะ ถ้าพูดในแบบของมนุษย์ก็เหมือนกับนามสกุล แต่การที่ข้าตั้งชื่อให้พวกเจ้านั้น จะกลายเป็นการ ' คุ้มครอง ' พวกเจ้าด้วย พวกเจ้าตอนนี้ยังเป็นพวก ' ไร้นาม ' อยู่ ดังนั้นเท่านี้พวกเจ้าก็จะได้เข้าเป็นพวกเดียวกับเนมด์มอนสเตอร์แล้ว" 


    อืม... สรุปคือให้พวกผมตั้งนามสกุล ที่จะใช้ร่วมกันงั้นเหรอ?.... ผมได้เคลื่อนที่ไปหาสไลม์อีกตนนึงเพื่อที่จะปรึกษาเรื่องนี้ 


    (เอ่อ... มังกรวายุคลั่ง... วายุคลั่งเนี่ยคือพายุใช่ไหม?) 


    (อืม ก็คงแบบนั้นแหละ พายุ... สทอร์ม.... เทม.. เพสต์?) 


    (อื้ม แบบนั้นก็น่าจะดีนะ ถึงมันจะดูค่อนข้างจะ... แบบนั้นก็เถอะ) 



    (ถ้างั้นก็เอาเป็น ' เทมเพสต์ ' เป็นไง?...) 


    "ห๊าา!! เทมเพสต์งั้นเรอะ!! เป็นอันตกลง! ฟังรื่นหูจริงๆ" 


    ดูเหมือนว่า... จะชอบสินะ 


    "นับจากนี้ไป ข้าคือเวลโดร่า เทมเพสต์! ส่วนเจ้าข้าขอมอบนาม ' ริมุรุ ' นับจากนี้ไปจงอ้างนามของเจ้าว่า ริมุรุ เทมเพสต์เสีย! ส่วนเจ้าขอจะขอมอบนาม ' เนรูรู ' จงใช้ชื่อว่า เนรูรู เทมเพสต์นับแต่นี้ไปเสีย!" 


    ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพใดๆ แต่ภายในจิตใจของผมมัน... ชื่อ เนรูรู ถูกสลักลึกไว้ในวิญญาณของผม.... 



    [ จบ. ] 

    ยังไม่ได้ตรวจคำผิด 


    (ค่อนข้างจะอยากทำ เลยไปทำมา แต่เพราะไม่มีรูปมากเลยเอารูปนี้มาใส่) 

    ปล. โอเน็ตเรียบร้อยแล้วครับ(⁠≧⁠▽⁠≦⁠) 


    อ้อ แล้วก็ขอบอกเลยว่าช่วงแรกๆเนื้อหามันจะอ้างอิงมาจากนิยายซะส่วนใหญ่นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×