ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Money Honey ...จูบกี่ครั้ง ขอให้เป็นเงิน....

    ลำดับตอนที่ #9 : บาทพิเศษ นิลวา – วันแต่งงาน

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 48


                                                                                                         - 25 –



    ในที่สุดวันแต่งงานของน้องชายผมก็มาถึง...



    ในงานคงจะหรูน่าดู แขกที่มาร่วมงานก็คงเป็นคนในสังคมชั้นสูง ผมนึกภาพตัวเองไม่ออกเมื่อต้องไปอยู่ร่วมในงาน...คงจะกลายเป็นแกะดำที่รังเกียจขึ้นมาทันที นึกแล้วก็สมเพสปนเวทนาตัวเองไม่น้อย



    และแล้วภาพที่ผมนึกไม่ออกก็ปรากฏตรงหน้าผม...ไฮโซไฮซ้อ ทำให้ผมเวียนหัวเพราะแสงวูบวาบของเพชรพลอย ผมพยายามให้เกียรติน้องชายตัวเองด้วยการแต่งตัวให้หรูที่สุด เสื้อเชิ้ตราคาร้อยเก้าสิบเก้ากับกางเกงสแล็คที่ผมไปยืมจากเพื่อนบ้านคงจะหรูพอ...หรือเปล่าก็ไม่รู้ บางทีถ้าไม่มีทางเลือกผมอาจจะทำเป็นไม่รู้จักกับเจ้าบ่าว เป็นใครก็ไม่รู้มาเดินป้วนเปี้ยนในงาน หรือไม่ก็แย่งงานบริกรของโรงแรมไปซะก็หมดเรื่อง



    ผมมาถึงซุ้มหน้างานที่มีเจ้าบ่าว เจ้าสาวและพ่อยืนต้อนรับ ยังไม่ทันเตรียมตัวทำเป็นไม่รู้จักน้องชาย ไอ้นาวินก็เรียกผม



    “พี่นิล”



    ผมเดินเข้าไปอย่างเก้อเขินเพราะแถว ๆ นั้นก็มีไฮโซสาวยืนอยู่...หันไปมองแพรวา เธอก็ยิ้มให้ผม ...เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย



    “ยินดีด้วยนะ นาวิน คุณแพรวา”



    “ขอบคุณค่ะ”



    ผมหันไปมองหน้าไอ้นาวิน...มันทำหน้าเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไร แต่เรื่องอะไรผมจะให้มันรู้หมดล่ะ....ผมตัดสินใจหันไปยิ้มให้แพรวา



    “คุณแพรครับ ผมมีอะไรจะคุยกับคุณหน่อยได้ไหมครับ?”



    “พี่นิลจะทำอะไร?”



    นาวินทำหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที...ผมหันไปยิ้มให้มัน



    “อะไร? ฉันจะคุยกับน้องสะใภ้ผิดด้วยหรอ?”



    “พี่นิลมีอะไรจะคุยกับแพรหรือคะ?”



    “ไปคุยกันที่อื่นดีกว่า”



    ในที่สุดผมก็พาแพรวาไปได้ซะที...จุดที่ไปก็ไม่ได้ไกลจากห้องบอลรูมนัก เป็นมุมโซฟาที่จัดไว้สำหรับแขกที่มาพักในโรงแรม



    “พี่นิลมีอะไรหรือคะ?”



    “ผมรู้เรื่องที่พ่อผมจ้างคุณให้แต่งงานกับไอ้นาวินนะ ผมว่าคุณควรจะวางมือซะ”



    แพรวาหน้าถอดสี แต่ก็พยายามยิ้มกลบเกลื่อน



    “พี่นิลพูดอะไรของพี่หรือคะ? แพรไม่เข้าใจเลย”



    “ไม่ต้องมาแกล้งโง่หน่อยเลย คุณก็น่าจะเข้าใจสถานการณ์ดีนี่ ผมรู้ว่าคุณไม่ได้รักนาวิน คุณทำไปก็เพราะว่าเงินเท่านั้น”



    “พี่นิลคงจะมีธุระแค่นี้ ถ้างั้นเดี๋ยวแพรไปต้อนรับแขกต่อนะคะ”



    แพรวาจะเดินหนีไป...อดไม่ได้ผมก็ตะโกนไล่หลัง



    “คุณรู้ไหมว่ากำลังทำให้ตัวเองและคนอื่นต้องเจ็บปวดน่ะ...คุณเองก็กำลังฝืนใจคนอื่น นาวินก็ไม่ได้รักคุณ และยังคนที่รักนาวินอีกล่ะ คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไง?”



    ผู้หญิงคนนั้นหยุดเดิน หันมายิ้มให้ผม



    “ฉันไม่มีสิทธิเลือกที่จะหยุดหรอกค่ะ เพราะฉันเองก็ไม่มีทางเลือก ฉันต้องทำไปเพื่อลูกของฉัน ถ้าคุณอยากให้ทุกอย่างยุติ มีเพียงคน ๆ เดียวที่จะหยุดได้ ก็คือตัวนาวินเองต่างหาก”



    สรุปก็คือผมเกลี้ยกล่อมไม่ได้ผล...ผมมองแพรวาเดินจากไปอย่างเซ็ง ๆ ในเมื่อทุกอย่างเป็นในรูปนี้ ก็คงต้องให้มันเป็นไป ก็ผมมันคนนอกนี่....



    ผมเดินกลับเข้าไปในงาน วงดนตรีหยุดเล่นนานแล้ว แขกเหรื่อนั่งกันครบทุกโต๊ะ ส่วนบนเวทีมีพิธีกรของงานอยู่แทน...



    “เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญคู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเลยครับ คุณแพรวาและคุณนาวินครับ”



    ผมยืนตบมืออยู่ด้านหลังงาน...เห็นพ่อนั่งอยู่โต๊ะหน้าสุด  แพรวากับนาวินขึ้นไปบนเวที สองคนนั้นทำหน้าเซ็ง...คงจะอึดอัดใจละมั้ง ทำไงได้...ก็อยากดันทุรังแต่งงานกันเองนี่



    “ก่อนอื่นต้องถามเจ้าสาวนะครับว่าอะไรที่ทำให้คุณรักผู้ชายคนนี้ครับ”



    พิธีกรยื่นไมโครโฟนให้ยายแพรวา ยายนั่นยิ้มเจื่อน ๆ



    “เอ่อ...คงจะเป็นเพราะเขาเป็นคนดีมั้งคะ แล้วเขาก็รักฉันมาก”



    มีเสียงฮือฮาตามมา...โกหกชัด ๆ



    “แล้วคุณนาวินละครับ? เพราะอะไรคุณถึงเลือกคุณแพรวามาเป็นเจ้าสาวของคุณ”



    ไอ้นาวินรับไมโครโฟนจากพิธีกรมา...มันถอนหายใจหนึ่งครั้งก่อนจะยิ้มให้แขกในงาน



    “แพรเป็นคนดีมาก เราเจอกันครั้งแรกก็ในห้องสมุดตอนเรียนมหาวิทยาลัย ผมยังจำได้ว่าตอนนั้นเธอตัดผมบ๊อบสั้น  หลังจากนั้นเราสองคนก็ตกลงคบกัน จนมีอยู่วันหนึ่งแพรก็ขอเลิกกับผม เพราะว่าผมรวยเกินไป หึ ๆ ๆ ๆ ๆ”



    อ้นาวินน้องชายผมหัวเราะแห้ง ๆ...ในห้องบอลรูมก็เงียบกริบทันที ก่อนจะหัวเราะตาม...



    “เราสองคนไม่ได้เจอกันอีก จนในปีนี้ เราสองคนก็กลับมาเป็นแฟนกันอีกครั้ง ผมเองก็ยังงง ๆ อยู่ว่า เราสองคนกลับมาคบกันได้ไง....ในเมื่อผมเอง ก็ไม่ได้รักเธอแล้ว”



    ผมยิ้มโดยอัตโนมัติ...ในที่สุด มันก็ทำตามใจตัวเองซะที..



    “นาวิน”



    แพรวาเรียกน้องชายผมเสียงสั่น...ไอ้นาวินก็เลยหันมามอง



    “ผมรู้...แพร คุณเองก็ไม่ได้รักผม คุณแต่งงานกับผมก็เพราะเหตุผลอื่น”



    แขกในงานซุบซิบกันใหญ่...ผมแอบเห็นพ่อทำหน้าอึ้งเป็นพิเศษ



    “นาวิน...ไม่ใช่นะคะ”



    “แพร อย่าหลอกตัวเองเลย คุณแต่งงานกับผมก็เพื่อลูกสาวของคุณ ความจริงแล้วคุณหมดรักผมตั้งแต่เราเลิกกัน ที่เรามาพบกันอีกครั้งก็เพราะว่ามันคือแผนของพ่อใช่ไหม?”



    ทุกคนหันไปมองพ่อ...จนพ่อทนไม่ได้ลุกขึ้นยืน โดยมีเจษฎาภรณ์คอยประคองไว้



    “นาวิน แกเป็นบ้าอะไร?”



    “พ่อ...ผมไม่ได้รักแพร แพรเองก็ไม่ได้รักผม ผมไม่เข้าใจ ทำไมพ่อต้องจ้างแพรมาแต่งงานกับผมด้วย?”



    พ่อจับหน้าอกตัวเอง เจษฎาภรณ์เลยตะโกนเสียงดัง



    “คุณนาวิน หยุดทำเรื่องวุ่นได้แล้ว”



    “นายต่างหากที่ต้องหยุด เจษฎาภรณ์...ฉันรู้นะ ว่านายก็รู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วย”



    ผมเข้าไปแจมอย่างไม่ตั้งใจ...ก็มันอดไม่ได้นี่นา ที่จะเห็นน้องชายตัวเองต้องเป็นอย่างนี้



    “อยากรู้ใช่ไหม? ว่าฉันทำไปเพื่ออะไร?”



    พ่อพูดขึ้น...ในที่นั้นก็เลยเงียบทันที



    “ฉันก็แค่อยากจะไถ่โทษที่ฉันทำผิดไป ความจริงแล้วที่แกกับแพรวาต้องเลิกกัน ก็เพราะว่าฉันบังคับให้แพรวาเลิกกับแกซะ ฉันรู้ที่ฉันทำมันผิด ฉันเห็นว่าเราสามคนพ่อลูกกำลังจะกลับมาอยู่ด้วยกัน ฉันก็เลยอยากจะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไป แต่ว่า...ผู้หญิงคนนั้นหมดรักแกแล้ว ฉันก็เลยต้องจ้างเธอให้มาแต่งงานกับแก ที่ฉันทำไปมันผิดหรอ?”



    ไอ้นาวินก้มหน้าก่อนจะพูดว่า



    “พ่อเห็นความรักเป็นอะไร? เห็นว่ามันมีค่าแค่เงินเท่านั้นหรอ? พ่อบังคับให้เราต้องเลิกกัน แล้วจู่ ๆ พ่อก็ทำให้เราสองคนรักกันอีก พ่ออาจบังคับแพรได้ แต่พ่อทำกับผมไม่ได้หรอกนะ”



    “ถ้างั้น ถ้าแกไม่ได้รักแพรวา แล้วแกรักใครกันแน่?”



    พ่อถามขึ้น...แหม! อยากจะตอบเองจริง ๆ ...ถ้าตอบคนจะหาว่าจุ้นไหมวะ?



    “ผมรักเพียว”



    “ที่แท้ แกก็ยังรักน้ำค้างอยู่...แล้วทำไมแกถึงไม่แสดงออกล่ะ? ฉันจะได้ไถ่โทษถูก ๆ”



    ไอ้นาวินเงยหน้าและหัวเราะเบา ๆ



    “ผมผิดเองที่ไม่แสดงออก ผิดที่ปล่อยเธอไป”



    “ไปซะ...”



    จู่ ๆ แพรวาก็พูดขึ้น...เล่นเอาทั้งผมและคนอื่น ๆ งงไปตาม ๆ กัน



    “ไปตามเพียวซะ เพียวคือคนที่คุณรักไม่ใช่หรอ?”



    นาวินยังงงอยู่... อย่าว่าเลย ผมเองก็แอบเอ๋อไปเหมือนกัน แพรวาก็เลยแย่งไมโครโฟนจากนาวินก่อนจะพูด



    “ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านคะ ต้องขอโทษที่ทำให้ทุกท่านต้องเสียเวลานะคะ แต่ว่างานแต่งงานในวันนี้คงต้องเป็นโมฆะ ยังไงก็ต้องขอโทษทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ”



    แพรวาหันมายิ้มให้นาวิน



    “ไปสิ ไปหาเพียว อย่าให้มันสายไปกว่านี้เลยนะ”



    นาวินมองหน้าแพรวาอึ้ง ๆ แล้วก็กอดเธอ



    “ขอบคุณนะ แพร”



    “รีบไปสิ ไม่งั้นฉันเปลี่ยนใจนะ”



    นาวินหันไปมองพ่อ...พ่อก็พยักหน้าเบา ๆ นาวินก็เลยโค้งตัวให้แขกในงานแล้ววิ่งออกไป...



    ผมหยิบแก้วบรั่นดีจากรถเข็นมุมบริการเครื่องดื่มมาจิบ...ในที่สุดเลิฟสตอรี่ตรงหน้าผมก็ดำเนินไปถึงจุดจบ...เอ หรือว่ายังไม่จบ ไม่รู้สิ นาวินคงจะส่งข่าวมาในไม่ช้า ว่าตกลงเรื่องราวจะจบลงอย่างไร?...



    *****************************/



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×