ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 มาพนันกันมะ?
                                                                                    - 7 -
คงเป็นเพราะเมื่อคืนไม่ได้หลับเลย ตอนกลางวันก็งีบไปแป๊บเดียวเพราะนายทิมมาปลุก ฉันเลยเผลอหลับในแท็กซี่ โชคยังดี (หรือไม่ดี?)ที่พานายเวย์นมาเป็นบอดี้การ์ดมาดหลับด้วย เลยค่อยอุ่นใจว่าอย่างน้อยจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรม แต่โชคดียิ่งกว่า...ก็คือคุณพี่โชเฟอร์กะดึกแกเป็นพลเมืองดี ไม่พาสองชีวิตที่ง่วงเหงาหาวนอนไปปู้ยี่ปู้ยำ แถมยังใจดีปลุกตอนถึงบ้านด้วย
“คุณครับ ถึงแล้วครับ”
ฉันสะดุ้งตื่นก่อนจะมองซ้ายมองขวา หันกลับมามองคุณพี่โชเฟอร์ยิ้มแป้น เลยยิ้มตอบให้เขา
“เท่าไหร่คะ?”
“เจ็ดสิบถ้วนครับ”
ฉันหยิบเงินให้พี่โชเฟอร์ หันไปสะกิดเรียกนายตัวดี แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เขย่าตัวก็ไม่ตื่นอีก สุดท้ายเลยต้องลากตัวนายนั่นออกมาอย่างทุลักทุเล พาเขาไปนอนบนโซฟาก็เล่นเหนื่อยไปเลย
“ไอ้เด็กเวร...ทำไมถึงได้ขี้เซาอย่างนี้เนี่ย? โอย! แถมตัวก็หนักอย่างกับช้างแมมมอส กว่าจะลากลงมาได้ก็เล่นซะเมื่อยเลยนะ”
“Zzz .Zzz ”
ด่าไปก็เท่านั้น พี่แกเล่นหลับลูกเดียว เฮ้อ! จนปัญญากับนายนี่จริง ๆ ถ้างั้นก็เชิญนอนบนโซฟาให้สบายใจเถอะ ชิ!
เดินไปนวดแขนไปจนจะถึงบันไดอยู่แล้วเชียว ก็ได้ยินเสียงงึมงำของนายเวย์นนั่น
“หิวว่ะ ไปเอาอะไรมาให้กินหน่อยเซะ”
หันไปมองเห็นนายนั่นนั่งบนโซฟา เอามือขยี้ตา ปากก็หาวเสียงดังลั่นบ้าน
“ตื่นแล้วหรือไง? ทีหิวก็ตื่นง่ายเชียวนะ”
“ป้านี่ขี้บ่นชะมัด หิวแล้ว ไปต้มมาม่ามาให้กินหน่อยซิ”
สั่งอีก...ไอ้เด็กมหาประลัย นึกว่าจะเอามาประเคนให้เหรอ? ไม่มีทางหรอก....เชอะ!
“หิวเองก็ทำเองสิ ฉันไม่ใช่คนรับใช้นะ”
“แต่ป้าเป็นเจ้าของบ้านนะ จะไม่บริการให้แขกคนสำคัญบ้างเลยหรือไง?”
“แขกคนสำคัญ....เชอะ! จะให้คนอื่นทำอะไรให้ แต่มาพูดจาแย่ ๆ อย่างนี้เหรอ? ต่อให้ฉันเป็นคนรับใช้ ฉันก็ไม่มีทางทำให้นายหรอกนะจะบอกให้”
ฉันแบะปากให้ตานั่น กำลังจะหนีขึ้นห้อง ก็ได้ยินเสียง...เสียงที่ไม่แน่ใจว่าใช่เสียงของนายเวย์นรึเปล่า เพราะมันออดอ้อนชวนขนหัวลุกซะเหลือเกิน
“โถ....คุณพี่ตูนสุดสวยเสน่ห์มัดใจชายให้วาบหวิวคร้าบบบบ... กรุณาเถอะนะครับ พลีสสสส...ต้มมาม่าให้ผมกินหน่อยนะครับ ผมหิวจนไส้จะขาดเอาไปทำเป็นไส้กรอกอีสานได้แล้วนะครับเนี่ย นะครับ...นะ..คุณพี่ตูนสุดเซ็กส์เสื่อม อุ๊บ! สุดเซ็กซี่”
ถึงจะกวนบาทาในช่วงท้าย แต่ก็เอาเถอะ...จะหยวนให้สักครั้งละกัน
ฉันเดินกระแทกเท้าเข้าไปห้องครัว แกะมาม่าใส่ชามทำตามขั้นตอนการต้มมาม่า หันมาอีกทีก็เห็นนายเวย์นนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร
“เร็ว ๆ หน่อยสิครับคุณพี่การ์ตูน พลีสสสส”
“รู้แล้วน่า เร่งอยู่ได้”
เอาฝาพลาสติกทนความร้อนมาครอบชามแล้วยกไปวางตรงหน้านายเวย์น เขารีบเปิดฝาแล้วสวาปามบะหมี่โดยเร็ว ดูท่าพี่แกจะหิวไส้ขาดกระเพาะเบี้ยวจริง ๆ แฮะ
“เอ้า! ค่อย ๆ กิน เดี๋ยวปากก็พองหรอก”
ในที่สุดบะหมี่ก็หมดชาม ตานั่นนั่งพิงพนักเอามือเกาท้องตัวเอง
“ค่อยยังชั่วหน่อย”
“กินเสร็จเอาชามไปล้างด้วยล่ะ”
“ล้างให้หน่อยเซ่ พี่ตูน”
“กินเองล้างเด่ะ”
กำลังจะเดินไปก็นึกขึ้นได้ เรื่องหมั้น...ยังมีอะไรที่ฉันไม่เข้าใจอีกแยะ จะถามคุณยายก็ไม่กล้า ถามนายเวย์นตานั่นก็น่าจะตอบได้...อืม ลองถามดูดีกว่า
“นี่ นายเวย์น”
ฉันกลับไปนั่งที่เดิม ตานั่นมองงง ๆ พร้อมกับถาม
“เปลี่ยนใจจะล้างให้เหรอ? เอาไปดิ”
“ใครบอก? ล้างเองเด่ะ ฉันมีเรื่องจะถามนายต่างหาก”
“จะถามอะไรก็เอาชามไปล้างก่อน ไม่งั้นไม่ให้ถาม”
กวนโอ๊ยแล้วไงล่ะ...ไอ้บ้าเวย์นเอ๊ย! ฉันทั้งต้มทั้งเสิร์ฟ แล้วยังต้องมาล้างให้อีกเหรอเนี่ย? ฮึ่ม! ฝากไว้ก่อนเถอะ...
พอล้างเสร็จฉันก็กลับมานั่งที่เดิม ตานั่นยักคิ้วสองทีแล้วถามว่า
“มีอะไรล่ะ? คุณป้า”
กลับมาแล้วไอ้ฉายาบ้าบอที่นายนั่นเรียกฉัน...นี่ถ้าไม่เห็นแก่ความอยากรู้ของตัวเอง สาบานเลยว่าฉันต้องเขกกบาลนายแน่นอน ให้ตายเถอะ!
“นายรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องหมั้น บอกมาให้หมดซิ”
นายตัวแสบเอานิ้วเขี่ยฟันก่อนจะเอาแขนเท้ากับโต๊ะ แล้วเริ่มเล่า
“อืม...ก็ไม่มีอะไรนะ คุณยายกับคุณปู่เป็นเพื่อนกัน ก็เลยอยากให้เราสองคนหมั้นกัน ก็แค่นั้น”
“แค่นั้น?”
“อ้อ! ไม่ใช่แค่นั้นหรอก...ฉันรู้มาว่า จริง ๆ แล้วปู่กับคุณยายเธอไม่ได้ตั้งใจให้เราสองคนหมั้นกันหรอก”
“???”
“ก็...จริง ๆ พวกท่านตั้งใจให้จับแม่เธอกับพ่อฉันแต่งงานกันต่างหาก”
“แล้วทำไมถึงไม่ได้แต่งงานกันล่ะ?”
“ก็เพราะพ่อหนีไปแต่งงานกับแม่ฉัน ส่วนแม่เธอก็มีแฟนอยู่แล้วก็คือพ่อเธอ บาปก็เลยมาตกอยู่ที่เราสองคนที่เป็นเจนเนอเรชั่นถัดมา”
“แล้วทำไมเค้าต้องมาเที่ยวจับคู่ลูกหลานตัวเองอย่างนี้ด้วยล่ะ? เป็นแค่เพื่อนกัน...ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้หรือไงเนี่ย?”
“นี่ป้า...ป้าไม่รู้อะไรเลยหรือไง? ทำไมป้าเอ๊าท์อย่างนี้เนี่ย?”
ด่าอีก...เดี๋ยวหลังมือเลยตาบ๊อง!
“ก็คุณยายไม่เคยเล่าให้ฉันฟังนี่ แล้วฉันจะไปตรัสรู้ได้ไงล่ะ?”
“เฮ้อ! ช่างเถอะ ไม่รู้ก็จะบอกให้รู้ไว้...สมัยหนุ่ม ๆ สาว ๆ คุณปู่กับคุณยายเคยเป็นแฟนกันก่อน”
เป็นแฟนกัน?...โอ้ว! นี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย? ตายแล้ว...ฉันนี่เอ๊าท์จริง ๆ ด้วย
“แต่ว่าคุณปู่มีคู่หมั้นที่คุณทวดจับคู่ไว้ให้ ก็เลยต้องแต่งงานกับคุณย่าของฉัน ส่วนคุณยายก็เสียใจเลยไปแต่งงานกับคุณตาของเธอ พอคุณย่าของฉันกับคุณตาของเธอเสีย คุณปู่ก็รู้สึกผิดที่หนีไปแต่งงานกับคุณย่า แต่จะให้กลับมาแต่งงานก็ยังไง ๆ อยู่ พวกท่านก็เลยสัญญาว่าจะให้ลูกแต่งงานกัน ไป ๆ มาไม่สำเร็จก็เลยต้องให้หลานมาแต่งกันซะเอง พวกท่านคิดยังไงก็ไม่รู้ รอให้ฉันอายุยี่สิบห้าส่วนป้าอายุยี่สิบเจ็ดค่อยแต่งงานกัน นึกสภาพไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเป็นยังไง”
นายนั่นทำหน้าขยาดแขยงซะเหลือเกิน เห็นแล้วหมั่นไส้...ฉันก็นึกสภาพไม่ออกเหมือนกันว่าฉันแต่งงานกับลิงกลับชาติมาเกิดอย่างนายจะเป็นยังไง? ชิ!
“เออนี่...งงอ่ะ ทำไมอยู่ดี ๆ ป้ามาถามเรื่องนี้ล่ะ? เอ๋! อย่าบอกนะว่าคิดอยากหมั้นกับฉันขึ้นมาน่ะ”
“บ้าเหรอ? ฉันไม่คิดพิศวาสคนอย่างนายหรอก”
“อ้าว! แล้วป้านึกครึ้มอะไรล่ะ?”
ฉันก้มหน้าก่อนจะถอนหายใจ
“เฮ้ออออ!”
“???”
“คุณยายขอร้องให้ฉันหมั้นกับนายน่ะสิ”
“แล้วป้าจะหมั้นเหรอ?”
“ฉันก็ไม่อยากหมั้นหรอก แต่ว่า...ฉันไม่อยากทำให้คุณยายไม่สบายใจ นายก็รู้นี่ว่าตอนนี้คุณยายไม่สบายอยู่น่ะ”
ฉันเงยหน้าขึ้นมา เห็นนายเวย์นทำหน้าเครียด โอ้โห! ทำหน้าอย่างนี้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเยอะเลยแฮะ ปกติเป็นลิงผสมค่างผสมอุรังอุตังมาซะนาน
“แล้วป้าจะเอาไงล่ะ?”
“แล้วนายว่าฉันควรทำไงดีล่ะ?”
เงียบ~~ เงียบกันไปนาน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรทำไง ส่วนตานั่นก็ยังมึนอยู่...ก็เราต่างไม่อยากหมั้นกันนี่นา
“นี่ ป้าตูน”
“อะไร?”
“งั้นเราก็มาหมั้นกันเถอะ”
เอางั้นเลยเหรอ?...เอาจริงเหรอเนี่ย?
“แต่ก็แค่หมั้นในนาม ฉันเองก็ไม่อยากแต่งกับป้า ป้าก็คงไม่อยากเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ? เราก็แค่หมั้นกันไปเพื่อให้คุณยายสบายใจ แต่ระหว่างที่เราหมั้นกัน เราก็มาร่วมมือกันหาวิธีทำให้คุณปู่กับคุณยายเปลี่ยนใจ ยอมให้เราสองคนถอนหมั้นกัน ดีมั้ย?”
อื้ม...เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองมาก ไม่นึกว่าตานั่นจะฉลาดเหมือนกันแฮะ นึกว่าวัน ๆ จะเป็นแต่กวนประสาทคนอื่นเค้า
“ก็ดี...แต่ว่าฉันไม่อยากร่วมมือกับนายนี่”
แกล้งพูดกวนประสาทตานั่นบ้าง ฮิ ๆ เอาให้หัวปั่นไปเลย จะได้รู้รสชาติการโดนกวนโอ๊ยซะบ้าง
“แล้วถ้าไม่ร่วมมือกันจะเอาไง? หรือว่าป้าอยากแต่งงานกับคนอายุคราวหลานอย่างฉัน?”
กวนไปแล้วแกล้งกวนกลับเหรอ? เรียกตัวเองเป็นหลาน...โอ๊ย! มันน่านัก...
“เอางี้...ถ้าไม่ร่วมมือ ก็มาพนันกันเลยมะ?”
พนันงั้นเหรอ? O_O
“งงอะไร? พูดภาษาไทยฟังไม่กระดิกอีกเหรอ? Do you know gamble?
“รู้จัก...แต่ว่า นายจะพนันยังไง? ทำไมต้องพนันด้วยล่ะ?”
“ก็ถ้าไม่ร่วมมือกัน ก็มาแข่งกันว่าใครจะทำให้คุณยายคุณปู่ถอนหมั้นให้เราก่อนกัน แล้วก็มีอะไรเป็นเดิมพัน จะได้สนุกตื่นเต้นเร้าใจไง”
ไม่เลว...ดี....มาพนันกันเลย ฮ่า ๆ เกิดมาไม่เคยพนัน..แต่ต้องมาพนันเพราะเรื่องหมั้น แต่ละเรื่องดี ๆ ทั้งนั้นเลยชีวิตฉัน
“ก็ได้”
ฉันยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ตานั่น เขาก็ยิงฟันใส่ฉันเหมือนกัน
“ถ้าสมมุติว่าฉันชนะ ฉันจะ...”
“ไม่เอา ให้ฉันเป็นคนคิดเอง”
“โห่! เรื่องมากชะมัด ก็ได้...อยากได้อะไรก็ว่ามา”
อืม...อะไรดีหว่า? เอาให้นายนั่นหงายหลังเลย อ้า! นึกออกแย้ว หุหุ
“นายต้องเป็นเบ๊ให้ฉันหนึ่งเดือน ฉันสั่งอะไรนายต้องทำ”
“อะโห! ป้าครับ...อย่างนี้มันแก้แค้นกันนี่นา”
“อย่าเพิ่งบ่น ฉันยังพูดไม่จบ อืม...นายห้ามด่า ห้ามนินทา ห้ามเถียง ห้ามทำร้ายฉันเด็ดขาด แล้วก็ห้ามเรียกฉันว่าป้า คุณป้า หรือฉายาบ้าบออะไรของนายเด็ดขาด อ้อ! แล้วก็ห้ามขี้ฟ้องเด็ดขาด จบข่าว”
นายนั่นทำหน้าเซ็ง เห็นแล้วอยากกระโดดตบสามสิบที ฮามาก ๆ...ฮ่า ๆๆๆๆๆ ถือเป็นการดัดนิสัยไปในตัว หึ ๆ
“จบแล้วใช่มั้ย? ทีนี้ก็ตาฉัน....อืม...ถ้าฉันชนะ ป้าก็ต้องเป็นเบ๊ให้ฉัน...หนึ่งปี ฮ่า ๆๆๆๆ”
“หนึ่งปี....นี่นาย...”
“ทีใครทีมันครับคุณป้า พูดแล้วไม่คืนคำซะด้วย ฮ่า ๆๆๆๆ เข้าใจ๊? มา...มาทำสัญญากันเลย จะได้ไม่ผิดคำพูดกัน”
นายนั่นเป็นคนจัดแจงหยิบกระกับปากกามา ร่างสัญญากันแบบคร่าว ๆ และตอนที่นายนั่นกำลังเซ็นสัญญา ก็ทำให้ฉันต้องหลุดก๊ากทันที
“หัวเราะอะไรป้า?”
“ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ นาย...ชื่อจริงนายชื่อวิเชียรเหรอ? ทำไมชื่อเชยอย่างนี้ล่ะ? หน้าก็ออกจะทันสมัย แต่ชื่อเช้ยเชย...”
ฮ่า ๆๆๆๆๆ นายนั่นหน้าแดงเลย ไม่รู้เพราะเขินหรือเพราะโมโหกันแน่
“อ่ะ รีบ ๆ เซ็น เดี๋ยวจะได้ไปนอน ง่วงจะตายชัก”
ฉันหัวเราะไปหยิบปากกามาเซ็นชื่อในช่องว่าง โอ้ว! คนไรไม่รู้ ลายเซ็นสวย ชื่อก็เพราะซะเหลือเกิน ไม่เหมือนคนบางคน โฮะ ๆ ลายมือไก่แถมชื่อยังโบสุด ๆ ฮ่า ๆๆๆ
ต่อไปนี้จะได้รู้กัน ว่าระหว่างฉันกับนายเวย์นตัวแสบ ใครจะชนะพนันครั้งนี้? แต่ฉันไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน...คอยดู ฉันจะต้องทำให้นายมาเป็นเบ๊ฉันให้ได้!!!....
มันล่ะสิ นั่นสินะ
คงเป็นเพราะเมื่อคืนไม่ได้หลับเลย ตอนกลางวันก็งีบไปแป๊บเดียวเพราะนายทิมมาปลุก ฉันเลยเผลอหลับในแท็กซี่ โชคยังดี (หรือไม่ดี?)ที่พานายเวย์นมาเป็นบอดี้การ์ดมาดหลับด้วย เลยค่อยอุ่นใจว่าอย่างน้อยจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรม แต่โชคดียิ่งกว่า...ก็คือคุณพี่โชเฟอร์กะดึกแกเป็นพลเมืองดี ไม่พาสองชีวิตที่ง่วงเหงาหาวนอนไปปู้ยี่ปู้ยำ แถมยังใจดีปลุกตอนถึงบ้านด้วย
“คุณครับ ถึงแล้วครับ”
ฉันสะดุ้งตื่นก่อนจะมองซ้ายมองขวา หันกลับมามองคุณพี่โชเฟอร์ยิ้มแป้น เลยยิ้มตอบให้เขา
“เท่าไหร่คะ?”
“เจ็ดสิบถ้วนครับ”
ฉันหยิบเงินให้พี่โชเฟอร์ หันไปสะกิดเรียกนายตัวดี แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เขย่าตัวก็ไม่ตื่นอีก สุดท้ายเลยต้องลากตัวนายนั่นออกมาอย่างทุลักทุเล พาเขาไปนอนบนโซฟาก็เล่นเหนื่อยไปเลย
“ไอ้เด็กเวร...ทำไมถึงได้ขี้เซาอย่างนี้เนี่ย? โอย! แถมตัวก็หนักอย่างกับช้างแมมมอส กว่าจะลากลงมาได้ก็เล่นซะเมื่อยเลยนะ”
“Zzz .Zzz ”
ด่าไปก็เท่านั้น พี่แกเล่นหลับลูกเดียว เฮ้อ! จนปัญญากับนายนี่จริง ๆ ถ้างั้นก็เชิญนอนบนโซฟาให้สบายใจเถอะ ชิ!
เดินไปนวดแขนไปจนจะถึงบันไดอยู่แล้วเชียว ก็ได้ยินเสียงงึมงำของนายเวย์นนั่น
“หิวว่ะ ไปเอาอะไรมาให้กินหน่อยเซะ”
หันไปมองเห็นนายนั่นนั่งบนโซฟา เอามือขยี้ตา ปากก็หาวเสียงดังลั่นบ้าน
“ตื่นแล้วหรือไง? ทีหิวก็ตื่นง่ายเชียวนะ”
“ป้านี่ขี้บ่นชะมัด หิวแล้ว ไปต้มมาม่ามาให้กินหน่อยซิ”
สั่งอีก...ไอ้เด็กมหาประลัย นึกว่าจะเอามาประเคนให้เหรอ? ไม่มีทางหรอก....เชอะ!
“หิวเองก็ทำเองสิ ฉันไม่ใช่คนรับใช้นะ”
“แต่ป้าเป็นเจ้าของบ้านนะ จะไม่บริการให้แขกคนสำคัญบ้างเลยหรือไง?”
“แขกคนสำคัญ....เชอะ! จะให้คนอื่นทำอะไรให้ แต่มาพูดจาแย่ ๆ อย่างนี้เหรอ? ต่อให้ฉันเป็นคนรับใช้ ฉันก็ไม่มีทางทำให้นายหรอกนะจะบอกให้”
ฉันแบะปากให้ตานั่น กำลังจะหนีขึ้นห้อง ก็ได้ยินเสียง...เสียงที่ไม่แน่ใจว่าใช่เสียงของนายเวย์นรึเปล่า เพราะมันออดอ้อนชวนขนหัวลุกซะเหลือเกิน
“โถ....คุณพี่ตูนสุดสวยเสน่ห์มัดใจชายให้วาบหวิวคร้าบบบบ... กรุณาเถอะนะครับ พลีสสสส...ต้มมาม่าให้ผมกินหน่อยนะครับ ผมหิวจนไส้จะขาดเอาไปทำเป็นไส้กรอกอีสานได้แล้วนะครับเนี่ย นะครับ...นะ..คุณพี่ตูนสุดเซ็กส์เสื่อม อุ๊บ! สุดเซ็กซี่”
ถึงจะกวนบาทาในช่วงท้าย แต่ก็เอาเถอะ...จะหยวนให้สักครั้งละกัน
ฉันเดินกระแทกเท้าเข้าไปห้องครัว แกะมาม่าใส่ชามทำตามขั้นตอนการต้มมาม่า หันมาอีกทีก็เห็นนายเวย์นนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร
“เร็ว ๆ หน่อยสิครับคุณพี่การ์ตูน พลีสสสส”
“รู้แล้วน่า เร่งอยู่ได้”
เอาฝาพลาสติกทนความร้อนมาครอบชามแล้วยกไปวางตรงหน้านายเวย์น เขารีบเปิดฝาแล้วสวาปามบะหมี่โดยเร็ว ดูท่าพี่แกจะหิวไส้ขาดกระเพาะเบี้ยวจริง ๆ แฮะ
“เอ้า! ค่อย ๆ กิน เดี๋ยวปากก็พองหรอก”
ในที่สุดบะหมี่ก็หมดชาม ตานั่นนั่งพิงพนักเอามือเกาท้องตัวเอง
“ค่อยยังชั่วหน่อย”
“กินเสร็จเอาชามไปล้างด้วยล่ะ”
“ล้างให้หน่อยเซ่ พี่ตูน”
“กินเองล้างเด่ะ”
กำลังจะเดินไปก็นึกขึ้นได้ เรื่องหมั้น...ยังมีอะไรที่ฉันไม่เข้าใจอีกแยะ จะถามคุณยายก็ไม่กล้า ถามนายเวย์นตานั่นก็น่าจะตอบได้...อืม ลองถามดูดีกว่า
“นี่ นายเวย์น”
ฉันกลับไปนั่งที่เดิม ตานั่นมองงง ๆ พร้อมกับถาม
“เปลี่ยนใจจะล้างให้เหรอ? เอาไปดิ”
“ใครบอก? ล้างเองเด่ะ ฉันมีเรื่องจะถามนายต่างหาก”
“จะถามอะไรก็เอาชามไปล้างก่อน ไม่งั้นไม่ให้ถาม”
กวนโอ๊ยแล้วไงล่ะ...ไอ้บ้าเวย์นเอ๊ย! ฉันทั้งต้มทั้งเสิร์ฟ แล้วยังต้องมาล้างให้อีกเหรอเนี่ย? ฮึ่ม! ฝากไว้ก่อนเถอะ...
พอล้างเสร็จฉันก็กลับมานั่งที่เดิม ตานั่นยักคิ้วสองทีแล้วถามว่า
“มีอะไรล่ะ? คุณป้า”
กลับมาแล้วไอ้ฉายาบ้าบอที่นายนั่นเรียกฉัน...นี่ถ้าไม่เห็นแก่ความอยากรู้ของตัวเอง สาบานเลยว่าฉันต้องเขกกบาลนายแน่นอน ให้ตายเถอะ!
“นายรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องหมั้น บอกมาให้หมดซิ”
นายตัวแสบเอานิ้วเขี่ยฟันก่อนจะเอาแขนเท้ากับโต๊ะ แล้วเริ่มเล่า
“อืม...ก็ไม่มีอะไรนะ คุณยายกับคุณปู่เป็นเพื่อนกัน ก็เลยอยากให้เราสองคนหมั้นกัน ก็แค่นั้น”
“แค่นั้น?”
“อ้อ! ไม่ใช่แค่นั้นหรอก...ฉันรู้มาว่า จริง ๆ แล้วปู่กับคุณยายเธอไม่ได้ตั้งใจให้เราสองคนหมั้นกันหรอก”
“???”
“ก็...จริง ๆ พวกท่านตั้งใจให้จับแม่เธอกับพ่อฉันแต่งงานกันต่างหาก”
“แล้วทำไมถึงไม่ได้แต่งงานกันล่ะ?”
“ก็เพราะพ่อหนีไปแต่งงานกับแม่ฉัน ส่วนแม่เธอก็มีแฟนอยู่แล้วก็คือพ่อเธอ บาปก็เลยมาตกอยู่ที่เราสองคนที่เป็นเจนเนอเรชั่นถัดมา”
“แล้วทำไมเค้าต้องมาเที่ยวจับคู่ลูกหลานตัวเองอย่างนี้ด้วยล่ะ? เป็นแค่เพื่อนกัน...ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้หรือไงเนี่ย?”
“นี่ป้า...ป้าไม่รู้อะไรเลยหรือไง? ทำไมป้าเอ๊าท์อย่างนี้เนี่ย?”
ด่าอีก...เดี๋ยวหลังมือเลยตาบ๊อง!
“ก็คุณยายไม่เคยเล่าให้ฉันฟังนี่ แล้วฉันจะไปตรัสรู้ได้ไงล่ะ?”
“เฮ้อ! ช่างเถอะ ไม่รู้ก็จะบอกให้รู้ไว้...สมัยหนุ่ม ๆ สาว ๆ คุณปู่กับคุณยายเคยเป็นแฟนกันก่อน”
เป็นแฟนกัน?...โอ้ว! นี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย? ตายแล้ว...ฉันนี่เอ๊าท์จริง ๆ ด้วย
“แต่ว่าคุณปู่มีคู่หมั้นที่คุณทวดจับคู่ไว้ให้ ก็เลยต้องแต่งงานกับคุณย่าของฉัน ส่วนคุณยายก็เสียใจเลยไปแต่งงานกับคุณตาของเธอ พอคุณย่าของฉันกับคุณตาของเธอเสีย คุณปู่ก็รู้สึกผิดที่หนีไปแต่งงานกับคุณย่า แต่จะให้กลับมาแต่งงานก็ยังไง ๆ อยู่ พวกท่านก็เลยสัญญาว่าจะให้ลูกแต่งงานกัน ไป ๆ มาไม่สำเร็จก็เลยต้องให้หลานมาแต่งกันซะเอง พวกท่านคิดยังไงก็ไม่รู้ รอให้ฉันอายุยี่สิบห้าส่วนป้าอายุยี่สิบเจ็ดค่อยแต่งงานกัน นึกสภาพไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเป็นยังไง”
นายนั่นทำหน้าขยาดแขยงซะเหลือเกิน เห็นแล้วหมั่นไส้...ฉันก็นึกสภาพไม่ออกเหมือนกันว่าฉันแต่งงานกับลิงกลับชาติมาเกิดอย่างนายจะเป็นยังไง? ชิ!
“เออนี่...งงอ่ะ ทำไมอยู่ดี ๆ ป้ามาถามเรื่องนี้ล่ะ? เอ๋! อย่าบอกนะว่าคิดอยากหมั้นกับฉันขึ้นมาน่ะ”
“บ้าเหรอ? ฉันไม่คิดพิศวาสคนอย่างนายหรอก”
“อ้าว! แล้วป้านึกครึ้มอะไรล่ะ?”
ฉันก้มหน้าก่อนจะถอนหายใจ
“เฮ้ออออ!”
“???”
“คุณยายขอร้องให้ฉันหมั้นกับนายน่ะสิ”
“แล้วป้าจะหมั้นเหรอ?”
“ฉันก็ไม่อยากหมั้นหรอก แต่ว่า...ฉันไม่อยากทำให้คุณยายไม่สบายใจ นายก็รู้นี่ว่าตอนนี้คุณยายไม่สบายอยู่น่ะ”
ฉันเงยหน้าขึ้นมา เห็นนายเวย์นทำหน้าเครียด โอ้โห! ทำหน้าอย่างนี้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเยอะเลยแฮะ ปกติเป็นลิงผสมค่างผสมอุรังอุตังมาซะนาน
“แล้วป้าจะเอาไงล่ะ?”
“แล้วนายว่าฉันควรทำไงดีล่ะ?”
เงียบ~~ เงียบกันไปนาน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรทำไง ส่วนตานั่นก็ยังมึนอยู่...ก็เราต่างไม่อยากหมั้นกันนี่นา
“นี่ ป้าตูน”
“อะไร?”
“งั้นเราก็มาหมั้นกันเถอะ”
เอางั้นเลยเหรอ?...เอาจริงเหรอเนี่ย?
“แต่ก็แค่หมั้นในนาม ฉันเองก็ไม่อยากแต่งกับป้า ป้าก็คงไม่อยากเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ? เราก็แค่หมั้นกันไปเพื่อให้คุณยายสบายใจ แต่ระหว่างที่เราหมั้นกัน เราก็มาร่วมมือกันหาวิธีทำให้คุณปู่กับคุณยายเปลี่ยนใจ ยอมให้เราสองคนถอนหมั้นกัน ดีมั้ย?”
อื้ม...เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองมาก ไม่นึกว่าตานั่นจะฉลาดเหมือนกันแฮะ นึกว่าวัน ๆ จะเป็นแต่กวนประสาทคนอื่นเค้า
“ก็ดี...แต่ว่าฉันไม่อยากร่วมมือกับนายนี่”
แกล้งพูดกวนประสาทตานั่นบ้าง ฮิ ๆ เอาให้หัวปั่นไปเลย จะได้รู้รสชาติการโดนกวนโอ๊ยซะบ้าง
“แล้วถ้าไม่ร่วมมือกันจะเอาไง? หรือว่าป้าอยากแต่งงานกับคนอายุคราวหลานอย่างฉัน?”
กวนไปแล้วแกล้งกวนกลับเหรอ? เรียกตัวเองเป็นหลาน...โอ๊ย! มันน่านัก...
“เอางี้...ถ้าไม่ร่วมมือ ก็มาพนันกันเลยมะ?”
พนันงั้นเหรอ? O_O
“งงอะไร? พูดภาษาไทยฟังไม่กระดิกอีกเหรอ? Do you know gamble?
“รู้จัก...แต่ว่า นายจะพนันยังไง? ทำไมต้องพนันด้วยล่ะ?”
“ก็ถ้าไม่ร่วมมือกัน ก็มาแข่งกันว่าใครจะทำให้คุณยายคุณปู่ถอนหมั้นให้เราก่อนกัน แล้วก็มีอะไรเป็นเดิมพัน จะได้สนุกตื่นเต้นเร้าใจไง”
ไม่เลว...ดี....มาพนันกันเลย ฮ่า ๆ เกิดมาไม่เคยพนัน..แต่ต้องมาพนันเพราะเรื่องหมั้น แต่ละเรื่องดี ๆ ทั้งนั้นเลยชีวิตฉัน
“ก็ได้”
ฉันยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ตานั่น เขาก็ยิงฟันใส่ฉันเหมือนกัน
“ถ้าสมมุติว่าฉันชนะ ฉันจะ...”
“ไม่เอา ให้ฉันเป็นคนคิดเอง”
“โห่! เรื่องมากชะมัด ก็ได้...อยากได้อะไรก็ว่ามา”
อืม...อะไรดีหว่า? เอาให้นายนั่นหงายหลังเลย อ้า! นึกออกแย้ว หุหุ
“นายต้องเป็นเบ๊ให้ฉันหนึ่งเดือน ฉันสั่งอะไรนายต้องทำ”
“อะโห! ป้าครับ...อย่างนี้มันแก้แค้นกันนี่นา”
“อย่าเพิ่งบ่น ฉันยังพูดไม่จบ อืม...นายห้ามด่า ห้ามนินทา ห้ามเถียง ห้ามทำร้ายฉันเด็ดขาด แล้วก็ห้ามเรียกฉันว่าป้า คุณป้า หรือฉายาบ้าบออะไรของนายเด็ดขาด อ้อ! แล้วก็ห้ามขี้ฟ้องเด็ดขาด จบข่าว”
นายนั่นทำหน้าเซ็ง เห็นแล้วอยากกระโดดตบสามสิบที ฮามาก ๆ...ฮ่า ๆๆๆๆๆ ถือเป็นการดัดนิสัยไปในตัว หึ ๆ
“จบแล้วใช่มั้ย? ทีนี้ก็ตาฉัน....อืม...ถ้าฉันชนะ ป้าก็ต้องเป็นเบ๊ให้ฉัน...หนึ่งปี ฮ่า ๆๆๆๆ”
“หนึ่งปี....นี่นาย...”
“ทีใครทีมันครับคุณป้า พูดแล้วไม่คืนคำซะด้วย ฮ่า ๆๆๆๆ เข้าใจ๊? มา...มาทำสัญญากันเลย จะได้ไม่ผิดคำพูดกัน”
นายนั่นเป็นคนจัดแจงหยิบกระกับปากกามา ร่างสัญญากันแบบคร่าว ๆ และตอนที่นายนั่นกำลังเซ็นสัญญา ก็ทำให้ฉันต้องหลุดก๊ากทันที
“หัวเราะอะไรป้า?”
“ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ นาย...ชื่อจริงนายชื่อวิเชียรเหรอ? ทำไมชื่อเชยอย่างนี้ล่ะ? หน้าก็ออกจะทันสมัย แต่ชื่อเช้ยเชย...”
ฮ่า ๆๆๆๆๆ นายนั่นหน้าแดงเลย ไม่รู้เพราะเขินหรือเพราะโมโหกันแน่
“อ่ะ รีบ ๆ เซ็น เดี๋ยวจะได้ไปนอน ง่วงจะตายชัก”
ฉันหัวเราะไปหยิบปากกามาเซ็นชื่อในช่องว่าง โอ้ว! คนไรไม่รู้ ลายเซ็นสวย ชื่อก็เพราะซะเหลือเกิน ไม่เหมือนคนบางคน โฮะ ๆ ลายมือไก่แถมชื่อยังโบสุด ๆ ฮ่า ๆๆๆ
ต่อไปนี้จะได้รู้กัน ว่าระหว่างฉันกับนายเวย์นตัวแสบ ใครจะชนะพนันครั้งนี้? แต่ฉันไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน...คอยดู ฉันจะต้องทำให้นายมาเป็นเบ๊ฉันให้ได้!!!....
มันล่ะสิ นั่นสินะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น