ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Money Honey ...จูบกี่ครั้ง ขอให้เป็นเงิน....

    ลำดับตอนที่ #6 : บาทที่ 5 แผนกำจัดจุดอ่อน (เชิญค่ะ ถึ่ง...ทึง)

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 48


                                                                                                - 5 –





    เซ็ง....เครียด...เหงื่อตก (ขนาดนอนห้องแอร์นะเนี่ย)



    จะทำยังไงดีนะ? นั่งคิดนอนคิดตลอดคืน ฉันก็ยังไม่ค้นพบวิธีอันเฉียบขาดที่จะดีดนายนาวินให้กระเด็นไปหมื่นลี้ เผลอ ๆ หลับฝันก็ยังเห็นหน้านายนั่นโผล่มาอีก...โอ๊ย ทำไมนายถึงได้ตามหลอกหลอนฉันยิ่งกว่าซาดาโกะอีกนะ (หนังเรื่องโปรดที่เคยแอบดูจากห้องข้าง ๆ)



    เอก อี้ เอ๊ก เอ๊ก...ไก่ขันแล้วหรือเนี่ย? ฮ่วย....ไม่เอาละ นอนไปก็เท่านั้น ลุกขึ้นดีกว่า ฉันอาบน้ำแต่งตัวรีบออกจากบ้าน พอไปถึงร้าน ก็เก้าโมงพอดี เฮ้อ...หวังว่าคงไม่เจอหน้านายนั่นแค่เช้านะ



    “ว่าไงจ๊ะ? เพียว”



    ยายจีจี้เข้ามาเล่นจ๊ะเอ๋กับฉันแต่เช้า ยังดีนะที่ไม่ใช่หมอนั่น คงสยองกึ๋ยนะดู...



    “ทำไมหน้าเธอดูไม่สดใสเลย? นอนไม่หลับหรือไง?”



    ไม่ตอบโว้ย คนไม่มีอารมณ์ อย่าถามเซ้าซี้ได้ไหม?



    “นี่เพียว เคยเห็นเด็กเสิร์ฟคนใหม่หรือยัง? หล่อมาก ๆ เลย เขาชื่อว่านาวิน”



    นั่นไง...ตัวไม่มา แต่ชื่อมาก่อน สงสัยวันนี้จะซวยทั้งวัน เครียด...เครียด



    “หรอ?”



    ฉันตอบรับเสียงอ่อย ยายนั่นมิวายยังคุยเรื่องนายเบื๊อกนั่นอีก



    “ใช่แล้ว ชื่อเขาเหมือนตัวละครในทีวีเลย หล่อมาก ๆ หน้าเหมือนดาราญี่ปุ่น เห็นแล้วโดนเลย น่าเสียดาย ออกจะหล่อราศีจับขนาดนี้ ไม่น่ามาเป็นเด็กเสิร์ฟเลยนะ”



    นายนั่นนะหรอ? หน้าเหมือนดาราญี่ปุ่น ฉันว่าเหมือนดาราญี่ป่น(ปี้) มากกว่าน่ะสิ...



    “ความจริงแล้ว เขาไม่ใช่ธรรมดาหรอกนะ”



    “หมายความว่าไง? เพียว”



    ยายนั่นร้องเสียงดังจนแก้วหูแทบระเบิด ว้าก....อยู่ใกล้แค่นี้จะตะโกนทำไมเนี่ย? หูไม่ได้ตึงนะยะ



    เอ๊ะ... จริงสิ เราพูดเรื่องของนายนั่นไม่ได้ เดี๋ยวเขาแฉเราหมด โธ่เอ้ย! ยายเพียว ยายปากจอมจุ้น รูดซิปปากเดี๋ยวนี้นะ



    “ว่าไง? เพียว หรือว่าความจริงแล้ว เขาเป็นองค์ชายที่มาจากดินแดนอันไกลโพ้น มาถามหารักแท้ในเมืองไทยใช่ไหม? โอ้! เหมือนฝันจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าจะเกิดขึ้นกับเรา”



    นั่น...นิยายไปโน่น ยายจีจี้นี่นิสัยไม่เปลี่ยนจริง ๆ แต่ก็เหมาะนะ สองคนนี้น่าจะเป็นตัวละครในนิยายเรื่อง “ยายบ้ากับซาตาน” โฮะ โฮะ



    “ก็ทำนองนั้นมั้ง”



    อยู่กับยายนี่นานเข้าอาจเพี้ยนได้ ไปดีกว่า...ปล่อยให้ยายจีจี้ละเมอเพ้อฝันไปคนเดียว พอฉันเดินเข้าไปเก็บกระเป๋าในล็อคเกอร์ ก็เห็นลุงเต่า เชฟของร้านกำลังใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่



    “มาแล้วหรอ? เพียว”



    ฉันพยักหน้าตามธรรมเนียนม(ก็โดนคำถามตามธรรมเนียมเหมือนกันนี่นา)



    “เคยเห็นเด็กเสิร์ฟคนใหม่หรือยัง? ที่ชื่อว่านาวินน่ะ”



    อุแหวะ...ชื่อนายนั่นน่าขยาดแขยงชะมัด ตามหลอกหลอนได้ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงได้ให้ความสำคัญหมอนั่นนัก (หรือเพราะความหล่อ?)



    “เคยเห็นแล้วค่ะ”



    “เขาหน้าตาหล่อดีนะ ว่าไหม?”



    อะจึ๋ย!... ลุงเต่าพูดแปลก ๆ นะ อย่าบอกนะว่า....อุ๊ยตาย! สาวแตก



    “อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ เพียว ลุงแค่รู้สึกว่าเขาหล่อ แต่ลุงไม่ได้นิยมพวกเดียวกันหรอก”



    ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ก็นะ...นายนั่นคงจะหล่อเข้าขั้นแฮะ ขนาดผู้ชายด้วยกันอย่างลุงเต่า(หรือว่าไม่ใช่? ชักไม่แน่ใจละ)ยังออกปากชมเลย

    เอ๊ะ! แล้วเราจะไปสนใจหมอนั่นอีกคนทำไม? นายนั่นคือศัตรูของเรานะ ยายเพียว อย่าเพิ่งแปรพรรคสิ....



    ฉันออกมาจากหลังร้าน มาช่วยจีจี้กับพนักงานคนอื่นจัดโต๊ะ ป่านนี้นายนาวินยังไม่มาทำงาน สงสัยจะยกธงขาวซะแล้วมั้ง ฮ่า ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ...



    “สวัสดีครับทุก ๆ คน”



    เสียงแห่งยมฑูตตามมาหลอกหลอนอีกรอบ...นายนั่นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกหูกระต่ายสีดำ ทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำเดินยิ้มเข้ามา กรรมแล้วไง...เจ๊เบี๊ยว เรายังคิดแผนการไม่ออกเลยว่าจะทำยังไงกับเขา หรือว่าเราควรจะเป็นฝ่ายเนรเทศตัวเองดี แล้วจะไปในฐานะอะไร?...อย่างนี้ก็เหมือนกับเรายอมแพ้หมอนั่นสิ...แง....ไม่อยากเลย



    นายนั่นเข้าไปช่วยขนจานที่ล้างเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนออกมาเตรียมไว้ ก้าวช้า ๆ... (นึกถึงภาพสโลว์โมชั่นในหนัง จงนึก จงนึก....) ทำหน้าเหมือนถูกล็อตเตอรี่...เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัด



    วืด....เพล้ง....



    จานทั้งหมดหล่นแตก ส่วนนายนั่นหน้าคะมำกับพื้น พอฉันก้มมองขาตัวเอง โอ้! เป็นไปตามกลไกต่อมขี้อิจฉาของเรา สมองยังไม่ทันสั่ง....แต่ขาไปก่อน



    “นี่เธอ เธอแกล้งฉันหรอ?”



    นายนาวินลุกขึ้นมาต่อว่าฉัน เชอะ...ใครจะยอมรับล่ะ?



    “ฉันเปล่าซะหน่อย นายเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเองนี่”



    “นาวิน นี่เธอทำจานแตกหรอ?”



    พี่รตีเดินเข้ามาในร้าน  หึหึ...แจ็คพ็อตแล้วนายซุ่มซ่าม โดนแน่ ๆ



    “เปล่าครับ ผม....”



    “ไม่ต้องพูดแล้ว เธอรู้ไหมว่าจานแต่ละใบราคาเท่าไร? จานพวกนี้สั่งมาจากฝรั่งเศสนะ แค่การรักษามัน เธอยังทำไม่ได้ แล้วเวลาที่ต้องบริการลูกค้า มันไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้หรอ?”



    พี่รตีกลับเข้าไปในห้องทำงานก่อนจะออกมาพร้อมกับสมุดบันทึกเล่มเล็ก



    “ฉันประทับตราความผิดพลาดครั้งที่หนึ่งของเธอเรียบร้อยแล้ว เธอมีหน้าที่เก็บรักษาสมุดบันทึกเล่มนี้ อย่าทำงานพลาดอีกล่ะ”



    นายนั่นทำหน้าจ๋อยรับสมุดมา จู่ ๆ ยายจีจี้ก็เดินมา



    “ฉันช่วยกวาดเศษจานพวกนี้ให้นะ”



    นาวินพยักหน้าก่อนจะช่วยยายจีจี้เก็บจาน ถือโอกาสทำตัวเป็นนางเอกเชียวนะยายจีจี้ ฮึ...แต้มที่หนึ่ง หลุดลอยไปแล้ว โฮะ โฮะ เวลานางเอกผู้น่าสงสารอย่างเราร้ายขึ้นมานี่ก็...โฮะ ๆ น่ารักจริง ๆ (ยังชมไม่เลิก ก็คนมันน่ารักจริง ๆ นี่นา)



    พอเก็บเศษจานเสร็จ นายนาวินก็หันมาทำตาดุใส่ฉัน แค้นฉันมากล่ะสิท่า...ก็นายไม่ให้ฉันบอกพ่อนายเองนี่ ฉันก็ต้องใช้วิชามาร กำจัดนายไปจากที่นี่ให้ได้



    ใกล้เที่ยงแล้ว ลูกค้ามากันพึ่บพับ...ฉันรวมถึงเด็กเสิร์ฟคนอื่น ๆ ก็วิ่งวุ่น....โดยเฉพาะนายนาวิน โธ่เอ๊ย! ทำเป็นฟิต คอยดู...ฉันนี่แหละจะสกัดดาวรุ่งอย่างนาย...



    ฉันเดินไปสลับกระดาษจดหมายเลขโต๊ะที่สั่งสปาเกตตี้ราดซอสหิมะกับสเต็กเนื้อรมควัน เห็นนายนาวินเดินมา ฉันก็รีบหลบหลังเสา นายนั่นหยิบจานสปาเกตตี้กับกระดาษไปเสิร์ฟที่โต๊ะเจ็ด... ตาแก่หัวล้านที่กำลังดื่มซุปก็โหวกเหวกเสียงดัง



    “ฉันไม่ได้สั่งสปาเกตตี้ แกเอามาให้ฉันทำไม?”



    นายนั่นหน้าซีดอย่างกับผี ก้มหัวงุด ๆ เหมือนเต่า



    “ขอโทษครับ เป็นความผิดของผมเองครับ”



    “ขอโทษแค่นี้เองหรอ? ทำงานสับเพล่าอย่างนี้ไม่พอหรอก ฉันรู้นะว่าแกคิดจะมามั่วนิ่มกับฉันนะ”



    ฮ่า ๆ...เจอลูกค้ายากูซ่าซะด้วย เสร็จแน่ นายเบื๊อกนาวิน โฮะ ๆ



    “เปล่าครับ ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ”



    “ไม่ได้ตั้งใจ...แต่จริงจังเลยใช่ไหม? หา?”



    “มีเรื่องอะไรหรือคะ?”



    พี่รตีเดินเข้ามาไกล่เกลี่ย พอเฮียล้านเห็นหน้าพี่รตีปุ๊บก็ทำตาปิ๊ง....สงสัยจะหลงเสน่ห์เจ๊รตีเข้าเต็มเปา เฮ้! อย่าใจอ่อนเด่ะ  โวยวายเข้าไว้ เอาให้นาวินจ๋อยกว่านี้เป็นสิบเท่าเลย



    “ก็คุณคนนี้น่ะสิครับ เสิร์ฟอาหารให้ผมผิด ทำอย่างนี้มันไม่ถูกต้องเลยนะครับ”



    พี่รตีหันไปมองหน้านาวินก่อนจะพูดกับตาหัวล้าน



    “ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ ที่คนของร้านเราทำให้คุณไม่พอใจในบริการ ถ้าอย่างไรดิฉันจะจัดอาหารที่ถูกต้องมาเสิร์ฟให้คุณนะคะ”



    “ครับผม”



    นายหัวล้านทำตาเยิ้มชวนอ๊วกแตก...โธ่เอ๊ย! หมดสนุกเลย พี่รตีไม่น่าเข้ามาขัดจังหวะเลย



    ฉันหยิบจานสเต็กไปเสิร์ฟที่โต๊ะตาหัวเหน่งนั่น มองตาทึ่มนาวินกำลังยื่นสมุดบันทึกให้พี่รตี โฮะ ๆ แค่วันเดียว โดนไปสอง...นายนาวินเอ๋ย นายไม่มีทางอยู่ถึงเจ็ดวันแน่...



    **********************************************************





    ร้านปิดสามทุ่ม ทุกคนต้องอยู่ทำความสะอาดร้านจนถึงสี่ทุ่ม (ลูกผู้หญิงกระทิงเดือด ทนได้) แต่จริง ๆ วันนี้ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรนักหรอก...แถมยังจะร่าเริงผิดปกติอีกด้วย ก็จะไม่ให้เฮฮาได้ไง วันนี้ฉันเห็นนายนาวินหน้าจ๋อยทั้งวัน หุหุ...จริงสิ ดึกแล้วนี่นา รีบเผ่นกลับบ้านก่อนดีกว่า ฉันรีบเก็บข้าวของเดินออกทางหลังร้าน ได้ยินเสียงแจ๋น ๆ ของยายจีจี้ดังมาแต่ไกล เอ๊ะ! แล้วยายนั่นคุยกับใครอยู่ล่ะ? แอบฟังดีกว่า



    “คนเราผิดพลาดกันได้ สำคัญจะต้องอย่าท้อแท้นะนาวิน นายต้องสู้เข้าไว้นะ”



    แหวะ...ต่อหน้าคนหล่อทำมาเป็นให้คติสอนใจ...เชื่ออาเจ๊เขาจริง ๆ นายนั่นก็คงทำตัวน่าสงสาร เรียกร้องความเห็นใจล่ะสินะ

        

    “ผมเองก็พยายามอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า?”

        

    “ต้องทำได้สิ นาวิน...เออ แล้วนี่นาวินยังไม่กลับอีกหรอ?”

        

    “ผมยังไม่อยากกลับ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว คุณรีบกลับบ้านเถอะครับ”

        

    เสียงยายจีจี้เงียบไปอึดใจ(ทำให้โลกสงบขึ้นเยอะ) แล้วก็ค่อยแว้ดต่อ(อุดหูต่อเร็ว เฮ้ย! แล้วอุดหูจะได้ยินได้ไงล่ะ เอาออกสิ)

        

    “ถ้าอย่างนั้น จีจี้กลับก่อนนะ”

        

    ว้า....หมดสนุกเลย ยายจีจี้ดันกลับไปซะก่อน ใคร ๆ ก็กลับกันหมดแล้วนี่นา แล้วเราจะยืนเด๋ออยู่ตรงนี้หาอะไรล่ะ? อ้อมไปออกอีกประตูดีกว่า

        

    “ฉันรู้นะว่าเธออยู่ตรงนั้น ออกมาเถอะ”

        

    อีตาบ้า...นี่นายรู้ตั้งแต่เมื่อไรว่าฉันอยู่ตรงนี้เนี่ย ทำไงดีล่ะ? ออก ๆ ไปเถอะน่ะ เราไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย ฉันทำสวย....เลิศ...เชิด....หยิ่ง ออกไปยืนจังก้ากอดอก

        

    “ฉันไม่ได้แอบฟังนายนะ เสียงนายดังเข้าหูฉันเอง”

        

    “ฉันยังไม่ทันว่าอะไรเธอเลย จะรีบร้อนตัวไปถึงไหน?”



    เออ....จริงแฮะ แง ๆ เราจะรีบแก้ตัวทำไมเนี่ย? ฮึก ๆ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยเรา

        

    “ที่ฉันถูกหักแต้มสองครั้งเมื่อตอนกลางวัน เพราะเธอแกล้งฉันใช่ไหม?”

        

    “นายซุ่มซ่ามเอง เรื่องอะไรมาโทษฉันล่ะ?”

        

    “เธอทำย่อมรู้แก่ใจ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องแกล้งฉันด้วย?”

        

    เขาลุกขึ้นตะคอกใส่หน้าฉัน กรี๊ด.... ที่กรี๊ดไม่ได้เพราะกลัวนายหรอกนะ แต่ขยาดแขยงมากกว่า ก็ดูสิ...นายนั่นพ่นน้ำจิ้มใส่หน้าฉันเต็ม ๆ หน้าฉันงี้ชุ่มเชียว...ฉันยกมือเช็ดหน้าลวก ๆ ก่อนจะตวาดกลับไป

        

    “น้ำลายนายเต็มหน้าฉันแล้วนะ”

        

    “สมน้ำหน้า เธออยากมาแกล้งฉันก่อนทำไมล่ะ?”

        

    “ก็เพราะว่านายมันเห่ยน่ะสิ ฉันเกลียดขี้หน้านายจะแย่อยู่แล้ว ไม่อยากเห็นนายอยู่ที่นี่ นายไม่ให้ฉันบอกพ่อนาย ฉันก็ต้องเลือกวิธีนี้น่ะสิ”

        

    “นี่เธอ.....”

        

    ฉันเชิดหน้าใส่เขา เอาสิ...ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เงินต่อมือเปล่า(ถ้ามีก็เอามา) ฉันไม่ยอมแพ้นายหรอก....ชิ

        

    “อย่างนายน่ะ ไม่มีทางอยู่ครบเจ็ดวันหรอก รับรองว่านายจะต้องกระเด็นไปจากที่นี่แน่ ๆ คอยดู ฮ่า ๆ ๆๆ”

        

    ฉันตะเบ็งเสียงหัวเราะใส่เขา แกล้งพ่นน้ำมนต์(ปลุกเสกแล้ว)ใส่หน้าเขาบ้าง เอาสิ...ใครจะพรมน้ำมนต์ได้มากกว่ากัน เขาเช็ดหน้าเหมือนขยาดแขยงฉันซะเต็มประดา ฉันก็เลยรีบเผ่นเดี๋ยวโดนโจมตีกลับ ไม่วายหมอนั่นตะโกนไล่หลัง

        

    “เธอคอยดูก็แล้วกัน ฉันจะต้องพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าฉันทำได้”

        

    ดูทำพูดเข้าสิ...เชื่อตายแหละ แต่เอ...ทำไมจู่ ๆ เราถึงรู้สึกผิดทันทีที่ได้ยินนะ? พอฉันหันไปมอง ก็ไม่เห็นเขาแล้ว เจ๊เบี๊ยว...เลิกคิดอย่างนั้นซะ...จำไว้ นายนั่นคือศัตรูหมายเลขของแกนะ..



    **********************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×