ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 แผนหมั้น
                                                                                        - 5 -
เป็นครั้งแรกที่ได้เจออะไรอย่างนี้ ฉันรู้สึกอึ้ง...อึ้งจนนึกอะไรไม่ออก งงว่าตัวเองมายืนให้เขาทำบ้า ๆ อย่างนี้ได้ไง แต่พอตั้งสติได้ก็นึกขยาดแขยงทันที ฉันรีบผลักหน้าเขาก่อนจะ...
เพียะ ~~!
ตบหน้าตานั่นไปเต็มแรง รู้สึกอึ้งและโกรธปนกันไปหมด อะไรกัน?...ทำอย่างนี้ได้ไง??? อย่างนี้มันดูถูกเหยียดหยามกันชัดๆ ฮึ! ฉันไม่ใช่คนง่าย ๆ ที่จะให้ใครมาจูบฟรี ๆ หรอกนะ
“ตบหน้าฉันทำไม?”
“ตบสั่งสอนนายไงล่ะ รู้มั้ยว่าทำอย่างนี้มันหยามกันชัด ๆ ฉันไม่ใช่คนที่อะไรก็ได้นะ เสียดายที่ฉันอุตส่าห์ปลื้มนายจดหมายสีแดง...ที่แท้ก็เห็นแก่ตัว เอาเปรียบ แหวะ!...นายอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ อี๋!”
ด่าแหลกพร้อมกับเอามือมาเช็ดปาก แล้วรีบเข้าบ้านไปให้เร็วที่สุด ได้ยินนายนั่นตะโกนเย้ว ๆ
“ตูน ฟังฉันก่อน ฉันขอโทษ ตูน.....ตูน”
ตาบ้า! มาขอโทษแล้วมันหายหรือไงยะ?...นึกแล้วมันน่าโมโหชะมัด โอ๊ย! ไม่รู้ตะกี้นี้มีใครมาเห็นเข้าหรือเปล่า? ถ้าเห็นแล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย? เฮ้อ!!!
ฉันเดินตึงตังเข้ามาในบ้าน พอมาถึงก็เห็นนายเวย์นยืนพิงเสา ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มเยาะ...
หนีเสือปะจระเข้จริง ๆ ฮึ่ม!
ฉันไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับตานั่น เลยตัดปัญหาหนีขึ้นห้อง แต่เท้ายังไม่เหยียบบันได ความกวนประสาทของเขาก็ตามมาให้ฉันรำคาญใจ
“ไงครับ? พี่ตูน โอ๊ะ! ต้องเรียกว่าพี่กบ สุวนันท์ คงยิ่งสิ ใช่แล้ว...ใช่”
กบ สุวนันท์ คงยิ่ง...เกี่ยวอะไรด้วยฟะ? ตาบ้า...จะมาไม้ไหนเนี่ย?
“อะไรของนายเนี่ย?”
หันไปถามเพราะทนสงสัยไม่ได้ นายเวย์นก็ยิ้มแล้วเดินกอดอกเข้ามา
“ตะกี้นี้แอบเห็นนะ...แหม!! มาส่งถึงหน้าบ้าน....แถมมีละครสดให้ดูด้วย สมกับเป็นพี่กบ สุวนันท์จริง ๆ”
“ละครสดอะไรของนาย? พูดให้มันดี ๆนะ”
“แหม!!!! ต้องให้พูดดี ๆ ด้วย....ก็ได้ เดี๋ยวจะเพอร์ฟอร์มให้ดู” ว่าแล้วก็แสดงท่าประกอบ “ตูน เธอยังไม่บอกฉันเลยว่ารับรักฉันได้มั้ย?... เอ่อ คือว่าฉันยังไม่ ไม่รู้สิ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จ๊วบ!!! โอ้ว! ริมฝีปากอันเซ็กซี่ประกบกัน อู้ววว!”
ที่แท้...ที่แท้อย่างนี้นี่เอง กรี๊ดดด!!! นายนั่นเห็นด้วยเรอะ??? ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดีเนี่ย?...ให้ตายเถอะ
ฉันรู้สึกอายขึ้นมาทันที รีบเดินไปขึ้นบันได แต่ตานั่นก็ยังตามจิกไม่เลิก
“เพียะ!!! ตบฉันทำไมเนี่ย?...สั่งสอนนายไง เสียดายที่อุตส่าห์ปลื้ม เชอะ!!! ฮ่า ๆๆๆๆ อย่างกับละครไทยที่ป้าร้านโอท็อปที่ญี่ปุ่นสั่งอัดเลย ฉากแบบนี้เค้าเรียกว่าอะไรนะ....ตบจูบใช่มั้ย? จุ๊บ!!! เพียะ!!! อย่างนี้ใช่มะ? ฮ่า ๆๆๆๆๆ”
เย็นไว้...การ์ตูน อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ฮึ่มมมม!!!
“ไม่สิ อย่างนี้เค้าเรียกว่าจูบแล้วตบใช่มั้ย? ฮ่า ๆๆๆๆ...แหม! ป้า....ทำเป็นอาย รู้น่าว่าชอบ ระยะวัยทองอย่างป้ามีใครมาชอบก็รับ ๆ ไปเถอะนะ เดี๋ยวพลาดรถด่วนขบวนสุดท้ายจะเสียดายนะจะบอกให้ ฮ่า ๆๆๆๆๆ”
ฮึ่ม!!! มันจะมากเกินไปแล้ว...ฉันอุตส่าห์พยายามเก็บอารมณ์ แต่นายยังไม่เลิกอีก คดีเป๋าเป่าก็ยังไม่ชำระแค้น อย่างนี้ต้องสั่งสอน
ฉันหันไปมองนายนั่นแล้วพูดยิ้ม ๆ
“แล้วนายอยากลองบ้างมั้ยล่ะ?”
“หา?”
ตานั่นทำหน้างงเต้ก ฉันเลยพูดต่อ
“แต่ไม่ใช่ตบจูบนะ แต่เป็นเตะจุก”
“เตะจุก?”
“ก็อย่างนี้ไงล่ะ”
ใช้ลูกเตะมหัศจรรย์ของโอเว่นผ่ากลางประตู ส่วนผู้รักษาประตูทำหน้าเขียว ยืนตัวโค้งทำมุมเก้าสิบองศา ดูก็รู้ว่าลูกนี้ทำคะแนนได้หลายแต้ม
“ตูน ทำอะไรเวย์นน่ะ?”
ฉันหันไปมองที่ประตู เห็นคุณยายยืนตะลึง ข้าง  ๆ มีผู้ชายแก่ ๆ ยืนทำหน้าอารมณ์เดียวกับคุณยาย...
“คะ...คะ...คุงยัย จ้วยป๋มดุ้ย”
นายนั่นเอามือกุมของรัก ปากก็ร้องเหมือนลิ้นไก่สั้น เห็นแล้วอยากฮาออกมาดัง ๆ แต่ตอนนี้กำลังเครียดตะหงิด ๆ อยู่
คราวนี้โดนดุแน่ ๆ เลย โธ่เอ๊ย!!!!
ทั้ง ๆ ที่ฉันยังแค้นนายตัวแสบไม่หาย แต่สุดท้ายฉันกลับต้องเป็นฝ่ายประคองนายนั่นมาที่ห้องรับแขก อยากจะตบหัวซักทีแต่ก็กลัวจะโดนอีกข้อหา พอพาหมอนั่นไปนั่งโซฟา ฉันก็ต้องลงมานั่งกับพื้น ในฐานะที่เป็นคนผิด...
แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันสำนึกผิดนะ มันคนละเรื่องกัน...
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? จู่ ๆ ทำไมตูนไปเตะน้องอย่างนั้นล่ะ?”
คุณยายทำท่าฉุนเฉียวเอามาก อะไรกันเนี่ย? ตั้งแต่เด็กจนโตคุณยายไม่เคยโมโหมากขนาดนี้ แต่พอกับนายเวย์นล่ะก็...ฮึ! น้อยใจนะเนี่ย
“ก็...นายนั่นมากวนประสาทตูนก่อน เมื่อเช้าก็ทีแล้ว ทำเป๋าเป่าของตูนตาย”
“ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ทำ ก็ไม่ได้ทำเซ่...”
หายจุกแล้วหรือไง? ถึงมีแรงเถียงได้ ตาบ้าเอ๊ย!!!
“ถึงนายไม่ได้ทำ แต่ที่นายพูดจากวนบาทากับฉันล่ะ จะว่าไง? อย่างนี้มันสมควรมั้ยล่ะ?”
“เอ้า ๆ หยุดเถียงกันได้แล้ว สองคนน่ะ เห็นแก่หน้ายายบ้างสิ ยายมีแขกมาด้วยนะ”
จริงสิ ผู้ชายแก่ ๆ คนนี้เป็นใครกันแน่? ว่าจะถามแต่ไม่มีโอกาส เพราะมัวแต่มานั่งเรียบเรียงเหตุผลของตัวเอง
“คุณปู่ครับ คุณปู่ต้องช่วยผมนะครับ หลานเพื่อนคุณปู่เค้ารังแกผม เกิดผมเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบล่ะ?”
อะไรนะ?...ที่แท้เขาคือเพื่อนคุณยาย และเป็นคุณปู่ของไอ้เด็กเวรงั้นเหรอ? ตายแล้ว...สองรุมหนึ่งช่วยกันฟ้องคุณยาย ฉันจะรอดมั้ยเนี่ย?
“ไม่ต้องฟ้องแล้ว เวย์น...นึกว่าปู่ไม่รู้นิสัยแกหรือไง?”
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ โดนคุณปู่เอ็ดทีเดียว นายเวย์นทำหน้าสลดไปเลย ว้าว! คุณปู่เป็นคนที่ยุติธรรมเหมือนเปาบุ้นจิ้นเลย ไม่เข้าข้างหลานตัวเอง อย่างนี้สิน่านับถือ คิก ๆ
“แล้วจะเอาไงดีล่ะ? ผกา”
คุณปู่หันไปถามคุณยาย ทำหน้าเหมือนส่งซิกอะไรบางอย่างกัน
หือ?...มีลับลมคมนัยอะไรกันเนี่ย? อยากรู้จัง...
“ถ้างั้น ตูนก็ต้องรับผิดชอบ”
“รับผิดชอบ?”
ฉันจ้องหน้าคุณยายตาไม่กระพริบ แล้วคุณยายก็พูดว่า...
“ตูนต้องหมั้นกับเวย์น”
มั่น...มั่นใจงั้นเหรอ? ไม่นะ...ไม่ใช่หมั้นแบบนั้นแน่นอน ไม่มีทางเด็ดขาด ฉะ...ฉะ...ฉันจะหมั้นกับนายตัวแสบนี่ได้ยังไง? นายนั่นอายุรุ่นน้องฉันนะ จะหมั้นกันได้ยังไง? ไม่มีทาง...ไม่ได้..เป็นไปไม่ได้...
“ดี ผมเห็นด้วยกับคุณ”
คุณปู่ทำหน้าพอใจสุด ๆ คุณยายทำหน้าระรื่น ส่วนนายเวย์น ทำหน้าเซ็ง...เฮ้ย! อะไรกันเนี่ย? ทำไมตานั่นไม่ตกตะลึงเลยล่ะ? นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะ ขนาดฉันยังอึ้งขนาดนี้ อะไรกันเนี่ย?
“ไม่ได้เด็ดขาดนะคะ หนู...หนูจะไม่ยอมหมั้นกับหมอนี่เด็ดขาด ไม่เด็ดขาดค่ะ นี่...นายเวย์น นายเองก็ไม่ยอมใช่มั้ย?”
คำตอบคือหน้าเซ็ง ~_~
“เฮ้ย! เวย์น...นี่ ลุกขึ้นมาโวยวายสิ นายไม่เดือดร้อนเลยหรือไง?”
ตบไหล่นายนั่นใหญ่ แต่หน้าตานั่นก็ยังเซ็งเหมือนเดิม ~_~
“เอาเป็นว่า ตกลงตามนี่นะ ผกา”
“ดี...เอาตามนั้นเลยค่ะ สาคร”
สองปู่ยายทำหน้ามีความสุขซะเหลือเกิน แน่ล่ะ...ก็พวกเขาไม่ใช่ฉันนี่นา อะไรกันเนี่ย? นี่มันชีวิตหนูนะคะ เรื่องอะไรคุณยายมาบังคับหนูอย่างนี้ล่ะ? ไม่นะ....ไม่
“คุณปู่ คุณยาย...ผมขึ้นไปนอนก่อนนะครับ”
ตาเวย์นเดินเซไปเซมาไปที่บันได อะไรกันเนี่ย? ทำไมเมินเฉยกันขนาดนี้? นี่ตานั่นก็เห็นดีเห็นงามด้วยงั้นเหรอ?
ฉันวิ่งตามนายนั่นไปถึงห้องนอน เข้าไปขวางตอนเขาจะจับลูกบิด
“อะไรล่ะครับ? คุณป้า”
“นี่ไอ้เด็กเวร นายบ้าไปแล้วหรือไง? จะไม่ทำอะไรบ้างเลยเหรอ? คุณยายฉันกับคุณปู่นายจะจับเราสองคนหมั้นกันนะ”
“ก็เออไง...”
ยังจะทำหน้าไร้อารมณ์อีก ฉันก็ยังขวางตานั่นเต็มที่เหมือนกัน
“ก็เออไง...หมายความว่าไง? นี่นายไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยเหรอ? หรือว่านายอยากเป็นคู่หมั้นของฉัน?”
“ใครอยากก็บ้าแล้ว”
“ก็นั่นน่ะสิ งั้นนายก็ทำอะไรซักอย่างเซ่”
ตานั่นมองฉันด้วยหางตาก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ
“ทำไปก็ไร้บอย ยังไงคุณยายกับคุณปู่ก็ต้องหาวิธีให้เราสองคนหมั้นกันอยู่ดี”
แล้วก็แทรกตัวก่อนจะปิดประตูใส่หน้าฉัน อะไรกัน? ยังไงเราก็ต้องหมั้นกันอยู่ดีงั้นเหรอ? พูดเหมือนกับเป็นแผน...หมายความว่าตาบ๊องเวย์นก็ต้องรู้มาก่อนน่ะสิ
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก ปัง...ปัง...ปัง
“นายเวย์น นี่...ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ”
ฉันเคาะประตู น่าจะเรียกว่าทุบประตูมากกว่า แต่นายนั่นก็ยังไม่ออกมาซะที
“นี่ ไอ้เด็กเวย์น ออกมาเดี๋ยวนี้นะ เฮ้! ตาบ้า...ออกมาเดี๋ยวนี้”
“โอ๊ย! หนวกหูโว้ย”
ในที่สุดตานั่นก็ออกมา  ยืนเกาหัวแกรก ๆ มืออีกข้างเท้าประตูไว้
“หมายความว่าไง? ปู่นายกับคุณยายของฉันตั้งใจจะจับเราหมั้นกันงั้นเหรอ?”
“จะว่างั้นก็ได้ แค่นี้ใช่มั้ย? ไปนอนละ”
“เดี๋ยวก่อน...นี่ นี่”
แล้วตานั่นก็ปิดประตูใส่หน้าฉันอีกรอบ ได้แต่ยืนพิงประตูยืนงงอยู่อย่างนั้น
อะไรกันเนี่ย?...นี่มันเรื่องบ้าบออะไร? คุณยายนึกยังไงถึงได้จับฉันแต่งงานกับเด็กนั่น? โอ๊ย! งงนะเนี่ย...
กิ๊กก๊อก...กิ๊กก๊อก...ตื่นได้แล้ว เอ้า! เฮฮา...
ฉันตื่นตั้งนานแล้วย่ะ คุณหมูขี้เซา...เฮ้อ!
จริง ๆ แล้วทั้งคืนฉันแทบจะไม่ได้หลับ ตาค้างเหมือนดื่มกาแฟเป็นแกลลอน ทั้งที่จริง ๆ แทบไม่ได้แตะ...แต่เป็นเพราะเรื่องนายทิมกับนายเวย์นที่ทำให้ฉันหลับไม่ลง พอจะหลับสองคนนั้นก็ต้องโผล่มาเล่นจ๊ะเอ๋กับฉันทุกที...เฮ้อ!
ทำไมเรื่องแย่ ๆ สองเรื่องถึงต้องมาเจอพร้อมกัน? ยังไม่รวมลูกเป๋าเป่านะเนี่ย...
ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัว ลงมาชั้นล่างก็เห็นคุณยายคุยกับคุณปู่ที่ห้องรับแขก ฉันเลยเดินไปที่ครัว เทคอร์นเฟล็กใส่ชามผสมนมจืด ได้ยินเสียงคุณปู่คุณยายดังมาแว่ว ๆ
“จริง ๆ แล้วคุณน่าจะพักซะที่นี่นะคะ ไม่เห็นต้องไปพักที่โรงแรมให้เปลืองเลย”
“ไม่ต้องหรอก เกรงใจเปล่า ๆ”
“จะเกรงใจทำไมคะ? เราเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่เหรอ? คุณอุตส่าห์นั่งเครื่องบินจากโตเกียวมาเพื่อเรื่องของหลาน แล้วยังจะค่าโรงแรมอีก”
“เล็กน้อยน่ะ อย่าเอามาคิดมากเลย”
ฉันยืนตักซีเรียลเข้าปากไปแอบฟังไป สมองก็คิดตามไปด้วย
เรื่องของหลาน...ต้องเป็นเรื่องหมั้นแน่ ๆ ทำไมคุณปู่ต้องลงทุนขนาดนั้นด้วย? มันสำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอ? จะต้องมีลับลมคมนัยอะไรมากไปกว่านั้นแน่ ๆ...
แต่ถึงยังไง...ไม่ว่ามันจะลึกลับซับซ้อนแค่ไหน? ฉันก็ไม่ยอมหมั้นกับเด็กแสบนั่นเด็ดขาด
ฉันเอาชามที่เพิ่งกินเสร็จไปแช่ในอ่างล้างจาน เดินมาหาคุณยายกับคุณปู่ สูดลมหายใจลึกแล้วพูดว่า
“คุณปู่คุณยายคะ...หนูขอพูดคำเดิมนะคะ หนูจะไม่ยอมหมั้นกับเวย์นเด็ดขาด ไม่เด็ดขาดค่ะ”
“การ์ตูน....”
“คุณยายคะ...นี่มันยุคดิจิตอลแล้วนะคะ อย่าเอาวิธีคลุมถุงชก (คลุมถุงชน+มัดมือชก)มาใช้กับหนูเลยนะคะ เพราะถึงหมั้นกันไป หนูก็ต้องทนตาบ้านั่นไม่ได้แน่ ๆ”
“แต่ว่า ”
“คุณปู่เห็นใจหนูเถอะค่ะ หนู....หนูไปสอบก่อนนะคะ”
มาดเข้มซะเหลือเกิน...หวังว่าคุณยายกับคุณปู่คงจะเปลี่ยนใจนะ เฮ้อ! แล้วถ้าพวกเค้ายังยืนยันคำเดิมล่ะ ก็ตายน่ะสิ...อ๊าก!!!!
ติดตามต่อนะคะ มาลุ้นกันว่านู๋ตูนจะทำไงต่อไป?
เป็นครั้งแรกที่ได้เจออะไรอย่างนี้ ฉันรู้สึกอึ้ง...อึ้งจนนึกอะไรไม่ออก งงว่าตัวเองมายืนให้เขาทำบ้า ๆ อย่างนี้ได้ไง แต่พอตั้งสติได้ก็นึกขยาดแขยงทันที ฉันรีบผลักหน้าเขาก่อนจะ...
เพียะ ~~!
ตบหน้าตานั่นไปเต็มแรง รู้สึกอึ้งและโกรธปนกันไปหมด อะไรกัน?...ทำอย่างนี้ได้ไง??? อย่างนี้มันดูถูกเหยียดหยามกันชัดๆ ฮึ! ฉันไม่ใช่คนง่าย ๆ ที่จะให้ใครมาจูบฟรี ๆ หรอกนะ
“ตบหน้าฉันทำไม?”
“ตบสั่งสอนนายไงล่ะ รู้มั้ยว่าทำอย่างนี้มันหยามกันชัด ๆ ฉันไม่ใช่คนที่อะไรก็ได้นะ เสียดายที่ฉันอุตส่าห์ปลื้มนายจดหมายสีแดง...ที่แท้ก็เห็นแก่ตัว เอาเปรียบ แหวะ!...นายอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ อี๋!”
ด่าแหลกพร้อมกับเอามือมาเช็ดปาก แล้วรีบเข้าบ้านไปให้เร็วที่สุด ได้ยินนายนั่นตะโกนเย้ว ๆ
“ตูน ฟังฉันก่อน ฉันขอโทษ ตูน.....ตูน”
ตาบ้า! มาขอโทษแล้วมันหายหรือไงยะ?...นึกแล้วมันน่าโมโหชะมัด โอ๊ย! ไม่รู้ตะกี้นี้มีใครมาเห็นเข้าหรือเปล่า? ถ้าเห็นแล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย? เฮ้อ!!!
ฉันเดินตึงตังเข้ามาในบ้าน พอมาถึงก็เห็นนายเวย์นยืนพิงเสา ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มเยาะ...
หนีเสือปะจระเข้จริง ๆ ฮึ่ม!
ฉันไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับตานั่น เลยตัดปัญหาหนีขึ้นห้อง แต่เท้ายังไม่เหยียบบันได ความกวนประสาทของเขาก็ตามมาให้ฉันรำคาญใจ
“ไงครับ? พี่ตูน โอ๊ะ! ต้องเรียกว่าพี่กบ สุวนันท์ คงยิ่งสิ ใช่แล้ว...ใช่”
กบ สุวนันท์ คงยิ่ง...เกี่ยวอะไรด้วยฟะ? ตาบ้า...จะมาไม้ไหนเนี่ย?
“อะไรของนายเนี่ย?”
หันไปถามเพราะทนสงสัยไม่ได้ นายเวย์นก็ยิ้มแล้วเดินกอดอกเข้ามา
“ตะกี้นี้แอบเห็นนะ...แหม!! มาส่งถึงหน้าบ้าน....แถมมีละครสดให้ดูด้วย สมกับเป็นพี่กบ สุวนันท์จริง ๆ”
“ละครสดอะไรของนาย? พูดให้มันดี ๆนะ”
“แหม!!!! ต้องให้พูดดี ๆ ด้วย....ก็ได้ เดี๋ยวจะเพอร์ฟอร์มให้ดู” ว่าแล้วก็แสดงท่าประกอบ “ตูน เธอยังไม่บอกฉันเลยว่ารับรักฉันได้มั้ย?... เอ่อ คือว่าฉันยังไม่ ไม่รู้สิ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จ๊วบ!!! โอ้ว! ริมฝีปากอันเซ็กซี่ประกบกัน อู้ววว!”
ที่แท้...ที่แท้อย่างนี้นี่เอง กรี๊ดดด!!! นายนั่นเห็นด้วยเรอะ??? ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดีเนี่ย?...ให้ตายเถอะ
ฉันรู้สึกอายขึ้นมาทันที รีบเดินไปขึ้นบันได แต่ตานั่นก็ยังตามจิกไม่เลิก
“เพียะ!!! ตบฉันทำไมเนี่ย?...สั่งสอนนายไง เสียดายที่อุตส่าห์ปลื้ม เชอะ!!! ฮ่า ๆๆๆๆ อย่างกับละครไทยที่ป้าร้านโอท็อปที่ญี่ปุ่นสั่งอัดเลย ฉากแบบนี้เค้าเรียกว่าอะไรนะ....ตบจูบใช่มั้ย? จุ๊บ!!! เพียะ!!! อย่างนี้ใช่มะ? ฮ่า ๆๆๆๆๆ”
เย็นไว้...การ์ตูน อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ฮึ่มมมม!!!
“ไม่สิ อย่างนี้เค้าเรียกว่าจูบแล้วตบใช่มั้ย? ฮ่า ๆๆๆๆ...แหม! ป้า....ทำเป็นอาย รู้น่าว่าชอบ ระยะวัยทองอย่างป้ามีใครมาชอบก็รับ ๆ ไปเถอะนะ เดี๋ยวพลาดรถด่วนขบวนสุดท้ายจะเสียดายนะจะบอกให้ ฮ่า ๆๆๆๆๆ”
ฮึ่ม!!! มันจะมากเกินไปแล้ว...ฉันอุตส่าห์พยายามเก็บอารมณ์ แต่นายยังไม่เลิกอีก คดีเป๋าเป่าก็ยังไม่ชำระแค้น อย่างนี้ต้องสั่งสอน
ฉันหันไปมองนายนั่นแล้วพูดยิ้ม ๆ
“แล้วนายอยากลองบ้างมั้ยล่ะ?”
“หา?”
ตานั่นทำหน้างงเต้ก ฉันเลยพูดต่อ
“แต่ไม่ใช่ตบจูบนะ แต่เป็นเตะจุก”
“เตะจุก?”
“ก็อย่างนี้ไงล่ะ”
ใช้ลูกเตะมหัศจรรย์ของโอเว่นผ่ากลางประตู ส่วนผู้รักษาประตูทำหน้าเขียว ยืนตัวโค้งทำมุมเก้าสิบองศา ดูก็รู้ว่าลูกนี้ทำคะแนนได้หลายแต้ม
“ตูน ทำอะไรเวย์นน่ะ?”
ฉันหันไปมองที่ประตู เห็นคุณยายยืนตะลึง ข้าง  ๆ มีผู้ชายแก่ ๆ ยืนทำหน้าอารมณ์เดียวกับคุณยาย...
“คะ...คะ...คุงยัย จ้วยป๋มดุ้ย”
นายนั่นเอามือกุมของรัก ปากก็ร้องเหมือนลิ้นไก่สั้น เห็นแล้วอยากฮาออกมาดัง ๆ แต่ตอนนี้กำลังเครียดตะหงิด ๆ อยู่
คราวนี้โดนดุแน่ ๆ เลย โธ่เอ๊ย!!!!
ทั้ง ๆ ที่ฉันยังแค้นนายตัวแสบไม่หาย แต่สุดท้ายฉันกลับต้องเป็นฝ่ายประคองนายนั่นมาที่ห้องรับแขก อยากจะตบหัวซักทีแต่ก็กลัวจะโดนอีกข้อหา พอพาหมอนั่นไปนั่งโซฟา ฉันก็ต้องลงมานั่งกับพื้น ในฐานะที่เป็นคนผิด...
แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันสำนึกผิดนะ มันคนละเรื่องกัน...
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? จู่ ๆ ทำไมตูนไปเตะน้องอย่างนั้นล่ะ?”
คุณยายทำท่าฉุนเฉียวเอามาก อะไรกันเนี่ย? ตั้งแต่เด็กจนโตคุณยายไม่เคยโมโหมากขนาดนี้ แต่พอกับนายเวย์นล่ะก็...ฮึ! น้อยใจนะเนี่ย
“ก็...นายนั่นมากวนประสาทตูนก่อน เมื่อเช้าก็ทีแล้ว ทำเป๋าเป่าของตูนตาย”
“ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ทำ ก็ไม่ได้ทำเซ่...”
หายจุกแล้วหรือไง? ถึงมีแรงเถียงได้ ตาบ้าเอ๊ย!!!
“ถึงนายไม่ได้ทำ แต่ที่นายพูดจากวนบาทากับฉันล่ะ จะว่าไง? อย่างนี้มันสมควรมั้ยล่ะ?”
“เอ้า ๆ หยุดเถียงกันได้แล้ว สองคนน่ะ เห็นแก่หน้ายายบ้างสิ ยายมีแขกมาด้วยนะ”
จริงสิ ผู้ชายแก่ ๆ คนนี้เป็นใครกันแน่? ว่าจะถามแต่ไม่มีโอกาส เพราะมัวแต่มานั่งเรียบเรียงเหตุผลของตัวเอง
“คุณปู่ครับ คุณปู่ต้องช่วยผมนะครับ หลานเพื่อนคุณปู่เค้ารังแกผม เกิดผมเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบล่ะ?”
อะไรนะ?...ที่แท้เขาคือเพื่อนคุณยาย และเป็นคุณปู่ของไอ้เด็กเวรงั้นเหรอ? ตายแล้ว...สองรุมหนึ่งช่วยกันฟ้องคุณยาย ฉันจะรอดมั้ยเนี่ย?
“ไม่ต้องฟ้องแล้ว เวย์น...นึกว่าปู่ไม่รู้นิสัยแกหรือไง?”
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ โดนคุณปู่เอ็ดทีเดียว นายเวย์นทำหน้าสลดไปเลย ว้าว! คุณปู่เป็นคนที่ยุติธรรมเหมือนเปาบุ้นจิ้นเลย ไม่เข้าข้างหลานตัวเอง อย่างนี้สิน่านับถือ คิก ๆ
“แล้วจะเอาไงดีล่ะ? ผกา”
คุณปู่หันไปถามคุณยาย ทำหน้าเหมือนส่งซิกอะไรบางอย่างกัน
หือ?...มีลับลมคมนัยอะไรกันเนี่ย? อยากรู้จัง...
“ถ้างั้น ตูนก็ต้องรับผิดชอบ”
“รับผิดชอบ?”
ฉันจ้องหน้าคุณยายตาไม่กระพริบ แล้วคุณยายก็พูดว่า...
“ตูนต้องหมั้นกับเวย์น”
มั่น...มั่นใจงั้นเหรอ? ไม่นะ...ไม่ใช่หมั้นแบบนั้นแน่นอน ไม่มีทางเด็ดขาด ฉะ...ฉะ...ฉันจะหมั้นกับนายตัวแสบนี่ได้ยังไง? นายนั่นอายุรุ่นน้องฉันนะ จะหมั้นกันได้ยังไง? ไม่มีทาง...ไม่ได้..เป็นไปไม่ได้...
“ดี ผมเห็นด้วยกับคุณ”
คุณปู่ทำหน้าพอใจสุด ๆ คุณยายทำหน้าระรื่น ส่วนนายเวย์น ทำหน้าเซ็ง...เฮ้ย! อะไรกันเนี่ย? ทำไมตานั่นไม่ตกตะลึงเลยล่ะ? นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะ ขนาดฉันยังอึ้งขนาดนี้ อะไรกันเนี่ย?
“ไม่ได้เด็ดขาดนะคะ หนู...หนูจะไม่ยอมหมั้นกับหมอนี่เด็ดขาด ไม่เด็ดขาดค่ะ นี่...นายเวย์น นายเองก็ไม่ยอมใช่มั้ย?”
คำตอบคือหน้าเซ็ง ~_~
“เฮ้ย! เวย์น...นี่ ลุกขึ้นมาโวยวายสิ นายไม่เดือดร้อนเลยหรือไง?”
ตบไหล่นายนั่นใหญ่ แต่หน้าตานั่นก็ยังเซ็งเหมือนเดิม ~_~
“เอาเป็นว่า ตกลงตามนี่นะ ผกา”
“ดี...เอาตามนั้นเลยค่ะ สาคร”
สองปู่ยายทำหน้ามีความสุขซะเหลือเกิน แน่ล่ะ...ก็พวกเขาไม่ใช่ฉันนี่นา อะไรกันเนี่ย? นี่มันชีวิตหนูนะคะ เรื่องอะไรคุณยายมาบังคับหนูอย่างนี้ล่ะ? ไม่นะ....ไม่
“คุณปู่ คุณยาย...ผมขึ้นไปนอนก่อนนะครับ”
ตาเวย์นเดินเซไปเซมาไปที่บันได อะไรกันเนี่ย? ทำไมเมินเฉยกันขนาดนี้? นี่ตานั่นก็เห็นดีเห็นงามด้วยงั้นเหรอ?
ฉันวิ่งตามนายนั่นไปถึงห้องนอน เข้าไปขวางตอนเขาจะจับลูกบิด
“อะไรล่ะครับ? คุณป้า”
“นี่ไอ้เด็กเวร นายบ้าไปแล้วหรือไง? จะไม่ทำอะไรบ้างเลยเหรอ? คุณยายฉันกับคุณปู่นายจะจับเราสองคนหมั้นกันนะ”
“ก็เออไง...”
ยังจะทำหน้าไร้อารมณ์อีก ฉันก็ยังขวางตานั่นเต็มที่เหมือนกัน
“ก็เออไง...หมายความว่าไง? นี่นายไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยเหรอ? หรือว่านายอยากเป็นคู่หมั้นของฉัน?”
“ใครอยากก็บ้าแล้ว”
“ก็นั่นน่ะสิ งั้นนายก็ทำอะไรซักอย่างเซ่”
ตานั่นมองฉันด้วยหางตาก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ
“ทำไปก็ไร้บอย ยังไงคุณยายกับคุณปู่ก็ต้องหาวิธีให้เราสองคนหมั้นกันอยู่ดี”
แล้วก็แทรกตัวก่อนจะปิดประตูใส่หน้าฉัน อะไรกัน? ยังไงเราก็ต้องหมั้นกันอยู่ดีงั้นเหรอ? พูดเหมือนกับเป็นแผน...หมายความว่าตาบ๊องเวย์นก็ต้องรู้มาก่อนน่ะสิ
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก ปัง...ปัง...ปัง
“นายเวย์น นี่...ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ”
ฉันเคาะประตู น่าจะเรียกว่าทุบประตูมากกว่า แต่นายนั่นก็ยังไม่ออกมาซะที
“นี่ ไอ้เด็กเวย์น ออกมาเดี๋ยวนี้นะ เฮ้! ตาบ้า...ออกมาเดี๋ยวนี้”
“โอ๊ย! หนวกหูโว้ย”
ในที่สุดตานั่นก็ออกมา  ยืนเกาหัวแกรก ๆ มืออีกข้างเท้าประตูไว้
“หมายความว่าไง? ปู่นายกับคุณยายของฉันตั้งใจจะจับเราหมั้นกันงั้นเหรอ?”
“จะว่างั้นก็ได้ แค่นี้ใช่มั้ย? ไปนอนละ”
“เดี๋ยวก่อน...นี่ นี่”
แล้วตานั่นก็ปิดประตูใส่หน้าฉันอีกรอบ ได้แต่ยืนพิงประตูยืนงงอยู่อย่างนั้น
อะไรกันเนี่ย?...นี่มันเรื่องบ้าบออะไร? คุณยายนึกยังไงถึงได้จับฉันแต่งงานกับเด็กนั่น? โอ๊ย! งงนะเนี่ย...
กิ๊กก๊อก...กิ๊กก๊อก...ตื่นได้แล้ว เอ้า! เฮฮา...
ฉันตื่นตั้งนานแล้วย่ะ คุณหมูขี้เซา...เฮ้อ!
จริง ๆ แล้วทั้งคืนฉันแทบจะไม่ได้หลับ ตาค้างเหมือนดื่มกาแฟเป็นแกลลอน ทั้งที่จริง ๆ แทบไม่ได้แตะ...แต่เป็นเพราะเรื่องนายทิมกับนายเวย์นที่ทำให้ฉันหลับไม่ลง พอจะหลับสองคนนั้นก็ต้องโผล่มาเล่นจ๊ะเอ๋กับฉันทุกที...เฮ้อ!
ทำไมเรื่องแย่ ๆ สองเรื่องถึงต้องมาเจอพร้อมกัน? ยังไม่รวมลูกเป๋าเป่านะเนี่ย...
ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัว ลงมาชั้นล่างก็เห็นคุณยายคุยกับคุณปู่ที่ห้องรับแขก ฉันเลยเดินไปที่ครัว เทคอร์นเฟล็กใส่ชามผสมนมจืด ได้ยินเสียงคุณปู่คุณยายดังมาแว่ว ๆ
“จริง ๆ แล้วคุณน่าจะพักซะที่นี่นะคะ ไม่เห็นต้องไปพักที่โรงแรมให้เปลืองเลย”
“ไม่ต้องหรอก เกรงใจเปล่า ๆ”
“จะเกรงใจทำไมคะ? เราเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่เหรอ? คุณอุตส่าห์นั่งเครื่องบินจากโตเกียวมาเพื่อเรื่องของหลาน แล้วยังจะค่าโรงแรมอีก”
“เล็กน้อยน่ะ อย่าเอามาคิดมากเลย”
ฉันยืนตักซีเรียลเข้าปากไปแอบฟังไป สมองก็คิดตามไปด้วย
เรื่องของหลาน...ต้องเป็นเรื่องหมั้นแน่ ๆ ทำไมคุณปู่ต้องลงทุนขนาดนั้นด้วย? มันสำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอ? จะต้องมีลับลมคมนัยอะไรมากไปกว่านั้นแน่ ๆ...
แต่ถึงยังไง...ไม่ว่ามันจะลึกลับซับซ้อนแค่ไหน? ฉันก็ไม่ยอมหมั้นกับเด็กแสบนั่นเด็ดขาด
ฉันเอาชามที่เพิ่งกินเสร็จไปแช่ในอ่างล้างจาน เดินมาหาคุณยายกับคุณปู่ สูดลมหายใจลึกแล้วพูดว่า
“คุณปู่คุณยายคะ...หนูขอพูดคำเดิมนะคะ หนูจะไม่ยอมหมั้นกับเวย์นเด็ดขาด ไม่เด็ดขาดค่ะ”
“การ์ตูน....”
“คุณยายคะ...นี่มันยุคดิจิตอลแล้วนะคะ อย่าเอาวิธีคลุมถุงชก (คลุมถุงชน+มัดมือชก)มาใช้กับหนูเลยนะคะ เพราะถึงหมั้นกันไป หนูก็ต้องทนตาบ้านั่นไม่ได้แน่ ๆ”
“แต่ว่า ”
“คุณปู่เห็นใจหนูเถอะค่ะ หนู....หนูไปสอบก่อนนะคะ”
มาดเข้มซะเหลือเกิน...หวังว่าคุณยายกับคุณปู่คงจะเปลี่ยนใจนะ เฮ้อ! แล้วถ้าพวกเค้ายังยืนยันคำเดิมล่ะ ก็ตายน่ะสิ...อ๊าก!!!!
ติดตามต่อนะคะ มาลุ้นกันว่านู๋ตูนจะทำไงต่อไป?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น