ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Effect 2nd : ตัวอันตราย...ไม่ได้รับเชิญ
                                                                                    - 2 -         
“กลับบ้านอย่าดึกนักล่ะ น้องซิม”
“ค่ะแม่”
แล้วรถมินิคูปเปอร์สีดำของแม่ก็ขับจากไป... ฉันยืนนิ่งอยู่หน้าประตูโรงเรียนก่อนจะหันไปมองซ้าย....มองขวา
“โตป่านนี้ยังให้แม่มาส่งอีก ก๊าก ๆ”
“นั่นน่ะสิ คุณหนูเกินไปแล้วมั้ง กุ๊ก ๆ”
ไอ้เด็กรุ่นน้องร่วมสถาบันสองคนนั้นหัวเราะคิกคักแล้วก็เดินเข้าโรงเรียนไป หนวกหูชะมัด....ยายแมลงหวี่ตอมอึทั้งสองตัว เชอะ...คนเรามีแม่มาเอาใจใส่ ผิดด้วยหรือไงยะ?
เฮ้อ! จริง ๆ ฉันก็แอบเซ็งเหมือนกัน -_-“...อยากจะไปโรงเรียนเอง...แต่แม่ก็เป็นห่วงฉันกลัวหนุ่มเอกบุรุษจะมาจีบ (แหวะ)...เปล่าหรอก กลัวฉันจะสลบน่ะสิ ยังดีนะ...ที่แม่ให้ฉันกลับเอง เพราะแม่ติดงานมารับไม่ได้น่ะสิ...
ฉันไหว้อาจารย์ที่ยืนหน้าประตูแล้วก้มหน้าก้มตาเดินเข้าไป... พอถึงตึกเรียนก็ค่อยถอดรองเท้าออก...ไอ้ตอนกำลังถอดก็ก้มมองไม่สนอะไร จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกผลักให้ล้มคว่ำคะมำหงาย....ใครฟะ?
“เดินประสาอะไร? ไม่ดูตาม้าตาเรือ”
ยัยเย็นตาโฟ ทอมหน้าหมวยห้องดีลุกขึ้นมาด่าฉัน งะ....เดิน? O_o เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? ฉันยืนถอดรองเท้าอยู่นะยะ...ใครมาชนใครมิทราบ?
“ยังจะมาทำหน้าเอ๋ออีก...ไม่รู้จักการขอโทษหรือไง? หรือว่าเก่งแต่อ้อนแม่อย่างเดียว? ว่าไง? ยัยเฉิ่ม”
“.....................”
กรอด! .>.<
ฉันกัดฟันแน่น โทษฉันไม่พอ ยังว่าฉันว่าหน้าเอ๋อ...หาว่าไม่รู้จักขอโทษ หาว่าเก่งแต่อ้อนแม่...เรียกฉันว่ายัยเฉิ่ม...หืม...มันน่านัก ยายทอมปากปลาร้า....
“เอาเถอะ ฉันจะถือว่าสิ่งอัศจรรย์ของโลกล้มใส่ตัวฉันแล้วกัน ฉันไม่อยากทำอะไรเดี๋ยวมรดกโลกจะบุบสลาย ...ไปละ”
“.....................”
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก...เป็นคำด่าที่ตลกแต่ฟังแล้วทนไม่ได้ ...ยัยทอมปากอัลเซเชี่ยน...ด่าเสร็จแล้วหนีเหรอ? ฉันยังไม่ได้ด่ากลับเลยนะ หยุดเดี๋ยวนี้...
เฮ้อ! ถึงยัยอัลเซเชี่ยนหยุดเดิน...ฉันก็คงไม่กล้าทำอะไร ทำได้ก็แค่ด่าในใจ...ทำไมฉันถึงโต้ตอบยัยบ้านั่นไม่ได้? ไม่สิ...ทำไมฉันไม่ด่ายัยนั่นไปบ้างนะ? ปากหนอปาก...มีไว้กัดฟันเป็นอย่างเดียวหรือไง?...เฮ้อ!
ฉันเดินคอตกขึ้นบันไดมาถึงห้องเรียน... (-_-) พอเงยหน้ามาก็เห็นเพื่อนซี้ของฉันเดินมา ยัยตัวกลม ๆ หน้าผากโหนก ๆ มีไฝกลางหน้าผากสำหรับส่งเรดาร์...นั่นแหละ...เก๋ไก๋...เพื่อนฉันเอง
“มาช้าไปสองนาทีครึ่งจากปกตินะ ซิมมิ”
เชื่อคุณเก๋เขาเลย..แค่สองนาทีกับอีกครึ่งก็ถือว่า....ช้า........แล้ว
“อ้าว! ทำไมทำหน้าเซ็งอย่างนั้นล่ะ? ฉันเห็นเธอเดินคอตกตั้งแต่ขึ้นบันไดมาแล้ว”
“เพิ่งโดนหมากัดมาน่ะ”
“หมากัด?...ตรงไหน? ต้องไปฉีดวัคซีนหรือเปล่า?”
ยัยพระอาทิตย์ดวงที่สองของจักรวาล (สังเกตจากหน้าผาก โอย! แสบตา) สำรวจทั่วตัวฉัน...ฉันเลยหัวเราะเบา ๆ
“ไม่โดนหรอก ฉันล้อเล่น...ฮ่า ๆ” ^O^
เก๋ไก๋ทำหน้างอนแต่ก็พูดต่อ
“แล้วตกลงเธอเป็นอะไรกันแน่?”
“ไม่เป็นอะไรหรอก ก็แค่รู้สึกเซ็งนิดหน่อย เออ...เมื่อวานฉันเอานิยายญี่ปุ่นนั่นไปคืนห้องสมุดแล้วนะ รู้มั้ยว่าโดนปรับไปยี่สิบบาทแน่ะ?”
“จริงเหรอ?...เสียดายตังค์แทนจัง”
“เออ...เหมือนกันแหละ...เออใช่ ฉันมีอีกเรื่องที่จะเล่าให้เธอฟัง”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
ฉันวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้แล้วนั่งลงนึกถึงเรื่องเมื่อวาน
“เอ่อ...เมื่อวานตอนฉันกลับ ฉันเจอผู้ชายคนนึง อายุก็ไล่ ๆ กับพวกเรา แต่งตัวก็...ไม่ใช่ชุดนักเรียนหรอกนะ เขาบาดเจ็บตรงป้ายรถเมล์ฝั่ง
นั้น...ฉันก็เลยช่วยเขา”
“เฮ้ย! ซิมมิ...เธอช่วยเขาแล้วไม่เป็นอะไรเหรอ?”
ยัยเก๋ไก๋ทำหน้างองูสองตัว  O.O ...ไม่ใช่แค่คนถาม คนเล่าก็เง็งไม่แพ้กันแหละ
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...ก็ยังสงสัยอยู่เนี่ย กะว่าเย็นนี้จะแวะไปเยี่ยมเขา...จะได้ถามเขาด้วย เผื่อเขาอาจจะช่วยฉันได้...เออ...เก๋ เธอช่วยไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ”
“ต้องดูก่อนว่าเขาหล่อมั้ย?”
เกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย? ไอ้หล่อไม่หล่อเนี่ย.... จริง ๆ ตอนนั้นฉันก็มองหน้าเขาไม่ชัดนักหรอก ก็หน้าเปื้อนเลือดขนาดนั้น แถมแถว ๆ นั้นก็มืดด้วย...เออ..แต่โกหกยัยเก๋ก็คงไม่เป็นไรหรอก ยัยเก๋จะได้ไปเป็นเพื่อนเรา เอิ๊ก ๆ...คิดแผนได้แยบยลซะเหลือเกิน
“หล่อสิ....หล่อมากถึงมากที่สุด หล่อประมาณ...เอ่อ....วอนบิน...เจอรี่....ติ๊ก เจษฎาภรณ์...เอ่อ...ใครอีกล่ะ?”
“พอแล้ว...เชื่อแล้วว่าหล่อ โอเค...ตกลงฉันไปเป็นเพื่อนเธอเอง”
กริ๊ง........ง........ง.............ง~~
“ซิมมิ ไปเข้าแถวกันเถอะ”
แล้วฉันกับซันนี่ก็วิ่งลงไปเข้าแถวพร้อมกัน เป็นไงล่ะ?...ซิมมิ ซันนี่...สองเพื่อนซี้ชื่อคล้ายกัน แต่ซิมมิน่ารักกว่า ฮ่า  ๆ.....>O<
A  N  T  I    M  A  L  E    E  F  F  E  C  T
ในที่สุดก็เลิกเรียน...วันนี้ฉันตัดใจจากกิจวัตรประจำวัน...ก็คือการเข้าห้องสมุด เพื่อไปเยี่ยมตาหน้าเลือดนั่นโดยเฉพาะนะเนี่ย...
ฉันกับซิมมินั่งรถเมล์ไปโรงพยาบาล...ตอนเดินเข้าไป รู้สึกยัยเก๋ไก๋จะตื่นเต้นเกินเหตุ อะไรเนี่ย? อาเจ๊...เว่อร์ไปมั้ย? ทำอย่างกับกำลังจะไปนัดดูตัวอย่างนั้นแหละ....
“เอ่อ...มาเยี่ยมผู้ป่วยค่ะ”
ฉันบอกกับพี่พยาบาลที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ พี่สุดสวยยิ้มให้ฉันแล้วถามกลับมาว่า
“ขอทราบชื่อผู้ป่วยหน่อยค่ะ”
“เอ่อ....เขาชื่อ.....”
ชื่ออะไร?...นั่นสิ ตอนนั้นไม่ได้ถาม ไม่ได้คิดจะถามด้วย...เพราะคิดว่าคงไม่เจอกันแล้ว...แล้วฉันจะเจอเขาได้ไงเนี่ย?....
“เอ่อ....ไม่รู้ชื่อเขาค่ะ แต่ว่าฉันเป็นคนพาเขามาที่โรงพยาบาลเองนะคะ เขาโดนทุบหัว แล้วเลือดก็ท่วมหน้าเลยอ่ะค่ะ”
พูดแล้วก็แสดงท่าประกอบ...แอบเห็นยัยเก๋ไก๋ทำหน้าสะอิดสะเอียน...เป็นไงล่ะ? การบรรยายอย่างออกรสของฉันทำยัยเก๋อินไปเลย เอ...หรือว่าเพื่อนฉันมันสะอิดสะเอียนกับความเว่อร์ของฉันฟะ?
“เดี๋ยว รอสักครู่นะคะ ขออนุญาตตรวจสอบก่อน”
“ค่ะ”
แล้วพี่พยาบาลสุดสวยก็หันหน้าเข้าคอมพิวเตอร์เหลือง ๆ เก่า ๆ... จู่ ๆ ยัยเก๋ไก๋ก็สะกิดฉัน
“นี่...เธอไม่ได้ถามชื่อเขาเหรอ?”
“เออ...ก็ตอนนั้นมันเร่งด่วน ฉันเองก็ยิ่งงง ๆ ที่ตัวเองไม่เป็นไร ก็เลยไม่ได้ถามน่ะสิ”
“อ๋อเหรอ?....”
ระหว่างที่กำลังรอพี่สุดสวยค้นข้อมูล...ก็แอบเห็นพยาบาลอีกคนคุยโทรศัพท์ โอ้โห! ร้องซะเสียงดังเชียว
“ผู้ป่วยอาละวาดเหรอ? จะหนีกลับให้ได้...โอเค ๆ เดี๋ยวจะไปช่วยนะ”
แล้วพี่พยาบาลคนนั้นก็เดินไปขึ้นบันไดเลื่อน...พอมองไปที่บันไดเลื่อนขาลง...ก็เห็นผู้ชายตัวสูง ๆ ใส่ชุดผู้ป่วยสีเขียวอ่อนวิ่งลงมา มีพยาบาลวิ่งตาม ยื้ดยุดกันสุดฤทธิ์...ตะโกนเย้ว ๆ ดังมาถึงเคาน์เตอร์
“ปล่อยฉัน ฉันจะกลับ”
“ไม่ได้นะคะ เรายังไม่ได้ล้างแผลให้คุณอีกรอบเลย”
นายโหวกเหวกนั่นสะบัดแขนแล้ววิ่งเข้ามาทำให้เห็นหน้าชัดขึ้น...พอซูมอินเข้าไปก็ถึงรู้ว่า...ตานั่นก็คือนายหน้าเลือดที่ฉันเพิ่งช่วยชีวิตเขามาเอง...
“อ๋อ! นั่นไง ผู้ชายที่ฉันช่วยไว้”
“แน่ใจเหรอ?...ซิมมิ”
ถามว่าแน่ใจหมายความว่าไง?...
ฉันถามในใจพร้อมกับหันไปมองยัยซันนี่...พี่แกทำหน้าอึ้ง...อะไรเนี่ย? ทำไมต้องอึ้งด้วยล่ะ?
“มีอะไรเหรอ? เก๋ไก๋”
“ซิมมิ ...ฉันมีข่าวร้ายจะมาบอก...”
“ข่าวร้ายอะไร?”
ยัยเก๋ไก๋ทำหน้าซีด ปากสั่นเป็นจังหวะฮาร์ดคอร์...
“ผู้ชายคนนั้นคือ...ฟง...ตัวอันตรายที่สุดของแก๊งค์ไรเฟิล อยู่ชั้นม.5 โรงเรียนเอกบุรุษศึกษาที่อาจารย์ขึ้นบัญชีดำ...เธอก็รู้จักเขาไม่ใช่เหรอ?”
ถูกต้องนะค้า...............น้อยคนที่จะไม่รู้จัก ตานั่นคือยากูซ่าในคราบนักเรียน เป็นลูกเศรษฐีแต่ทำตัวเถื่อนมาก ๆ...เคยถูกพาไปพบจิตแพทย์เพราะความห่าม...แต่สุดท้ายหมอต้องกลายเป็นโรคจิตซะเอง...ประวัติความเกเรโชกโชนจนใคร ๆ เอือมระอา ได้ยินอาจารย์เม้าส์ว่าย้ายโรงเรียนมาหลายครั้ง...และที่เอกบุรุษ...คือโรงเรียนที่เคราะห์ร้ายเป็นรายล่าสุด...
ฉันรู้จักนายนั่นจากคำบอกเล่าของคนอื่น...แง......TTOTT แต่รู้จักก็ใช่ว่าจะเคยเจอนี่นา...ซวยจริง ๆ เลย ไม่น่าไปช่วยตานั่นเลยง่ะ....
ฉันกับยัยเก๋ไก๋ยืนตัวทื่อ... (O_o) พยายามสะกดจิตเพ่งญาณให้นายฟงนั่นจำฉันไม่ได้ แล้วเดินผ่านไป...โอ้ว! ลุ้นเหลือเกิน ลุ้นจนต้องหลับทั้งยืน ( -_-“) ลุ้นจนต้องเหงื่อตก...โอมเพี้ยง! เดินผ่านไปเลย อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อาเมน....
“ก็ฉันไม่ทำ...อย่ามายุ่งได้มั้ย? เอ๋....”
อ๋อ! เขาเรียกคนชื่อเอ๋...ไม่เกี่ยวกับเรา...โอ้ว! ค่อยยังชั่ว...
“เธอ...เธอยัยเอ๋อ...ฉันจำได้...ฉันจำได้”
ฉันลืมตาขึ้น อะจ๊าก! .ตะ...ตะ...ตานั่น...ยืนชี้หน้าอยู่ตรงหน้าฉัน
ชะ....ชะ...ช่วย....ดะ...ดะ....ด้วย......
“กลับบ้านอย่าดึกนักล่ะ น้องซิม”
“ค่ะแม่”
แล้วรถมินิคูปเปอร์สีดำของแม่ก็ขับจากไป... ฉันยืนนิ่งอยู่หน้าประตูโรงเรียนก่อนจะหันไปมองซ้าย....มองขวา
“โตป่านนี้ยังให้แม่มาส่งอีก ก๊าก ๆ”
“นั่นน่ะสิ คุณหนูเกินไปแล้วมั้ง กุ๊ก ๆ”
ไอ้เด็กรุ่นน้องร่วมสถาบันสองคนนั้นหัวเราะคิกคักแล้วก็เดินเข้าโรงเรียนไป หนวกหูชะมัด....ยายแมลงหวี่ตอมอึทั้งสองตัว เชอะ...คนเรามีแม่มาเอาใจใส่ ผิดด้วยหรือไงยะ?
เฮ้อ! จริง ๆ ฉันก็แอบเซ็งเหมือนกัน -_-“...อยากจะไปโรงเรียนเอง...แต่แม่ก็เป็นห่วงฉันกลัวหนุ่มเอกบุรุษจะมาจีบ (แหวะ)...เปล่าหรอก กลัวฉันจะสลบน่ะสิ ยังดีนะ...ที่แม่ให้ฉันกลับเอง เพราะแม่ติดงานมารับไม่ได้น่ะสิ...
ฉันไหว้อาจารย์ที่ยืนหน้าประตูแล้วก้มหน้าก้มตาเดินเข้าไป... พอถึงตึกเรียนก็ค่อยถอดรองเท้าออก...ไอ้ตอนกำลังถอดก็ก้มมองไม่สนอะไร จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกผลักให้ล้มคว่ำคะมำหงาย....ใครฟะ?
“เดินประสาอะไร? ไม่ดูตาม้าตาเรือ”
ยัยเย็นตาโฟ ทอมหน้าหมวยห้องดีลุกขึ้นมาด่าฉัน งะ....เดิน? O_o เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? ฉันยืนถอดรองเท้าอยู่นะยะ...ใครมาชนใครมิทราบ?
“ยังจะมาทำหน้าเอ๋ออีก...ไม่รู้จักการขอโทษหรือไง? หรือว่าเก่งแต่อ้อนแม่อย่างเดียว? ว่าไง? ยัยเฉิ่ม”
“.....................”
กรอด! .>.<
ฉันกัดฟันแน่น โทษฉันไม่พอ ยังว่าฉันว่าหน้าเอ๋อ...หาว่าไม่รู้จักขอโทษ หาว่าเก่งแต่อ้อนแม่...เรียกฉันว่ายัยเฉิ่ม...หืม...มันน่านัก ยายทอมปากปลาร้า....
“เอาเถอะ ฉันจะถือว่าสิ่งอัศจรรย์ของโลกล้มใส่ตัวฉันแล้วกัน ฉันไม่อยากทำอะไรเดี๋ยวมรดกโลกจะบุบสลาย ...ไปละ”
“.....................”
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก...เป็นคำด่าที่ตลกแต่ฟังแล้วทนไม่ได้ ...ยัยทอมปากอัลเซเชี่ยน...ด่าเสร็จแล้วหนีเหรอ? ฉันยังไม่ได้ด่ากลับเลยนะ หยุดเดี๋ยวนี้...
เฮ้อ! ถึงยัยอัลเซเชี่ยนหยุดเดิน...ฉันก็คงไม่กล้าทำอะไร ทำได้ก็แค่ด่าในใจ...ทำไมฉันถึงโต้ตอบยัยบ้านั่นไม่ได้? ไม่สิ...ทำไมฉันไม่ด่ายัยนั่นไปบ้างนะ? ปากหนอปาก...มีไว้กัดฟันเป็นอย่างเดียวหรือไง?...เฮ้อ!
ฉันเดินคอตกขึ้นบันไดมาถึงห้องเรียน... (-_-) พอเงยหน้ามาก็เห็นเพื่อนซี้ของฉันเดินมา ยัยตัวกลม ๆ หน้าผากโหนก ๆ มีไฝกลางหน้าผากสำหรับส่งเรดาร์...นั่นแหละ...เก๋ไก๋...เพื่อนฉันเอง
“มาช้าไปสองนาทีครึ่งจากปกตินะ ซิมมิ”
เชื่อคุณเก๋เขาเลย..แค่สองนาทีกับอีกครึ่งก็ถือว่า....ช้า........แล้ว
“อ้าว! ทำไมทำหน้าเซ็งอย่างนั้นล่ะ? ฉันเห็นเธอเดินคอตกตั้งแต่ขึ้นบันไดมาแล้ว”
“เพิ่งโดนหมากัดมาน่ะ”
“หมากัด?...ตรงไหน? ต้องไปฉีดวัคซีนหรือเปล่า?”
ยัยพระอาทิตย์ดวงที่สองของจักรวาล (สังเกตจากหน้าผาก โอย! แสบตา) สำรวจทั่วตัวฉัน...ฉันเลยหัวเราะเบา ๆ
“ไม่โดนหรอก ฉันล้อเล่น...ฮ่า ๆ” ^O^
เก๋ไก๋ทำหน้างอนแต่ก็พูดต่อ
“แล้วตกลงเธอเป็นอะไรกันแน่?”
“ไม่เป็นอะไรหรอก ก็แค่รู้สึกเซ็งนิดหน่อย เออ...เมื่อวานฉันเอานิยายญี่ปุ่นนั่นไปคืนห้องสมุดแล้วนะ รู้มั้ยว่าโดนปรับไปยี่สิบบาทแน่ะ?”
“จริงเหรอ?...เสียดายตังค์แทนจัง”
“เออ...เหมือนกันแหละ...เออใช่ ฉันมีอีกเรื่องที่จะเล่าให้เธอฟัง”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
ฉันวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้แล้วนั่งลงนึกถึงเรื่องเมื่อวาน
“เอ่อ...เมื่อวานตอนฉันกลับ ฉันเจอผู้ชายคนนึง อายุก็ไล่ ๆ กับพวกเรา แต่งตัวก็...ไม่ใช่ชุดนักเรียนหรอกนะ เขาบาดเจ็บตรงป้ายรถเมล์ฝั่ง
นั้น...ฉันก็เลยช่วยเขา”
“เฮ้ย! ซิมมิ...เธอช่วยเขาแล้วไม่เป็นอะไรเหรอ?”
ยัยเก๋ไก๋ทำหน้างองูสองตัว  O.O ...ไม่ใช่แค่คนถาม คนเล่าก็เง็งไม่แพ้กันแหละ
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...ก็ยังสงสัยอยู่เนี่ย กะว่าเย็นนี้จะแวะไปเยี่ยมเขา...จะได้ถามเขาด้วย เผื่อเขาอาจจะช่วยฉันได้...เออ...เก๋ เธอช่วยไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ”
“ต้องดูก่อนว่าเขาหล่อมั้ย?”
เกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย? ไอ้หล่อไม่หล่อเนี่ย.... จริง ๆ ตอนนั้นฉันก็มองหน้าเขาไม่ชัดนักหรอก ก็หน้าเปื้อนเลือดขนาดนั้น แถมแถว ๆ นั้นก็มืดด้วย...เออ..แต่โกหกยัยเก๋ก็คงไม่เป็นไรหรอก ยัยเก๋จะได้ไปเป็นเพื่อนเรา เอิ๊ก ๆ...คิดแผนได้แยบยลซะเหลือเกิน
“หล่อสิ....หล่อมากถึงมากที่สุด หล่อประมาณ...เอ่อ....วอนบิน...เจอรี่....ติ๊ก เจษฎาภรณ์...เอ่อ...ใครอีกล่ะ?”
“พอแล้ว...เชื่อแล้วว่าหล่อ โอเค...ตกลงฉันไปเป็นเพื่อนเธอเอง”
กริ๊ง........ง........ง.............ง~~
“ซิมมิ ไปเข้าแถวกันเถอะ”
แล้วฉันกับซันนี่ก็วิ่งลงไปเข้าแถวพร้อมกัน เป็นไงล่ะ?...ซิมมิ ซันนี่...สองเพื่อนซี้ชื่อคล้ายกัน แต่ซิมมิน่ารักกว่า ฮ่า  ๆ.....>O<
A  N  T  I    M  A  L  E    E  F  F  E  C  T
ในที่สุดก็เลิกเรียน...วันนี้ฉันตัดใจจากกิจวัตรประจำวัน...ก็คือการเข้าห้องสมุด เพื่อไปเยี่ยมตาหน้าเลือดนั่นโดยเฉพาะนะเนี่ย...
ฉันกับซิมมินั่งรถเมล์ไปโรงพยาบาล...ตอนเดินเข้าไป รู้สึกยัยเก๋ไก๋จะตื่นเต้นเกินเหตุ อะไรเนี่ย? อาเจ๊...เว่อร์ไปมั้ย? ทำอย่างกับกำลังจะไปนัดดูตัวอย่างนั้นแหละ....
“เอ่อ...มาเยี่ยมผู้ป่วยค่ะ”
ฉันบอกกับพี่พยาบาลที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ พี่สุดสวยยิ้มให้ฉันแล้วถามกลับมาว่า
“ขอทราบชื่อผู้ป่วยหน่อยค่ะ”
“เอ่อ....เขาชื่อ.....”
ชื่ออะไร?...นั่นสิ ตอนนั้นไม่ได้ถาม ไม่ได้คิดจะถามด้วย...เพราะคิดว่าคงไม่เจอกันแล้ว...แล้วฉันจะเจอเขาได้ไงเนี่ย?....
“เอ่อ....ไม่รู้ชื่อเขาค่ะ แต่ว่าฉันเป็นคนพาเขามาที่โรงพยาบาลเองนะคะ เขาโดนทุบหัว แล้วเลือดก็ท่วมหน้าเลยอ่ะค่ะ”
พูดแล้วก็แสดงท่าประกอบ...แอบเห็นยัยเก๋ไก๋ทำหน้าสะอิดสะเอียน...เป็นไงล่ะ? การบรรยายอย่างออกรสของฉันทำยัยเก๋อินไปเลย เอ...หรือว่าเพื่อนฉันมันสะอิดสะเอียนกับความเว่อร์ของฉันฟะ?
“เดี๋ยว รอสักครู่นะคะ ขออนุญาตตรวจสอบก่อน”
“ค่ะ”
แล้วพี่พยาบาลสุดสวยก็หันหน้าเข้าคอมพิวเตอร์เหลือง ๆ เก่า ๆ... จู่ ๆ ยัยเก๋ไก๋ก็สะกิดฉัน
“นี่...เธอไม่ได้ถามชื่อเขาเหรอ?”
“เออ...ก็ตอนนั้นมันเร่งด่วน ฉันเองก็ยิ่งงง ๆ ที่ตัวเองไม่เป็นไร ก็เลยไม่ได้ถามน่ะสิ”
“อ๋อเหรอ?....”
ระหว่างที่กำลังรอพี่สุดสวยค้นข้อมูล...ก็แอบเห็นพยาบาลอีกคนคุยโทรศัพท์ โอ้โห! ร้องซะเสียงดังเชียว
“ผู้ป่วยอาละวาดเหรอ? จะหนีกลับให้ได้...โอเค ๆ เดี๋ยวจะไปช่วยนะ”
แล้วพี่พยาบาลคนนั้นก็เดินไปขึ้นบันไดเลื่อน...พอมองไปที่บันไดเลื่อนขาลง...ก็เห็นผู้ชายตัวสูง ๆ ใส่ชุดผู้ป่วยสีเขียวอ่อนวิ่งลงมา มีพยาบาลวิ่งตาม ยื้ดยุดกันสุดฤทธิ์...ตะโกนเย้ว ๆ ดังมาถึงเคาน์เตอร์
“ปล่อยฉัน ฉันจะกลับ”
“ไม่ได้นะคะ เรายังไม่ได้ล้างแผลให้คุณอีกรอบเลย”
นายโหวกเหวกนั่นสะบัดแขนแล้ววิ่งเข้ามาทำให้เห็นหน้าชัดขึ้น...พอซูมอินเข้าไปก็ถึงรู้ว่า...ตานั่นก็คือนายหน้าเลือดที่ฉันเพิ่งช่วยชีวิตเขามาเอง...
“อ๋อ! นั่นไง ผู้ชายที่ฉันช่วยไว้”
“แน่ใจเหรอ?...ซิมมิ”
ถามว่าแน่ใจหมายความว่าไง?...
ฉันถามในใจพร้อมกับหันไปมองยัยซันนี่...พี่แกทำหน้าอึ้ง...อะไรเนี่ย? ทำไมต้องอึ้งด้วยล่ะ?
“มีอะไรเหรอ? เก๋ไก๋”
“ซิมมิ ...ฉันมีข่าวร้ายจะมาบอก...”
“ข่าวร้ายอะไร?”
ยัยเก๋ไก๋ทำหน้าซีด ปากสั่นเป็นจังหวะฮาร์ดคอร์...
“ผู้ชายคนนั้นคือ...ฟง...ตัวอันตรายที่สุดของแก๊งค์ไรเฟิล อยู่ชั้นม.5 โรงเรียนเอกบุรุษศึกษาที่อาจารย์ขึ้นบัญชีดำ...เธอก็รู้จักเขาไม่ใช่เหรอ?”
ถูกต้องนะค้า...............น้อยคนที่จะไม่รู้จัก ตานั่นคือยากูซ่าในคราบนักเรียน เป็นลูกเศรษฐีแต่ทำตัวเถื่อนมาก ๆ...เคยถูกพาไปพบจิตแพทย์เพราะความห่าม...แต่สุดท้ายหมอต้องกลายเป็นโรคจิตซะเอง...ประวัติความเกเรโชกโชนจนใคร ๆ เอือมระอา ได้ยินอาจารย์เม้าส์ว่าย้ายโรงเรียนมาหลายครั้ง...และที่เอกบุรุษ...คือโรงเรียนที่เคราะห์ร้ายเป็นรายล่าสุด...
ฉันรู้จักนายนั่นจากคำบอกเล่าของคนอื่น...แง......TTOTT แต่รู้จักก็ใช่ว่าจะเคยเจอนี่นา...ซวยจริง ๆ เลย ไม่น่าไปช่วยตานั่นเลยง่ะ....
ฉันกับยัยเก๋ไก๋ยืนตัวทื่อ... (O_o) พยายามสะกดจิตเพ่งญาณให้นายฟงนั่นจำฉันไม่ได้ แล้วเดินผ่านไป...โอ้ว! ลุ้นเหลือเกิน ลุ้นจนต้องหลับทั้งยืน ( -_-“) ลุ้นจนต้องเหงื่อตก...โอมเพี้ยง! เดินผ่านไปเลย อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อาเมน....
“ก็ฉันไม่ทำ...อย่ามายุ่งได้มั้ย? เอ๋....”
อ๋อ! เขาเรียกคนชื่อเอ๋...ไม่เกี่ยวกับเรา...โอ้ว! ค่อยยังชั่ว...
“เธอ...เธอยัยเอ๋อ...ฉันจำได้...ฉันจำได้”
ฉันลืมตาขึ้น อะจ๊าก! .ตะ...ตะ...ตานั่น...ยืนชี้หน้าอยู่ตรงหน้าฉัน
ชะ....ชะ...ช่วย....ดะ...ดะ....ด้วย......
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น