ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Money Honey ...จูบกี่ครั้ง ขอให้เป็นเงิน....

    ลำดับตอนที่ #4 : บาทที่ 3 เงินไม่เข้าใครออกใคร (ขอโทษด้วยนะตาเบื๊อก!)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 48


                                                                                              - 3 -







    “นี่...ตื่นได้แล้ว นี่นายนาวิน”



    นาวินทำหน้ามุ่ย งัวเงียพูดอะไรไม่รู้เรื่อง คนหล่ออะไรขี้เซาชะมัด



    “ไม่เอา จะนอนต่อ อย่ามายุ่งได้ไหม?”



    “ตกลงนายจะไปเชียงรายหรือเปล่า? ไม่อย่างนั้นฉันไม่พานายไปละ”



    เขาสะดุ้งตื่นเหมือนถูกถีบก้นมาอย่างนั้น ฮิ ๆ รู้อย่างนี้ใช้ไม้นี้มาตั้งนานแล้ว....



    “รีบไปอาบน้ำซะ แล้วอย่าใช้น้ำเปลืองล่ะ”



    เขาดูโซเซเข้าไป สักพักก็ออกมา หน้าตาดูสดชื่นขึ้นแยะ



    “ทำไมตาเธอถึงคล้ำเหมือนหมีแพนด้าเลยล่ะ?”



    ฉันหยิบกระจกขึ้นมาดู แง.....จริง ๆ ด้วย ดวงตากลมโตสุดสวยของฉันต้องดำคล้ำก็เพราะว่านายนั่นแหละ ฉันต้องคอยระแวงว่านายจะทำมิดี

    มิร้ายกับฉัน เหมือนตัวร้ายลักหลับนางเอกผู้อาภัพในละครหลังข่าว อยู่ดี ๆ ก็เผลอหลับไป มาตื่นอีกทีก็เพราะเสียงกรนของนายอีกนั่นแหละ นี่ฉันคิดถูกไหมเนี่ย? ที่พานายมาอยู่ที่นี่ด้วย



    ฉันบ่นอุบอิบ เขาจึงขยับหน้าเข้ามาใกล้



    “บ่นอะไร? เหมือนยายแก่แร้งทึ้งเลย”



    หน็อย! คนผีทะเล ยังมาหาว่าฉันเป็น ยายแก่แร้งทึ้งอีก ปากร้ายชะมัด ถ้าไม่เห็นแก่เงิน ฉันจับนายฆ่ายัดโถส้วมไปนานละ หืม....อดทนไว้ ยายเพียว ทนไว้ เงินล้าน....จำไว้ อดทนไว้น้อง



    “จะไปหรือยังล่ะ?”



    ฉันกระแทกเสียงใส่เขา นายนั่นหันมาทำหน้างง



    “ไปไหน? ไปเชียงรายหรอ?”



    “ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกย่ะ นายต้องไปเบิกเงินให้ฉันก่อน”



    “เรื่องมากชะมัด”



    เขาทำปากเบี้ยว แต่ก็ยอมทำตาม เชอะ....ไม่กล้าหือล่ะสิ



    เรานั่งแท็กซี่จนไปถึงธนาคาร พอถึงเขาก็ทำท่าลุกลี้ลุกลนเหมอนเจ้ามือบ่อนหนีตำรวจ



    “กลัวพ่อนายจะเห็นหรือไง?”



    “ก็ใช่น่ะสิ พ่อฉันเป็นคนกว้างขวาง ถ้าไม่รีบออกจากกรุงเทพ มีหวังจะต้องเจอพวกของพ่อสักวันแน่ ๆ”



    “นายก็รีบเข้าไปเบิกเงินสิ จะได้ไปจากที่นี่เร็ว ๆ ไปสิ”



    ฉันผลักอีตานาวินเข้าไปในธนาคาร พอเห็นนายนั่นเข้าไป ฉันก็รีบขวักมือเรียกแท็กซี่.....



    จะได้เตรียมหนีทัน....หุหุ



    รอสักพัก นาวินก็กลับมาพร้อมกับซองเงินสีน้ำตาลขนาดใหญ่ เห็นแล้ว...แทบอยากจะกระโดดเตะก้านคอตัวเองสักสิบแปดรอบ นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? โอ้! พระเจ้าช่วย กล้วยปิ้ง....



    “เรียกแท็กซี่ไว้แล้วหรอ?”



    “ใช่….”



    ฉันยิ้มอย่างจริงใจมากถึงมากที่สุด ไม่เคยจริงใจไก่กาขนาดนี้มาก่อน



    “ส่งเงินมาให้ฉันสิ”



    เขาส่งเงินให้ฉันทันที ฉันรีบรับมากอดไว้กับอกเพื่อความอุ่นใจ



    “ไปได้หรือยังล่ะ?”



    “ได้สิ...เอ๊ะ....นี่....นั่น....โน่น พ่อนายเดินมาน่ะ”



    ฉันชี้พร้อมกับตะโกนเสียงดัง นายนั่นรีบหันไปมอง ฮ่า ๆ โง่ชะมัด หลอกแค่นี้ก็เชื่อแล้วหรอ? วู้ว....

    ฉันใช้โอกาสที่เขาหันรีหันขวาง กระโดดขึ้นรถแท็กซี่ปุ๊บ....ปิดประตูปั๊บ



    “ออกรถเลย ลูกพี่”



    รถวิ่งออกทันที พอหันไปมองด้านหลัง เห็นนายนาวินใช้พลกำลังร้อยแรงไส้เดือนวิ่งตาม โธ่! ดูท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเชียว



    “อย่าโทษฉันเลยนะ นาวิน นายมันโง่เองที่เชื่อใจคนอย่างฉัน คิดว่าฉันจะกระเตงนายไปด้วยหรือยะ? ไม่มีทางหรอก นายซื่อบื้อ....วู้ว”



    ฉันส่งจูบพร้อมกับโบกมือ เห็นนายนั่นหกล้มหน้าคะมำพื้นต่อหน้าต่อตา แล้วยิ่งทำให้อยากร้องก๊าก....พอเปิดซองเงินดู โอ้โห...เงินทั้งนั้น ....แกรวยแล้ว ยายเพียวเอ๋ย ฮือ ๆ แง เฮ้ย!....ร้องไห้ทำไม? ต้องดีใจสิ ดีใจจังฮู้...



    “น้องสาวจ๊ะ ตกลงจะไปไหนมิทราบ?”



    “ไปสถานีรถไฟค่ะ”



    ***************************************



    พอลงจากรถแท็กซี่ ฉันก็รีบวิ่งไปซื้อตั๋วรถไฟ เฮ้อ! เกือบจะกระโดดขึ้นรถไฟไม่ทัน อืม....คิดไปถึงนายนาวิน ป่านนี้เขาจะเป็นอย่างไรนะ? อาจไม่รู้จะไปไหน กลับไปซบอกพ่อเขาก็ได้ หรือไม่ก็เตร็ดเตร่พเนจร ฮึ....สมน้ำหน้า บังอาจให้เราวิ่งวุ่นตามหานายทั้งวัน สมควรแล้ว อีตาบ้า



    เอ๊ะ! นายนั่นจะหัวหมอ แจ้งตำรวจไหมหว่า? โอมเพี้ยง....ขอให้นายนั่นใจกว้าง ๆ ไม่คิดเล็กคิดน้อย(หรือว่ามาก?) อย่างนั้นหรอก ตอนนี้เรามาคิดดีกว่า ว่าเราจะเอาเงินล้านไปทำอะไรดี?



    ไปเที่ยวเมืองดีไหม?



    ซื้อบ้านสักหลังก็ไม่เลวนะ เอารถสักคัน ไว้ขับโฉบไปโฉบมาเล่น...แต่ต้องไปฝึกขับรถก่อน โทรศัพท์มือถือด้วย



    เอ....ไม่ดีกว่า กว่าเราจะได้เงินก็แทบจะเอาตัวไม่รอด ขืนเอาไปใช้ อาจทำให้ใคร ๆ สงสัย คิดว่าเป็นเงินสกปรก (ซึ่งก็จริง เพราะว่าขโมยมา เหอ ๆ)



    เพราะฉะนั้น เก็บไว้ดีกว่า เอาไว้ใช้ยามจำเป็น....



    พอรถไฟจอดเทียบชานชาลา ฉันก็รีบจ้ำอ้าวออกไปสูดอากาศบ้านเกิดที่แสนจะคิดถึงคะนึงหา อ้อ....ลืมบอกไป ฉันกลับมานครปฐม บ้านเกิดของฉันเอง ฉันไม่ได้กลับมาที่นี่ห้าปีละ ไม่รู้ว่าที่นี่เปลี่ยนไปแค่ไหน? แต่ว่า....ไอ้ที่เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็คือ



    ฟุดฟิด ฟุดฟิด กลิ่นขี้หมู ตุตุนี่ ไม่เคยเลยที่จะพัฒนา.... แหวะ! อยากจะอ๊วก



    แต่ช่างเถอะ....ถ้าไม่ได้กลิ่นขี้หมู ก็เหมือนมาไม่ถึงนครปฐม เพราะฉะนั้น จงสูดให้เต็มปอดไว้ ซืด.....หอมจัง



    ฉันขึ้นรถประจำทางหรือที่คนแถวนี้เรียกว่า “เมล์เครื่อง” พอถึงกระต๊อบน้อยกลอยใจตั้งตระหง่านกลางสวนมะม่วง ฉันก็รีบลงจากรถมา โอ้! มาย เสลด โฮม ในที่สุด ฉันก็มีโอกาสกลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้ง ฉันกอดซองเงินที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ติดตัวมาย่องเข้าไปในบ้าน ใช้พลังเสียงสุดเพราะพริ้งตะโกน......



    “ทุกคน เพียวกลับมาแล้วค่ะ”



    เงียบ....ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากหมายเลขที่ท่านเรียก



    แง....ทุกคนหายไปไหนกันหมดเนี่ย?



    “ลูกแม่”



    แม่เรียกใครวะ?...อ้อ เรานี่หว่า แม่วิ่งมาหาฉันพร้อมกระโดดกอดฉัน...



    อัก....รู้สึกเหมือนช้างแมมมอสทั้งตัวล้มทับ พอจ้องหน้าถึงรู้ว่าคือแม่ เฮ้อ!..... แม่ไม่เคยรู้ตัวเลยว่ารูปร่างของแม่เพียวระหงแค่ไหน?... ทุกครั้งที่แม่ดีใจ แม่ก็มักจะแสดงออกเช่นนี้....ทุกคนในบ้านจึงเหมือนกระสอบทรายเคลื่อนที่ ที่ต้องทนแรงอันมหาศาลของแม่ได้



    “แม่ หนูหนักอ่ะ”



    “อ้อ....ขอโทษจ้ะ ลูกแม่”



    แม่กระโดดออกจากตัวฉัน ค่อยยังชั่วหน่อย เสร็จแล้วแม่ก็ตบหลังฉันด้วยฝ่ามืออรหันต์ที่แสนจะนุ่มนวล (ประชด)



    อัก....อัก



    “ไปไงมาไงลูก ทำไมไม่บอกแม่ล่วงหน้า แม่จะได้ไปรับที่สถานีรถไฟ”



    “หนูอยากทำให้แม่แปลกใจคะ”



    “อย่าเพิ่งพูดเลย เข้าไปในบ้านก่อนเถอะลูก”



    แม่ผลักฉันด้วยแรงอันน้อยนิดเข้าไปในบ้าน เห็นพ่อกำลังดื่มวิสกี้ ไอ้พอล น้องชายของฉัน นั่งคุยโทรศัพท์มือถือ ในบ้านเปิดไฟทุกดวง แอร์เย็นฉ่ำ



    นี่มันอะไรกันเนี่ย? ไหนบอกว่าที่บ้านลำบากมากไงล่ะ? ทำไมถึงได้อยู่กันอย่างหรูหราอย่างนี้? ไอ้เราก็หาเงินแทบแย่....



    “อ้าว! พี่เพียว กลับมาแล้วหรอ? กลับมาก็ดีแล้ว ขอตังค์ซื้อบัตรเติมเงินมือถือหน่อยสิ”



    “แม่ด้วย มือถือแม่ก็เงินหมดเหมือนกัน ไหนจะค่าผ่อนทีวีเครื่องใหม่ แอร์อีก แล้วก็ยังเก้าอี้นวดไฟฟ้าที่เพิ่งถอยมาเมื่อวานนี้”



    “พี่เพียว ผมอยากได้มือถือรุ่นใหม่แล้ว เอาแบบมีบลูทูธด้วย พี่เพียวขอเงินหน่อยสิ”



    ยังจะอยากได้เครื่องใหม่....เครื่องเก่าฉันยังไม่เคลียร์กับแกเลยนะ



    “แล้วเครื่องเก่าแกเอาเงินไปซื้อมือถือเครื่องนี้จากไหนล่ะ?”



    “ก็ค่าเทอมที่พี่ส่งให้เมื่อปีที่แล้วไง”



    ค่าเทอม....ไอ้พอล....แก.....ไอ้น้องที่แสนดีของฉัน มันเอาเงินที่ฉันหาอย่างยากลำบากเพื่อเป็นค่าเทอม ไปซื้อมือถือหมด หืม....

    “แล้วนั่นซองที่แกถือมาคืออะไรล่ะ?”



    พ่อถามฉัน นาน ๆ ทีพ่อจะพูดสักครั้ง ที่พ่อถามแสดงว่าอยากรู้จริง ๆ  แต่เอ้ย....ไม่ได้ บอกไม่ได้เด็ดขาด ขืนบอกมีหวังเงินหมดภายในวันนี้แน่ ๆ เลย



    “เอ่อ....ซองเอกสารจ้ะ ไม่มีอะไรหรอก”



    “แล้วเพียวกลับมา ไม่มีกระเป๋าเสื้อผ้าหรอลูก?”



    “หนูทำหายไปนะคะ”



    เหตุผลทุ.....ที่สุด ยายเพียวเอ๋ย....สมองแกคิดเหตุผลได้แค่นี้รึ?



    “หายไป...อืม ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวซื้อใหม่ก็ได้ ช่วงนี้ ชาแนลกำลังลดราคาอยู่ ไว้วันไหนลูกก็ลองไปดู ๆ เอาละกันนะ หรือว่าเพียวจะเอาคอลเลคชั่นใหม่?”



    โอ้โห....แม่ยุคใหม่ของเรา รสนิยมหรูเลิศอลังการดาวสิบดวงมาก ไม่ล่ะ....เราจะไม่ใช้เงินนี้เด็ดขาด ถ้าใช้ แม่ก็ต้องรู้ และเงินก็ต้องหมดลงในที่สุด เราจะเก็บเงินไว้ใช้ยามจำเป็นที่สุด



    “ไม่ดีกว่า เดี๋ยวหนูขอตัวก่อนนะคะ”



    ฉันวิ่งออกไปตั้งสติข้างนอก นี่เราจะเอายังไงดีหว่า? ฝากธนาคารก็ไม่ดี ตำรวจอาจสงสัยเราก็ได้



    เอาวะ...ยายเพียวเอ๋ย ฝังมันแถว ๆ นี้แล้วกัน ฉันมองรอบ ๆ ดูว่าไม่มีใครแล้ว หาจอบที่อยู่ใกล้ ๆ มือ ขุดดิน แล้วก็โยนถุงเงินลงไป เอ๊ะ! ปลวกมอดจะมากินเงินเราไหมเนี่ย? ไม่หรอก...เราแค่ฝากไว้ หาที่เหมาะ ๆ ได้แล้วค่อยขุดมันขึ้นมาก็แล้วกัน



    เอาล่ะ....เรียบร้อย พรุ่งนี้ค่อยมาคิดกันว่าเราจะทำยังไงกับเงินนี่ดี



    ************************************/*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×