ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 กระต่ายน่ารักในสายตาคนอื่น
                                                                                                    - 3 -
หลังจากแนะนำตัวแบบฉันไม่อยากรู้จักด้วยแล้ว คุณยายก็สั่งให้ฉันพานายนั่นไปดูห้องนอน ที่จริง ๆ จัดไว้สำหรับแขก...ไปถึง เขาก็โวยวาย
“อะไรเนี่ย? ห้องเล็กแค่นี้ให้ฉันอยู่เหรอ? ไม่มีอะไรเลยนอกจากตู้ เตียง...คอมพิวเตอร์ให้ฉันก็ไม่มี โฮมเธียเตอร์ก็ไม่มีอีก”
“มาอยู่บ้านคนอื่นแล้วยังทำตัวเรื่องมาก ทำไมไม่กลับไปบ้านนายซะล่ะ?”
“ว่าไงนะ?”
นายนั่นโยนกระเป๋าเดินทางลงกับพื้น หันมาเท้าสะเอวจ้องหน้าฉัน
“ว่าไง? ป้า...ป้าพูดว่าอะไรนะ?”
ป้า?...ตานั่นเรียกฉันว่า
“นี่...นายเรียกฉันว่าอะไรนะ?”
“ก็เรียกว่าป้าน่ะสิ ใส่แว่นอย่างนี้ หน้าแก่ ๆ ขี้บ่นอย่างนี้ก็ต้องป้าอยู่แล้ว”
กรี๊ด! หาว่าฉันหน้าแก่...ขี้บ่น เรียกฉันว่าป้างั้นเหรอ?
“นี่...ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนายนะ ถึงฉันจะอายุมากกว่านายแค่สองปี แต่นายก็ควรมีความเคารพบ้าง”
“ก็นี่ไง เคารพแล้ว...อุตส่าห์เรียกว่าป้ายังหาว่าไม่เคารพอีกเหรอ?”
ตานั่นทิ้งตัวลงนอนบนเตียง...แอ่นก้นมาทางฉัน ยียวนกวนประสาทที่สุด ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นเด็กดี แต่ต่อหน้าฉันช่างกวนโอ๊ยซะไม่มี
“นี่นาย....”
“ออกไปได้แล้วไป...หนวกหู คนยิ่งง่วง ๆ อยู่ เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ ยุงก็กัดเจ็บชะมัด...ปิดไฟให้ด้วยนะ”
“นี่นาย...นายกล้าดียังไงถึง...”
“Zzz Zzz Zzz .”
ไร้คำบรรยาย เลยต้องออกมาจากห้องนั้นเอาง่าย ๆ..งงค่ะ แขกไม่ได้รับเชิญไล่เจ้าของบ้านออกจากห้อง แถมสั่งให้ปิดไฟอีก...
กรี๊ด! เจ็บใจที่สุด...ทำไมฉันถึงยอมให้ตานั่นมาสั่งฉัน? ย้าก! นี่ฉันจะต้องทนกับไอ้เด็กเวรนี่ไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย?
กิ๊กก๊อก...กิ๊กก๊อก...ตื่นได้แล้ว เอ้า! เฮฮา...
โอย....จะปลุกฉันทำไมเนี่ย? วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่เหรอ? เป็นวันหยุดของฉันนะ...
หือ?....จริงสิ วันนี้ฉันนัดกับเพื่อน ๆ จะไปติวกันนี่นา ตายแล้ว...เกือบลืมไปแล้วไงล่ะ
ฉันสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาพับผ้าห่ม จัดการอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบออกจากห้อง พอลงมาชั้นล่างก็เห็นนายเวย์นกำลังลูบเจ้าเป๋าเป่าอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ...
เป๋าเป่าของฉัน...ไม่นะ...
“อย่ามายุ่งกับเป๋าเป่านะ”
ฉันแย่งกระต่ายไปจากมือเขา จู่ ๆ นายนั่นก็หัวเราะก๊าก
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ชื่อว่าอะไรนะ? เป๋าเป่าเหรอ?...ชื่อปัญญาอ่อนชะมัด ไม่มีชื่ออื่นให้ตั้งแล้วเหรอ?”
กรี๊ด! หาว่าชื่อเป๋าเป่าของฉันปัญญาอ่อนอีก... ชื่อออกจะน่ารักน่าชัง ใคร ๆ ก็ชมกันทั้งนั้น
“นายน่ะแหละ ปัญญาอ่อน...ติงต๊อง... อย่ามายุ่งกับกระต่ายฉันอีก เข้าใจมั้ย?”
พูดไปพร้อมกับทำตาดุใส่ ให้เป๋าเป่าอยู่แถวนี้ไม่ได้ ไม่ปลอดภัย...ฉันเลยจับเป๋าเป่าใส่กรงแล้วหิ้วไปไว้ในห้องนอน
“อยู่นี่นะเป๋าเป่า...ไอ้โรคจิตนั่นจะได้ไม่มายุ่งกับลูกอีก”
เอ...จริงสิ นายนั่นมันโรคจิต มานอนบ้านเราจะทำข้าวของเสียหายมั้ยเนี่ย?...ไม่น่าไว้ใจแฮะ ลองไปแอบดูดีกว่า
ฉันรีบเข้าไปดูห้องนอนของตานั่น ผิดคาด...ข้าวของไม่ได้เสียหาย แต่ว่า... นี่...นี่มันห้องนอนหรือห้องขยะกันแน่เนี่ย? ขยะเกลื่อนไปหมด ผ้าห่มก็ไม่พับ หมอนกระเด็นไปอยู่ปลายเตียง รอยฝ่าเท้าเปื้อนเต็มไปหมด แล้วยังจะกางเกงในม้วนเป็นเลขแปดกองอยู่ที่ปลายเท้าฉัน
แว้ก! น่าเกลียดที่สุด...แหวะ อี๋!
“นี่ ไอ้เด็กเวร”
ฉันลงบันไดตรงเข้ามาเอาเรื่องนายนั่น ตานั่นเอาขาที่พาดบนโต๊ะกลางลง ทำหน้าจะเอาเรื่องฉันเหมือนกัน
“นี่...ป้าเรียกฉันว่าไงนะ?”
“ก็ไอ้เด็กเวรน่ะสิ”
“นี่...ฉันชื่อเวย์นนะ เรียกฉันให้ดี ๆ หน่อย”
“ทำไมฉันต้องเรียกนายดี ๆ ด้วย? ก็ทีนายยังเรียกฉันว่าป้าเลย...นี่ ไม่ต้องมาชวนทะเลาะเรื่องอื่น นายทำอะไรไว้ในห้อง มาอยู่บ้านคนอื่นแล้วทำเลอะเทอะอย่างนี้ได้ไง หัดเกรงใจคนทำความสะอาดบ้างเด่ะ”
“ใครคือคนทำความสะอาด? อย่าบอกนะว่าป้า...ฮ่า ๆ ยิ่งไม่ต้องเกรงใจใหญ่เลย หน้าที่รักษาความสะอาดเป็นหน้าที่ของป้าอยู่แล้ว ทำไมฉันต้องเกรงใจด้วย?”
“เออ...มันเป็นหน้าที่ฉัน แต่ฉันจะไม่ทำ ฉันจะให้นายทำ...ไปเลยนะ รีบไปทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง”
ฉันตวาดใส่ แต่ตานั่นยังทำหน้าระรื่น เรียกคุณยายเสียงดังลั่น
“คุณยายครับ คุณยาย”
คุณยายเข้ามาในบ้าน ถือกระถางกล้วยไม้มาด้วย
“อะไรเหรอ? เวย์น”
“พี่ตูนเค้าว่าผมครับ...เค้ารังแกผม”
อ้าว! เฮ้ย! ไหงมาหาว่าฉันรังแก...ฉันไปรังแกนายตอนไหนมิทราบ?
“ตูน ตูนรังแกน้องทำไมล่ะลูก?”
“เปล่านะคะ หนูยังไม่ทันรังแกเลย หนูแค่ให้ไอ้หมอนี่ไปทำความสะอาดห้องตัวเอง เขาทำห้องซะเลอะเทอะเลยนะคะคุณยาย”
“คุณยายครับ” นายนั่นเขย่าแขนคุณยายใหญ่ “ผมไม่ได้ตั้งใจทำนะครับ คุณยายเข้าใจผมใช่มั้ยครับ? ว่าผมน่ะเป็นผู้ชาย...เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ห้องจะรกน่ะ”
“ใครว่าธรรมดา? ห้องนายน่ะดับเบิ้ลรกเลย...สกปรกสุดๆ นายทำ นายก็ต้องไปเก็บกวาดเอง ไม่ถูกหรือไง?”
“คุณยายครับ” อ้อนระลอกสอง “ผมเป็นผู้ชาย จะให้ผมไปทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไงครับ...ผมไม่ถนัดเอาซะเลยนะครับ เกิดผมไม่ระวังทำข้าวของเสียหายขึ้นมา เดี๋ยวพี่ตูนก็โทษผมอีก”
“นี่นาย...”
“ตูน...อย่าไปว่าน้องเลยนะ น้องเค้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ห้องมันรกหรอก ไหน ๆ มันก็รกแล้วก็อย่าไปว่าน้องเลย”
“หนูไม่ว่าเขาก็ได้ค่ะ...แต่ต้องให้เขาทำความสะอาดเอง”
“คุณยาย” เขย่าแขนปล่อยลูกอ้อนระลอกสาม เห็นแล้วมันน่าตบบ้องหูที่สุด
“ตูน...ปกติตูนก็ดูแลบ้านเราอยู่แล้ว ตูนก็ทำให้น้องหน่อยไม่ได้เหรอลูก?”
“...”
ฮึก...ฮือ... ทำไม? ทำไมกัน? ทำไมคุณยายถึงได้ลำเอียงอย่างนี้นะ? นายนั่นเป็นผู้ชายแล้วไงกัน? จะทำอะไรไม่เป็นเลยหรือไงล่ะ? อย่างนี้มันข่มเหงสตรีกันชัด ๆ ...ที่สำคัญ เพราะคุณยายเห็นหลานคนใหม่สำคัญกว่าฉัน...อะไร ๆ นายนี่ก็ถูกซะหมด นายนั่นทำห้องเละก็ให้ฉันเป็นคนทำความสะอาดอีก...ฮือ ๆ ไม่ยุติธรรมเอาซะเลยง่ะ
“หนูไปมหาลัยก่อนนะคะ”
อยู่ไปก็อารมณ์เสีย...เห็นคุณยายเอาอกเอาใจตานั่นแล้วเครียด ฮึ! ปกป้องกันเข้าไป ปล่อยให้ฉันหัวเน่าอย่างนี้ต่อไปเลย ฮึก...ฮือ...น้อยใจจริง ๆ
ฉันเดินตึงตังออกมานอกบ้าน กำลังปิดประตูก็เห็นอะไรเหลือง ๆ กองอยู่ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก....ภูเขาทองขนาดย่อม ส่องแสงเรืองรองมาแต่ไกล... จากกลิ่นและความชุ่มชื้น คาดว่ามันน่าจะเพิ่งถูกกองไว้เมื่อไม่นาน...
ย๊าก! ต้องเป็นฝีมือไอ้หมาโกลเด้นของยัยสตรอเบอรี่แน่ ๆ
ฉันเดินข้ามถนนเล็ก ๆ ไปที่บ้านที่อยู่ตรงข้าม
“ยัยสะตอ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
เสียงเย้ว ๆ ของฉันคงจะดังมาก ยัยสะตอเลยเดินหน้ามุ่ยออกมาจากบ้าน
“นี่...พี่ตูน พี่มาตะโกนเสียงดังทำไม? หนวกหูชะมัด”
“หล่อนทำอะไรไว้น่าจะรู้แก่ใจ พาหมาไปอึหน้าบ้านฉันอีกแล้วใช่มั้ย?”
จากหน้าบึ้งเป็นหน้ายิ้มแบบเยาะ ๆ กวนโอ๊ย... แล้วพี่แกยังอุตส่าห์ไม่ยอมรับอีก
“อย่ามากล่าวหากันอย่างนี้นะ พี่ตูน... มีหลักฐานหรือไง? บ้านอื่นเค้าก็มีหมาเหมือนกันนี่นา ทำไมไม่ไปว่าเขาล่ะ?”
“คนอื่นเค้ามีหมา แต่หมากับเจ้านายไม่โรคจิตเหมือนหล่อนนี่...สนามหญ้าข้างนอกมีไม่พาไปอึ ต้องมาอึหน้าบ้านฉัน”
“จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะนะ...แต่ฉันบอกไว้ก่อนว่าไม่ได้ทำ”
แล้วยัยนั่นก็กลับเข้าบ้านไป เห็นแล้วมันชวนอารมณ์เสียชะมัด...  วันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดอีกวัน เจอคนโรคจิตพร้อมกันถึงสองคน แถมทั้งสองคนอายุไล่ ๆ กันอีก... ย๊าก! ทำไมชีวิตฉันมันช่างบัดซบขนาดนี้นะ?
มาถึงมหาลัยก็เอาตอนเที่ยง ป่านนี้เพื่อน ๆ คงเริ่มติวกันแล้ว...วันนี้อารมณ์บูดแต่เช้า ชักขี้เกียจไปนั่งฟังแล้วสิ เฮ้อ!
ฉันเดินไปที่ล็อคเกอร์...เปิดออกมาก็จ๊ะเอ๋กับจดหมายสีแดงตามเคย
ก่อนอ่านอย่าลืมยิ้มนะ
เห็นคุณหน้าบูดตั้งแต่เช้า มีเรื่องอะไรให้วุ่นวายใจเหรอ? อย่าไปเครียดนักเลย เครียดมากระวังแก่นะ...แล้วอย่ามัวแต่อู้...รีบ ๆ ไปติวกับเพื่อนเถอะ ผมเป็นห่วงคุณอยู่เสมอนะครับ
ตาหวานอีกครั้งปิดท้ายด้วยนะครับ
นายจดหมายสีแดง
เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกดีจังเลย อย่างน้อยวันนี้ก็มีคนที่ทำให้เราสบายใจ...ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใครก็เถอะ
สัญญาจ้ะ...ว่าจะไปติวกับเพื่อน โฮะ ๆ ไปดีกว่า...
“อรุณสวัสดิ์เป๋าเป่า...ไงจ๊ะ? ลูกรักของแม่ กินเยอะ ๆ นะ จะได้โตไว ๆ”
ฉันยื่นผักบุ้งให้กระต่ายกิน เห็นมันแทะแล้วอดภูมิใจไม่ได้...เสร็จแล้วก็เข้าไปอาบน้ำแปรงฟัน เรียบร้อยแล้วก็ออกมาข้างนอกห้อง ได้ยินเสียงคุณยายคุยกับไอ้เด็กเวรดังมาถึงชั้นบน
“เวย์นนี่น่ารักจริง ๆ น่ารักเหมือนกระต่ายไม่มีผิด....”
ฮึ! กระต่าย...อย่างนายนั่นนะเหรอ? น่ารักเหมือนกระต่าย สายตาคุณยายต้องผิดปกติแน่ ๆ เลย ถึงนายนั่นจะเหมือนกระต่าย แต่ก็คงเป็นกระต่ายเจ้าเล่ห์...ที่สามารถออกล่าเหยื่อเพื่อผสมพันธุ์ได้ตลอดเวลา ก็ดูสิ...ตานั่นหื่นออกซะขนาดนั้น
กำลังจะเดินลงบันได พอดีผ่านห้องของนายเวย์น...นึกขึ้นได้ว่านายนั่นทำห้องเลอะเทอะไว้ ไอ้ฉันมันก็พวกรักความสะอาดซะด้วยสิ ทนเห็นบ้านตัวเองเละเทะไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้...
เอาวะ...ไปทำซะหน่อย แต่ไม่ได้ทำเพื่อนายนั่นนะ ทำเพื่อบ้านฉันต่างหาก
ฉันลงไปหยิบเครื่องดูดฝุ่นกับถังน้ำจากห้องซักล้าง ขึ้นมาต่ออุปกรณ์แล้วจัดแจงดูดฝุ่น แค่วันสองวันยังเละเทะได้ขนาดนี้...แล้วถ้านายนี่อยู่เป็นปี ไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้เหรอเนี่ย?...
“ทำอะไรอ่ะ?”
พอหันไปมองก็เห็นตานั่นยืนกอดอกพิงขอบประตู ขี้เกียจสนใจ...ทำต่อดีกว่า
“เออ...ตรงนั้นด้วย ข้างใต้เตียงนี่สกปรกมาก ฝุ่นหนาเป็นนิ้วเลยนะ เอาซองขนมนั่นไปทิ้งด้วย อ้อ! ช่วยเอากางเกงในฉันไปซักด้วยก็ดี หลายวันละ”
ฉันเงยหน้ามองนายเวรกรรมนั่งขัดสมาธิบนเตียง ชี้นิ้วสั่งอย่างฉันเป็นคนใช้....
กรอด! เอาอีกแล้ว...กวนประสาทฉันไม่เคยคิดหยุดพัก
“จ้องหน้าทำไม? ไม่พอใจอะไรอีกล่ะ?”
“ออกไปข้างนอกเลยไป ก่อนที่ฉันจะโมโหมากกว่านี้”
พูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ประตู...ตานั่นก็ยังกวนอารมณ์ได้ไม่เลิก
“โอ๊ะ! เดือดล่ะสิ...น่ากลัวจังเยย...ไม่เคยเจออะไรที่สยองขนาดนี้มาก่อน เจอคุณป้ามหาภัยอารมณ์เสียงี้ ขนลุกเกรียวเชียว”
“ออกไปเดี๋ยวนี้”
คว้าไม้ถูพื้นมาไล่ตี แต่นายนั่นก็ยังระรื่นไม่เลิก แต่จู่ ๆ เขาก็แย่งไม้ถูกพื้นไปจากมือฉันแล้วเอามาถูพื้นเฉย
“มาครับ เดี๋ยวผมช่วย...ห้องนี้สกปรกจริง ๆ นะครับเนี่ย”
“???”
เล่นเอางงไปหลายสิบวินาที พอหันไปมองที่ประตูก็ค่อยเก็ท ที่แท้ก็เป็นแผนกลบเกลื่อนต่อหน้าคุณยายของนายตัวแสบนี่เอง ชิ! ทำเป็นคนดีมีวินัย...น่าหมั่นไส้ที่สุด
“อ้าว! คุณยาย มีอะไรหรือครับ?”
ทำเป็นตกใจ...ตัวเองรู้ว่าคุณยายมาตั้งนานแล้ว ไม่งั้นจะตีบทพระเอกผู้แสนดีได้เหรอ
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ยายกำลังชื่นใจที่เห็นสองคนช่วยกัน ยายไปก่อนนะ”
“คร้าบ...คุณยาย”
พอพ้นสายตาคุณยาย ตานั่นก็เริ่มออกลาย
“เอาไม้กระบองของป้าไป...ไปดีกว่า”
พูดจบก็เดินออกไปเฉย ๆ เห็นแล้วมันน่าเอาไม้ถูพื้นทิ่มตาชะมัด...
หลังจากแนะนำตัวแบบฉันไม่อยากรู้จักด้วยแล้ว คุณยายก็สั่งให้ฉันพานายนั่นไปดูห้องนอน ที่จริง ๆ จัดไว้สำหรับแขก...ไปถึง เขาก็โวยวาย
“อะไรเนี่ย? ห้องเล็กแค่นี้ให้ฉันอยู่เหรอ? ไม่มีอะไรเลยนอกจากตู้ เตียง...คอมพิวเตอร์ให้ฉันก็ไม่มี โฮมเธียเตอร์ก็ไม่มีอีก”
“มาอยู่บ้านคนอื่นแล้วยังทำตัวเรื่องมาก ทำไมไม่กลับไปบ้านนายซะล่ะ?”
“ว่าไงนะ?”
นายนั่นโยนกระเป๋าเดินทางลงกับพื้น หันมาเท้าสะเอวจ้องหน้าฉัน
“ว่าไง? ป้า...ป้าพูดว่าอะไรนะ?”
ป้า?...ตานั่นเรียกฉันว่า
“นี่...นายเรียกฉันว่าอะไรนะ?”
“ก็เรียกว่าป้าน่ะสิ ใส่แว่นอย่างนี้ หน้าแก่ ๆ ขี้บ่นอย่างนี้ก็ต้องป้าอยู่แล้ว”
กรี๊ด! หาว่าฉันหน้าแก่...ขี้บ่น เรียกฉันว่าป้างั้นเหรอ?
“นี่...ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนายนะ ถึงฉันจะอายุมากกว่านายแค่สองปี แต่นายก็ควรมีความเคารพบ้าง”
“ก็นี่ไง เคารพแล้ว...อุตส่าห์เรียกว่าป้ายังหาว่าไม่เคารพอีกเหรอ?”
ตานั่นทิ้งตัวลงนอนบนเตียง...แอ่นก้นมาทางฉัน ยียวนกวนประสาทที่สุด ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นเด็กดี แต่ต่อหน้าฉันช่างกวนโอ๊ยซะไม่มี
“นี่นาย....”
“ออกไปได้แล้วไป...หนวกหู คนยิ่งง่วง ๆ อยู่ เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ ยุงก็กัดเจ็บชะมัด...ปิดไฟให้ด้วยนะ”
“นี่นาย...นายกล้าดียังไงถึง...”
“Zzz Zzz Zzz .”
ไร้คำบรรยาย เลยต้องออกมาจากห้องนั้นเอาง่าย ๆ..งงค่ะ แขกไม่ได้รับเชิญไล่เจ้าของบ้านออกจากห้อง แถมสั่งให้ปิดไฟอีก...
กรี๊ด! เจ็บใจที่สุด...ทำไมฉันถึงยอมให้ตานั่นมาสั่งฉัน? ย้าก! นี่ฉันจะต้องทนกับไอ้เด็กเวรนี่ไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย?
กิ๊กก๊อก...กิ๊กก๊อก...ตื่นได้แล้ว เอ้า! เฮฮา...
โอย....จะปลุกฉันทำไมเนี่ย? วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่เหรอ? เป็นวันหยุดของฉันนะ...
หือ?....จริงสิ วันนี้ฉันนัดกับเพื่อน ๆ จะไปติวกันนี่นา ตายแล้ว...เกือบลืมไปแล้วไงล่ะ
ฉันสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาพับผ้าห่ม จัดการอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบออกจากห้อง พอลงมาชั้นล่างก็เห็นนายเวย์นกำลังลูบเจ้าเป๋าเป่าอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ...
เป๋าเป่าของฉัน...ไม่นะ...
“อย่ามายุ่งกับเป๋าเป่านะ”
ฉันแย่งกระต่ายไปจากมือเขา จู่ ๆ นายนั่นก็หัวเราะก๊าก
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ชื่อว่าอะไรนะ? เป๋าเป่าเหรอ?...ชื่อปัญญาอ่อนชะมัด ไม่มีชื่ออื่นให้ตั้งแล้วเหรอ?”
กรี๊ด! หาว่าชื่อเป๋าเป่าของฉันปัญญาอ่อนอีก... ชื่อออกจะน่ารักน่าชัง ใคร ๆ ก็ชมกันทั้งนั้น
“นายน่ะแหละ ปัญญาอ่อน...ติงต๊อง... อย่ามายุ่งกับกระต่ายฉันอีก เข้าใจมั้ย?”
พูดไปพร้อมกับทำตาดุใส่ ให้เป๋าเป่าอยู่แถวนี้ไม่ได้ ไม่ปลอดภัย...ฉันเลยจับเป๋าเป่าใส่กรงแล้วหิ้วไปไว้ในห้องนอน
“อยู่นี่นะเป๋าเป่า...ไอ้โรคจิตนั่นจะได้ไม่มายุ่งกับลูกอีก”
เอ...จริงสิ นายนั่นมันโรคจิต มานอนบ้านเราจะทำข้าวของเสียหายมั้ยเนี่ย?...ไม่น่าไว้ใจแฮะ ลองไปแอบดูดีกว่า
ฉันรีบเข้าไปดูห้องนอนของตานั่น ผิดคาด...ข้าวของไม่ได้เสียหาย แต่ว่า... นี่...นี่มันห้องนอนหรือห้องขยะกันแน่เนี่ย? ขยะเกลื่อนไปหมด ผ้าห่มก็ไม่พับ หมอนกระเด็นไปอยู่ปลายเตียง รอยฝ่าเท้าเปื้อนเต็มไปหมด แล้วยังจะกางเกงในม้วนเป็นเลขแปดกองอยู่ที่ปลายเท้าฉัน
แว้ก! น่าเกลียดที่สุด...แหวะ อี๋!
“นี่ ไอ้เด็กเวร”
ฉันลงบันไดตรงเข้ามาเอาเรื่องนายนั่น ตานั่นเอาขาที่พาดบนโต๊ะกลางลง ทำหน้าจะเอาเรื่องฉันเหมือนกัน
“นี่...ป้าเรียกฉันว่าไงนะ?”
“ก็ไอ้เด็กเวรน่ะสิ”
“นี่...ฉันชื่อเวย์นนะ เรียกฉันให้ดี ๆ หน่อย”
“ทำไมฉันต้องเรียกนายดี ๆ ด้วย? ก็ทีนายยังเรียกฉันว่าป้าเลย...นี่ ไม่ต้องมาชวนทะเลาะเรื่องอื่น นายทำอะไรไว้ในห้อง มาอยู่บ้านคนอื่นแล้วทำเลอะเทอะอย่างนี้ได้ไง หัดเกรงใจคนทำความสะอาดบ้างเด่ะ”
“ใครคือคนทำความสะอาด? อย่าบอกนะว่าป้า...ฮ่า ๆ ยิ่งไม่ต้องเกรงใจใหญ่เลย หน้าที่รักษาความสะอาดเป็นหน้าที่ของป้าอยู่แล้ว ทำไมฉันต้องเกรงใจด้วย?”
“เออ...มันเป็นหน้าที่ฉัน แต่ฉันจะไม่ทำ ฉันจะให้นายทำ...ไปเลยนะ รีบไปทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง”
ฉันตวาดใส่ แต่ตานั่นยังทำหน้าระรื่น เรียกคุณยายเสียงดังลั่น
“คุณยายครับ คุณยาย”
คุณยายเข้ามาในบ้าน ถือกระถางกล้วยไม้มาด้วย
“อะไรเหรอ? เวย์น”
“พี่ตูนเค้าว่าผมครับ...เค้ารังแกผม”
อ้าว! เฮ้ย! ไหงมาหาว่าฉันรังแก...ฉันไปรังแกนายตอนไหนมิทราบ?
“ตูน ตูนรังแกน้องทำไมล่ะลูก?”
“เปล่านะคะ หนูยังไม่ทันรังแกเลย หนูแค่ให้ไอ้หมอนี่ไปทำความสะอาดห้องตัวเอง เขาทำห้องซะเลอะเทอะเลยนะคะคุณยาย”
“คุณยายครับ” นายนั่นเขย่าแขนคุณยายใหญ่ “ผมไม่ได้ตั้งใจทำนะครับ คุณยายเข้าใจผมใช่มั้ยครับ? ว่าผมน่ะเป็นผู้ชาย...เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ห้องจะรกน่ะ”
“ใครว่าธรรมดา? ห้องนายน่ะดับเบิ้ลรกเลย...สกปรกสุดๆ นายทำ นายก็ต้องไปเก็บกวาดเอง ไม่ถูกหรือไง?”
“คุณยายครับ” อ้อนระลอกสอง “ผมเป็นผู้ชาย จะให้ผมไปทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไงครับ...ผมไม่ถนัดเอาซะเลยนะครับ เกิดผมไม่ระวังทำข้าวของเสียหายขึ้นมา เดี๋ยวพี่ตูนก็โทษผมอีก”
“นี่นาย...”
“ตูน...อย่าไปว่าน้องเลยนะ น้องเค้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ห้องมันรกหรอก ไหน ๆ มันก็รกแล้วก็อย่าไปว่าน้องเลย”
“หนูไม่ว่าเขาก็ได้ค่ะ...แต่ต้องให้เขาทำความสะอาดเอง”
“คุณยาย” เขย่าแขนปล่อยลูกอ้อนระลอกสาม เห็นแล้วมันน่าตบบ้องหูที่สุด
“ตูน...ปกติตูนก็ดูแลบ้านเราอยู่แล้ว ตูนก็ทำให้น้องหน่อยไม่ได้เหรอลูก?”
“...”
ฮึก...ฮือ... ทำไม? ทำไมกัน? ทำไมคุณยายถึงได้ลำเอียงอย่างนี้นะ? นายนั่นเป็นผู้ชายแล้วไงกัน? จะทำอะไรไม่เป็นเลยหรือไงล่ะ? อย่างนี้มันข่มเหงสตรีกันชัด ๆ ...ที่สำคัญ เพราะคุณยายเห็นหลานคนใหม่สำคัญกว่าฉัน...อะไร ๆ นายนี่ก็ถูกซะหมด นายนั่นทำห้องเละก็ให้ฉันเป็นคนทำความสะอาดอีก...ฮือ ๆ ไม่ยุติธรรมเอาซะเลยง่ะ
“หนูไปมหาลัยก่อนนะคะ”
อยู่ไปก็อารมณ์เสีย...เห็นคุณยายเอาอกเอาใจตานั่นแล้วเครียด ฮึ! ปกป้องกันเข้าไป ปล่อยให้ฉันหัวเน่าอย่างนี้ต่อไปเลย ฮึก...ฮือ...น้อยใจจริง ๆ
ฉันเดินตึงตังออกมานอกบ้าน กำลังปิดประตูก็เห็นอะไรเหลือง ๆ กองอยู่ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก....ภูเขาทองขนาดย่อม ส่องแสงเรืองรองมาแต่ไกล... จากกลิ่นและความชุ่มชื้น คาดว่ามันน่าจะเพิ่งถูกกองไว้เมื่อไม่นาน...
ย๊าก! ต้องเป็นฝีมือไอ้หมาโกลเด้นของยัยสตรอเบอรี่แน่ ๆ
ฉันเดินข้ามถนนเล็ก ๆ ไปที่บ้านที่อยู่ตรงข้าม
“ยัยสะตอ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
เสียงเย้ว ๆ ของฉันคงจะดังมาก ยัยสะตอเลยเดินหน้ามุ่ยออกมาจากบ้าน
“นี่...พี่ตูน พี่มาตะโกนเสียงดังทำไม? หนวกหูชะมัด”
“หล่อนทำอะไรไว้น่าจะรู้แก่ใจ พาหมาไปอึหน้าบ้านฉันอีกแล้วใช่มั้ย?”
จากหน้าบึ้งเป็นหน้ายิ้มแบบเยาะ ๆ กวนโอ๊ย... แล้วพี่แกยังอุตส่าห์ไม่ยอมรับอีก
“อย่ามากล่าวหากันอย่างนี้นะ พี่ตูน... มีหลักฐานหรือไง? บ้านอื่นเค้าก็มีหมาเหมือนกันนี่นา ทำไมไม่ไปว่าเขาล่ะ?”
“คนอื่นเค้ามีหมา แต่หมากับเจ้านายไม่โรคจิตเหมือนหล่อนนี่...สนามหญ้าข้างนอกมีไม่พาไปอึ ต้องมาอึหน้าบ้านฉัน”
“จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะนะ...แต่ฉันบอกไว้ก่อนว่าไม่ได้ทำ”
แล้วยัยนั่นก็กลับเข้าบ้านไป เห็นแล้วมันชวนอารมณ์เสียชะมัด...  วันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดอีกวัน เจอคนโรคจิตพร้อมกันถึงสองคน แถมทั้งสองคนอายุไล่ ๆ กันอีก... ย๊าก! ทำไมชีวิตฉันมันช่างบัดซบขนาดนี้นะ?
มาถึงมหาลัยก็เอาตอนเที่ยง ป่านนี้เพื่อน ๆ คงเริ่มติวกันแล้ว...วันนี้อารมณ์บูดแต่เช้า ชักขี้เกียจไปนั่งฟังแล้วสิ เฮ้อ!
ฉันเดินไปที่ล็อคเกอร์...เปิดออกมาก็จ๊ะเอ๋กับจดหมายสีแดงตามเคย
ก่อนอ่านอย่าลืมยิ้มนะ
เห็นคุณหน้าบูดตั้งแต่เช้า มีเรื่องอะไรให้วุ่นวายใจเหรอ? อย่าไปเครียดนักเลย เครียดมากระวังแก่นะ...แล้วอย่ามัวแต่อู้...รีบ ๆ ไปติวกับเพื่อนเถอะ ผมเป็นห่วงคุณอยู่เสมอนะครับ
ตาหวานอีกครั้งปิดท้ายด้วยนะครับ
นายจดหมายสีแดง
เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกดีจังเลย อย่างน้อยวันนี้ก็มีคนที่ทำให้เราสบายใจ...ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใครก็เถอะ
สัญญาจ้ะ...ว่าจะไปติวกับเพื่อน โฮะ ๆ ไปดีกว่า...
“อรุณสวัสดิ์เป๋าเป่า...ไงจ๊ะ? ลูกรักของแม่ กินเยอะ ๆ นะ จะได้โตไว ๆ”
ฉันยื่นผักบุ้งให้กระต่ายกิน เห็นมันแทะแล้วอดภูมิใจไม่ได้...เสร็จแล้วก็เข้าไปอาบน้ำแปรงฟัน เรียบร้อยแล้วก็ออกมาข้างนอกห้อง ได้ยินเสียงคุณยายคุยกับไอ้เด็กเวรดังมาถึงชั้นบน
“เวย์นนี่น่ารักจริง ๆ น่ารักเหมือนกระต่ายไม่มีผิด....”
ฮึ! กระต่าย...อย่างนายนั่นนะเหรอ? น่ารักเหมือนกระต่าย สายตาคุณยายต้องผิดปกติแน่ ๆ เลย ถึงนายนั่นจะเหมือนกระต่าย แต่ก็คงเป็นกระต่ายเจ้าเล่ห์...ที่สามารถออกล่าเหยื่อเพื่อผสมพันธุ์ได้ตลอดเวลา ก็ดูสิ...ตานั่นหื่นออกซะขนาดนั้น
กำลังจะเดินลงบันได พอดีผ่านห้องของนายเวย์น...นึกขึ้นได้ว่านายนั่นทำห้องเลอะเทอะไว้ ไอ้ฉันมันก็พวกรักความสะอาดซะด้วยสิ ทนเห็นบ้านตัวเองเละเทะไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้...
เอาวะ...ไปทำซะหน่อย แต่ไม่ได้ทำเพื่อนายนั่นนะ ทำเพื่อบ้านฉันต่างหาก
ฉันลงไปหยิบเครื่องดูดฝุ่นกับถังน้ำจากห้องซักล้าง ขึ้นมาต่ออุปกรณ์แล้วจัดแจงดูดฝุ่น แค่วันสองวันยังเละเทะได้ขนาดนี้...แล้วถ้านายนี่อยู่เป็นปี ไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้เหรอเนี่ย?...
“ทำอะไรอ่ะ?”
พอหันไปมองก็เห็นตานั่นยืนกอดอกพิงขอบประตู ขี้เกียจสนใจ...ทำต่อดีกว่า
“เออ...ตรงนั้นด้วย ข้างใต้เตียงนี่สกปรกมาก ฝุ่นหนาเป็นนิ้วเลยนะ เอาซองขนมนั่นไปทิ้งด้วย อ้อ! ช่วยเอากางเกงในฉันไปซักด้วยก็ดี หลายวันละ”
ฉันเงยหน้ามองนายเวรกรรมนั่งขัดสมาธิบนเตียง ชี้นิ้วสั่งอย่างฉันเป็นคนใช้....
กรอด! เอาอีกแล้ว...กวนประสาทฉันไม่เคยคิดหยุดพัก
“จ้องหน้าทำไม? ไม่พอใจอะไรอีกล่ะ?”
“ออกไปข้างนอกเลยไป ก่อนที่ฉันจะโมโหมากกว่านี้”
พูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ประตู...ตานั่นก็ยังกวนอารมณ์ได้ไม่เลิก
“โอ๊ะ! เดือดล่ะสิ...น่ากลัวจังเยย...ไม่เคยเจออะไรที่สยองขนาดนี้มาก่อน เจอคุณป้ามหาภัยอารมณ์เสียงี้ ขนลุกเกรียวเชียว”
“ออกไปเดี๋ยวนี้”
คว้าไม้ถูพื้นมาไล่ตี แต่นายนั่นก็ยังระรื่นไม่เลิก แต่จู่ ๆ เขาก็แย่งไม้ถูกพื้นไปจากมือฉันแล้วเอามาถูพื้นเฉย
“มาครับ เดี๋ยวผมช่วย...ห้องนี้สกปรกจริง ๆ นะครับเนี่ย”
“???”
เล่นเอางงไปหลายสิบวินาที พอหันไปมองที่ประตูก็ค่อยเก็ท ที่แท้ก็เป็นแผนกลบเกลื่อนต่อหน้าคุณยายของนายตัวแสบนี่เอง ชิ! ทำเป็นคนดีมีวินัย...น่าหมั่นไส้ที่สุด
“อ้าว! คุณยาย มีอะไรหรือครับ?”
ทำเป็นตกใจ...ตัวเองรู้ว่าคุณยายมาตั้งนานแล้ว ไม่งั้นจะตีบทพระเอกผู้แสนดีได้เหรอ
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ยายกำลังชื่นใจที่เห็นสองคนช่วยกัน ยายไปก่อนนะ”
“คร้าบ...คุณยาย”
พอพ้นสายตาคุณยาย ตานั่นก็เริ่มออกลาย
“เอาไม้กระบองของป้าไป...ไปดีกว่า”
พูดจบก็เดินออกไปเฉย ๆ เห็นแล้วมันน่าเอาไม้ถูพื้นทิ่มตาชะมัด...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น