ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Money Honey ...จูบกี่ครั้ง ขอให้เป็นเงิน....

    ลำดับตอนที่ #3 : บาทที่ 2 จูบอันน่าขยาดแขยง (ไม่ให้เงินมีเฮ...)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 48


                                                                                                     - 2 -



    แฮ่ก แฮ่ก...หายไปไหนแล้ว อีตาบ้านาวิน (เปลี่ยนคำนำหน้าไปทันควัน) ดูซิ ตั้งแต่เจ็ดโมงยันสองทุ่ม ฉันเดินหานายจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ คุณมารุตให้ฉันสะกดรอยตามนายภายในหนึ่งวัน นี่ก็จะครบวันหนึ่งแล้ว ฉันยังไม่ได้อะไรเลย โธ่เอ๊ย! เงินแสนของฉัน อย่าเพิ่งจากไปได้ไหม? พลีส.....



    โอย! หิวข้าวจัง ทั้งวันนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ก็มัวแต่ตามหานายนี่แหละ คอยดูนะ ถ้าฉันเจอตัวนายเมื่อไรละก็ จะจับนายไปทำปุ๋ยซะเลย (เอ๊ะ! คุ้น ๆ แฮะ ใครเคยพูดไว้หว่า?)



    เฮ้อ! แล้วตกลงเราจะไปหาเขาที่ไหนเนี่ย? เงินเราก็หมดแล้วนะ ไม่มีปัญญาจ้างแท็กซี่วิ่งวนทั่งกรุงเทพฯแล้ว กรุงเทพฯก็ไม่ใช่แคบ ๆ ถ้ามัวแต่เดินหามีหวัง ขาเพรียวยาวของฉันต้องกลายเป็นขาหมูตุ๋นแหง ๆ



    ฉันทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง โอย! แบตหมดแล้วเรา ไม่มีแท่นชาร์จเสียด้วยสิ เอ๊ะ! หรือว่าเราจะทำตัวหายเข้ากลีบเมฆดี เอากล้องถ่ายรูป มือถือ แล้วก็กล้องส่องทางไกลไปขาย ไม่ได้เงินแสนก็ขอเงินหมื่นละกัน



    เฮ้ย! ไม่ดี มีหวังติดคุกหัวโต ทั้งคดีล้วงกระเป๋าแล้วยังขโมยของเขาอีก เด้งสองต่อ ไม่คุ้ยแฮะ...



    แล้วตกลงฉันจะทำยังไงดีเนี่ย? ฮือ ๆ



    เอาวะ วันนี้กลับบ้านไปงีบก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน



    ฉันลุกขึ้นยืนพร้อมกับสูดลมหายใจลึก กำลังจะเดินไปแต่ว่า....



    อ๊ะ! นั่นใคร? คุ้น ๆ แฮะ



    นั่นมัน นาวิน(ต้าร์) ลูกของคุณมารุตนี่นา ในที่สุดโชคก็เข้าข้างฉันแล้ว เอ๊ะ! นั่นเขาทำอะไรอยู่หน้าห้องเช่าโกโรโกโสนั่นนะ อย่าบอกนะว่าเขาจะอยู่ห้องเช่าแบบนั้น



    จริง ๆ ด้วย เขาเข้าไปในห้องนั้น นี่เขาจะบ้าแล้วหรือไง? ออกจะรวยล้นฟ้า แต่ดันมาพักในที่แบบนี้ มิน่าล่ะ คุณมารุตถึงต้องจ้างคนมาสะกดรอยตามลูกชายตัวเอง ก็เพราะหมอนี่พิลึกคนนี่เอง อย่ามัวแต่พูดมากเลย รีบถ่ายภาพไว้ดีกว่า



    ฉันเข้าไปหลบในพุ่มไม้แถว ๆ นั้น หยิบกล้องถ่ายรูปซูมแล้วซูมอีกเข้าไปตรงช่องหน้าต่าง เขายืนอยู่ตรงนั้นพอดี บิดขี้เกียจสองสามที ฉันก็รีบกดชัตเตอร์ แต่แล้วเขาก็....



    “อ๊าก......”



    เฮ้ย! เป็นอะไร? หรือว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น? เราควรไปช่วยเขาดีไหม? ไม่ได้....ไปช่วยก็เท่ากับแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่ว่ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรจริง ๆ แล้วเราไปช่วย เขาอาจจะให้เงินตอบแทนที่สูงกว่าค่าจ้างมานั่งตากยุงถ่ายรูปอยู่อย่างนี้ก็ได้



    เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน ฉันวิ่งไปหยุดยืนหน้าประตู เคาะประตูสองครั้ง



    “เอ่อ คุณนาวิน นี่ฉัน น้ำค้าง(เก๊กเสียงเพราะ)เองนะคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”



    “ช่วยด้วย ประตูไม่ได้ล็อค เข้ามาช่วยฉันที โอย!”



    เขาตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ ด้วย เพราะฉะนั้น ซุปเปอร์วูแมนอย่างยายเพียวต้องรีบเข้าไปช่วยชีวิต(เพื่อเงิน)ก่อน ฉันผลักประตูเข้าไปโดยไว ภายในห้องมืดจนมองอะไรไม่เห็น แต่แล้วฉันก็ถูกใครบางคนรวบตัวและผลักฉันลงนอน....ก่อนจะ....



    จ๊วบ....กรี๊ด จูบแรกของฉัน...ใครพรากไปเนี่ย?



    ฉันผลักร่างหนัก ๆ ที่ทับฉันอยู่โดยอัตโนมัติ จู่ ๆ ไฟก็สว่างขึ้น (ไอ้)คุณนาวินเป็นคนเปิดไฟ ทำหน้าเซ็งตามเคย



    “ไร้รสชาติชะมัด”



    กรี๊ด.... กล้าดียังไงมาดูถูกกันอย่างนี้ นายเป็นฝ่ายจูบฉันก่อนนะยะ แล้วนี่มันปากฉัน จะให้มีรสสตรอเบอรี่สอดไส้คาราเมลหรือไงยะ?



    “เอามา ห้าร้อย เดี๋ยวนี่นะ”



    “ห้าร้อยอะไร?”



    “ค่าจูบไงล่ะ คิดว่าฉันจะให้จูบฟรีหรอ?”



    เขาส่ายหน้า ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ ฉัน



    “นี่เงินสำคัญกับคนอย่างเธอขนาดนี้เชียวหรอ?”



    นายก็พูดได้สิ อีตาบ้า...นายมันคนรวยนี่ ส่วนฉันมันจน... จ๊น... จน ... ถ้าเงินไม่สำคัญ แล้วอะไรจะสำคัญล่ะยะ ที่ฉันต้องมาถูกนายจูบอย่างนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเงินหรอกรึ...ฮึ



    “บอกให้เอามาไงล่ะ?”



    เขาทำหน้ามุ่ย ล้วงหยิบธนบัตรสีเทา....ว้าว แบงค์พันเชียวหรือ? นายนี่ใจดีไม่เบา รู้งี้ปล่อยให้จูบนาน ๆ ดีกว่า จะได้คิดเป็นนาทีซะเลย



    “เอาไป ไม่ต้องทอน”



    “นายนี่แปลกนะ ไม่ชอบเงิน”



    “ก็เพราะว่าเงินนี่แหละที่ทำให้ฉันต้องสูญเสียคนที่ฉันรักไปถึงสี่คน”



    เขาทำหน้าสลดจนฉันตกใจ เฮ้ย! นี่เราพูดอะไรแทงใจดำตานี่หรือเปล่าเนี่ย?



    “ฉันเบื่อที่จะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อเงิน พระเจ้าส่งเรามาดำรงชีวิตเพื่อตนเอง ไม่ใช่เพื่อเงินเสียหน่อย แต่ฉันกลับถูกพ่อบังคับให้ทำงาน วัน ๆ เอาแต่ใส่สูท นั่งเซ็นเอกสาร พอสิ้นเดือนก็มีเงินมากมายโผล่มาในบัญชี ฉันไม่เห็นว่ามันจะสนุกตรงไหนเลย นี่มันชีวิตของฉันนะ”



    “นายไม่เคยจนนายก็พูดได้สิ นายเคยอดข้าวสักมื้อหรือยังล่ะ? เคยต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองและอีกสามชีวิตที่อยู่ข้างล่างไหม? ไม่เคยละสิ แม้แต่ความฝันของตัวเอง นายก็ยังมีสิทธิที่จะทำมันให้เป็นจริง แต่ฉันสิ คนจน ๆ อย่างฉันไม่มีสิทธิทำให้มันเป็นจริงได้”



    ฉันเถียงเขาด้วยความหมั่นไส้ หมอนี่ไม่เคยลำบาก ทำเป็นเรียกร้องเสรีภาพ เชอะ....ไร้สาระชะมัด



    “ความฝันของฉัน เงินไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้หรอก”



    เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น หมอนั่นทำหน้าเซ็ง(อีกแล้ว)



    “พ่อฉันโทรมาหาเธอล่ะสิ น่าเบื่อชะมัด”



    เขาเดินออกไปจากห้อง หมอนี่ท่าจะประสาท แปลกคนพิลึก ฉันรับโทรศัพท์โดยไว จริงอย่างที่นายบ๊องนั่นพูด คุณมารุดโทรหาฉัน



    “นาวินอยู่ที่บ้านเช่าสกปรกนั่นใช่ไหม?”



    หา?...ทำไมเขารู้ล่ะ? หรือว่าเขาอยู่แถวนี้



    “เอ่อ....”



    “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันเจอเขาแล้ว”



    เจอแล้ว หมายความว่า....?



    ฉันรีบวิ่งออกจาห้อง เห็นนาวินยืนจังก้าอยู่ มีผุ้ชายหน้าตาน่ากลัวยืนอยู่เต็ม และก็คุณมารุตด้วย



    “หมดเวลาสนุกแล้ว นาวิน แกควรกลับไปในที่ที่แกควรอยู่ได้แล้ว”



    “ผมไม่กลับ ผมอยากมีชีวิตเป็นของผมเอง”



    “ฉันบอกให้แกกลับได้แล้วไง”



    คุณมาเฟีย เอ้ย!…มารุต ตะคอกลูกชายเสียงดัง สองพ่อลูกคู่นี้ยังไงกัน ทำตัวเหมือนเป็นศัตรูกันอย่างนั้นแหละ เฮ้ย! แต่อย่าไปสนใจนักเลย สนเรื่องเงินของเราดีกว่า

    “คุณมารุต เรื่องเงิน...”



    “เธอทำงานไม่สำเร็จ ฉันคงจะช่วยเธอไม่ได้จริง ๆ”



    อ้าว! ไหงพูดอย่างนั้นล่ะ ฉันลงทุนอดข้าวเพื่อตามหาลูกชายคุณต้องนานนะยะ ถึงแม้ความเป็นสายลับของฉันมันจะกระท่อนกระแท่นหน่อยก็เถอะ แต่ฉันก็พยายามสุด ๆ แล้วนะ ไม่ได้ อย่างไรฉันก็ต้องได้เงินให้ได้



    ฉันอ้าปากจะเถียงเขา แต่นายนาวินแย่งพูดเสียก่อน



    “ไม่ว่ายังไง ผมก็จะไม่ยอมกลับไปเป็นหุ่นเชิดของคุณเด็ดขาด”



    “นี่ นาวิน”



    ฉันเรียกเขาเสียงอ่อย เอาล่ะหว่า...ตอนนี้ในสมองฉันปิ๊งไอเดียบางอย่าง เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จมีอยู่....เอ่อ 10% เท่านั้นเอง เหอ ๆ แต่ผลที่ได้คุ้มค่าน่า ยายเพียวเอ๊ย...กล้า ๆ พูดไปเลย



    “นายยังอยาก....มีชีวิตเป็นของตัวเองไหม?”



    เขาพยักหน้างง ๆ



    “ถ้าอย่างนั้น ตามฉันมา”



    ฉันคว้าแขนพาเขาเลี้ยวเข้าไปในซอย วิ่ง....วิ่ง....และวิ่งจนสุดแรงเกิด วิ่งไปนึกถึงหน้าเจ้าหนี้ที่เคยติดหนี้ไว้ นึกถึงเจ้าทุกข์ที่ฉันเคยล้วงกระเป๋าไป รวบรวมพลังซุปเปอร์ไซย่าติดจรวดถีบตัวเองให้วิ่งเร็วยิ่งขึ้น หึหึ...ไม่รู้จักนักวิ่งเหรียญทองแดงระดับอำเภออย่างเจ๊เบี้ยวเสียแล้ว



    “นี่เธอจะพาฉันไปไหน?”



    เขาถามเสียงกระหืดกระหอบ



    “ก็พานายหนีไงล่ะ อย่าถามมากไปหน่อยเลย”



    ฉันหันไปมองข้างหลัง พวกเต่าคลานนั่นอยู่นู่น.... ตามไม่ทันหรอก หึหึ



    “นี่ นายมาหลบนี่มา”



    ฉันผลักเขาเข้าไปหลบหลังรถที่จอดอยู่แล้วค่อยแทรกตัวตาม เงี่ยหูฟังลูกน้องคุณมารุตวิ่งผ่านมา



    “คุณนาวินกับยายเด็กกะโปโลนั่นไปไหนแล้ววะ?”



    อีตาบ้า....บังอาจเรียกฉันว่าเด็กกะโปโลหรือยะ? ฉันบรรลุนิติภาวะแล้วนะ...



    “อยู่ทางโน้นมั้ง ไปหากันเถอะ ไปเร็วพวกเรา”



    พวกคนพวกนั้นพากันไปหมดแล้ว พอฉันลุกขึ้น เขาก็สะกิดฉัน



    “ตกลงเธอจะพาฉันไปไหนกันแน่?”



    “ก็พานายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่นะสิ นี่...มีเงินติดตัวบ้างเปล่า? ถ้ามีก็เรียกแท็กซี่สิ”



    ตาเบื๊อกนาวินทำหน้าเป็นเต้าหู้บูด แต่ก็ยอมทำตาม หึหึ...ใจเย็น ๆ เดี๋ยวนายได้เริ่มต้นชีวิตใหม่สมใจแน่ ๆ



    **********************************************



    ฉันบอกให้แท็กซี่จอดหน้าแฟลตที่ฉันพักอยู่ แอบสังเกตสีหน้านายนั่นเวลาขึ้นบันได ดูซิ....ว่าจะยังอยากจนอยู่อีกหรือเปล่า?



    “ว้าว! ห้องเธอนี่เจ๋งชะมัด”



    นี่...ประชดหรือชมจริงยะ ห้องแคบเท่ารูหนู ไม่มีอะไรเลยนอกจากเตียง ที่นอน หมอน พัดลม ตู้เสื้อผ้า กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า และเก้าอี้พับแบบญี่ปุ่นใกล้เจ๊งหนึ่งตัว

        

    “วันนี้นายก็ค้างเสียที่นี่ก็แล้วกัน”



    “แล้วเธอล่ะ?”



    “ฉันก็จะนอนที่นี่สิ นี่มันบ้านฉันนะ”



    นายนั่นจ้องหน้าฉันนิ่ง จริงสิ...หมอนั่นเป็นผู้ชายนี่นา แล้วยิ่งเมื่อตะกี้นี้ก็....บรื๋อ! นึกขึ้นมาก็ขนหัวตั้ง แล้วดูทำมองเข้าสิ ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด



    ฉันแกล้งทำทีไม่สนใจ(ทั้งที่ความจริงอยากกระโดดหนี) หยิบผ้าห่มมาปูพื้น



    “แล้วพรุ่งนี้ล่ะ?”



    จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนสีหน้าขึ้นมาทันที บางทีนายนั่นอาจไม่น่ากลัวอย่างที่เราคิดก็ได้(หรือเปล่านะ?)



    “ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะพาไปนายไปที่บ้านเกิดของฉันนะสิ”



    “ที่ไหน?”



    “อืม....” ที่ไหนดีหว่า? เอาให้ไกลปืนเที่ยงไปเลย หุหุ “เชียงราย....น่ะสิ”



    “ดี ไกลดี พวกของพ่อฉันจะได้ตามหาฉันไม่เจอ”



    “แต่ว่า ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนนะ”



    “อะไร?”



    ฉันยิ้มแป้น ยักคิ้วสองครั้งและพูดว่า



    “นายต้องจ้างฉัน เอาเงินมาให้ฉันสองล้าน”



    “อะไรนะ? ตั้งสองล้านเชียวหรือ? แล้วฉันจะไปหาให้เธอได้ที่ไหนล่ะ?”



    “ถ้าหาไม่ได้ ก็อย่าหวังเลยว่าฉันจะพานายไป”



    ฉันปูที่นอนต่อ ได้ยินเสียงนายนั่นถอนหายใจเฮือกใหญ่



    “ก็ได้ ฉันจะลองไปเบิกเงินในบัญชีดู ถ้าพ่อฉันยังไม่อายัติบัญชีก่อน ก็อาจจะเอาเงินมาได้”



    “ดีมาก ถ้าอย่างนั้นนอนตามสบายนะ”



    ฉันกระโดดขึ้นเตียง นายนั่นนั่งลงบนผ้าห่มที่ปูไว้ จ้องหน้าฉัน(อีกแล้ว) ทำไมนะ? เขาถึงชอบทำหน้าหื่น ๆ แบบนั้นอยู่เรื่อย...



    “ทำไมไม่นอนล่ะ?”



    “ฉันไม่คุ้นที่นี่ นอนไม่หลับหรอก”



    “นอนไม่หลับ ก็นอน ๆ ไปเหอะ”





    ฉันขยับตัวจนหลังติดผนัง เอาผ้าห่มมาห่มตัว นายนี่จะมาไม้ไหนกันแน่เนี่ย? คราวนั้นก็แกล้งทำทีเป็นร้องขอความช่วยเหลือ คราวนี้คิดจะทำอะไรกันแน่? อยู่ดี ๆ เขาก็อ้าปากหาว เอนหลังลงนอนซะงั้น



    “ง่วงแล้ว ฉันนอนก่อนแล้วกัน”



    บ๊ะ! .... นึกจะง่วงก็ง่วงรึ คาดเดาจิตใจเขาไม่ถูกจริง ๆ เอ๊ะ! หรือจะเป็นแผนการอะไร?....ไม่ได้ เราจะเผลอไม่ได้เด็ดขาด ต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวนายนี่...ไม่ได้ เรานอนไม่ได้เด็ดขาด



    ************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×