ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Money Honey ...จูบกี่ครั้ง ขอให้เป็นเงิน....

    ลำดับตอนที่ #2 : บาทที่ 1 สายลับจำยอม (แต่ได้เงินก็โอเคเวรี่กู๊ด)

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 48




                                                                                     - 1 -



    กระเป๋าเงินใบที่ 1  Guy Laroche สีดำสนิท มีเงินอยู่ในกระเป๋า 200 บาทถ้วน



    กระเป๋าใบที่ 2 ไม่มียี่ห้อ แบบนี้เห็นได้ตามสำเพ็ง สีเหลืองใกล้ดำละ มีเงินอยู่ 105 บาท....



    กระเป๋าเงินใบที่ 3 Louis สีส้ม....(แท้หรือเปล่า? ไม่รู้) มีเงินอยู่ 20 บาท กับอีก 25 สตางค์ กอเอี๊ยะ 1 แผ่น และบัตรลดราคาซาลาเปาในเซเว่นฯอีกสองใบ....



    โอ้! แม่เจ้า หลวงพี่จอร์ช ทอดไข่ดาว....นี่มันวันอะไรของฉันกันแน่เนี่ย ?



    ก็ตั้งแต่เช้ายันเย็น ฉันเพิ่ง “ล้วง” สำเร็จได้แค่ 3 ใบ และแต่ละใบก็ได้เท่านี้ แล้วอย่างนี้ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเช่าบ้านที่ค้างมาสามเดือน ค่าเทอมของน้องชาย ค่าน้ำค่าไฟที่บ้าน แล้วยังจะอาหารมื้อเย็น ฉันยังไม่มีเงินจะกินข้าวเลย เฮ้อ....ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคนสมัยนี้เป็นอะไรกัน ทำไมถึงได้พกเงินเหมือนกันรู้ล่วงหน้าว่าจะถูกล้วงแน่ะ...



    อ้อ!… บ่นนานไปหน่อย ลืมแนะนำตัว ฉัน น้ำค้าง สุขดาว หรือ เพียว แต่คนอื่นชอบเรียกฉันว่า “เจ๊เบี้ยว” เพราะว่าฉันชอบเบี้ยวเงินประจำ แหะ ๆ ตอนนี้ฉันอายุ 21 ขวบพอดิบพอดี อาชีพหลักของฉันก็คือ ล้วงกระเป๋าทั่วราชอาณาจักร ส่วนงานอดิเรกก็คือ....ล้วงกระเป๋าอีกนั่นแหละ ชีวิตของฉันมีแต่หาเงิน หาเงิน และหาเงิน.... ความฝันของฉันก็คือ อืม....ความจริงฉันก็เคยฝันว่าอยากจะจบปริญญาตรี แต่เพราะความจ๊น....จน ของฉันเนี่ยน่ะสิ ทำให้ฉันด้อยโอกาสที่จะเรียนต่อ ฮือ ๆ (วงเวียนชีวิต ร่วมมือร่วมใจ ถึงลูกถึงคน ติดต่อถ่ายทำรายการได้นะคะ กึ๋ย...) แต่นั่นมันก็แค่ความฝันในอดีตของฉัน สิ่งที่ฉันอยากทำมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ.....การได้มีโอกาสนับเงินล้านสักครั้ง แค่สักครั้งเดียวในชีวิต ฉันก็พอใจแล้วล่ะ....



    เฮ้อ!… แต่ในความจริง ตอนนี้ฉันมีเงินติดตัวอยู่ไม่มากไม่น้อย.....แหะ ๆ  20 บาทเองแหละ รวมกับเงินที่เพิ่งฉกมาได้อีก 325 บาท 25 สตางค์ แค่ค่าเช่าบ้านยังไม่พอเลย เอาเถอะ ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกระแด่ว ๆ กันไป



    ว่าแต่ จะทำยังไงต่อไปดีล่ะ?



    เอาวะ...ลองเสี่ยงดวงล้วงควักอีกสักครั้ง ฟลุค ๆ อาจเจอเงินเป็นหมื่นก็ได้ ฟุดฟิด ฟุดฟิด ไหนกลิ่นเงินอยู่ไหน? ฟุดฟิด อ๊ะ...เจอเป้าหมาแล้ว ผู้ชายใส่สูทท่าทางจะเงินหนา แถมดูพี่แก ง่วง ๆ มึน ๆ ยังไงก็ไม่รู้ หุหุ เสร็จเรา



    ฉันรีบแทรกตัวเข้าไปในฝูงชน ใช้วิชาตัวเบาจากสำนักง๊อใบ้ที่ฝึกฝนมา เดินขนาบผู้ชายคนนั้น ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วค่อย ๆ ....ล้วงไปในกระเป๋า เอาล่ะ ใจเย็นไว้ ล้วงไป ล้วงไป โอมเพี้ยง! ขอให้กระเป๋าเงินอยู่ข้างนี้ทีเถอะ.....



    หมับ.....



    หืม!….เสียงอะไร? ฉันยังไม่จับโดนตัวกระเป๋าเลยนี่นา



    ฉันก้มมองที่มือฉัน และนั่นก็ทำให้ฉันแทบผวา......เฮือก!



    มือของผู้ชายชุดสูทคนนั้นจับที่แขนฉันแน่น....พอโฟกัสที่หน้าเขา ยิ่งทำให้ฉันอยากร้องกรี๊ด โอ้! แม่เจ้า หน้าเขาเหมือน...ใครบางคนที่เห็นได้ตามทีวี... ฟันของเขาเรียงสวยขาวสะอาด .....ใบหน้าเขาไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน....



    คะ....ค่อม ชะ....ชวน.....ชึ....ชื่น   ค่อม ชวนชื่น โอ้!….ออกมาพิมพ์เดียวกันเป๊ะ ผิดนิดหน่อยก็ตรงเคราเนี่ยแหละ เขาจ้องฉันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ซวยแล้วเรา งานนี้ติดคุกแหง ๆ



    ฉันพยายามชักมือกลับ แต่เขาก็ดันดึงมือฉันไว้ ตายแน่เรา ฉันกับตาค่อมยื้อยุดกันอยู่นาน จู่ ๆ เขาก็ถามฉัน



    “สนใจอยากทำงานกับฉันไหม?”



    อ๊าก!….ทำงานอะไร? อย่าบอกนะว่า คิดมิดีมิร้ายกับฉัน อย่านะ ไม่อย่างนั้นฉันฟ้องปวีณาจริง ๆ ด้วย แต่เดียวก่อน....บางทีอาจไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ ลองถามเขาก็ไม่เสียหายนี่ ได้เงินด้วยดีกว่าล้วงกระเป๋าแยะ...



    “ทำงานอะไร?”



    ยังไม่ทันตอบ พี่ค่อมของเราก็ดึงฉันเดินไป นี่ อีตาบ้า จะพาฉันไปไหนเนี่ย? ฉันมีพระนะยะ....







    *************************/



    หลังจากถูกฉุดกระชากลากถูมา ฉันก็ถูกจับมานั่งในห้องทำงานของใครก็ไม่รู้ แต่ว่า....โอ้โห! กว้างใหญ่ยิ่งกว่าห้องนอนฉันอีก (แต่ห้องนอนฉันดีกว่า เป็นทั้งห้องรับแขก ห้องอาหาร สารพัดในห้องเดียว แหะ ๆ ความจริงต้องเรียกว่า ที่ซุกหัวนอนมากกว่า “ห้อง” นะ) แต่จะว่าไปก็ไม่แปลกหรอก ก็ที่นี่เป็นถึงสำนักงานใหญ่ของบริษัท เรียล พิค บริษัทผลิดเครื่องเสียงชั้นนำ แอร์ในห้องนี้เย็นฉ่ำอย่างกับขั้วโลกใต้ ว่าแต่...พี่ค่อมให้ฉันนั่งจ๋องอยู่ตรงนี้ทำไมกันเนี่ย? เสียเวลานักล้วงคิวทองชะมัด....



    สักพัก พี่ค่อมก็กลับมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่ง ท่าทางก็ดูมีอายุนะ ดูมีมาดและสง่า เหมือนมาเฟียในหนังฮ่องกงเดี๊ยะ เขานั่งตรงกันข้ามกับฉัน ยิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง



    “เธอใช่ไหม? ที่เจษฏาภรณ์แนะนำมาน่ะ”



    เอ่อ....ฉันฟังอะไรผิดหรือเปล่า? เจษฎาภรณ์ ใครคือเจษฎาภรณ์ ? อย่าบอกนะว่าพี่ค่อม....โห...พี่เขาคิดนานไหม? ชื่อนี้เนี่ย สะเหร่อมาก ๆ



    ฉันพยักหน้าอย่างหวั่น ๆ  เอ...จะว่าไปหน้าของคุณมาเฟียนี่ก็คุ้น ๆ นะ อ๋อ!…นึกออกแล้ว ฉันเคยเห็นเขาที่ร้านกล้วยแขก แหะ ๆ หมายถึงเคยเห็นบนถุงกล้วยแขกน่ะ...



    “ฉันชื่อมารุต ฉันอยากให้เธอร่วมงานกับเรา นี่คือประวัติโดยละเอียดของนาวิน ลูกชายของฉัน”



    เขายื่นกระดาษปึกหนา ๆ ให้ฉันและพูดต่อ



    “เขาทำงานอยู่ที่เรียล พิค แต่ว่าหลายวันนี้เขาไม่เคยเข้าทำงานเลย ฉันก็เลยอยากให้เธอเป็นสายลับ สะกดรอยตามเขาตลอดหนึ่งวัน ตั้งแต่ออกจากบ้านเพื่อแลกกับค่าตอบแทน ห้าแสนบาท”



    โอ....หูฉันเป็นอะไรไปแล้วนี่? ทำไมชอบได้ยินอะไรน่าเหลือเชื่ออย่างนี้? หรือว่าเราฝันไป...(ตบหน้าตัวเอง) โอย! เจ็บจัง ไม่ได้ฝันไปนี่เรา ก็ความจริงน่ะสิ ห้าแสนบาท...เกิดมายังไม่เคยนับเงินแสน แค่สะกดรอยตามแค่นี้ แลกกับเงินมหาศาล โธ่เอ๊ย! งานหมู ๆ หุหุ เฮ้ย! เก็บอารมณ์หน่อยเจ๊เบี้ยว รักษาภาพพจน์สายลับมือใหม่สุดเซ็กส์เสื่อม เอ้ย! เซ็กซี่หน่อย



    “ทำไมคุณมารุตถึงเลือกฉัน แทนที่จะจ้างพวกนักสืบมืออาชีพล่ะคะ?”



    “ก็เพราะว่าฉันเคยจ้างพวกนั้นแล้ว ความเป็นมืออาชีพของเขามีมากเกินไป ลูกชายของฉันก็เลยจับได้ ดังนั้น ฉันจึงอยากลองจ้างพวกไม่ใช่มืออาชีพดู  เผื่อว่าจะสำเร็จน่ะ ฉันได้ยินว่า ตอนนี้เธอเองก็กำลังขัดสนเรื่องเงินอยู่ ถ้าเธอช่วยฉัน ฉันก็จะช่วยเธอเอง ตกลงไหม?”



    ฉันทำหน้าลังเล แต่จริง ๆ อยากจะกระโดดเหยง ๆ ไปทั่วห้อง นี่ฉันฝันไปหรือเปล่าเนี่ย? (ยังไม่มั่นใจง่ะ)



    “ตกลงค่ะ”



    คุณมาเฟียยิ้มให้ฉัน พยักหน้าสั่งให้พี่ค่อม เอาโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล(รุ่นแพงด้วยนะ) และกล้องส่องทางไกลมาวางไว้บนโต๊ะ



    “นี่คืออุปกรณ์ที่เธอต้องพกติดตัวไว้ ใช้กล้องส่องทางไกลจับตาดูความเคลื่อนไหวของนาวินในระยะห่าง คอยเก็บภาพด้วยกล้องถ่ายรูปอันนี้ แล้วถ้ามีอะไรฉันจะติดต่อกับเธอผ่านโทรศัพท์เครื่องนี้เอง”



    โอ้โห!…มีอุปกรณ์เสริมเสียด้วย ยังกับสายลับในหนังเลย รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนึ่งในชาร์ลี แองเจิ้ล หึหึ...เงินแสน เสร็จเราแน่



                    



    *******************





    คร็อกฟี้....



    เฮ้อ! การรอคอยนี่มันน่าเบื่อชะมัด ฉันนั่งรออยู่ในรถแท็กซี่ตั้งแต่ตีห้า (ตื่นเต้นไปหน่อย มาแต่ไก่โห่เชียว) จนตอนนี้เจ็ดโมงแล้ว รถของคุณนาวิน นาวาอะไรเนี่ยก็ยังไม่โผล่มาเลย แอร์ในรถก็เย็นฉ่ำ ชวนหลับชะมัด เฮ้อ! พูดแล้ว ชักง่วงละ



    “นี่ หนู ตกลงหนูจะไปไหนกันแน่? ให้ผมจอดรอสองชั่วโมงแล้วนะ เดี๋ยวผมคิดตามมิเตอร์นะ”



    โธ่...บ่นอยู่นั่นแหละ อีตาลุงหนวด รอแป๊บก็ไม่ได้ เดี๋ยวฉันมีเงินจ่ายให้อยู่แล้วล่ะ



    “รอแป๊บนะลุง”



    ฉันทำหน้าสำนึกผิด แต่หาเป็นจริงไม่ เอ๊ะ! ช้าก่อน รู้สึกหน้าบ้านคุณนาวินจะมีความเคลื่อนไหวแล้ว รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำขับออกมา เป็นไปตามประวัติของคุณนาวินเด๊ะ



    “ลุง ๆ ขับตามรถคันนั้นไปเลยค่ะ”



    ลุงแกหาวหนึ่งทีก่อนจะเหยียบคันเร่งขับตามรถคันนั้น เอ....แล้วเขาจะไปไหนนะ? ตื่นเต้นจัง เข้าใจความรู้สึกของพวกทวงหนี้ เอ้ย! นักสืบแล้วล่ะ ว่ามันตื่นเต้นแค่ไหน



    “ลุง ขับให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหม?”



    “โธ่! นังหนูเอ้ย ...จะให้เหยียบแค่ไหนกัน? นี่ลุงเหยียบตั้งร้อยแล้วนะ”



    โธ่! คุณลุงขา คุณลุงกำลังจะทำให้หนูพลาดเงินแสนนะ แต่เอ๊ะ! รถของคุณนาวินจอดแล้วนี่นา จอดอยู่ตรงหน้า....หา? ร้านข้าวแกงใกล้เจ๊งนั่นนะหรอ?



    “ลุง ๆ จอดก่อน เดี๋ยวลุงรอแป๊บนะ”



    ฉันรีบลงจากรถ เดินเข้าไปนั่งตรงโต๊ะหลังร้านห่างกับโต๊ะลูกคุณมารุตไปหลายเมตร ยังไม่ได้เห็นหน้าเขาชัด ๆ เสียที เห็นแต่หลังเขาเนี่ย ไม่เข้าใจจริง ๆ รวยออกขนาดนี้ทำไมถึงต้องมากินข้าวร้านซอมซ่อพันธ์นี้ด้วยนะ อ้อ! นั่งเพลินไปนิด เก็บภาพก่อนดีกว่า



    ฉันหยิบกล้องถ่ายรูปมาแชะ ๆ สองสามที เฮ้ย! ใครมาสะกิดสะเกาวะ? รำคาญ....เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานอยู่นะยะ ฉันหันไปมองไอ้คนที่มาสะกิดฉันด้วยความโมโห เป็นผู้ชายตัวเล็ก ๆ เท่าเต็กอายุ 10 ขวบ แต่หน้าเหมือน 30 ยืนยิ้มแฉ่งให้ฉันเห็นฟันเหลืองอ๋อย



    “น้า กินอะไรดี?”



    หน็อย! นอกจากจะขัดขวางงานของฉัน แล้วยังมีหน้ามาเรียกฉันว่า “น้า” อีกรึ? ฉันอ่อนกว่าแกนะยะ...อย่ามาทำเป็นเนียน กลบเกลื่อนอายุ มิน่าล่ะ ร้านทำไมถึงได้เงียบเหมือนป่าช้าที่ถูกลืมขนาดนี้



    “ไม่กิน”



    ฉันบอกปัดแต่พี่แกยังไม่ลดละ



    “อ้าว ไม่กินแล้วมานั่งในร้านทำไมเจ๊ ?”



    เปลี่ยนสรรพนามจาก “น้า” มาเป็น “เจ๊” แถมยังทำตัววางมาดนักเลง โอ๊ย! กลัวตายแหละไอ้เปี๊ยก....



    “ถ้าฉันจะสั่ง เดี๋ยวก็สั่งเองแหละ ไป....หลบไปก่อน”



    ฉันไล่พี่เตี้ยโดยไม่มองหน้า แอบสังเกตคุณพี่นาวินอยู่ห่าง ๆ (ขอตีซี้หน่อย ฮิ ๆ) เขาสั่งข้าวราดกระเพราหมูกับไข่ดาว เห็นแล้วชักหิวละ แต่เย็นไว้ก่อน อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับงาน คิดถึงเงินแสนไว้ ใจเย็นไว้ ยายเพียวเอ๋ย....



    นั่งน้ำลายหกอยู่นานสองนาน ในที่สุดคุณนาวินก็รับประทานเสร็จ  แล้วนั่นจะลุกไปไหนน่ะ? เฮ้! รอด้วยสิ คุณนาวินเดินเอื่อย ๆ เลยรถไป อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นรถล่ะ? รถก็ไม่น่าจะเสียนะ หรือว่าจะเดินย่อยอหาร อย่ามัวแต่คิดเองเลย ตามไปดีกว่า



    “หนู จะไปไหน? ค่ารถยังไม่จ่ายเลย”



    ลุงหนวดตะโกนโหวกเหวกจนคนมอง เออ...ลืมไปแฮะ เรายังไม่ได้จ่ายค่าแท็กซี่เลยนี่เนอะ



    “เท่าไรล่ะ? ลุง”



    “สองร้อย”



    “โห....สองร้อย แพงจัง อ่ะ เอาไป”



    ความจริงก็อยากจะอยู่ต่อราคานะ แต่ว่าถ้ามัวมายืนโต้คารมกับลุงแกคงจะยาว งานเราสำคัญกว่า ฉันรีบวิ่งตามคุณนาวินไปอย่างรวดเร็ว ใช้ทักษะการประกบเหยื่อเหมือนตอนล้วงกระเป๋าอาชีพเก่า นี่อย่าเดินเร็วนักได้ไหม? รอด้วยสิ อ้าว! หายไปไหนแล้วล่ะ?



    ฉันหันมองรอบทิศ เขาไม่อยู่แล้ว เอ....หรือว่าเขาจะเลี้ยวเข้าซอยไหน ลองไปหาดูดีกว่า ฉันรีบวิ่งเข้าไปในซอย และก็ต้องชะงักเมื่อ....



    “เธอตามฉันทำไม?”



    คุณนาวินยืนเท้าสะเอว ทำหน้ามุ่ยเหมือนโกรธฉันมาสิบชาติ ถึงจะทำหน้าโกรธขนาดไหน แต่ความความหล่อก็ยังคงโดดเด่นอยู่ เฮ้ย!….อย่านอกหน้าที่นะ ยายเพียว แกเป็นสายลับนะ ไม่ใช่แมวมอง



    “เอ้อ เปล่านี่ ฉัน....ฉันไม่ได้ตามคุณซะหน่อย”



    ฉันลอยหน้าลอยตาปฏิเสธ เรื่องอะไรจะรับล่ะ ขืนรับก็อดเงินสิ



    “ฉันไม่เชื่อหรอก บอกมาเดี๋ยวนี้ แล้วฉันจะให้เธอหนึ่งแสน”



    “เรื่องอะไร พ่อคุณจ้างฉันตั้งห้าแสนแน่ะ ให้ราคาดีกว่านี้หน่อยสิ”



    งืด....ยอมรับไปดื้อ ๆ เลยนะเรา ปากหนอปาก แกคือปากนะ ไม่ใช่หลอดไฟนีออน ถึงต้องสว่างขนาดนี้น่ะ



    “นี่ไง พ่อฉันจ้างเธอมาจริง ๆ ด้วย กะไว้แล้วเชียว”



    “เปล่านะ พ่อคุณจ้างฉันมา เอ่อ....มาเดินเล่นเป็นเพื่อนคุณ เขากลัวว่าคุณจะเหงาน่ะ”



    “อย่ามาแก้ตัวด้วยเหตุผลไร้สาระหน่อยเลย ฟังไว้นะ อย่าตามฉันมาอีก ไม่อย่างนั้นละก็”



    เขาทำตาดุใส่ฉัน หยึย! เวลาคนหล่อดุก็น่ากลัวเหมือนกันแฮะ



    “ฉันจะจับเธอไปทำปุ๋ย”



    ว้าก....เขาจะจับฉันไปทำปุ๋ย เห็นฉันเป็นมูลสุกรหรือไง? น่ากลัวชะมัด พอพูดจบเขาก็วิ่งหนีฉัน เฮ้! รอด้วยสิ รอก่อน....







    **********************************



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×