ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :^^: Rabbit\'s contract : รักหวานมัน พนันหัวใจ :^^:

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 12 เหตุเกิดเพราะโทรศัพท์

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 48


                                                                                           - 12 -

    บทที่ 12 เหตุเกิดเพราะโทรศัพท์





    ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณยายจนถึงสี่โมงเย็น แท็คทีมกับพยาบาลที่นั่นแล้วแวะกินก๋วยเตี๋ยวหน้าโรงพยาบาลก่อน ค่อยกลับบ้าน ขากลับยืนบนรถเมล์ตลอดสาย น่าเบื่อที่สุด ก็รถดันติดยิ่งกว่าตังเม กว่าจะขยับได้ก็แบบกระตึ๊บ ๆ ถึงบ้านเอาตอนหกโมงครึ่ง เหนื่อยชะมัด รู้สึกเหนียวตัวด้วย งั้นวันนี้แช่น้ำอุ่นดีกว่า ให้มันเย็นสดชื่น~



    ฉันเดินเข้ามาในบ้าน เห็นนายคู่หมั้นของฉันนั่งหัวเราะคิกคัก ท่าจะบ้า หัวเราะคนเดียวได้ด้วย



    แต่เดี๋ยวก่อน คงไม่ได้หัวเราะคนเดียวมั้ง มือกำลังถือหูโทรศัพท์อยู่นี่นา



    หนอยยยย~! บังอ๊าด บังอาจใช้โทรศัพท์โดยไม่ขออนุญาต กล้าดีมากนะนายตัวแสบ ฮึ่ม!



    “ใครอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ยะ?”



    ตะคอกถามพร้อมกับเข้าไปยืนจังก้าตรงหน้าหมอนั่น ส่วนเขานะเหรอ? ก็มองแว้บหนึ่งแล้วก็เลิกสนใจ แถมท้ายด้วยเสียงหัวเราะคิกคักต่อ



    ไอ้เด็กบ้า! ทำเป็นไม่สนใจฉันหรือยะ? มันน่านัก!



    ฉันเดินไปดึงสายต่อโทรศัพท์ออกมาเก็บไว้กับตัว หันมาเห็นตานั่นทำหน้างง ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าเอาเรื่อง



    “นี่ทำอะไรของป้าเนี่ย? ไม่มีมารยาทเอาซะเลย อยู่ดี ๆ มาดึงสายตอนคนเค้าจะคุยกันเนี่ย”



    กล้าตะคอกใส่ฉันเหรอ? ไอ้ตัวแสบ!



    “สิทธิของฉัน ฉันเป็นเจ้าของบ้านนะยะ รู้มั้ยว่าค่าโทรศัพท์แต่ละเดือนมันแพงแค่ไหน?”



    “ทำไมต้องรู้ด้วย? เดี๋ยวนี้ป้าชักจะเอาใหญ่นะ เมื่อวานก็ใช้ฉันอย่างกับทาส วันนี้ยังจะหาเรื่องอีก เห็นว่าคุณยายไม่อยู่เลยคิดจะรังแกฉันใช่มั้ย?”



    “พูดให้มันดี ๆ นะ นายวิเชียร ซำเหมา ฉันไปรังแกนายตรงไหนมิทราบ? ฉันแค่จะทวงสิทธิความเป็นเจ้าของบ้านเท่านั้น นายอยากไม่ขออนุญาตก่อนนี่ แล้วที่ฉันใช้นาย มันก็เป็นหน้าที่ของผู้อาศัยที่ดีไม่ใช่เหรอ? ถ้านายไม่พอใจ...ก็เชิญออกไปเลยเซ่ ไม่มีใครเค้าห้ามนายหรอก แต่ถ้าจะอยู่ที่นี่ ก็กรุณาทำตัวดี ๆ เข้าใจมั้ย?”



    ด่าจบจนนายนั่นหน้าเหวอ ตอนกำลังจะขึ้นชั้นบน ก็นึกขึ้นได้อะไรบางอย่าง



    “อ้อ! อีกอย่าง ถ้าจะโทรศัพท์  ก็กรุณาออกไปโทรที่ตู้สาธารณะหน้าปากซอย เข้าใจ๊?”



    ลงท้ายด้วยการเชิดหน้าใส่ตานั่น...แล้วเดินขึ้นห้องไป



    หึ ๆ เป็นไงล่ะ? ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร...คุณยายไม่อยู่ ฉันนี่แหละเป็นใหญ่ ฮ่า ๆๆ





    “กระจกเอ๋ย จงบอกข้าเถิด ใครหนอ? เพอร์เฟ็คที่สุดในปฐพี ปิ๊ง~!”



    พูดพร้อมกับจ้องหน้าตัวเองในกระจก ก่อนจะดีดนิ้ว



    “อ๋อ! ข้าเองเรอะ? ถูกต้องนะคร้าบบบ~ ฮ่า ๆๆๆ ฟู่ววว~!”



    ลงท้ายด้วยการพ่นลมใส่กระจกจนเป็นฝ้า หยิบแว่นมาใส่ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ ทิ้งตัวลงนอนเต็มแรง



    อ้า~! ตอนอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ มันช่างสดชื่นซะจริง ๆ โดยเฉพาะตอนแช่น้ำอุ่น หายเมื่อยเป็นปลิดทิ้ง เอ๋! ว่าแต่ตอนนี่กี่โมงแล้วนะ?



    สองทุ่มเหรอ?  เร็วชะมัด



    เอ้อออ~! (หาว) ง่วงแล้วล่ะ เข้านอนเลยแล้วกัน



    ฉันถอดแว่นแล้ววางไว้ข้าง ๆ สายโทรศัพท์บนตู้ข้างเตียง เอื้อมมือปิดไฟ นอนกอดหมอนข้างแล้วค่อย ๆ หลับตาลง...



    เงียบมืดคือบรรยากาศรอบข้าง



    จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนตัวเองปลิว ๆ ลอย ๆ



    ภาพค่อย ๆ สว่าง เมฆลอยตุ้บป่องผ่านตา ทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม มีรั้วไม้เก่า ๆ ล้อมไว้ มีหอยทากวิ่ง ไก่บิน หมูร้องเพลง



    กึก! กึก! กึก!



    แอ๊ดดดด~ เสียงประตูเปิด



    ในทุ่งหญ้ามีประตูด้วยเหรอ?



    กรึบ! กรึบ! กรึบ! เสียงฝีเท้า กระทบพื้น พื้นหญ้านี่อ่ะนะ?



    ฉันค่อย ๆ หรี่ตาขึ้น มองเพดานห้อง หันไปมองรอบตัว พยายามจ้อง จ้องไปที่เงาอะไรบางอย่าง เงาตะคุ่มอยู่ข้าง ๆ ตู้ข้างเตียง

    เงาอะไร? เงาขโมยงั้นเหรอ? ขโมย? กรี๊ดดดด~!



    ฉันคว้าหมอนข้างที่กอดอยู่ ฟาดไปที่ไอ้เงาโจรนั่น



    “ย้ากกกก~!”



    “อ๊ากกกก~!”



    “ตายซะ....ไอ้ขโมย! ฮึ่ม!”



    ทุบไม่ยั้งค่ะงานนี้ ส่วนเจ้าขโมยนั่นก็ยังร้องอยู่



    “ขโมยอะไร? อ๊าก! ฉันเอง”



    “ฉันไหน? ไม่ต้องมาพูดมาก”



    “ฉันเวย์น เวย์นคู่หมั้นป้าไง”



    เวย์น...งั้นเหรอ? อ๋อเหรอ?



    ชะงักมือทันควัน รีบเอื้อมมือไปเปิดไฟ แหงะ! จะ...จะ..จริงด้วย นายนั่นจริง ๆ ด้วยแหละ เขานั่งคู้อยู่กับพื้น ทำหน้ามึน ๆ เซื่อง ๆ



    “ฉะ...ฉันขอโทษ”



    “ขอโทษอะไรของเจ๊? เกิดฉันตายไปจะว่าไง?”



    “ก็ฉันไม่รู้ง่ะ นึกว่าขโมย ก็ ก็นายเข้ามาในห้องฉันเองนี่ เออ แล้วนี่ นายเข้ามาในห้องฉันทำไมเนี่ย? จะเข้ามาทำมิดีมิร้ายฉันใช่มั้ย? ไอ้เด็กแสบ”



    ร้องพร้อมกับจับหมอนข้างแน่นเตรียมทุบทุกเมื่อ ตานั่นเลยตวาดเสียงดัง



    “จะบ้าหรือไง? ฉันไม่คิดสั้นอย่างนั้นหรอก...ฉันแค่จะมา เอ่อออออ”



    “จะมาอะไร? บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”



    “จะมา เอ่อออ เอาไอ้สายโทรศัพท์ไปต่อน่ะสิ”



    อ๋อ! ที่แท้จะแอบมาขโมยสายโทรศัพท์ตอนฉันหลับ ที่แท้ก็เป็นขโมยอยู่ดี มันน่านักเชียว!



    “คิดจะมาขโมยไปคุยโทรศัพท์อีกใช่มั้ย? นายนี่มัน”



    “ก็ป้าอยากทำอย่างนี้ก่อนทำไมล่ะ? ขอโทรแค่นี้ก็ไม่ได้ ฉันไม่ได้โทรบ่อย ๆ ซะหน่อย นี่ก็แค่ครั้งแรกเอง”



    เอ...หรือว่าฉันจะเขี้ยวเกินเหตุนะ? ก็มันน่าโมโหนี่ ไม่ยอมมาขออนุญาตฉันก่อนง่ะ



    “ก็ได้...เอาไป แต่ห้ามโทรไปมือถือนะ โทรได้แค่โทรศัพท์บ้านเท่านั้น ห้ามต่อหลาย ๆ รอบด้วย”



    “โห! งกชะมัด”



    นายนั่นบ่นงึมงำ นี่ ฉันได้ยินนะยะ นายบ๊อง!



    “จะเอาไม่เอา ไม่เอาก็รีบ ๆ ออกไปเลย”



    “ก็ได้”



    นายนั่นหยิบสายโทรศัพท์แล้วจะเดินออกไป ฉันเลยตะโกนไล่หลัง



    “แล้วอย่าเข้ามาในห้องฉันอย่างนี้อีกล่ะ เข้าใจมั้ย?”



    ไม่รู้ตาบ้านั่นได้ยินหรือเปล่า แต่ว่า เฮ้อ! เกือบไปแล้วมั้ยเรา ทีหลังฉันต้องล็อคประตูเวลากลางคืนซะแล้วเรา ไม่งั้นเกิดนายนั่นหน้ามืดขึ้นมา มีหวัง กรี๊ดดดด~!





    “อรุณสวัสดิ์ คู่หมั้นรุ่นป้า”



    นายนั่นนั่งเดินผ่านหน้าฉัน โผล่มาทักทายด้วยความกวนประสาท เมื่อคืนก็ทำให้ฉันตื่นทั้งคืน คิดแล้วมันอารมณ์เสียที่สุด



    “อรุณสวัสดิ์ ไอ้เด็กเวร ไม่ทราบว่าวันนี้ขัดส้วมหรือยังคะ?”



    “วันนี้ฉันอารมณ์ดี พกกำลังใจจากสตรอเบอรี่มาเต็มกระเป๋า เพราะฉะนั้นฉันจะถือซะว่าป้าไม่ได้ถามฉันอย่างนั้น อ้อ! วันนี้ฉันมีธุระด้วย คงจะไม่อยู่บ้านทั้งวัน”



    “อย่างนายมีธุระกับเขาด้วยเหรอ?”



    “อาฮะ ก็เรื่องที่เราพนันกันเอาไว้ไง”



    พนันกันเอาไว้ หมายถึงเรื่องถอนหมั้นงั้นเหรอ?



    “นายหาวิธีได้แล้วหรือไง?”



    “ก็ทำนองนั้น แต่อย่าถามต่อนะว่าวิธีอะไร เพราะมันเป็นท็อปซีเคร็ท จุ๊ ๆ”



    ทำปากจุ๊ ๆ ได้กวนประสาทดีจริง ๆ เมื่อคืนฉันน่าจะทุบหมอนี่ให้สลบซะ จะได้ไม่ต้องมาเซ็งในเช้าอันสดใสวันนี้



    วันนี้ฉันมีนัดคิวปิดกับคุณยาย ฉันไม่ควรมาอารมณ์เสียด้วยเรื่องไร้สาระ เอาล่ะ ใจเย็น ๆ ไว้ยัยการ์ตูน



    “อืม ฉันไปก่อนล่ะนะ เวลาเป็นเงินเป็นทอง บ๊ายบาย”



    แล้วก็เดินออกจากบ้านไป จะไปไหนก็ไปเถอะตาบ๊อง ชิ!



    จริงสิ ฉันเองก็มีธุระเหมือนกัน ต้องรีบไปหาคุณยาย งั้นรีบ ๆ กินมื้อเช้าดีกว่า ว่าแล้วก็กระซวกซีเรียลอย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วก็รีบออกจากบ้านด้วยความเร็วแสง





    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!



    “เข้ามาได้จ้ะ”



    ฉันค่อย ๆ ผลักประตูเข้าไป เห็นคุณยายนั่งบนโซฟาริมระเบียง ใบหน้าแจ่มใสสุด ๆ



    คนกำลังอินเลิฟสินะ คิก ๆ



    “อ้าว! ตูน มาแล้วเหรอ?”



    ฉันเดินไปวางขนมนมเนยบนตู้ ระหว่างนั้นก็ปิ๊งไอเดียเจ๋ง ๆ บางอย่าง เกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน



    จริงสิ อย่างน้อยฉันก็น่าจะมีแผนสำรองไว้ซะหน่อย ถ้าแผนคิวปิดของฉันมันไม่สำเร็จขึ้นมา หรือว่าฉันจะงัดแผนสำรองมาใช้เลยดีนะ



    “คุณยายคะ”



    “อะไรเหรอ?”



    ฉันเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ คุณยาย พยายามใส่แอ็คติ้งทางสีหน้าและท่าทางเต็มเหนี่ยว



    “ฮืออออออออ~”



    “ตูน เป็นอะไรไปเหรอ? บอกยายมาซิ เกิดอะไรขึ้น?”



    “เมื่อคืน ฮึกฮือ เวย์นเค้าเป็นคนไม่ดีจริง ๆ เลยค่ะ คุณยายคะ เมื่อคืนเค้าเข้ามาในห้องหนู แล้วเค้าคิดจะ... ฮึกฮืออออ แล้วคุณยายยังจะให้หนูหมั้นกับคนแบบเขาอีกหรือคะ? คุณยายถอนหมั้นให้หนูเถอะนะคะ”



    แทนที่คุณยายจะตกอกตกใจ แต่ก็ดันหัวเราะซะงั้น



    “คุณยาย คุณยายหัวเราะทำไมคะ?”



    “ทำไมสองคนนี้ถึงใจตรงกันอย่างนี้นะ?”



    “???”



    ใจตรงกัน? หมายความว่าไงเนี่ย????



    “ตะกี้เวย์นเพิ่งมาหายาย เค้าก็มาบ่นว่าตูนไม่ให้เขาใช้โทรศัพท์ แถมยังทุบซะเจ็บไปหมด เค้าก็มาขอให้ยายถอนหมั้นให้ กว่ายายจะเกลี้ยกล่อมก็เล่นซะเหนื่อยเลย”



    หมายความว่าตาบ้านั่นชิงตัดหน้ามาใช้แผนเดียวกับฉัน แต่ทำไม่สำเร็จนั่นเอง หนอยแน่ะ! ตาบ้าเอ๊ย! คิดว่าแผนนายจะลับสุดยอดขนาดไหน ที่แท้ก็มาไม้เดียวกับฉัน แล้วยังมาทำให้แผนฉันแตกอีก โอ๊ย! มันน่านัก



    “เวย์นเขาบอกว่าไม่ตั้งใจจะทำอะไรตูน ก็แค่เรื่องเข้าใจผิด น่าจะคุยกันได้นี่จ๊ะ”



    “แต่ว่า... ตูนไม่อยากหมั้นกับเขาแล้วนี่คะ”



    “ไม่อยากหมั้น แต่ก็หมั้นไปแล้ว ตูนเอ๊ย ยายขอร้องเถอะนะ”



    แง่ว~! สุดท้ายแผนสำรองฉันมันก็เจ๊งกะบ๊งไม่เหลือซาก เป็นเพราะไอ้เด็กเวย์นทั้งหมด ย้ากกกก~!



    แต่ไม่เป็นไร สำรองไม่ได้ ก็ต้องเอาแผนหลักของเรามาจัดการต่อ คนอย่างการ์ตูนไม่สิ้นวิธีหรอก



    “เอ่อ วันนี้คุณยายดูอารมณ์ดีจังเลยนะคะ มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?”



    ฮั่นแน่! เดาถูกด้วย คุณยายยิ้มแก้มปริ ทำหน้าเขินอายเยี่ยงวัยสาวคราวสิบแปดปี



    “คุณยายคุยกับคุณปู่แล้วหรือคะ?”



    “ยังจ้ะ”



    “อ้าว! เหรอคะ? ถ้างั้นให้ตูนโทรเรียกคุณปู่ให้มั้ยคะ? เดี๋ยวตูนโทรให้”



    ฉันจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า แต่คุณยายห้ามฉันไว้



    “ไม่ต้องหรอก”



    “???”



    “คือว่า ปู่เค้าโทรมาชวนยายไปดินเนอร์แล้วจ้ะ”



    อะไรนะ? คุณปู่โทรมาชวนไปดินเนอร์แล้ว...ว้าว! แทบไม่ต้องลงมืออะไร คุณปู่ก็บุกซะแล้ว อย่างนี้การ์ตูนก็สบายอ่ะสิ ก๊าก ๆ



    “แต่ยายไม่รู้ว่า โรงพยาบาลเขาจะให้ยายออกไปหรือเปล่า?”



    “ต้องให้สิคะ ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้ แต่ว่า คุณยายต้องให้ตูนแอบดูอยู่ห่าง ๆ นะคะ ตูนอยากเห็นฉากสวีทของคุณปู่กับคุณยายห่าง ๆ นะค้า~ คุณยาย”



    คุณยายพยักหน้าหงึก ๆ หน้ายังยิ้มไม่หุบ ส่วนฉันนะเหรอ? ฮ่า ๆๆๆๆๆ ก็ยิ้มไม่หุบเหมือนกัน ยิ้มจนเมื่อยกรามซะงั้น



    สำเร็จไปอีกขั้นอย่างไม่ต้องเปลืองแรง อยากจะรู้จริง ๆ ว่าคุณปู่นึกยังไงถึงรุกขนาดนี้ แต่จะรู้ไปทำไม? ในเมื่อชัยชนะของสัญญาพนันครั้งนี้ เห็นอยู่รอมร่อ โฮะ ๆๆๆๆๆ เห็นทีต้องวางแพลนไว้ซะหน่อยว่าฉันจะใช้งานตาเบื๊อกนั่นอะไรเป็นอย่างแรกดี โฮะ ๆ ให้หมอนั่นไปขัดส้วมเลยดีกว่า ฮ่า ๆๆๆๆ



    อัพ ๆ ๆ ๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×