ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 9 แหวนหมั้นเจ้ากรรม
                                                                                        - 9 -
จนแล้วจนรอด...ไอ้แหวนหมั้นเจ้ากรรมมันก็ยังไม่ยอมออก ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็พยายามถอดอีก ถอดเข้าไป ถอดยังไงก็ไม่ออก...กินข้าวก็ถอด อิ่มแล้วก็มาถอดต่อ แต่ก็ไม่ยอมออกซะที
โอ๊ย! ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ เดี๋ยวโมโหตัดนิ้วทิ้งซะเลยนี่
“ทำไรอ่ะ?”
ตัวแสบโผล่มาทำลายสมาธิการถอดแหวนของฉัน...ฉันเลยหันไปทำหน้ายักษ์ใส่
“ยุ่ง!”
“ไม่ยุ่งก็ได้ นี่...แล้วเช้านี้มีอะไรให้กิน? ไม่เอาโจ๊กแล้วนะ ใสอย่างกับน้ำเปล่า กินแล้วไม่เห็นอิ่มเลย”
ยังไม่เลิกวิพากษ์วิจารณ์ เดี๋ยวปั๊ดหลังแหวน(หมั้น)ซะเลย
“คอนเฟล็กอยู่ในตู้ นมอยู่ในตู้เย็น หากินเอาเอง”
“หวา! ซีเรียลอีกแล้วเหรอ?...ฉันอยู่เมืองนอกกินไอ้นี่จนเบื่อแล้วนะ ขออะไรที่มันดีกว่านี้ได้มั้ย?”
เรื่องมากอีก ไอ้เด็กบ๊อง!
“นายมีอยู่สามทางเลือก ข้อหนึ่ง ไปตลาดซื้อกับข้าวมากินเอง ข้อสอง ทนกินซีเรียลต่อไป”
“แล้วข้อสามอ่ะ?”
“อดไง ถามได้”
“งั้นฉันเลือกข้อสองดีกว่า ขี้เกียจอดกับเดินไปตลาดง่ะ ปากซอยอยู่ไกลจะตายไป”
นายนั่นเดินบ่น ๆ หยิบซีเรียลกับนมมาวางไว้บนโต๊ะ ส่วนฉันก็พยายามถอดแหวนต่อไป
“ถอดไม่ออกเหรอ?”
“ยุ่ง!”
“แหวนของป้าก็ถอดไม่ออกเหมือนกัน ฉันก็เลยต้องทนใส่ต่อไป”
นายเวย์นพูดพร้อมกับพรีเซนท์แหวนตัวเอง แต่ฉันขี้เกียจสนใจ มุ่งมั่นกับการถอดแหวนต่อไป
“บางทีอาจเป็นลิขิตสวรรค์ก็ได้นะ”
“???”
ลิขิตสวรรค์อะไร? ตานั่นจะพูดอะไรกันแน่เนี่ย?
“ก็ที่ทำให้เราถอดแหวนไม่ออก เราอาจจะเกิดมาเพื่อคู่กันก็ได้”
“นี่ อย่าพูดอะไรให้ฉันอ้วกได้มั้ย? ฉันเพิ่งกินมื้อเช้าเสร็จนะ อย่างฉันกับนายนะเหรอ? สวรรค์ลิขิต....นรกลงโทษมากกว่า ที่ฉันต้องมาทนใส่แหวนของนายเนี่ย”
“โธ่เอ๊ย! แล้วป้านึกว่าฉันอยากใส่แหวนสับปะรังเคของป้านักเหรอ? ของเก๊รึเปล่าก็ไม่รู้”
ดูพูดเข้าสิ โอ๊ย! เสียอารมณ์ชะมัด...ไม่เอาละ ไปสอบดีกว่า ก่อนจะหงุดหงิดไปมากกว่านี้
“ฉันจะไปละ กินเสร็จล้างจานให้ดีล่ะ”
“สั่งไปเหอะ ของเมื่อวานฉันยังไม่ล้างเลย”
หือ?...จานชามเมื่อวานยังไม่ล้างเนี่ยอ่ะนะ...
หันไปมองที่อ่างล้างจาน จริง ๆ ด้วย...จานชามกองมหึมายังอยู่กับที่ไม่ไปไหน เห็นแล้วมันน่าโมโหนัก
“ไอ้เด็กเวร!”
“ไปดีกว่า”
ว่าแล้วนายตัวแสบก็เผ่นออกไป จะวิ่งตามก็ตามไม่ทัน โอ๊ย! ไม่เคยเจอใครที่ทำให้ฉันอยากจะทุบมากขนาดนี้มาก่อน นี่นะเหรอคู่หมั้นที่รอแต่งงานกับฉัน? คู่กัดล่ะสิไม่ว่า เห็นแก่หนูเถอะสวรรค์ ถ้าหนูจะฆาตกรรมคู่หมั้นตัวเองเนี่ย? ให้ตายเถอะ!
น่าแค้นชะมัด ที่ฉันต้องทนล้างจานหลาย ๆ มื้อรวมกันเพราะฝีมือนายเวย์น นั่งรถมาถึงมหาลัยก็ยังไม่เลิกโมโห แต่พอนึกได้ว่าถึงเวลาเข้าห้องสอบแล้ว ต่อมอารมณ์แค้นก็หยุดทำงานแล้วรีบจ้ำอ้าวโดยไว
ตายแล้ว! มัวแต่โดนเรื่องแหวนหมั้นกับนายวิเชียรป่วน เลยลืมว่าใกล้สอบแล้ว มันเพราะนายนั่นจริง ๆ ฮึ่ม!
ไปถึงห้องสอบ ดูเหมือนฉันจะเป็นรายสุดท้ายที่เข้าไป O_o ไปถึงก็รีบ ๆ เขียนชื่อ อ่านข้อสอบสลับกับการฝนคำตอบ ในที่สุดฉันก็ออกมาจากห้อง  แปลกชะมัด...OoO; เข้าช้ากว่าชาวบ้าน แต่ออกก่อนติดอับดับความเร็ว อย่างว่าแหละ คนมันมีความสามารถ โฮะ ๆ ^O^
สอบวิชาวันนี้ ยัยไอซ์สอบห้องเดียวกัน ก็เลยรออาเจ๊ออกมา ระหว่างรอก็ยืนมองแหวนตัวเอง
ตายแล้ว! มีคนแอบเห็นแหวนหรือยังเนี่ย? รีบถอดออกก่อนดีกว่า
อึ๊ดชิ่ว! อึ๊ดชิ่ว! บึ๊ดจ้ำบึ๊ด เอ้า! บึ๊ดจ้ำบึ๊ด...ออกซะทีสิ >.<;;;
“ว้าว! แหวนสวยจัง”
ยัยไอซ์กระโดดเข้ามากอดไหล่ฉัน  O_O;;; ฉันเลยรีบเอามือซ๋อนไว้หลังตัวเอง
“เอ้า! จะซ่อนทำไม?”
“หือ? มะ...ไม่ได้ซ่อนอะไร ซะ...ซักหน่อย” >_<;;;
“ก็เห็น ๆ อยู่ว่าแกอามือหลบหลังตัวเองอ่ะ แหวนอะไร? ให้ดูหน่อยสิแก”
ตายแล้ว! >.<” ทำไงดีเนี่ย? นังไอซ์เห็นแหวนแล้วอ่ะ...
“ไม่มี แหวนอะไร? ไม่มีซะหน่อย”
“โกหก!”
“โกหกอะไรกันเหรอครับ?”
นายทิมเดินเข้ามาหา O_O; โอย! โผล่มาอีกตัว เอ้ย! อีกคนแล้ว...ทำไมถึงต้องมาพร้อมกันเอาเวลานี้ด้วยนะ? >_<;
“อ้าว! นี่นายกับตูนดีกันแล้วเหรอ?”
โอ้ว! ดีที่ยัยไอซ์เปลี่ยนเรื่อง -_-^^^ มาสนใจเรื่องนั้น เจ๊คงยังไม่รู้เรื่องฉันกับนายทิมสินะ เออ ๆ คุยต่อสิ ถามอะไรก็ถามเลย ยินดีตอบค่ะ ^O^
“อืมใช่ เรากลับมาเป็นเพื่อนกันแล้วล่ะ”
“งั้นเหรอ? ดีแล้วล่ะ...เอ้อ! แล้วตกลงแหวนอะไรของเธอล่ะ? เอามาให้ดูหน่อยสิ”
น่าน~! ยังไม่เลิกสนใจแหวนฉันอีก ~_~^^^ ยัยเพื่อนบ้า! บอกว่าไม่มีอะไร ก็ไม่มีอะไรสิ
“แหวนไรเหรอ? ไอซ์”
น่าน~! ทิมก็จุ้นอีกคน...โธ่เอ๊ย!
“แหวนไรก็ไม่รู้ ตูนไม่ยอมให้ดูง่ะ ฮั่นแน่! แหวนหมั้นล่ะสิ”
ยัยไอซ์ทำหน้าเหมือนรู้ทัน เดาเก่งจริง ๆ ยัยเพื่อนบ้า!
“แหวนหมั้นจริงเหรอ? ตูน”
นายทิมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ TT_TT  อะไรเนี่ย?..แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย? เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?
“มะ...ไม่ใช่ ฉันจะไปหมั้นอะไรกับใครล่ะ พวกแกนี่บ้าจริง ๆ เดี๋ยวฉันต้องไปทำธุระต่อ ขอตัวก่อนนะ”
ฉันรีบชิ่งหนีทันที ได้ยินเสียงยัยไอซ์ตะโกนเรียกเหมือนกัน แต่ไม่สนใจหรอก...ขืนหันไปยัยนั่นก็ต้องตามจุ้นเรื่องแหวนอีก เฮ้อ! ~_~;;;
เพราะแหวนวงนี้จริง ๆ >_< ฉันถึงต้องพลอยปวดหัวเพราะเรื่องวุ่น ๆไปด้วย เฮ้อ!
หลังจากผ่านภาวะล่อแหลมต่อการถูกแฉเรื่องหมั้นมาได้อย่างหวุดหวิด ฉันก็รีบกลับบ้านทันที นั่งรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาลงหน้าบ้าน มาถึงก็เจอคุณปู่ของนายเวย์นยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้าน
คงไม่ใช่มาดูลาดเลาเพื่อปล้นหรอกมั้ง...
“สวัสดีค่ะคุณปู่”
ทักทายซะก่อนตามมารยาท คุณปู่หันมายิ้มแป้น
“อ้าว! เพิ่งกลับมาเรอะ? ตูน”
“ค่ะ...คุณปู่มาเยี่ยมเวย์นหรือคะ?
“ก็มาเยี่ยมทั้งเวย์นกับตูนแหละ เป็นคู่หมั้นของหลานลุงนี่นา”
ง่า...พูดอย่างนี้ก็เขิน เอ้ย! เซ็งเด่ะ...คู่หมั้นของเด็กนรกนั่นนะเหรอ? คิดแล้วหน่ายไม่เลิก...
“เอ่อ...คุณปู่เข้ามาก่อนสิคะ”
พูดพร้อมกับผลักประตูเข้าไป มาถึงในบ้านก็ดันไม่เจอนายเวย์น...อะไรกันเนี่ย? อย่าบอกนะว่าออกจากบ้านทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ล็อคบ้านให้ฉันน่ะ กรี๊ดดดด~! ขโมยยกเค้าบ้านฉันไปหรือยังเนี่ย?
“มีอะไรหรือเปล่า? หนูตูน”
‘มีสิคะ ฝีมือหลานคุณปู่ตัวแสบทั้งนั้น’
“โอ๊ะ! มะ...มะ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไม่มีอะไรจริง ๆ”
คันปากยิบ ๆ แต่ก็ต้องปล่อยให้คันอยู่อย่างนั้น...ถ้าพูดมากเดี๋ยวจะเป็นการฟ้องผู้ใหญ่ คนอย่างการ์ตูนไม่ทำอย่างนั้นหรอก (แต่อาจทำเมื่อทนความกวนประสาทของตานั่นไม่ไหว)
“เดี๋ยวตูนไปหาน้ำให้คุณปู่ดื่มก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องลำบากหรอก”
ฉันเดินไปที่ครัว หยิบแก้วน้ำมาใส่น้ำแข็งแล้วค่อยรินน้ำจากเหยือกมาวางไว้บนโต๊ะ...ส่วนคุณปู่ก็มองไปทั่ว ๆ บ้าน
“อะไร ๆ ดูเปลี่ยนไปเยอะนะ”
“ก็คงงั้นมั้งคะ”
เปลี่ยนตรงไหนหว่า?...ตั้งแต่เกิดมาบ้านเราแทบไม่เคยต่อเติมตกแต่งอะไรเพิ่ม หรือว่าที่ว่าเปลี่ยนไปเทียบกับยุคคุณปู่ยังหนุ่มนะ?
“จริง ๆ คุณปู่น่าจะมาพักซะที่นี่นะคะ ไม่เห็นต้องลำบากพักที่โรงแรมเลย สิ้นเปลืองเปล่า ๆ”
“เกรงใจเปล่า ๆ ไม่เป็นไรหรอก ปู่ไม่ได้ลำบากอะไร”
แล้วคุณปู่ก็นั่งลง ฉันก็นั่งตาม...แต่แล้วคุณปู่ก็ลุกขึ้นยืนอีก เดินไปที่ภาพปักครอสติชรูปเด็กผู้หญิงถักเปียเด็ดดอกไม้ที่ติดบนผนังในห้องรับแขก
“นี่...ผกายังเก็บภาพนี้ไว้อีกเหรอ?”
“คะ?”
ฉันเดินเข้าไปข้าง ๆ คุณปู่ แล้วคุณปู่ก็พึมพำ
“หรือว่าเค้ายังมีใจให้ปู่อยู่นะ?”
มีใจให้งั้นเหรอ? คุณปู่ถามอย่างนี้หมายความว่าไง?...ถ้าลองตั้งคำถามอย่างนี้ ก็แสดงว่า...ตัวเองก็ต้องแอบคิดเล็ก ๆ ไม่งั้นจะสงสัยทำไม? จริงมะ?...แล้วถ้าเกิด คุณปู่กับคุณยายเกิดมีการรักรีเทิร์นขึ้นมาจะเป็นไงนะ? เอ๋! หรือว่า...เราจะใช้โอกาสนี้ทำให้การหมั้นครั้งนี้เป็นโมฆะ?!!...
โฮะ ๆๆๆๆๆๆ ในที่สุด...แผนสุดล้ำก็ปิ๊ง~! อยู่ในหัวสมองของการ์ตูนแล้ว ฮ่า ๆๆๆๆ...ดีล่ะ ทีนี้ก็เหลือแค่ลงมือเท่านั้น รับรอง...นายเวย์นได้เป็นเบ๊สมใจแน่ ๆ โฮะ ๆ
จนแล้วจนรอด...ไอ้แหวนหมั้นเจ้ากรรมมันก็ยังไม่ยอมออก ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็พยายามถอดอีก ถอดเข้าไป ถอดยังไงก็ไม่ออก...กินข้าวก็ถอด อิ่มแล้วก็มาถอดต่อ แต่ก็ไม่ยอมออกซะที
โอ๊ย! ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ เดี๋ยวโมโหตัดนิ้วทิ้งซะเลยนี่
“ทำไรอ่ะ?”
ตัวแสบโผล่มาทำลายสมาธิการถอดแหวนของฉัน...ฉันเลยหันไปทำหน้ายักษ์ใส่
“ยุ่ง!”
“ไม่ยุ่งก็ได้ นี่...แล้วเช้านี้มีอะไรให้กิน? ไม่เอาโจ๊กแล้วนะ ใสอย่างกับน้ำเปล่า กินแล้วไม่เห็นอิ่มเลย”
ยังไม่เลิกวิพากษ์วิจารณ์ เดี๋ยวปั๊ดหลังแหวน(หมั้น)ซะเลย
“คอนเฟล็กอยู่ในตู้ นมอยู่ในตู้เย็น หากินเอาเอง”
“หวา! ซีเรียลอีกแล้วเหรอ?...ฉันอยู่เมืองนอกกินไอ้นี่จนเบื่อแล้วนะ ขออะไรที่มันดีกว่านี้ได้มั้ย?”
เรื่องมากอีก ไอ้เด็กบ๊อง!
“นายมีอยู่สามทางเลือก ข้อหนึ่ง ไปตลาดซื้อกับข้าวมากินเอง ข้อสอง ทนกินซีเรียลต่อไป”
“แล้วข้อสามอ่ะ?”
“อดไง ถามได้”
“งั้นฉันเลือกข้อสองดีกว่า ขี้เกียจอดกับเดินไปตลาดง่ะ ปากซอยอยู่ไกลจะตายไป”
นายนั่นเดินบ่น ๆ หยิบซีเรียลกับนมมาวางไว้บนโต๊ะ ส่วนฉันก็พยายามถอดแหวนต่อไป
“ถอดไม่ออกเหรอ?”
“ยุ่ง!”
“แหวนของป้าก็ถอดไม่ออกเหมือนกัน ฉันก็เลยต้องทนใส่ต่อไป”
นายเวย์นพูดพร้อมกับพรีเซนท์แหวนตัวเอง แต่ฉันขี้เกียจสนใจ มุ่งมั่นกับการถอดแหวนต่อไป
“บางทีอาจเป็นลิขิตสวรรค์ก็ได้นะ”
“???”
ลิขิตสวรรค์อะไร? ตานั่นจะพูดอะไรกันแน่เนี่ย?
“ก็ที่ทำให้เราถอดแหวนไม่ออก เราอาจจะเกิดมาเพื่อคู่กันก็ได้”
“นี่ อย่าพูดอะไรให้ฉันอ้วกได้มั้ย? ฉันเพิ่งกินมื้อเช้าเสร็จนะ อย่างฉันกับนายนะเหรอ? สวรรค์ลิขิต....นรกลงโทษมากกว่า ที่ฉันต้องมาทนใส่แหวนของนายเนี่ย”
“โธ่เอ๊ย! แล้วป้านึกว่าฉันอยากใส่แหวนสับปะรังเคของป้านักเหรอ? ของเก๊รึเปล่าก็ไม่รู้”
ดูพูดเข้าสิ โอ๊ย! เสียอารมณ์ชะมัด...ไม่เอาละ ไปสอบดีกว่า ก่อนจะหงุดหงิดไปมากกว่านี้
“ฉันจะไปละ กินเสร็จล้างจานให้ดีล่ะ”
“สั่งไปเหอะ ของเมื่อวานฉันยังไม่ล้างเลย”
หือ?...จานชามเมื่อวานยังไม่ล้างเนี่ยอ่ะนะ...
หันไปมองที่อ่างล้างจาน จริง ๆ ด้วย...จานชามกองมหึมายังอยู่กับที่ไม่ไปไหน เห็นแล้วมันน่าโมโหนัก
“ไอ้เด็กเวร!”
“ไปดีกว่า”
ว่าแล้วนายตัวแสบก็เผ่นออกไป จะวิ่งตามก็ตามไม่ทัน โอ๊ย! ไม่เคยเจอใครที่ทำให้ฉันอยากจะทุบมากขนาดนี้มาก่อน นี่นะเหรอคู่หมั้นที่รอแต่งงานกับฉัน? คู่กัดล่ะสิไม่ว่า เห็นแก่หนูเถอะสวรรค์ ถ้าหนูจะฆาตกรรมคู่หมั้นตัวเองเนี่ย? ให้ตายเถอะ!
น่าแค้นชะมัด ที่ฉันต้องทนล้างจานหลาย ๆ มื้อรวมกันเพราะฝีมือนายเวย์น นั่งรถมาถึงมหาลัยก็ยังไม่เลิกโมโห แต่พอนึกได้ว่าถึงเวลาเข้าห้องสอบแล้ว ต่อมอารมณ์แค้นก็หยุดทำงานแล้วรีบจ้ำอ้าวโดยไว
ตายแล้ว! มัวแต่โดนเรื่องแหวนหมั้นกับนายวิเชียรป่วน เลยลืมว่าใกล้สอบแล้ว มันเพราะนายนั่นจริง ๆ ฮึ่ม!
ไปถึงห้องสอบ ดูเหมือนฉันจะเป็นรายสุดท้ายที่เข้าไป O_o ไปถึงก็รีบ ๆ เขียนชื่อ อ่านข้อสอบสลับกับการฝนคำตอบ ในที่สุดฉันก็ออกมาจากห้อง  แปลกชะมัด...OoO; เข้าช้ากว่าชาวบ้าน แต่ออกก่อนติดอับดับความเร็ว อย่างว่าแหละ คนมันมีความสามารถ โฮะ ๆ ^O^
สอบวิชาวันนี้ ยัยไอซ์สอบห้องเดียวกัน ก็เลยรออาเจ๊ออกมา ระหว่างรอก็ยืนมองแหวนตัวเอง
ตายแล้ว! มีคนแอบเห็นแหวนหรือยังเนี่ย? รีบถอดออกก่อนดีกว่า
อึ๊ดชิ่ว! อึ๊ดชิ่ว! บึ๊ดจ้ำบึ๊ด เอ้า! บึ๊ดจ้ำบึ๊ด...ออกซะทีสิ >.<;;;
“ว้าว! แหวนสวยจัง”
ยัยไอซ์กระโดดเข้ามากอดไหล่ฉัน  O_O;;; ฉันเลยรีบเอามือซ๋อนไว้หลังตัวเอง
“เอ้า! จะซ่อนทำไม?”
“หือ? มะ...ไม่ได้ซ่อนอะไร ซะ...ซักหน่อย” >_<;;;
“ก็เห็น ๆ อยู่ว่าแกอามือหลบหลังตัวเองอ่ะ แหวนอะไร? ให้ดูหน่อยสิแก”
ตายแล้ว! >.<” ทำไงดีเนี่ย? นังไอซ์เห็นแหวนแล้วอ่ะ...
“ไม่มี แหวนอะไร? ไม่มีซะหน่อย”
“โกหก!”
“โกหกอะไรกันเหรอครับ?”
นายทิมเดินเข้ามาหา O_O; โอย! โผล่มาอีกตัว เอ้ย! อีกคนแล้ว...ทำไมถึงต้องมาพร้อมกันเอาเวลานี้ด้วยนะ? >_<;
“อ้าว! นี่นายกับตูนดีกันแล้วเหรอ?”
โอ้ว! ดีที่ยัยไอซ์เปลี่ยนเรื่อง -_-^^^ มาสนใจเรื่องนั้น เจ๊คงยังไม่รู้เรื่องฉันกับนายทิมสินะ เออ ๆ คุยต่อสิ ถามอะไรก็ถามเลย ยินดีตอบค่ะ ^O^
“อืมใช่ เรากลับมาเป็นเพื่อนกันแล้วล่ะ”
“งั้นเหรอ? ดีแล้วล่ะ...เอ้อ! แล้วตกลงแหวนอะไรของเธอล่ะ? เอามาให้ดูหน่อยสิ”
น่าน~! ยังไม่เลิกสนใจแหวนฉันอีก ~_~^^^ ยัยเพื่อนบ้า! บอกว่าไม่มีอะไร ก็ไม่มีอะไรสิ
“แหวนไรเหรอ? ไอซ์”
น่าน~! ทิมก็จุ้นอีกคน...โธ่เอ๊ย!
“แหวนไรก็ไม่รู้ ตูนไม่ยอมให้ดูง่ะ ฮั่นแน่! แหวนหมั้นล่ะสิ”
ยัยไอซ์ทำหน้าเหมือนรู้ทัน เดาเก่งจริง ๆ ยัยเพื่อนบ้า!
“แหวนหมั้นจริงเหรอ? ตูน”
นายทิมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ TT_TT  อะไรเนี่ย?..แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย? เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?
“มะ...ไม่ใช่ ฉันจะไปหมั้นอะไรกับใครล่ะ พวกแกนี่บ้าจริง ๆ เดี๋ยวฉันต้องไปทำธุระต่อ ขอตัวก่อนนะ”
ฉันรีบชิ่งหนีทันที ได้ยินเสียงยัยไอซ์ตะโกนเรียกเหมือนกัน แต่ไม่สนใจหรอก...ขืนหันไปยัยนั่นก็ต้องตามจุ้นเรื่องแหวนอีก เฮ้อ! ~_~;;;
เพราะแหวนวงนี้จริง ๆ >_< ฉันถึงต้องพลอยปวดหัวเพราะเรื่องวุ่น ๆไปด้วย เฮ้อ!
หลังจากผ่านภาวะล่อแหลมต่อการถูกแฉเรื่องหมั้นมาได้อย่างหวุดหวิด ฉันก็รีบกลับบ้านทันที นั่งรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาลงหน้าบ้าน มาถึงก็เจอคุณปู่ของนายเวย์นยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้าน
คงไม่ใช่มาดูลาดเลาเพื่อปล้นหรอกมั้ง...
“สวัสดีค่ะคุณปู่”
ทักทายซะก่อนตามมารยาท คุณปู่หันมายิ้มแป้น
“อ้าว! เพิ่งกลับมาเรอะ? ตูน”
“ค่ะ...คุณปู่มาเยี่ยมเวย์นหรือคะ?
“ก็มาเยี่ยมทั้งเวย์นกับตูนแหละ เป็นคู่หมั้นของหลานลุงนี่นา”
ง่า...พูดอย่างนี้ก็เขิน เอ้ย! เซ็งเด่ะ...คู่หมั้นของเด็กนรกนั่นนะเหรอ? คิดแล้วหน่ายไม่เลิก...
“เอ่อ...คุณปู่เข้ามาก่อนสิคะ”
พูดพร้อมกับผลักประตูเข้าไป มาถึงในบ้านก็ดันไม่เจอนายเวย์น...อะไรกันเนี่ย? อย่าบอกนะว่าออกจากบ้านทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ล็อคบ้านให้ฉันน่ะ กรี๊ดดดด~! ขโมยยกเค้าบ้านฉันไปหรือยังเนี่ย?
“มีอะไรหรือเปล่า? หนูตูน”
‘มีสิคะ ฝีมือหลานคุณปู่ตัวแสบทั้งนั้น’
“โอ๊ะ! มะ...มะ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไม่มีอะไรจริง ๆ”
คันปากยิบ ๆ แต่ก็ต้องปล่อยให้คันอยู่อย่างนั้น...ถ้าพูดมากเดี๋ยวจะเป็นการฟ้องผู้ใหญ่ คนอย่างการ์ตูนไม่ทำอย่างนั้นหรอก (แต่อาจทำเมื่อทนความกวนประสาทของตานั่นไม่ไหว)
“เดี๋ยวตูนไปหาน้ำให้คุณปู่ดื่มก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องลำบากหรอก”
ฉันเดินไปที่ครัว หยิบแก้วน้ำมาใส่น้ำแข็งแล้วค่อยรินน้ำจากเหยือกมาวางไว้บนโต๊ะ...ส่วนคุณปู่ก็มองไปทั่ว ๆ บ้าน
“อะไร ๆ ดูเปลี่ยนไปเยอะนะ”
“ก็คงงั้นมั้งคะ”
เปลี่ยนตรงไหนหว่า?...ตั้งแต่เกิดมาบ้านเราแทบไม่เคยต่อเติมตกแต่งอะไรเพิ่ม หรือว่าที่ว่าเปลี่ยนไปเทียบกับยุคคุณปู่ยังหนุ่มนะ?
“จริง ๆ คุณปู่น่าจะมาพักซะที่นี่นะคะ ไม่เห็นต้องลำบากพักที่โรงแรมเลย สิ้นเปลืองเปล่า ๆ”
“เกรงใจเปล่า ๆ ไม่เป็นไรหรอก ปู่ไม่ได้ลำบากอะไร”
แล้วคุณปู่ก็นั่งลง ฉันก็นั่งตาม...แต่แล้วคุณปู่ก็ลุกขึ้นยืนอีก เดินไปที่ภาพปักครอสติชรูปเด็กผู้หญิงถักเปียเด็ดดอกไม้ที่ติดบนผนังในห้องรับแขก
“นี่...ผกายังเก็บภาพนี้ไว้อีกเหรอ?”
“คะ?”
ฉันเดินเข้าไปข้าง ๆ คุณปู่ แล้วคุณปู่ก็พึมพำ
“หรือว่าเค้ายังมีใจให้ปู่อยู่นะ?”
มีใจให้งั้นเหรอ? คุณปู่ถามอย่างนี้หมายความว่าไง?...ถ้าลองตั้งคำถามอย่างนี้ ก็แสดงว่า...ตัวเองก็ต้องแอบคิดเล็ก ๆ ไม่งั้นจะสงสัยทำไม? จริงมะ?...แล้วถ้าเกิด คุณปู่กับคุณยายเกิดมีการรักรีเทิร์นขึ้นมาจะเป็นไงนะ? เอ๋! หรือว่า...เราจะใช้โอกาสนี้ทำให้การหมั้นครั้งนี้เป็นโมฆะ?!!...
โฮะ ๆๆๆๆๆๆ ในที่สุด...แผนสุดล้ำก็ปิ๊ง~! อยู่ในหัวสมองของการ์ตูนแล้ว ฮ่า ๆๆๆๆ...ดีล่ะ ทีนี้ก็เหลือแค่ลงมือเท่านั้น รับรอง...นายเวย์นได้เป็นเบ๊สมใจแน่ ๆ โฮะ ๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น