ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยสาวเฮี้ยวกะนายตัวร้าย

    ลำดับตอนที่ #7 : - 7 - คู่ปรับคู่ใหม่ !?

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 49


                                                                                       7   

    ตอนนี้ฉันกำลังยืนอยู่ที่แผ่นดินเกิด สิ่งที่ฉันโหยหาและอยากกลับมามากที่สุด แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกว่า มีสิ่งไดสิ่งหนึ่ง หลงเหลืออยู่ที่เกาหลี เป็นของสำคัญที่ฉันต้องกลับไปเอา ...เปรียบเสมือนของรักของหวงที่ฉันลืมเอาไว้ ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล ในการจากลาโดยที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ มีเพียงเศษกระดาษน้อย ๆ แผ่นนึง กับคำพูดคำสุดท้าย... "โชคดีน่ะ" ....

     

      "เฮ้อ..อ" ฉันแอบถอนหายใจเบา ๆ แล้วมองหาแม่หรือคนที่จะมารับ แม่ไม่ได้บอกเรื่องมาถึงสนามบินดอนเมืองแล้วซะด้วยสิ - -* แล้วนี่ฉันจะกลับไงหละ บ้าฉิบ ! ไมคนเยอะงี้นะ =O= !!

      ตอนนี้คนมากมายอยู่เต็มสนามบินอย่างจะมาประท้วงอะไรสักอย่าง บางคนยืนกันเป็นกลุ่ม ถือป้ายประดับด้วยดวงไฟสวย ๆ มากมาย ส่องแสงวิบวับจับตา แล้วส่วนมากก็จะเป็นวัยรุ่นผู้หญิงซะด้วย...

     นี่เว่อร์กันไปไหนน่ะแค่มารับญาติทำอย่างกะมารับดารานักร้อง....เอ๊ะ ดารา .. นักร้องงั้นเหรอ ..!? ฉันพึ่งสังเกตุเห็นได้ว่า ตัวหนังสือที่อยู่บยป้ายนั้นคล้ายกันหลายแผ่น ...มันเป็นภาษาเกาหลีอ่านเป็นชื่อได้ว่า ......ยู....ฉันหรี่ตาเพื่อเพ่งสมาธิไปที่ตัวหนังสือที่อยู่ไกลราว 10 เมตร ... ทันใดนั้นก็มีเสียงกรี๊ด ดังจนสนามบินแทบแตก ฉันรีบยกมือขึ้นปิดหูอย่างอัตโนมัติ  

       ผลัก --- ! โอ๊ยย ยัยป้านี่เป็นใครกันน่ะ อยู่ๆก็วิ่งมาชนฉันทำให้ฉันเริ่มกระเด็นเข้าไปในวงล้อมนั้น...ฉันพยายามแหวกว่ายทุกวิธีทางที่จะออกไปจากวงล้อมมหาปะรัยเสียงคลื่นนรกแตกนี่ =_= ! ฉันต้องกลับไปหาสัมภาระกระเป๋าเดินทางของฉันให้ได้ =[]=^

     แต่ก็ไม่สำเร็จฉันโดนดันมาอยู่ในนี้จนได้ ผู้คนมากมายต่างเบียดเสียดกันเพื่อได้เข้ามาข้างใน ...เอ๊ะ ฉันว่าฉันเห็นหัวใครแวบๆ น่ะ...-*- แต่ฉันพยายามเขย่งดูตาสต๊าฟก็มาผลักฉันออกแล้วกันคนคนนั้นสุดริช ..เอาหละ ! เห็นที่ฉันต้องใช้วิชาตุ๊กตุ่นซะแล้ว.. ฉันก้มตัวลงให้อยู่ระดับขาแล้วก็คลานผ่านพวกนั้นออกไปทำให้ฉันไม่ต้องโดนเบียด แต่มันเสี่ยงกัยการโดนเหยียบนิ้วแทน T_T 

      "โอ๊ย ยัยบ้าอย่าชนฉันสิ" เสียงขึ้นมาจากเหนือหัวที่ต่างแย่งชิ่งพิชิตกลุ่มก้อนนี้เพื่อเข้าไปให้ใกล้ดาราที่อยู่กลางวงมากที่สุด ....

       แล้วไม่วายฉันโดนชนจนแทบกลิ้ง พอรู้สึกตัวฉันก็ไม่รู้ทิศทางว่าทางไหนทางออกนอกวง ทางไหนทางเข้าวงฉันจึงลองเสี่ยงตายคลานไปเรื่อย ๆ แล้วก็มามุดรอดใต้กางเกงผู้ชายคนหนึ่ง =..= ทันใดนั้นที่รอดผ่านมาได้หัวฉันก็ปะทะเข้ากับต้นขาของใครสักคน ... มันแรงพอควรทำให้ฉันแทบดาวขึ้นฉันเงยหน้ามาผู้ที่ถูกชน เวลาเดียวกันที่เขาก้มลงมองว่าใครกันที่มาชนเขา.....เราประสานสายตากัน..

       "....OoO !"  หน้าฉัน

       "o_o"  หน้าเขา

    ยูจางซอง.............!!!! ไม่ผิดแน่ ดวงตาคมสวย จมูกโด่ง ปากโค้งได้รูป หน้าเรียวสีขาว ผมยาวระต้นคอสีดำน้ำตาล...ฉันหน้าเอ๋อนิดหน่อยเมื่อรู้ว่าเขาคือใคร แต่เขาดูจะตกใจเชนกันที่เห็นฉันอยู่ตรงนี้....

      "เอ้า ! ยัยนี่เข้ามาได้ไง" สต๊าฟคนนึงเห็นฉันที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าจางซอง ตาสต๊าฟพยายามลากฉันออกไป

      "กรี๊ด..ดทำไรหนะ เจ็บน่ะ !" ฉันร้องโวยวายเมื่อตาสต๊าฟหุ่นเหล็กลากฉันออกจากจางซองเพราะเข่าฉันถูกับพื้นเต็ม ๆ

      "ปล่อยเธอ"  จางซองพูดก้มลงนั่งยอง ๆ หน้าฉัน  "เธอเป็นเพื่อนผมเอง…"

    ตาสต๊าฟหุ่นเหล็กมองหน้าจางซองอย่างขื่นๆแต่ก็ยอมปล่อยฉันโดยดี ...

      "เธอมาได้ไง" 

      "..แม่ฉันโทรเรียกให้กลับบ้านว่าแต่นายมาได้ยังไง ?" 

      "มาทำงาน"  เขาพูดแล้วลุกขึ้นยืน ตาสต๊าฟอีกคนบอกเร่งรีบให้จางซองเดินไป เขาเหลียวมองฉันนิด ๆ ก่อนทำมือเป็นสัญญาณว่าแล้วเราคงได้เจอกันอีก จากนั้นก็เดินจากออไปเพื่อขึ้นรถตู้โดยมีกลุ่มแฟนคลับมหึมาเคลื่อนตัวไปด้วย.....ไม่นานเหลือแต่ฉันที่นั่งบื้ออยู่ยนพื้นสนามบิน

      "หนูจ๊ะ ช่วยลุกด้วยจ๊ะ" ป้าทำความสะอาดเรียกฉันพลางเอาไม้ถูพื้นกระแซะก้น

     "อ่ะค่ะ..." ฉันลุกพรวดเดินกลับไปที่กระเป๋าสัมภาระพลางมองไปมาหาคนที่จะมารับ และนั่นไงฉันเห็นเรือนผมสีน้ำตาลหยิกเป็นมันส่องแสงสะท้อนแสงไฟอยู่ตรงนั้น...!

      "ยัยฟาง !" ฉันตระโกนเรียกชื่อเพื่อนของฉันเป็นภาษาไทยยัยฟางสนิทกับฉันมาตั้งแต่อนุบาลจนฉันไปเรียนต่อที่เกาหลีทำให้ไม่ได้ติดต่อกันนานพอดู...

    ยัยฟางหันขวับทันทีที่ได้ยินเสียงฉันเธอหันมาพร้อมรอยยิ้มที่จริงใจ เธอวิ่งตรงมาหาฉันพลางจับมือฉันเขย่าอย่างแรง

      "ยัยดินสอให้ตาย ! ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอเธออีกแล้วน่ะแล้วดูนี่สินี่มันวันอะไรกัน ทำไมพวกก้อนหนึบเคลื่อนที่ถึงมาอยู่ตรงนี้ !~" ยัยนั่นบ่นยืดยาววก่อนหยุดพักหายใจ

      "พวกแฟนคลับหนะ" ฉันตอบเธอพลางยิ้มให้ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักเอาการ ผมสีน้ำตาลที่ดัดเป็นลอนสวยถูกปล่ยให้ยาวลงมาถึงกลางหลัง ใบหน้ารูปไข่ กับปากอมชมพู ตาโตเข้าคู่กับขนตางอนงาม แก้มอมชมพูรับกับผิวสีขาวเนียน

      "แฟนคลับ !" เธอบ่นทำหน้าอย่างกะถูกแทงเข้าให้ที่หลัง "แล้วดาราคนไหนหละเนี่ย"

      "ยูจางซอง ดารา นายแบบจากเกาหลีหนะ"

      "อ๋อ...ตานั่นเองหรอกเหรอ เชอะแค่เห็นหน้าก็คลื่นไส้แล้วบอกตรงๆน่ะฉันรู้สึกไม่ถูกชะตาชอบกล หน้าตาก็งั้นๆ แถมผิดขาวจั๊วะอย่างกะไม่ได้รับแสงแดดเป็นเวลานานงั้นหละ"

      "เขาก็หล่อดีนี่ ที่สำคัญอย่าพูดอย่างงี้ต่อหน้าพวกแฟนคลับเชียวน่ะ ถ้างั้นเธออาจจะเละเป็นโจ๊ก !"

      "หยะ....เอ๊ะ...ยัยดินสอ ! อย่าบอกน่ะว่าเธอก็เป็นแฟนคลับตาผีจีนนั่น"

     "เขาไม่ใช่ผีจีนน่ะ"  ฉันเขม่นตาใส่ยัยฟาง ดูยัยนี่ตั้งชื่อให้จางซองสิ เฮอะ เธอคงได้รับรางวัลผู้หญิงตาถั่วแห่งปีแน่ ๆ

     "เออ ๆ ปกป้องกันเข้าไป ยังไงฉันก็ยังเห็นตานั่นเป็นต้นถั่วงอกไม่รับแสงวันยังค่ำ"

    ฉันเลิกทะเลาะกับยัยนี่ดีกว่า เมื่อรู้ว่าพุดอะไรออกไปเจ้าหล่อนคงไม่ฟังอยู่แล้ว.....--*--

      "ว่าแต่เธอมารับฉันใช่ไหม ?" ฉันเปลี่ยนเรื่องมาเป็นการอยู่รอดของชีวิตฉันแทน

      "ช่ายยแล้ว ! ฉันดีใจมาก ๆๆ เลยน่ะดินสอดูเธอสิซูบลงหรือเปล่า แต่เธอก็น่ารักดีอ่ะ อิ อิ"

     "=///="

     "ฮ่าๆไม่เคยเปลี่ยนเพื่อนฉันไปหาอะไรเลื้ยงฉลองการเจอกันดีกว่านะ" 

     "งืมๆๆ เอ๊ะแต่ว่าแม่ฉันบอกว่ามีเรื่องสำคัญให้กลับด่วนนี่แล้วทำไมแม่ไม่มารับฉันอ่ะ ?"

     "........เอ่อ........"  ยัยฟางดูมีท่าทีตกใจกับคำถามนิดหน่อย แต่เธอก็รีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว

     "คือ...งี้น่ะดินสอมีเรื่องด่วนจริงๆ แต่เดี๋ยวแม่เธอคงจัดการได้แม่ของเธอบอกว่าให้ฉันมารับเธอแล้วพาไปหาของกินเสียก่อนกลับบ้านหนะ ....เพราะดูเธอน่าจะหิว"  ยัยฟางรีบเสริมประโยคหลังและครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

      "แต่ฉันอยากรีบกลับบ้านหนิ ....แม่โทรมาเสียงไม่ค่อนสู้ดีเท่าไหร่เลยน่ะ ไม่หละยังไงฉันต้องกลับบ้าก่อนไม่งั้นฉันไม่มีทางกินอะไรลงหรอก"  ฉันพูดยืนยันหนักแน่น ทำให้ยัยฟางหน้าถอดสีแล้วใช้ความคิดอย่างหนัก เหงื่อเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอ

      "ยัยฟาง ! เธอเป็นอะไรรึเปล่า หน้าซีดมากน่ะ เอ๊ะ หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับแม่..หละ..หรือพ่อหรือคนที่ฉันรัก !!!!"  ฉันเริ่มวิตกจริตไปใหญ่  ยัยฟางรีบเข้ามาห้ามความคิดอันชั่วร้ายของฉัน

      "ไม่มีทั้งนั้นแหละดินสอ ฉันว่าเธอทำใจให้สบายๆแล้วเราไปกินข้าวกันน่ะ" 

      "ไม่ ! ยังไงฉันต้องเห็นด้วยตาตัวเองก่อนว่าครอบครัวของฉันสงบสุขดี  ฉันพูดอย่างแน่วแน่และเดินลากกระเป๋าไปโบกรถแท็กซี่ ....ยัยฟางรีบวิ่งตามมาติด ๆ เธอกระโดดเข้ารถแท็กซี่ทันในไม่กี่เซี้ยววินาทีที่รถแล่นออกไป

      "โอ๊ยย เธอนี่ดื้อจริงๆยัยดินสอ" เธอบ่นพลางลูบแขนที่โดนประตูหนีบ 

      "ก็ฉันเป็นห่วงครอบครัวฉันนี่"

    ระหว่างทางยัยฟางกดมือถือจ้าระหวั่น แล้วพูดเสียงค่อย ๆ ที่สุดราวเสียงกระซิบไปให้ปลายสาย  ฉันแอบได้ยินนิดๆว่า 'เอาไงดีค่ะ ดินสอกำลังมุ่งหน้าไปที่บ้าน' =___=^ 

    แล้วในที่สุดฉันก็มาถึงบ้านของฉันจนได้ 2 ปีแล้วสิน่ะ ที่ไม่ได้กลับมาแต่ฉันไม่เคยลืมว่าบ้านฉันอยู่ตรงไหน ไม่เคยลืมว่ามันเป็นยังไง ฉันจำรายละเอียดทุกๆจุดของบ้านหลังนี้ได้ ......(_ _)

    ฉันลงมาจากแท็กซี่แล้วลากสัมภาระหนักอึ้งเข้าไปในรั้วบ้าน....นี่คือสวรรค์ แห่งบ้านทรายเงินที่ฉันครองประสูติ(ร้องงี้เปล่า=_=^) ...มั่วใหญ่แล้วแต่มันเหมือนจริงๆนี่นอกจากฉันไม่ได้ถักเปีย 2 ข้างแค่นั้น เมื่อถึงประตูบ้านฉันผลักออกเต็มแรง...พบกลับบ้านที่ฉันไม่ได้เจอมานานแต่มันยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

    แม่เดินออกมาต้อนรับฉัน หน้าของท่านซีดเผือก - -* นี่ฉันชักสงสัยแล้วน่ะ ยัยฟางที่เดินตามหลังฉันมาต้อยๆก็ทำตาขยุกขยิกใส่กัน แถมหน้างี้เหงื่อแตกพลั่ก ...=_= !

       "อ๋า....ลูกดินสอแม่คิดถึงจริงๆเลย" แม่พูดพลางกอดฉันแน่น

       "ค่ะ....แล้วพ่อหละ ?"

       "พ่ออยู่ในห้องรับแขกจ๊ะเรามีปาร์ตี้เล็ก ๆ ฉลองที่ลูกกลับมา" แม่พูดขึ้นพลางให้คนยกกระเป๋าไปเก็บบนห้อง

      "อ๋อ...ค่ะงั้นดินสอขอตัวขึ้นไปหาคุณพ่อน่ะค่ะ"

       "ดะ...เดี๋ยวก่อน...คือ....เอ่อ..." แม่ตกใจนิดนึงแล้วคว้าข้อมือฉันเอาไว้

       "อะไรค่ะแม่ -*- ! ไม่หละปล่อยมือหนู" ฉันเริ่มชักไม่แน่ใจในสถาณการณ์โดยคร่าวๆ มีบางอย่างบอกฉันว่ามีอะไรที่ไม่ค่อยจะเข้าทีรออยู่ข้างหน้า ฉันเดินไปที่ห้องรับแขกทันที เมื่อประตูถูกพลักออก ก็พบกับห้องที่มีเก้าอี้นวมตั้งอยู่กลางห้อง แถมมีพายสีทองมีผ้าคลุมอยู่ ตรงกำแพงมีผ้าผืนเบ่อเริ่มคาดเอาไว้...

       "อ่ะดินสอ คิดถึงจริงๆ"  พ่อพูดขึ้นเดินตรงมาที่ฉัน

    ในห้องมีพ่อ กับผู้หญ่ดูมีภูมิฐานนั่งอยู่ 2 คน ผู้หญิง 1 ชาย 1 แล้วก็ผู้ชายหน้าตาดีคนนึงนั่งอยู่ ทุกคนแล้วแต่สีหน้ากลัดอดกลัดกลุ้มใจทั้งนั้น...

         "สวัสดีค่ะ....แล้วคนพวกนั้นเค้าเป็นใคร" ประโยคหลังฉันกระซิบถามพ่อเบา ๆ

        "ก็เพื่อนพ่อเอง^__^;; เค้ามาร่วมฉลองที่ลุกกลับมาหนะดินสอ"

        "อ๋อ....เหรอค่ะ...ทำไมพ่อต้งใส่สูทด้วยหละ แม่ก็เหมือนกันแต่งตัวซะอย่างกะจะออกงาน"

       "พ่อพึ่งกลับมาจากที่บริษัทน่ะ แม่ก็....."

       "อย่าบอกน่ะค่ะว่าพึ่งกลับมาจากงาน" ฉันต่อท้ายอย่างรู้ทัน...พ่อเหงื่อตกเล็กน้อยก่อนยิ้มอย่างมีพิรุธ

        "ถูกต้องจ้า เก่งมาลูกพ่อ !"

      ให้ตายเหอะ แล้วคนพวกนั้นก็แต่งตัวอย่างกะจะไปงานเนี่ยนะ แถมผู้ชายคนนั้นใส่ชุกผ้าไหมรอไว้อย่างกะจะเข้าพิธีหมั้น......ฉันสะดุ้งเฮือก..นี่คงไม่เหมือนในละครใช่ไหม !? ที่หลอกให้ผู้ญิงกลับมาเพื่อจบหมั้นกะคนที่พ่อแม่เลือกให้หนะ.....O_O ไม่หรอกน่า ....แต่พ่อแม่ฉันธรรมดาซะที่ไหน...

     ฉันเดินตรงไปที่กำแพงมือนึงขึ้นไปจับผ้าที่คาดไว้.....ทุกคนในห้องตกใจกันยกใหญ่ ยัยฟางหน้าถอดสีไปแล้วทำท่าเหมือนอยากกลับบ้านเต็มทน...

    ฉันกระชากผ้าออก......ทันใดนั้นตัวหนังสือสีทองสะกดได้ใจความว่า 'พิธีหมั้นของ เอมมิกาและวรกรณ์'

      "นี่มันหมายความว่ายังไงค่ะ !?" ฉัหันไปพูดดังทั้งความโมโห..ตกใจ ผสมกันมั่ว พ่อกับแม่ทำอะไร !?

      "คือ...งี้จ๊ะดินสอพวกเราอธิบายได้ทุกอย่างมัน ---.." แม่พยายามเข้ามาห้ามอารมณ์ที่เดือดพล่านในตัวฉัน

     "พอเถอะค่ะ....แม่เคยคิดถึงความรู้สึกของหนูบ้างไม๊ !? โทรเรียกให้หนูกลับมาจากเกาหลี ให้หนูพักการเรียนเพราะเรื่องอย่างงี้เหรอค่ะ !?" ฉันพูดน้ำตาเริ่มนองหน้าอีกครั้ง..

      "คือ..แม่แค่อยากให้หนูมั่นคง..วายเค้าเป็นคนดีแม่เชื่อว่าเค้าจะดูแลหนูได้น่ะ"

      "..แล้วความรู้สึกของหนูหละค่ะแม่ ..! ความรู้สึกของหนูหละ !!!"

      "ก็ลูกไม่ได้รักใครอยู่นี่ หมั้นกันไปทำความรู้จักกันไปเดี๋ยวลูกก็ต้องชอบพี่วาย"

      "แม่อย่าพูดเองเออเองฝ่ายเดียวสิค่ะ ! หนูหนะก็มีคนที่หนูรักน่ะ !!!"

      "ลูกมี....."

    ...นี่ฉันพูดบ้าอะไรลงไปเนี่ย....เป็นแค่รักข้างเดียวเท่านั้น ! แต่ถึงจะเป็นรักข้างเดียว....ฉันก็ยินยอมที่จะรักหนิ... 'มินวอน'...ชื่อนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง...มันทำให้ฉันแทบระเบิดน้ำตาออกมาได้โดยไม่ต้องสั่ง...

      "ดินสอ....." ยัยฟางเข้ามาปลอบใจฉัน เมื่อเห็นว่าน้ำตาฉันทะลักล้นออกมามากกว่าเดิม ...แต่นั่นไม่ใช่เพราะฉันเสียใจเรื่องแม่หรือคู่หมั้นนี่หรอก..แต่เสียใจที่ไม่สามารถบอกความรู้สึกของตัวเองให้คนที่ฉันรักรู้ไม่ได้ แถมพูดอะไรที่มันไม่ใช่ความจริงออกไป....ฉันนี่มันบ้าจริง ๆ

    ฉันวิ่งออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว มียัยฟางตามออกมาติด ๆ ฉันโบกแท็กซี่ขึ้นและอีกครั้งที่ยัยฟางสามารถแทรกตัวเข้ามาได้....

       "เธอตามฉันมาทำไม" ฉันหันไปพูดเสียงอู้อี้กับยัยนั่นที่ได้แผลมาอีกแล้วที่หัวเข่า

       "ฉันทำผิดต่อเธอ ฉันขอโทษ..."

       "ฉันไม่โกรธเธอหรอกเพราะแม่ของฉันขอให้ช่วยใช่ไหมหละ มันก็ยากที่จะปฏิเสธฉันเข้าใจ"

      "อื้มมม ..ขอบคุณที่เธอเข้าใจน่ะ"

    เรานั่งเงียบกันไปสักพัก จนยัยฟางสะดุ้งเฮือกพลางถามว่าเราจะไปไหน....แต่จริงๆแล้วฉันไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกันเลยบอกให้แท็กซี่หยุดตรงหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

    เรา 2 คนเดินคุยกันไปเรื่อย ๆ ยัยฟางเริ่มวิพากษ์วิจารณ์พวกแฟนคลับเมื่อเช้าและเริ่มเปรียบเทียบอะไรมั่วๆกะจางซองเราทะเลาะกันเรื่องความเห็นว่า  ผู้ชายที่เดินผ่านเราไปมีคิ้วหนาเกินความจำเป็นหรือเปล่า ...สุดท้ายจบลงด้วยเสียงหัวเราะกับชัยชนะที่ตกลงกันว่า เลิกยุ่งกะคิ้วของเค้าสักทีเหอะ เราจะสนใจเรื่องนี้เมื่อขนนั่นขึ้นผิดที่ไม่แน่อาจจะตรงก้นเธอ.....

      นี่แหละที่ฉันชอบยัยนี่ ยัยฟางทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เมื่อฉันยิ้มออก เราก็เริ่มเดินช็อปปิ้งกันในห้างนั้น จนเวลาเย็นพอสมควร....

      "กลับบ้านกันเถอะ" ยัยฟางเอ่ยขึ้นพร้อมถุงหิ้วพะรุงพะรังเต็มมือ

      "อ่ะ....อื้อ..." ฉันนึกขึ้นได้ว่าพึ่งมีเรื่องกะที่บ้านมาจึงไม่อยากกลับบ้านฉันขอไปนอนที่คอนโดของยัยฟาง ยัยฟางทำหน้าแบบว่าเธอควรกลับไปขอโทษแม่ก่อนน่ะ...แต่เธอก็ยอมแต่โดยดีเมื่อฉันบอกว่าจะโทรไปบอกแม่ แล้วเราก็เดินทางไปที่คอนโดยัยฟาง

    เมื่อถึงคอนโด..ฉันก็เห็นว่ามีผู้หญิงมากมายจนแทบล้น เรา 2 คนต้องแทรกตัวผ่านเข้ามาอย่างยากลำบากแล้วเราก็กดลิฟท์ไปที่ห้องของยัยฟาง เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกเผยให้เห็นผู้ชายแต่งตัวด้วยเสื้อสีดำมากมาย มีป้ายว่า Staff

     ห้อยคออยู่..

      "อีกแล้วเหรอนี่ อย่าบอกน่ะว่ามีดารามาพักที่คอนโดนี้อ่ะ" ยัยฟางเริ่มออกอาการ ฉันแอบได้ยินยัยนี่กระซิบกัยตัวเองว่า 'หวังว่าไม่ใช่นายถั่วงอกนั่นนะ' แต่ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่ยัยฟางต้องการน้อยที่สุดเกิดขึ้นแล้วว เมื่อประตูห้อง 780 ข้างห้องยัยฟางเปิดออกพร้อม..ผู้ชายคุ้นหน้า(สำหรับฉัน) ยูจางซองนั่นเอง.....

      "อ้าว...ฮันยองสวัสดี" จางซองเอ่ยทักทายฉันเป็นภาษาเกาหลี

      "ดี จ๊ะ^__^ เจอกันอีกแล้ว บังเอิญเนอะ"

      "อื้มม มากเลยหละ เอ๋ นี่ห้องเธอหรอ"

      "เปล่าไม่ใช่หรอกพอดีมีเรื่องกะที่บ้านเลยมาพักกับเพื่อนหนะ"

      "หลอ อือ ๆ ไงก็รีบคืนดีน่ะ ครอบครัวอ่ะสำคัญที่สุด..." จางซองพูดขึ้นพลางก้มหน้าลง...จริงด้วยแม่ของเขาป่วยอยู่ ต้องจากแม่มาไกลคงทั้งเป็นห่วงและเหงามาสิน่ะ

      "อย่าเป็นห่วงเลย แม่เธอต้องหายดี ไม่แน่น่ะตอนที่เธอกลับไปหนะ แม่เธออาจะลุกขึ้นมาเต้น แร็งโก้แล้วก็ได้"

      "ฮะๆๆ เธอนี่สุดยอดเลยฮันยอง ขอบใจมากน่ะ..เอ๊ะ ว่าแต่ผู้หญิงน่าบูดที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอนี่ใครเหรอ ?"

    หา....!? ฉันลืมยัยฟางไปเลย...ดีน่ะที่ยัยฟางฟังไม่ออกว่าจางซองเรียกเธอว่าอะไร เพราะแค่นี้หน้าเธอก็ปูดและบวมอย่างกะอมลูกเทนนิสไว้งั้นหละ

      "ฉันไม่ได้ชื่อ 'ผู้หญิงหน้าบูด' หยะนายถั่วงอกไร้คุณภาพ" เสียงผู้หญิงใสๆรอดออกมาเป็นภาษาเกาหลี ...จางซองมองหน้าฉันนิ่ง ฉันรีบส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง.....

      "ฉันพูดเอง" ยัยฟางเดินออกมาประเชิญหน้ากะนายถั่วงอก...เอ้ยย จางซอง

      "เธอพูดภาษาเกาหลีได้ด้วยเหรอ" ฉันกระซิบกระซาบถามยัยฟาง

      "ฉันเรียนมา 2 ปีแล้วหวังว่าจะบินไปเซอร์ไพร์เธอที่เกาหลีหนะแต่เธอกลับมาก่อน" ยัยฟางอธิบายแล้วเริ่มกลับไปประเชิญหน้ากะจางซอง

      "ใครคือถั่วงอกไร้คุณภาพ" จางซองทำหน้ากวนๆอย่างที่ฉันไม่มีทางเห็นมาก่อน และดูเหมือนแววตาเขาดุเอาการ

      "ก็ใครหละที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้าฉันอ่ะ !" ยัยฟางพูดภาษาเกาหลีตอบไปอย่าดุเดือด

      "เธอ...ยัยหน้าม้า หัวฟู !" จางซองโต้กลับ

      "นายผีจีนวิปริต"

      "ยัยปากจู๋ ดูดอึ !"

      "...นะ...นายบบ้าเลือดเสาไฟฟ้า"

    ฉันมองหน้าคน 2 คนที่โต้ยังอย่างเผ็ดร้อน ทั้ง 2 คนขุดบรรพบุรุษมาด่ากันอย่างดุเดือด...-*-

      "พอสักที" ฉันห้ามศึก

      "ดินสอ/ฮันยอง เธอจะเข้าข้างใคร !!??" ทั้ง 2 คนพูดพร้อมกันแต่คนละภาษาคนละชื่อ...ฉันแทบอยากจะเป็นลม

      "พอสักที"ฉันพูดภาษาเกาหลียุติอีกครั้ง "พวกเธอจะทะเลาะกันให้ได้อะไรขึ้นมา ..ยัยฟางเธอเข้าห้องไปก่อน" ยัยฟางทำหน้ายัยยู่ยี่เดินกระทืบเท้าปังๆเข้าห้องไป  จางซองแลบลิ้นใส่ 1 ที

      "จางซอง....เอ่อ..ฉันดีใจน่ะที่เจอนายหนะ ฉันขอตัวก่อน"

     "อ่ะอื้ม ฉันก็ต้องไปทำงานพอดี" เขายิ้มอย่างสุภาพ ให้ตายน่ารักซะไม่มี แต่ภาพที่จางซองกัดกะยายฟางเมื่อกี้คงขายได้หลายวอนอยู่น่ะ ฉันคิดว่ามันคงหาดูยากมาก ๆ กับผู้ชายอ่อนโยนคนนี้

    แล้วฉันกับจางซองก็แยกกันเขาเดินไปลงลิฟท์ ฉันเดินเข้าห้องไป..........ในใจพลางคิดว่า..ศึกครั้งนี้คงยืดเยื้อไปอีกนานพอดู....

    ·       ติดตาม รักร้าย ร่าหัวใจ ยัยหน้าม้า ได้เร็วๆนี้

     

                                                                                 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×