ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『Jujutsu Kaisen』Itadori Twin|ฝาแฝดของอิตาโดริ ยูจิ [Oc]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : วัตถุคำสาประดับพิเศษ "เรียวเมน สุคุนะ"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.67K
      305
      6 เม.ย. 64

    Chapter 2 : วัตถุคำสาประดับพิเศษ "เรียวเมน สุคุนะ"

     


     whumpenia.tumblr.com - Tumbex


     

         ทั้งสามรีบวิ่งออกจากโรงพยาบาลมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนก่อนที่มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ระหว่างทางเด็กช่างสงสัยอย่างยูจิเอ่ยถามเกี่ยวกับคำสาปที่ฟุชิงุโระ เมงุมิกำลังตามหา


         "นี่ยันต์มันแกะได้ง่าย ๆ เลยงั้นหรอ" 


         "ไม่มีทาง! หากมนุษย์ที่ไม่มีพลังไสยเวทไม่มีทางแกะมันได้ และมันควรจะเป็นแบบนั้น!" ฟุชิงุโระเว้นจังหวะ


         "แต่นี่มันผ่านมาหลายร้อยปีกระดาษนั่นก็ไม่ต่างจากเศษกระดาษหรอก!"


         แสดงกว่ามันมีสิทธิ์ที่จะโดนคลายผนึกได้ทุกเมื่อ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเกิดเรื่องแน่ ๆ แต่ตอนนี้ความปลอดภัยของรุ่นพี่สองคนนั้นต้องมาก่อน


         "เลี้ยวขวา! ห้องชมรมอยู่ที่ชั้น4!"  แม้ยูจิจะยังไม่ค่อยเข้าใจ เขาเองมองว่าฟุชิงุโระเพี้ยนด้วยซ้ำ


         ยูจิวิ่งนำหน้าโดยมียูมะและฟุชิงุโระตามหลังมา เมื่อเข้าไปใกล้ส่วนของตึกที่รุ่นพี่อยู่ยูมะรู้สึกอึดอัดขึ้นมายิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งกดดันแถมเหมือนมีออร่าแปลก ๆ ออกมาด้วยยิ่งทำให้ดูน่ากลัวและอันตรายขึ้นไปอีก



         กึก!



         ร่างสูงโปร่งของยูจิหยุดชะงักเหมือนเห็นอะไรสักอย่าง แรงกดดันที่เขาได้รับถึงกับทำให้คนอย่างยูจิเหงื่อตก


         "แรงกดดันนี่มันอะไรกัน..."


         "พวกนายรออยู่ที่นี่ซะ" ฟุชิงุโระดึงตัวสองแฝดให้อยู่ห่าง ๆ ก่อนจะกระโดดไปบนประตูรั้ว


         "ให้ฉันไปด้วย! มันอันตรายใช่ไหมล่ะแต่ยังรุ่นพี่สองคนนั้นก็เป็นเพื่อนของฉัน ฉันอยากจะช่ว-"


         "รุ่นพี่กำลังจะแย่แล้ว!" ดวงตากลมเบิกกว้างปลายนิ้วชี้ไปยังบนตึก ดวงตาของเขาเห็น เห็นสิ่งที่เรียกว่าคำสาปกำลังจะกลืนกินมนุษย์เข้าไป ทั้งสองคนมองตามทิศที่ฝาแฝดชี้ไปก็ไม่พบอะไรนอกจากดึกที่มีออร่าของคำสาปที่รุนแรงออกมา


         หมอนี้.....มองเห็นอย่างนั้นหรอ?       


         "เขากำลังจะถูกกิน!" ร่างของยูมะกำลังจะก้าวเข้าไปเพื่อเข้าไปช่วยแต่ก็โดนฟุชิงุโระตะโกนห้ามเอาไว้จนต้องชะงักเท้าไว้


         "อยู่ที่นี่!" แล้วร่างของเขาก็กระโดดเข้าไปเพื่อรีบเข้าไปช่วยทั้งสองคน สีหน้าและท่าทางของแฝดคนน้องไม่ได้ดูเหมือนคนโกหกเลยสักนิด


         เมื่อร่างอีกฝ่ายลับตาไปสองฝาแฝดยืนนิ่งกันอยู่หน้ารั้ว ดวงตาสีน้ำตาลทองยังจ้องเข้าไปด้านในราวกับมองอะไรสักอย่างที่ยูจิมองไม่เห็น ยูมะหอบหายใจมือไม้สั่นกลัวไม่ต่างจากแฝดพี่


         ยูจิมองแฝดตัวเองด้วยความสับสนและสงสัย น้องเขามองเห็นอะไรนะคำสาปมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ 


         ความตาย คุณปู่กลัวมันหรือเปล่านะ...... แล้วเราตอนนี้ล่ะ กลัวว่าจะตายงั้นหรอ


         แต่ตอนนั้นเราร้องไห้... แต่ไม่ใช่เพราะกลัวตายซะหน่อย เราร้องไห้เพราะเสียใจต่างหาก 


         การตายของปู่กับความตายที่จะเกิดขึ้นตรงหน้ามันไม่เหมือนกันเลยสักนิด


         'อย่าให้เป็นเหมือนฉัน' คำพูดนี้ทำให้เรานึกได้ ว่านอกจากพวกเราแล้วก็ไม่มีใครไปเยี่ยมปู่เลย


         

         กึก!



         "ยูมะ!?" ระหว่างที่ยูจิกำลังคิดกับตัวเองอยู่นั้นร่างของฝาแฝดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็กระโดดไปอยู่อีกฝั่งเรียบร้อยแล้ว


         "ผมจะรีบไปช่วยรุ่นพี่! พวกเขากำลังแย่!" แฝดน้องตะโกนอธิบายว่าทำไมตัวเองถึงทำแบบนี้ ก่อนวิ่งเข้าไปในตัวอาคาร


         เมื่อยูจิเห็นดังนั้นจึงกระโดดเข้าไปด้วยแต่ถ้าวิ่งขึ้นบันไดคงไม่ทันการแน่ 


         มีแต่ทางนั้นทางเดียวสินะ!

         


         

     

          

         ตึก! ตึก! ตึก!


         ร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มสวมแว่นวิ่งขึ้นบันไดให้เร็วที่สุดเพื่อไปช่วยรุ่นพี่ถึงแม้เขาจะไม่สนิทก็ตาม แต่การตายของคนคนนึงมันมีอะไรมากมายที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น และเขาเข้าใจดีกว่าการสูญเสียมันเป็นยังไง


         เพราะฉะนั้นเขาก็จะไม่ให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด!



         ฉัวะ!


         

         สิ่งที่ยูมะเห็นคือฟุชิงุโระที่จัดการคำสาปจนมันระเบิดออกกระจายเหมือนกับลูกโป่งที่แตกตัว เมื่อวิ่งเข้าไปใกล้ ๆ ก็เห็นรุ่นพี่แล้วก็แฝดตัวเองที่กำลังอุ้มร่างที่ยังไม่ได้สติอยู่


         "พี่! ฟุชิงุโระซัง! ไม่เป็นอะไรกันมากใช่ไหมครับ!" ยูมะวิ่งเข้ามาดูอาการก่อนจะชะงักเมื่อเห็นหมาสองตัวที่ต่างสีกำลังกินเศษร่างของคำสาป


         "พวกนายมองเห็นงั้นหรอ?" เจ้าของหมาทั้งสองตัวเอ่ยถามฝาแฝดที่มองชิคิกามิ(ภูติอัญเชิญ)ของตัวเอง


         "อื้ม" สองแฝดพยักหน้า


         "ปกติคนอื่นหรือคนทั่วไปจะมองไม่เห็นหรอก ยกเว้นจะใกล้ตายหรือในสถานที่พิเศษแบบนี้" เด็กหนุ่มอธิบายให้ฟังก่อนหันมามองแฝดคนน้องก่อนจะหรี่ตาลง


         "แต่นายมองเห็นตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วสินะ แถมยังมองเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่งอีกด้วย"


         "อะ อื้มผมมองเห็นอะไรพวกนี้มาตั้งนานแล้วน่ะ แต่ก็ไม่คิดหรอกว่ามันจะพิเศษอะไรขนาดนั้น" ยูมะจับท้ายทอยเมื่อโดนชมถึงแม้มันจะเป็นความสามารถที่เขาไม่ต้องการก็ตาม


         "ยูมะเห็นอะไรพวกนี้มาตั้งนานแล้วงั้นหรอ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลย" ยูจิยู่ปากเป็นแฝดกันแท้ ๆ แต่เรื่องนี้เขาเพิ่งมารู้ เขานี่เป็นพี่ที่แย่จริง ๆ เลย


         "แล้วนายล่ะ" คราวนี้ถึงตาที่ยูจิโดนถามบ้าง แฝดพี่ทำหน้านึกก่อนจะพูดออกมา


         "ความจริงแล้วฉันไม่เคยมองเห็นวิญญาณหรอกนะ นี่ครั้งแรกเลยล่ะ"


         "นายไม่กลัวรึไง" 


         "ก็กลัวนะ นายก็รู้ว่ามนุษย์น่ะตายได้จริง ๆ ฉันเลยคิดว่าอย่างน้อยคนที่ฉันรู้จักฉันก็อยากจะให้เขาได้ตายสบายกว่านี้" ยูจิพูดก่อนจะลุกขึ้นอุ้มร่างรุ่นพี่ซาซากิเพื่อพาเธอออกไปจากที่นี่



         ฟุบ!



         "โอ๊ะ!?" เมื่อยืนจนเต็มส่วนสูง ของที่ต้องการหล่นมาจากกระเป๋ากระโปรงของรุ่นพี่ซาซากิ ยูจิรับมันไว้ทันก่อนที่มันจะตกลงพื้น


         "นั่นคือวัตถุต้องสาประดับพิเศษ นิ้วเทพอสูร'เรียวเมน สุคุนะ' ดีที่มันไม่ได้โดนกลืนลงไป" ฟุชิงุโระอธิบายวัตถุที่มีรูปร่างเหมือนนิ้วคนที่ม่วงช้ำและดูแห้งคล้ายมัมมี่


         "กลืน? มันอร่อยงั้นหรอ" คำถามแปลก ๆ ถูกถามออกมาสำหรับยูมะถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เด็กขี้สงสัยอย่างพี่ตัวเองจะถามอะไรแบบนี้


         "พูดบ้าอะไรของนาย มันอันตรายส่งมาให้ฉันซะ" 


         ระหว่างที่สองคนกำลังคุยกันยูมะรู้สึกได้ถึงอะไรแปลก ๆ ความอึดอัดมันกลับมาอีกครั้ง กลิ่นคำสาปที่เคยได้กลิ่นก่อนหน้านี้ยังคละคลุ้งไม่หายไป สายตากวาดมองรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง


         "ครับ ๆ " ยูจิยอมยื่นมันคืนแต่โดยดี 


         ทันใดนั้นคำสาปที่ซ่อนตัวอยู่ได้โผล่มาจากบนเพดานเพื่อแย่งนิ้วของสุคุนะ ทั้งสองคนที่อยู่ฝั่งเดียวกันร้องอย่างตกใจ


         "พี่!" ยูมะกำลังจะจะเข้าไปผลักให้ออกไปแต่โดนฟุชิงุโระดึงคอเสื้อเอาไว้



         พลั่ก!



         "หนีไป!" มืออีกข้างของฟุชิงุโระเป็นฝ่ายผลักยูจิเอง ชิคิกามิสองตัวกระโดดคว้าร่างรุ่นพี่และยูจิให้พ้นการโจมตี



         ตู้ม!



         "ฟุชิงุโระ! ยูมะ!" ยูจิตะโกนเรียกทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง เมื่อควันจางลงเขาก็ได้เห็นว่าคำสาปขนาดใหญ่กำลังจับตัวฟุชิงุโระไว้อยู่ ส่วนน้องชายล้มนอนอยู่ไม่ไกลนักคาดว่าน่าจะโดนแรงกระแทก


         "อึก นุเอะ!" ฟุชิงุโระทำมือเป็นรูปนกเพื่ออัญเชิญชิคิกามิแต่คำสาปไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสนั้น มันเหวี่ยงร่างเด็กหนุ่มจนกระแทกกับกำแพงทำให้ภูติอัญเชิญเสื่อมสลายลง


         "อึก...." ยูมะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น ภายในหัวเขารู้สึกขาวโพลนไปหมดเสียงเอะอะยิ่งทำให้รู้สึกปวดหัว ดวงตาสีน้ำตาลทองเหลือบมองขึ้นเพื่อมองสถานะการณ์ ก็พบกับร่างของฟุชิงุโระที่ล้มอยู่ข้าง ๆ  


         คำสาปไม่ปล่อยให้ผู้ใช้ไสยเวทจัดการมันง่าย ๆ มันวิ่งเข้าโจมตีต่อจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและระเบิดขึ้น แรงกระแทกที่แรงมาพอทำให้กำแพงแตก ร่างทั้งสองคนกระเด็นตกลงไปบนหลังคาของอาคารที่เชื่อมระหว่างตึก แม้จะเจ็บจนแทบลุกไม่ขึ้นแต่ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ตกลงไปชั้นล่างสุด


         ไม่งั้นพวกเขามีสิทธิ์ไม่รอดแน่ ๆ 


         "แค่ก ๆ " เด็กหนุ่มผู้ใช้ไสยเวทสำลักเลือดออกมา ร่างกายเขาได้รับการโจมจากแรงกระแทกติดต่อกันจนสมองคิดอะไรไม่ออก แทบตั้งสมาธิไม่ได้เลย


         คำสาปที่คิดได้แค่ว่าฆ่าคนเหล่านี้แล้วกลืนกินนิ้วสุคุนะเข้าไปหลังจากนั้น ได้ทำการโจมตีเด็กหนุ่มอีกครั้งแต่ก็โดนยูจิกระโดดมาโจมขัดเอาไว้


         

         ผวัะ!


         

         "อิตาโดริ!? ไม่เข้าใจรึไงว่าให้พาพวกเขาหนีไป!" ฟุชิงุโระตะโกนด้วยความหัวเสีย ทำไมไอ้แฝดนี่มันดื้ออย่างนี้นะ!?


         "ฮึบ! ไม่เป็นไรใช่ไหม" ยูจิกระโดดมาตั้งหลักฝั่งที่ทั้งสองคนอยู่ ฟุชิงุโระเลือดออกก็จริงแต่ยังพอยืนไหวแต่น้องชายฝาแฝดนี่สิ ดวงตาสีน้ำตาลทองของแฝดพี่เหลือบมองร่างที่นอนอยู่ไม่ไกล อยากจะเข้าไปดูอาการแต่คำสาปข้างหน้าต้องมาก่อน


         "ก็บอกว่าให้หนีไปไง" เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยความเหนื่อยอ่อนและเริ่มขี้เกียจเถียง


         "ถ้าฉันหนีไปนายก็แย่น่ะสิ แค่นี้ก็เจ็บหนักอยู่แล้ว แล้วถ้าฉันหนีไปฉันคงรู้สึกผิดแน่ ๆ " ยูจิตอบกลับไปโดยไม่ละสายตาจากตัวคำสาปตรงหน้า


         คำสาปพุ่งเข้าโจมตียูจิกระโดดหลบแล้วโจมตีกลับแต่ไม่เป็นผลอะไรกับคำสาปแม้แต่นิด โดยที่ยูจิไม่ทันระวังก็ถูกคำสาปทุบใส่หัวอย่างแรงจนทั้งร่างลงไปกระแทกกับพื้น


         "คำสาปต้องกำจัดด้วยคำสาปเท่านั้น" ฟุชิงุโระบอกยูจิที่ล้มอยู่ข้าง ๆ 


         "แล้วทำไมไม่รีบบอกให้เร็วกว่านี้" เด็กหนุ่มนอนหน้าเซ็งกับการที่อีกคนเพิ่งมาบอกวิธีการสู้กับสิ่งที่ตัวเขาไม่สามารถใช้ต่อกรคำสาปตัวนี้ได้เลย ใบหน้าหันไปทางร่างของน้องแฝดที่ยังคงสลบไม่ได้สติอยู่ห่างจากคำสาป ยูมะยังคงนอนแน่นิ่งจนน่าเป็นห่วงเรื่องเริ่มตึงเครียดกว่าเดิม


         "ฉันบอกให้นายพาคนพวกนั้นหนีไปรวมถึงแฝดนายด้วย ก่อนที่พวกเราจะตายกันหมด" ฟุชิงุโระพยุงตัวขึ้นเพื่อรับมือต่อจากยูจิเพราะยังไงคนที่ไม่มีไสยเวทก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว 


         "....ทำไมคำสาปถึงต้องการนิ้วขนาดนั้นล่ะ" ยูจิเอ่ยถามในหัวเขาเหมือนคิดอะไรได้บางอย่างก่อนลุกขึ้นมายืนข้าง ๆ


         "เพื่อที่จะเพิ่มพลังคำสาปไงล่ะ" 


         "ถ้างั้นก็มีทางช่วยทุกคนอยู่สินะ....แค่ฉันต้องมีพลังคำสาปเท่านั้นเองใช่ไหม" คำพูดของแฝดคนพี่ทำให้เด็กหนุ่มหันไปมองด้วยความสงสัย ก่อนที่ยูจิจะล้วงกระเป๋าเอานิ้วสุคุนะขึ้นมาก่อนจะอ้าปากแล้วกลืนมันลงไป


         "เฮ้ย! อย่า!!!"




         เสียงตะโกนและเสียงความวุ่นวายปลุกให้ร่างที่กำลังสลบอยู่ให้ตื่นขึ้น ยูมะลืมตาตื่นขึ้นทั้งที่หัวยังรู้สึกหนักอึ้งอยู่ ของเหลวเหนียวหนืดไหลลงจากหัวส่งกลิ่นคาวแตะจมูก ดวงตากระพริบเพื่อปรับภาพให้ชัดเจนขึ้นแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้ายังคงพร่ามัว แม้จะมองไม่ชัดแต่ก็เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น


         แว่นของเขาหายไปแล้ว....ก็แน่อยู่แล้วสิโดนกระแทกแบบนั้น


         ฟุชิงุโระซัง......ปลอดภัยดีสินะแล้วพี่ล่ะ.....


         ดวงตากลมละสายตาจากฟุชิงุโระมองไปข้างหน้าที่มีร่างที่สวมฮู้ดสีเหลืองคุ้นตา ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปและกลิ่นอายรอบ ๆ ตัวเขาเช่นกัน ยูมะรับรู้ได้ทันทีเลยว่ากลิ่นคำสาปมันไม่ใช่ของตัวก่อนหน้านี้แต่มันเป็นอีกสิ่งที่ไม่อยากให้ใครมันกลับมา


         

         เรียวเมน สุคุนะฟื้นคืนชีพแล้ว



         "หึหึหึ-! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!!"

          

         เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งดังลั่นไปทั่วบริเวณเสียงสะท้อนกระทบกับสิ่งรอบตัวยิ่งทำให้เสียงหัวเราะนี้ดังก้องขึ้นไปอีก ฟุชิงุโระถึงกับเหงื่อตกและวิตกกังวลเป็นอย่างมากเพราะสิ่งที่ใครไม่อยากให้เกิดมันได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา แสงสว่างส่องลงมาจากการไร้ก้อนเมฆปิดบังทำให้เห็นรูปร่างของยูจิที่เปลี่ยนไป


         "แสงจันทร์ที่รับด้วยร่างกายตัวเองเนี่ยแหละยอดเยี่ยมที่สุด!" เสียงของยูจิเปลี่ยนไป กรงเล็บแหลมฉีกกระชากเสื้อฮู้ดออกจนไร้สิ่งปกปิดร่างกายส่วนบน


         "คำสาปพวกนี้มันไม่ได้เรื่องเสียจริง ผู้หญิงล่ะ! ผู้หญิงอยู่ที่ไหน!" ร่างสูงเดินไปยืนบนรั้วกั้นก่อนเชยชมบ้านเมืองที่เปลี่ยนไปจากยุคสมัยของตัวเองเป็นอย่างมาก   


         "ยุคสมัยนี้ก็ไม่เลวเลยนี่...... อ่า....ผู้หญิงกับเด็กเล็กเดินกันยั้วเยี้ยอย่างหนอนแมลง วิเศษไปเลย" คำพูดโหดร้ายผิดกับอุปนิสัยของฝาแฝดคนพี่อย่างสิ้นเชิง แปลว่าร่างกายถูกยึดด้วยคำสาปอย่างสมบูรณ์


         "หืม..... เจ้าที่อยู่ตรงนั้นเองก็มีพลังเยอะเหมือนกันนี่.... กลิ่นไสยเวทคลุ้งจนข้าฉุนจมูกไปหมดไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มีพวกน่ารำคาญทั้งนั้น" ดวงตาสองคู่สีแดงราวกับเลือดมองตรงมาที่ร่างของฝาแฝดคนน้องที่นั่งคุกเข่าอยู่ไม่ไกล นิ้วมือทั้งห้าขยับกางออกเพื่อจัดการตัวน่ารำคาญทิ้ง


         ฟุชิงุโระที่ได้ยินดังนั้นได้ขยับตัวมาบังตัวอีกคนเอาไว้ อย่างน้อยคนที่จะกำจัดมันได้ตอนนี้มีแค่เขาเท่านั้น


         แต่ไม่ทันที่สุคุนะจะได้ทำอะไรก็โดนมือของตัวเองนั้นจับใบหน้าเอาไว้เหมือนเป็นการหยุดการกระทำที่คิดไว้


         "อะ- แกจะเอาร่างกายของคนอื่นไปทำอะไรน่ะ เอาคืนมาซะ" เสียงของยูจิที่คุ้นเคยพูดขึ้น เขากำลังพูดกับอีกคนที่อยู่ร่างตัวเอง


         "ทำไมแกยังขยับได้อยู่อีก"


         "ก็นี่มันร่างฉัน ฉันไม่ยอมให้แกทำอะไรยูมะหรอก" ไม่นานนักกลิ่นคำสาปก็จางลงแม้จะเหลืออยู่น้อยนิดก็ตาม ดวงตาเล็กที่อยู่ใต้ตาคู่หลักหายไปยูมะมั่นใจว่าพี่เขากลับมาแล้ว แต่อีกร่างยังคงไม่ไปไหนและไม่รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายจะกลับมาอีกเมื่อไหร่


         "อย่าขยับ! ตอนนี้นายไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว" ฟุชิงุโระนั่งลงก่อนจะกำหมัดเพื่อเริ่มใช้คาถาไสยเวท


         "ตามกฎข้อบังคับของไสยเวท อิตาโดริ ยูจิ! 












         ฉันจะกำจัดนาย!"


         61 Jujutsu Kaisen Gifs - Gif Abyss


               

         -Talk-

         กลับมาแล้วจ้าเย่~! เรื่องนี้เป็นการแต่งสดนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องรอนานนิดนึง แล้วก็ต้องขอบคุณผู้ติดตามนิยาย200+มากเลยนะคะ แล้วก็คอมเมนต์ด้วยนะคะ อ่านแล้วใจนุ่มฟูมากๆเลย


         แล้วก็บทในนี้จะรู้สึกแปลก ๆ เพราะไรต์เอามาจากทั้งในอนิเมและมังงะค่ะ จะพยายามเรียบเรียงไม่ให้งงและสับสนนะคะ


         อย่าลืมกดหัวใจและคอมเมนต์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ



         รักทุกคนนนนนนนนนนนนนนนนนนน~<3

     

     

          


         

         


               


     

     

         


     

         


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×