คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : บทสรุปของเรื่องราวกับชะตากรรมที่เปลี่ยนแปลง
Chapter 3 : บทสรุปของเรื่องราวกับชะตากรรมที่เปลี่ยนแปลง
**ได้มังงะมาแล้วค่ะ!! หลังจากนี้เราจะอ้างอิงตามในมังงะเลยนะคะ!!><**
"อิตาโดริ ยูจิ! ฉันจะปัดเป่านายในฐานะคำสาป!"
"เอ๊ะ.......?"
ปัดเป่า? หมายความว่ายังไงกัน ยูจิคือคำสาป.......ต้องฆ่าพี่อย่างนั้นหรอ?
"เดี๋ยว ๆ ฉันปกติดีนะ แล้วนายก็บาดเจ็บอยู่ด้วยรีบไปโรงพยาบาลกันเถอะ" ยูจิทำหน้าไม่เข้าใจก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ใช่สิ่งที่อีกคนคิด
"หมายความยังไงหรอครับฟุชิงุโระซัง ที่บอกว่าปัดเป่าพี่" ยูมะที่อยู่ข้าง ๆขยับเข้ามาถามด้วยความสงสัยและภาวนาว่าจะไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด
คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดไม่รู้จะเลือกทางไหนดีอย่างฟุชิงุโระ เมงุมิกำลังคิดหนักเค้าไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือวัตถุต้องสาปหรืออิตาโดริ แล้วยิ่งแฝดคนน้องถามอย่างนั้นอีกยิ่งหนักใจที่จะตอบ
จะทำยังไงดี!?
"ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง" เสียงบุคคลมาใหม่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ทุกคนหันไปทางต้นเสียงก็พบกับชายร่างสูงโปร่งสวมชุดคล้าย ๆของฟุชิงุโระ มีผ้าปิดตาสีดำและเรือนผมสีเงินที่ตั้งขึ้น
"อาจารย์โกะโจ!? ทำไมมาอยู่ที่นี่!" เด็กหนุ่มถามด้วยความตกใจ ฝาแฝดเลยรู้ทันทีเลยว่าชายคนนี้เป็นอาจารย์ของฟุชิงุโระ
"ไง ก็ไม่คิดจะมาหรอกนะ แต่ถ้าวัตถุต้องสาประดับพิเศษหายขึ้นมาพวกเบื้องบนจะบ่นเอาน่ะ" โกะโจสำรวจร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแผลของฟุชิงุโระก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา
"เพราะงั้นเลยรีบมาแล้วถือโอกาสเที่ยวด้วยเลย แต่สภาพเธอโทรมเชียวถ่ายไปให้ปี2ดูดีกว่า" พูดจบเขาก็รัวชัตเตอร์จนเด็กหนุ่มจากโรงเรียนไสยเวทต้องยกมือขึ้นมาบังแสงแฟลช
"แล้ว.....เจอมั้ย?" โกะโจถามนักเรียนของตัวเอง ฟุชิงุโระมีสีหน้าเครียด ก่อนที่ยูจิจะขัดบทสนทนาระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์
"เอ่อ... คือว่าขอโทษ ผมกินของนั่นเข้านั่นไปแล้วล่ะ"
คำพูดของยูจิเหมือนการจุดระเบิด ทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วขณะก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงจะเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ
"จริงดิ?"
"จริง" ฟุชิงุโระตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังโดยมียูจิพยักหน้ายืนยันอีกเสียง
ระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังคุยเรื่องบางอย่างยูมะคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนธาตุอากาศ เพราะประเด็นหลักคือนิ้วมือของสุคุนะที่โดนพี่ชายฝาแฝดของตัวเองกินเข้าไป มือยูมะตอนนี้ชุ่มไปด้วยเลือดจากแผลบนหัวเนื่องจากต้องกดแผลเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมามากกว่านี้
ถ้าเลือดไหลออกมากกว่านี้มีหวังเสียเลือดตายก่อนแน่ ๆ ตอนนี้ก็เริ่ม ๆมึนหัวแล้วสิ....
"เมงุมิถือนี่ที" ถุงกระดาษถูกโยนไปให้เด็กชายข้าง ๆ หลังยืดเส้นยืดสายเสร็จ
"นี่คือ...?" ฟุชิงุโระถามด้วยความสงสัย
"คิคุฟุคุของขึ้นชื่อของที่นี่เลยนะ" โกะโจพูดอธิบายสิ่งที่อยู่ในมือ ขณะนั้นเองกลิ่นคำสาปก็แรงขึ้นจนยูมะต้องมองไปทางต้นกลิ่น ยูจิเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ความจริงยูมะมองไม่ค่อยออกหรอก แยกจากความรู้สึกเอาล้วน ๆ
เพียงแค่พริบตาร่างของฝาแฝดคนพี่ก็หายไปแล้ว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน
พลัก!
ร่างของยูจิที่ถูกสุคุนะครอบงำโดยต่อยจนกระเด็นไปตั้งหลักใหม่ สุคุนะเผยยิ้มออกมา
"ไม่ว่ายุคไหนก็เป็นตัวยุ่งยากจริง ๆพวกใช้คุณไสยเนี่ย" กลิ่นคำสาปและความกดดันมากขึ้นก่อนท่อนแขนจะง้างโจมตีอย่างไม่เบาแรง
ตูม!!!
แรงลมเกิดจากการออกแรงเพียงครั้งเดียว ยูมะยกมือขึ้นมากันเศษหินและลมแต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากระเด็นโดนตัวเองเหมือนอย่างที่คิดไว้
เมื่อฟุ่นควันจางลงรอบ ๆก็โดนพังจนเห็นเหล็กเส้นของอาคารเสียงเข้มนับเวลาเพิ่มขึ้น เศษคอนกรีตลอยอยู่บนอากาศทั้งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตะลึง
คนคนนี้ดูมีนิสัยแปลก ๆแต่ความจริงแล้วเก่งขนาดนี้เลยงั้นหรอ? ทั้งฟุชิงุโระและยูมะปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนจากเศษหินต่าง ๆ
"7......8.....9.....ใกล้เวลาแล้วล่ะมั้ง" รอยยิ้มประดับบนใบหน้าผู้เหนือกว่า ดวงตาสีแดงสดค่อย ๆปิดลง รอยบนเรือนร่างจางลงเช่นกันจนยูจิกลับมาเป็นปกติ
"โอ๊ะ ไม่เป็นอะไรกันใช่ไหมครับ?"
"ว้าว ควบคุมได้จริง ๆด้วย" โกะโจร้องออกมาด้วยความแปลกใจ
"แต่รู้สึกหนวกหูนิดหน่อย ได้ยินเสียงเจ้านั่นตลอด" ฝ่ามือหนาทุกหัวตัวเองเหมือนพยายามจะเอาอะไรออก
"แค่นี้ก็ถือว่าปาฏิหาริย์แล้วล่ะ"
แปะ
นิ้วเรียวแตะลงกลางหน้าผากของยูจิก่อนที่เจ้าตัวจะล้มตัวลงโดยมีแขนแกร่งรับเอาไว้
ยูมะเองที่เสียเลือดไปมากมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยภาพเบลอ ๆและขาดหาย ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือภาพของฝาแฝดตัวเองล้มตัวสลบลงไป
ตุบ
"อ้าว สลบไปซะแล้วยังไม่ทันได้คุยกันเลย" โกะโจอุ้มร่างยูจิสลบไปขึ้นบ่าก่อนมองไปทางฝาแฝดคนน้องที่สลบตามไปด้วยความเสียดาย
"ถ้างั้นผมจะถาม ควรทำยังไงกับเค้าดี" เค้าคนนี้หมายถึงร่างที่อยู่บนบ่ากว้าง
"ถ้ายึดตามกฎอิตาโดริจะต้องได้รับโทษประหารหากเค้าเป็นภาชนะจริง.......ถึงงั้นผมก็ไม่อยากให้ตายครับ" ดวงตาสีเขียวมรกดเงยขึ้นสบกับดวงตาภายใต้ผ้าปิดตา สื่อถึงความจริงจังที่เขาได้ตัดสินใจแบบนั้น
"....อารมณ์ส่วนตัวสินะ"
"อารมณ์ส่วนตัวครับ ช่วยทำอะไรสักอย่างด้วยนะครับ"
"ในเมื่อลูกศิษย์ผู้น่ารักขอมาทั้งทีเดี๋ยวผมจัดการเอง" โกะโจหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟุชิงุโระพูด
"จริงสิแล้วเด็กคนนั้นล่ะจะทำยังไงดี" เมื่อตกลงเสร็จผู้ถูกลืมถูกหยิบยกมาเป็นหัวข้อเรื่องต่อไป
"ฝาแฝดคนนี้รู้สึกว่าจะมีไสยเวทในตัว เขามองเห็นคำสาปแม้จะอยู่ในตัวอาคารที่ห่างไปไกลแถมยังแม่นยำเรื่องตำแหน่งอีกด้วย" ข้อมูลที่ฟุชิงุโระมีก็เพียงเท่านี้มันไม่มีอะไรต้องปิดบัง ดีไม่ดีการปิดบังตัวตนของแฝดคนนี้อาจจะเป็นอันตรายต่อแฝดซะเอง
"อืม..... น่าสนใจ ถ้างั้นก็เอาเค้าไปด้วยละกัน ถ้าปล่อยไว้เดี๋ยวจะโดนไสยเวทตัวเองกลืนกินเอาเสียก่อน"
สรุปสุดท้ายสองฝาแฝดก็โดนนำไปด้วย แต่ก่อนอื่นต้องทำไปรักษาแผลก่อนรวมถึงเด็กอีกสองคนที่เป็นตัวเริ่มต้นเหตุการณ์ทั้งหมด
ปวดหัว......
นี่เป็นความรู้สึกแรกที่แล่นเข้ามาในหัว เปลือกตาค่อย ๆเปิดขึ้นก่อนจะกระพริบสอง-สามครั้งเพื่อให้ดวงตาปรับกับแสงที่สาดส่องเข้ามา ก่อนจะตื่นขึ้นเต็มตาภาพตรงหน้าพร่ามัวราวกับกล้องที่ไม่ได้โฟกัสภาพ
จริงสิ....แว่นเราหายไปแล้วนี่นา
ดวงตาหรี่มองเพื่อเพ่งมองให้ชัดขึ้นแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย ยูมะถอนหายใจก่อนพยุงตัวเองลุกขึ้นมา หลังมือด้านซ้ายปวดหนึบเมื่อก้มลงไปดูก็พบกับสายน้ำเกลือ พอยกมือคลำ ๆหัวก็สัมผัสได้ถึงผ้าพันแผล
"เจ็บเหมือนกันแฮะ" เหตุการณ์เมื่อคืนมันดูรวดเร็วไปหมดจนกลายเหมือนหนังที่ฟิล์มมันขาดออกจากกัน ด้วยดวงตาที่พร่ามัวและอาการเสียเลือด
ครืด
"ยูมะ......ฟื้นแล้ว" เสียงอันคุ้นเคยเอ่ยขึ้นหลังประตูเปิด ก้อนผมสีชมพูและเสื้อสีเขียวเข้มเดินเข้ามาหาช้า ๆก่อนจะดูอาการ เอามือแตะแก้มจับหน้าจับแขนไม่หยุด
"พี่เป็นหมอรึไง ทำไมไม่เรียกหมอมาล่ะครับ" ยูมะพูดติดตลกเมื่อเห็นฝาแฝดตัวเองทำท่าทางเป็นห่วงเกินเหตุ
"ก็พี่เป็นห่วงเรานี่นา เดี๋ยวจะเรียกให้เดี๋ยวนี้แหละ" คนเป็นพี่ชายกดโทรเรียกพยาบาลให้เข้ามาดูอาการของน้องชายหลังตื่น
คุณหมอและพยาบาลเข้ามาตรวจเช็คไม่นานหลังจากที่โทรไป คุณหมอบอกว่าแปลกมากที่แผลเลือดไหลขนาดนั้นจะหายอย่างรวดเร็ว แถมยังไร้อาการอย่างอื่นแทรกซ้อนเข้ามา วันนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้เลยด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินดังนั้นนางพยาบาลจึงจัดเตรียมที่จะถอดสายน้ำเกลือออกแม้มือจะยังชา ๆอยู่แต่ก็รู้สึกดีกว่าที่มันยังเสียบอยู่ล่ะนะ
"เปลี่ยนชุดเสร็จสามารถลงไปแจ้งจุดประชาสัมพันธ์ได้เลยนะคะ" เธอบอกก่อนจะขอตัวออกไป
"พี่เอาชุดมาให้เราด้วย เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำซะนะ" ยูจิเอาชุดที่เหมือนกันเอามาวางไว้ให้ข้างเตียง ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปเปิดไฟห้องน้ำให้
"ยูมะมองเห็นใช่มั้ย?"
"ก็ยังพอเห็นอยู่ แต่ไม่เป็นอะไรเดี๋ยวจะรีบเปลี่ยนนะ" ยูมะส่งยิ้มให้พร้อมนำชุดไปเปลี่ยนในห้องน้ำ
ไม่นานนักยูมะก็เปลี่ยนชุดเสร็จเสื้อฮู้ดกับกางเกงสามส่วนเหมือนของฝาแฝด เมื่อตรวจดูอะไรเรียบร้อยจึงพากันออกไปข้างนอกโดยที่จะไม่ลืมแจ้งที่จุดประชาสัมพันธ์และจับมือกันไปเหมือนทุกครั้ง
"ยูมะระวังข้างหน้านะเดี๋ยวจะถึงแล้ว" ระหว่างทางยูจิมักจะพูดบอกเสมอว่ามีอะไรอยู่ด้านหน้าราวกับเสียงจากGPS
"พี่ยูจิผมมองเห็นนะไม่จำเป็นต้องบอกขนาดนั้นก็ได้นี่นา" ถึงจะรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงแต่รู้สึกว่าจะมากไปหน่อยนะ เหมือนคุณพ่อหวงลูกเลย
"ก็เราไม่มีแว่นนี่ เดี๋ยวไปชนอะไรเข้าเดี๋ยวก็ได้รับบาดเจ็บอีกหรอก"
"แต่บางทีพี่ก็เป็นห่วงผมเกินไปจริง ๆนะ แต่ถ้ามันทำให้พี่สบายใจก็ได้ครับ" ยูมะรู้ว่าพี่ชายตัวเองหัวดื้อขนาดไหนจึงยอมให้อีกฝ่ายทำแบบนี้ต่อไป
ทั้งสองคนไปยังจุดประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งนางพยาบาล จัดการเอกสารทุกอย่างจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเสร็จฝาแฝดต้องมีสิ่งที่ต้องทำอีกอย่างนั่นก็คือ
การเผาศพปู่
ระหว่างที่รอไฟทำหน้าที่ของมันสองแฝดมานั่งรอตรงม้านั่งด้านนอกพร้อมกับบุคคลที่มาใหม่ซึ่งพวกเขาเคยเจอมาแล้วเมื่อคืน
ยูมะเกลียด....เกลียดเวลาที่ต้องคุยเรื่องสำคัญแล้วมันไม่มีแว่นตาคอยให้ความชัดเจนของภาพ มันชวนไม่อยากรับอะไรเข้าสมองเลยสักนิด
ยูมะคิดว่าสายตาเค้าสั้นลงอีกแน่ ๆเลย ขนาดยูจิที่นั่งอยู่ข้าง ๆยังเริ่มเป็นภาพเบลอ ๆแล้ว
(มุมมองของยูมะที่มองทุกคนก็จะเป็นแบบนี้ เน็ตท่านไม่ได้ช้าแต่อย่างใด)
"อ้าว ทำไมแฝดทำหน้าน่ากลัวอย่างนั้นล่ะ จ้องแบบนั้นผมเขินแย่นะ" คนตรงหน้าเอียงคอพูดหยอกเล่นเด็กหนุ่มที่กำลังจ้องมองราวกับจะกินเขาเข้าไป
"อะ ขอโทษครับพอดีแว่นตาผมหายไปเลยมองอะไรไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ขอโทษที่เสียมารยาท" เมื่อรู้ตัวยูมะยกมือปิดหน้าตัวเอง เขาชอบเป็นแบบนี้เวลาไม่ได้ใส่แว่นแล้วมันก็รู้สึกเขินเวลาโดนมองกลับมา
"ไม่เป็นไรหนุ่มน้อย" ร่างสูงเดินมานั่งข้างยูจิ ใบหน้าเผยยิ้มเมื่อได้แกล้งคนแบบไม่ได้ตั้งใจ
ปฏิกิริยาของเด็กคนนี้ตอนเขินก็ดูน่ารักดีนะ<3
"เรียกผมว่ายูมะก็ได้ครับ เรียกหนุ่มน้อยแล้วดูแปลก ๆยังไงไม่รู้" เด็กหนุ่มยิ้มเขินกับคำเรียกของชายหนุ่มแปลกหน้าที่ชื่อว่าโกะโจ ซาโตรุ
"โอเค~ ยูมะคุง แล้ว....คนที่ตายคือ?" โกะโจถามด้วยความสงสัย
"ปู่ของพวกผมเอง...ถ้าเปรียบเค้าก็เหมือนพ่อแม่ล่ะมั้ง" ยูจิตอบกลับ
"งั้นหรอ ขอโทษทีนะที่พวกเรามาในเวลาแบบนี้.....แล้วตัดสินใจยังว่าจะทำยังไง" เขาเอ่ยขอโทษก่อนจะถามอีกเรื่อง ซึ่งครั้งนี้เขาถามถึงยูจิ
".......ความเสียหายจากคำสาปยังมีอยู่อีกเยอะเลยหรอ.."
"เคสนี้ค่อนข้างพิเศษ... แต่ถ้าพูดแค่ระดับความเสียหายก็มีหลายขั้นล่ะมั้ง.... ถ้าเจอคำสาปแล้วตายแบบธรรมดาถือว่าโชคดีมาก ถึงจะโดนทำจนเละเทะแต่ถ้าเจอศพก็ยังดีอยู่ดี...."
โกะโจเริ่มพูดสิ่งที่ยูมะไม่เข้าใจ จึงได้แต่ขมวดคิ้วรับฟังไปทั้งอย่างนั้น
อิตาโดริ ยูจินายจะโดนปัดเป่าในฐานะคำสาป!
"ถ้าสุคุนะหายไปคนที่ตายจากคำสาปจะน้อยลงบ้างไหมนะ" ยูจิพูดด้วยความไม่แน่ในกับการคาดคะเนหลังฟังที่โกะโจพูดจบ
"แน่นอน" ชายหนุ่มเผยยิ้ม
"เอ่อ...ขอโทษนะครับ" ฝาแฝดคนน้องเงียบไปนานเอ่ยขึ้นหลังบทสนทนาจบ ดวงตาทั้งสองคู่มองมายังยูมะเป็นตาเดียว
"ในตอนที่ฟุชิงุโระซังพูดเมื่อตอนนั้น ตอนที่พี่กลับมาเป็นปกติเขาพูดว่าจะปัดเป่าในฐานะคำสาป มันหมายความว่ายังไงหรอครับ" ดวงตากลมเงยมองชายหนุ่มผู้ปิดใบหน้าไปเกือบครึ่ง
"อืม..... ก็หมายความว่าตอนนี้ยูจิคุงอยู่ในฐานะภาชนะของคำสาป ซึ่งคำสาปคือสิ่งที่ต้องกำจัดถ้าพูดตรง ๆก็คือเราต้องประหารพี่ชายของเธอยูมะคุง"
ราวกับโดนอะไรสักอย่างทุบหัวอย่างแรง มันไม่ได้เจ็บตรงหัวหรือที่ไหนเลยแต่เป็นหัวใจต่างหาก....
ยูมะรู้สึกเจ็บที่หัวใจเหมือนมีใครกำลังจะบีบมันจนแตกแหลกสลายไม่ชิ้นดี
"ปะ ประหาร...... พี่ยูจิต้องตายอย่างเดียวเลยหรอครับ... มะ ไม่มีทางอื่นแล้วหรอ?" เสียงที่เคยอ่อนโยนพูดด้วยความร้อนลน ตะกุกตะกักราวกับหาคำพูดไม่ถูก ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อได้สติกลับมา
หมับ!
มือหนาของยูจิจับไหล่ทั้งสองข้างแรงบีบนั่นเตือนสติน้องชายให้กลับมา ดวงตาสีน้ำตาลทองสบกับดวงตาอีกคู่ที่เหมือนกันแต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสับสน
"ยูมะ...ใจเย็น ๆฟังพี่ก่อนนะ ใจเย็น ๆ" ยูจิกอดฝาแฝดพร้อมพูดด้วยเสียงอ่อนโยนพยายามให้อีกคนสงบสติอารมณ์ เขารู้ดีว่าการได้ยินอะไรแบบนี้มันยากที่จะทำใจ
แล้วกับเขาที่เป็นคนสำคัญคนสุดท้ายในชีวิตของยูมะอีกด้วย......
อีกครึ่งชีวิตของเขา......
"มันเป็นหน้าที่และพี่ต้องทำมันในฐานะภาชนะของสุคุนะ ขอโทษที่ต้องทำให้ยูมะต้องรู้สึกสับสนแล้วก็ขอโทษที่เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะพี่" ฝ่ามืออันอบอุ่นลูบแผ่นหลังเบา ๆพยายามอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟังอย่างใจเย็นที่สุด
"เอ๊ะ.....เพราะพี่?"
"อืม.... พี่กินนิ้วของสุคุนะเข้าไปเรื่องมันก็เลยเป็นแบบนี้...ขอโทษน---"
หงับ!
เสียงกัดเนื้อดังได้ยินชัดเจนกันสามคน ฟันที่มีเขี้ยวน้อย ๆกัดลงลาดไหล่หนาของฝาแฝดคนพี่ ยูจิร้องเสียงหลงเมื่อโดนการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวที่แม้แต่โกะโจที่มองดูอยู่ยังสะดุ้งตกใจ
"โอ้ย!!!ทำอะไรน่ะยูมะ!? เจ็บ ๆ" ยูจิดันตัวแฝดออกไปเพื่อไม่ให้เนื้อเขาโดนขบเขี้ยวลึกไปมากกว่านี้
"ลงโทษไง ไอ้พี่บ้า! ตอนแรกนึกว่าจะโดนคำสาปเล่นงานใส่ที่ไหนได้พี่ดันกินมันเข้าไปนี่เอง แค่กัดมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ!" ดวงตาเพ่งมองทั้งที่ยังมีน้ำตาคลอรอบกรอบตา ยูมะยังมีท่าทีจะเข้ามากัดซ้ำถ้าไม่ยื้อไว้มีหวังไหล่เขาเต็มไปด้วยรอยกัดแน่ ๆ
"แล้ว.....พี่ตกลงแล้วใช่ไหมจะทำมัน" ท่าทีก้าวร้าวเริ่มสงบลงแล้วกลับมาใช้เหตุผลคุยกันตามนิสัยของยูมะ
"ก็คงเป็นวิธีเดียวที่ทำได้ตอนนี้ แล้วปู่ก็บอกว่าให้ช่วยคนอื่นคงหมายความว่าอย่างนี้ล่ะมั้ง" ยูจิถอนหายใจก่อนจะหันไปหาคนที่กลายเป็นธาตุอากาศ
"ยังมีนิ้วนั่นอยู่มั้ย?"
"แน่นอน" โกะโจยื่นนิ้วสีคล้ำแห้งหน้าตาคล้ายมัมมี่มันดูน่ากลัวกว่าตอนที่เห็นเมื่อคืนอีก
"พี่จะกินมันเข้าไปจริง ๆหรอ น่าขยะแขยงจะตาย" แม้จะมองไม่ค่อยชัดแต่ยูมะก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรกินเข้าไป
แต่พี่เขามันกินได้ทุกอย่างเลยนี่นะ
แต่นิ้วมันใช่สิ่งที่ควรกินเข้าไปเรอะ!?
ยูจิยักไหล่แล้วเอานิ้วเข้าปากแล้วกลืนมันลงไป ลวดลายตามตัวปรากฎอีกครั้งเสียงหัวเราะในลำคอทำเอาขนลุกไปทั้งตัว แรงกดดันแผ่กระจายไปรอบ ๆพร้อมกับกลิ่นคำสาปอันเป็นเอกลักษณ์ของสุคุนะ
"อุ๊ แหวะ! ห่วยเป็นบ้า รสชาติห่วยจนน่าขำเลย" ยูจิถึงกับน้ำตาเล็ดกับความไม่อร่อยของมัน แต่ก็ดีที่ไม่ได้อ้วกออกมา
โกะโจที่มองอยู่ยิ้มกว้างกับการได้เจอบุคลากรชั้นเยี่ยมในรอบพันปี ไม่ใช่แค่ความทนทานของกายเนื้อแต่ยังรักษาสติเอาไว้ได้
ยูจิลุกขึ้นจับมือแฝดของตัวเองให้ตามมา อีกเดี๋ยวก็น่าจะเผาเสร็จแล้วแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของโกะโจดังขึ้น
"เป็นอะไรรึเปล่า" แฝดพี่หันกลับมาถามชายหนุ่ม
"ไม่มีอะไร.....ตกลงว่าเตรียมใจไว้แล้วใช่มั้ย?"
".......ไม่อ่ะ ก็คิดอยู่ว่าทำไมผมถึงโดนโทษประหารแต่คำสาปคงปล่อยไว้ไม่ได้ เป็นคำสั่งเสียที่ยุ่งยากจริง ๆเลยนะ" มือหนายกขึ้นเกาหัวตัวเองก่อนจะเหลือบมองฝาแฝดข้างกาย
"ผมจะกินนิ้วสุคุนะให้หมด ที่เหลือก็ไม่รู้ด้วยแล้ว....อีกอย่างการวิธีการตายของผมมันถูกกำหนดเอาไว้แล้วนี่นะ" คำตอบของยูจิยิ่งทำให้โกะโจรู้สึกถูกใจเด็กคนนนี้เข้าไปอีก ก่อนจะหัวเราะออกมา
"ฮะฮะฮะ ดีนี่ ผมไม่เกลียดคนอย่างนายหรอกนะ...แล้วยูมะคุงจะว่าอะไรรึเปล่า" ร่างสูงโปร่งยืนเต็มส่วนสูงพร้อมหันมาถามความเห็นแฝดคนน้อง
".......ในเมื่อเรื่องมันมาขนาดนี้แล้วคงถอยกลับไม่ได้แล้วล่ะครับ ยังไงซะทางเลือกมันก็มีไม่มากที่จะพอให้พี่เค้าหลุดพ้นโทษประหาร ผมขออยู่ข้างยูจิจนกว่าจะถึงตอนนั้น" ยูมะพูดด้วยความแน่วแน่ มือที่ถูกกุมอยู่นั่นถูกบีบกลับว่าจะไม่ปล่อยมือเป็นอันขาด
เขาจะไม่ยอมให้ยูจิตายก่อนที่จะถึงเวลาจริง ๆ
อีกครึ่งชีวิตของเขา........
"ผมชอบความตั้งใจของพวกเธอจัง เอาล่ะงั้นวันนี้พวกเธอต้องไปเก็บสัมภาระมานะ"
"จะไปไหนงั้นหรอ?" สองแฝดเอียงคอทำหน้างง
"โตเกียว" เสียงของผู้มาใหม่ดังขึ้นทางด้านหลังของทั้งสอง
"ฟุชิงุโระ!! ท่าทางดูสบายดีนี่!" ยูจิทักเป็นคนแรกยกนิ้วโป้งขึ้นเมื่อวานยังเจ็บเลือดอาบแต่วันนี้เดินได้สบายถือว่าเจ๋งเป้ง!
"ผมว่าดูยังไงก็ไม่สบายนะครับ คนที่โดนพันแผลขนาดนั้นมันจะไปสบายได้ยังไงล่ะ" ยูมะมองพี่ชายตัวเองที่มักมีความคิดเพี้ยน ๆแบบนี้อยู่เสมอ
"นายเห็นผ้าพันแผลขนาดนี้ยังคิดอย่างนั้นได้อยู่อีกงั้นหรอ" ฟุชิงุโระมองยูจิด้วยสีหน้าแปลก ๆ ในที่นี่คงมีแค่ยูจินั่นแหละที่เห็นคนพันผ้าพันแผลแล้วยังทักสบายดี
"จากนี้ไปนายต้องย้ายไปโรงเรียนของผู้ใช้คุณไสยเหมือนกับฉัน"
"ใช่ ถ้ารวมพวกเธอด้วยนักเรียนปี1ทั้งหมดก็มีอยู่4คน"
"น้อยโคตร!"
-TALK-
สวัสดีค่ะทุกคนไรท์กลับมาแล้ว ตอนนี้ยังสบายดีค่ะไม่ได้ไม่สบายหรือติดธุระอะไร แต่เราสองคนรอหนังสือมังงะมาส่งอย่างนานเลยค่ะ แง
ช่วงนี้ทุกคนก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ใครปัญหาอะไรก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ ไรท์เตอร์สองคนเป็นห่วงรีดเดอร์ทุกคน
อย่าลืมกดหัวใจและคอมเมนต์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ
รักทุกคนนนนนนนนนนนนนนนนนนน~<3
ความคิดเห็น