ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : การกลับมา
“เบลล่า!”เจ้าปีศาจหน้าซีด “เป็นไปไม่ได้ เธอควรจะหายไปแล้วนี่!” เขาร้องเสียงดังด้วยความตกใจ ตัวสั่นเล็กน้อย รู้สึกเหมือนเห็นผี อีกฝ่ายได้ยินก็หัวเราะร่า “คิดผิดแล้วล่ะ”หญิงสาวผู้นั้นกล่าวอย่างเยาะเย้ย
ตอนนั้นแอนดริวกับซาแมนธากำลังซ่อนอยู่ในความเงามืดภายในบ้านหลังหนึ่ง แน่นอน มันไม่ใช่บ้านของพวกเขา ข้างในนั้นแทบมืดสนิท ในบ้านนั้นเงียบสงัดเว้นแต่ว่ามันมีแสงสว่างเล็ดลอดจากห้องใต้ดิน
“เธอบอกว่าไมเคิลโดนเล่นของนี่นา อีกอย่างฉันได้กลิ่นแม่มดนี่นะ ต้องเป็นเบลแน่ๆ”แอนดริวตอบพลางคลำอุปกรณ์ของเขาเพื่อตรวจดูว่ามันไม่หายไปไหน
“อ๋อ อีกอย่าง ถ้าฉันไม่กลับมาภายใน 20 นาทีล่ะก็หนีกลับไปซะนะ”
เขาแง้มประตูเบาๆ “แม่มดจะตายจริงๆเมื่อโดนไฟเผา...” จากนั้นจึงค่อยๆย่างก้าวอย่างเบาๆลงบันไดไป มันค่อนข้างมืด มืดกว่าข้างบนเสียอีก มีเพียงแสงสว่างสีเขียววาบขึ้นมาเป็นระยะๆ
แอนดริวหลบอยู่หลังถังใบใหญ่ อีกฝั่งเขาว่าต้องเป็นเบลล่าที่กำลังปรุงยาหรือทำอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ เพราะเขาได้ยินเสียงท่องคาถางึมๆงำๆ
เขาหยิบอุปกรณ์คล้ายปืนของตนออกมาก่อนจะกดปุ่มหนึ่งครั้งจากนั้นจึงเล็งมันไปยังหัวของอีกฝ่าย แอนดริวมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว สิ่งที่หายากไม่ใช่อาวุธนี้ทว่าเป็นกระสุนต่างหาก ถ้าเขาพลาดขึ้นมา....
ปีศาจหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะตั้งสติและลั่นไกปืน
แม่มดล้มลงทันที ไม่นานนักร่างของเธอก็ไหม้ไฟ เหลือเพียงแค่ฝุ่นผงเถ้าธุลีก็เท่านั้น ด้วยความปลอดภับเขาจึงเก็บมันใส่ถุงกระดาษและฝังมันไว้หลังบ้านของแม่มดเอง แต่เรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นั้น
ความจริงการปราบแม่มดมันไม่ได้ง่ายขนานนั้น เบลล่าไหวตัวทัน เธอจึงได้ใช้พลังทั้งหมดย้ายร่างและวิญญาณของตนไปที่อื่น เธอเลือกที่ๆพวกนั้นนึกไม่ถึง บ้านของไมเคิลนั่นเอง
ก่อนเปิดเทอมนี่เองที่แมทธิวทำแจกันใบหนึ่งแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้แม่มดตื่นขึ้น มันพักผ่อนมาเต็มที่และหร้อมแล้วที่จะแก้แค้น ไม่นานหลังจากนั้นที่ไมเคิลตายตามด้วยภรรยาตามกฏหมาย ซาแมนธา
“ถึงเวลาของแกแล้วล่ะแอนดริว”เธอพูดจบก็พุ่งไปหาเขาอย่างจัง เบลล่านั่งคร่อมอีกฝ่ายและพยายามบีบคอให้ตายเพราะไม่หายใจ แอนดริวก็แก่ลงไปบ้างแต่เขาไม่คิดว่าตัวเองจะแรงตกขนาดนี้ ไม่สิ...เธอก็แข็งแกร่งขึ้นเหมือนกัน
แอนดริวพยายามควบคุมการหายใจของตนก่อนจะกลั้นใจเตะเธอ แม้จะเป็นผู้หญิงก็เถอะ เมื่ออีกฝ่ายเสียหลักเขาก็กระโดดขึ้นก่อนจะเหยียบซ้ำอีกทีเพื่อความมั่นใจ เขาต้องรีบไปหยิบปืนนั่นที่อยู่บนห้องรับแขก
ทว่าสายเกินไป ยัยแม่มดแปลงร่างเป็นหมอกและขึ้นไปก่อนอีกฝ่าย เธอรู้ทันแอนดริวจึงรีบทำลายปืนทันที เมื่อปีศาจรู้ตัวกิ่งบันไดอีกรอบเพื่อนหาที่ตั้งหลัก เขาเลือกห้องโถงใกล้ประตูหน้าบ้านเพื่อจะได้หนีทัน
หมอกสีดำรวมเป็นสิ่งชั่วร้ายอีกครั้ง “อย่าหนีให้เสียเวลาเลย” แต่ในเสี้ยววินาทีที่สั้นมากๆจู่ๆเธอก็กรีดร้องและแปลงเป็นหมอกก่อนจะหายไปอีกครั้ง
“มาตั้งแต่เมื่อไรกัน”แอนดริวอุทาน เขามองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ ในมือซ้ายของชายวัยกลางคนมีบางสิ่งคล้ายขวดน้ำหอมอยู่
“แล้วมันคือ?”
“น้ำมนต์ที่ฉันกะจะฉีดใช่แมทธิวเวลาดื้อ”
“แม่มดหนีไปแล้วสิ”
“อุตส่าห์จะไม่กลับมายุ่งกับเรื่องเหนือธรรมชาติแล้วนะเนี่ย”
“จะว่าไป พี่ชายผมก็อยากเจอคุณนะ”
“...แต่ฉันไม่”
“เสียงอะไรดังจังเลย เนอะ”แมทธิวพูดกับเจ้าเหมียวทิมก็แบบแมวๆเหมือนเดิม ส่วนแคทลีนหลับไปแล้ว บางทีเด็กชายก็อิจฉาที่เธอหลับง่าย เพียงแค่หัวถึงหมอนเท่านั้น เธอก็หลับสนิท
ทิมปีนขึ้นเพื่อนอนบนหน้าอกของอีกฝ่าย “เหมียว” เขาร้องก่อนจะซุกคอของแมทธิวจากนั้นจึงเริ่มไซร้คอเหมือเจ้าเหมียวทั่วๆไป “เจ้าแมวน้อย” เด็กชายเกาพุงแมวอ็อกซิแคทตัวนั้น ก่อนจะหันไปปิดไฟหัวเตียงและนอนกอดเพื่อนขนฝูของตน
วันต่อมาทั้งแอนดริวกับไอแซคก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แมทธิวและแคทลีนฟัง แน่นอนว่าคนพี่ต้องเชื่อเรื่องพรรคนี้ เขาเลิกตกใจตั้งแต่เขามีหางและรู้ตัวว่าตัวเองเป็นลูกครึ่งอินคิวบัสแถมยังเป็นเพียงผลพวงจากวันไนท์สเตย์อีกด้วย แต่แคทลีนที่เป็นเด็กสาวธรรมดาๆ เธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้นักเท่าไหร่ ถึงจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ตาม แต่ก็ฟังเพราะมันสนุกดี ทิมก็ยังอยู่ในร่างแมว กำลังนอนตักแมทธิวอย่างสบายใจ
“ฉันต้องกลับไปเอาปืนที่บ้านก่อนมันจะกลับมาอีกครั้ง” แอนดริวเริ่ม
“ต้องไปกันหมดนี่แหละ ยกเว้นแคทลีน...ช่วงนี้ให้เธอไปอยู่กับอีริคละกัน”
หลังจากพวกเขาไปส่งแคทลีนที่บ้านของอีริค รถก็ถูกขับไปที่ถ้ำแถบฉานเมือง มันมืดนิดหน่อยเพราะอยู่เขตชายป่า แมทได้ยินเสียงนกร้อง เมื่อรถจอดแอนดริวก็ลงไป เขาใช้ชอล์กเขียนภาพอักษรบางอย่างบนผนังถ้ำก่อนจะท่องคาถางึมงำ ไม่นานก็มีประตูคล้ายประตูโรงรถปรากฏขึ้น มันเปิด
แอนดริวกลับเข้าไปในรถและสลับที่กับไอแซคเพื่อเป็นคนขับ
“มันคือเวทย์มนต์เหรอ?”แมทธิวผู้นั่งหลังกระซิบถาม
“ไม่หรอกมันเป็นวิชาง่ายๆ ใครๆก็เรียนรู้ได้”
หลังจากขับรถเข้าไปในนั้นมัน ประตูก็ปิดเอง ทางฝั่งนั้นแทบไม่ได้แตกต่างอะไรจากฝั่งของพวกเรา เว้นแต่สิ่งมีชีวิตที่พากันเดินขวักไขว่เห็นจะเป็นเพียงจินตนาการของคนทั่วไป แต่มันเป็นความจริง ทั้งปีศาจ มนุษย์หมาป่า แวมไพร์ แม้กระทั่งยูนิคอร์น! แมทธิวแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
แต่เหมือนเด็กชายลืมอะไรบางอย่าง เขาดันอุ้มทิมมาด้วย!
ตอนนั้นแอนดริวกับซาแมนธากำลังซ่อนอยู่ในความเงามืดภายในบ้านหลังหนึ่ง แน่นอน มันไม่ใช่บ้านของพวกเขา ข้างในนั้นแทบมืดสนิท ในบ้านนั้นเงียบสงัดเว้นแต่ว่ามันมีแสงสว่างเล็ดลอดจากห้องใต้ดิน
“เธอแน่ใจเหรอว่าเบลเป็นแม่มด?”หญิงสาวถามอย่างไม่มั่นใจ
“เธอบอกว่าไมเคิลโดนเล่นของนี่นา อีกอย่างฉันได้กลิ่นแม่มดนี่นะ ต้องเป็นเบลแน่ๆ”แอนดริวตอบพลางคลำอุปกรณ์ของเขาเพื่อตรวจดูว่ามันไม่หายไปไหน
“อ๋อ อีกอย่าง ถ้าฉันไม่กลับมาภายใน 20 นาทีล่ะก็หนีกลับไปซะนะ”
เขาแง้มประตูเบาๆ “แม่มดจะตายจริงๆเมื่อโดนไฟเผา...” จากนั้นจึงค่อยๆย่างก้าวอย่างเบาๆลงบันไดไป มันค่อนข้างมืด มืดกว่าข้างบนเสียอีก มีเพียงแสงสว่างสีเขียววาบขึ้นมาเป็นระยะๆ
แอนดริวหลบอยู่หลังถังใบใหญ่ อีกฝั่งเขาว่าต้องเป็นเบลล่าที่กำลังปรุงยาหรือทำอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ เพราะเขาได้ยินเสียงท่องคาถางึมๆงำๆ
เขาหยิบอุปกรณ์คล้ายปืนของตนออกมาก่อนจะกดปุ่มหนึ่งครั้งจากนั้นจึงเล็งมันไปยังหัวของอีกฝ่าย แอนดริวมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว สิ่งที่หายากไม่ใช่อาวุธนี้ทว่าเป็นกระสุนต่างหาก ถ้าเขาพลาดขึ้นมา....
ปีศาจหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะตั้งสติและลั่นไกปืน
แม่มดล้มลงทันที ไม่นานนักร่างของเธอก็ไหม้ไฟ เหลือเพียงแค่ฝุ่นผงเถ้าธุลีก็เท่านั้น ด้วยความปลอดภับเขาจึงเก็บมันใส่ถุงกระดาษและฝังมันไว้หลังบ้านของแม่มดเอง แต่เรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นั้น
ความจริงการปราบแม่มดมันไม่ได้ง่ายขนานนั้น เบลล่าไหวตัวทัน เธอจึงได้ใช้พลังทั้งหมดย้ายร่างและวิญญาณของตนไปที่อื่น เธอเลือกที่ๆพวกนั้นนึกไม่ถึง บ้านของไมเคิลนั่นเอง
มนุษย์มักจะไม่สนใจสิ่งใกล้ตัว
ก่อนเปิดเทอมนี่เองที่แมทธิวทำแจกันใบหนึ่งแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้แม่มดตื่นขึ้น มันพักผ่อนมาเต็มที่และหร้อมแล้วที่จะแก้แค้น ไม่นานหลังจากนั้นที่ไมเคิลตายตามด้วยภรรยาตามกฏหมาย ซาแมนธา
“ถึงเวลาของแกแล้วล่ะแอนดริว”เธอพูดจบก็พุ่งไปหาเขาอย่างจัง เบลล่านั่งคร่อมอีกฝ่ายและพยายามบีบคอให้ตายเพราะไม่หายใจ แอนดริวก็แก่ลงไปบ้างแต่เขาไม่คิดว่าตัวเองจะแรงตกขนาดนี้ ไม่สิ...เธอก็แข็งแกร่งขึ้นเหมือนกัน
แอนดริวพยายามควบคุมการหายใจของตนก่อนจะกลั้นใจเตะเธอ แม้จะเป็นผู้หญิงก็เถอะ เมื่ออีกฝ่ายเสียหลักเขาก็กระโดดขึ้นก่อนจะเหยียบซ้ำอีกทีเพื่อความมั่นใจ เขาต้องรีบไปหยิบปืนนั่นที่อยู่บนห้องรับแขก
ทว่าสายเกินไป ยัยแม่มดแปลงร่างเป็นหมอกและขึ้นไปก่อนอีกฝ่าย เธอรู้ทันแอนดริวจึงรีบทำลายปืนทันที เมื่อปีศาจรู้ตัวกิ่งบันไดอีกรอบเพื่อนหาที่ตั้งหลัก เขาเลือกห้องโถงใกล้ประตูหน้าบ้านเพื่อจะได้หนีทัน
หมอกสีดำรวมเป็นสิ่งชั่วร้ายอีกครั้ง “อย่าหนีให้เสียเวลาเลย” แต่ในเสี้ยววินาทีที่สั้นมากๆจู่ๆเธอก็กรีดร้องและแปลงเป็นหมอกก่อนจะหายไปอีกครั้ง
“เป็นแม่มดที่ไม่ระวังตัวเอาซะเลย”เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ไอแซคนั้นเอง
“มาตั้งแต่เมื่อไรกัน”แอนดริวอุทาน เขามองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ ในมือซ้ายของชายวัยกลางคนมีบางสิ่งคล้ายขวดน้ำหอมอยู่
“ฉันได้ยินเสียงดัง เลยเข้ามาทางประตูหลัง”เขาตอบอย่างสงบเสงี่ยม “ส่วนนี่...ไม่ใช่น้ำหอมหรอกนะ”
“แล้วมันคือ?”
“น้ำมนต์ที่ฉันกะจะฉีดใช่แมทธิวเวลาดื้อ”
“แม่มดหนีไปแล้วสิ”
“อุตส่าห์จะไม่กลับมายุ่งกับเรื่องเหนือธรรมชาติแล้วนะเนี่ย”
“จะว่าไป พี่ชายผมก็อยากเจอคุณนะ”
“...แต่ฉันไม่”
“เสียงอะไรดังจังเลย เนอะ”แมทธิวพูดกับเจ้าเหมียวทิมก็แบบแมวๆเหมือนเดิม ส่วนแคทลีนหลับไปแล้ว บางทีเด็กชายก็อิจฉาที่เธอหลับง่าย เพียงแค่หัวถึงหมอนเท่านั้น เธอก็หลับสนิท
ทิมปีนขึ้นเพื่อนอนบนหน้าอกของอีกฝ่าย “เหมียว” เขาร้องก่อนจะซุกคอของแมทธิวจากนั้นจึงเริ่มไซร้คอเหมือเจ้าเหมียวทั่วๆไป “เจ้าแมวน้อย” เด็กชายเกาพุงแมวอ็อกซิแคทตัวนั้น ก่อนจะหันไปปิดไฟหัวเตียงและนอนกอดเพื่อนขนฝูของตน
วันต่อมาทั้งแอนดริวกับไอแซคก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แมทธิวและแคทลีนฟัง แน่นอนว่าคนพี่ต้องเชื่อเรื่องพรรคนี้ เขาเลิกตกใจตั้งแต่เขามีหางและรู้ตัวว่าตัวเองเป็นลูกครึ่งอินคิวบัสแถมยังเป็นเพียงผลพวงจากวันไนท์สเตย์อีกด้วย แต่แคทลีนที่เป็นเด็กสาวธรรมดาๆ เธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้นักเท่าไหร่ ถึงจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ตาม แต่ก็ฟังเพราะมันสนุกดี ทิมก็ยังอยู่ในร่างแมว กำลังนอนตักแมทธิวอย่างสบายใจ
“ฉันต้องกลับไปเอาปืนที่บ้านก่อนมันจะกลับมาอีกครั้ง” แอนดริวเริ่ม
“ต้องไปกันหมดนี่แหละ ยกเว้นแคทลีน...ช่วงนี้ให้เธอไปอยู่กับอีริคละกัน”
ไอแซคกล่าวถึงน้องชายคนเล็ก พ่อของโอดิติน แต่แมทธิวก็นึกบางอย่างได้ “นี่มันช่วงหยุดยาวของโรงเรียนผมนี่นา”ลุงของเขาได้ยินก็พยักหน้า ก่อนจะตอบด้วยสีหน้าเย็นชาและขยับแว่นเล็กน้อย “ใช่แล้ว เธอจะใช้วันหยุดที่นั้น”
หลังจากพวกเขาไปส่งแคทลีนที่บ้านของอีริค รถก็ถูกขับไปที่ถ้ำแถบฉานเมือง มันมืดนิดหน่อยเพราะอยู่เขตชายป่า แมทได้ยินเสียงนกร้อง เมื่อรถจอดแอนดริวก็ลงไป เขาใช้ชอล์กเขียนภาพอักษรบางอย่างบนผนังถ้ำก่อนจะท่องคาถางึมงำ ไม่นานก็มีประตูคล้ายประตูโรงรถปรากฏขึ้น มันเปิด
แอนดริวกลับเข้าไปในรถและสลับที่กับไอแซคเพื่อเป็นคนขับ
“มันคือเวทย์มนต์เหรอ?”แมทธิวผู้นั่งหลังกระซิบถาม
“ไม่หรอกมันเป็นวิชาง่ายๆ ใครๆก็เรียนรู้ได้”
หลังจากขับรถเข้าไปในนั้นมัน ประตูก็ปิดเอง ทางฝั่งนั้นแทบไม่ได้แตกต่างอะไรจากฝั่งของพวกเรา เว้นแต่สิ่งมีชีวิตที่พากันเดินขวักไขว่เห็นจะเป็นเพียงจินตนาการของคนทั่วไป แต่มันเป็นความจริง ทั้งปีศาจ มนุษย์หมาป่า แวมไพร์ แม้กระทั่งยูนิคอร์น! แมทธิวแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
แต่เหมือนเด็กชายลืมอะไรบางอย่าง เขาดันอุ้มทิมมาด้วย!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น