คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : แมวตัวไหน
ทิมเอนตัวลงเพื่อสังเกตอีกฝ่ายอย่างสงสัย เขาค่อยๆใช้หัวแม่มือข้างซ้ายลูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ
“งืม..”แมทธิวพึมพำแต่เปลือกตาของเขาก็ยังคงปิดสนิท
เด็กหนุ่มผมสีแดงสะดุ้งเล็กน้อย เขาคิดว่าถ้าแมทธิวตื่นมาและเห็นเขาที่ห่มผ้าขนหนูตัวเดียวที่ยืนอยู่ในท่าทางแบบนี้ก็คงจะแปลกไปเสียหน่อยเขาเลยเปลี่ยนชุดก่อนจะมาสงสัยต่อ
แมทธิว เอ็ม.แมคมินตั้นที่นอนหลับน้ำลายไหลอยู่บนเตียงที่สามถัดจากริมหน้าต่างผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมห้องและรูมเมทต่ถ้าเขาเป็นอย่างอื่นล่ะ
ถ้าเขาไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดาๆทั่วไปล่ะ นั่นมันแน่อยู่แล้ว!
เขามีหางและกลิ่นปีศาจก็ฉุนจมูกทิมมากด้วย
แล้วเขาจะรู้รึเปล่านะว่าแมวที่เล่นด้วยเมื่อกี้คือทิมเอง คงไม่
คิดๆดูแล้วมันก็น่าอายและอึกอัดไม่น้อยเลยที่ต้องเห็นคนที่เพิ่งรู้จักในสภาพแก้ผ้า
กำลังอาบน้ำ แต่เราติดอยู่และไปไหนไม่ได้ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทิม
เขารู้แต่แมทธิวไม่รู้ซึ่งเรื่อนี้ขอให้ไม่มีวันรู้เลยดีกว่า
ยังไงก็เถอะถ้าแมทธิวรู้ว่าทิมคือแมวตัวนั้นล่ะก็ เขาก็ต้องนึกได้ในสักวันล่ะนะ...
แล้วถ้า..แล้ว..
“เฮ้! นายยังอยู่กับพวกเราไหมเนี่ย?”แม็กซ์เวลล์เขย่าตัวทิมเบาๆ
“ห้ะ?
ออ...ขอโทษทีฉันคิดอะไรอยู่เพลินๆน่ะ..”ทิมกระซิบก่อน
มันไม่ใช่ความผิดของทิมที่จะคิดเรื่องอื่นเวลาเรียนใช่ไหม
ความคิดความอ่านมันห้ามกันไม่ได้หรอก ทิมไม่ได้แย่ในด้านวิชาการแต่เขาแค่ไม่ชอบมัน
มันน่าเบื่อที่จะอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมมุมฉากกับคนรุ่นเดียวกันมากมายแต่คุยด้วยกันไม่ได้
วิชาคณิตศาสตร์สำหรับเขาและหลายๆคนนั้นน่าเบื่อ เขาแค่อยากคิดอะไรเพลินๆปล่อยให้มันพาเขาลอยไปไกลๆ
พาตัวเองออกไปจากที่น่าเบื่อนี่ ความคิดและจินตนาการคือเชื้อเพลิง
และแมทธิวทำให้เขามีความคิด คิดในเรื่องเกี่ยวกับแมทธิว
แม็กซ์เวลล์ใช้นิ้วชี้กดปุ่มเล็กๆที่มุมขวาบนของเครื่องโทรศัพท์เพื่อดูเวลา
“บ่ายสอง” เขาคิดว่าเขาควรจะไปฝึกทำอาหารเพราะวันนี้มีนักเรียนคนหนึ่งที่ทำอาหารเก่งมากๆจะมาฝึก
และแม็กซ์คิดว่าอาจขอคำแนะนำจากเขาได้
และในระหว่างทางจากอาคารเรียนไปยังโรงอาหารของหนุ่มผมทองนั่นเองที่แมทธิววิ่งตามแม็กซ์เวลล์ไปด้วย
ไม่ใช่เพราะเขากินอาหารหรือทำอาหารหรอกนะ
“แม็กซ์!” แมทธิวที่กำลังวิ่งเหนื่อยหอบพร้อมกับกระเป๋าสะพายใบโตตะโกนเรียกเพื่อนของตน
“หืม? มีอะไรเหรอแมท”
เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าสงสัย เขามองดูแมทธิวหัวจรดเท้า
แม็กซ์เห็นเหงื่อบนหน้าและแถบซอกคอเล็กน้อย แมทธิวน่าจะวิ่งมานานพอสมควร
“วันนี้ฉันจะไปค้างคืนข้างนอกน่ะ
ฝากบอกทิมด้วยนะ พอดีฉันวิ่งหาไปทั่วแล้วแต่ไม่เจอเขาเลย”
“ได้สิ
โชคดีนะ”แม็กซ์พยักหน้าก่อนที่แมทธิวจะวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน
แต่แม็กซ์ก็ไม่ได้ใส่ใจว่าทำไมแมทธิวถึงต้องลนขนาดนั้นด้วย
สิ่งที่เขาทำก็เพียงแค่ส่งข้อความไปบอกทิมเท่านั้น
แม้เขารู้ว่าทิมคงไม่ได้เปิดอ่านเร็วๆนี้แน่ๆ เขารู้ว่าทิมไปไหน
แต่เขาบอกแมทธิวไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด ยังไม่ใช่ตอนนี้
โทรศัพท์ของทิมสั่นอยู่บนเตียง
แต่ก็ไม่มีใครในห้องพักที่จะเปิดอ่านมันเลย ไม่มีสักคน เพราะห้องนี้
ตอนนี้ไม่มีใคร แม้ทิมจะรู้ว่าการทิ้งโทรศัพท์ไว้ในห้องพักมันไม่ปลอดภัยนัก แต่อย่างน้อยห้องนี้มันก็มีล็อคแล้วทำไมทิมถึงต้องทิ้งไว้ที่นี่
คำตอบคือเขาไม่ชอบฝากของไว้กับใครและแมวไม่ใส่เสื้อผ้า
แมวจึงพกอะไรไว้กับตัวไม่ได้ ถ้าคุณจะให้มันสะพายกระเป๋าเล็กๆเพื่อเก็บของละก็
มันก็ยิ่งไม่ปลอดภัยใหญ่ ใครผ่านมาเห็นก็หยิบของไปได้ฟรีๆ คนตัวใหญ่มากกว่าแมวเยอะนะคุณ
แมวลายสลิดตัวสีน้ำตาลเดินไปเดินมาแถวๆหน้าต่างของบ้านสีขาวหลังหนึ่ง
“เหมียวๆ” มันร้องเรียกเจ้าของบ้านพลางเขี่ยที่หน้าต่างดัง แกรกๆ
ไม่นานนักชายวัยกลางคนท่าทางสะอาดในชุดสีดำส่วนสูงประมาณห้าฟุตกว่าๆพร้อมกับผมสีดำเรีบแปล้เดินมาเปิดหน้าต่าง
เขาอุ้มเจ้าเหมียวเข้ามาในบ้าน
ทิมมาหาเขาอยู่บ่อยครั้งเพราะที่นี่เงียบและสบายดี
บางทีชายคนนี้ก็มักจะเปิดเพลงเย็นๆสบายๆฟังเวลาที่เขานั่งทำงานอยู่ในห้องซึ่งอนุญาตให้ทิมเข้าไปได้ในบางครั้ง
แต่ยังไงก็ตามนี่ก็เป็นครั้งรกของปีที่เจ้าแมวมาเยี่ยมหน้าต่างนี้ ชายคนนี้ชื่อไอแซคและสะกดแบบเดียวกับนักวิทยาสาสตร์คนนั้นนั่นแหละ
ทิมรู้จากเสียงพูดของคนในโทรศัพท์ที่คุยกับเขา ทิมแอบฟัง
“นี่เหรอคะแมวที่มาหาลุงบ่อยๆ?” เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
ทำเอาทิมที่ตอนนี้นอนขดอยู่บนตักของไอแซคสะดุ้งเบาๆ
“ใช่ ตัวนี้แหละ
มันชอบมาขออาหาร ก็น่ารักดีมันไม่ซนนักหรอก” เขาพยักหน้า
เด็กผู้หญิงคนนั้นมีผมสีทองและย้อมปอยผมสีน้ำเงิน เธออุ้มทิมขึ้นจากตักของไอแซค
“ม่าววว”ทิมร้องเตือนว่าเขาตกใจ
สุดท้ายก็จบที่เธอเล่นกับเจ้าเหมียวจนตัวแทบเฉา
ทิมเพลียมากจึงขดเป็นก้อนกลมแอบอยู่ใต้โต๊ะตัวหนึ่ง เขาอยากพัก แต่ก็ไม่อยากกลับตอนนี้
เขานอนแต่ก็ไม่ได้หลับ หูเขายังได้ยินเสียงอะไรต่ออะไรอยู่
เขาได้ยินสิ่งที่ไอแซคและหลานสาวคุยกันด้วย “แมวธิวยังไม่กลับเหรอคะ?” เอ๊ะ...
คงไม่ใช่แมทธิวคนเดียวกันหรอกใช่ไหม? ใช่ไหม?
แต่แมทธิวก็เคยบอกเองนี่นาว่าเขาย้ายมาอยู่กับลุงและน้องสาว ทิมพยายามไม่คิดมากและข่มตาหลับ
เขาแค่อยากงีบเท่านั้น
แต่มันก็ยากที่จะดึงความสนใจออกจากเรื่องที่พวกนั้นคุยกัน
ทิมต้องฟังต่อสักหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่แมทธิวคนนั้น
ไม่ใช่รูมเมทหรือเพื่อนหน้าหวานของเขา “เหอะ เจ้าเด็กนั้นกลับมาตั้งนานแล้ว
เขาออกไปหาพ่อที่ชายป่าน่ะ” ไอแซคเอ่ยขึ้น ทิมคิดว่าเขาควรไปดูเสียหน่อย
เพื่อความมั่นใจ
ทิมวิ่งไปที่ประตูบ้านของพวกเขาและเขี่ยๆมันพลางร้องให้พาออกไป
แมวเปิดประตูไม่ได้และถ้าใช้ร่างคนพวกเขาคงต้องแตกตืนไม่น้อยแน่ๆ “อะไรเหรอเจ้าตัวน้อย”
เด็กหญิงถามมันอย่างอ่อนโยน ทิมชอบน้ำเสียงเธอนะ “ง่าว”
“เธออยากออกไปข้างนอกเหรอ?”
“ง่าว”
“โอเคจ้ะ”ว่าแล้วเธอก็เปิดประตูให้มันออกไป
ทิมวิ่งออกไปอย่ารวดเร็ว มันรีบมุ่งหน้าไปยังชายป่านั่นผ่านรั้วบ้านหลังต่อหลัง เหล่าผู้คนบนฟุตบาทก็ได้แต่มองแมวแปลกหน้าที่วิ่งผ่านไปอย่างงงงวย
ทิมวิ่งไปสักพักก็เริ่มเหนื่อย อีกแค่อึดใจก็จะถึงชายป่าอยู่แล้วเชียว
ทิมนั่งลงแต่เขารู้สึกแปลกๆ เขาขนลุกแปลกๆ มันต้องมีสิ่งแย่ๆเกิดขึ้นแน่
แต่อะไรกันนะ ทิมเดาไม่ได้เลย
แผล่บ! ตัวอะไรบางอย่างเลียหลังเขา จากสัมผัสนั่นรู้ได้เลยว่าเจ้าของลิ้นตัวใหญ่กว่าเขามาก
หมานั่นเอง! ทิมวิ่งไม่คิดชีวิตแล้วคราวนี้
เขาวิ่งเร็วยิ่งกว่าม้าควบ
ตรงไปยังชายป่าและรีบแอบอยู่ในพุ่มไม้พลางคอยมองหาว่าเจ้าหมาตัวนั้นอยู่ไหน
มันจะไม่ตามมาใช่ไหม ไม่ มันไม่ตามมา โล่งอกไปทีแต่ทันใดนั้นทิมก็ได้ยินเสียงคุ้นหู
“ครับผมสบายดี” เสียงของแมทธิวที่เขารู้จัก
น่าตกใจอยู่เหมือนกันที่ทิมไปมาหาสู่บ้านที่อีกฝ่ายพักอยู่โดยไม่รู้ตัวมาก่อน
ก็ตลกดีนะโลกมันกลม
แต่กลิ่นปีศาจของเขามันไม่ควรฉุนขนาดนี้นี่นา
หรือว่าแมทธิวไม่ได้อยู่คนเดียว ของมันแน่อยู่แล้วล่ะ
ใครจะพูดว่าผมสบายดีกับตัวเองกันล่ะ! ทิมต้องรู้ให้ได้ว่าแมทคุยกับใครอยู่กันแน่
เขารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องรู้แต่เขาแค่อยากรู้เท่านั้นเอง
เจ้าแมวค่อยๆมุดออกมาเล็กน้อยจะได้มองถนัด
แมทธิวในเสื้อคอเต่าสีขาวที่มีกระเป๋าสะพายพาดอยู่ที่ขา
แมทธิวคงไม่อยากแบกมันไว้ตลอด แสดงว่าบทสนทนาคงจะยาวพอสมควร “พ่อไม่ต้องห่วงผมหรอก
ไม่มีใครรู้หรอก” เสียงแมทธิวดูหงุดหงิดเล็กน้อย พ่อเหรอ? แต่ทิมมองไม่เห็นเขา
เห็นทีคงจะต้องเปลี่ยนมุมมอง
ทิมขยับตัวเล็กน้อยถอยหลังสักก้าวสองก้าวเคลื่อนตัวไปทางขวาหน่อยๆ ยังเห็นไม่ถนัดเลย
เห็นแค่ว่าเป็นผู้ชายอีกคนยังดูไม่แก่มากไม่น่ามีลูกอายุเท่าแมทธิวแต่หน้าตาก็ดูดีอยู่ระดับนึง
เขาก็เป็นปีศาจเหรอ
“แน่ใจนะว่าลูกดูแลตัวเองได้”
ขอเห็นหน้าอีกนิดหนึ่งก็ดี! ทิมพยายามขยับตัวไปอีกนิดนึงจะได้เห็นชัดขึ้น
แต่เท้าน้อยๆของเขาก็ดันไปเหยียบหนามเข้าจังๆ “แง้ว!!”
เขาร้องเสียงหลง ตัวกระเด็นออกมานอกพุ่มไม้ออกมาเห็นคนที่เป้นพ่อของแมทธิวพอดี
เห็นชัดว่ามีเขา เขาแบบปีศาจในหนังสือแฟนตาซีเลย
ทิมพนันได้ว่าเขาก็ต้องมีหางด้วยแน่ๆ
ทั้งสองสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตัวอะไรกระเด็นออกมาจากพุ่มไม้
“อะไรน่ะ!” แมทธิวมองไปรอบๆ แต่ชายอีกคนส่ายหัว “แค่แมวน่ะช่างมันเถอะ” ใช่แค่แมวน่ะช่างมันเถอะ
ถ้าเกิดแมทธิวจำเขาได้ละยุ่งแน่ๆ หลังจากหันไปหันมาสองสามรอบแมทเห็นเขาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรและดูจะไม่ได้สนใจอะไรด้วย
ทิมเลยวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดอะไรเช่นกัน
“วันนี้กลับมาช้าจังเลย”
แม็กซ์เวลล์บ่นพลางกอดอก เบ้ปากนิดๆ
เขานั่งอยู๋บนเตียงแล้วแต่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดอะไรเลย
“นายต้องไม่เชื่อแน่ว่าฉันรู้อะไรมา!”ทิมรีบวิ่งเขาหาอีกฝ่ายและเขย่าตัวเขาอย่างตื่นเต้น
แม็กซ์เวลล์ปัดแขนปัดมือทิมออกก่อนจะหลุดขำมานิดหน่อย “นายเจออะไรมา
ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย”
ทิมกลืนน้ำลายก่อนจะบอก
“แมทธิวเป็นปีศาจ และตอนเย็นวันนี้ฉันเจอเขาคุยกับพ่อด้วยล่ะ” แม็กว์เวลล์ชอบกัดปากเวลาใช้ความคิดเหมือนตอนนี้
“เราควรจะบอกเรื่องของพวกเรากับเขาไหม”
“อืม...มันก็เป็นความคิดที่ดีนะ
รอเขากลับมาค่อยบอกก็แล้วกัน”
“เดี๋ยว ฉันก็มีอะไรจะบอก!” แม็กว์เวลลืลุกขึ้นและเดินไปหยิบกล่องข้าวออกมาจากกระเป๋าก่อนจะเปิดมัน
เอาฝาซ้อนข้างใต้และส่งให้ทิม มันคือมาการองสีพาสเทลหลายชิ้นดูน่ากิน “ว้าว..พวก!
นายรู้ใจฉันจริงๆ!”
“ฮิๆ แน่นอน”
แม็กซ์ยิ้ม “กินสิ”
แมทธิวปิดประตูดังปังก่อนจะวิ่งขึ้นไปชั้นบน
“แมทธิวเบาๆหน่อยสิ!” ลุงของเขาตะโกนเสียงดัง “ครับบบ”
แมทธิวพูดลากเสียงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนที่ประตูเปิดอยู่แล้ว “เป็นยังไงบ้านแคท?”เขาพูดกับเด็กหญิงที่นอนใช้นิ้วปัดโทรศัพท์อยู่บนเตียง
“ก็เรื่อยๆนั่นแหละพี่วันนี้พวกเราเจอแมวที่ลุงเคยเล่าให้ฟังด้วยล่ะ” แมทธิวที่กำลังรูดซิบกระเป่าเพื่อจะหยิบของใช้ก็ต้องหยุดกึก
“แมวตัวนั้นหน้าตาเป็นยังไง”
ความคิดเห็น