ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sorry, he's my boyfriend

    ลำดับตอนที่ #4 : แมวเห็นอะไร

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 61


                    “ฮึบ”แม็กซ์เวลล์เหยียดตัวก่อนจะหาว เขากระพริบตารัวๆก่อนจะลุกจากเตียงอย่างช้าๆตามประสาคนที่เพิ่งตื่นนอนหมาดๆ แต่เด็กหนุ่มต้องชะงักเมื่อเขาเห็นว่าซิบของกระเป๋าใบหนึ่งรูดไม่สนิท เขาเดินไปใกล้ๆเตียงสุดท้ายที่อยู่ติดกำแพง เตียงที่เป็นที่วางของของทั้งสามคน

                มันยากที่จะไม่เกิดความสงสัย ความสงสัยที่ว่าทำไมซิบต้องเปิด มันมีอะไรน่าสนใจอยู่ข้างในรึเปล่า อีกอย่างมันไม่ใช่กระเป๋าของแม็กเวลล์อย่างแน่นอนเพราะเจ้าของกระเป๋าย่อมรู้ว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าของตนบ้างแล้วมันคือกระเป๋าของใคร? มันคือกระเป๋าของแมทธิว

                แม็กซ์เวลล์ค่อยๆเอนตัวลงไปดูใกล้ๆก็เห็นฝาขวดอะไรบางอย่างคล้ายกับน้ำหอมแลบออกมา เด็กหนุ่มใช้นิ้วมือแหวกอย่างระมัดระวังก่อนจะใช้มืออีกข้างหยิบมันขึ้นมา เขาพินิจดูขวดนั่น น่าแปลกที่ไม่มีอักษรหรือสัญลักษณ์ใดที่แสดงที่ยี่ห้อของน้ำหอมขวดนี้เลยแม้แม็กเวลล์จะพลิกดูในด้านใดก็ตาม

                ความจริงค่าเทอมโรงเรียนนี้ก็ใช่ย่อย เด็กทุนรึ? หรือกู้เงินเรียน? ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เพราะดูจากยี่ห้อของสิ่งของอื่นๆตั้งแต่กระเป๋าจนไปถึงกางเกงต่างก็มียี่ห้อมีราคาแพงกันทั้งนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของแม็กซ์เวลล์ที่จะต้องไปสนใจมันอยู่ดีเขาจึงเก็บมันไว้ที่เดิมก่อนจะแปรงฟันและแต่งตัว

                แม็กซ์เวลล์ที่กำลังจะเดินออกจากห้องก็เผอิญเห็นกระดาษโพสอิทสีส้มแปะอยู่บนประตู เด็กหนุ่มดึงมันออกมาดู “พวกเราไปกินข้าว ลงชื่อ ทิมและแมท 6.50น. ...หืม?” เขาหันซ้ายหันขวาจนเจอนาฬิกาที่บอกเวลา 7 โมง 15 นาที “พวกนั้นคงยังกินไม่เสร็จหรอก” ว่าแล้วเขาก็เดินออกจากห้องและมุ่งหน้าไปยังโรงอาหาร

                    “นั่นยังไงล่ะ บูทนั้นไง”แมทธิวพูดกับทิมพลางชี้ไปที่บูทที่มีโอดิตินและเด็กหนุ่มอีกคนเฝ้าอยู่ ทิมได้ยินดังนั้นก็ยักไหล่ “ได้ เรากินอาหารจากบูทนั้นก็ได้” ที่บูทนั้นถูกตกแต่งด้วยสีรุ้งพาสเทล เหมือนว่าโอดิตินจะเห็นทั้งสองคนเดินมาก็เลยโบกมือให้ก่อนจะสะกิดเด็กหนุ่มอีกคนให้โบกมือตาม

                แมทธิวยิ้มให้โอดิตินก่อนจะถามว่า “นายขายอะไรเหรอ?” แต่ญาติของเขาไม่ตอบ เขากลับยื่นแซนวิชขนมปังอันหนึ่งให้แมทธิว “ลองยืดมันออกสิ”โอดิตินพูดและชี้ไปที่แซนวิช เมื่อแมทธิวยึดมันออก แน่นอนว่าส่วนที่เป็นขนมปังย่อมขาดเป็นสองท่อนทว่าใส้ในของมันเป็นชีสและที่สำคัญมันเป็นชีสสีรุ้ง! แมทและทิมอ้าปากค้าง เด็กหนุ่มผมสีดำประทับใจมาก เขาค่อยๆเริ่มกินจากชีสสีรุ้งตรงกลางจนกระทั่งขนมปังทั้งสองฝั่งไม่มีอะไรยึดติดกัน

                “เอาไหม?”แมทธิวยื่นชิ้นหนึ่งให้ทิมก่อนจะเริ่มกินอีกชิ้นหนึ่ง ทิมส่ายหัวพร้อมหัวเราะแห้งๆ “..เอ่อ..โอดิตินใช่ไหมฉันขออีกอันดีกว่านะ” โอดิตินพยักหน้าและพูดอะไรสักอย่างกับเด็กหนุ่มอีกคนก่อนที่เด็กหนุ่มคนนั้นจะพยักหน้าและและเริ่มทำแซนวิชอีกชิ้น “นายไปนั่งรอก่อนนะ”

                ทั้งคู่นั่งรอในที่ที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้ มันเป็นม้านั่งไม้ที่ไม่มีโต๊ะ ไม่ใช่ว่าไม่มีโต๊ะเหลือ เช้าขนาดนี้ไม่มีใครมากนักแต่ที่สองคนนั่งตรงนี้เพราะมันอยู่ติดบูทพอดี ตรงนี้เป็นส่วนนอกของโรงอาหารมีต้นไม้ให้ความร่มเย็นด้วย “นายว่าจะมีใบไม้ร่วงใส่อาหารบ้างไหม” แมทธิวเคี้ยวหยับๆก่อนจะหันไปถามทิมที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ ทิมเงยหน้าเพียงเพื่อจะเห็นใบไม้ที่ปลิวไปคนละทางกับบูทสายรุ้งนั่น เขาหยิบใบไม้แห้งมาหนึ่งใบก่อนจะเอามันมาแหย่ใกล้ๆกับจมูกของแมทธิว “นายอยากกินรึเปล่าล่ะ” เขาหัวเราะ

                แมทธิวคิกคักก่อนจะปัดใบไม้นั่นออกไป “ฉันไม่กินใบไม้แห้งน่าทิม แซนวิชนี่อร่อยกว่า” ได้ยินดังนั้นทิมก็ยิ้มแห้งๆก่อนจะนั่งรอแซนวิชต่อไป เขาพยายามจะนั่งรอด้วยความอดทนแต่ท้องเขาก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่ มันร้องบอกเขา โครกๆ ครากๆ “ท้องร้องดังจัง แน่ใจนะว่าจะไม่เอาอีกชิ้น” แมทยิ่นให้ทิม แต่ทิมก็ยังส่ายหัว “ไม่ล่ะ นายกินไปเถอะ”

                “รอนานรึเปล่า”

                ทิมเงยหน้าขึ้นมองผู้พูดด้วยความหวังที่จะได้กินแซนวิชขนมปังเสียที แต่แล้วเด็กหนุ่มก็ต้องผิดหวังเพราะผู้พูดนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากแม็กว์เวลล์นั่นเอง หนุ่มผมทองเลิกคิ้วขึ้นเนื่องจากสงสัยว่าทำไมทิมต้องทำตาเลื่อนลอยแบบนั้นด้วย

                “นายเป็นอะไรน่ะเพื่อน?”แม็กซ์ก้มถามเพื่อน

                “เขาหงอยเพราะยังไม่ได้กินแซนวิชน่ะ”แมทตอบแทนทิมก่อนจะตั้งใจกินต่อ

                “ตามนั้นนั่นแหล่ะ”ทิมถอนหายใจ

                ทันใดนั้นเองกลิ่นหอมของขนมปังและชีสก็ลอยโชยตามสายลมมาแตะจมูกทิมพอดี “มาแล้ว! มันมาแล้ว! ” เด็กหนุ่มตาโต มันเป็นความจริงแซนวิชมาแล้วจริงๆ แซนวิชขนมปังใส้ชีสสีรุ้ง!

                เด็กหนุ่มผมทองคนหนึ่งที่ตาข้างซ้ายสีฟ้าอีกข้างสีเขียวเดินมายังทั้งสามคนพร้อมกับจานที่มีแซนวิชสองชิ้นอยู่ในมือ “อันนี้ของทิม” เขายื่นแซนวิชอุ่นๆให้กับเด็กหนุ่มอีกคนทว่าก่อนที่ทิมจะเริ่มบรรจงกัดคำแรกเขาก็หยุดกึกด้วยความคิดที่ว่า...

    “อีกอันนั่นของใครล่ะ?”

    “นายคิดว่าของใครล่ะ?” ว่าแล้วแม็กซ์เวลล์ก็กัดแซนวิชอีกชิ้นเข้าไปเต็มๆ

    วันนี้เป็นวันแรกที่จะเริ่มเรียนวิชาเพิ่มเติม ทิมดีใจ ไม่ใช่เพราะว่าเขาจะได้เรียนหรอกนะแต่วันนี้ครูสอนวิชาดนตรีไม่มา เขาชอบเรียนดนตรีแต่เขาชอบคาบว่างมากกว่า แต่ปัญหาคือเขาจะทำอะไรดีล่ะ? ตลกดีที่สาเหตุที่ครูดนตรีลาเพราะไปแต่งงานกับครูสอนภาษาเยอรมัน!

    หลังจากที่วิชาบังคับสุดท้ายของวันหมดลงซึ่งเหลือเวลามากกว่าครึ่งวัน ทิมก็เดินอย่างไร้ความหมายไปที่หอพัก หนังสือ?เขาก็ไม่อยากอ่าน เล่นโทรศัพท์? แบตเขาเพิ่งหมดเมื่อสักครู่ จะเล่นกีต้าร์ก็ไม่สนุกเพราะตอนนี้เขาไม่มีเพื่อนมาคอยฟังสักคน แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เขาทำได้ในเวลาที่ไม่มีใครอยุ่ในห้อง! สิ่งนั้นก็คือ....

    เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปที่อ่างอาบน้ำและเปิดน้ำแรงเต็มที่ โดยไม่ลืมที่จะปิดจุกไม่ให้น้ำไหลลงท่อ ไม่นานนักน้ำก็เต็ม ทิมแปลงร่างเป็นแมว ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ได้มีเอฟเฟคอะไรหวือหวาขนาดนั้นเพียงแค่คุณกระพริบตาเท่านั้นก็เสร็จแล้ว มองไม่ทันหรอก ทิมในร่างแมวลายสลิดยืดตัวก่อนจะกระโดดลงไปเล่นน้ำในอ่างอย่างสบายใจ

    แมวปกติทั่วไปไม่ชอบอาบน้ำเพราะมันไม่ชอบให้ขนเปียก มันหนักตัวและช่างอึดอัดแต่ทิมสามารถแปลงเป็นคนตอนนั้นก็ได้ซึ่งมากสุดก็แค่ตัวเปียกเท่านั้น จริงๆแล้วทิมเคยได้รับเลือกเป็นตัวแทนแข่งว่ายน้ำด้วยแต่ตอนนั้นดันขาหักซะก่อนเลยไม่ได้แข่งอีกเลย ใช่แล้ว ทิมชอบว่ายน้ำ ในอ่างนี่ขนาดใหญ่ดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวแมวและยังเป็นส่วนตัวอีกด้วย

    ทิมแช่น้ำอยู่อย่างสบายใจได้ไม่นานก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น เจ้าเหมียวสะดุ้งโหยงมันรีบกระโดดออกจากอ่างน้ำก่อนจะวิ่งไปซ้อนหลังชักโครก มันสิ้นคิด แต่เขาก็คิดได้แค่นั้นจริงๆแหละ

    “ฮืม ฮืม”เสียงใครบางคนฮัมเพลงพร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาในห้อง ทิมหวังว่าคนๆนั้นจะออกไปแต่ไม่เพราะว่าทิมปิดก๊อกไม่สนิท เสียงน้ำหยดดังเป๊าะๆแป๊ะๆทำให้คนคนนั้นเดินเข้ามาดูในห้องน้ำด้วยความสงสัย “ใครเปิดน้ำไว้ขนาดนี้เนี่ย”แมทธิวจุ่มมือลงไปในน้ำ กวักมือไปมาอยู่วักพักก็ต้องร้องแหยะ!เพราะว่ามีขนแมวอยู่ในน้ำด้วย

    แมทธิวดึงจุกน้ำทิ้งก่อนจะรอน้ำเก่าไหลลงไปจนหมดและค่อยปิดจุกและเติมน้ำใหม่อีกที เขาถอดเสื้อผ้าอย่าช้าๆพร้อมฮัมเพลงเดิมกับเพลงที่เขาฮัมเมื่อเดินเข้ามาในห้อง แมทธิวค่อยๆหย่อนตัวลงในน้ำอุ่นและหายใจเข้าออกลึกๆ แต่นั่นมันอะไรกัน! ทิมมองเห็นหางของปีศาจของแมทธิว มันมีสีดำ ยาวและปลายของมันก็แหลมเหมือนในหนังสือเทพนิยายเทือกนั้นเลย กลิ่นฉุนๆนั่นมาจากแมทธิวนี่เอง ว่าแต่ทิมจะทำยังไงดีล่ะ!

     ทิมมองดูอย่างลุ้นๆว่าแมทธิวจะออกไปเมื่อไหร่แล้วค่อยคิดต่อเรื่องหางปีศาจบ้าๆนั่น จนเผลอถอยหลังไปแตะถังโง่ๆดัง แก๊ง! แมทธิวหันขวับ! เขาเห็นทิมแล้วแมทธิวลุกขึ้นจากอ่างน้ำและเดินไปหาแมวตัวนั้น “โอ้ ตัวเปียกเชียว ใช่ขนของแกรึเปล่าเมื่อกี้นี้น่ะ?”

    ทิมทำอะไรไม่ถูกเขาได้แต่ร้องเหมียวๆ เหมียวๆ อย่างน่าสงสาร“นายชอบน้ำอุ่นเหรอ? แปลกดีนะเอาเป็นว่าฉันไม่แช่น้ำแล้วดีกว่า”

    แมทธิวเช็ดตัวและแต่งตัวในชุดสบายๆที่เป็นได้ทั้งชุดอยู่บ้านและออกนอกบ้าน อีกทั้งได้นั่งเช็ดตัวให้ทิมในร่างแมวเปียกๆ เขาตัวสั่น ไม่ใช่เพราะหนาวแต่เป็นเพราะกลัว จริงอยู่ที่ทิมเจอปีศาจมามากแต่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนใกล้ตัวขนาดนี้ “เฮ้ นายเข้ามาได้ยังไงน่ะ” แมทธิวเดินไปดูที่หน้าต่าง มันปิดอยู่ ปิดอยู่สนิททีเดียว

    เด็กหนุ่มผมสีดำคิดอยู่สักพักว่าจะทำอย่างไรกับแมวตัวนี้ดีในขณะที่แมวทิมทำท่าเหมือนจะตะปบหางแมทธิว “ฮะๆอะไรกัน นายอยากเล่นงั้นเหรอ?”ว่าแล้วแมทก็ใช้หางของตนแหย่แมว “เหมียว” ว่าแล้วเจ้าแมวตัวนั้นก็กระโดดเหยงๆเหมือนแมวทั่วไปที่เล่นกับเชือกหรืออะไรที่เป็นเส้นๆแบบนี้

    เอาล่ะทิมต้องคิดด้วยว่าจะออกจากที่นี่ได้อย่างไง...

    แต่เมื่อทั้งคู่เล่นกันไปจนเกือบเย็นแมทธิวก็เกิดเบื่อขึ้นอย่างดื้อๆและนอนหลับไปทิ้งทิมให้อยู่คนเดียว ทิมค่อยๆย่องลงจากเตียงและเข้าไปแปลงร่างกลับเป็นคนในห้องน้ำพร้อมกับอาบน้ำอีกรอบ

    ทิมที่อาบน้ำเสร็จแล้วออกมายืนดูแมทธิวที่อยู่บนเตียง “โอ้ แมทธิวนายเป็นใครกันแน่นะ?”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×