ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " M A T T H E W ' S " แมทธิว : ฉันเป็นใคร?

    ลำดับตอนที่ #18 : การกลับมา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11
      1
      26 ก.พ. 61

     “เบลล่า!”เจ้าปีศาจหน้าซีด “เป็นไปไม่ได้ เธอควรจะหายไปแล้วนี่!” เขาร้องเสียงดังด้วยความตกใจ ตัวสั่นเล็กน้อย รู้สึกเหมือนเห็นผี อีกฝ่ายได้ยินก็หัวเราะร่า “คิดผิดแล้วล่ะ”หญิงสาวผู้นั้นกล่าวอย่างเยาะเย้ย

    ตอนนั้นแอนดริวกับซาแมนธากำลังซ่อนอยู่ในความเงามืดภายในบ้านหลังหนึ่ง แน่นอน มันไม่ใช่บ้านของพวกเขา ข้างในนั้นแทบมืดสนิท ในบ้านนั้นเงียบสงัดเว้นแต่ว่ามันมีแสงสว่างเล็ดลอดจากห้องใต้ดิน
     “เธอแน่ใจเหรอว่าเบลเป็นแม่มด?”หญิงสาวถามอย่างไม่มั่นใจ

    “เธอบอกว่าไมเคิลโดนเล่นของนี่นา อีกอย่างฉันได้กลิ่นแม่มดนี่นะ ต้องเป็นเบลแน่ๆ”แอนดริวตอบพลางคลำอุปกรณ์ของเขาเพื่อตรวจดูว่ามันไม่หายไปไหน

    “อ๋อ อีกอย่าง ถ้าฉันไม่กลับมาภายใน 20 นาทีล่ะก็หนีกลับไปซะนะ”

    เขาแง้มประตูเบาๆ “แม่มดจะตายจริงๆเมื่อโดนไฟเผา...” จากนั้นจึงค่อยๆย่างก้าวอย่างเบาๆลงบันไดไป มันค่อนข้างมืด มืดกว่าข้างบนเสียอีก มีเพียงแสงสว่างสีเขียววาบขึ้นมาเป็นระยะๆ

    แอนดริวหลบอยู่หลังถังใบใหญ่ อีกฝั่งเขาว่าต้องเป็นเบลล่าที่กำลังปรุงยาหรือทำอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ เพราะเขาได้ยินเสียงท่องคาถางึมๆงำๆ

    เขาหยิบอุปกรณ์คล้ายปืนของตนออกมาก่อนจะกดปุ่มหนึ่งครั้งจากนั้นจึงเล็งมันไปยังหัวของอีกฝ่าย แอนดริวมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว สิ่งที่หายากไม่ใช่อาวุธนี้ทว่าเป็นกระสุนต่างหาก ถ้าเขาพลาดขึ้นมา....

    ปีศาจหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะตั้งสติและลั่นไกปืน

    แม่มดล้มลงทันที ไม่นานนักร่างของเธอก็ไหม้ไฟ เหลือเพียงแค่ฝุ่นผงเถ้าธุลีก็เท่านั้น ด้วยความปลอดภับเขาจึงเก็บมันใส่ถุงกระดาษและฝังมันไว้หลังบ้านของแม่มดเอง แต่เรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นั้น

    ความจริงการปราบแม่มดมันไม่ได้ง่ายขนานนั้น เบลล่าไหวตัวทัน เธอจึงได้ใช้พลังทั้งหมดย้ายร่างและวิญญาณของตนไปที่อื่น เธอเลือกที่ๆพวกนั้นนึกไม่ถึง บ้านของไมเคิลนั่นเอง
     
    มนุษย์มักจะไม่สนใจสิ่งใกล้ตัว

    ก่อนเปิดเทอมนี่เองที่แมทธิวทำแจกันใบหนึ่งแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้แม่มดตื่นขึ้น มันพักผ่อนมาเต็มที่และหร้อมแล้วที่จะแก้แค้น ไม่นานหลังจากนั้นที่ไมเคิลตายตามด้วยภรรยาตามกฏหมาย ซาแมนธา

    “ถึงเวลาของแกแล้วล่ะแอนดริว”เธอพูดจบก็พุ่งไปหาเขาอย่างจัง เบลล่านั่งคร่อมอีกฝ่ายและพยายามบีบคอให้ตายเพราะไม่หายใจ แอนดริวก็แก่ลงไปบ้างแต่เขาไม่คิดว่าตัวเองจะแรงตกขนาดนี้ ไม่สิ...เธอก็แข็งแกร่งขึ้นเหมือนกัน

    แอนดริวพยายามควบคุมการหายใจของตนก่อนจะกลั้นใจเตะเธอ แม้จะเป็นผู้หญิงก็เถอะ เมื่ออีกฝ่ายเสียหลักเขาก็กระโดดขึ้นก่อนจะเหยียบซ้ำอีกทีเพื่อความมั่นใจ เขาต้องรีบไปหยิบปืนนั่นที่อยู่บนห้องรับแขก

    ทว่าสายเกินไป ยัยแม่มดแปลงร่างเป็นหมอกและขึ้นไปก่อนอีกฝ่าย เธอรู้ทันแอนดริวจึงรีบทำลายปืนทันที เมื่อปีศาจรู้ตัวกิ่งบันไดอีกรอบเพื่อนหาที่ตั้งหลัก เขาเลือกห้องโถงใกล้ประตูหน้าบ้านเพื่อจะได้หนีทัน

    หมอกสีดำรวมเป็นสิ่งชั่วร้ายอีกครั้ง “อย่าหนีให้เสียเวลาเลย” แต่ในเสี้ยววินาทีที่สั้นมากๆจู่ๆเธอก็กรีดร้องและแปลงเป็นหมอกก่อนจะหายไปอีกครั้ง

     “เป็นแม่มดที่ไม่ระวังตัวเอาซะเลย”เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ไอแซคนั้นเอง

    “มาตั้งแต่เมื่อไรกัน”แอนดริวอุทาน เขามองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ ในมือซ้ายของชายวัยกลางคนมีบางสิ่งคล้ายขวดน้ำหอมอยู่ 

    “ฉันได้ยินเสียงดัง เลยเข้ามาทางประตูหลัง”เขาตอบอย่างสงบเสงี่ยม “ส่วนนี่...ไม่ใช่น้ำหอมหรอกนะ”

    “แล้วมันคือ?”

    “น้ำมนต์ที่ฉันกะจะฉีดใช่แมทธิวเวลาดื้อ”

    “แม่มดหนีไปแล้วสิ”

    “อุตส่าห์จะไม่กลับมายุ่งกับเรื่องเหนือธรรมชาติแล้วนะเนี่ย”

    “จะว่าไป พี่ชายผมก็อยากเจอคุณนะ”

    “...แต่ฉันไม่”

    “เสียงอะไรดังจังเลย เนอะ”แมทธิวพูดกับเจ้าเหมียวทิมก็แบบแมวๆเหมือนเดิม ส่วนแคทลีนหลับไปแล้ว บางทีเด็กชายก็อิจฉาที่เธอหลับง่าย เพียงแค่หัวถึงหมอนเท่านั้น เธอก็หลับสนิท

    ทิมปีนขึ้นเพื่อนอนบนหน้าอกของอีกฝ่าย “เหมียว” เขาร้องก่อนจะซุกคอของแมทธิวจากนั้นจึงเริ่มไซร้คอเหมือเจ้าเหมียวทั่วๆไป “เจ้าแมวน้อย” เด็กชายเกาพุงแมวอ็อกซิแคทตัวนั้น ก่อนจะหันไปปิดไฟหัวเตียงและนอนกอดเพื่อนขนฝูของตน

    วันต่อมาทั้งแอนดริวกับไอแซคก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แมทธิวและแคทลีนฟัง แน่นอนว่าคนพี่ต้องเชื่อเรื่องพรรคนี้ เขาเลิกตกใจตั้งแต่เขามีหางและรู้ตัวว่าตัวเองเป็นลูกครึ่งอินคิวบัสแถมยังเป็นเพียงผลพวงจากวันไนท์สเตย์อีกด้วย แต่แคทลีนที่เป็นเด็กสาวธรรมดาๆ เธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้นักเท่าไหร่ ถึงจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ตาม แต่ก็ฟังเพราะมันสนุกดี ทิมก็ยังอยู่ในร่างแมว กำลังนอนตักแมทธิวอย่างสบายใจ

    “ฉันต้องกลับไปเอาปืนที่บ้านก่อนมันจะกลับมาอีกครั้ง” แอนดริวเริ่ม

    “ต้องไปกันหมดนี่แหละ ยกเว้นแคทลีน...ช่วงนี้ให้เธอไปอยู่กับอีริคละกัน”
    ไอแซคกล่าวถึงน้องชายคนเล็ก พ่อของโอดิติน แต่แมทธิวก็นึกบางอย่างได้ “นี่มันช่วงหยุดยาวของโรงเรียนผมนี่นา”ลุงของเขาได้ยินก็พยักหน้า ก่อนจะตอบด้วยสีหน้าเย็นชาและขยับแว่นเล็กน้อย “ใช่แล้ว เธอจะใช้วันหยุดที่นั้น”

    หลังจากพวกเขาไปส่งแคทลีนที่บ้านของอีริค รถก็ถูกขับไปที่ถ้ำแถบฉานเมือง มันมืดนิดหน่อยเพราะอยู่เขตชายป่า แมทได้ยินเสียงนกร้อง เมื่อรถจอดแอนดริวก็ลงไป เขาใช้ชอล์กเขียนภาพอักษรบางอย่างบนผนังถ้ำก่อนจะท่องคาถางึมงำ ไม่นานก็มีประตูคล้ายประตูโรงรถปรากฏขึ้น มันเปิด

    แอนดริวกลับเข้าไปในรถและสลับที่กับไอแซคเพื่อเป็นคนขับ
    “มันคือเวทย์มนต์เหรอ?”แมทธิวผู้นั่งหลังกระซิบถาม
    “ไม่หรอกมันเป็นวิชาง่ายๆ ใครๆก็เรียนรู้ได้”
    หลังจากขับรถเข้าไปในนั้นมัน ประตูก็ปิดเอง ทางฝั่งนั้นแทบไม่ได้แตกต่างอะไรจากฝั่งของพวกเรา เว้นแต่สิ่งมีชีวิตที่พากันเดินขวักไขว่เห็นจะเป็นเพียงจินตนาการของคนทั่วไป แต่มันเป็นความจริง ทั้งปีศาจ มนุษย์หมาป่า แวมไพร์ แม้กระทั่งยูนิคอร์น! แมทธิวแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง

    แต่เหมือนเด็กชายลืมอะไรบางอย่าง เขาดันอุ้มทิมมาด้วย!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×