ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " M A T T H E W ' S " แมทธิว : ฉันเป็นใคร?

    ลำดับตอนที่ #17 : กลิ่น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21
      0
      11 ก.พ. 61

    เมื่อเวลานั้นมาถึงแมทธิวมือสั่นด้วยความตื่นเต้น เขาและทีมซ้อมมาอย่างหนักเด็กชายกลืนน้ำลายและตั้งสติก่อนขึ้นเวที เขาพกความมั่นใจมาเต็มที่เหมือนลูกโป่งที่สูบลมมาเต็ม

    แต่ตอนนี้เขาเป็นลูกโป่งที่แฟบ เข็มที่ชื่อว่าความพ่ายแพ้เจาะลูกโป่งจนพรุน เด็กชายหมกตัวอยู่หลังเวทีด้วยสีหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์ “นายโอเคไหม?”ทิมถามเพื่อนพลางปาดเหงื่อของตนที่ไหลย้อยอยู่บนหน้าผาก

    “ไม่”แมทธิวส่ายหัวและตอบด้วยเสียงสั่นๆ “เราแพ้นะทิม เราแพ้วงที่มีแต่ผู้หญิงแถมใช้ Auto tune!”เขาเขย่าตัวเพื่อนอย่างอารมณ์เสีย

    “เป็นที่สองฉันไม่เสียใจหรอก แต่แพ้แนวเพลงที่ฉันไม่ชอบนี่สิ”เด็กชายถอนหายใจเฮือกใหญ่

    ทิมลูบที่หน้าขาของอีกฝ่ายเบาๆพร้อมปลอบใจ “ไม่เป็นไรน่า คิดซะว่าพวกนั้นแค่โชคดีก็แล้วกัน”

    “เจ้าเด็กนั่นคือแมทธิวสินะ”แม่มดคิด มันแอบตามดูแมทธิวมาสักพักเหมือนกับตอนนี่ที่ด้อมๆมองๆอยู่หลังเวที

    “ฮิๆ” มันเผลอหัวเราะอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    “ใครน่ะ?”แมทสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิง เขาหันไปมาเพื่อจะหาต้นเสียงนั้น

    “นายหลอนไปเองมั้ง ไปนอนพักเถอะแมท” ทิมพูดและลุกขึ้น “แต่ถ้านาย-หิวฉันเลี้ยงพิซซ่าให้ก็ได้”

    “ดีฉันกำลังอยากกินอยู่เลย!” เด็กชายเด้งตัวเองขึ้นมาและกอดเพื่อนของตน ขอหน้าฮาวายเอี้ยนนะ!” อารมณ์เขาเปลี่ยนทันที

    หลังเลิกเรียนทิมพาเขาไปยังร้านพิซซ่าใกล้ๆโรงเรียน แต่ทิมไม่ได้นำกระเป๋ามาด้วยเพราะเขาคิดว่าจะค้างคืนที่โรงเรียนในช่วงวันหยุดยาวต่อจากนี้ ซึ่งต่างจากแมทธิวที่อยากกลับไปนอนบ้านมากกว่า มันเป็นร้านพิซซ่าที่ราคาไม่แพงนัก แต่อาหารที่นี่อร่อยมาก

    ภายในตกแต่งอย่างดีด้วยการตกแต่งสไตล์โรมัน ชวนให้นึกถึงยุคโบราณช่วงปลายนั้นเอง พวกเขานั่งโต๊ะริมหน้าต่างตัวท้ายสุด

    “นายชอบพิซซ่าอย่างนั้นเหรอ?”ทิมถามพลางหยิบชิ้นพิซซ่าของตนก่อนจะพินิจดูมัน ส่วนที่เป็นชีสของพิซซ่ายืดย้อยดูน่าทาน “ใช่แล้ว”เด็กชายผมสีดำพยักหน้า เขายิ้ม เขามีความสุข และแมทธิวน่ารักเวลาเขามีความสุข อย่างน้อยก็ในความคิดของทิม

    “นี่ คราวที่แล้วฉันไปบ้านนาย วันนี้นายอยากมา...นอนค้างบ้างฉันไหม?”แมทเชิญ ทิมตอบทันที “ได้สิ!” แต่แล้วก็โดนแมทธิวขัดจังหวะ “ในร่างแมวนะ คือลุงฉันค่อนข้างเข้มงวดน่ะ ถ้านายมานอนค้าง เอ่อ...”เขาทำสีหน้าอึดอัดใจและกลืนน้ำลาย

    “ก็ได้นะ ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร”

    เมื่อทั้งคู่กินพิซซ่าเสร็จ จ่ายเงินเสร็จก็ตรงไปยังห้องน้ำ มันสกปรกนิดหน่อย ไฟกระพริบแปล๊บๆเหมือนควรเปลี่ยนหลอดไฟได้แล้ว ยังดีที่อย่างน้อยห้องน้ำนี้ก็ไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนห้องน้ำชายทั่วไป พวกเขามองซ้าย มองขวา “ไม่มีคน!” ทิมกระซิบกับแมทธิว “ก็ดี” เพื่อนเขาตอบ

    แมทวิ่งเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่งตามด้วยทิม ทั้งคู่ไม่ได้ล็อคประตู เพียงแค่เปิดไว้เพียงแง้มๆเท่านั้น ไม่นนานนักแมทธิวก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมแมวอีกตัว คือทิมนั่นเอง โชคดีที่วันนี้คนไม่ค่อยเยอะนัก จึงไม่ผิดสังเกตอะไร

    เด็กชายอุ้มอีกฝ่ายจนมาถึงบ้าน แน่นอนว่ากระเป๋าของเขาก็เช่นกัน “นายนี่ตัวหนักกว่าที่ฉันคิดอีกนะ”เด็กชายบ่นพลางเปิดประตู เจ้าเหมียวร้องง่าวๆเสียงดังเป็นเชิงด่ากลับ

    “กลับมาพอดีเลยนะ”เสียงลุงของเขาดังขึ้น ไอแซคเดินมาหยิบร่มพอดี “ลุงจะออกไปทำธุระข้างนอก อย่าทำอะไรแปลกๆล่ะกัน”เขากำชับ เด็กชายพยักหน้า แต่เมื่ออีกฝ่ายเห็นสิ่งที่แมทอุ้มอยู่ก็สงสัย “แมวจรจัดตัวนั้นนี่นา” ถึงจะอายุมากแล้วแต่ความจำเขายังดีอยู่นะ

    “ครับเอ่อ...มันมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ผมเลยพามันเข้ามา อยากเล่นด้วยน่ะ”แมทตอบเสียงอ่อยๆ เหมียว! ทิมทักชายวัยกลางคน เขาพยายามทำตัวเป็นน้องเหมียวน่ารัก เห็นได้ชัดว่าคุณลุงคนนนี้ใจอ่อนกับแมว “ก๊ได้ๆ แต่อย่าทำสกปรกนะ เอาละลุงไปก่อนล่ะ” เขากล่าวก่อนจะเดินผ่านแมทธิวออกไปข้างนอกที่เมฆฝนเริ่มก่อตัว มีลมพัดเย็นๆเข้ามาเล็กน้อย

    แมทอุ้มมันมานั่งบนโซฟาข้างๆกับน้องสาวที่กำลังดูทีวี เธอเรียนคนละโรงเรียนกับพี่ชาย แมทวางกระเป๋าไว้ข้างๆโซฟา เธอเบนความสนใจมาที่ทิม “เจ้าทวิงเคิลนี่นา!” เธอร้อง “ใช่ มันมาหาพี่เองล่ะ น่ารักใช่ไหม”

    ในระหว่างนั้นแอนดริวก็เดินผ่านมาเห็นเด็กๆกำลังเล่นกับเจ้าเหมียว แต่เขาได้กลิ่นบางสิ่ง จริงอยู่ที่แมทธิวย่อมมีกลิ่นปีศาจอยู่บ้างเพราะเขาเป็นลูกครึ่ง แต่ทว่ามีอีกกลิ่นที่ฉุนออกมาแรงกว่านั้น ปีศาจเห็นทิมนอนคลุกตัวบนโซฟานิ่มๆนั่นก็เอ่ย “แมวตัวนี้มาจากไหนน่ะ?”

    เจ้าปีศาจก็ลงนั่งบนโซฟาด้วย เขาอุ้มมันขึ้นมา ทิมร้องแง้วเพราะตกใจเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายอีกฝ่าย แอนดริวมองมัน กลิ่นมาจากเจ้านี่แน่นอนเขามั่นใจ

    “มีอะไรรึเปล่าครับ?” แมทธิวพูด เลิกคิ้วของตนขึ้นด้วยความสงสัย

    “อ๋อ อืม...ไม่มีอะไรหรอก”

    แคทลีนเรียกแอนดริวว่าคุณแอนดริว เพราะเธอไม่รู้ว่าควรเรียกเขาว่าอะไร เธออึดอัดนิดหน่อยเพราะเธอรับไม่ได้กับการที่แมทธิวเป็นพี่ชายคนละพ่อ แต่คนที่ลำบากใจกว่าน่าจะเป็นสองพ่อลูกนั่นแหละ

    แอนดริวไม่ได้สนใจแมวมากนัก อาจเป็นแค่ปีศาจแมวธรรมดาๆไร้พิษภัย เขาจึงปล่อยให้สองพี่น้องดูแลตัวเอง ส่วนเขาก็เตรียมอาหารมื้อต่อไปให้แคทกับไอแซค

    ความจริงทิมก็ได้กลิ่นของอีกฝ่ายเช่นกัน คงเป็นปีศาจ อาจจะเป็นพ่อของแมทธิวก็ได้ เขาคิด

    เจ้าปีศาจเตรียมเครื่องมือกับวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน แต่ทันใดกลับมีกลิ่นบางอย่างฉุนขึ้นมา คราวนี้ไม่ใช่กลิ่นตัวของแมทหรือเจ้าแมว แต่เป็นอย่างอื่น เป็นสิ่งลึกลับ เขาจำกลิ่นนี้ด้ กลิ่นของแม่มด มันฟุ้งเข้ามาทางซอกดหน้าต่าง เมื่อแอนดริวนึกได้จึงรีบล๊อคทุกประตูและหน้าต่างที่ทำได้

    “คงไม่ใช่เธอหรอกนะ...”

    หลังจากแคทกินข้าวเสร็จ เธอก็พูด “ลุงยังไม่กลับบ้านเลย” น้ำเสียงดูกังวลเล็กน้อย “เขาคงจัดการอะไรที่ทำงานจนดึกอีกแน่ๆ” พี่ชายของเธอตอบพลางเล่นกับแมวบนโซฟาเหมือนเดืม เด็กชายเกาคางแมว (เพื่อนของเขา) อย่างเบาๆ “เหมียวๆ”

    แอนดริวกับเด็กๆดูหนังจนดึก สองพี่น้องก็แยกย้ายกันไปนอน แต่เจ้าปีศาจกะจะรอไอแซคกลับ จริงเขานอนไม่หลับ เขายังคิดเรื่องกลิ่นที่กำลังกวนใจตนอยู่ แต่ท่ามกลางความเงียบสงบยามค่ำคืนนั้นเอง เสียงกุกๆกักๆก็ดังชขึ้นจากห้องซักรีด

    เขาลุกขึ้นและค่อยๆเดินไปยังห้องดงกล่าวอย่างระมัดระวัง เมื่อเปิดประตูก็มีหนูวิ่งสวนเขาไปอย่างรวดเร็ว แต่แอนดริวคว้ามันไว้ “โถ่ แกนั่นเอง” ว่าแล้วปีศาจก็เปิดหน้าต่างและโยนหนูตัวใหญ่สีเทาออกไปเบาๆ

    ยังไม่ทันที่เขาจะปิดหน้าต่างก็มีควันหมอกสีดำฟุ้งเข้ามาใหญ่ เพียงพริบตาเดียวกลุ่มหมอกก็รวมตัวกันเป็นร่างหญิงสาวผมสีทองซีด งามหยดย้อย

    ไม่ได้เจอกันนานนะ แอนดริว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×