คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : กลิ่น
เมื่อเวลานั้นมาถึงแมทธิวมือสั่นด้วยความตื่นเต้น
เขาและทีมซ้อมมาอย่างหนักเด็กชายกลืนน้ำลายและตั้งสติก่อนขึ้นเวที
เขาพกความมั่นใจมาเต็มที่เหมือนลูกโป่งที่สูบลมมาเต็ม
แต่ตอนนี้เขาเป็นลูกโป่งที่แฟบ
เข็มที่ชื่อว่าความพ่ายแพ้เจาะลูกโป่งจนพรุน เด็กชายหมกตัวอยู่หลังเวทีด้วยสีหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์
“นายโอเคไหม?”ทิมถามเพื่อนพลางปาดเหงื่อของตนที่ไหลย้อยอยู่บนหน้าผาก
“ไม่”แมทธิวส่ายหัวและตอบด้วยเสียงสั่นๆ
“เราแพ้นะทิม เราแพ้วงที่มีแต่ผู้หญิงแถมใช้ Auto tune!”เขาเขย่าตัวเพื่อนอย่างอารมณ์เสีย
“เป็นที่สองฉันไม่เสียใจหรอก
แต่แพ้แนวเพลงที่ฉันไม่ชอบนี่สิ”เด็กชายถอนหายใจเฮือกใหญ่
ทิมลูบที่หน้าขาของอีกฝ่ายเบาๆพร้อมปลอบใจ
“ไม่เป็นไรน่า คิดซะว่าพวกนั้นแค่โชคดีก็แล้วกัน”
“เจ้าเด็กนั่นคือแมทธิวสินะ”แม่มดคิด
มันแอบตามดูแมทธิวมาสักพักเหมือนกับตอนนี่ที่ด้อมๆมองๆอยู่หลังเวที
“ฮิๆ” มันเผลอหัวเราะอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ใครน่ะ?”แมทสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิง
เขาหันไปมาเพื่อจะหาต้นเสียงนั้น
“นายหลอนไปเองมั้ง ไปนอนพักเถอะแมท”
ทิมพูดและลุกขึ้น “แต่ถ้านาย-หิวฉันเลี้ยงพิซซ่าให้ก็ได้”
“ดีฉันกำลังอยากกินอยู่เลย!”
เด็กชายเด้งตัวเองขึ้นมาและกอดเพื่อนของตน ขอหน้าฮาวายเอี้ยนนะ!” อารมณ์เขาเปลี่ยนทันที
หลังเลิกเรียนทิมพาเขาไปยังร้านพิซซ่าใกล้ๆโรงเรียน
แต่ทิมไม่ได้นำกระเป๋ามาด้วยเพราะเขาคิดว่าจะค้างคืนที่โรงเรียนในช่วงวันหยุดยาวต่อจากนี้
ซึ่งต่างจากแมทธิวที่อยากกลับไปนอนบ้านมากกว่า มันเป็นร้านพิซซ่าที่ราคาไม่แพงนัก
แต่อาหารที่นี่อร่อยมาก
ภายในตกแต่งอย่างดีด้วยการตกแต่งสไตล์โรมัน
ชวนให้นึกถึงยุคโบราณช่วงปลายนั้นเอง พวกเขานั่งโต๊ะริมหน้าต่างตัวท้ายสุด
“นายชอบพิซซ่าอย่างนั้นเหรอ?”ทิมถามพลางหยิบชิ้นพิซซ่าของตนก่อนจะพินิจดูมัน
ส่วนที่เป็นชีสของพิซซ่ายืดย้อยดูน่าทาน “ใช่แล้ว”เด็กชายผมสีดำพยักหน้า เขายิ้ม
เขามีความสุข และแมทธิวน่ารักเวลาเขามีความสุข อย่างน้อยก็ในความคิดของทิม
“นี่ คราวที่แล้วฉันไปบ้านนาย
วันนี้นายอยากมา...นอนค้างบ้างฉันไหม?”แมทเชิญ ทิมตอบทันที “ได้สิ!”
แต่แล้วก็โดนแมทธิวขัดจังหวะ “ในร่างแมวนะ คือลุงฉันค่อนข้างเข้มงวดน่ะ
ถ้านายมานอนค้าง เอ่อ...”เขาทำสีหน้าอึดอัดใจและกลืนน้ำลาย
“ก็ได้นะ ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร”
เมื่อทั้งคู่กินพิซซ่าเสร็จ
จ่ายเงินเสร็จก็ตรงไปยังห้องน้ำ มันสกปรกนิดหน่อย
ไฟกระพริบแปล๊บๆเหมือนควรเปลี่ยนหลอดไฟได้แล้ว
ยังดีที่อย่างน้อยห้องน้ำนี้ก็ไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนห้องน้ำชายทั่วไป พวกเขามองซ้าย
มองขวา “ไม่มีคน!” ทิมกระซิบกับแมทธิว “ก็ดี” เพื่อนเขาตอบ
แมทวิ่งเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่งตามด้วยทิม
ทั้งคู่ไม่ได้ล็อคประตู เพียงแค่เปิดไว้เพียงแง้มๆเท่านั้น
ไม่นนานนักแมทธิวก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมแมวอีกตัว คือทิมนั่นเอง
โชคดีที่วันนี้คนไม่ค่อยเยอะนัก จึงไม่ผิดสังเกตอะไร
เด็กชายอุ้มอีกฝ่ายจนมาถึงบ้าน
แน่นอนว่ากระเป๋าของเขาก็เช่นกัน
“นายนี่ตัวหนักกว่าที่ฉันคิดอีกนะ”เด็กชายบ่นพลางเปิดประตู
เจ้าเหมียวร้องง่าวๆเสียงดังเป็นเชิงด่ากลับ
“กลับมาพอดีเลยนะ”เสียงลุงของเขาดังขึ้น
ไอแซคเดินมาหยิบร่มพอดี “ลุงจะออกไปทำธุระข้างนอก อย่าทำอะไรแปลกๆล่ะกัน”เขากำชับ
เด็กชายพยักหน้า แต่เมื่ออีกฝ่ายเห็นสิ่งที่แมทอุ้มอยู่ก็สงสัย
“แมวจรจัดตัวนั้นนี่นา” ถึงจะอายุมากแล้วแต่ความจำเขายังดีอยู่นะ
“ครับเอ่อ...มันมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ผมเลยพามันเข้ามา
อยากเล่นด้วยน่ะ”แมทตอบเสียงอ่อยๆ เหมียว! ทิมทักชายวัยกลางคน
เขาพยายามทำตัวเป็นน้องเหมียวน่ารัก เห็นได้ชัดว่าคุณลุงคนนนี้ใจอ่อนกับแมว
“ก๊ได้ๆ แต่อย่าทำสกปรกนะ เอาละลุงไปก่อนล่ะ”
เขากล่าวก่อนจะเดินผ่านแมทธิวออกไปข้างนอกที่เมฆฝนเริ่มก่อตัว
มีลมพัดเย็นๆเข้ามาเล็กน้อย
แมทอุ้มมันมานั่งบนโซฟาข้างๆกับน้องสาวที่กำลังดูทีวี
เธอเรียนคนละโรงเรียนกับพี่ชาย แมทวางกระเป๋าไว้ข้างๆโซฟา เธอเบนความสนใจมาที่ทิม
“เจ้าทวิงเคิลนี่นา!” เธอร้อง “ใช่ มันมาหาพี่เองล่ะ
น่ารักใช่ไหม”
ในระหว่างนั้นแอนดริวก็เดินผ่านมาเห็นเด็กๆกำลังเล่นกับเจ้าเหมียว
แต่เขาได้กลิ่นบางสิ่ง
จริงอยู่ที่แมทธิวย่อมมีกลิ่นปีศาจอยู่บ้างเพราะเขาเป็นลูกครึ่ง
แต่ทว่ามีอีกกลิ่นที่ฉุนออกมาแรงกว่านั้น
ปีศาจเห็นทิมนอนคลุกตัวบนโซฟานิ่มๆนั่นก็เอ่ย “แมวตัวนี้มาจากไหนน่ะ?”
เจ้าปีศาจก็ลงนั่งบนโซฟาด้วย
เขาอุ้มมันขึ้นมา ทิมร้องแง้วเพราะตกใจเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายอีกฝ่าย
แอนดริวมองมัน กลิ่นมาจากเจ้านี่แน่นอนเขามั่นใจ
“มีอะไรรึเปล่าครับ?” แมทธิวพูด
เลิกคิ้วของตนขึ้นด้วยความสงสัย
“อ๋อ อืม...ไม่มีอะไรหรอก”
แคทลีนเรียกแอนดริวว่าคุณแอนดริว
เพราะเธอไม่รู้ว่าควรเรียกเขาว่าอะไร เธออึดอัดนิดหน่อยเพราะเธอรับไม่ได้กับการที่แมทธิวเป็นพี่ชายคนละพ่อ
แต่คนที่ลำบากใจกว่าน่าจะเป็นสองพ่อลูกนั่นแหละ
แอนดริวไม่ได้สนใจแมวมากนัก
อาจเป็นแค่ปีศาจแมวธรรมดาๆไร้พิษภัย เขาจึงปล่อยให้สองพี่น้องดูแลตัวเอง
ส่วนเขาก็เตรียมอาหารมื้อต่อไปให้แคทกับไอแซค
ความจริงทิมก็ได้กลิ่นของอีกฝ่ายเช่นกัน
คงเป็นปีศาจ อาจจะเป็นพ่อของแมทธิวก็ได้ เขาคิด
เจ้าปีศาจเตรียมเครื่องมือกับวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน
แต่ทันใดกลับมีกลิ่นบางอย่างฉุนขึ้นมา คราวนี้ไม่ใช่กลิ่นตัวของแมทหรือเจ้าแมว
แต่เป็นอย่างอื่น เป็นสิ่งลึกลับ เขาจำกลิ่นนี้ด้ กลิ่นของแม่มด
มันฟุ้งเข้ามาทางซอกดหน้าต่าง
เมื่อแอนดริวนึกได้จึงรีบล๊อคทุกประตูและหน้าต่างที่ทำได้
“คงไม่ใช่เธอหรอกนะ...”
หลังจากแคทกินข้าวเสร็จ เธอก็พูด
“ลุงยังไม่กลับบ้านเลย” น้ำเสียงดูกังวลเล็กน้อย
“เขาคงจัดการอะไรที่ทำงานจนดึกอีกแน่ๆ” พี่ชายของเธอตอบพลางเล่นกับแมวบนโซฟาเหมือนเดืม
เด็กชายเกาคางแมว (เพื่อนของเขา)
อย่างเบาๆ “เหมียวๆ”
แอนดริวกับเด็กๆดูหนังจนดึก
สองพี่น้องก็แยกย้ายกันไปนอน แต่เจ้าปีศาจกะจะรอไอแซคกลับ จริงเขานอนไม่หลับ
เขายังคิดเรื่องกลิ่นที่กำลังกวนใจตนอยู่ แต่ท่ามกลางความเงียบสงบยามค่ำคืนนั้นเอง
เสียงกุกๆกักๆก็ดังชขึ้นจากห้องซักรีด
เขาลุกขึ้นและค่อยๆเดินไปยังห้องดงกล่าวอย่างระมัดระวัง
เมื่อเปิดประตูก็มีหนูวิ่งสวนเขาไปอย่างรวดเร็ว แต่แอนดริวคว้ามันไว้ “โถ่
แกนั่นเอง” ว่าแล้วปีศาจก็เปิดหน้าต่างและโยนหนูตัวใหญ่สีเทาออกไปเบาๆ
ยังไม่ทันที่เขาจะปิดหน้าต่างก็มีควันหมอกสีดำฟุ้งเข้ามาใหญ่
เพียงพริบตาเดียวกลุ่มหมอกก็รวมตัวกันเป็นร่างหญิงสาวผมสีทองซีด งามหยดย้อย
“ไม่ได้เจอกันนานนะ
แอนดริว”
ความคิดเห็น