ตอนที่ 46 : +ลวงรัก 15+ ผี ที่ ‘ไม่ได้หมายความว่าผี’ [1] 150%
“แต่พี่ชอบน้องจีนนะคะ” ไม่รอให้ฉันพูดอะไรต่อ เขาก็กระชับมือที่ถือวิสาสะประสานเข้ากับมือของฉันแล้วพาเดินดูรอบ ๆ ห้องเก็บของต่อ
“คุณมันก็แค่คนโกหกปลิ่นปล้อน เชื่อไม่ได้”
“ยังไม่เชื่อตอนนี้ก็ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวพี่จะค่อย ๆ ทำให้น้องจีนเชื่อเอง”
“คิดว่าจีนจะเชื่อเหรอ ในเมื่อก่อนหน้านี่คุณสวมบทบาทโกหกกันตลอดเวลา”
“…”
“คุณเองก็เป็นเจ้านาย มาทำแบบนี้กับลูกน้องที่ทำงาน ใครมาเห็นเข้าคงจะไม่ดีหรอกมั้ง อีกอย่างจีนไม่ใช่คู่ขาคุณด้วย” ฉันพูดพร้อมกับพยายามแกะมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขา
“พี่ก็ไม่เคยมองน้องจีนเป็นคู่ขาอยู่แล้วนี่คะ” คนตรงหน้าดึงตัวฉันเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม ทั้งทั้งยังจ้องมองกันมาด้วยแววตาที่ฉันเองก็อธิบายไม่ถูก “พี่จริงจัง”
“...”
“พี่ไม่ได้พูดเล่นนะคะ”
แกร็ก! ในระหว่างที่ฉันกำลังประมวลผลกับน้ำเสียง ทั้งสีหน้า และแววตาของคนตรงหน้า เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงผู้คนมากมายที่เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในห้องนี้
เราทั้งคู่จึงรีบผละตัวออกจากกันโดยเร็ว และเพียงแค่ชั่วครู่ก็มีพนักงานเดินเข้ามายังล็อกเก็บของที่เราสองคนยืนอยู่ ก่อนที่เขาคนนั้นจะเอ่ยปากทักทายผู้เป็นเจ้านาย
“คุณภาคินสวัสดีครับ”
คนข้างกายฉันยิ้มรับก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาเขา “ขอโทษที่ผมเข้ามารบกวนพื้นที่ทำงานนะครับ พอดีพาเลขา ฯ คนใหม่มาเรียนรู้การทำงาน”
“อ่อ ไม่เป็นไรครับตามสบายเลยครับคุณภาคิน”
“ผมไม่กวนแล้วดีกว่า ทำงานต่อเถอะครับ ผมกับคุณจีนจะขึ้นไปทำงานแล้วเหมือนกัน” พูดจบเขาก็เดินผ่านหน้าชายคนนั้นไป ฉันจึงส่งยิ้มให้ผู้มาใหม่ตามมารยาท แล้วเดินตามคนเป็นเจ้านายไปในทันที
ฉันมองตามแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้า ทั้งยังคิดทบทวนคำพูดของเขาไม่หยุด
จริงจัง… จะบอกว่าคนอย่างเขามาคิดจริงจังกับฉันงั้นเหรอ
ที่พูดมามันเป็นเพียงลมปากของคนเจ้าเล่ห์อย่างเขา… หรือเป็นเรื่องจริงกันล่ะ
ฉันคนนี้ จะแน่ใจได้ยังไง
ฉันก้มมองนาฬิกาข้อมือด้วยความร้อนรน เพราะตอนนี้มันเลยเวลาเข้างานมาหลายนาทีแล้ว แต่ฉันคนนี้ยังไม่แม้แต่จะได้สแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้างานเลยด้วยซ้ำ
คิดได้แบบนั้นฉันก็หันไปตวัดสายตามองผู้ชายที่ยืนด้วยท่าทางสบาย ๆ อยู่ในลิฟต์ตัวเดียวกัน
มาก่อนเข้างานตั้งนาน แต่ที่สายน่ะ มันเพราะใครกันล่ะ?
“เป็นห่วงเรื่องเข้างานสายเหรอคะ” คนตรงหน้าเอ่ยถามทั้งยังส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้กันไม่หยุด
“คนเป็นเจ้าของบริษัทคงไม่ต้องมากังวลอะไรแบบนี้สินะคะ” ฉันพูดกระแทกเสียงกลับไป เห็นหน้าตามีความสุขของเขาแล้วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทุกที
“ไม่ต้องห่วงหรอกคะ น้องจีนสายเพราะพี่ พี่ไม่ตัดเงินเดือนอยู่แล้ว”
“ไม่ได้ห่วงเรื่องเงินเดือนสักหน่อย” ฉันสะบัดหน้าใส่เขาพร้อมกับเดินออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นเป้าหมาย ก่อนจะตรงดิ่งไปแสกนลายนิ้วมือด้วยความรวดเร็ว แล้วกุลีกุจอเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง
แต่ยังจะไม่ทันเข้าไปที่โต๊ะ ร่างสวยของใครบางคนที่ยืนกอดอกพิงโต๊ะทำงานของฉันก็ตวัดสายตาตำหนิใส่กัน
“สวัสดีค่ะ คุณเมย์” ฉันเอ่ยทักทายเธอก่อนตามมารยาท แม้ว่าลึก ๆ ในใจจะเหม็นขี้หน้าผู้หญิงคนนี้แทบตายเลยก็เถอะ
“มาทำงานแค่ไม่กี่วันก็สายซะแล้วเหรอ แบบนี้มันไร้ความรับผิดชอบนะคะ” เธอจิกกัดฉันด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ไม่ได้กลัวเข้างานสาย แต่เบื่ออะไรแบบนี้ไงล่ะ เพราะฉันรู้ว่าตัวเองถูกเพ่งเล็งอยู่ ขืนทำอะไรผิดก็เข้าทางยัยนี่นะสิ
“คุณจีนมาตั้งนานแล้วครับ ผมแค่พาไปเดินดูงานชั้นอื่น จะได้ไม่ต้องรบกวนเวลางานของคุณเมย์” เสียงนุ่มสุขุมดังขึ้น ก่อนที่ผู้เป็นเจ้านายจะโผล่มาพร้อมใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม เดินมาประกบอยู่ด้านหลังฉัน “ผมเห็นช่วงนี้คุณเมย์ทำงานหนัก เลยอาสาพาเธอไปดูงานเองครับ”
“จริง ๆ บอสไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะคะ มันเป็นหน้าที่เมย์ ยังไงเมย์ก็ต้องดูแลคุณจีนอยู่แล้ว”
“คุณจีนเองก็อยู่ในความปกครองของผมโดยตรงนะครับ ผมเองก็ต้องดูแลให้ดี” เขาตอบอย่างลื่นไหล “แต่ยังไงผมขอฝากคุณจีนไว้ด้วยก็แล้วกัน หวังว่าคุณเมย์จะสอนงานคุณจีนอย่างดีนะครับ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เมย์จะดูแลให้อย่างดี” พูดจบยัยเลขา ฯ ส่งยิ้มหวานให้เขา “บอสอยากรับกาแฟมั้ยคะ”
“ก็ดีครับ” ได้รับคำตอบจากบอสหนุ่มเธอก็เดินสวนออกไปทางห้องพักพนักงานทันที
ฉันมองตามคนตัวสูงข้างกายที่หันมองตามยัยเลขา ฯ นั่นไป พร้อมความรู้สึกคุกรุ่นในใจ
เล่นละครเก่งดีเหลือเกินนะ… ทั้งคู่เลย!
“จะไม่ขอบคุณหน่อยเหรอคะ”
“ขอบคุณเรื่องอะไรคะ” ฉันถามลอยหน้าลอยตา พร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง ก่อนจะกวาดสายตามองบนโต๊ะที่ตอนนี้มีแฟ้มเอกสารมากมายวางกองอยู่เต็มไปหมด
“พี่อุตส่าห์ช่วยน้องจีนจากการโดนตำหนินะคะ”
“แต่จีนก็สาย และโดนตำหนิก็เพราะคุณจริง ๆ นี่คะ ถ้าคุณไม่เอาเรื่องอื่นมาปะปนกับเรื่องงาน เราก็คงไม่สายหรอกค่ะ” ฉันไม่ใส่ใจคนตรงหน้าแล้วรีบจัดแจงเอกสารต่าง ๆ บนโต๊ะทำงานของตัวเองให้เป็นระเบียบ
ยัยเลขา ฯ นั่นต้องเอามากองไว้แน่นอน เตรียมตัวรับความวายป่วงได้เลยวันนี้
“ไม่ขอบคุณก็ไม่เป็นไรคะ” คุณภาคินเท้าแขนลงบนโต๊ะก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้ “อันที่จริง… พี่ว่าน้องจีนผูกผมก็น่ารักดีนะคะ แต่พี่ชอบตอนปล่อยผมมากกว่า”
ไม่พูดเปล่าคนตรงหน้ายังเอื้อมมือมาม้วนปลายผมฉันเล่น “วันนี้ไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันมั้ยคะ”
“ไม่ค่ะ” ฉันตอบกลับทันทีพร้อมกับขยับตัวออกอย่างนึกโมโหกับท่าทางเจ้าเล่ห์เจ้ากลของเขา
ท่าทีของเขามันทำให้ฉัน… ดูเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กำลังรอเวลาโดนงูพิษอย่างเขาเขมือบ
“แต่น้องจีนติดเลี้ยงข้าวพี่อยู่นะคะ ลืมแล้วเหรอ”
“จีนติดเลี้ยงภัคกี้ ไม่ใช่คุณ แล้วตอนนี้ภัคกี้สำหรับจีนก็ตายไปแล้วด้วย ไม่สิ…” ฉันตวัดตาขึ้นมองเขาอีกครั้ง พร้อมทั้งพูดเสียงแข็ง “จริง ๆ แล้วภัคกี้ ไม่เคยมีตัวตนเลยต่างหาก”
คนตรงหน้าจ้องตาฉันนิ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มเอกลักษณ์ประจำตัวเขาขึ้นมา พร้อมกับยืดตัวขึ้นเต็มความสูง
“บอสคะ กาแฟได้แล้วค่ะ” เสียงหวานที่เอ่ยขึ้น เรียกสายตาฉันกับคุณภาคินให้หันไปมอง ก่อนจะเห็นสายตาที่แสดงออกถึงความสงสัย และไม่ชอบใจของเธอคนนั้น “เมย์เตรียมรายงานหัวข้อการประชุมเย็นนี้ให้บอสแล้วนะคะ”
“ครับ” บอสหนุ่มเอ่ยตอบเธอก่อนจะหันกลับมาหาฉันแล้วพูดเสียงแผ่วเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน “จะภัคกี้ พี่ภัค หรือคุณภาคินก็มีตัวตนทั้งนั้นแหละค่ะ ดังนั้น… ยังไงน้องจีนก็ยังติดเลี้ยงข้าวพี่อยู่ดี เอาไว้พี่จะมาทวงใหม่นะคะ”
พูดจบเขาก็หมุนตัวเดินออกไป แต่ก้าวได้ไม่กี่ก้าวคนตรงหน้าก็หันกลับมาหาฉันอีกครั้ง “วันนี้เชิญคุณจีนเข้าร่วมประชุมด้วยนะครับ”
“แต่บอสคะ! คุณจีนเธอเพิ่งเข้ามาทำงาน” ได้ยินแบบนั้นยัยคุณเมย์ ก็ขัดบอสหนุ่มขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ แต่เขากลับไม่พูดอะไรแล้วเดินตรงเข้าห้องทำงานของตัวเองไปทันที
ยัยเลขา ฯ จอมเหยียดจึงหันมามองหน้าฉันด้วยความไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเดินตามหลังบอสของเธอเข้าไป
เห้อ~ คิดถูกคิดผิดที่มาทำงานที่นี่วะเนี่ย! คืนนั้นไม่น่าตกปากรับคำออกไปบาร์เกย์กับไอ้กายเลย ไม่อย่างนั้นชีวิตฉันคงจะสงบสุขกว่านี้
แล้วก็… ไม่ต้องมาตกหลุมรักคนอันตรายอย่างนี้ด้วย!
“เธอต้องอ่าน และสรุปเอกสารพวกนี้ให้หมดภายในวันนี้”
“ภายในวันนี้เหรอคะ” ฉันถามคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้สอนงานตัวเองพร้อมกับมองแฟ้มงานเกือบสิบแฟ้มตรงหน้า
“ก็ใช่นะสิ คงไม่ได้คิดว่าจะมานั่งเฉย ๆ หรอกใช่มั้ย” เธอพูดพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงบนโต๊ะข้าง ๆ ฉัน “อย่าคิดว่าบอสให้สนใจเธอแล้วจะทำตัวสบาย ๆ ก็ได้นะ”
“จีนไม่ได้คิดจะนั่งเฉย ๆ อยู่แล้วค่ะ แล้วคุณภาคินก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรจีนด้วย” ฉันพูดตัดปัญหา “แต่ที่จีนแย้ง เพราะคุณเมย์เพิ่งใช้ให้จีนเดินเอกสารกับแผนกอื่นตลอดช่วงเช้า แล้วช่วงบ่ายจะให้จีนมานั่งสรุปแฟ้มตรงหน้านี้ทั้งหมด จีนคงทำไม่ทันค่ะ”
“หรือเธออยากจะเข้าประชุมทั้งที่ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับงานของบริษัทเลยล่ะ”
ยัยนี่ไม่พอใจที่ฉันได้เข้าร่วมประชุมบริษัทจริง ๆ สินะ…
“ถ้าอย่างนั้นคุณเมย์แจ้งจีนได้มั้ยคะ ว่าวันนี้เราจะประชุมเรื่องอะไรบ้าง จีนจะได้ทำความเข้าใจหัวข้อพวกนั้นก่อน”
“ฉันไม่ได้มีหน้าที่มาแจ้งหัวข้อการประชุมกับเธอนะ ถ้าจะมาทำงานตำแหน่งที่ต้องดูแลเจ้าของบริษัท แต่ไม่รู้แม้กระทั้งหัวข้อการประชุมแบบนี้ เธอคงทำงานนี้ได้ไม่นานหรอก”
“ที่คุณพูดมันก็ถูกค่ะ แต่มันจะถูกในกรณีที่จีนทำงานที่นี่มานานแล้ว ใม่ใช่เวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์” ฉันเถียงกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ ยัยนี่มันจงใจเล่นงานกันชัด ๆ
“เหอะ! อีโก้สูงอย่างที่ฉันพูดไว้ไม่มีผิด ถ้าอยากรู้เธอก็ถามคนที่เข้าประชุมเอาเองก็แล้วกัน เก่งนักนี่” พูดจบเธอก็สะบัดหน้าใส่ก่อนจะหันไปทำงานของตัวเองต่อทันที
ไอ้… คิดว่าตัวเองเป็นคู่ขาประธานแล้วจะถือสิทธิ์ยังไงก็ได้หรือไง!
ฉันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะคว้าแฟ้มงานบนโต๊ะมาเปิดอ่านทำความเข้าใจ
ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าฉันควรจะรู้ทุกอย่างในบริษัท เพราะตำแหน่งหน้าที่มันก็แทบจะทำงานเป็นตัวแทนประธานอยู่แล้ว แต่จะให้ทำทันภายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี่งั้นเหรอ แบบนั้นมันก็เกินคนไปหน่อยแล้วมั้ง
ติ้ง!
ในระหว่างที่ฉันกำลังหน้างิ่วคิ้วขมวดเปิดดูเอกสารอยู่นั้น โทรศัพท์บนโต๊ะก็สั่นเตือนว่ามีคนส่งขอความเข้ามา
และเมื่อคว้าขึ้นมาดูฉันก็ต้องขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า ก่อนจะเหลือบตามองคนที่นั่งอยู่ในห้องตรงกันข้ามกัน ที่ตอนนี้เปิดมู่ลี่ภายในห้องขึ้นทำให้ฉันได้สบตากับผู้ชายที่กำลังยกยิ้มให้กันอยู่
PK. ส่งข้อความถึงคุณ
ฉันจำใจกดเข้าไปอ่านข้อความก่อนจะต้องเบิกตาขึ้นเล็กน้อย เมื่อพบว่าคนอีกฝั่งนึงของบทสนทนาได้ส่งหัวข้อการประชุมในวันนี้มาให้
PK.: อย่าทำหน้าเครียดสิคะ เดี๋ยวแก่เร็วนะ
ฉันอ่านข้อความต่อไปของเขาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งยังไม่เข้าใจ ว่าเขาจะส่งหัวข้อการประชุมมาให้ฉันทำไม เขาไม่จำเป็นจะต้องทำแบบนี้เลยสักนิด…
PK.: สู้ ๆ นะคะ พี่รออ่านสรุปประชุมจากน้องจีนวันนี้นะ
ฉันขบริมฝีปากแน่นกับข้อความล่าสุดของอีกคน ก่อนจะปิดโทรศัพท์แล้วคว่ำหน้าจอลงเหมือนไม่ต้องการจะรับรู้ แล้วเก็บข้อความต่าง ๆ ของเขามาทำลายสมาธิตัวเองอีก
จำไว้จีน… อย่าใจอ่อน อย่าเป็นคนโง่ให้ผู้ชายคนนั้นปั่นหัวเล่นอีกเด็ดขาด!
TALK WITH ME
อัปถี่ ๆ เลยเนอะ เย่ะ! ยัยน้อนสมเป็นเด็กยุคใหม่ หนูกล้าเถียงกล้าแสดงออกมากรู๊กกก แล้วคุณบอสนี่ยังไง เปิดมู่ลี่แอบส่องเลขา ฯ คนใหม่หรือเปล่าน้าาาา
อ่านจบแล้วเม้น ๆ ให้เขาด้วยนะช่วงนี้คอมเม้นท์เหงามัก ๆ ♥
ใครอยากอ่านตะปอยความแซ่บของฝีปากยัยน้อง ไป จิ้มดูได้ที่เพจ MINNIK นะคะ ขอฝากเพจหน่อยไปกดไลก์กันได้น้า ♥
.
ป.ล. ใครเล่นทวิตไปคุยกันในแท็กได้นะคะ วันดีคืนดีมินนิคก็ไปสปอยในนั้นแหละ >,<
MINNIK
มีคำผิดบอกได้นะคะ เพราะแต่งสดลงสดงับ
อย่าลืมกด ♥ และคอมเมนต์เป็นกำลังใจดี ๆ ใจเรานะคะ
1 เมนต์ = สิบล้านกำลังใจ
ร๊ากกกรีดเดอร์สองล้านเท่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เข้ามาอ่านทุกวัน รออัพทุกวันน้าไรท์ ชอบนิยายไรท์ มันฮีลใจดี มันมุ้งมิ้งดีอะชอบบบ สู้ๆค่ะไรท์ อัพรัวๆมา รีดเดอร์ก็อ่านรัวๆได้ไม่ติดค่าาา🤟
ดูอิพี่ภัคนี่จะคลั่งรักน้องจีนใช่มั้ยยยยยย
ดูทรงแล้ว น้องจีนแพ้(แพ้ใจตัวเอง)หลุดลุ่ยเลยเถอะ555...หมด..หมดกัน ป้อมพังทะลายหมดแล้ว
ง้อทุกทางเลยจ้าาาา