ตอนที่ 4 : +ลวงรัก 03+ ความเข้าใจคือความ ‘ไม่เข้าใจ’ [100%]
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ยคะ” ภัคกี้ที่คว้าเอวฉันเอาไว้เป็นการช่วยพยุงกระซิบถามข้างหู
“อือ ๆ ดี พาไปหน่อย ไอ้กายเมาหลับไปแล้ว” ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับเขา สภาพฉันตอนนี้คงเดินไปเองไม่ไหวหรอก ไม่งั้นอาจจะกลับมาไม่ครบ 32 หรือไม่ก็คงไปเดินชนใครเขาจนเกิดเรื่องขึ้นมากกว่า
ภัคกี้ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ดันตัวฉันขึ้นแล้วโอบเอวฉันไว้แน่นพาเดินไปทางห้องน้ำด้านในทันที
“ภัคกี้เข้ามาได้ไงนี่ห้องน้ำผู้หญิงนะ ออกไปรอข้างนอกสิ!” ฉันเริ่มดันตัวภัคกี้ออกเมื่อเห็นว่าเขาเดินประคองฉันเข้ามาจนถึงด้านในห้องน้ำ
“ที่นี่ไม่มีห้องน้ำหญิงหรอกค่ะน้องจีน เดี๋ยวพี่ยืนรอน้องจีนตรงนี้นะคะ” เขาส่งยิ้มจนตาหยีก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำที่แบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ เพื่อให้ฉันเดินเข้าไปด้านในได้สะดวก
“บริการดีถึงที่เลยนะ”
“สำหรับน้องจีนคนเดียวแหละค่ะ” ฉันหันกลับไปส่งยิ้มตอบเขาก่อนจะปิดประตูห้องน้ำลง
ใครจะเชื่อ... ท่าทางร้ายไม่เบาแบบนี้ ถ้าเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงละก็ คน ๆ นี้ น่ากลัวจนไม่น่าเข้าไปพัวพันด้วยเลยสักนิด
ดีนะ… ที่เขาไม่ใช่
หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จฉันก็เปิดประตูออกมา ทว่ากลับต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นภัคกี้กำลังยืนโอบตัวชายร่างเล็กอีกคนอยู่
โห้~ ฉันก็ว่าฉันเขาไปไม่นานนะ ระยะเวลาแค่แป๊บเดียว ทำไมเขาถึงได้ดึงผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ให้มาตกหลุมเสน่ห์ของตัวเองได้แบบนี้
“ขอโทษครับ พอดีพื้นมันลื่น” ผู้ชายร่างเล็กคนนั้นรีบก้มหัวขอโทษก่อนจะยกยิ้มหวาน ทั้งยังแอบส่งสายตาบางอย่างให้ภัคกี้อย่างเปิดเผยอีกต่างหาก
ฮึ้ย! ไม่ได้ดิ ฉันถอนหายใจพร้อมมองบุคคลตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ บอกแล้วไงว่าวันนี้ภัคกี้ต้องอยู่ปลอบใจฉันก่อน! คิดจะควงคนอื่นแล้วทิ้งให้ฉันกินเหล้าคนเดียวด้วยใจที่ห่อเหี่ยวจากการโดนแฟนนอกใจเหรอ
แต่ว่า... ม้าเคยขู่โกว่าถ้าเอาตัวเองไปขวางทางรักของใครจะเป็นบาปตกนรกไปปีนต้นงิ้วนะ
แบบนั้นต้องเจ็บแน่เลยอะ ไม่อยากปีนเลย เหนื่อย ให้โกมันปีนต้นงิ้วคนเดียวเถอะ!
งั้นฉันไม่ขวางทางรักของพวกเขาดีกว่า แอบเดินเนียน ๆ ออกไปก็ได้วะ
“ไม่เป็นไรครับ” ภัคกี้ยกยิ้มตอบผู้ชายตรงหน้าก่อนจะเหลือบมาเห็นฉันที่ทำท่าจะเดินย่องออกจากห้องน้ำพอดี “น้องจีนทำธุระเสร็จแล้วเหรอคะ”
“อ... อือ” ในเมื่อเขาเห็นแล้ว ฉันจึงทำเนียนเป็นแย้มยิ้มกว้างทั้งยังส่งสายตาหยอกล้อคนตรงหน้า แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาเข้าไปหา ภัคกี้กลับเป็นฝ่ายเดินเข้ามาประชิดตัวฉันเข้าซะก่อน
“เดินดี ๆ นะคะ พื้นมันลื่นเดี๋ยวจะล้มเอา”
“ไม่เป็นไรจีนเดินได้” ฉันรีบดันตัวภัคกี้ออก เมื่อเห็นสายตาของผู้ชายร่างบางอีกคนกำลังจ้องมองมาที่เราทั้งคู่ สายตาเขาส่อประกายที่แสดงออกถึงความเสียดาย และผิดหวังเล็กน้อยกับภาพที่เห็น ก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวเดินออกไปจากห้องน้ำทันที “เอ้ย! เขาไปแล้วนะภัคกี้”
“หืม? ใครไปคะ”
“ก็ผู้ชายคนนั้นไง ภัคกี้เข้ามาประคองจีนจนเขาเข้าใจผิดเลยเนี่ย เดี๋ยวก็อดสานสัมพันธ์ต่อหรอก”
“ไหนเมื่อกี้บอกว่าคืนนี้จะให้พี่อยู่กับน้องจีนไงคะ ยังไม่ทันไรก็ไล่พี่ซะแล้วเหรอ”
“เปล่า แต่จีนแค่ไม่อยากปีนต้นงิ้ว” เมื่อเห็นคนตรงหน้าขมวดคิ้วมุ่นกับสิ่งที่ได้ยิน ฉันก็พูดขยายความต่อ “ม้าเคยบอกโกว่า ถ้าไปขัดขวางความรักของคนอื่นตายไปจะต้องปีนต้นงิ้ว”
ทันทีที่ฟังสิ่งที่หลุดออกจากปากฉัน คนตรงหน้าก็ถึงกับหัวเราะพรืดจนตัวโยน ถึงขนาดที่ยกมือขางนึงขึ้นกุมท้องตัวเองที่ยังขำไม่หยุด จนฉันต้องถามออกไปด้วยความไม่ชอบใจ “ตลกเหรอภัคกี้”
“ขอโทษค่ะ แต่พี่ขำจริง ๆ ไม่คิดว่าน้องจีนจะมีความเชื่ออะไรพวกนี้”
“ไม่ได้เชื่อสักหน่อย” เมื่อรู้สึกเสียหน้ากับการโดนเขาขำใส่ขนาดนั้นฉันก็สะบัดไหล่ที่มือมือใหญ่ของเขาเกาะกุมอยู่ออกอย่างนึกโมโห “ตกนรกไปภัคกี้ต้องปีนต้นงิ้วแน่”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ไม่ซีเรียส ปีนต้นงิ้วก็ท่าท้ายดีนะคะ” เขายิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกยืนรอฉันที่กำลังล้างมืออยู่หน้ากระจก
“ไม่ถูกสเปกเหรอ” ฉันถามออกไปเมื่อนึกถึงผู้ชายร่างเล็กที่เดินออกไปเมื่อครู่
“คงงั้นมั้งคะ” เขายักไหล่อย่างขอไปทีทำให้ฉันฉุกคิดขึ้นมาว่าท่าทางของเขาที่โอบผู้ชายคนนั้นมันสุดแสนจะเท่
ทั้ง ๆ ที่ตอนนั่งไขว้ห้างกระดกเหล้า เขาดูเหมือนราชินีสวย ๆ ที่นั่งบนบังลังค์ และห้อมล้อมไปด้วยชายหนุ่มหน้าตาดีที่พร้อมจะถวายตัวให้ควีนอย่างเขาเชยชม
ไม่อยากจะเชื่อ จากราชินีสวย ๆ เพียงพลิบตาเดียวก็กลับกลายเป็นราชาแทนซะงั้น
“ถามจริงนะภัคกี้ พี่เป็นรุกเหรอ” เมื่อหาคำตอบให้ความสงสัยไม่ได้ ฉันจึงเลือกที่จะถามออกไปอย่างไร้มารยาท โดยไม่มีความยับยั้งชั่งใจตัวเองเลยสักนิด
ฉันในตอนนี้มีแต่ความคิดที่ว่า... อยากทำอะไรก็ทำ อยากพูดอะไรก็พูด ขี้เกียจคิดเยอะแล้ว
ภัคกี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่ใบหน้าเคลือบรอยยิ้มตลอดเวลาของเขา ก็ขยับริมฝีปากตอบฉันด้วยท่าทางสบาย ๆ “พี่ไม่เคยเป็นรับหรอกค่ะ”
“ไม่อยากจะเชื่อ เห็นหน้าสวย ๆ แบบนี้ จีนนึกว่าพี่จะรับซะอีก”
“พี่รับให้ใครไม่ได้หรอกค่ะ ว่าแต่น้องจีนทำธุระเสร็จหรือยังคะ” เมื่อเห็นว่าฉันพยักหน้า ผู้ชายด้านหลังก็เดินเข้ามาใกล้ แล้วเอ่ยปากชวนฉันกลับโต๊ะทันที “ไปที่โต๊ะกันเถอะ เดี๋ยวกายจะเป็นห่วงเอานะ”
“มันไม่เป็นห่วงจีนหรอก มันหลับไปแล้ว” แม้จะตอบเขาไปแบบนั้น แต่ฉันก็เอื้อมมือไปคล้องแขนผู้ชายหน้าสวยเดินออกจากห้องน้ำไปอยู่ดี
และทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะ ฉันก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจอีกครั้งที่เห็นว่าโซฟาตัวยาวที่เราเคยนั่งด้วยกันทั้ง 4 คน ในตอนนี้มันกลับว่างเปล่า
“มันไปห้องน้ำมั้ง” ฉันที่ไม่ได้คิดอะไรมากก็เดินเข้าไปทรุดตัวนั่งลงที่เดิมแล้วหยิบแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นมากระดกมันให้ของเหลวในแก้วไหลผ่านลำคอลงไปด้วยความคึกคะนอง
กินให้เมาปลิ้นไปเลย!
“แต่ที่ห้องน้ำพี่ไม่เห็นใครเลยนะคะ”
“มันอาจจะมีหลายห้องน้ำก็ได้” ฉันตอบก่อนจะยัดแก้วเหล้าใส่มือเขา แล้วเชิญชวนให้ภัคกี้ชนแก้วกับตัวเองต่อ
“ที่นี่มีห้องน้ำที่เดียวค่ะ”
“รู้ดีจังเลยนะ ภัคกี้มาบ่อยละสิ”
“ก็บ่อยอยู่นะคะ”
“ช่างเถอะ เดี๋ยวมันก็มาเอง เรามาชนแก้วกันดีกว่า เร็ว ๆ”
“ถึงน้องจีนจะเมาแล้วน่ารัก แต่เมาเกินไปก็ไม่ดีนะคะ”
“อย่าขัดใจเซ~ จีนขอวันนึง~ วันนี้ไม่กลับบ้าน เตี่ยไม่บ่น ต้องเต็มที่นะ มาร้านเหล้าจะไม่เมาได้ไง” เป็นเพราะว่าฉันยังดึงดันไม่เลิกสุดท้ายเขาเลยปล่อยเลยตามเลยด้วยกันนั่งดื่มกับฉันไปเรื่อย ๆ จนไม่รู้ว่ามันผ่านไปกี่นาทีแล้ว และก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองดื่มไปมากขนาดนี้
แต่สติฉันในตอนนี้มันเหลือน้อยเต็มที จนต้องเอนหลังพิงกับโซฟาตัวยาว พร้อมตาที่เริ่มปรือลงเรื่อย ๆ
“พี่ว่า 2 คนนั้นไปนานแล้วนะคะ น้องจีนโทรหาเพื่อนหน่อยดีมั้ย”
“ภัคกี้โทรซิจีนขี้เกียจแล้ว~” ฉันตอบไปเสียงเอื่อย ทั้งยังทิ้งแขนไว้ข้างตัวแล้วมองตรงไปด้านหน้าอย่างเลื่อนลอย หนังตาของฉันมันหนังอึ้งจนแทบจะทนไม่ไหว
อยากนอนจัง...
บ่นในใจได้ไม่นานภัคกี้ก็ดันหัวฉันให้ซบไหล่เขาเบา ๆ ก่อนจะหันไปหลบมุมคุยโทรศัพท์อยู่ครู่นึงก็หันกลับมากระซิบบอกฉัน “2 คนนั้นกลับไปแล้วค่ะ”
“อืม~ ช่างมัน”
“ช่างมันได้ไงค่ะ แบบนี้น้องจีนจะกลับยังไง”
“กลับกับกายไง~ นัดแล้ว~”
“กายกลับแล้วไงคะ”
“อ้าว~” ฉันเคลื่อนสายตาขึ้นมามองผู้ชายข้างกายที่ก้มลงมาคุยกับฉันในระยะประชิด “งั้นภัคกี้พาจีนไปส่งห้องกายหน่อย~”
“ตอนนี้น้องกายอยู่ห้องไอ้มาร์คค่ะ เพื่อนเมาหลับไป ไอ้มาร์คก็เลยพากลับช่วงที่น้องจีนไปเข้าห้องน้ำไงค่ะ มันฝากมาขอโทษด้วยนะที่มันลืมน้องจีน”
“ไม่ให้อภัยหรอก เดี๋ยวจีนจะเช็กบิลทีหลังให้หนักเลย ลืมได้ไงบ้าหรือเปล่า”
“...”
“จีนคนนะไม่ใช่แมว!” ฉันตะโกนเสียงดังลั่นอีกครั้ง ไอ้บ้าพี่มาร์คลืมกันได้ลงคอ ไอ้กายก็เหมือนกันใครใช้ให้หลับวะ! ไหนบอกว่าจะพากลับไงเมาได้เต็มที่ โมโห!
“เหรอคะ พี่นึกว่าแมว อ้อนเชียว” ภัคกี้พูดพร้อมกับยกมือขึ้นโอบฉันที่ซุกตัวเขาหาเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจ รู้แค่ตอนนี้ง่วงแล้ว แล้วภัคกี้ ก็เป็นหมอนที่นุ่มดี... “บ้านน้องจีนอยู่ไหนคะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เอาไม่กลับบ้าน” ฉันบึนปากด้วยความไม่ชอบใจกับคำพูดที่หลุดออกจากปากคนตรงหน้า
“ถ้าไม่กลับแล้วน้องจีนจะไปไหนล่ะคะ”
“ห้องกายไง”
“แต่กายไม่อยู่ห้องคะ น้องจีนมีกุญแจสำรองหรือเปล่า”
“ไม่มีอะ” ฉันตอบออกไปพร้อมกันภัคกี้ที่ค่อย ๆ พยุงฉันให้ลุกขึ้นยืน แต่ก็เท่านั้นสุดท้ายฉันก็ไหลเข้าหาหน้าอกหนาของเขาอีกรอบอยู่ดี
LOADING...100%
TALK WITH ME
เมามายไร้สติของจริง พูดวกไปวนมา 55555555555 พี่บอกแล้ว น้องก็ยังจะถามอีก แล้วเอาไงจะกลับยังไงค่าาา
ป.ล. ใครเล่นทวิตไปคุยกันในแท็กได้นะคะ วันดีคืนดีมินนิคก็ไปสปอยในนั้นแหละ >,<
MINNIK
มีคำผิดบอกได้นะคะ เพราะแต่งสดลงสดงับ
อย่าลืมกด ♥ และคอมเมนต์เป็นกำลังใจดี ๆ ใจเรานะคะ
1 เมนต์ = สิบล้านกำลังใจ
ร๊ากกกรีดเดอร์สองล้านเท่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฝากแก้คำว่า ท้าทาย นิดนึงค่า
เจิมมมมมมมมม