ตอนที่ 38 : +ลวงรัก 11+ ชอบ ที่ ‘ไม่ได้ชอบ’ แบบนั้น [1] 150%
“เอ้า! ฉลอง!” โกที่กำลังเมาได้ที่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนกับไอ้ซะไม่หยุด ในขณะที่วงหมูกระทะได้แปรเปลี่ยนเป็นวงเหล้าอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หลังอาคารพานิชย์สามชั้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
“โก ซะ อย่างเสียงดังนักดิวะ เดี๋ยวก็ยึดเหล้าเลยนี่” ฉันห้ามปรามคนทั้งคู่
อย่างที่บอกแม้ว่าแถวนี้จะเป็นพวกสำนักงานซะส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนอยู่สักหน่อย เสียงดังรบกวนมาก ๆ เข้า เดี๋ยวเขาก็แจ้งตำรวจจับให้หรอก
“อะไรวะ โกก็แค่ดีใจที่น้องสาวคนเดียวของโกได้งานตามที่หวังไง แบบนี้มันต้องฉลองดิหมวย มา ๆ มาชนแก้วกับโก เดี๋ยวหมวยเมาหลับก็ไม่เป็นไร ตัวแค่นี้เดี๋ยวโกอุ้มขึ้นห้องเอง”
“ไม่ต้องเลย โกห่วงตัวเองเถอะ” ฉันสะบัดแขนพี่ชายที่โอบรอบคอดึงเข้าหาตัวเบา ๆ ด้วยความมั่นไส้ “ทีวันนั้นยังสมน้ำหน้าจีนอยู่เลย ที่สร้างเรื่องจนโดนไล่ออกนอกห้องสัมภาษณ์”
“วันนั้นก็วันนั้น วันนี้ก็วันนี้ดิหมวย วู้!” ฉันผลักหน้าโกให้หันไปคุยกับไอ้ซะอย่างรำคาญ กินเหล้าอย่างกับกินน้ำ ขี้เมาชิบหายเลยไอ้โกบ้า สุดท้ายเดี๋ยวก็เมานอนกอดกับไอ้ซะอยู่บนแคร่นี่แหละ ทำมาพูดว่าจะอุ้มน้อง
ไม่เห็นจะคอแข็งเหมือนภัคกี้เลย ไม่ได้เรื่อง
!!! แล้วฉันไปนึกถึงภัคกี้ทำไมวะ ชักจะไม่ไหวแล้วนะไอ้จีน ตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบเขาขึ้นมานี่มันยังไง เมื่อเช้ายังมองหน้าไอ้ซะเป็นหน้าภัคกี้เฉยเลย น่าอับอายที่สุด
แต่ฉันนี่ก็นะ ยังไงกันแน่วะ ผู้ชายมี่เป็นร้อย ๆ ไม่รู้สึกอะไร อยู่ ๆ ก็ดันไปชอบเกย์ขึ้นมา!
แห้วตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย! โคตรแย่… แต่ถามว่าตอนนี้ห้ามใจไม่ให้ชอบได้มั้ย ก็ตอบเลยว่าไม่ได้แล้ว เข้าใจอารมณ์ที่ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้นาน ๆ มั้ย
จะบรรยายยังไงดีวะ อยู่ ๆ เลือดมันก็วิ่งไปทั่วร่างกาย แถมโลกยังเป็นสีชมพูไปหมด อยากเจอเขาหน้าฉิบหายเลย
แถมจูบครั้งที่สองเมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันยังตั้งใจจูบด้วยความรู้สึกที่… มันไม่ได้เป็นการจูบเพื่อขอบคุณหรืออะไรที่วันนั้นเขาไปเที่ยวด้วยกันหรอกนะ
จริง ๆ แล้วฉันไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกของตัวเองออกไปยังไง ก็เลย... จูบกับภัคกี้เพื่อปิดปากตัวเองมันซะเลย
ทั้งที่เป็นคนรุกไปจูบเขาเองแท้ ๆ แต่สัมผัสนั้นกลับไม่จางหายไปเลย ยิ่งคิดหน้าก็ยิ่งร้อนจนเหมือนโดนไอน้ำเวลาเปิดฝาหม้อนึงซาลาเปาซะอย่างนั้น
“เห้ย!” ฉันสะดุ้งโหยง เมื่ออยู่ ไอ้กายก็เอาแก้วเหล้าเย็น ๆ มาแตะที่ข้างแก้ม
“ฉลองเสร็จแล้วก็มาให้กูสัมภาษณ์ซะดี ๆ”
“อะไร?” ฉันทำไขสือพร้อมรับแก้วเหล้าในมือไอ้กายมาจิบ “ถ้าเรื่องสัมภาษณ์งานก็อย่างที่บอกไง กูไปสร้างเรื่อง ยัยเลขาไม่ยอมสัมภาษณ์เพราะมีเด็กเส้นอยู่แล้ว แต่พออยู่ ๆ CEO ดูโปรไฟล์กูละดันชอบเลยรับเข้าทำงาน”
“ไม่ใช่เรื่องนี้ อย่ามาทำไขสือนะมึง” ไอ้กายถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายในความหน้ามึนของฉัน “แต่ว่าก็ว่าเถอะ รับมึงเข้าทำงานทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สัมภาษณ์มึงเนี่ยอะนะ มีบริษัทที่ไหนเขาทำกันวะ”
“ก็บริษัทนี้แหละ นี่มึงไม่รู้หรือไง บางที่เขาก็อยากสัมภาษณ์เพื่อดูโหวงเฮงของคนที่จะทำงานด้วยนะ ว่าโหวงเฮงมันได้ มันช่วยเสริมกันมั้ย กูอาจจะโหวงเฮงดีตรงตามที่เข้าต้องการไง ก็เลยเลือกกู”
“มีแบบนี้ด้วยเหรอวะ”
“มี! ชนาดตอนจะรับไอ้ซะเข้าทำงานเตี่ยกับม้ายังดูโหวงเฮงมันตั้งนานเลย ว่าดีมั้ย ขยันมั้ย จะอยู่ทำงานด้วยกันนาน ๆ มั้ย”
“บ้านมึงทำร้านขายซาลาเปามั้ยไอ้จีน มันไม่ต้องใช้ความรู้อะไรมาก แต่พวกบริษัทใหญ่ ๆ พวกนี้ เขาไม่ดูโปรไฟล์เลยเหรอวะ”
“โปรไฟล์กูก็ไม่ได้แย่มั้ย!” ฉันถึงกับกระแทกเสียงใส่ไอ้เพื่อนตัวดี “อะไรของมึงเนี่ย ไม่ยินดีกับกูหรือไง”
“ก็เปล่า กูแค่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ ไม่ใช่ว่า... CEO นี่เป็นพวกเฒ่าหัวงูหรอกใช่มั้ย อีจีนระวังไว้นะมึง ระวังจะได้ผัวแก่คราวพ่อ”
“ไม่ใช่ กูเคยเจอเชาแล้ว ยังหนุ่มยังแน่นแถมยังฮอตไม่เบาด้วย” ฉันตอบมันด้วยท่าทีสบาย ๆ ท่าทางจะร้ายไม่เบาเลยนะ ไอ้คุณ CEO ที่ว่านั่น แต่ดูจากที่คั่วกับยัยเลขาแล้ว สเป็กคงไม่ใช่ผู้หญิงแบบฉันหรอก แค่นี้ก็น่าเบาใจไปเปราะนึง
“หล่อมั้ย?”
“ก็ได้ยินมาว่าหล่อนะ คือ... กูเคยเจอเขาแต่ไม่ได้เห็นหน้าชัด ๆ อ่ะ” ฉันพูดขยายคำตอบเมื่อเห็นสีหน้ามึนงงของไอ้กาย
“งั้นมึงก็จับเลยดิ ถ้ามึงมีแฟนใหม่โปรไฟล์เลิศขนาดนี้ ไอ้โอ๊ตไม่กล้าตามตอแยมึงหรอก”
“ไม่เอาอะ! กูไม่ชอบผู้ชายแบบนั้น แค่คิดก็ขยาดแล้ว” ฉันพูดพร้อมกับลูบแขนตัวเองไปมา อย่างรู้สึกขนลุกเมื่อนึกถึงภาพไอ้คุณ CEO พลอดรักกับยัยเลขานั่น
ไม่เบาแน่ ๆ อ่ะผู้ชายคนนั้น...
“ไม่ชอบผู้ชายแบบนี้ หรือเพราะว่ามึงมีคนที่ชอบกันแน่ มึงบอกมาเลยนะว่ามึงไปตกหลุมรักเกย์ที่ไหน”
ไอ้กายหรี่ตามองฉันอย่างคนจับผิด “อย่าบอกนะว่ามึงไปปะกับเกย์ที่ร้าน JUST คืนนั้นอ่ะ ตอนไหนวะ กูเห็นมึงก็นั่งแต่ที่โต๊ะนี่หว่า”
“อะ... อะไรเล่า ไม่เกี่ยวสักหน่อย แล้วใครจะไปชอบเกย์วะ ก็รู้อยู่แล้วว่าเขาชอบผู้ชายด้วยกัน ใครไปชอบอีกก็บ้าแล้ว”
เออใช่! ฉันนี่แหละคนบ้า
“ก็คืนนั้นมึงถามกูอ่ะ ว่าเกย์มีสิทธิ์จะมาชอบผู้หญิงอย่างมึงมั้ย”
“กูแค่อินนิยายมั้ย นิยายที่กูอ่านนางเอกมันชอบเกย์อ่ะ กูว่ามันแปลกดีก็เลยถามมึงไง” ฉันเหล่ตามองปฏิกิริยาของไอ้กายเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่ามันมีท่าทีที่อ่อนลงแล้วฉันจึงหันไปยิ่งคำถามต่อทันที “แล้วมึงว่าไง มึงว่าเกย์มีสิทธิ์จะชอบผู้หญิงป่ะ”
“ไม่เห็นจะยาก ขึ้นชื่อว่าเกย์ก็ต้องชอบผู้ชายที่เป็นเพศเดียวกันอยู่แล้วมั้ย มันจะไปชอบผู้หญิงได้ไง”
“แล้วแบบ... มันจะไม่มีโอกาสเลยเหรอวะ สัก 1 เปอร์เซ็นต์”
“ก็ยากนะ กูแทบไม่เคยเจอเลย คนเป็นเกย์ที่กลับไปชอบผู้หญิง ยกเว้นก็แต่ว่า... เขาจะเป็นไบเซ็กชวล”
“ไบเซ็กชวล หมายถึงคนที่ชอบทั้งผู้หญิง และผู้ชายเหรอ”
“อือ ถ้าเป็นกรณีนั้นกูก็เคยเห็นอยู่ เพราะไบบางคนก็เหมือยเกย์มาก”
“ยังไงวะ”
“คือยังไงดีอ่ะ คนเป็นไบ มันไม่จำเป็นจะต้องชอบผู้หญิง 50% หรือผู้ชาย 50% ไง บางคนคบผู้ชายมาตลอดชีวิต สุดท้ายอาจจะลงเอยกับผู้หญิงก็ได้” ไอ้กายยกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบนิดนึงก่อนจะพูดต่อ “บางคนอาจจะชอบผู้ชาย 99% แล้วชอบผู้หญิงสัก 1% นี่ก็ถือว่าเป็นไบเช็กชวลแล้ว”
“งั้น... ถ้ามึงเจอผู้หญิงที่ตรงใจมึงมาก ๆ มึงว่า... มึงจะมีโอกาสเปลี่ยนใจไปชอบผู้หญิงมั้ย”
“ไม่อ่ะ กูคิดว่ากูเป็นแบบนี้ 100% ตอนนี้เพศหญิงสำหรับกู กูคิดได้แค่เพื่อน ไม่เคยรู้สึกเกินเลยอะไรไปมากกว่านั้น ถ้ากูมีความรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ มึงจะรอดเหรออีจีน มึงนัวกูยิ่งกว่าอะไรอีกนะ” ไอ้กายหันมามองตำหนิใส่ฉัน “กับกูกับโกอ่ะ กูเข้าใจ ว่ามึงผูกพันธ์ และสนิท แต่อย่าเผลอไปเอะอะแตะ เอะอะหอม เออะอะจูบกับผู้ชายคนอื่นนะเว้ย”
“ทำไมอ่ะ ถ้าเขาเป็นเกย์เหมือนกันมึงไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เขาไม่ทำอะไรกูหรอก”
“อีจีน! มึงนี่มัน… ข้างนอกดูเป็นผู้หญิงร้างกาจ แต่ข้างในมึงนี่มันกระดาษขาวชัด ๆ เลยนะ” ไอ้กายผลักหัวฉันเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ “มึงจะไปจูบได้ไงล่ะ มึงรู้หรือไงว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับมึง”
“เอ้า! ก็ถ้าเขาเป็นเกย์เขาจะมาคิดอะไรกับกูได้ไงล่ะ กูไม่ใช่เพศสภาพที่เขาต้องการนะ แถมมึงก็บอกเองว่าคนในบาร์เกย์อะไม่น่ากลัวหรอก”
“กูพูดแบบนั้นเหรอ”
“เออดิ!” ฉันกระดกเหล้าในแก้วเข้าปากรวดเดียวก่อนจะยัดใส่มือเพื่อนสนิท “กูง่วง จะไปนอนแล้ว คืนนี้มึงไปนอนกับโกเลยนะ”
“ไหนบอกให้นอนห้องมึงไง” ไอ้กายตะโกนถามฉันที่เดินเข้ามาในตัวอาคารเรียบร้อยแล้ว
“เมนส์มากูนอนดิ้น ต้องนอนคนเดียวจะได้สบายตัว มึงก็นอนห้องโกไป คืนนี้โกมันนอนบนแคร่กับไอ้ซะนั่นแหละ”
ไม่อยากคุยกับมันแล้ว หมดประโยชน์ คุยต่อก็คงโดนมันบ่นอีกยาว!
ฉันวางไดร์เป่าผมลงบนโต๊ะ เมื่อมองเวลาก็พบว่ามันใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว จึงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้า ๆ ออก ๆ ช่องแชทของภัคกี้อยู่ครู่นึง ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ข้อความลงไป
JEAN: นอนยัง?
ตอนนี้ภัคกี้จะนอนหรือยังนะ รบกวนหรือเปล่าหวา… แต่ช่างเถอะ ถ้าไม่ได้พิมพ์ถามฉันคงนอนไม่หลับ
ฉันตั้งโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียงพร้อมกับล้มตัวลงนอนเงยหน้ามองเพดานห้องที่มีแสงสว่างจากเสาไฟหน้าบ้านส่องเข้ามาด้วยความสงสัยใคร่รู้
อันทีจริง ฉันพยายามหาคำตอบให้ตัวอย่างมาหลายวันแล้วว่าฉันชอบภัคกี้เพราะอะไร ทั้งที่ตอนแรกก็คิดกับเขาแค่เพื่อนรุ่นพี่ที่ค่อนข้างสนิทก็เท่านั้น
เพราะเขาดูอัธยาศัยดี และให้คำปรึกษาได้หลายอย่าง และภัคกี้ก็น่ารักมาก ๆ แต่ในบางครั้งกลับหล่อแตะตาจนน่าใจหาย เหตุผลแบบนี้นะเหรอ? เพราะเขาหล่อแตะตาจนฉันใจสั่นเวลาเราอยู่ใกล้กันงั้นเหรอ
จะว่าไป… ก็เพิ่งเคยเจอคนที่ Unisex มากขนาดนี้นะ เจอเขาแต่ละทีใจแทบเต้นไม่เป็นจังหวะเลย
หรือเป็นเพราะเขาดูใส่ใจฉันในแบบที่ฉันไม่เคยได้รับจากแฟนคนเก่ากันนะ ยิ่งตอนที่เราไปเดินห้างด้วยกัน ความรู้สึกยิ่งทวีคูณ ยิ่งเขาทำแต่สิ่งที่ไม่เคยมีใครทำด้วย อย่างเช่นช่วยเลือกเครื่องสำอาง เสื้อผ้า รวมถึงนั่งรอทำผม
ให้ตายเถอะ ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับฉันจริง ๆ นั่นแหละ แต่ภัคกี้กลับทำมันด้วยความเต็มใจ และมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของฉันเลย
TALK WITH ME
น้องจีนคนดื้อจะไม่ฟังคุณเพื่อนกายหรอกค่ะ ไม่ต้องมาพูดมากเลย จังหวะนี้น้องจีนฟังอยู่คนเดียวเท่านั้นค่ะ เพราะนุ้งคลั่งรักภัคกี้ไม่ไหว ย้ำว่าภัคกี้นะค่าาาาา 555555555555555555555555555555
ทุกคนใจเย็นนะคะ ขอเขียนต้นฉบับก่อนเนอะ ทักมาเร่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรให้ค่ะ เพราะมินนิคยังเขียนไม่จบบบบ >< รอก่อนเน้อออ ขอบคุณที่ชอบนะคะ เลิฟๆๆๆ
.
ป.ล. ใครเล่นทวิตไปคุยกันในแท็กได้นะคะ วันดีคืนดีมินนิคก็ไปสปอยในนั้นแหละ >,<
MINNIK
มีคำผิดบอกได้นะคะ เพราะแต่งสดลงสดงับ
อย่าลืมกด ♥ และคอมเมนต์เป็นกำลังใจดี ๆ ใจเรานะคะ
1 เมนต์ = สิบล้านกำลังใจ
ร๊ากกกรีดเดอร์สองล้านเท่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ระวังตัวเองนะน้องจีน ภัคกี้มันร้าย
ขนาดกายว่าอาจจะเปงไบ น้องยังไม่คิดดดดดเลลยยยยย
น้องงงงงงง
รอเก็บศพน้องไม่ไหวตอนรู้จะช็อคขนาดไหนนี่
หืมมมมถ้ายัยน้องรู้จะเป็นยังไงนะ5555
นะ น้องบอกขยาดอะพี่ไหวป่าว55555. สะใจไงไม่รู้(๑¯ω¯๑)