ตอนที่ 16 : +ลวงรัก 05+ ความบังเอิญ คือ 'ความตั้งใจ' [4]
“หมดแล้วใช่มั้ย” ฉันเอ่ยถามพร้อมรับลังซาเปามาจากซะ เป็นเพราะฉันมาส่งของช้า และตอนนี้ทุกคนต่างก็มีหน้าที แถมแขกภายในงานก็มีไม่น้อยเลย เราทั้งคู่จึงจำเป็นต้องช่วยกันขนซาลาเปาเข้าไปในครัว ให้พวกพนักงานเสิร์ฟนำไปจัดรอเสิร์ฟแขกอีกที
“หมดแล้วเจ้”
“โอเค แกขับรถไปรอแถวที่จอดรถโน่นแหละ เดี๋ยวฉันตามไป แถวนี้จอดนานไม่ได้ มันมีรถส่งของเข้าออกตลอดเวลา”
“โอเค งั้นซะไปรอเจ้แถวลานจอดรถเลยนะ” พูดจบซะก็กระโดดขึ้นรถแล้วขับออกจากบริเวณนี้ทันที เห็นแบบนั้นฉันก็หมุนตัวเดินประคองกล่องซาลาเปาเข้าไปหลังครัว
ในระหว่างที่เดินผ่านสวนหย่อมหลังหอประชุมที่ใช้จัดงาน สายตาฉันดันไปเหลือบไปเห็นความผิดปกติบริเวณพุ่มไม้ที่ค่อนข้างลับตาคน ด้วยความสงสัยจึงเพ่งสายตาจ้องมองไปบริเวณนั้น แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ที่ดันไปบังเอิญเห็นช็อตเด็ดอันไม่น่าประทับใจขึ้นมา
“ทุเรศ! ไหนม้าบอกมีแต่พวกผู้ดีไง อะไรวะเนี่ย!” ฉันบ่นพึมพำด้วยความไม่ชอบใจ อะไรจะโจ่งแจ้งขนาดนี้ ถึงตรงนั้นจะหลบมุม แถมยังมีพุ่มไม้บังอยู่ แต่คิดว่าจะไม่มีใครเห็นหรือไง “มันทนรอไปทำในที่ ๆ อยู่กันสองคนไม่ได้เลยหรือไง”
แต่ในจังหวะที่กำลังจะชักสายตากลับจากการแลกลมหายใจที่ดูดดื่มของชายหญิงหน้าไม่อายคู่นั้น ฉันกลับต้องอ้าปากค้างอีกรอบเมื่อคนทั้งคู่ผละออกจากกัน และเป็นเพราะผู้หญิงดันหันหน้ามาทางฉันพอดี ฉันจึงได้เห็นหน้าสวยเฉียวอันคุ้นตาของเธอทันที
“ยัยเลขาจอมเหยียดคนนั้นนี่ มางานนี้ด้วยเหรอ” เมื่อนึกออกว่าเธอคือใคร ฉันก็เบ้ปากออกมาด้วยความไม่ชอบใจ เห็นหน้าแล้วมันอดนึกถึงวันที่มองเหยียดฉันตัดแต่หัวจรดเท้าไม่ได้จริง ๆ
เป็นเลขาเนี่ย มันสูงส่งมากมั้ง ทำตัวอย่างกับเป็นเมียเจ้าของบริษัท!
คนทั้งคู่ยืนคุยกันอีกครู่นึง ก่อนที่ผู้ชายจะเดินสวนกลับเข้าไปในงาน ฉันจึงเคลื่อนสายตามองตามแผ่นหลังในชุดสูทเรียบสนิทขึ้นมาจนถึงผมบลอนด์เทาอันเป็นเอกลักษณ์ แล้วก็ถึงกับต้องอุทานออกมาอีกรอบ
... บอสกับเลขากินกันเองเหรอวะ
นี่มันบริษัทที่อาจารย์อวยนักอวยหนาจนทำให้ฉันสนใจอยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทจริง ๆ เหรอเนี่ย ทำไมคนในบริษัทถึงได้คาวกันขนาดนี้
ถึงว่าล่ะ แบบนี้ก็ไม่แปลกหรอกที่ยัยเลขานั่น กล้าจะชูคอสูงส่งนักหนา
แต่เอาเถอะ ยังไงฉันก็ยื่นใบสมัครไปแล้ว แถมโดนเรียกสัมภาษณ์ในอีกไม่กี่วันนี้แล้วด้วย จะทำเป็นลืม ๆ เรื่องพวกนี้ เหมือนกับว่าไม่เคยเห็นก็แล้วกัน
ยังไง... เราก็ไปทำงานเพื่อเงินอยู่แล้วนี่ ไม่ได้ไปถวายตัวเพื่อบริษัทสักหน่อย สั่งสมประสบการณ์เยอะ ๆ เหมือนที่ภัคกี้แนะนำดีกว่า
(อยู่ไหนเนี่ย) ฉันที่เดินมาบริเวณลานจอดรถ พยายามกวาดสายตาหารถขนของของที่ร้าน แต่เพราะลานจอดรถของโรงแรมค่อนข้างใหญ่ แถมยังมีทั้งรถแขกของโรงแรม และรถของที่งาน รวมทั้งรถขนของอีกหลายคัน ทำให้ฉันมองหารถตัวเองไม่เจอ
(ซะจอดอยู่ใกล้ ๆ รถหรูที่มีคนหล่อ ๆ ยืนอยู่อ่ะเจ้ นี่ซะนั่งมองเพลินเลยทั้งคนทั้งรถ เกิดชาติไหนซะจะได้มีแบบนี้บ้างก็ไม่รู้)
(ซะ... หยุดเพ้อเจ้อ นี่มันงานไฮโซนะเว้ย รถที่จอดเรียงรายในลานจอดรถเนี่ย ก็รถหรูทั้งนั้นแหละ แล้วฉันจะไปหาเจอมั้ยล่ะ คิดหน่อยสิ) ฉันกรอกเสียงลงไปด้วยความหัวเสีย อากาศก็ร้อนจนผิวแดงไปหมดแล้ว แถมยังเริ่มง่วงแล้วด้วย เพราะต้องตื่นมาช่วยที่บ้านทำซาลาเปาตั้งแต่ตีสาม
(ซะจอดอยู่ใกล้รถหรูสีขาว เอ้ย! ขวามือซะมีรถขนดอกไม้จอดบังอยู่อีกที ล็อกเกือบริมสุด เจ้เดินมาเลย)
(บอกอย่างนี้ตั้งแต่แรกฉันก็หาเจอแล้ว) ฉันกดตัดสายลูกจ้างทันทีที่กวาดสายตาไปเจอรถขนดอกไม้ในล็อกถัดไป พอเดินมุ่งตรงผ่านรถส่งดอกไม้แล้วฉันก็เจอรถของที่ร้านซึ่งมีไอ้ซะนั่งยิ้มรออยู่ในรถ
แต่แล้วสายตาฉันดันไปสะดุดเข้ากับผู้ชายร่างสูงในเชิ้ตขาวกำลังนั่งพิงกระโปรงรถหรูทั้งยังขมวดคิ้วมองหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะยกบุหรี่ในมืออีกข้างขึ้นสูบด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ภัคกี้!” ฉันเรียกชื่อคนตรงหน้าออกไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ดีใจ พร้อมทั้งรีบจ้ำเท้าเดินพ้นรถของที่ร้านตรงเข้าไปหาเขา แต่ทันทีที่จมูกสูดกลิ่นควันบุหรี่เข้าไป ฉันก็พลันไอออกมาอย่างทนไม่ไหว
เขาหันมามองตามเสียงเรียกพร้อมกับเบิกตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของฉัน เพียงครู่เดียวเจ้าตัวก็เดินห่างออกไปเปิดประตูรถ แล้วดับบุหรี่ ทั้งยังจัดการกลิ่นที่ติดตัว ก่อนจะคว้าขวดน้ำเปล่าเดินกลับมาหาฉันด้วยความรวดเร็ว
โอ๊ยยย นิยายอะไรเนี่ย ยิ่งแต่ยิ่งลุ้น 55555555555555 ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยยย
.
ป.ล. ใครเล่นทวิตไปคุยกันในแท็กได้นะคะ วันดีคืนดีมินนิคก็ไปสปอยในนั้นแหละ >,<
MINNIK
มีคำผิดบอกได้นะคะ เพราะแต่งสดลงสดงับ
อย่าลืมกด ♥ และคอมเมนต์เป็นกำลังใจดี ๆ ใจเรานะคะ
1 เมนต์ = สิบล้านกำลังใจ
ร๊ากกกรีดเดอร์สองล้านเท่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แบบมาดภัคกี้มันแมนมากจ้า55
เรื่องนี้ตัวร้ายไม่ต้องมั้ง
พระเอกแม่มร้ายเกินคนานับ สุดจริงพ่อคุณ
นุ้งจีนเห็นจีงหรอออ เจิมค่าบบบ
เจิมมมม