ตอนที่ 10 : +ลวงรัก 04+ ความห่างไกล คือ 'ความใกล้ชิด' [3]
“เตี่ย... โจบอกแล้วไง ว่าเดี๋ยวโจรับต่อเองไอ้กิจการซาลาเปาเนี่ย โจกับหมวยไม่ทิ้งหรอกนะ หมวยมันเพิ่งเรียนจบ มันอยากทำอะไรก็ปล่อยให้มันได้ลองทำไปเถอะ” โกพูดพร้อมกับขยับเข้าไปบีบนวดแขนเตี่ยอย่างเอาใจ “อีกอย่างอู่ที่โจไปทำงาน มันก็อู่รุ่นพี่ที่สนิทของโจเอง อู่ใหญ่งานเยอะ เขาเลยชวนโจไปทำงานด้วย ค่าตอบแทนเขาก็ให้ไม่น้อยเลยนะเตี่ย แถมโจยังไป ๆ มา ๆ ที่ร้านได้ด้วย”
เป็นโกโจเหมือนเดิมที่พูดหว่านล้อมเตี่ย ขืนให้ฉันพูดละก็มีหวังวงข้าวได้แตกแน่ ฉันกับเตี่ยเจอกันมันไฟกับไฟชัด ๆ ขนาดตอนที่เตี่ยรู้ว่าฉันไปสมัครงานนะ เรายังทะเลาะกันแทบตาย เตี่ยก็หวังให้ฉันมาช่วยสืบทอดกิจการซาลาเปาของที่บ้านกับโก แต่ฉันก็ยังรั้นจะไม่ยอมเตี่ยท่าเดียว
เตี่ยก็เอาแต่พูดว่าที่ฉันโตมา ได้เรียนสูง อยู่สุขสบาย ก็เพราะไอ้ซาลาเปานี่แหละ หาว่าฉันรังเกียจสิ่งที่ทำให้ตัวเองเติบโตมาขนาดนี้ อ้างเหตุผลมาตัดพ้อร้อยแปดประการ ซึ่งฉันเองก็บอกเตี่ยไม่รู้กี่รอบแล้วว่าไม่ได้รังเกียจ แค่อยากลองทำงานที่ใช้ความรู้ที่ตัวเองตรากตรำเรียนมาก่อน
ถามจริงเถอะฉันจะไปรังเกียจสิ่งที่เลี้ยงตัวเองมาขนาดนี้ได้ยังไงวะ
และสุดท้ายก็เหมือนเดิม เรื่องมันจบที่เราสองคนเถียงกันไปมา จนมึนตึงไม่คุยกันไปหลายวันเลยละ ดีนะที่โกกับม้าคอยเป็นคนกลาง ทำให้ฉันกลับมาคืนดีกับเตี่ยได้ไม่กี่วันนี่เอง
ส่วนโกก็ชอบซ่อมรถมาตั้งแต่ไหนแต่ไร พอรุ่นพี่ที่รู้จักกันตอนเรียนวิทยาลัยอาชีวะศึกษาเรียนจบ เขาก็เปิดอู่ และชวนรุ่นน้องคนสนิทฝีมือดีอย่างโกไปช่วยงานที่ร้านทันที
โกจึงมีงานหลักอยู่ที่อยู่ที่อู่มอเตอร์ไบค์ขนาดใหญ่ และคอยช่วยเตี่ยกับม้าที่ร้าน
ถึงแม้โดยทั่วไปตระกูลคนจีนมักจะรัก และใส่ใจลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่บ้านฉันต่างออกไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเตี่ยกับม้าไปเอาแนวความคิดแบบนี้มาจากไหน แต่มันก็เป็นผลดี เพราะฉันเองไม่เคยถูกละเลยจากเตี่ยกับม้าเลย
อันที่จริงฉันเป็นลูกสาวคนเล็กที่โดนทั้งบ้านสปอยเลยก็ว่าได้ ฉันจึงมีนิสัยเอาแต่ใจ และดื้อรั้นมากขนาดนี้…
“จีนอิ่มแล้ว” ฉันรีบตัดบท ก่อนจะลุกขึ้นเก็บจานตัวเอง และของโกเดินไปเก็บ ก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องไปทันที เพราะไม่ต้องการจะพูดคุยต่อ
ขืนอยู่ไปเดี๋ยวได้ทะเลาะกับเตี่ยอีกแน่ ม้าเองยังเคยบอกว่าฉันมันลูกเตี่ยร้อยเปอร์เซ็นต์เลย นิสัยถอดแบบเตี่ยมาอย่างกับแกะ
ฉันนั่งลงหน้าโต๊ะคอมด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาไอ้กาย เพื่อระบายเรื่องราวบนโต๊ะอาหาร แต่รอแล้วรอเล่ามันก็ไม่มีท่าทีจะตอบสักที ฉันจึงตั้งใจจะกดออกจากแอป พลันสายตาดันเหลือบไปเห็นเพื่อนใหม่ที่เด้งขึ้นมาพอดี
PK. เพิ่มเพื่อนคุณจากหมายเลขโทรศัพท์
ฉันขมวดคิ้วมองไอคอนโปรไฟล์รูปผู้ชายหันข้างใส่แว่นถ่ายรูปย้อนแสงด้วยความแปลกใจก่อนจะจิ้มดูรูปขนาดใหญ่แล้วคลี่ยิ้มออกมาเมื่อจำได้ว่าเขาคือใคร?
ก็จะใครกันล่ะ คนที่ฉันเพิ่งแลกเบอร์ด้วยไม่กี่วันนี่แหละ
Jean: แอบแอดเฟรนด์จีนมาเหรอ
ฉันกดเพิ่มเพื่อนพร้อมทักไปหาเขาทันทีโดยไม่รอช้า รอไม่นานก็ขึ้นว่าอีกฝ่ายเห็นข้อความของฉันแล้ว
PK.: พี่ไม่ได้แอบนะคะ พี่ตั้งใจเพิ่มเลยต่างหาก
Jean: ภัคกี้ทำอะไรอยู่
PK.: น้องจีนทำอะไรอยู่คะ
ฉันเบิกตาขึ้นเล็กน้อยที่ประโยคข้อความแนวเดียวกันของเราสองคนดันแสดงขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
PK.: ใจตรงกันเลยแฮะ
PK.: ใครจะตอบก่อนดีคะ น้องจีนตอบก่อน หรือจะให้พี่ตอบก่อน
Jean: พี่ตอบก่อนก็ได้
PK.: ได้ค่ะ
PK.: พี่เพิ่งกลับจากทำงานค่ะ หิวมาก ตอนนี้เลยกำลังกดสั่งอาหารมากินค่ะ
PK.: น้องจีนกินอะไรหรือยังคะ
ชวนคุยเก่งจริง ๆ ด้วย ฉันส่งยิ้มให้ข้อความของอีกคน ไม่อยากจะเชื่อว่าเราเพิ่งเจอกันไม่กี่วันก่อน ภัคกี้เฟรนด์ลี่มากจนฉันคิดว่าเรารู้จักกันมาแล้วสัก 2 เดือน
Jean: จีนกินแล้ว
PK.: กินเหมือนแมวดมอย่างเช้าวันนั้นหรือเปล่าคะ
Jean: เปล่า จีนกินข้าวเย็นเยอะนะ
PK.: จริงเหรอคะ
PK.: ปกติคนกินข้าวเย็นเยอะ ๆ ไม่น่าจะตัวเล็กแบบนี้นะ
Jean: จีนไม่ได้ตัวเล็กสักหน่อย จีนมีพุง
PK.: อ่า… ตอนกอดกันพี่ไม่เห็นรู้สึกว่าน้องจีนมีพุงเลยค่ะ
TALK WITH ME
ถูกใจคนนี้รักคนนี้ ชอบคนนี้ เลือกเอาไว้ตามสไตล์ที่คุณชื่นชม ใช่มั้ยคะพี่ภาคคคค 5555555 เพลงดักแก่มาก แถมแอบเปลี่ยนเนื้อเพลงอี๊กกก
ถ้าช่วงนี้มาไม่บ่อยอย่าเพิ่งทิ้งกันนนะ มินนิคมีภารกิจนิดโหน่ยยย เสร็จธุระ แล้วจะมารัว ๆ เบยยค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำผิดที่แจ้งมานะคะ เดี๋ยวว่างแล้วมินนิคจะตามแก้ให้งับ ><
ป.ล. ใครเล่นทวิตไปคุยกันในแท็กได้นะคะ วันดีคืนดีมินนิคก็ไปสปอยในนั้นแหละ >,<
MINNIK
มีคำผิดบอกได้นะคะ เพราะแต่งสดลงสดงับ
อย่าลืมกด ♥ และคอมเมนต์เป็นกำลังใจดี ๆ ใจเรานะคะ
1 เมนต์ = สิบล้านกำลังใจ
ร๊ากกกรีดเดอร์สองล้านเท่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เจิมมมมม