คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Whitecap : Chapter 3 -100%-
Chapter 3
Tomorrow will be better…
ไม่รู้ว่าเทวดาตนไหนเข้าสิง ดลจิตดลใจให้นับหนึ่งนำร่างที่นอนสลบอยู่เข้ามาในห้อง ใบหน้าหล่อคมหากมันดูไร้อารมณ์ ความรู้สึก ใครจะรู้ว่าเขาคร่าหัวใจสาวๆ มานักต่อนัก ใครๆ ก็บอกว่าเขานิ่งเหมือนน้ำ หากเมื่อยามได้สัมผัสกลับร้อนแรงราวกับเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ
ชายหนุ่มวางร่างบอบบางลงบนโซฟา เขาเองไม่ใช่สุภาพบุรุษที่จะยอมเสียสละให้คนที่เป็นเพียง ‘อีตัว’ ไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามในที่ส่วนตัว โดยเฉพาผู้ชายขายตัวที่ดูสกปรก โสโครกอย่างมัน
ทั้งที่ตั้งป้อมเกลียดไว้ ทว่าตอนนี้นับหนึ่งกลับกำลังใช้เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แสนรัก เขาไม่รู้ตัวว่าทำไมต้องลงทุนถึงขนาดนี้ แค่เอามันเข้ามาในห้องก็ถือว่ามีน้ำใจมากเกินแล้ว
เขาถอดเสื้อเชิ้ตท่ียับยู่ยี่ออกจากร่างกายที่ขาวนวลราวกับเปลือกไข่ ใบหน้าของเขาตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพร่างกายที่ไร้อาภรณ์ ไม่รู้จะเรียกว่าน่าสมเพชหรืออะไรดี เนื้อตัวของมันตอนนี้ยิ่งดูยิ่งเหมือนกะหรี่ข้างทาง ตามเนื้อตามตัวเต็มไปด้วยรอยจูบจนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง บางจุดม่วงช้ำเหมือนถูกทุบตี เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าบริเวณลำคอมันมีรอยนิ้วมือเหมือนโดนบีบคอมาเสียอย่างนั้น
ชั่งใจอยู่นานสุดท้ายก็ถอดกางเกงของแสนรักออก
เลือดเกรอะกรังอยู่ตามเรียวขา ยิ่งช่องทางนั้นไม่ต้องพูดถึง คงโดนทารุณมารุนแรง ช่องทางคงฉีกขาด ไม่เช่นนั้นเลือดคงไม่ไหลเยอะขนาดนี้
“ทำตัวตกต่ำ” เขาพึมพำออกมา
ใช้เวลาอยู่นานในการชำระล้างคราบสกปรกบนตัวของหมอนี่ มันน่าขยะแขยงที่ต้องเช็ดล้างร่องรอยของคนอื่น นับหนึ่งคิดเช่นนั้น แต่เขาเองก็ไม่สามารถหยุดการกระทำของตัวเองได้
ทั้งที่เกลียดแสนเกลียด…เกลียดเพราะทำตัวใฝ่ต่ำ
แต่คนที่บอกว่าเกลียดกำลังดูแลมันราวกับตุ๊กตาคริสตัลแสนเลอค่า
ไม่เข้าใจ…
“ตื่นขึ้นมากินยาก่อน”
เขาตบแก้มใสเบาๆ หากไม่มีปฏิกริยาตอบสนองกลับมา
จนหมดความพยายาม นับหนึ่งเหยียดตัวลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหยิบผ้าห่มในห้องของตัวเองแล้วเอามาคลุมร่างกายผอมแห้งตรงห้องรับแขก หรี่อุณหภูมิในห้องให้อุ่นขึ้นหน่อย มันจะได้นอนหลับสบายไม่หนาว ปิดม่านตรงระเบียง แล้วเดินกลับเข้าไปล้มตัวลงนอนในห้องของตัวเองด้วยความเมื่อยล้า
นอนคิดทบทวนตัวเอง กับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นในใจ ทำไมต้องช่วยมัน ทำไม่ต้องดูแลมันราวกับเพชรพลอย ทั้งที่แสนรักไม่ได้แตกต่างจาก…เศษหินเศษกรวดข้างทาง สุดท้ายก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ เขาปิดเปลือกตา และปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับห้วงนิทรา
ตื่นอีกทีก็เกือบเที่ยงวันแล้ว เขาลุกขึ้น บิดไล่ความเมื่อยล้าออกจากตัว เดินเปิดประตูออกไปก็เห็นมันนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่ตอนนี้ขดตัวเข้าหาไออุ่น นอนสั่นหนาวเป็นเจ้าเข้า
เขาปิดเครื่องปรับอากาศแล้วเปิดม่าน ให้อากาศจากภายนอกถ่ายเทเข้ามาข้างใน หยิบผ้าที่กองตกอยู่กับพื้นขึ้นมาคลุมตัวของแสนรัก หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปในครัว ตอนแรกคิดไว้จะต้มมาม่าอาหารประจำ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจโทรศัพท์ไปสั่งร้านอาหารข้างล่าง ข้ามต้มหนึ่งชามกับข้าวผัดทะเลอีกหนึ่ง
“น่าจะปล่อยให้นอนตายอยู่ที่เดิม”
ถึงจะบ่นไปอย่างนั้นแต่ก็ยังไม่วายเอาผ้าชุบน้ำแล้วเอามาเช็ดตามตัว
เอามือทาบที่หน้าผาก อาการตัวร้อนทุเลาลงบ้างแล้ว แต่คนที่นอนขดตัวเป็นกุ้งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะว่าไม่มีโทรศัพท์หรือเบอร์ที่จะติดต่อญาติของเด็กนี่ได้เลย ในกระเป๋ามีเพียงธนบัตรปึกใหญ่ที่โดนกำจนยับยู่ยี่
“อ๊ะ…” แสนรักร้องออกมาเบาๆ เพื่อพยายามจะขยับร่างกาย หากพบว่ามันทั้งหนักอึ้งและปวดร้าวไปทั้งร่าง น้ำเม็ดใสเล็ดออกมาที่หางตา
“ผมปวดหัว…ฮึก” ตั้งท่าจะร้องไห้มาอีกรอบ แสนรักหลับตานิ่ง เอามือก่ายไว้ที่หน้าผาก ไม่คิดว่าอาการปวดหัวมันจะปวดได้มากถึงขนาดนี้ เหมือนกับมีใครเอามือมาบีบศีรษะเขาไว้
“ไม่ต้องลุก นอนไป”
แสนรักพยักหน้ารับ เขาลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าใบหน้าของนับหนึ่งอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่คืบเดียว สัมผัสได้ถึงผ้าเย็นๆ ที่ซับตามตัว ในเมื่อขยับร่างกายไม่ได้ก็นอนนิ่งมันอยู่อย่างนั้น จะขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์ ควรจะขอบคุณที่ไม่ปล่อยให้เขานอนตายอยู่ข้างนอกนั่นด้วยซ้ำ
“ขอบคุณครับ”
“…” นับหนึ่งไม่ได้ตอบ
“ผมคงตาย ถ้าไม่ได้คุยช่วยไว้”
แสนรักพยายามอย่างหนักที่จะเอื้อนเอ่ยคำพูดออกมา เขารู้สึกว่าตอนนี้ลำคอมันแห้งเป็นผุยผง ลำพังแค่พูดเพียงแค่ไม่กี่คำก็เหมือนวิ่งรอบสนามมาเกือบรอบ ร่างกายมันไร้เรี่ยวแรง หนักอึ้งเสียจนสมเพชตัวเองในใจ
“ไปเจอลูกค้าห้องไหนมา” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา นาบเนิบตามแบบฉบับ
คนป่วยไม่ตอบ หันศีรษะหนีไปอีกทาง
มือเรียวไล่เช็ดตามตัวให้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เปลี่ยนน้ำในอ่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาเดินไปกดกาน้ำร้อน ต้มจนเดือดนำมาผสมกับน้ำเย็นจนได้อุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่ร้อนมาหรือเย็นจัด จากนั้นก็ถือไปให้คนที่นอนสะลึมสะลือ แสนรักยื่นมือไปหมายจะรับน้ำ ทว่านับหนึ่งคงรู้ตัวว่าหากให้คนป่วยจัดการเองนอกจากจะไม่ได้เรื่องแล้วยังจะสร้างภาระให้ต้องมาเช็ดน้ำที่หก ก็เลยประคองศีรษะขึ้นมา จับแก้วจรดริมฝีปาก
แสนรักดื่มน้ำนั่นอย่างกระหาย ราวกับคนขาดน้ำมาแรมปี เขาดื่มจนเกือบสำลัก ดีที่คุณนับหนึ่งลูบหลังให้…
เหมือนกับแม่ปลื้ม…ที่ดูแลแสนรักตอนไม่สบาย
คอยป้อนน้ำ ป้อนข้าว ป้อนยา เช็ดตัวไม่ห่าง…
“ขอบคุณครับ”
รอเพียงไม่นานข้าวต้มร้อนๆ กับข้าวผัดหอมๆ ก็มาส่งที่ห้อง นับหนึ่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ดูท่าว่าเขาต้องป้อนมันก่อน ถึงจะสามารถทานในส่วนของตัวเองได้
หวังว่ามันจะรีบหาย หรือไม่ก็มีคนมารับมันกลับไป…
นับหนึ่งเป่าไอร้อนในถ้วย ตักขึ้นมาแล้วไล่เป่าความร้อนอีกครั้ง ใช้ริมฝีปากแตะที่ขอบช้อนนิดหน่อย ให้รู้สึกว่าไม่ร้อนหรือพอกินได้ จากนั้นก็ส่งมันเข้าปาก กินได้เกือบพร่องก็บอกว่าอิ่ม ถึงมันจะเกรงใจคุณนับหนึ่งมากแค่ไหน แต่หากให้มันกินเองคงจะยิ่งเป็นการสร้างภาระให้อีกแน่ๆ เพราะนอกจากจะไม่มีแรงแล้ว ยังรู้สึกเหมือนตัวเองจะล้มตึงลงไปกับโซฟาได้ทุกเมื่อ
“กินยาแล้วนอนพัก ฉันจะเข้าไปเคลียร์งานที่บริษัท อยู่ที่นี่จนกว่าฉันจะกลับมา…ไม่ได้พิศวาสอยากจะได้อีตัวข้างถนน แต่เพื่อให้แน่ใจ…ว่าของในห้องจะไม่หาย…”
เขาพูดแล้วก็เดินลับหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง จัดการธุระตัวเองก็เดินออกมา ตอนนี้คุณนับหนึ่งอยู่ในชุดสูทแบบทางการ ใบหน้าคมเข้มดูยิ่งหล่อเหลามากขึ้นเข้าไปใหญ่ ด้วยมาดเนี้ยบดูเป็นผู้นำ ไม่แปลกเลยที่จะมีหญิงสาวมาติดพันธุ์มากมายเสียเหลือเกิน แต่สำหรับนับหนึ่งทั้งหมดนั่นก็เป็นเพียงการสนองความใคร่ ผู้หญิงอ้าขารอรับ มีหรือจะปฏิเสธ หากก็เป็นเพียงความสัมพันธ์เพียงชั่วข้ามคืน ตื่นเช้ามาก็แยกย้ายกันไป อาจมีบ้างที่ติดใจลีลาแม่เสือสาวบางคน หากก็เพียงชั่วอึดใจนับหนึ่งก็สลัดทิ้ง เพราะเบื่อกับลีลาเจนจัด ไม่รู้ว่าผ่านมากี่คนต่อกี่คน
แสนรักนอนเป็นหมูขี้เกียจอยู่อย่างนั้น อาจด้วยผลจากยาหรือพิษจากไข้สุดแล้วแต่ ตื่นมาอีกทีเจ้าของห้องก็กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟาอีกตัว มันรีบทะลึ่งตัวลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องล้มตัวลงไปนอนใหม่่ อาการปวดหัวเริ่มดีขึ้นมาก แต่ความปวดบริเวณสะโพกมันยังคงอยู่
“ข้าวอยู่ในครัว ถ้ามีแรงก็ลุกขึ้นไปกิน” เขาปรายหางตามามอง
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะกลับแล้ว…แค่นี้ก็รบกวนคุณ…”
“จะรีบไปหาลูกค้างั้นสิ?”
“ครับ” แสนรักไม่ได้อยากจะตอบออกไปแบบนั้นหรอก แต่ก็ไม่อยากจะเถียง ในเมื่อภาพลักษณ์ของเขาในสายตาคุณนับหนึ่งมันก็คือคนร่านดีๆ นี่เอง แต่ถึงจะด่าจนเจ็บแสบใจอย่างไร หากแสนรักกลับไม่เคยถือโทษโกรธผู้มีพระคุณเลย
เขาช่วยแสนรักไว้…ช่วยสงเคราะห์คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า หากไม่ได้คุณนับหนึ่ง ไม่รู้ว่าป่านนี้จะตายก่อนที่จะได้เห็นอาการแม่ปลื้มดีขึ้นแล้วกระมัง
“ถ้าผมมีโอกาสที่จะตอบแทนคุณ…ผมก็ยินดีครับ”
แสนรักพูดโดยที่เจ้าตัวไม่ได้คิดอะไร แต่กลับนับหนึ่งเขากระตุกยิ้มเย็น พูดให้ท่าเสียขนาดนี้ ถ้าไม่เรียกว่าร่านแล้วจะเรียกว่าอะไร
“งั้นตอนนี้เลยได้มั้ยล่ะ” เขาเอ่ยถามเสียงเย็น นัยน์ตาคมกร้าวจับจ้องปฏิกริยาของคนตรงหน้า แสนรักเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด หลับตานิ่งแล้วพยักหน้าตกลง
“คืนนี้ฉันจะขอซื้อนายเอง…”
“…”
“นับหนึ่ง…จำชื่อของฉันไว้ให้ดีล่ะ เผื่อตอนที่นายร้องครวญครางจะได้เรียกช่ือถูก”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นจนบาดลึกเข้าไปในขั้วกระดูก ใบหน้าหวานดูซีดราวกับกระดาษ บัดนี้เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อด้วยความอาย กัดริมฝีปากตัวเองอยู่อย่างนั้น…
หากเป็นคนอื่นแสนรักกลัว…แต่สำหรับคุณนับหนึ่ง…
ทำไมถึงไม่กลัว…
คนตัวโตลุกขึ้นยืนแล้วมานั่งเบียดข้างคนตัวเล็ก แสนรักทำท่าจะขยับหนีหากถูกมือหน้ารั้งเอาไว้ เพราะก้มหน้าคางชิดอก ก็เลยไม่ได้เห็นว่าใบหน้าของร่างหนามีสีหน้าแบบใด
เขาเป่าลมร้อนที่ข้างใบหู ร่างบอบบางขนลุกซู่
“อาจจะเป็นการเรียกร้องที่มากไป แต่อ่อนโยนกับผมได้มั้ยครับ”
นัยน์ตาที่เอ่อล้นไปด้วยหยดน้ำตาทำให้นับหนึ่งหยุดชะงัก ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย ไม่รู้ว่าด้วยความกลัวหรือสั่นสู่กันแน่ เขาเงียบไม่ได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธ
ริมฝีปากร้อนฉกลงบนริมฝีปากเเดงระเรื่อ ทีแรกแสนรักไม่ตอบรับ กลับเม้มปากแน่น ร่างกายสั่นด้วยความกลัว…เขาเกลียดเซ็กซ์ แต่เพราะความเชี่ยวชาญของฝ่ายตรงข้าม มันทำให้แสนรักโอนอ่อนตามได้ไม่ยาก นัยน์ตาหลับพริ้มเพราะการถูกหลอกล่อด้วยรสจูบอันอ่อนนุ่ม ลิ้นเรียวเกี่ยวกระหวัดทำให้เขาเคลิ้มตาม
มือเรียวลูบไล้ตามเนื้อผิวเเผ่วเบา เขารู้ว่าร่างของแสนรักมีบาดแผลเต็มไปหมด เลยทำได้เพียงแค่นั้น ลูบผิวกายที่ไม่ได้ละเอียดเนียนนุ่มเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยผ่าน หากทุกครั้งที่ลากปลายนิ้วผ่าน เหมือนกับราดน้ำมันบนกองไฟที่ลุกโชติช่วง
ไม่ได้รุนแรงอย่างที่แสนรักชอบกลัว เพราะนับหนึ่งกำลังกดความต้องการที่มากล้นให้ลึกที่สุด จนกว่าจะทนไม่ไหว…
“เฮือก…”
------ Cut -----
ครบร้อยแล้วนะคะ แต่...มันโดนตัด 555 เพื่อความปลอดภัยอะเนอะ
ความคิดเห็น