คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : The Couple : พ่อบ้านที่ดีไม่มีในโลกนี้หรอกนะ
The Couple 01
พ่อบ้านที่ดีไม่มีในโลกนี้หรอกนะ
ชีวิตคู่คือการเริ่มต้นทุกอย่างซึ่งเปลี่ยนจินตนาการของคู่แต่งงานใหม่ได้อย่างไร สำหรับคากามิและอาโอมิเนะเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
อย่าเลย... อย่าได้ฝันจะมีชีวิตสวยหรู เพียบพร้อม หวานแหววอย่างในละครก่อนข่าวหรืออะไรในข่ายนั้น
สามีผู้แสนดี อบอุ่นอ่อนโยน จะเป็นอย่างนั้นได้ก็ต่อเมื่อผู้ชายที่ว่านั่นไม่ใช่ อาโอมิเนะ ไดกิ
และเช่นเดียวกัน ภรรยาผู้เอาใจใส่ในทุกกระเบียดนิ้วของงานบ้านงานเรือน จะเป็นได้ถ้าหากคนคนนั้นไม่ใช่ คากามิ ไทกะ
ฉันใดก็ฉันนั้น...
ช่วงเวลาของโปรโมชั่นคนรัก สิ้นสุดลงตั้งแต่แหวนถูกสวมลงบนนิ้วของแต่ละฝ่ายแล้ว...
ฮันนีมูนอะไรนั่นลืมไปได้เลย ถ้าหากสามีของคุณเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับกองเอกสารและใส่ใจอยู่กับการสังสรรค์หลังเลิกงานในแต่ละวัน หรือแม้แต่กระทั่งจดจ่ออยู่กับนิตยสารกราเวียร์ในวันหยุดสุดสัปดาห์
คากามิคีบชั้นในซึ้งม้วนเป็นขดอยู่ในตะกร้าขึ้นมาด้วยปลายนิ้ว
...นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้ววะเนี่ย...!
เขาไม่เคยบอกเลยหรือยังไงว่าเวลาจะถอดก็ช่วยๆคลี่มันออกจากกันด้วย แล้วนั่นมันอะไรกัน? ทั้งๆที่ตะกร้าก็วางอยู่ให้เห็นเต็มสองตาก็ยังจะหน้ามึนกองเสื้อผ้าเอาไว้ข้างๆทำมะเขือเทศทำไมไม่ทราบ!? แล้วก็คนทำนั่นน่ะ... นู่น... นอนกระดิกเท้าดูรายการวาไรตี้สบายใจเฉิบอยู่ที่โซฟาโน่นแหนะ
สนใจคนที่ทำทั้งงานนอกบ้านงานในบ้านอย่างเขาบ้างเถอะ!
เป็นแม่บ้าน เอ้ย...! พ่อบ้านยุคใหม่นี่มันลำบากสังขารจริงๆ
ให้ลูกบาสหล่นทับตายเสียยังดีซะกว่า
“ไทกะ ซักนี่ให้ด้วยสิ”
ไม่รู้ว่าโผล่มาเอาตอนไหน แต่ในมือของหนุ่มอีกคนถือเสื้อทำงานสภาพขะมุกขะมอมเอาไว้พร้อมกับยื่นมาจ่อที่ปลายจมูกของเขา กลิ่นน้ำมันเครื่อง ตลบฟุ้ง
คากามิมองจุกดระด่างกระดำบนเสื้อที่คลับคล้ายคลับว่าเพิ่งเห็นอาโอมิเนะควักเงินซื้อไปเมื่อกี่วันก่อนแล้วทำตาโต
“นี่มันอะไรวะ?”
“เสื้อไง เสื้อน่ะ” น้ำเสียงยานคางตอบกลับอย่างขอไปที
“ไม่ใช่ว้อย ที่จะถามคือเอาไปคลุกอะไรมาต่างหากโว้ย”
“ก็รถมันเสียฉันเลยซ่อม” คนพูดยกมือแคะหูตัวเองไปด้วย “บอกไปก็ไม่เคยจะเชื่อกันว่าอย่าซื้อมือสองมาใช้ บุโรทั่งซะขนาดนั้น ถามจริง...ไปขุดมาจากไหน?”
“นั่นมันเรื่องของฉัน”
คากามิดึงเสื้อมาถือไว้
“ไม่ยุ่งคงไม่ได้ ก็ในเมื่อฉันต้องขับมันไปทำงานทุกวันนี่หว่า”
ก็นั่นน่ะสิ ในเมื่อก็ช่วยกันเก็บเงินซื้อมาแท้ๆ แต่ทำไมเขาดันเป็นคนที่ต้องถ่อออกไปยืนรอรถเมล์ไป-กลับจากที่ทำงานทุกวันๆด้วยเล่า
“ถ้าจะมากวนประสาทไร้สาระล่ะก็ นู่น...เอาเงินบนโต๊ะออกไปซื้อของเข้าบ้านไป”
เขาจะไม่สนใจมันอีกจนกว่าเจ้านั่นจะยอมทำตัวว่านอนสอนง่ายอยู่ในโอวาทอย่างที่เขาต้องการ
“จะเอาอะไรบ้าง?”
“จดไว้ให้แล้ววางอยู่ด้วยกันกับเงินนั่นแหละจ่ายค่าไฟด้วยล่ะ อย่าลืม”
“โอเคได้---” อาโอมิเนะเดินอาดๆกลับไปที่โซฟา ก้มหยิบเงินด้วยอาการเชื่องช้าราวกับว่ามันเป็นการยากลำบากเหลือเกินกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว
“นี่...”
“อะไรอีก?” เขาหันมองตามเสียงเรียก
หนุ่มผิวแทนเดาะเหรียญขึ้นลงบนฝ่ามือ “ขอไมจังย้อนหลังของเดือนที่แล้ว เดือนก่อน แล้วก็เดือนนี้ด้วยได้หรือเปล่า?”
อะไรที่อยู่ใกล้ตัวคากามิไม่ได้ใส่ใจมันนักหรอก รู้แค่ว่าตัวเองหยิบเอาอะไรสักอย่างขึ้นมาได้ก็ขว้างอย่างสุดแรงทันที
“ฝันไปเถอะแก!”
บ่นงึมงำว่าเขาว่าชอบใช้ความรุนแรงหรืออะไรเทือกๆนั้นอยู่ครู่ใหญ่ทีเดียว อาโอมิเนะจึงได้ฤกษ์ย้ายตัวเองออกจากห้องได้เสียที
เมื่อตัวบั่นทอนอารมณ์ไม่อยู่ให้รบกวนสายตาแล้ว เขาจึงเริ่มจัดการกับกองเสื้อผ้ามหึมาลงถังซัก และแม้จะบ่นจะว่าสารพัดแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังแยกเสื้อสภาพยับเยินตัวนั้นลงกะละมังแล้วเริ่มซักด้วยมืออย่างพิถีพิถัน
ไม่ได้ใจอ่อนอะไรหรอกนะ ก็แค่กลัวว่าจะไม่มีเสื้อดีๆใส่ไปทำงานเท่านั้นล่ะ...!
กว่าที่คนซึ่งออกไปซูเปอร์จะกลับมาก็ปาเข้าไปบ่ายแก่ๆแล้ว ทั้งๆที่ไอ้คอมบินีมันก็อยู่ใกล้แค่นี้
“มี’ไรกินบ้างอะ?” และนั่นคือประโยคที่ตามมา
คากามิไสชามซุปและถ้วยข้าวไปตรงหน้าของคนถาม เขายืนกอดอกมองก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีปัญหาอะไรรึไงส่งให้
อาโอมิเนะมองสิ่งของบนโต๊ะสลับกับคากามิไปมา
“ทำไมเหลือแค่นี้?”
เขาไหวไหล่ “ฉันจัดการหมดแล้ว”
“อ้าว...งี้ได้ไงอะ?”
“มีเท่าไหนก็กินมันเท่านั้นแหละ”
คากามิทิ้งท้ายไว้เท่านั้น ไม่สนใจใยดีใครอีกคนซึ่งโวยวายอยู่กับปริมาณอาหารเที่ยงที่เหลือยู่นั่นอีกต่อไป
คากามิตื่นสายกว่าปกติไปเล็กน้อย เสื้อเชิ้ตเจ้าปัญหาเมื่อวานหายจากราวแขวนไปแล้ว บนโต๊ะมีแก้วนมสดรินจนเต็มวางคู่กับขนมปังไหม้ๆหนึ่งแผ่น
เขาไม่ได้สนใจอะไรนักกับการกระทำของอาโอมิเนะ จนกระทั่งจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยและกดลิฟต์ลงมาที่ชั้นล่างสุดก่อนจะเดินออกไปยืนรอรเมล์ที่ป้ายเข้านั่นล่ะ
รถซีดานสีซีดๆคันหนึ่งก็จอดเทียบที่ป้าย คนขับเอี้ยวตัวข้ามเบาะนั่งมาไขกระจกลง
หนุ่มผมแดงมองดูคนขับอย่างงงๆ
“อะไร?”
“ขึ้นมา จะไปส่ง”
“มีแผนจะทำอะไรอีกล่ะสิท่า?” เขาขัดอย่างรู้ทัน
“พูดมากเดี๋ยวก็ปั๊ดพ่อถีบลงรถเลยซะนี่” อาโอมิเนะแยกเขี้ยวใส่
คากามิจิ๊ปากจขัดใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมดึงเอาเข็มขัดนิรภัยมาใส่
และก็เป็นช่วงเย็นอีกครั้งที่เขาอดเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาไม่ได้
อาโอมิเนะรออยู่ที่บันไดทางขึ้นตึก เมื่อหันหน้ามาพบเขาเข้าพอดีก็เดินนำลิ่วๆแกว่งกุญแจไปทางลานจอดรถ เปิดประตูฝั่งคนข้างคนขับแล้วพยักเพยิดให้เขารีบๆเข้าไปนั่ง
“มารับ”
หนุ่มผิวแทนอธิบายสั้นๆแล้วอ้อมไปนั่งประจำที่
คากามิเงียบ เขามองดูคนขับซึ่งสนใจอยู่กับถนนตรงหน้า
“แกมีอะไรจะพูดไหม?”
“........”
อาโอมิเนะยังคงเงียบกริบ
“ถ้าบอกมาตรงๆฉันอาจจะโมโหน้อยลงก็ได้นะ”
“เอ่อ...” คนพูดยกมืออกจากพวงมาลัยขึ้นเกาท้ายทอยแกรกๆ “แบบว่า..ค่าไฟของเดือนนี้ที่เมื่อวานนายใช้ให้ไปจ่าย”
“........?”
“ฉัน...” อาโอมิเนะหันมาส่งสายตาขยาดๆให้เขา “ก็นั่นแหละ เผลอเอาไปซื้อรวมภาพล่าสุดของไมจังหมดแล้----”
ไม่ต้องรอให้พูดจบประโยคคากามิก็เอื้อมมือหักพวงมาลัยเข้าข้างทาง ก่อนจะยันโครมเข้าให้ทีหนึ่งเต็มๆแรงเลยทีเดียว
อาโอมิเนะลูบสีข้างป้อยๆ “ง่า...ไทก่า---คือแบบว่า แบบว่ามันห้ามใจไม่อยู่อ้ะ”
สายตาหมาหงอยมันใช้ไม่ผลกับฉันหรอกว้อย...!
คากามิไม่สนใจท่าทีนั้น สั่งเสียงห้วน
“ลงไป”
“หา...?”
“ลง-จาก-รถ”
“โธ่...ไทกะคร้าบ----”
เขาหรี่ตาจ้องพร้อมกับกอดอกมอง “จะลงไปดีๆหรือจะให้ฉันถีบลงไป?”
อาโอมิเนะสะอึก
“โอเคก็ได้ จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”
คากามิปีนข้ามมาที่นั่งฝั่งคนขับ โยนข้าวของของอาโอมิเนะตามออกมาให้เป็นอย่างสุดท้าย
เขาคลี่ยิ้ม
“...งั้นวันนี้ก็นอนกอดแม่สาวหุ่นบื้มในหน้ากระดาษนั่นนอกบ้านให้ชื่นใจสักคืนก็แล้วกันนะ บาย...”
ถึงว่าทำไมอะไรๆมันดูประหลาดๆ ก็หลงนึกว่าจะได้ช่วงโปรโมชั่นอะไรนั่นกลับคืนมาซะอีก
ไอ้บ้าอาโอมิเนะ!
แล้วนี่เขาจะเจียดเงินจากค่าอะไรได้บ้างเอาไปจ่ายค่าไฟล่ะวะเนี่ย...?
TBC
ความคิดเห็น